All Blog
ทองประกายแสด ตอนที่ 6



วันดีกับเมย์ยืนมุงอยู่หน้ารถเข็นขายส้มตำ วันดีสั่งแม่ค้า
“เอาส้มตำปูปลาร้าแซ่บๆ จานนึง ข้าวเหนียวด้วยนะ”
ทองดีเดินตามมิตรไปที่รถ เขาเปิดประตูให้เธอขึ้นไปนั่งอย่างให้เกียรติ วันดีหันไปเห็นเข้าพอดีหันไปสะกิดเมย์
“แหม...นางทองประกายนี่มันเนื้อหอมน่าดูนะ คาบคุณมิตรไปแล้ว เฮ้อ...เสียดาย สงสัยนังนี่ มันมีแววนะเนี่ยท่าจะรุ่งเหมือนตอนเจ๊เป็นสาวๆ”
“ทองประกายมันสวย ยังสาว ก็แบบนี้แหละ”
“ทางทางคุณมิตรก็จะชอบมันเหมือนกันนะ ดูสิ เปิดประตูให้ด้วย อุ๊ย...ทำราวกับเป็นนางฟ้านางสวรรค์มาจากไหน หน้าตาระริกระรื่นเหลือเกิ๊น”
เมย์ถอนใจ
“คุณมิตรเค้าก็เป็นแบบนั้นกับทุกคนนั่นแหละ ฉันกลัวแต่ทองประกายมันจะหลงใหลได้ปลื้ม คิดไปเองนั้นแหละ”
“ช่วยไม่ได้ ถ้ามันไม่รู้จักมองตัวเอง ต่ำเตี้ยติดดินแบบนั้นคิดว่า จะมีเจ้าชายพร้อมราชรถมาเกย เฮอะ...ฝันลมๆแล้งๆ”
“เจ๊ไม่สงสารเด็กมันบ้างหรือ”
“ช่วยไม่ได้ มันอยากไฝ่สูงเองนี่นา ใครไปบังคับใจมันได้ล่ะ แล้วอีกอย่าง...จะมีใครที่ไหน มันจะมักน้อยเหมือนแกล่ะนังเมย์”
เมย์หน้าเจื่อนไป
“เจ๊เลิกพูดเรื่องแบบนี้เถอะ ฉันพอใจของฉันแค่นี้”
เมย์ไม่สนใจรับของจากแม่ค้าแล้วเดินไป ทิ้งให้วันดียืนอารมณ์เสียอยู่ตรงนั้น
“ย่ะ...แม่นางฟ้า แม่คนดี”

ทองดีเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้ากับมิตร ทั้งคู่พากันเดินเข้าออกร้านโน้น ร้านนี้ มิตรถือถุงช็อปปิ้งเต็มมือ ทองดีเดินผ่านไปที่ร้านขายเสื้อผ้าร้านเก่า ที่เคยมามองๆคราวก่อนเธอหยุดมอง
“ชุดนี้สวยจัง ทองประกายใส่แล้วคงสวยมากเลย เข้าไปดูกันเถอะ”
“อย่าดีกว่าค่ะ คุณมิตรซื้อให้ทองประกายหลายชุดแล้ว”
“ไม่เป็นไร ชุดสวยๆ ก็เหมาะกับคนสวยๆ”
ทองดีละล้าละลัง มิตรสังเกตเห็น
“อ้าวทำไมล่ะ ไปดูด้วยกันสิ”
มิตรลากแขนทองดีเข้าไปในร้าน

พนักงานปลดชุดแล้วเดินพาทองดีเข้าไปในห้องลอง ทองดีเดินออกมาในชุดสวย มิตรมองแล้วพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ...มิตรมาที่เคาเตอร์ในร้านเซ็นต์บัตรเครดิต แล้วหยิบถุงเสื้อผ้า จูงมือทองดีออกจากร้าน
“ไป...ทองประกายหิวหรือยัง”
“ค่ะ”
มิตรจูงมือทองดีเดินออกจากร้าน เธอมองมือเขาที่จูง แล้วแอบยิ้มปลื้ม เขาพาเธอเข้ามาในร้านอาหารหรูถือของให้ทองดีหลายถุง
“ขอบคุณคุณมิตรมากนะคะ คุณมิตรใจดีกับทองม๊าก...มาก”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมเต็มใจให้คุณ”
พนักงานเสิร์ฟวางจานอาหารลงบนโต๊ะ ทองดีเอื้อมมือไปชนกับมือของมิตรพอดี เขายิ้มอย่างมารยาทดี แต่ทองดีเขิน
“คุณมิตรมาทานอาหารที่นี่บ่อยหรือคะ”
“ใช่...ส่วนใหญ่จะมากับเพื่อนบ้าง ไม่ค่อยได้มาคนเดียว”
“เพื่อนหรือแฟนคะ”
“ถามทำไม...ทองประกายหึงผมหรือไง”
ทองดีอึกอัก
“เปล่านะคะ ทองแค่คิดว่า คนหน้าตาดี การศึกษาก็ดีอย่างคุณ คงมีแฟนเป็นโขลง”
มิตรหัวเราะ
“ฟังดูเหมือนผมเป็นช้างเลย...แล้วทองประกายล่ะ มีแฟนหรือยัง” มิตรคีบปลาดิบส่งให้ “ลองทานปลาดิบ จิ้มโชยุกับวาซาบิ อร่อยดีนะ ระวัง...”
มิตรห้ามไม่ทันทองดีหยิบวาซาบิเข้าปากแล้วสำลักพรวด มิตรหยิบกระดาษเช็ดปากให้อย่างนุ่มนวล ส่งแก้วน้ำให้
“ผมจะบอกอยู่พอดีเลย อย่าจิ้มวาซาบิเยอะ...มันขึ้นจมูก ขอโทษทีนะ”
“คุณมิตรไม่ผิดหรอกค่ะ ทองไม่รู้เรื่องเอง ก็ทองมาจากบ้านนอกนี่คะ”
“ช่างเถอะ...ทานซุปก่อน อันนี้ไม่ฉุนขึ้นจมูกแน่นอน”
ทองดียิ้มเขินๆแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกที่มิตรไม่ซักต่อ มิตรบริการทองดีอย่างมีมารยาทตลอดการกินอาหาร ทั้งคู่กินอาหารจนเสร็จ มิตรมองนาฬิกา
“กลับกันดีกว่า ต้องไปเตรียมตัวที่ร้านแล้ว”
“ค่ะคุณมิตร ทองมีความสุขจังเลย”
มิตรเดินออกจากร้านอาหาร ทองดีเดินเกาะแขนเขาออกมาอย่างสนิทสนม

เย็นนั้น...มิตรเดินมาส่งทองดีที่หน้าห้องแต่งตัว เขาส่งของให้
“ขอบคุณนะคะคุณมิตร วันนี้ทองมีความสุขจริงๆ”
“เช่นกันครับ ตั้งใจทำงานนะ”
มิตรยิ้มให้ก่อนจะเดินออกมา ทองดียืนมองจนเขาลับสายตาแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องแต่งตัวอย่างใจลอย
ในห้องแต่งตัวเหล่าโคโยตี้กำลังแต่งตัวกันอยู่อย่างวุ่นวาย เมย์กำลังนั่งแต่งตัวอยู่มุมหนึ่ง ทองดีเดินตาลอยเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆเมย์
“รู้มั๊ยวันนี้คุณมิตรพาฉันไปกินอาหารญี่ปุ่นมาด้วยละ”
“เหรอ...แล้วอร่อยมั๊ยล่ะ”
“อืมม...ไม่เห็นอร่อยเลย จืดๆ แหยะๆ แถมยังแพงอีกด้วย เออ...คุณมิตร ซื้อเสื้อผ้าให้ฉันด้วยนะ ตั้งหลายตัว แพงๆทั้งนั้นเลย”
ทองดีหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาอวด เมย์มองอย่างไม่ตื่นเต้น
“คุณมิตรนี่ หล๊อ...หล่อ นิสัยก็ดี เรียนเมืองนอกมาซะด้วย แหม...เหมือนเจ้าชายในนิทานเลยนะ เมย์”
“แล้วเธอล่ะ คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงในนิทานด้วยหรือเปล่า”
ทองดีชะงัก
“แหม...ทำไมเธอพูดแบบนั้น...หมายความว่ายังไง”
“ฉันแค่อยากจะเตือนเอาไว้ เราเป็นผู้หญิงกลางคืน ผู้ชายที่ไหนเค้าจะจริงๆจังด้วย เขาก็แค่เล่นๆ เท่านั้นแหละ”
“ไม่จริงหรอก คุณมิตร เป็นคนดีนะ เป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ทำแบบนั้นกับฉันหรอก”
ทองดีท่าทางจริงจังมาก เมย์มองทองดีแล้วส่ายหน้า
“ก็ตามใจ ฉันแค่เตือนไว้ คุณมิตร เขาก็เป็น...ผู้ชาย อย่าไปปักอกปักใจ หวังอะไรให้มาก เวลาเรารักมาก หวังมาก ก็ผิดหวังมาก สุดท้ายก็เจ็บ”
เมย์พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งทองดีให้มองตามอย่างไม่เข้าใจ
“พูดอะไร ไม่เห็นเข้าใจเลย”
ทองดีไม่สนใจหยิบของในถุงออกมาดู แล้วกอดอย่างชื่นชม

ค่ำนั้น...ทองดีชงเหล้าเสิร์ฟให้ลูกค้าตลอดเวลา เธอยิ้มแย้มแจ่มใสยืนรอบริการลูกค้า แขกคนนึ่งบอก
“หนู ขอป๋าแก้วนึง...”
“ได้ค่ะ...รอแป๊บเดียวนะคะ”
ทองดียิ้มรับ แขกเอื้อมมือจับก้นทองดีอย่างจงใจ ทองดีสะดุ้งเฮือก หันไปมองมือแขกอย่างฉุนๆ ทองดีนึกถึงคำพูดของมิตร
‘ที่เธอมีปัญหาเพราะเธอไม่รู้วิธีเอาตัวรอดอย่างนิ่มนวล’
ทองดีนิ่งคิด แล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม หันไปหยิบมือลูกค้าออกอย่างนิ่มนวล
“อุ๊ย...ป๋า...ทำอย่างนี้หนูก็ตกใจหมดสิคะ ประเดี๋ยวเหล้าไม่อร่อยหนูไม่รู้ด้วยนะคะ”
“โอ๊ย...ป๋าของโทษ อย่างนี้ หนูนี่มันน่าเอ็นดู ไม่ดีดดิ้นน่ารำคาญ อย่างนี้ ป๋าต้องทำขวัญ ...เอ๊า..ขวัญเอ๊ย...ขวัญมา”
ลูกค้าหยิบแบงค์ส่งให้ ทองดีตาโต รับไปแล้วไหว้อย่างชดช้อย
“ขอบคุณค่ะป๋า ป๋าใจดี๊...ใจดีอย่างนี้ รับรอง หนูถอดหัวใจชงให้ป๋าเลยค่ะ รอแป๊บนะคะ ป๋า”
ทองดีหันหลังกลับไป ยกเงินใจมือขึ้นจูบ
“ได้ผลจริงๆด้วยแฮะ...”
ทองดียัดเงินใส่เสื้อในอย่างดี ก่อนจะรีบออกทำงานต่ออย่างร่าเริง

ด้านนอก...ลูกค้ารับเครื่องดื่มแล้วส่งทิปให้ ทองดีรับเงิน พร้อมกับทำงานไปอย่างวุ่นวาย อีกมุมหนึ่งห่างออกไป เฮียบุ๋นกับมิตร ยืนมองทองดีทำงานอยู่
“ทองประกายนี่มันคล่องแคล่วขึ้นเยอะเลย แสดงว่า มันเชื่อฟังแกมากเลยนะ”
มิตรยักไหล่
“ฉันก็แค่แนะนำเท่านั้นแหละ ไม่ดีเหรอ ถ้าแขกติดทองประกาย เฮียก็ได้ประโยชน์”
“ไอ้นั่นนะ ฉันรู้แล้ว แต่ท่าทางเด็กนั่นมันจะชอบแกมากเลยนะ ไม่อย่างนั้น มันคงพยศน่าดู แกนี่มันร้ายไม่เบาเลยนะโว๊ย”
มิตรมองภาพทองดีตรงหน้าแล้วยิ้มเฉย ไม่ว่าอะไร
“ฉันกลับก่อนดีกว่า ไปนะเฮีย”
มิตรเดินออกจากห้องไป เฮียบุ๋นมองตามไปแล้วยิ้ม
“ไอ้มิตรมันร้ายโว๊ย...เสือซุ่มนี่หว่า”
เฮียบุ๋นหันไปมองภาพในร้านอย่างปลื้มๆ

ทองดียืนชะเง้อ มองหามิตร ขณะที่ เหล่าพนักงานกับเมย์เดินออกมาจากร้าน
“เป็นไงบ้างทองประกาย วันนี้ลูกค้าเยอะ เหนื่อยมั๊ย”
“ก็นิดหน่อย เออ...เห็นคุณมิตรบ้างหรือเปล่า”
“ไม่เห็นเลย สงสัยจะกลับไปแล้วมั๊ง”
“อ้าว..กลับไปแล้วหรือ”
เมย์สงสัย
“ถามทำไมหรือ มีธุระอะไรกับคุณมิตรหรือเปล่า”
“ฉัน...ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากขอบคุณเค้าเท่านั้นแหละ”
เมย์จ้องทองดีนิ่ง ทองดีหลบตา
“ไม่มีอะไรงั้นก็กลับกันเถอะ เต้นจนเมื่อย อยากพักขาเต็มที”
เมย์เดินนำหน้าทองดีออกไป ทองดีหันไปมองที่ร้านอย่างเสียดาย แล้วเดินตามเมย์ไป

ทองดีกับเมย์เดินคุยกันมาถึงหน้าห้อง ทองดีลังเลแล้วตัดสินใจถามเมย์
“เอ่อ..ที่เธอพูดถึงคุณมิตรตอนเย็นน่ะ เธอหมายถึงอะไรเหรอ”
“คุณมิตรเหรอ”
“ตอนเย็นไง ที่เธอบอกว่า คุณมิตรก็เป็นผู้ชาย เหมือนกับคนอื่นนั่นแหละ”
เมย์เบือนหน้าหนี อึดอัดไม่อยากพูด แต่ทองดีพยายามเซ้าซี้
“บอกฉันหน่อยสิ เธอหมายถึงอะไร คุณมิตรเค้าเป็นคนไม่ดีเหรอ”
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น คือ..ฉันแค่อยากเตือนเธอเฉยๆ ผู้ชายก็เหมือนกันทุกคนนั่นแหละ ไม่ได้หมายความว่าคุณมิตรไม่ดีหรอก อย่าเข้าใจผิด”
“เฮ้อ...โล่งใจไปที คิดว่าคุณมิตรมีอะไรไม่ดี เธอถึงไม่อยากให้ฉันคบเค้า”
“ช่างมันเหอะ...ดึกแล้วไปพักผ่อนดีกว่า”
ทองดียิ้ม ไขประตูเข้าห้องไป เมย์มองตามแล้วถอนหายใจยาว
“เฮ้อ...เด็กเอ๊ย...แล้วเราจะมีหน้าไปสอนมันได้ยังไง ตัวเราเองยังเอาตัวไม่รอดเล๊ย...”
เมย์ถอนใจอย่างเศร้าๆ

ทองดีเดินเข้ามาในห้อง เหวี่ยงกระเป๋าไปทาง สะบัดรองเท้าออกจากเท้ากระเด็นไปอีกทาง ตรงไปล้มตัวลงนอนที่เตียงอย่างเหนื่อยอ่อน
“เฮ้อ...เหนื่อยชะมัด”
สักครู่ทองดีเด้งตัวออกจากเตียงอย่างเพิ่งนึกได้ ล้วงเอาเงินที่ยัดไว้ในอกเสื้อออกมากองที่เตียง
“โอ้โห...นี่เยอะกว่าค่าแรงชงการแฟให้แม่กับเตี่ยทั้งชีวิตซะอีก...เรารวยแล้ว”
ทองดีหยิบเงินขึ้นมาโปรยบนเตียง แล้วรวบขึ้นมากอดไว้อย่างมีความสุข
“อยากเจอคุณมิตรจังเลย ทองอยากขอบคุณคุณมิตร ต่อไปนี้ ทองจะเชื่อคุณมิตร จะทำตามที่คุณมิตรบอกทุกอย่างเลย”
ทองดีนอนกอดเงินยิ้มอย่างมีความสุข

ในห้องซ้อมเต้น...ครูป๊อบสอนเหล่าโคโยตี้เต้น ทองดียืนซ้อมอยู่แถวหลังอย่างตั้งอกตั้งใจ จนเพลงจบ
“พักก่อน...ประเดี๋ยวมาต่อท่อนแยก...”
ทุกคนเดินแยกย้ายกันไป ยกเว้นทองดี เมย์หันมาถาม
“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ เธอจะไปหรือเปล่า”
ทองดีส่ายหน้า
“ไม่อ่ะ...ฉันรอที่นี่แหละ”
เมย์พยักหน้าแล้วเดินออกไป ทองดีรอจนเมย์เดินออกจากห้องไป แล้วเดินไปที่หน้ากระจก ลองหมุนตัว ซ้อมท่าเต้นตามที่ครูป๊อบเคยสอน ครั้งแรกหมุนตัวแล้วเซ แต่รอบสองหมุนตัวจบอย่างสวยงาม
“อืมม...ลองกับเพลงดีกว่า”
ทองดีเดินไปเปิดเพลง แล้วเต้นตามเพลง สักพัก ทองดีเริ่มใส่สไตล์ตัวเองลงไปด้วยอย่างสนุกสนาน
เมย์เดินมาที่หน้าประตูห้อง พอจะเปิดประตูเข้าไป เมย์ชะงัก เห็นทองดีกำลังเต้นอยู่ ครูป๊อบเดินเข้ามา
“ยืนรออะไรแม่คุณ...ไม่เข้าก็หลบไปสิยะ”
“ครูดูนี่สิคะ”
ครูป๊อบเดินมาดู เห็นทองดีเต้นแบบเป็นตัวของตัวเอง ครูป๊อบกรี๊ดดดดด แล้ววิ่งเปิดประตูเข้าไปในห้อง
ครูป๊อบเดินเปิดประตูเข้ามา ทองดีหยุดเต้นทันที
“อุ๊ยครู...ขอโทษค่ะ”
“หยุดเต้นทำไม เต้นต่อซิ เร็วๆ เร็วๆสิหล่อน”
ทองดีหน้าตาเหรอหรา เมย์พยักหน้ายิ้มให้กำลังใจ
“ลองเต้นสิ เต้นเหมือนเมื่อกี้น่ะ ลองดู...”
เมย์เดินไปเปิดเพลงให้ ทองดีเต้นซ้ำ ครูป๊อบยืนซับน้ำตาอย่างแกล้งเว่อร์
“ไม่อยากจะเชื่อเลย แม่ทองประกายน้องนางบ้านนาของฉัน อย่างนี้ต้องกดไล้ท์ 1000 ครั้ง”
มิตรเดินเข้ามาในห้อง มายืนข้างครูป๊อบ
“เป็นยังไงบ้างครับครู”
“เลิศฮ่ะ..เลิศมาก ถ้าเต้นได้แบบนี้ล่ะก็ คนดูฉี่เป็นเลือดแน่...”
เสียงเพลงจบลงพอดี ทองดีหยุดเต้น เดินเข้ามาหาครูป๊อบกับมิตร
“เอ่อ...หนูเต้นผิดหรือเปล่าคะ”
“ผิดย่ะ..ผิดมาก.....แต่ว่า ....หล่อนแดนซ์ได้ ฉ่ำ แซ่บเว่อร์ มากก ครูป๊อบคอนเฟิม”
มิตรยิ้ม
“ฉันดีใจด้วยนะทองประกาย เธอทำสำเร็จแล้ว”
“หมายความว่า...”
“เธอได้เป็นโคโยตี้แล้ว...”
เมย์ยิ้มอย่างดีใจ ทองดีโดดโลดเต้น สักพักก็นึกได้
“แต่เฮียบุ๋นยังไม่อนุญาตทองเต้นนี่คะ แล้วทองจะเป็นโคโยตี้ได้ยังไง”
“ทำไมล่ะ ฉันอนุญาตเอง วันนี้เธอขึ้นเต้นโชว์ได้เลย”
“จริงนะคะ คุณมิตร”
“จริงสิ”
ทองดีหันไปกรี๊ดกับเมย์อย่างดีใจสุดๆ มิตรมองทองดีแล้วยิ้ม...

ทองดี นั่งคุยกับเมย์ในห้องแต่งตัว
“ฉันดีใจจริงๆ เหมือนฝันเลยนะ”
“เธอทำได้ ฉันดีใจด้วยนะทองประกาย”
ทองดีสลด
“แต่ว่า...ฉัน ฉันยังไม่มีเครื่องสำอาง ไม่มีชุด ไม่มีอะไรซักอย่างเลย”
ทองดีหน้าสลด ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เสียงเคาะประตูดังขึ้น มิตรเดินเข้ามาพร้อมกับของในมือ
“คุณมิตร เชิญค่ะ เมย์จะออกไปข้างนอกพอดี เชิญคุณมิตรเลยค่ะ”
เมย์มองทองดีแล้วเดินออกจากห้องไป
“ฉันมีอะไรจะให้เธอ”
มิตรวางของลงบนโต๊ะ แล้วเปิดออก เป็นกระเป๋าเครื่องสำอางราคาแพงครบเซ็ต ด้านหลังมีชุดสวยในถุงแขวนไว้อีก
“โอโห...คุณมิตร คุณมิตรดีกับทองเหลือเกิน ทองไม่รู้จะตอบแทนยังไงดี”
ทองดีหันไปก้มลงกราบกับอกมิตร อย่างอ่อนหวาน
“เธอสมควรได้รับสิ่งนี้ ทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุดนะ”
“ค่ะคุณมิตร ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่มีคุณมิตรคอยแนะนำ ทองคงมาไม่ถึงวันนี้ ต่อไปทองจะเชื่อฟังคุณมิตรทุกอย่างค่ะ”
ทองดีกอดเอวคุณมิตรแน่นอย่างปลื้มๆ มิตรสีหน้าเฉยๆ แต่ก็ยิ้มรับแบบร้ายลึก

ทองดีนั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก โดยมีเมย์ และวันดีคอยช่วยเหลือ วันดีหวีผมให้ทองดี ยกผมขึ้นตีกระบังแบบเก่า แล้วส่ายหน้าลื้อผมทองดีใหม่ ทองดีโดนยีผมหัวฟู
เมย์หยิบสีทางตาขึ้นมา เลือก แล้วเอาไปเทียบกับหน้าทองดี แล้วส่ายหน้า ลบหน้าทองดีแล้วแต่งใหม่
พักใหญ่ ทองดีแต่งหน้าทำผมเสร็จ ลุกขึ้นถือชุดเดินเข้าไปหลังม่านสำหรับแต่งตัว แล้วเดินออกมาในชุดสวย เมย์กับวันดียืนมองอย่างพอใจ
“เฮ้อ...ฝีมือฉันนี่ใช้ได้จริงๆ สวยมาก”
“เธอพร้อมแล้วละ ทองประกาย”
เมย์ดึงตัวทองดีไปยืนมองที่หน้ากระจก ทองดีตะลึงในรูปลักษณ์ใหม่ของตัวเอง
“ไง...อีหนู ตะลึงละสิ...แหม...เห็นแล้วนึกถึงตัวเองตอนสาวๆ จริง...จริ๊ง....”
ทองดีจับแก้มตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา
“สวยจังเลย....แต่ว่า...”
“อะไรอีกล่ะ นังนี่ เรื่องเยอะจริงๆ”
“ฉันปวดท้อง...ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ทองดีวิ่งพรวดไปเข้าห้องน้ำทันที
“อ้าว...เกิดจะช้ำรั่วขึ้นมาซะอย่างนั้น”
เมย์ยิ้ม
“...สงสัยจะตื่นเต้น”

บนเวที...เหล่าโคโยตี้กำลังเต้นโชว์กัน ขณะที่หลังเวที วันดีเดินมามองหาทองดี
“แม่ทองหายไปไหนเนี่ย...จะต้องโชว์ชุดถัดไปแล้วนะ”
“เห็นไปเข้าห้องน้ำประเดี๋ยวคงมาแหละค่ะ”
เมย์บอก ทองดีเดินเข้ามาท่าทางกระวนกระวายประสาทเสีย
“อ้าว..แม่คุณ หายไปตกห้องน้ำมาหรือไง เตรียมตัวสิยะ”
เฮียบุ๋นเดินมาพร้อมกับมิตร
“โอ๊ย..แม่เจ้าโว๊ย...ทองประกายของเฮีย...สวยบาดตาบาดใจจริง...จริ๊ง...เต้นให้สุดฝีมือเลยนะ เฮียจะรอดู”
เฮียบุ๋นเดินมาโอบทองดีไว้ วันดีแกล้งกระแอม..เฮียบุ๋นนึกได้ หันไปค้อนวันดี ขณะที่ทองดีเครียด
“เฮียคะ หนูไม่เต้นแล้วละ หนูเต้นไม่ได้หรอก”
เฮียบุ๋น กับมิตรร้องออกมาพร้อมกัน
“เฮ้ย...ไม่เต้นเหรอ”
“เฮ้ย...ไม่ได้นะ”
ทองดีเครียด
“หนูเต้นไม่ได้หรอกค่ะ กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว”
ทองดีพูดจบก็เดินหนีไปทันที เฮียบุ๋นมองหน้ามิตร มิตรเดินตามทองดีไปทันที

ทองดีเดินมาอย่างประสาทเสีย มิตรเดินมาคว้ามือทองดีไว้
“เป็นอะไรไปทองประกาย โอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ทำไมเธอไม่คว้าไว้”
“คุณมิตรคะ ทองทำไม่ได้ ทองกลัว กลัวไปทุกอย่าง”
“ไม่ต้องกลัว ฉันบอกแล้วไง เธอเป็นคนเก่ง ถ้าเธอต้องการจะทำ เธอ ต้องทำได้ ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ”
“คุณมิตรคะ แต่มัน...ทองกลัวจะพลาด กลัวคนดูหัวเราะ...กลัวทุกอย่าง เห็นใจทองเถอะนะคะ”
มิตรปล่อยมือทองดี
“...งั้นก็ตามใจเธอ ถ้าเธอคิดอย่างนั้น ฉันก็คงบังคับเธอไม่ได้ แต่ฉันผิดหวัง ผิดหวังในตัวเธอจริงๆ”
มิตรทำท่าจะเดินหนี ทองดีผวาเข้าไปดึงไว้
“คุณมิตรขา...ทองขอโทษ”
“ทองประกาย เธอฟังฉันนะ ที่ฉันเห็นตรงหน้า คือผู้หญิงที่สวยที่สุด รับประกันได้ว่า ถ้าเธอออกไปยืนหน้าเวที สายตาทุกคู่ต้องจ้องมองแต่เธอเท่านั้น เธอทำได้ แต่เธอพร้อม ที่จะทำเพื่อฉันหรือเปล่า ทองประกาย...”
มิตรสบตากับทองดีนิ่ง ทองดีเริ่มฮึด
“ได้ค่ะ ทองประกายทำได้ ทองประกายจะตั้งใจทำเพื่อคุณมิตร”
มิตรแอบถอนหายใจ
“ไป ไปเต้นให้ดีที่สุด พิสูจน์ให้คนทั้งโลกรู้ว่า ทองประกายคนนี้ ทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ”
ทองดีมีกำลังใจฮึดสู้








Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 16:28:44 น.
Counter : 509 Pageviews.

0 comment
ทองประกายแสด ตอนที่ 5 (ต่อ)



มิตรจอดรถวิ่งตรงเข้ามาช่วยทองดี

“เฮ้ย...หยุดเดี๋ยวนี้นะ รังแกผู้หญิงตัวนิดเดียว ไม่เท่ห์หรอก”
ลูกค้าชะงักหยุดมือหันไปมอง ทองดีรีบวิ่งไปหลบหลังมิตร
“ช่วยด้วยค่ะ พวกมันจะปล้ำหนู”
มิตรมองทองดีเห็นหัวหูยุ่งเหยิงไปหมด หันไปมองพวกลูกค้าอย่างไม่พอใจ
“ขอโทษนะครับ ถ้าผู้หญิงเค้าไม่เต็มใจ ก็อย่าไปบังคับใจเค้าเลย”
“แล้วมึงมาเกี่ยวอะไรด้วย หมูเค้าจะหาม มึงอย่ามาเสือก” ลูกค้าตะคอก
“ขอโทษนะครับพี่ น้องเค้าเป็นพนักงานเสริฟต์ในร้าน ไม่ออกไปกับแขก แต่ถ้าพวกพี่อยากสนุกอย่างว่า ผมจะไปตามผู้หญิงแบบนั้นมาให้ดีมั๊ยครับ”
“ไม่เอา...กูอยากได้เด็กคนนี้ ใครจะทำไม มึงรู้หรือเปล่า กูเป็นใคร”
มิตรยิ้มแย้ม
“ครับ...ผมทราบว่าพี่กำลังหงุดหงิด เอาอย่างนี้ดีมั๊ยครับ ผมจะ เลี้ยงเหล้าพี่เป็นการขอโทษแทนน้องคนนี้”
“กูไม่แดกเหล้า กูจะเอาอีนี่ มันปากดีนัก เอาเหล้าสาดหน้ากูด้วย มึงหลีกไป”
ลูกค้าต่อยอย่างแรงมิตรหลบทัน ลูกค้ายิ่งโมโห
“ผมว่าเราอย่าใช้กำลังดีกว่านะครับ”
ลูกค้าไม่ฟัง รุมเข้าหามิตรทันที เหตุการณ์เริ่มชุลมุน ทองดีหันรีหันขวาง ทำอะไรไม่ถูก โดดเอารองเท้าตีหัวลูกค้าช่วยมิตร ลูกค้าเห็นท่าไม่ดี ทำท่าจะชักปืนออกมา แต่เสียงปืนดังขึ้นก่อน ทุกคนตะลึง เฮียบุ๋นเดินเข้ามาพร้อมกับการ์ด
“มึงคิดจะใช้ปืนเหรอ ถามปืนกูก่อนดีมั๊ย”
ลูกค้าไม่พอใจ
“เฮ้ย...มึงขู่กูหรือ”
“ไม่ได้ขู่ แต่กูเอาจริง ไม่อยากคุยกับกู คุยกับตำรวจดีมั๊ย กูตามมาแล้วรอแป๊บ”
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง พวกเรากลับ”
ลูกค้าพร้อมพวกทำท่าจะเดินออก เฮียบุ๋นรีบขวางไว้ การ์ดของเฮียบุ๋นเข้าล๊อคแขนลูกค้าไว้
“มึงจะทำไมกู...อย่านะ พ่อกูใหญ่นะโว๊ย”
“เหรอ...งั้นฝากไอ้นี่ไปให้พ่อมึงด้วย”
เฮียบุ๋นเอาปืนตบปาก ลูกค้าคนนั้น เลือดกลบปาก
“อุ๊ย...อุบัติเหตุ ผมป้องกันตัวโดยสุจริต” เฮียบุ๋นหันไปบอกลูกน้อง “ปล่อยมันไป”
การ์ดปล่อยตัวลูกค้า พรรคพวกช่วยกันประคองลูกค้าออกไป เฮียบุ๋นหันไปมองเห็นทองดีกำลังประคองมิตรอยู่

ทองดีทำแผลให้มิตรอยู่ในห้องทำงาน เฮียบุ๋นนั่งมองมิตรอย่างอ่อนใจ
“ลื้อนึกยังไงวะ ถึงไปหาเรื่องกับพวกมัน”
“ก็ฉันเห็นมันกำลังรังแก เอ่อ...”
“ฉันชื่อทองประกายจ๊ะ...” ทองดีหันไบอกเฮียบุ๋น “พวกนั้นมันจะพาฉันออกไปข้างนอก แต่ฉันไม่ยอม มันก็ไม่ฟังเสียง”
“ก็เลยเอาเหล้าสาดหน้ามันใช่มั๊ยล่ะ เออ...เจริญ ขืนทำแบบนี้ ลูกค้าคงหนีหมด”
มิตรออกรับแทนทองดี
“อย่าไปโทษทองประกายเลย แขกพวกนั้นมันเมาด้วยแหละเฮีย”
ทองดีหน้าเหวอ
“อ้าว...คุณเป็นน้องของเฮียหรือ ไม่อยากเชื่อเลย เฮียทั้งแก่ทั้งดำ แต่ทำไมคุณถึง...”
เฮียบุ๋นค้อน
“...แหม...พูดซะฉันเสียหายเลยนะทองประกาย ไอ้คุณมิตรนี่มันเป็นลูกแม่เล็กของเตี่ยฉัน ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาหลายปี เออรู้จักกันซะเลย”
ทองดียกมือไหว้มิตรอย่างอ่อนน้อมหน้าตาตื่นเต้น
“โหย...คุณไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา เก่งจังเลย แถวบ้านฉันใครได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพนี่ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว”
เฮียบุ๋นมองทองดีขำๆ
“เธอนี่มันซื่อๆ...น่ารักดีเหมือนกันนะ ต่อไปก็เลี่ยงๆแขกพวกนั้นไว้แล้วกัน”
“จ๊ะ เฮีย...ถ้าเจอคราวนี้ฉันจะวิ่งหนีให้ไกลเลยจ๊ะ”
ทองดีเขินเช็ดแผลมิตรแรงไปหน่อย เขาสะดุ้งคว้ามือเธอไว้
“อุ๊ย...เจ็บจัง เบาหน่อยสิทองประกาย”
“ขอโทษจ๊ะ คุณมิตร ทองไม่ทันระวัง”
มิตรยิ้มแบบไม่คิดอะไร ทองดียิ้มแอบเขิน ทำแผลต่อไป เริ่มประทับใจในตัวคุณมิตร

พนักงานสองคนแอบฟังอยู่หน้าห้อง พอทองดีเปิดประตูออกมา ทุกคนแตกกระจาย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นทองดี ทุกคนกรูเข้าไปหา
“เป็นไงบ้างทองประกาย”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ขอบใจนะ”
“ฉันไม่ได้ถามถึงหล่อนย่ะ คุณมิตรน่ะ...คุณมิตรเป็นยังไงบ้าง”
“อ้าว...แล้วก็ไม่บอก คุณมิตรไม่เป็นไรมากหรอกจ๊ะ แค่ฟกช้ำ ฉันทำแผลให้เรียบร้อยแล้ว”
พนักงานหน้าตื่น
“ตายจริง เป็นแผล โอ๊ย...แล้วทำไมไม่เรียกฉันเข้าไปทำแผลให้ โถ...พ่อคุณ เจ็บมาหรือเปล่าก็ไม่รู้”
พนักงานอีกคนจีบปากจีบคอออกท่าออกทางพูด
“แหม...เป็นฉันหน่อยไม่ได้ แม่จะถวายชุดใหญ่จัดเต็ม ทั้งนวดทั้งเฟ้น เอาให้ครบคอร์สไปเลย ไม่แค่ทำแผลหรอก”
พนักงานมองเพื่อนเหยียดๆ
“อย่าทำพูดไปเลย หน้าปลวกอย่างหล่อน คุณมิตรเค้าคงไม่ลงมือช่วยให้เสียเวลา ดีไม่ดี จะช่วยไอ้พวกนั้นซ้อมแกด้วย...โทษฐาน หน้าตาสวยเกิ๊น...”
พนักงานค้อนเพื่อน
“อีบ้า พูดแบบนี้มาตบกันเลยดีมั๊ยเนี่ย...” พนักงานคนนั้นหันไปหาทองดี “แหม แกมันโชคดีจริงๆนะทองประกาย คุณมิตรอุตส่าห์ออกหน้าช่วย พวกเราอยู่มาเป็นปี ได้เห็นหน้าแกไม่กี่ครั้ง...ก็อย่างว่า คนหล่อๆเรียนสูงๆ ผ่านเมืองนอกเมืองนามา คงไม่ชายตามองผู้หญิงอย่างเราหรอก”
“พูดก็พูด ฉันชักอิจฉาแกแล้วนะทองประกาย...แกนี่มันขี่ดวงมาจริง...จริ๊ง”
พนักงานทั้งสองเดินออกไป ทองดียิ้มอย่างปลื้มๆ

เฮียบุ๋นส่งบัญชีให้มิตรดู เขามองหน้าพี่ชายเป็นเชิงถาม
“เอานี่...รายละเอียดงานของคลับนี้ ลองอ่านดู ฉันอยากให้แกมาช่วยเรื่อง แขกวีไอพี อยากทำเป็นเมมเบอร์ จับพวกแขกกระเป๋าหนักแบบมีระดับ รวยจริง ไม่ใช่พวกไฮโซอัพเกรด พอไหวมั๊ย”
มิตรเปิดอ่านดูคร่าวๆ
“ไม่มีปัญหาหรอกเฮีย พวกนี้เรียกร้องการบริการแบบแตกต่างเหนือระดับแต่ยอดจ่ายไม่อั้น เออ...เฮีย ทองประกาย เค้ามาทำงานกับเฮียนานหรือยังเนี่ย”
“สักพักนึงแล้ว” เฮียบุ๋นนึกได้ “ถามแบบนี้หมายความว่าไง สนใจทองประกายล่ะสิ”
มิตรยิ้ม
“ก็สวยดีนะ แถมท่าทางยังซื่อๆ ดูธรรมชาติดี”
“เฮ๊ย...สมภารต้องไม่กินไก่วัดนะ...กฎข้อแรกเลยนะ อย่ายุ่งกับเด็กในร้าน ดูอย่างเฮียเป็นตัวอย่าง เห็นมั๊ย ไม่อย่างนั้น มันจะเสียการปกครอง เด็กมันจะไม่นับถือ”
“อ๊ะ...กฎนี้คุ้นๆ อ๋อนึกออกแล้ว อาซ๊อเป็นคนตั้งกฎข้อนี้เอง แล้วสั่งให้เฮียปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด แต่เอ๊ะ...ผมได้ข่าวว่าเฮียยังมีอะไร กรุบกริบๆ อยู่ไม่ใช่หรือ เออ...ชื่ออะไรนะ เมย์...หรือมายด์ นึกไม่ออกแฮะ”
เฮียบุ๋นค้อน
“นึกไม่ออกก็อย่านึกเลย หาเรื่องให้กูแล้วมั๊ยเนี่ย อย่าเผลอหลุดปากให้ซ๊อมึงรู้เชียวนา เฮียเน่าสถานเดียว ว่าแต่แกชอบทองประกายใช่มั๊ยล่ะ ไม่ต้องมาทำปากแข็ง”
มิตรยิ้ม แต่ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
“ไม่ต้องมาทำเก๊กเลย ฉันว่าแกต้องชอบแน่นอน เฮ้อ...ไม่เป็นไร ถ้าแกชอบฉันก็ยกให้” เฮียบุ๋นแอบบ่น “อดเลยกู อุตส่าห์ถนอมกล่อมเกลี้ยง สุดท้ายหมาคาบไปแดก”
“อ้าว...เฮียว่าใครเป็นหมาเนี่ย ไม่รู้ล่ะ เฮียยกให้ฉันแล้วนะ”
“เออ...เออ...กูไม่ยุ่งก็ได้วะ แต่เอ็งอย่าปากโป้งเรื่องอื่นให้ซ๊อมึงรู้แล้วกัน ไม่งั้นกูเละ”
มิตรยิ้ม
“เออน่า ไม่พูดหรอก สงสัย ฉันต้องเข้ามาที่ร้านบ่อยๆซะแล้ว”
มิตรยิ้มอย่างมีนัย เฮียบุ๋นส่ายหน้าเสียดาย

ทองดีเดินมากำลังจะไขประตูห้อง เมย์นั่งรออยู่ที่หน้าห้อง ทองดีร้องทัก
“อ้าว...ทำไมมานั่งอยู่เงียบๆ ไม่ไปเที่ยวไหนหรือ”
“ฉันได้ข่าวจากเจ๊วันดีว่า เธอมีเรื่องกับลูกค้าหรือ”
“ใช่...ไอ้พวกสวะนั่นน่ะ มันจะออฟฉัน แต่ฉันไม่ยอม มันเลยพาพวกมาหาเรื่อง จะฉุดฉันขึ้นรถ แต่พอดีคุณมิตรมาช่วยไว้ทัน”
ทองดีทำท่าปลาบปลื้มมากจนเมย์ผิดสังเกต
“คุณมิตร น้องเฮียบุ๋นน่ะหรือ”
“ใช่ ท่าทางแกดี๊...ดี ไม่เห็นเหมือนเฮียบุ๋นเลย ไม่น่าเป็นพี่เป็นน้องกันได้”
เมย์ยิ้มๆ
“ท่าทางทองจะปลื้มคุณมิตรนะ มีเรื่องเจ็บตัวแท้ๆ ยังยิ้มแก้มปริ”
“ฉันไม่มีอะไรหรอก ก็ดีใจที่รอดมาได้แหละ เออ...เมย์มีธุระอะไรหรือ เปล่า เข้าไปคุยในห้องก่อนสิ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันแค่จะมาเตือนเธอ ทำงานแบบนี้ เธอต้องระวังตัวให้มากนะ อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว”
“ทำไมล่ะ ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรใครนี่นา”
เมย์ถอนใจ
“เฮ้อ...ถึงไม่ได้ทำอะไรใครก็เหอะ ไอ้คนที่มาเที่ยวสถานที่แบบนี้ มันก็เห็นเราเป็นสินค้านั่นแหละ คิดว่าจ่ายเงิน แล้วจะทำยังไงก็ได้ คนแบบนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยง หลบได้ก็หลบ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ถือว่าทำทานไปแล้วกัน”
“ขอบใจนะ เมย์...เธอดีกับฉันจริงๆ ถือว่าฉันเป็นน้องสาวก็แล้วกันนะ มีอะไรก็คอยเตือนคอยสอนฉันด้วย”
เมย์ยิ้มให้
“เธอทำให้ฉันนึกถึงตัวเอง ตอนวันแรกที่เข้ามากรุงเทพ ก็แบบนี้แหละ อยู่ๆ เธอก็จะเก่งขึ้นเอง แต่เธอโชคดีกว่าฉันเยอะ วันนั้นฉันไม่รู้ อะไรเลย ไม่กล้า กลัวไปทุกอย่าง วันนี้ฉันเลยต้องมีสภาพเป็นแบบนี้”
ทองดีแปลกใจ
“เป็นยังไงหรือ”
เมย์หน้าเศร้าอึกอัก ขณะเดียวกันนั้นเสียงมือถือของเมย์ดังขึ้น เธอมองดูหน้าจอโทรศัพท์หยิบขึ้นมารับอย่างดีใจ
“ได้ค่ะ เฮีย...เมย์จะรอนะคะ”
เมย์กดโทรศัพท์วางสายแล้วหันไปเห็นสายตาของทองดี เธอหลบตาวูบ
“ฉันขอตัวก่อนนะทอง อย่าลืมล็อกกลอนให้แน่นหนาด้วย ใครมาเคาะก็อย่าเปิดนะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก โชคดีนะเมย์”
เมย์ยิ้มแล้วรีบเดินไป ทองดีมองตามไปอย่างสงสัย
“ไม่เข้าใจ ผู้หญิงสวยๆอย่างเธอ ต้องยอมเป็นเมียน้องของเฮียบุ๋นด้วย”

ทองดีนอนหลับฝันไป ในความฝันเธออยู่ในชุดแต่งงานมีผ้าคลุมเดินไปตามทางที่โรยด้วยกลีบดอกไม้ มิตรยืนรออยู่ตรงหน้า ยื่นมือมาให้จับ ทองดีเอื้อมมือไปรับ
“คุณแต่งงานกับผมนะครับ คุณทอง”
“ค่ะ...คุณมิตร”
ทองดีเงยหน้าขึ้น มิตรเปิดผ้าคลุมหน้า ทองดีตะลึง มิตรกลายเป็นพิสุทธิ์
“พี่พิสุทธิ์”
ทองดีสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นจากที่นอน
“บ้าจริง...ฝันเป็นเรื่องเป็นราว แต่คุณมิตรคงไม่เหมือนพี่พิสุทธิ์หรอก คนเคยเรียนสูงๆผ่านเมืองนอกเมืองนามาแล้ว จะเหมือนกันได้ยังไง”
ทองดีลุกขึ้นไปดื่มน้ำ แล้วกลับมานั่ง
“เค้าคงมีอะไรบางอย่างเหมือนกันบ้างแหละ ไม่อย่างนั้นเราจะฝันถึงทั้งสองคนได้ยังไง เฮ้อ...ประสาทจริงๆ”
ทองดียิ้มแล้วล้มตัวลงนอนฝันหวานต่อไป

เช้าวันใหม่...ในห้องซ้อมเต้นโคโยตี้ ทั้งหลายกำลังซ้อมเต้นตามครูป๊อป วันดีในชุดเต้นอย่างเก๋ ทำเป็นเต้นด้วยเล็กน้อย สักพักแอบไปยืนหอบอยู่หลังห้อง ครูป๊อบบอกกับทุกคน
“วันนี้...เราจะต่อเพลงใหม่กัน เตรียมพร้อม 3...2...1”
ทองดีเดินเข้ามาแบบกล้าๆกลัวๆ เมย์เห็นทองดีเดินเข้ามารีบกวักมือเรียก
“ครูขา รอลูกศิษก่อนนะคะ ทองประกายเร็วเข้า เค้าจะต่อเพลงใหม่”
ทองดีรีบเดินเข้าไปซ้อมด้วยอย่างตื่นเต้น
“เร็วเข้าสิยะ อะดูฉันเป็นตัวอย่างนะ อย่าให้คลาดสายตา ตะก่อนนี้ ฉันมีฉายาว่าสะโพกกวักทิป...เห็นมั๊ย”
วันดีเต้นโชว์แบบตลกๆ โคโยตี้ทั้งหลายหัวเราะกันคิกคัก
“กวักมาหรือกวักไปคะ เจ๊...” โคโยตี้แซว
วันดีค้อน
“อีพวกนี้...” วันดีหันไปหาทองดีโม้ต่อ “ไม่อยากจะคุยหรอกนะ สมัยก่อนนี้น่ะ แขกเข้าร้านมา ร้องแต่จะดูฉันเต้น ไม่อยากจะคุย”
โคโยตี้อีกคนมองวันดีขำๆ
“แล้วตอนนี้ ล่ะพี่ เค๊าร้องเรียกเหมือนกัน แต่ให้พี่ลงจากเวทีใช่มั๊ย ให้ ทิปก็ได้ แต่ขอร้องอย่าเต้น มันอนาถ...”
วันดีโกรธ
“อีนังพวกนี้...ไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่ซะแล้ว ถ้าฉันดังน่ะ พวกแกยังเป็นวุ้นอยู่เลย...”
ครูป๊อบปรบมือเรียกทุกคน แล้วเดินมายืนจ้องหน้าวันดีอย่างรำคาญ
“นี่พวกหล่อน จะคุยอีกนานมั๊ย ฉันจะได้สั่งข้าวเหนียว ส้มตำมากินก่อน นี่หล่อน...แม่ดาวค้างฟ้า...ช่วยกรุณาหลบไปนิด ฉันจะต่อท่าให้พวกนี้”
“เออ...ก็ได้...นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ...”
วันดีเห็นครูป๊อบถลึงตาใส่ เธอค้อนขวับแล้วสะบัดหน้าไปยืนอยู่ห่างๆ เมย์หันไปบอก
“ต่อเลยค่ะครู พร้อมแล้ว”
ครูป๊อบเต้นให้ดูอย่างรวดเร็ว ทองดีมองตาค้าง พยายามทำตามอย่างตั้งใจ

มิตรเดินมาหยุดมอง สาวๆซ้อมเต้นกัน แล้วยิ้มๆ วันดีมองเห็นมิตรยืนมองอยู่ด้านนอกรีบเดินออกมาเสนอหน้า
“คุณมิตรคะ...คุณมิตรมีธุระอะไรหรือเปล่า วันนี้ถึงมาแต่เช้า”
“ต้องซ้อมกันถึงกี่โมงเนี่ย”
“อุ๊ย...แค่เที่ยงก็เลิกแล้วค่ะ ครูป๊อบแกเขี้ยว...ตรงเวลาเป๊ะ จริงๆแล้วเฮียบุ๋นไม่เห็นจำเป็นต้องจ้างครูมาสอนให้เปลืองเลย วันดีก็สอนได้ ไม่เห็นจะยากเย็นอะไร สมัยก่อนวันดีก็เคยเต้นมาก่อนนะคะ...”
วันดีโม้ไปเรื่อย มิตรไม่สนใจฟัง มองทองดีเต้นสักพักแล้วเดินไป วันดีหันมามิตรหายตัวไปแล้ว
“อ้าว...ไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย คุณมิตรนะคุณมิตร”
วันดีกระทืบเท้าเดินออกจากห้องไป

ครูป๊อบยืนมองเหล่าโคโยตี้ซ้อมเต้น ทุกคนเต้นอย่างคล่องแคล่ว ยกเว้นทองดี ครูป๊อบมายืนข้างๆเธอแล้วส่ายหน้า
“ส่ายสะโพกให้แรงๆหน่อย ยืนแข็งเป็นตอม่อสะพานแขวนเชียวนะหล่อนส่ายสะโพก โยกเอวหน่อยสิยะ”
ทองดีอึดอัด พยายามเต้นอีกครั้ง แต่ไม่ได้เรื่อง ครูป๊อบเริ่มฉุน
“โอ๊ย...นี่แม่น้องนางบ้านนา ไม่ได้เรื่องเลย จับจังหวะให้ได้สิจ๊ะ แม่ทอง”
“จับยังไงคะ ฉันไม่เคยได้ยินเพลงแบบนี้เลยนี่นา ที่บ้านฉันเคยได้ยินแต่เพลงลูกทุ่ง”
“ตาย...ตาย...แม่คุณ อยู่บ้านหล่อนคงชื่อดาวเรืองใช่มะ พอ เข้าเมืองหล่อนก็เปลี่ยนชื่อเป็นทองประกายใช่มั๊ยเนี่ย โอ๊ย...เหนื่อยพอ...พอ ฉันเต้นจนมดลูกครากแล้ว วันนี้พอแค่นี้ พวกหล่อนไปซ้อมเต้นกันเอาเองแล้วกัน”
ครูป๊อบเก็บของเดินออกไปจากห้อง เหล่าโคโยตี้คนอื่นเดินคุยกันออกไป เหลือแค่ทองดีกับเมย์สองคน ทองดีหน้าเสียเมย์รีบเข้ามาปลอบใจ
“เอาน่า ครูป๊อบแกเป็นแบบนี้แหละ ตั้งใจลองจับจังหวะให้แม่นๆ พอได้แล้วค่อยใส่ลีลา ไม่ยากหรอก”
มิตรเดินเข้ามาในห้องพร้อมน้ำในมือ2ขวด ทองดีเขินอาย
“ซ้อมเต้นหรือ ทองประกาย หิวน้ำมั๊ย...น้ำครับ”
มิตรส่งน้ำให้ทองดีกับเมย์คนละขวด เมย์รับมาแล้วยกมือไหว้ ทองดีรีบรับมาอย่างตื่นเต้น
“ขอบคุณค่ะ”
“งั้น...ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณมิตร เหนียวตัวจัง ขอไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน”
เมย์แยกตัวไป ทิ้งให้คุณมิตรกับทองดียืนมองหน้ากัน ทองดีแอบยิ้มปลื้มกับขวดน้ำ วันดีเดินผ่านหน้าห้องไปแล้วเบรก รีบหันกลับมามองมิตรกับทองดีที่ยืนคุยกันอยู่
“ว๊าย...ขึ้นหน้าหนึ่งข่าวบันเทิงได้เลยนะเนี่ย รับทรัพท์แน่เรา”

เฮียบุ๋นกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้อง วันดีกำลังนั่งเล่าข่าวอย่างเมามัน
“อุ๊ย...หน้าแม่ทองงี้ บานแปดกลีบ หูตางี้แพรวพราว ส่วนคุณมิตรก็ยิ้มกริ่ม...คุยกันหนุงหนิง”
เฮียบุ๋นทำหน้าเบื่อๆ วันดีเริ่มฉุนที่เฮียบุ๋นทำไม่สนใจ
“เฮีย...ที่ฉันพูดมาเนี่ยฟังบ้างหรือเปล่า”
“เปล่า...ไม่ได้ฟัง”
“อ้าวเฮีย...ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ถ้าเฮียสนใจทองประกาย เฮียก็ต้องจัดการอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราวสิ”
“จัดการอะไร ฉันไม่เห็นว่าไอ้ที่แกพูดมามันจะเป็นเรื่องตรงไหนเลย”
“นี่เฮีย...อารมณ์ไหนเนี่ย งี้เฮียจะยกทองประกายให้คุณมิตรหรือ ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ...หรือว่าเฮียเข้าวัยทองแล้ว...เหลาเหย่...บ่มีไก๊”
“ปากเสียแล้วแก ไอ้มิตรมันเป็นน้องชายฉัน ถ้ามันอยากได้ ก็เอาไป แล้วที่สำคัญ ฉันยึดถือกฎว่า สมภารไม่กินไก่วัดโว๊ย”
“หยุดเลยเฮีย...อย่ามาทำเป็นพ่อพระเอกหน่อยเลย หน้าไม่ให้...กลัวซ๊อรู้ก็ว่ามาเหอะ...อุ๊ย...อย่างนี้ต้องชวนซ๊อมาดูแถวห้องพักนังเมย์หน่อย...”
เฮียบุ๋นสะดุ้ง
“เฮ๊ย...นี่วันดี แกหาเรื่องแล้วนะนั่น ถ้าเผลอหลุดปากไปล่ะก็ เสร็จ”
เฮียบุ๋นปาดเหงื่อ วันดีรีบไถ
“ไม่รู้ละ ทำอย่างงี้ฉันก็เสียรายได้น่ะสิ เฮ้อ...คิดว่า จะเอาข่าวไปแลกเงินจากคุณมิตรซะหน่อยเหอะ...ไม่ได้เรื่อง แก่แล้วแก่เลย จริง...จริ๊ง”
“นี่แม่คุณ...แม่ดาวไถ มาทางไหนเชิญไปทางนั้นเลย เฮอะ...ว่าอะไรไม่ว่า...ว่าฉันแก่ โกรธนะโว๊ย”
เฮียบุ๋นทำท่าหงุดหงิด วันดีขมุบขมิบปากด่าเฮียบุ๋นแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างอารมณ์เสีย

ทองดีซ้อมเต้นอยู่ในห้องซ้อมเต้นอย่างตั้งใจ แต่คร่อมจังหวะ พอหมุนตัว เธอก็ล้มลงนั่งกับพื้น ทองดีท้อแท้ มิตรเดินเข้ามายื่นมือฉุดให้ลุกขึ้น
“ขอบคุณค่ะคุณมิตร เฮ้อ...ทองคงเป็นโคโยตี้ไม่ได้แน่เลย”
“ยังไม่ได้ลอง แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะทำไม่ได้”
“เฮ้อ...พี่ป๊อบคงไม่อยากสอนทองอีกแล้วละค่ะ เฮ้อ..ทองคงสู้ใครไม่ได้หรอก จับจังหวะก็ไม่เป็น แถมเพลงอะไรเนี่ย ตั้งแต่เกิดมาเนี่ย เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก เฮ้อ...สงสัยจะไปไม่รอดแน่เลย”
“อย่าเพิ่งท้อสิ นี่มันแค่วันแรกไม่ใช่หรือ”
“วันแรกยังทำอะไรไม่ได้เลย พรุ่งนี้ยิ่งแย่ใหญ่ ทองคงไม่มีโอกาสเป็นโคโยตี้กับเค้าหรอกค่ะคุณมิตร”
“ทุกอย่างน่ะ มันยากแค่ตอนเริ่มครั้งแรกเท่านั้นแหละ มันไม่เกี่ยวกับโง่ฉลาด หรือเรียนสูงหรือเรียนน้อยหรอก รู้มั๊ยมันต่างกันตรงไหน”
ทองดีส่ายหน้า
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง บอกกี่หนแล้ว เรียนแค่ม.3”
“มันต่างกันตรงขยันกับขี้เกียจต่างหาก ถ้าเธอขยันฝึกซ้อม สักวันเธอต้องเต้นได้ดี เชื่อฉันสิ เธอทำได้ ทองประกาย”
ทองดียิ้มเขิน
“ค่ะทองเชื่อคุณมิตร ต่อไป ทองจะซ้อมเต้นวันละ 24 ชั่วโมงเลย ทองจะได้เก่งเหมือนคนอื่นเค้า”
“ไม่ใช่แค่เต้นเก่ง เต้นเป็นเท่านั้นนะ ยังมีอีกหลายอย่างที่จะทำให้เธอประสบความสำเร็จ”
ทองดีแปลกใจสงสัย
“อะไรคะ...เป็นโคโยตี้นี่ ต้องมีมากกว่าเต้นเก่งอีกหรือ ทำไมมันยากแบบนี้ แล้วทองต้องมีอะไรอีกคะ ถึงจะประสบความสำเร็จอย่างที่คุณมิตรว่า”
“ไว้อีกหน่อยฉันจะทำให้เธอ เข้าใจเองแหละ”
ทองดีสบตากับมิตรหน้าตาแช่มชื่นเชื่อมั่นในตัวเขามาก
“ค่ะ...ทองเชื่อคุณมิตรทุกอย่างเลย”
ทั้งคู่สบตากัน เธอเป็นฝ่ายหลบตาเขาอย่างเขินอาย

มิตรเดินนำหน้าทองดีเข้ามาตรงเคาเตอร์บาร์ ทองดีมองดูแก้วเหล้าที่วางเรียงรายตรงหน้าอย่างงงๆ
“ทำไมมันมีแก้วเยอะแยะแบบนี้คะ”
“นี่แหละ ที่เธอต้องเรียนรู้”
“ทำไมคะ ก็แค่แก้ว อันไหนก็ใส่เหล้ากินได้เหมือนกันนั่นแหละ”
มิตรส่ายหน้ามองเธออย่างเอ็นดู
“เหล้าทุกชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เธอต้องเรียนรู้คุณสมบัติของมัน และแก้วจะทำให้คุณสมบัติของเหล้ามันโดดเด่นขึ้น เหมือนเธอนั่นแหละ ต้องเรียนรู้ที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด แล้วเธอจะประสพความสำเร็จ”
ทองดีทึ่ง
“โอโฮ...แต่มันมีตั้งหลายแบบ ทองจะจำได้หมดมั๊ยเนี่ย”
“ได้สิ...เธอทำได้”
มิตรมองหน้าทองดีอย่างให้กำลังใจ ทองดีฮึกเหิมขึ้นมา มิตรหยิบแก้วเหล้าต่างๆชูให้ดู ทองดีตั้งใจฟังแบบงงๆ...มิตรหยิบขวดไวน์ขาว และไวน์แดง มาให้เธอดู ก่อนจะรินไวน์ใส่แก้ว ยกขึ้นดมแล้วค่อยๆดื่มช้าๆ ทองดียกขึ้นแล้วดื่มรวดเดียวหมด
“คุณมิตรขา ถ้าต้องกินหมดทุกชนิดนี่ ทองคงไม่ไหวมั้งคะ สงสัยจะเมาก่อน”
“ใครเค้าให้ดื่มพรวดอย่างนั้นล่ะ เค้าต้องค่อยๆดื่ม...คนดื่มไวน์น่ะ เค้าจะค่อยๆดมกลิ่นก่อน พอดื่มก็อบไว้แป๊บนึง ให้ลิ้นซึมซับรสชาติแล้วถึงค่อยกลืน อ้อ...เวลาจับแก้ว ให้จับที่ก้าน ความร้อนจากมือจะทำให้ไวน์เปลี่ยนรสชาติ”
“ค่ะ...เวลาริน ประมาน ¾ ของแก้ว ไวน์ขาวต้องเสริฟต์เย็นๆ”
“หัวไวดีนี่...อีกหน่อยต้องเก่งแน่เลย”
ทองดียิ้มอย่างภูมิใจ มิตรมองแล้วยิ้มให้

ทองดีซ้อมเดินโดยมีหนังสือเล่มโตวางไว้บนหัว วันดียืนถือไม้เรียวอันยาว ยืนโพส์ท่าเป็นนางแบบอยู่ด้านข้าง
“เดินตัวตรงๆ ตามองไปข้างหน้า อกผายไหล่ผึ่งเชิดไว้”
วันดียื่นไม้เรียวมาจัดท่าทางให้ ทองดีเดินยุกยิกจนหนังสือหล่น วันดีบ่นอุบ
“โอ๊ย...หล่อนนี่มือห่างตีนห่างจริง...จริ๊ง เอาใหม่ เดินเทิ่งๆ ยังกะทหารฝึกแถว ผู้หญิงน่ะต้องเดินให้สวยๆ ทิ้งสะโพก พริ้วๆ ดูเป็นธรรมชาติ ดูฉันเป็นตัวอย่าง”
วันดีเดินโพสท่าราวกับเป็นนางแบบ จบอย่างเก๋ไก๋สวยงาม ทองดีชื่นชม
“โห...เจ๊...เดินสวยเหมือนนางแบบเลย”
วันดีเชิด
“ใช่สิยะ สมัยก่อน...”
เมย์นึกได้
“ใช่ฉันรู้แล้ว ตอนเจ๊สาวๆ น่ะเจ๊เคยเป็นนางแบบมาก่อนใช่ม๊าเรื่องนี้ฉันได้ยินมาหลายรอบแล้วละ”
วันดีค้อน
“เออ...รู้แล้วก็ดี เอาหล่อน ลองเดินซิ เฮ้อ...เหนื่อย นี่ถ้าคุณมิตรไม่ขอร้องนะ จ้างให้ฉันก็ไม่สอนหล่อน นังเด็กหัวทึบ”
ทองดีได้ยินชื่อมิตร แล้วมีกำลังใจเธอตั้งใจซ้อม แล้วเดินไปเดินกลับ หนังสือหล่นไม่รู้กี่รอบ วันดีเอาไม้เรียวตีขา จนในที่สุดทองดีเดินได้เรียบร้อยสวยงามโดยหนังสือไม่หล่นจากหัว วันดีตบมือให้
“ใช้ได้...ทีนีตาหล่อนแล้ว แม่เมย์”
ทองดีหันไปมองหน้าเมย์เหรอหรา เมย์รีบจูงมือทองดีมานั่งที่โต๊ะมองหน้านิ่ง จนทองดีสงสัย
“เธอจ้องหน้าฉันทำไมหรือ มีอะไรเปื้อน”
“เปล่า...นั่งเฉยๆ ฉันจะสอนเธอแต่งหน้า”
ทองดีนั่งนิ่ง เมย์เปิดกระเป๋าเครื่องสำอาง เห็นเครื่องสำอางเรียงรายเต็มกระเป๋า ทองดีหยิบขวดโน้นขวดนี้ขึ้นมาดมอย่างอยากรู้
“นี่มันอะไรเนี่ย หลายอย่างจัง ต้องใช้ทุกอย่างเลยหรือ”
“เริ่มต้นจาก รองพื้นก่อน”
เมย์หยิบรองพื้นขึ้นมา แล้วลงมือแต่งหน้าอย่างจริงจัง...เมย์หยิบแปรงปัดแก้ม นี่นั่นโน่นขึ้นมาแต่งหน้าทองดี สักพัก เมย์หยุดยืนมองหน้าแล้วยิ้ม หมุนโต๊ะให้หันไปมองกระจก ทองดีตะลึง
“โหย...สวยจังเลย เธอเก่งจังเลยเมย์ เราแทบจะจำตัวเองไม่ได้เลยนะเนี่ย”
วันดียักไหล่
“พื้นๆ แต่ก็พอได้ ทีนี้เธอก็พร้อมแล้วนะ แม่ทองประกาย”
ทองดีงงๆ
“พร้อมสำหรับอะไรคะ”
“อ้าว...หล่อนก็พร้อมจะเป็นผู้หญิงนั่งดริ้งค์น่ะสิ แบบนี้วันนึงคงได้ หลายดริ้งค์แหละ แต่คงไม่เท่าสมัยฉันสาวๆหรอก”
ทองดีผุดลุกขึ้นยืนทันที
“แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงแบบนั้นนี่นา”
ทองดีวิ่งพรวดพราด สวนกับมิตรที่เดินเข้าพอดี พอเจอหน้ากัน ทองดีสะบัดหน้าหนี รีบวิ่งออกไป มิตรรีบวิ่งตามไปทันที วันดีหมั่นไส้
“แหม...นังนี่ ทำเป็นเล่นตัว ถ้าฉันสาวกว่านี้ซัก 20 ปีล่ะก็ รู้เรื่องเชียวแก”
“ทองประกายยังเด็กนัก เจ๊อย่าไปว่ามันเลย”
เมย์มองตามทองดีกับมิตรไปอย่างไม่สบายใจ

ทองดีเดินหนี มิตรตามมาทัน คว้ามือไว้
“อ้าวเป็นอะไรไปน่ะ ทองประกาย”
“ฉันไม่อยากเรียนแล้ว”
“ทำไมล่ะ...ไหนว่าอยากก้าวหน้าไม่ใช่หรือ”
“ใช่...แต่ไอ้ที่คุณให้ทองเรียนรู้น่ะ เพื่อจะไปเป็นผู้หญิงนั่งดริ้งค์ไม่ใช่ก้าวหน้าซักหน่อย”
มิตรหัวเราะขำ จนทองดีหงุดหงิด
“หัวเราะอะไร คุณขำทองใช่มั๊ย ทองมันโง่ ไม่รู้ทันคุณใช่มั๊ย”
“เปล่า...ใครบอกเธอ ว่าฉันจะให้เธอไปนั่งดริ้งค์ เธอไม่โง่หรอก อืมม...ไม่ว่าเธอจะไปเป็นเด็กนังดริงค์ หรือเป็นโคโยตี้ก็ตาม เธอต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคม แล้วไอ้ที่สอนไปน่ะ มันจำเป็นสำหรับการที่จะอยู่ในสังคม”
ทองดีงง
“นี่คุณหมายถึงอะไรเนี่ย...ทองงงไปหมดแล้ว”
“ฟังนะ ทองประกาย...เธอจำได้มั๊ย ที่มีปัญหากับแขกคราวนั้นน่ะ เป็นเพราะเธอไม่รู้วิธีการที่จะเอาตัวรอดจากแขกพวกนั้น แบบนิ่มนวล ถ้าเธอเรียนรู้วิธีการพวกนี้ เธอก็จะแก้ปัญหาได้สบายๆ เข้าใจหรือยัง”
“อ้าว...แล้วทำไมคุณมิตรไม่บอกทองง่ายๆ แบบนั้นล่ะคะ ปล่อยให้ทองโวยวาย ทองอายนะเนี่ย”
มิตรยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วนี่ ฉันจะพาเธอไปที่นึง เธอว่างหรือเปล่า”
ทองดีดีใจสุดระงับ
“ว่างค่ะว่าง ทองอยากไปกับคุณมิตรค่ะ”

ทองดีดีใจโดดไปเกาะแขน มิตรมองยิ้มๆ เธอนึกได้ปล่อยมือจากแขนเขาแล้วยิ้มเขิน







Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 16:27:29 น.
Counter : 371 Pageviews.

0 comment
ทองประกายแสด ตอนที่ 5



ทองดีนั่งเครียดอยู่ในรถแท็กซี่ สีหน้าคิดหนัก เธอเปิดกระเป๋านับเงินหลบๆ ไม่ให้แท็กซี่เห็นแล้วถอนใจโล่งออก

“คงพออยู่ได้”
คนขับแท็กซี่มองทองดีผ่านกระจกมองหลังอย่างพิจารณา
“ตกลงจะไปไหนน้อง”
ทองดีสะดุ้ง
“ไม่รู้...ขับไปเรื่อยๆ ก่อนได้ไหม”
ทองดีรีบปิดกระเป๋าสตางค์แล้วกำไว้แน่น คนขับแท๊กซี่เริ่มมองทองดีด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“ทะเลาะกับแฟนมาเหรอ...ถ้าไม่มี ที่พักพี่ช่วยได้นะ”
ทองดีมองหน้าคนขับยิ่งเห็นสายตาก็รู้ทันๆที ทองดีนึกถึงห้างที่เคยไปกับวีระชัย
“ฉันจะไปห้าง...”
“แหม...เสียดาย” แท็กซี่บ่นเบาๆ

รถแท็กซี่มาจอดหน้าห้างฯ ทองดีลงจากรถ แล้วแท็กซี่ก็ออกไปเธอเดินไปไม่กี่ก้าว ก็มีมอเตอร์ไซค์มาจอดข้างๆ ผู้ร้ายคนซ้อนก็กระชากกระเป๋า ทองดีตกใจร้องลั่น
“ว๊ายยย...อะไรเนี่ย”
เธอพยายามดึงกระเป๋ากลับ ผู้ร้ายลงมาแล้วผลักเธอล้มลงแล้วดึงกระเป๋ารีบขึ้นรถมอเตอร์ไซค์แล้วคนที่ทำหน้าที่ขับรีบขับออกไปเลย ทองดีร้องโวยวาย
“ช่วยด้วย โจรขโมยกระเป๋า” เธอพยายามวิ่งตามร้องเรียกไปด้วย “เอากระเป๋าฉันคืนมา ไอ้พวกเลว เอาคืนมา” เธอเหนื่อย เริ่มวิ่งไม่ไหว “เอาเงินฉันคืนมา…”
ทองดีหยุดวิ่ง เหนื่อยหอบมองมอเตอร์ไซค์ บึ่งหายไปต่อหน้าต่อตาก่อนจะทรุดนั่ง
“เงินของฉัน...ของฉัน...”

ทองดีเดินมาในห้างอย่างใจลอย แล้วหยุดยืน มองไปรอบๆอย่างไม่รู้จะไปไหนดี เธอนึกถึงตอนที่วีระชัยพามาเที่ยว และตอนที่เขาตาย ทองดีหน้ามืดยืนโงนเงน แล้วร่วงล้มลง แต่มีใครคนหนึ่งมารับหลังไว้ได้ทัน เธอหันไปมองหน้าเขา เฮียบุ๋นมองทองดีตะลึง อ้าปากค้าง ปิ๊งทันที ลืมเด็กสาววัยรุ่นที่ยืนอยู่ใกล้ๆไปเลย
เฮียบุ๋นนั่งประคองทองดีที่ยังสลบอยู่ และให้ดมยาดม ส่วนเด็กสาวก็จำใจพัดให้อย่างเซ็งๆครู่หนึ่งเธอก็ฟื้นขึ้นเห็นเฮียบุ๋นประคองตนอยู่ก็ตกใจรีบผลักออก เฮียบุ๋นยิ้มแย้มให้
“น้อง ไม่สบายเหรอครับ”
ทองดีตั้งสติ แล้วลุกขึ้น
“เวียนหัวนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วขอบคุณนะลุง”
เฮียบุ๋นสะดุ้งทันที ทองดีจะลุกไปแต่เฮียบุ๋นรีบเรียกไว้
“เดี๋ยวน้อง”
ทองดีหันมา
“น้อง...เอ่อ...ชื่ออะไรเหรอ”
“ทองประกาย”
เฮียบุ๋นยิ้มชอบใจ เริ่มคุยคล่อง
“ชื่อเพราะนะ แล้วจะไปไหนล่ะ”
เด็กสาวที่อยู่ข้างๆชักสีหน้าไม่พอใจ ขัดขึ้นมา
“เฮีย จะไปกันได้ยัง”
ทองดีมองเด็กสาวแล้วมองเฮียบุ๋น คิดว่าคงเป็นเสี่ยที่เลี้ยงเด็ก เบ้หน้า แล้วเดินไปเลย เฮียบุ๋นจะเรียกก็เรียกไม่ทัน
“เดี๋ยว...” เฮียบุ๋น หันมาหงุดหงิดใส่เด็กสาว “โธ่เอ๊ย จะไปไหน ไม่ไปแล้ว”
เฮียบุ๋นหันไปมองหาทองดี แล้วหันมามองเด็กสาวอย่างหงุดหงิดจะเอาไงดี
“กลับไปก่อนเลยไป”
เฮียบุ๋นจะไปเด็กสาวรีบคว้าแขนไว้
“เรื่องอะไร หนูยังไม่ได้โทรศัพท์เลยนะ”
เฮียบุ๋นหงุดหงิด
“ฮึ่ย...ไว้วันหลัง”
เฮียบุ๋นเดินตามทองดีไป เด็กสาวหน้าเหวอ
“อ้าวเฮีย ทิ้งกันอย่างงี้ได้ไงเฮียบุ๋น...”
เด็กสาวกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แล้วเดินไปอย่างเซ็งๆ

เฮียบุ๋นตามหาทองดีมาถึงหน้าร้านมือถือ มองๆหาก็ไม่เจอ พอหันมาก็เจอเด็กสาวยืนจ้องอยู่ เฮียบุ๋นตกใจ
“เฮ้ย...ยังไม่ไปอีกเหรอ”
เด็กสาวกอดอก มองอย่างเอาเรื่อง
“ต้องเอาข้าวสารเสกไล่หรือไงวะ”
“หนูไม่ใช่ผีนะ แต่ถ้าจะให้ไปก็...”
เด็กสาวปรายตามองไปในร้านมือถือ เฮียบุ๋นมองตาม ถอนใจ เฮียบุ๋นตัดรำคาญ
“จะเอารุ่นไหน”
เด็กสาวยิ้ม หันไปมองมือถือรุ่นแพงๆ เอียบุ๋นจำต้องซื้อให้ แล้วเดินออกมาหน้าร้าน พลางเก็บบัตรเครดิตเข้ากระเป๋า บ่นอุบ
“เอาซะแพงเลย ไม่มีว็อทแอพ ไม่มี3G นี่ไล่ไม่ไป...” เฮียบุ๊น นึกได้ แล้วมองหาทองดีต่อ “น้องทองประกาย จะกลับบ้านไปหรือยังนะ”
เฮียบุ๋นเดินออกไปตามหาทองดี

ทองดีเดินมานั่งพักที่มุมหนึ่งในห้าง ยังคิดไม่ออกกับชีวิต มองไปเรื่อยๆ เห็นคนถือถุงช็อปปิ้งกันเต็มมือ บ้างก็แต่งตัวสวย เธอมองไปอีกทางก็เห็นคนกินอาหารในร้านดีๆก็ถอนใจ ก้มมองกระเป๋า
“ไม่ได้ ฉันต้องประหยัดที่สุด”
เฮียบุ๋นเดินมาเห็นทองดีนั่งมองกระเป๋าอยู่ก็ยิ้มดีใจ
“อ๊ะอ๊า เจอแล้ว แม่กวางน้อย” เฮียบุ๋นจะเข้าไป แต่ก็ชะงัก “รอผัวอยู่หรือเปล่าวะ”
เฮียบุ๋นถอยไปหลบมุม แอบมองมาเห็นทองดีลุกขึ้น เดินไป เฮียบุ๋นรีบตาม ทองดีเดินดูของตามหน้าร้านต่างๆ เช่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ กิ๊ฟช็อป อยากได้แต่ก็ต้องตัดใจ เฮียบุ๋นคอยแอบเดินตามมามอง
“เฮ้อ...จะซื้อของกินของใช้ หรือจะหาที่อยู่ก่อนดีวะ”
ทองดีหันมาเจอมาสค็อตเพนกวินนอนคว่ำทำแพลงกิ้งอยู่บนพื้น เธอเกือบเหยียบตกใจร้องลั่น
“ว้าย”
เพนกวินลุกขึ้น แล้วยื่นใบปลิวให้
“ร้านไอศกรีมฉลองเปิดร้านใหม่ ให้คู่รักกินฟรีครับ”
ทองดีอึ้ง ยิ้มเจื่อน
“ฉันไม่มีคู่รักหรอก”
ทองดีเดินไป เพนกวิน ถอดหัวออกมาเป็นเฮียบุ๋น
“ยังไม่มีแฟนเว้ย”
เฮียบุ๋นยิ้มดีใจ

ทองดีเดินลูบท้องมาที่หน้าฟู้ดเซ็นเตอร์ หยุดมองเข้าไปดูร้านอาหารที่เรียงราย เห็นราคาอาหารที่ร้านหนึ่งติดอยู่บนป้าย ราคา 45 - 55 - 60 เธอมองร้านอื่นราคาก็ไม่ต่างกัน
“แพงพอๆกับกินที่โรงแรมเลย เก็บท้องไปรวบยอดกินข้างทางตอนเย็นก็ได้วะ”
เฮียบุ๋นแอบดูอยู่
“มาคนเดียวแน่ๆ เอาวะ ถ้าเสือไม่งาบตอนนี้ ก็ไม่ได้แล้ว งานนี้ต้องเล่นบทพระเอก” เฮียบุ่นพยายามนึก “เอาไงดีวะ”
ทองดีเดินไปถึงร้านหนังสือ เฮียบุ๋นมองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“ในทีวีพระเอกนางเอกมันต้องชนกันนี่หว่า”
เฮียบุ๋นยิ้มร้ายแล้วรีบเดินอ้อมไปอีกด้านของร้านหนังสือเพื่อให้ไปเจอกับเธอ ทองดีเดินมองหนังสือไปเรื่อยๆ จนมาถึงมุมร้านก็ชนกับเฮียบุ๋นล้มลงไปนั่งกับพื้น
“โอ๊ย...”
“อ้าว...น้องทองประกาย”
“คุณ...”
เฮียบุ๋นยื่นมือให้ทองดี
“มา ลุกขึ้นไหวไหม”
ทองดีมองเฮียบุ๋นอย่างชั่งใจ แล้วส่งมือให้ เฮียบุ๋นยิ้ม แล้วดึงขึ้นมาปะทะตัวเอง ทองดีตกใจ รีบถอนตัวออก แต่เฮียบุ๋นไม่ยอมปล่อยมือ
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“เจ็บสิ ชนซะแรงเลย”
เฮียบุ๋นยิ้มหวาน
“ขอโทษนะ ไหนขอดูแผลได้ไหม”
เฮียบุ๋นจะก้มดูขา ทองดีตกใจรีบหลบแต่เฮียบุ๋นยังจับมืออยู่ เธอพยายามดึงมือออกแต่เฮียบุ๋นไม่ปล่อย
“นี่...ปล่อยได้แล้ว”
“ปล่อยก็หลุดน่ะสิ”
“ได้...งั้นจับแน่นๆนะ”
ทองดีไม่ชอบใจ กระทืบที่เท้าเฮียบุ๋นเต็มแรง
“โอ๊ย...”
ทองดียิ้มเหยียด แล้วเดินหนีไป ทิ้งเฮียบุ๋นร้องโอดโอยอยู่ตรงนั้น ทองดีเดินฉับๆนำหน้าเฮียบุ๋น
“จะรีบไปไหนล่ะ”
ทองดีหยุด แล้วหันมาด่า
“ก็รีบไปให้พ้นแกน่ะสิ ไอ้หัวงู หนอย จะมา ขอดูขาฉัน”
“โธ่ อย่าว่าพี่อย่างนั้นสิ พี่เป็นห่วง กลัวน้องเจ็บ ก็อยากดูแล ไม่รู้จะเป็นแผลฟกช้ำดำเขียวหรือเปล่า”
“กลับไปดูแลลูกเถอะ เห็นมาด้วยกัน แล้วไปไหนแล้วล่ะ”
เฮียบุ๋นสะดุ้ง
“แหม ลูกเลิกที่ไหน พี่ยังไม่แก่พอจะมีลูกซะหน่อย”
ทองดีเบะปาก เฮียบุ๋นมองทองดีตาหวาน ทองดีทำหน้ายี้ แล้วเดินไป
“อ้าว ไปไหนล่ะ”
เฮียบุ๋นเดินตามไป

ทองดีเดินออกมาหน้าห้าง แล้วชะงัก ยืนนิ่ง ไม่รู้จะไปไหน
“แล้วฉันจะไปที่ไหนล่ะเนี่ย”
เฮียบุ๋นตามมา
“อ้าว บังเอิญเจอกันอีกแล้ว”
ทองดีเซ็งมาก
“บังเอิญไปไหมเนี่ย...ไอ้หัวงู ถ้าไม่เลิกตาม ฉันจะฟ้อง...” ทองดีนึกถึงตำรวจแล้วพูดไม่ออก
“จะฟ้องตำรวจเหรอ โถ...ใจร้ายจัง พี่แค่จะพาไปหาหมอ ซื้อยาให้” เฮียบุ๋นตีหน้าเศร้า “ทำคุณบูชาโทษซะแล้ว”
“เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่เป็นไรๆ ไม่ได้จะตายซะหน่อย ไม่ต้องมาทำเป็นรับผิดชอบ”
ทองดีจะเดินหนีไป เฮียบุ๋นรีบถาม
“จะกลับบ้านแล้วเหรอ”
ทองดีชะงัก
“ใช่...”
“แล้วบ้านอยู่ไหนล่ะ ให้พี่ไปส่งนะ”
“อยู่ที่...” ทองดีไม่รู้จะตอบยังไง จึงตัดบท “เออน่า ไม่ต้องมายุ่งหรอก”
ทองดีจะไปอีก เฮียบุ๋นรีบมาดักหน้าไว้
“เอางี้ๆ พี่จะชดใช้ค่าเสียหายให้”
ทองดีชะงักทันที

เฮียบุ๋นกับทองดีนั่งอยู่ในร้านหรู เธอมองไปทั่วร้านอย่างตื่นเต้น เด็กเสิร์ฟนำอาหารมาเสริ์ฟ ทองดีมองอาหารอย่างชอบใจก่อนจะถามขึ้น
“ฉันกินเลยนะ”
“เดี๋ยวก่อน ต้องมีออเดิร์ฟก่อน”
ทองดีงง
“อะเดิ๊บอะไร”
เฮียบุ๋นยิ้ม แล้วส่งเงินค่าเสียหายให้ทองดีห้าพัน แล้วออดอ้อน
“เฮียรู้สึกผิดที่ทำทองประกายเจ็บ นี่เป็นค่าทำขวัญ”
ทองดีหน้าตื่น
“เจ็บแค่นี้ ให้ตั้งห้าพันเลยเหรอ”
เฮียบุ๋นพยักหน้า
“รับไว้เถอะนะ เฮียขอร้อง”
ทองดียิ้มดีใจรับเงินมา เฮียบุ๋นรีบกุมมือ ทองดีมองหน้าอย่างไม่พอใจ แต่อดใจไม่ด่า แล้วดึงมือออก เฮียบุ๋นยิ้มๆ
“เอ้า กินเลยๆ”
ทองดีและเฮียบุ๋นทานอาหารจนเสร็จ จากนั้นเฮียบุ๋นเรียกพนักงานมาเก็บเงิน พนักงานเสริ์ฟเดินเอาบิลมาให้
“ทั้งหมดสองพันบาทค่ะ”
ทองดีได้ยินก็อึ้งไป เฮียบุ๋นลอบมองทองดีที่อึ้ง ก็ยิ้ม หยิบเงินออกมาวางในถาด2500
“ทิป 500 นะจ๊ะ”
เด็กเสิร์ฟ และทองดีตาลุกพอกัน
“ขอบคุณค่ะ”
เด็กเสิร์ฟถือถาดเงินออกไปอย่างดีใจ เฮียบุ๋นเก็บกระเป๋าเงิน ยิ้มๆ ชอบใจได้โชว์พาวให้ทองดีเห็น
“นี่...ค่าอาหาร 2000 ทำไมให้ตั้ง 2500”
เฮียบุ๋นยิ้ม
“ทิปไง”
ทองดีงงๆ
“ทิป...อะไรเหรอ”
เฮียบุ๋นมองอย่างสงสัย
“ไม่รู้จักจริงๆเหรอ”
ทองดีพยักหน้ารับ
“ก็น้องเขามาคอยดูแลบริการเราดี น้ำหมดก็มาเติม มายกอาหารให้เราก็ต้องให้น้ำใจกับเขาสิ”
ทองดีอึ้งไป
“โห...แค่ยกอาหารได้ทิปด้วย ทำไมที่บ้านฉันไม่เห็นมีใครให้เลย”
เฮียบุ๋นแปลกใจ
“ทองประกายว่าอะไรนะ”
ทองดียิ้มฝืนๆ
“เอ่อ...เปล่าหรอก”
เฮียบุ๋นยิ้มหวานเยิ้ม
“อยากไปไหนต่อหรือเปล่าจ๊ะ”
ทองดียิ้มเจื่อน ยังไม่รู้จะไปไหน

ทองดียืนเหม่อดูทีวีที่เปิดคอนเสิร์ตแด๊นซ์กระจายของศิลปินสาวคนหนึ่ง หน้าร้านขายดีวีดี เฮียบุ๋นมองๆ
“เอ่อ...ดูนานอย่างนี้ ซื้อแผ่นกลับไปดูบ้านเลยดีกว่าไหมจ๊ะ”
ทองดีละสายตาจากทีวี
“ฉันไม่มีบ้าน”
เฮียบุ๋นตกใจ
“อ้าว...แล้วน้องทองประกายมาจากไหน อยู่ที่ไหน แล้วจะไปไหน”
ทองดีโกหกทันที
“ฉัน...จะมาหางานทำที่กรุงเทพฯ แต่โดนขโมยกระเป๋าที่ท่ารถ ตอนนี้ยังไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตเลย”
“แล้วจะมาทำงานอะไรล่ะ”
ทองดีมองไปที่ทีวี
“ฉันอยากเป็นดารา...” ทองดียิ้ม ฝันไปครู่หนึ่ง แล้วหันมาถามเฮียบุ๋น “ลุง เอ้ย...เฮียช่วยได้ไหมล่ะ”
“เฮียคงช่วยไม่ได้หรอก งานเฮียมันคนละศาสตร์กับพวกดาราเขา”
ทองดีเศร้า เฮียบุ๋นยิ้ม เข้าทาง
“แต่ถ้าไปทำงานกับเฮีย มันก็อาจจะพอมีทาง เพราะคนในวงการเขาจะมาที่ร้านเฮียกันเยอะ”
“ร้านเฮียทำอะไร”
ทองดีสนใจทันที

ทองดียืนรออยู่ที่ประตูด้านข้างทางออกลานจอดรถ แล้วรถสปอร์ตสุดหรูก็แล่นปราดมาจอดเอี๊ยดตรงหน้า เฮียบุ๋นใส่แว่นดำเท่มากลงมาจากรถแล้วเปิดประตูให้
“เชิญครับ”
ทองดีมองๆรถ อย่างงงๆ ไม่ได้ตื่นเต้นแล้วขึ้นรถไป พอปิดประตู เฮียบุ๋นยิ้มให้
“เจอรถสุดเท่ห์ถึงกับอึ้งละสิ...อิอิอิ”
เฮียบุ๋นยืนหัวเราะขำสะใจ ทองดีเคาะกระจกตะโกนออกมา
“จะไปกันยัง”
เฮียบุ๋นหน้าเจื่อนรีบวิ่งขึ้นรถขับออกไป

รถเฮียบุ่นและมาติดไฟแดง ทองดีมองสำรวจ แต่ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เฮียบุ๋นลอบมอง ยิ้มๆ
“เป็นไงจ๊ะน้องทองประกาย รถเฮียแล่นฉิวเหมือนนั่งเครื่องบินไหม”
“ฉันไม่เคยนั่งเครื่องบิน ว่าแต่นี่เฮียรวยแน่เหรอ”
“นี่...เฮียไม่ใช่แค่รวยนะ ต้องบอกว่า รวยมาก”
“รวยมาก แล้วทำไมขับรถเล็กจัง คนรวยต้องขับรถคันใหญ่สิ นี่อะไรรถตุ๊กๆยังนั่งสบายกว่าอีก”
เฮียบุ๋นสะดุ้ง
“อะจ๊าก...นี่เอารถเฮียไปเปรียบกับตุ๊กๆเลยเหรอ”
“จริงไหมล่ะ รถตุ๊กฉันนั่งนะยังเหยียดขาได้เลย”
“โอ้โห...แบบนี้ต้องเจอไม้ตายซะแล้ว จะได้รู้ว่าเฮียบุ๋น รวยจริงรวยจัง รวยซีเรียส”
เฮียบุ๋นเปิดประทุนโชว์ซะเลย ทองดีมองอย่างตะลึง
“เฮ้ย...เปิดหลังคาได้ด้วย”
“นี่น่ะรถสปอร์ตเปิดประทุนจ้ะ ไม่รวยจริง ไม่มีทางได้ขับหรอกนะ”
ทองดีมองทึ่งๆ เฮียบุ๋นยิ้มพอใจ แล้วเปิดเครื่องเสียงโชว์ เพลงวัยรุ่นดังขึ้น ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว เฮียบุ๋นเปลี่ยนเกียร์ พร้อมทั้งร้องเพลงที่เปิดตามอย่างดี๊ด๊าก่อนจะออกตัวรถแล่นฉิวตรงไป
เฮียบุ๋นพาทองดีมาที่คลับ เธอเดินตามเขาเข้ามาในนล็อบบี้ แล้วก็ถึงกับอึ้งไปกับคลับที่สวยงามโอ่โถง
“เป็นไง”
ทองดีตื่นเต้น
“สวยจัง...มันเป็นที่แบบไหนเหรอ”
“ไนท์คลับ ที่นี่น่ะใหญ่ติดอันดับต้นๆของประเทศเลยนะ คนในวงการก็มาเที่ยวกันเยอะ ถ้าทำงานกับเฮีย วันนึงอาจจะได้เป็นดาราก็ได้”
“จริงเหรอ แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ” ทองดีถามอย่างกระตือรือล้น

ทองดีนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้อง เฮียบุ๋นสัมภาษณ์
“จบอะไรมาล่ะ”
ทองดีอ้อมแอ้ม
“จบ...ปริญญาตรี”
เฮียบุ๋นทำหน้าแบบไม่ค่อยเชื่อ
“ดี...งั้นเป็นพีอาร์ก็แล้วกัน”
ทองดีอึกอัก
“คือ...อะไร”
“อ้าว...ก็ Public relations staff ไง”
ทองดีอึ้งไปนิด
“ฉัน...ไม่รู้ภาษาอังกฤษหรอก”
เฮียบุ๋นงง
“เฮ้ย...จบตรีไม่รู้ภาษาอังกฤษ จบสาขาไหนมาเนี่ย”
ทองดีหน้าเสีย จำต้องบอกความจริง
“จริงๆแล้ว...ม.3 ก็ยังซ่อมไม่ผ่านเลย ฉันเลยเลิกเรียนเพราะหัวไม่ดี แม่กับเตี่ยเลยมาให้ช่วยงานที่ร้าน”
“ว่าแล้วไหมล่ะ เอ้า...แล้วจะทำอะไรได้ล่ะทีนี้” เฮียบุ๋นคิดนิดนึง “เต้นเป็นไหม จะให้เป็นโคโยตี้”
ทองดียิ้มแหย
“ไม่รู้จักอ่ะ”
“ก็เต้นประกอบเพลงบนเวทีไง”
“หางเครื่องน่ะเหรอ” ทองดีตื่นเต้นขึ้นมา “ฉันเคยดูในทีวี แล้วก็ที่งานวัดให้ฉันเต้นให้ดูไหมล่ะ”
“เอ้า งั้นลองเต้นให้ดูซิ”
ทองดีทั้งร้องทั้งเต้นมั่วๆงงๆให้ดู เฮียบุ๋น เห็นก็อึ้งส่ายหน้า
“เอาล่ะๆ พอเถอะ”
“ฉันเป็นไอ้ตี้ๆนั่นได้แล้วใช่ไหมเฮีย”
“อย่าให้ตอบเลย” เฮียบุ๋นกดอินเตอร์คอม “ตามวันดีให้หน่อย” เฮียบุ๋ยหันมาหาทองดี “เดี๋ยวให้วันดีเขาเทรนให้ เขาเคยเป็นดาวดังของที่นี่ แต่ตอนนี้เป็นกัปตันคุมเด็กๆแล้ว”
“เป็นดาวเลยเหรอ อย่างนี้ก็ต้องสวยมากสิ เพราะพวกดาววงดนตรีลูกทุ่งเขาสวยๆทุกคน”
ครู่หนึ่ง เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
วันดีเปิดประตูเข้ามา เสื้อผ้าหน้าผมยังไม่ได้แต่ง ผมเพิ่งจะม้วนโรล ดูเหมือนแม่บ้านมากกว่า ทองดี และเฮียบุ๋นอึ้งไปทั้งคู่

วันดีเดินนำหน้า เชิดๆ คุยโดยไม่หันมอง ทองดีมองวันดีหัวจรดเท้า คิดว่านี่หรือดาว
“ทำยังไงเฮียเขาถึงพามาได้ล่ะ ใช้เต้าไต่มาล่ะสิ”
“อะไร ใช้เต้าไต่ แปลว่าอะไร”
วันดีชะงัก หันขวับ ตาโตใส่
“นี่หล่อน อย่ามาทำเป็นแอ๊บแบ๊วแถวนี้หน่อยเลย หมั่นไส้ ฉันไม่เชื่อหรอก”
“แล้วป้าอ่ะ ไหนเฮียบอกเคยเป็นดาวเด่น ไม่มีเค้าเลยสักนิด”
“อ๊าย นังเด็กปากเสีย แถมยังตาถั่ว หล่อนนี่มันไม่รู้อะไร เมื่อก่อนฉันน่ะตัวทำเงินของที่นี่เลยนะ แขกไทยเรียกวันดี ต่างชาติ call me Wandy!”
วันดีนึกถึงอดีต ตอนนั้นเธอสวยเฉิดอยู่บนเวที ในชุดกระโปรงฟูฟ่อง เต้นสามช่าอย่างสุดเหวี่ยงผู้ชายต่างตบมือเชียร์กันใหญ่ แถมยังยัดเงินตามตัวให้ไม่ขาดสาย วันดีเต้นอย่างมีความสุข...
วันดีเต้นอย่างเมามันจนจบท่าสุดท้ายแล้วโพสท์ ทองดีมองอึ้ง
“เป็นไง อึ้งไปเลยล่ะสิ เชื่อหรือยังล่ะ ว่าฉันน่ะดาวค้างฟ้า...”
ทองดียิ้มขำ
“เชื่อก็ได้ แต่สงสัยจะลอยอยู่ดวงเดียว”
วันดีเริ่มเศร้านิดๆ
“ฉันน่ะเป็นมาทุกอย่างแล้ว ทั้งพีอาร์ โคโยตี้ แล้วก็เด็กนั่งดริ๊งค์ แต่ทุกวันนี้ ก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะ ต้องเปลี่ยนมาเป็นกัปตัน คอยดูแลพนักงานที่นี่ทั้งหมด” วันดีเปลี่ยนอารมณ์ จิกตามอง ทองดี “อีกหน่อยพอหล่อนแก่ หล่อนก็จะรู้เอง”
วันดีเดินเชิดนำหน้าไปต่อ ทองดีมองวันดี สงสารนิดๆ แล้วเดินตามไป

พี่ป๊อปครูฝึกสอนโคโยตี้ กำลังฝึกเหล่าโคโยตี้ เต้นกันอยู่ พี่ป๊อปนับจังหวะ
“เอ้า ห้า หก เจ็ด แปด”
วันดีเข้ามาพร้อมเสียง
“ครูป๊อป...”
พี่ป๊อปเต้นหมุนมาเจอหน้าวันดีเต็มๆ ก็ตกใจ
“ว้าย...แร้งทึ้ง...โธ่เจ๊วันดี จะมาดีๆก็ไม่ได้”
วันดีค้อน
“ก็มันยังไม่ถึงเวลางาน ฉันก็ยังไม่ต้องแปลงกายนี่ยะ” วันดีแตะแขนทองดี “เอ้านี่ ทองดี เฮียบุ๋นเขาฝากมาให้หัดโคโยตี้ แล้วนี่ก็เมย์ ดาวเต้นของที่นี่ ดูไว้ เผื่อวันหน้าอาจจะได้ตามรอยพวกฉัน”
วันดีเต้นให้ดูอีก พี่ป๊อปเอือม
“เจ๊ สมัยนี้เขาต้องเทคโนแด๊นซ์แล้ว สามช่าขนาดนี้ ไม่รำวงมาตรฐานไปเลยล่ะ”
วันดีค้อน พี่ป๊อปหันมองเดินวนรอบตัว ทองดีเขินๆ ทันใดนั้นพี่ป๊อปร้องขึ้นดังลั่น
“หน่วยก้านดี แต่จะให้ดูพี่ๆเขาไปก่อนก็แล้วกัน” พีป๊อบตบมือเรียก “เด็กๆ โชว์สเต็ป”
พี่ป๊อป และเหล่าโคโยตี้เต้น ทองดีมองอย่างสนใจ ขยับทำท่าตาม จนโคโยตี้เต้นจบพี่ป๊อปหันมาหาทองดี
“เต้นได้ไหม”
“ดูแล้วก็ง่ายๆ สบายมาก”
“ดีมาก งั้นเริ่มเลย”
พี่ป๊อปไปเปิดเพลง ทองดีเริ่มเต้น ดีได้ไม่กี่ท่าก็ล่ม พี่ป๊อปและวันดีต้องกุมขมับ พี่ป๊อปเดินไปปิดเพลง
“นี่ น้องทองประกายของพี่ ไหนบอกสบายมากไง เอาใหม่ๆ”
พี่ป๊อปเปิดเพลง ทองดีเริ่มเต้นใหม่ แต่ไม่นานก็ล่มเหมือนเดิม พี่ป๊อป และวันดีที่วิญญาณโคโยตี้เก่าเข้าสิงก็ลุกขึ้นไปเต้นประกบ ตบมือนับจังหวะให้จนเหนื่อย
เวลาผ่านไป วันดีกับพี่ป๊อบนั่งพิงกันด้วยความเหนื่อย โคโยตี้คนอื่นพากันหัวเราะเยาะ ยกเว้นเมย์ที่มองทองดีอย่างเห็นใจ ทองดีใจเสีย พี่ป๊อปถอนใจ
“จะรอดไหมเนี่ย แค่นับจังหวะยังผิดเลย คร่อมตลอด นับให้ก็คร่อม นับเองก็คร่อม ชอบคร่อมเหรอจ๊ะ เฮ้อ...”
โคโยตี้หัวเราะ ทองดีทั้งเสียใจทั้งโกรธ โพล่งออกมาจนทุกคนตกใจ
“ทำไม เต้นไม่เป็นแล้วมันน่าขำนักเหรอ ถ้าเป็นแล้วจะต้องมาเรียนไหมล่ะ ไม่ได้เกิดมาเป็นเทวดานะโว้ย”
ทองดีเดินกระแทกออกไป เมย์มองตามไป

ทองดียืนเซ็งอยู่ด้านนอกห้อง เมย์เดินตามออกมา ทองดีรู้ตัวหันกลับไปมองหน้างอไม่พอใจ
“จะตามมาหัวเราะเยาะฉันอีกใช่ไหม!”
เมย์ยิ้ม
“ไม่ใช่ พี่แค่อยากบอกให้เธอใจเย็นๆ แรกๆพวกเราก็เต้นไม่เป็นกันหรอก”
ทองดีแปลกใจ
“จริงเหรอ”
“จริง...เธอน่ะยังดูมีพรสวรรค์นะ ของพี่สิ มาวันแรกจะขยับขายังอายเลย รู้ไหมพี่เต้นยังไง ท่าเต้นสุดเหวี่ยงของพี่ก็แค่นี้เอง”
เมย์ยืนแล้วขยับขาเล็กน้อยแต่ฮัมเพลงที่มันสุดๆ ทองดีเริ่มขำแล้วสองสาวก็หัวเราะกัน วันดีเดินออกมายืนมองสองสาวแล้วค้อนหมั่นไส้
“นี่...มัวแต่หัวเราะกัน แล้วจะให้ทองประกายมันเริ่มเหมือนแกเหรอวะเมย์”
“ตอนนี้ยังเต้นไม่ได้ก็ต้องเริ่มงานอื่น” เมย์แนะ
ทองดีสงสัย
“ฉันควรทำงานอะไรอ่ะ”
“งานที่ได้เงินเยอะของที่นี่ ก็มีอยู่สามอย่างคือ พีอาร์ โคโยตี้ แล้วก็นั่งดริ๊งค์กับแขก ซึ่งหล่อนหมดสิทธิ์ไปสองอย่างแล้ว เหลือแต่นั่งดริ๊งค์” วันดีบอก
ทองดีงงๆ
“นั่งดริ๊งค์เป็นยังไง”
วันดี และเมย์มองหน้ากัน อึ้งในความไม่รู้ของทองดี
"เด็กนั่งดริ๊งค์ก็คือต้องไปกับแขกไงจ๊ะ เมื่อก่อนฉันนะ ได้วันละ หลายดริ๊งค์เลยล่ะ ยัยเมย์ยังเทียบฉันตอนนั้นไม่ได้เลยนะจะบอกให้” วันดีบอก
ทองดีหน้าตื่น
“นั่นมันขายตัวชัดๆ ไม่เอาหรอก ฉันไม่ทำ”
“อุ๊ย หมั่นไส้ ถ้าหล่อนเลือกงานได้ แล้วหล่อนมาที่นี่ทำไม โธ่ มันก็ไม่มีจะกินเหมือนกันนั่นล่ะ”
ทองดีสับสน
“แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ขายตัว ไม่เด็ดขาด ฉันจะไปขอ เฮียบุ๋นทำอย่างอื่น”

ทองดีเดินออกไป วันดีกับเมย์ถอนใจ ส่ายหน้า
ทองดีนั่งอยู่ตรงหน้าเฮียบุ๋น ในใจมีความหวังว่าจะได้ตำแหน่งดีๆ

“เต้นไม่ได้ นั่งดริ๊งค์ไม่เอา”
“ฉันไม่ขายตัว”
เฮียบุ๋นถอนใจ
“งั้นให้เริ่มจากเด็กเสิร์ฟก็แล้วกัน”
ทองดีหน้าหุบทันที วันดีหัวเราะสะใจ
“ไงล่ะ สวยเลือกได้ ถูกใจไหมล่ะตำแหน่งนี้” วันดีหันไปบอกกับเฮียบุ๋น “วันดีเห็นด้วยกับเฮียนะคะ เด็กอาไร้ เรื่องมากสุดๆ ไอ้โน่นก็ไม่ทำ ไอ้นี่ก็ไม่ได้...ดัดจริต”
“ดัดจริต...แล้วเป็นเด็กเสิร์ฟ ก็ดีกว่าเป็นกะหรี่ละวะ” ทองดีย้อน
วันดีโกรธ
“ต๊าย...อีนี่ ปากแบบนี้เดี๋ยวเจ๊ตบหรอก”
วันดีจ้องหน้าโกรธจัด สองคนทำท่าจะทะเลาะกัน เฮียบุ๋นต้องห้ามทัพ
“เอาละๆๆ ไม่ต้องทะเลาะกัน” เฮียบุ๋นเดินไปหาทองดี “เดี๋ยวเฮีย จะพาไปดูห้องพัก”
วันดีตาลุก มองเฮียบุ๋นที มองทองดีที อย่างสอดรู้สอดเห็น
“ห้องพัก ที่ไหนเหรอเฮีย”
“ก็ที่ร้านนี่ไง เฮียให้คนจัดที่พักให้ทองประกายไว้แล้ว”
วันดีตะลึง
“ห๊า...ถึงกับได้ห้องพักเลยเหรอ”
เฮียบุ๋นหันมาหาทองดี
“ไป...ไปดูห้องกันนะ แล้วเดี๋ยวจะพาไปซื้อ เสื้อผ้า ของใช้ที่ทองประกายอยากได้ ดีไหม”
ทองดีดีใจ
“จริงเหรอ...เฮียจะซื้อให้ทุกอย่างเหรอ งั้นพาฉันไปกินแพงๆแบบเมื่อกลางวันอีกนะ”
ทองดียิ้มเชิดหน้าใส่ วันดีรู้ว่าเฮียบุ๋นคงชอบเด็กคนนี้รีบเปลี่ยนสี อยู่ข้างทองดีทันที
“แหม...น้องทองประกาย จะไปดูห้องพักเหรอ งั้นเดี๋ยวพี่แวนดี้ไปด้วยนะ เราจะได้คุ้นเคยกัน อีกหน่อยต้องทำงานด้วยกัน” วันดีหันไปพูดกับเฮียบุ๋น “เฮียขา ไม่ต้องห่วงนะ แวนดี้จะช่วยโมดิฟายน้องทองประกายด้วย รับรอง สวยออร่าพุ่งกระเด็นออกมานอกหน้าแน่”
เฮียบุ๋นยิ้มชอบใจ แต่ทองดีงงกับวันดีมาก...เฮียบุ๋นพาทองดีออกไป วันดีลอยหน้าลอยตาตามออกไป

ในห้องที่ไม่หรูมาก ทองดีกำลังดูตู้เตียงในห้องอย่างชอบใจ แล้วมานั่งที่เตียง ลองกดๆเด้งๆดู เฮียบุ๋นมานั่งข้างๆ
“ชอบไหม”
“ชอบ เกิดมาฉันไม่เคยได้อยู่ห้องดีๆแบบนี้เลย ขอบคุณนะเฮีย”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
เฮียบุ๋มจะโอบมาหอมแก้ม
“อุ๊ย...ยังไม่ได้ดูส้วมเลย”
ทองดีลุกพรวดขึ้น ทำให้เฮียบุ๋นหน้าทิ่มลงไปเล็กน้อย เฮียบุ๋นเซ็ง
“ดูส้วมเหรอ มันดีกว่าหน้าเราตรงไหนวะ”
เสียงทองดีพูดมาจากห้องน้ำอย่างดีใจ
“อุ๊ย นี่เขาเรียกว่าชักโครกใช่ไหม...โห เจ๋งไปเลย”
เฮียบุ๋นส่ายหน้า
“เห็นส้วมดีกว่าเราเหรอเนี่ย”
วันดีเปิดประตูเข้ามา
“จ๊ะเอ๋ ทองประกาย”
เฮียบุ๋นหันมาทำหน้ายักษ์
“มาทำไมตอนนี้ ไปไป”
วันดีหน้าเหวอ แต่ทองดีออกมาจากห้องน้ำพอดี ยิ้มร่าเข้าไปดึงมือวันดีเข้ามา
“เข้ามาเลยพี่” ทองดีหันไปบอกเฮียบุ๋น “เฮียกลับไปก่อนนะ”
เฮียบุ๋นอิดออด ทองดีดันหลังให้ออกไป
“นะ...นะ ขอฉันคุยกับพี่วันดีก่อน”
เฮียบุ๋นจะไม่ยอมไป แต่ทองดีผลักออกไปจนได้ แล้วปิดประตู วันดีปราดเข้ามาใกล้ยิ้มๆ
“ขอบคุณกันเสร็จแล้วเหรอ”
ทองดีพยักหน้า
“ฮื่อ”
“ว่าแล้ว ว่าต้องไม่ธรรมดา ไม่งั้นเฮียไม่ประเคนของให้ขนาดนี้หรอกแล้วได้ตำแหน่งไหนล่ะ เมียรองอันดับ 1 อันดับ 2 หรือขวัญใจ เฮียบุ๋น”
ทองดีตกใจ
“เฮ้ย ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเฮีย ไม่มีทางเป็นด้วย”
วันดีถอนใจ
“ค่อยโล่งอกหน่อย ความจริงเฮียบุ๋นแกก็ไม่ค่อยกินไก่วัดหรอกเมียแกดุ ถ้าไม่ถูกใจแกจริงๆ แกจะไม่ยุ่งเด็ดขาด”
“ฉันก็ไม่ชอบเฮียบุ๋นหรอก ไม่ใช่สเป็ค”
“ให้มันจริงเถอะ เดี๋ยววันหลังได้เยอะกว่านี้ จะเปลี่ยนใจ อุ๊ย...ตายแล้ว ไปดีกว่า ต้องไปกระจายข่าวต่อ”
วันดีออกไป เมย์เดินสวนเข้ามามองวันดี ยิ้มขำ แล้วเข้าไปคุยกับทองดี
“นักข่าวสายตรงของที่นี่ล่ะ”
ทองดีขำ
“ความจริงพี่วันดีแกก็ดีนะ”
“อีพี่วันเคยดีก็แบบนี้แหละ พอเฮียชอบใคร ก็เปลี่ยนสีมาเข้าพวกด้วย เผื่อเฮียจะให้สิทธิพิเศษยกห้องใหญ่ๆให้มั่ง”
“เมื่อกี๊เดินผ่านห้องพี่เมย์ด้วยล่ะ สวย แล้วก็กว้างกว่าทุกห้องเลย ทำไมพี่ถึงได้ ไม่เหมือนคนอื่นล่ะ”
เมย์อ้ำอึ้ง ไม่ยอมบอก ทองดีตัดบท
“ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ชอบรู้เรื่องคนอื่นหรอก” ทองดีหันไปเปิดทีวีหัวเตียงแล้วดีใจ “โห...นี่ไงพี่ ฉันฝันมาทั้งชีวิต อยากมีทีวีของตัวเอง”
เมย์ยิ้มเอ็นดูมองทองดีที่ดูสดใส มีความสุข

คืนแรกของการทำงาน ทองดีใส่ชุดเด็กเสิร์ฟ ยืนมองแสงสีเสียงในคลับอย่างตื่นตาตื่นใจแต่มีทิชชู่อุดหู วันดีเดินมาเห็นก็เรียก
“อยู่นี่เอง...ทองประกาย ทำอะไรอยู่ ไปเสิร์ฟของเร็วเข้า”
ทองดียังมองสถานที่เพลิน ไม่ได้ยินวันดีที่เรียกอีก วันดีเดินเข้ามาเขย่าแขน ทองดีสะดุ้งเอาทิชชู่ออก
“อุ้ย...มีอะไรเหรอพี่วันดี”
“จะอุดหูทำไมเนี่ย เดี๋ยวอีกหน่อยก็ชิน”
“ก็วันนี้มันยังไม่ชินนี่”
“เถียงอีก พี่จะให้เธอทำงานง่ายๆไปก่อน อย่างเตรียมน้ำแข็ง ช่วยเด็กเสิร์ฟเหล้า เสิร์ฟอาหาร แล้วเดี๋ยวพี่จะสอนชงเหล้าให้”
ทองดีหน้าเซ็ง ไม่อยากเป็นเด็กเสิร์ฟ แต่ก็เดินตามวันดีไป ระหว่างทางเดินผ่านแขกโต๊ะหนึ่งมีเด็กนั่งดริ๊งค์แต่งตัวสวยป้อนเหล้าให้ ทองดีหยุดมองแล้วก้มดูตัวเอง ถอนใจ รู้สึกว่าตัวเองช่างต่ำต้อย ก่อนจะจำใจเดินตามวันดีต่อไป

ทองดียืนอยู่หน้าบาร์เหล้า วันดีเอาโซดา น้ำแข็ง วางบนถาดตรงหน้า
“โต๊ะ 7 นะ เสิร์ฟดีๆอาจได้ติ๊ปเยอะ”
ทันใดนั้นมีเสียงเป่าปาก เสียงแซว เสียงเชียร์จากแขกหนุ่มๆดังขึ้น ทองดีหันไปมอง เมย์ และกลุ่มโคโยตี้ขึ้นเต้น แขกชอบใจกันใหญ่ แขกลุกมาให้ทิปโคโยตี้เยอะมาก ทองดีตาโตอยากเป็นบ้าง วันดีตีแขน
“เอ้า ไปได้แล้ว”
ทองดีสะดุ้ง
“จ้ะๆ”
ทองดียกถาดไป วันดีเต้นตามโคโยตี้
“แหมนังป๊อปมาว่าฉันเป็นแต่สามช่า สเต็ปไหนฉันก็สามารถย่ะ”
ทองดียกน้ำแข็ง โซดา เดินมาเสริฟที่โต๊ะหนึ่ง แต่เดินไปตาก็มองโคโยตี้ไป พอถึงโต๊ะ ก็ยังเสิร์ฟไปมองไป เลยไม่เห็นว่าแขกโต๊ะนั้นมองเธอตาเป็นมัน ทองดีเสิร์ฟเสร็จก็ยืนมองเหม่อ ยิ้มชอบใจ ขณะที่เหม่อมองดูโคโยตี้อยู่นั้น แขกก็จับมือของเธอ
“มานั่งดริ๊งค์กับพี่ไหมน้อง”
ทองดีตกใจ สะบัดออก
“ไม่”
ทองดีจะไปแขกรีบคว้ามือ ดึงเธอมาล้มลงบนตักพอดี แขกโต๊ะนั้นชอบใจกันใหญ่ ทองดีโกรธ รีบลุกขึ้น แล้วด่าอย่างไม่ไว้หน้า
“ฉันไม่ได้ขายตัว ไอ้พวกหื่น ไปกินขี้หมาไป๊!”
ทองดีหยิบเหล้า โซดาน้ำแข็ง เทใส่หัวแขกอย่างไม่ยั้ง แขกร้องโวยวาย วันดีวิ่งหน้าตั้งเข้ามาห้าม คนอื่นๆหยุดดูกันใหญ่
“ว้าย...หยุดๆๆเดี๋ยวนี้” วันดีดึงทองดีไว้ได้ “ขอโทษแขกเดี๋ยวนี้”
“ขอโทษมันทำไม มันมาลวนลามฉัน” ทองดีชี้หน้าด่าแขก “ขอให้แม่แกพี่น้องแกโดนอย่างฉันบ้าง”
แขกโกรธด่ากลับ
“เฮ้ย อย่าคิดว่าสวยแล้วกูจะยอมให้นะโว้ย แผนทำตัวไร้เดียงสา อัพค่าตัวน่ะ มันเชยแล้วน้อง มาทำงานแบบนี้ มันก็กะหรี่ทั้งนั้นแหละ!”
ทองดีโมโหจัด ถีบแขกจนล้ม วันดีร้องลั่น
“ว้าย ตายแล้ว ตายแน่ๆ”
เพื่อนๆช่วยพยุงชายคนนั้นขึ้นมา
“มึงกล้าถีบกูเหรอ”
แขกโมโหมาก ปรี่เข้าไปหาทองดี แต่วันดีขวางไว้ยกมือไหว้
“พี่ขา ใจเย็นๆนิดนึงนะคะ เด็กมันเพิ่งมา เรียนก็ไม่ได้เรียน บ้านน้อกกก บ้านอกมาก พ่อแม่ก็ไม่สั่งสอน ยกโทษให้มันเถอะ นะคะ” วันดีหันไปดุทองดี “เอ้า ขอโทษพี่เขาสิ”
ทองดีเชิด
“ไม่!”
วันดีตกใจ
“ไม่ได้ ขอโทษเดี๋ยวนี้” วันดีจับมือทองให้ไหว้ “ไหว้ ขอโทษ เร็ว”
ทองดีพยายามดิ้น
“ไม่ๆ ปล่อยฉัน”
ทองดีพยายามดึงมือออก วันดีถึงกับต้องจับหัวกดให้โค้งขอโทษ วันดีกดไม่ปล่อย ทองดีร้องและดิ้นอยู่อย่างนั้น
“หยิ่งนักเหรอ ตัวเป็นทองหรือไง ถึงจับไม่ได้ ไหนขอดูหน่อยซิ”
แขกเข้าไปจับคอเสื้อทองดีจะเปิด เมย์รีบเข้ามาจับมือแขกไว้
“พี่คะ อย่าทำอะไรน้องมันเลย เอางี้นะคะ เดี๋ยวคืนนี้เมย์จะดูแลพวกพี่เองนะคะ นะคะ”
เมย์พากลุ่มแขกไป แล้วหันมาพยักเพยิดให้วันดีพาทองดีออกไป วันดีพยักหน้ารับดึงทองดีไป
“ไปๆๆ วันนี้ไม่ต้องทำแล้ว”
ทองดีถูกวันดีดึงมาที่ห้องพัก เธอทิ้งตัวนั่งลงอย่างโกรธๆ จะร้องไห้ แต่กลั้นไว้ วันดียืนมองอยู่ใกล้ๆ
“นี่ แม่ทองประกาย ทำไมมันถึงได้ดื้อด้านอย่างนี้ ถ้าเฮียรู้มีหวังโดนไล่ออกแน่”
“แต่มันทำฉันก่อน ฉันไม่เข้าใจ พวกผู้ชายที่บ้านมันก็ชอบแซวฉันแต่ก็ไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้ แล้วถ้าฉันด่า พวกมันก็จะหยุดแต่ทำไมคนที่นี่ไม่หยุดแถมยังจะด่าฉันกลับอีก”
วันดีอึ้งไป แล้วยิ้มขำเอ็นดูในความเป็นเด็กอ่อนต่อโลก
“เด็กเอ๊ยเด็ก”
“ฉันไม่เด็กแล้วนะ”
“ย่ะ...แม่นางร้าย” วันดีถอนใจ “อยู่ๆไปเธอก็จะรู้เอง คนที่มันเสียเงิน มันก็คิดว่าเงินมันใหญ่ทั้งนั้นแหละ”
“ฉันอยากได้เงิน อยากมีเงินซื้ออะไรได้อย่างใจทุกอย่าง แต่ไม่เคยคิดว่าจะใช้มันมาดูถูกคนแบบนี้”
“เอาอะไรกับคนกลางคืนวะ พยายามคิดให้ได้ว่าเราทำงานให้มันๆให้เงินเราก็พอ แล้วเธอจะมีความสุข” วันดีลูบหัวทองดี

เฮียบุ๋นนั่งดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์ ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับทองดีเปิดเข้ามา เฮียบุ๋นลุกขึ้นเข้าไปโอบให้มานั่ง ทองดีไม่ชอบ แต่ก็จำยอม เพราะกลัวความผิด
“น้องทองประกายมาแล้ว มามา นั่งลง ไหนบอกมาซิว่างานวันนี้เป็นไงมั่ง”
ทองดีชะงัก นั่งไม่ลง
“ฉัน...เอ่อ...ฉันคิดว่าฉันทำไม่ค่อยดี”
เฮียบุ๋นงงๆ
“ไว้ค่อยๆหัดไปนะ เฮียจะส่งเสริมเอง”
“เฮียยังไม่รู้เรื่องเหรอ”
“เรื่องอะไรจ๊ะ”
“ช่างเถอะ เด็กเฮียออกจะเยอะ เรื่องฉันไม่น่าใส่ใจหรอก”
เฮียบุ๋นขยับมานั่งใกล้
“โถ เฮียจะไม่ใส่ใจทองประกายได้ยังไง” เฮียบุ๋นเอามือทำปูไต่แขนทองดี “ตอนนี้ในหัวใจเฮียมีแต่ทองประกายคนเดียว”
“แล้วเมียล่ะ มีคนเล่าว่าเฮียมีเมียแล้วนี่”
เฮียบุ๋นอึ้ง เลิ่กลั่ก
“เมียก็อยู่ส่วนเมีย มันไม่กล้ามาแหยมกับเฮียหรอก”
เฮียบุ๋นจับมือของเธอยื่นหน้าจะจูบ แต่เธอเอนตัวหลบ ทำหน้ายี้ ทันใดนั้นเสียงมือถือดังขึ้น เฮียบุ๋นชะงัก หยิบมือถือขึ้นมาดูอย่างเซ็งๆ
“โว้ย ใครวะ” พอเห็นหน้าจอก็สะดุ้ง กดรับ เสียงหวาน “จ๋าจ้ะ ที่รักเลิกเล่นไพ่แล้วเหรอ จ้ะเดี๋ยวเค้าไปรับนะ” เฮียบุ๋นวางสายอย่างเซ็งๆหันมาบอกทองแประกาย “เอ่อ...ทองกลับไปพักเถอะนะ เฮียไม่กวนละ”
ทองดีหัวเราะ
“โธ่ กลัวเมีย”
เฮียบุ๋นวางฟอร์ม
“อะไร พูดอย่างนี้ตีตายเลย กลัวที่ไหน แต่เห็นมันคอยก็สงสาร เฮียน่ะมีมนุษยธรรมหรอก”
ทองดียิ้มขำ

ทองดีล้มตัวลงนอนบนที่นอน เมย์นุ่งผ้าเช็ดตัว กำลังทาครีมอยู่หน้ากระจก
“ขอบใจนะพี่เมย์ที่วันนี้ช่วยฉันไว้”
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ทองก็ต้องทำใจ ทำงานในที่แบบนี้มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
เสียงมือถือเมย์ดังขึ้น เธอเห็นหน้าจอก็ยิ้ม กดรับสาย เสียงหวาน
“ค่า...อยู่ที่ห้องสิคะเฮีย จะให้ไปไหนได้ล่ะ”
ทองดีได้ยินเมย์เรียกเฮีย ก็เอะใจ พูดงึมงำ
“เฮีย...เฮียบุ๋นแหงๆ อี๋...หัวงูชะมัด”
เมย์คุยไปยิ้มไปแล้วกดวางสาย ทองดีถามทันที
“แฟนเหรอ คุยกันหวานหยดย้อยเชียวนะ”
“ไม่รู้สิ ไม่รู้เรียกว่าอะไร รู้แต่ชอบเขาแล้วเขาก็ชอบ ก็โอเคแล้ว”
ทองดีไม่เข้าใจ
“งงอ่ะ มีแฟน แล้วทำไมไม่ไปอยู่กับแฟนให้แฟนเลี้ยง มาทำงานแบบนี้ทำไม แล้วแฟนไม่หึงเหรอ”
“อุ๊ย...ผู้ชายน่ะมันรักใครไม่เป็นหรอก อย่าไปอะไรกับมันมาก อิ่มแล้วก็ไป...” เมย์เข้าไปดึงทองดีให้ลุกขึ้น “แต่ว่าตอนนี้ ทองกลับห้องไปก่อนนะ เพราะคนที่โทรเขาจะมาหาที่ห้อง”
“จ้า...”
ทองดีเดินออกไป

วันต่อมา...ในห้องซ้อมเต้น พี่ป๊อปกำลังนำเหล่าโคโยตี้เต้น โดยมีทองดีนั่งดูอยู่ พอเพลงจบ เธอก็เข้าไปหาพี่ป๊อป
“พี่ป๊อป ฝึกให้ฉันด้วยนะ ฉันอยากเต้น”
“โอ๊ย...ไม่ล่ะ ฝึกให้เธอ ฉันกลัวเหนื่อยเปล่า ได้ข่าวว่าได้งานแล้วนี่อย่ามาหลอกมาหลอนฉันเลย”
ทองดีออดอ้อน
“น่า...พี่ป๊อบ ฝึกให้ฉันนะ ฉันไม่อยากเป็นเด็กเสิร์ฟอ่ะ” ทองดีนึกได้ “เอางี้...ถ้าพี่ยอมฝึกให้ ฉันจะไปดูหนังด้วย นะๆ”
พี่ป๊อบ และทุกคนอึ้งไปชั่วขณะ แล้วพี่ป๊อปก็ร้องกรี๊ด ออกมาดังลั่น ทองดีตกใจ
“ทำไมต้องกรี๊ดด้วย เอ๊ะ แล้ว...ทำไมถึงร้องกรี๊ดได้ล่ะ”
ทุกคนขำกันใหญ่ โคโยตี้คนหนึ่งแซว
“ต๊าย ทอง จะชวนพี่ป๊อปข้ามเพศกลับเป็นเพศเดิมเหรอจ๊ะ”
ทองดียังไม่เข้าใจ เมย์เข้ามาบอก
“แถวบ้านไม่มีกะเทยหรือไง ถึงได้ดูไม่ออกน่ะ”
ทองดีเก็ท หัวเราะขำ
“อ๋อ...ขอโทษจ้ะพี่ป๊อป ฉันไม่รู้จริงๆ”
พี่ป๊อบตัดบท
“เอาล่ะๆ ฉันจะฝึกให้ แต่ที่ฝึกให้เพราะกลัวหล่อนจะมาจีบฉันนะยะ อึ๋ย ขนลุก น่ากลัวนะหล่อนเนี่ย”
พี่ป๊อบเริ่มฝึกให้ แต่ทองดีก็เต้นผิดๆถูกๆ พี่ป๊อปเซ็งๆ สุดท้ายทองดีก็หลับหูหลับตามั่วเต้นเอามันตามสไตล์ตัวเอง ทำเอาทุกคนอึ้ง พอเพลงจบพี่ป๊อปตบมือให้ใหญ่ ทองดีหันมาถาม
“ฉันเต้นเป็นไง”
“เต้นผิดเสต็ปตามเคย”
ทองดีหน้าเสีย
“แต่ท่าของหล่อนนี่ โอ๊ยยยย พรสวรรค์มากๆ แบบนี้กด like ให้เลยค่ะ”
พี่ป๊อบยกนิ้วโป้งให้สองข้าง วันดีแอบดูอยู่หน้าประตู ตะลึงตาค้าง แล้วรีบผลุบออกไป

วันดีเข้ามารายงานเฮียบุ๋นในห้องทำงาน เฮียบุ๋ยตื่นเต้น
“เหรอ...ทองเขาเต้นได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ดีๆ งั้นให้เขาฝึกไปก่อน เฮียจะได้ปั้นดาวดวงใหม่ไว้เรียกแขกเพิ่ม”
วันดีเหล่มอง
“ดูเฮียจะปลื้มเด็กคนนี้จริงนะ ชอบเหรอ”
เฮียบุ๋นกระซิบบอก
“ชอบสิวะ อยากได้มาเป็นสมบัติส่วนตัวเลยล่ะ...ถามทำไม”
วันดีกระซิบตอบ
“ซ้อจ้างให้ถาม”
เฮียบุ๋นกุมขมับ
“อีนกสองหัว นี่แกจะอยู่ข้างไหนเนี่ย”
“ข้างที่จ่ายหนักกว่าไงล่ะ ซ้อให้มาสองพันค่าคำถาม เฮียจะให้ค่าคำตอบเท่าไหร่”
“ฮึ่ย...สามพัน”
“ก็ได้ งั้นย้ายข้าง” วันดีเปลี่ยนมายืนอีกข้างของเฮียบุ๋นแล้วยกมือขึ้นมา “กิ๊ฟมีไฟว์”
เฮียบุ๋นแปะมือวันดีอย่างเซ็งๆ

เย็นนั้น ทองดีกำลังซ้อมเต้นอยู่หน้ากระจก อย่างมีความสุข มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “เดี๋ยวจ้ะ”
ทองดีไปเปิด เจอเฮียบุ๋นยิ้มหวาน ในมือถือช่อดอกไม้ร้องเพลง หมุนตัวเข้ามาในห้อง
“loving u too much so much very much right now...” เฮียบุ๋นคุกเข่าลง แล้วยืนช่อดอกไม้ให้ “สำหรับทองประกายจ้ะ”
ทองดียิ้มๆ รับมา เฮียบุ๋นได้ใจเข้ามาจับจะจูบ
“น้องทองจ๋า”
เฮียบุ๋นยื่นหน้าจะจูบ ทองดีเอาช่อดอกไม้มาขวาง
“ถ้าอยากจีบ ก็ต้องให้ฉันเป็นโคโยตี้สิ ฉันเต้นได้บ้างแล้วนะ”
“no” เฮียบุ๋นโบกนิ้วไปมา “เฮียทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกจ้ะ งานก็คืองานนะ ถ้าพี่ป๊อบยังไม่รับรองมาตรฐาน เฮียก็ยังไม่อนุมัติจ้ะดาหลิง”
ทองดีโกรธ
“งั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก ไม่ต้องมาจับแม้แต่ชายเสื้อเลยด้วย”
ทองดีผลักเฮียบุ๋น แล้วออกไป ปิดประตูดังปั้ง เฮียบุ๋นจ๋อย
“โธ่ น้องทองประกาย...ทำไมต้องทำร้ายหัวใจพี่ด้วย”

ค่ำนั้น ทองดีกำลังฝึกชงเหล้า โดยมีวันดีคอยคุม
“เอ้า...ชงดีๆสิจ๊ะคุณน้องทองประกาย”
“ทำไมฉันต้องมาเสิร์ฟอาหาร ชงเหล้าอยู่อย่างนี้ด้วยนะ”
“อีกแล้ว พูดอย่างนี้อีกแล้ว ชีวิตต้องสู้น่ะ เคยได้ยินไหม” วันดีร้องเพลงเสียงแหลม “ต้องสู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ...”
ทันใดนั้นเสียงแขกดังขึ้น
“น้อง! ไปชงเหล้าให้พี่ที่โต๊ะหน่อยสิ”
วันดีสะดุ้ง หยุดร้องทันทีหันมามองทองดีจำได้ว่าเป็นแขกที่มีเรื่องเมื่อคืน วันดีทำเป็นพูดเล่นไปชี้ตัวเอง
“น้องเหรอคะ”
แขกชี้ทองดี
“น้องคนนั้นต่างหาก ไม่ใช่ป้าของน้อง”
วันดีเริ่มใจไม่ดี ทองดีพยายามพูดนิ่งๆ
“ไม่ไปหรอกพี่”
ทองดีชงเหล้าต่อ ไม่สนใจ แขกโยนเงินให้
“งั้นพี่ขออ๊อฟไปนอนด้วย ว่าไง จะเอาเท่าไหร่ว่ามา”
“ไม่ไป”
“ยังกล้าเล่นตัวอีกเหรอ” แขกคนนั้นหยิบเงินออกมา “เงินน่ะ มึงเคยเห็นไหม กูจะซื้อมึงขายเท่าไหร่”
ทองดีโกรธ เอาเหล้าสาดหน้า วันดี และคนอื่นๆตกใจ แขกโกรธมาก
“กล้ามากนะ วันนี้กูไม่ปล่อยไว้แน่”
แขกกระโดดขึ้นเคาท์เตอร์จะตะปบทองดี วันดีดึงไว้
“ว้าย พี่ อย่ามีเรื่องเลย” วันดีเรียกพนักงาน “ช่วยกันห้ามหน่อยเร็ว”
ทองดีไม่กลัว
“มาเลย”
ทองดีเอาน้ำแข็ง น้ำสาดใส่ไม่ยั้ง
“ไอ้โรคจิต”
เฮียบุ๋นเข้ามา
“หยุดๆ อะไรกัน”
ทุกคนหยุด แขกหันมามองเฮียบุ๋น
“อ่อ..มาแล้วเหรอเฮียบุ๋น” แขกกระโดดลงมาจากเคาท์เตอร์ “สั่งสอน เด็กยังไง ให้ทำมารยาททรามกับแขกได้ ให้มันมากราบผมเดี๋ยวนี้”
เฮียบุ๋นไม่ยอม
“แต่ที่ผมเห็น คุณไม่สุภาพกับเด็กผมก่อน”
“อ้าวเฮีย พูดอย่างนี้จะไม่ขอโทษผมใช่ไหม เฮียก็รู้นี่ ว่าผมสามารถสั่งให้ใครมาปิดคลับของเฮียเมื่อไหร่ก็ได้”
“ถ้าคุณอยากจะฟ้องใครให้มาปิดร้านผมก็เชิญ” เฮียบุ๋นตบมือเรียกเสียงเข้ม “เด็กๆ!”
ชายฉกรรจ์ลูกน้องเฮียบุ๋นออกมาล้อมแขกไว้ เฮียบุ๋นจ้องหน้า
“ถ้าคุณรอดออกไปฟ้องใครนะ”
แขกกับเพื่อนอึ้ง โมโหกลับไปด้วยความเจ็บใจ เฮียบุ๋นเห็นแขกทุกคนยืนมองกันอึ้ง ก็ประกาศลั่น
“ไม่มีอะไรแล้วครับ เชิญสนุกกันต่อได้เลย วันนี้ผมลดให้ 20% ทุกโต๊ะ”
แขกอื่นๆตบมือเฮกันลั่น แล้วแยกย้ายไปนั่งที่ เสียงเพลงสนุกดังขึ้นมาใหม่ เฮียบุ๋นหันไปหาทองดี
“กลับไปทำงานต่อเถอะ”
เฮียบุ๋ยเดินไป ทองดีมองตามยิ้มๆ เริ่มรู้สึกดีกับเฮียบุ๋น

หลังจากที่ร้านเลิกแล้ว พนักงานช่วยกันเก็บร้านกันอยู่ เด็กทำความสะอาดคนหนึ่งก็วิ่งมาหาทองดี
“ทอง...มีแขกทำกระเป๋าตังค์หายน่ะ ทองเห็นบ้างไหม เขา บอกว่าทองชงเหล้าที่โต๊ะเขานะ”
ทองดีนึกไม่ออก
“แขกคนไหน”
พนักงานส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ แต่เขารออยู่ข้างนอก”
ทองดีพยายามนึก
“ไปบอกเขาเถอะ เดี๋ยวหาว่าเราขโมยนี่เรื่องใหญ่เลยนะ เฮียแกไม่เลี้ยงไว้แน่”
“อือๆ เดี๋ยวฉันไปคุยกับเขาเอง”
ทองดีเดินออกไป

เมื่อออกไปด้านนอกทองดีก็ต้องตกใจที่เจอกับแขกกลุ่มที่มีเรื่อง แขกยิ้มร้าย พากันเดินเข้ามา ทองดีหันหลังจะหนี
“ลากมันมา”
แขกกรูกันเข้าไปจับทองดี จะลากตัวขึ้นรถ ทองดีดิ้นต่อสู้
“ปล่อยฉัน ปล่อย ช่วยด้วย...”

ทันใดนั้นเสียงบีบแตรรถยาวมากดังขึ้น พร้อมกับสาดไฟสูงใส่ทั้งกลุ่ม ทั้งหมดตกใจหันไปมอง







Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 16:26:34 น.
Counter : 399 Pageviews.

0 comment
ทองประกายแสด ตอนที่ 4 (ต่อ)



ทองดีเตรียมอาหารกลางวันในครัวเธอผัดกับข้าว ทำทุกอย่างจนเสร็จ แล้วยกถ้วยจานชามมาวางที่อ่างแล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

“เฮ้อ...คิดว่าจะสบาย ที่ไหนได้ ก็แค่เปลี่ยนที่ล้างจานเท่านั้นแหละ”
ทองดีลงมือล้างจานอย่างกระแทกกระทั้น วีระชัยเดินหัวฟูเพิ่งตื่นนอนเข้ามาในครัว เปิดฝาชีขึ้นดู
“ตื่นมาก็อยากกินข้าวฝีมือเมียเลย มีอะไรกินบ้าง”
ทองดีสะบัด
“...ก็เหมือนเดิม ผัดผักบุ้ง ไข่เค็ม ก็มีของอยู่แค่นี้”
“ทอง...ยังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอ”
“ช่างมันเถอะ”
ทองดีล้างจานเสร็จก็จะเดินออกไป แต่วีระชัยดึงแขนไว้
“ไม่กินด้วยกันเหรอ”
“ไม่...จะไปขัดส้วม”
ทองดีสะบัดแขนแล้วเดินไป วีระชัยมองตามเครียดๆ

อาซิ่มนั่งดูทีวีอยู่ แล้วจะลุกขึ้นแต่รู้สึกเหมือนจะเป็นลมจึงลงนั่งอีก แล้วหยิบพัดมาพัด
“อาฮง อาทอง ใครอยู่บ้าง”
อาซิ่มต้องนั่งพิงหลับตา ระหว่างนั้นวีระชัยกับทองดีเดินลงมา วีระชัยกำลังจะไปทำงาน ทองดีเดินหน้าตึงลงมาส่ง
“อาม๊า”
ทั้งวีระชัยและทองดีตกใจมาก รีบช่วยปฐมพยาบาล เอายาลมให้กิน ทองดีช่วยพัด อาซิ่มค่อยๆมีแรง
“อาม๊า เป็นลมอีกแล้วเหรอ ไปหาหมอไหม”
“ไม่ต้อง อั๊วะคงเหนื่อย พาอั๊วะขึ้นไปนอนเถอะ”
วีระชัยกับทองดีจะช่วยพยุงแต่อาซิ่มชะงักหยุด
“อาฮง ลื้อไปทำงานเถอะเดี๋ยวสาย”
“ไม่เอาหรอก ฉันอยากจะอยู่ดูแลอาม๊า”
ทองดีมองหงุดหงิด แอบบ่น...เออ ทีงี้หยุดได้
“อาทองอีก็อยู่ ลื้อไปเถอะ”
“งั้นอั๊วะไปส่งอาม๊าก่อน แล้วกันนะ”
วีระชัยกับทองดีพยุงอาซิ่มเดินขึ้นชั้นบนไป

วีระชัยยืนคุยกับทองดีอยู่หน้าบ้าน
“พี่ฝากดูอาม๊าด้วยนะ”
ทองดีพยักหน้ารับ วีระชัยเดินออกจากบ้านไป ทองดียืนมองจนลับตา แล้วจะปิดบ้านตี๋ใหญ่ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าบ้าน
“พี่มารับตามสัญญา”
“อาม๊าไม่สบาย”
“จริงเหรอ แล้วอาม๊าเป็นไงบ้าง”
“เป็นลม แต่ตอนนี้นอนแล้ว”
ตี๋ใหญ่ยิ้ม
“นอนแล้วงั้นเราก็ไปกันได้สิ”
“ไม่ได้ ถ้าฉันไป ใครจะดูอาม๊าล่ะ”
“ก็ทองบอกเองว่าอาม๊านอนแล้ว จะไปเฝ้าอะไร ทองไม่ใช่พยาบาลสักหน่อย พี่ว่าเราไปหาอะไรอร่อยๆ กินแล้วไปดูหนังกันดีกว่า รับรองไม่เกินเที่ยงคืนก็กลับ”
ตี๋ใหญ่เห็นทองดีลังเลยก็รุกต่อ
“ตามใจ ถ้าทองจะรอให้มันพาไปก็คงชาติหน้า”
ตี๋ใหญ่จะสตาร์รถแต่ทองดีจับแขนตี๋ใหญ่ไว้
“พี่ตี๋...รอฉันแป๊บนึงนะจ๊ะ ฉันเปลี่ยนเสื้อก่อน”
ตี๋ใหญ่พยักหน้า ทองดีรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านทันที ตี๋ใหญ่มองตามอย่างกระหยิ่ม

ตี๋ใหญ่ขี่มอเตอร์ไซด์โดยมีทองซ้อนท้าย วิ่งไปตามถนน เมื่อเห็นแสงสีกรุงเทพยามรามตรี ทองดีหัวเราะอย่างสนุก กระทั่งมอเตอร์ไซด์ของตี๋ใหญ่วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าห้างใหญ่ ทองดีมองห้างยามค่ำคืนอย่างตื่นเต้น
“โห...สวยกว่าตอนกลางวันอีก”
“วันนี้พี่เลี้ยงเต็มที่ อยากกินอะไรก่อนไหม”
“ไก่ทอด”
ตี๋ใหญ่จอดรถ ทองดีลงมา ตี๋ใหญ่จับมือทองดีชะงักไปนิด
“ขอควงคนสวยวันหนึ่งนะ”
ทองดียิ้มขำแต่ก็ยอมให้ตี๋ใหญ่จูงมือเข้าห้างไป

ในร้านไก่ ทองดีนั่งแทะไก่อย่างมีความสุข ตี๋ใหญ่มองทองดีอย่างมีนัย
“พี่ตี๋ไม่กินหรือ...เอาแต่มองฉันเขินนะ”
“พี่ไม่หิว ทองประกายกินเหอะแค่เห็นทองประกายมีความสุข พี่ก็กินอะไรไม่ลงแล้ว”
“อร่อยมากเลยนะ”
“อะไรที่ไอ้ฮงให้ไม่ได้ ทองมาเอาจากพี่เลยนะ อยากกินอยากเที่ยวอะไรพี่ให้ได้หมด”
“แหม...พี่ตี๋นี่ใจดีจังเน๊อะ ฉันอยากเป็นดาราพี่ก็ช่วย ฉันอยากเที่ยวพี่ก็ช่วย ดูแลฉันดีกว่าผัวอีก พูดแล้วเจ็บใจ”
“ที่พี่ทำทั้งหมดก็เพราะพี่ก็ชอบทองน่ะสิ”
ทองดีทำเป็นตกใจ
“นี่ๆๆ ฉันน่ะเมียเพื่อนพี่นะ”
“พี่ก็ไม่เรียกร้องอะไรจากทองนี่ แค่ทองให้เวลาพี่บ้างก็พอ”
“ฉันอิ่มแล้ว เข้าโรงหนังเถอะ”
ตี๋ใหญ่ยิ้มมองทองดีอย่างมีความหวัง

อาซิ่มนอนอยู่บนเตียง ลืมตาตื่นขึ้นมา มองนาฬิกาเห็นว่าดึกมากแล้ว ค่อยๆลุกขึ้น แต่ไม่มีแรง อาซิ่มกระเสือกกระสนไปที่ผนังห้อง เอามือทุบ พลางร้องเรียก
“อาทอง...อาทอง ขอยาลมอั๊วะหน่อย”
อาซิ่มเคาะประตูจนหมดแรงค่อยๆ ทรุดตัวลงไปนั่งหอบที่ผนัง

วีระชัยเอากุญแจส่งให้แขก แล้วแขกเดินออกไปจากเคาเตอร์ แล้วยืนเครียดมองนาฬิกาที่ผนัง เห็นว่าห้าทุ่มครึ่งแล้ว
“ห่วงแม่เหรอพี่”เพื่อนถาม
“ใช่ แต่เมียพี่ดูอยู่คงไม่เป็นไร”
“โทรไปถามอาการสิพี่”
“บ้านพี่ไม่มีโทรศัพท์อ่ะ”
“แล้วน้องคนสวยเมียพี่ไม่มีมือถือเหรอ”
วีระชัยส่ายหน้า
“ไม่มี พี่ไม่ได้ซื้อให้”
“พี่จะแอบกลับไปดูหน่อยไหมล่ะ”
“เฮ้ย...จะให้พี่หนีงานเหรอ”
“ดึกป่านนี้คงไม่มีแขกแล้ว พวกงานลงทะเบียนแขกเดี๋ยวผมทำให้ก็ได้ พี่รีบกลับมาก่อนหัวหน้ามารับเวรตอนเช้าแล้วกัน”
วีระชัยยิ้ม
“ขอบใจมากนะ”
วีระชัยรีบวิ่งออกไปจากเคาเตอร์ทันที

มอเตอไซด์รับจ้าง แล่นมาจอดหน้าบ้าน วีระชัยรีบลงจากรถจ่ายเงินให้ แล้วรีบไปที่บ้าน จะไขแต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าไม่มีการล็อค
“ทองนี่ ลืมล็อคบ้านหรือไงเนี่ย”
วีระชัยเดินเข้าบ้าน เปิดไฟชั้นล่างและหน้าบ้านแล้วเดินขึ้นชั้นบน จะเข้าห้องตัวเองแล้วเปลี่ยนใจไปเปิดประตูห้องอาซิ่ม เปิดประตูมาแล้วเปิดไฟ พอเห็นอาซิ่มนอนหมดแรงอยู่ก็ตกใจ
“อาม๊า”
วีระชัยรีบวิ่งไปประคอง แล้วรีบเอาน้ำละลายยาลมให้
“อาทองอีคงนอนหลับ อั๊วะก็ไม่มีแรงตะโกน”
“อาม๊า...อั๊วะขอร้องล่ะไปหาหมอเถอะ มันแปลกๆนะ ที่อาม๊าจะเป็นลมบ่อยๆ”
“ก็ได้...ก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยไปนะ”
“ได้...พรุ่งนี้อั๊วะเลิกงานแล้วจะกลับมาพาอาม๊าไปหาหมอนะ อาม๊านอนพักผ่อนเถอะ”
อาซิ่มล้มตัวลงนอน วีระชัยห่มผ้าให้แล้วปิดไฟเดินออกไป ยืนลังเลอยู่หน้าห้องตัวเอง
“คงหลับสนิทไปแล้วมั๊งเนี่ย” วีระชัยดูเวลา

ตี๋ใหญ่ขี่มอเตอร์ไซด์โดยมีทองซ้อนท้าย เขาแอบมองอย่างมีความหวัง เขาเร่งความเร็วรถ มาจอดที่เปลี่ยว
“อ้าว พี่ตี๋ จอดทำไมล่ะ”
“อยู่คุยกับพี่อีกหน่อยได้ไหม”
“แต่นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ”
“อีกตั้งนาน”
“พี่ตี๋จะคุยอะไร”
“ก็เรื่องที่พี่ชอบทองไง ทองชอบพี่บ้างไหม”
ตี๋ใหญ่จับมือ ทองดีจะดึงมืออกแต่ตี๋ใหญ่ไม่ปล่อย
“พี่หาเงินทองให้ใช้ได้อย่างสบายมือเลยนะ จะไม่ต้องลำบากเหมือนอยู่กับไอ้ฮง
“แหม...แต่ใครรู้มันก็น่าเกลียด แล้วฉันจะตากหน้าอยู่ในซอยนี้ได้ไง”
“ไปอยู่ที่อื่นสิ พี่จะไปกับทอง พี่รักทองนะ”
ตี๋ใหญ่เริ่มซุกไซร้ทองดีพยายามดันออก
“พี่ตี๋อย่า เอ่อ..ฉันขอเวลาคิดหน่อย”
“ทองก็คิดไปสิ ระหว่างที่ทองคิดพี่ก็ขอมัดจำหน่อยแล้วกัน”
“ไม่เอา พาฉันกลับบ้านเถอะ ถ้าพี่ทำแบบนี้ฉันจะไม่ออกมาอีกแล้วนะ”
ตี๋ใหญ่หยุดทันที
“นี่แสดงว่าทองเลือกไอ้ฮงเหรอ”
“ฉันเหรอ...ฉันก็ไม่รู้อ่ะ พี่ฮงเขาก็ดีกับฉันนะ อาม๊า เอาเข้าจริงแกก็ดี พี่ตี๋ก็ดี ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันถึงขอเวลาคิดไง”
“ได้ พี่ให้เวลา 1 วัน พรุ่งนี้พี่จะเอาคำตอบ ถ้าทองไปกับพี่ พี่มีเงินแสนให้ทองใช้”
ทองดีตาโต
“พี่เอามาจากไหน”
“พี่ก็มีลูกพี่ของน่ะสิ คิดดูแล้วกันทอง พี่รักทองมากกว่าที่ไอ้ฮงรักอีก เพราะพี่จะให้ทองได้มากกว่ามันเยอะ พรุ่งนี้เราจะรอคำตอบ”
สุดท้ายตี๋ใหญ่จะกอดต่อ ทองดีผลักแล้วไปที่รถ ตี๋ใหญ่หงุดหงิดอารมณ์เสียเดินขึ้นรถสตาร์ท ทองดีนั่งซ้อนท้ายขับออกไป

หน้าบ้านทองดีเปิดไฟสว่างจ้า ตี๋ใหญ่ขี่มอเตอร์ไซด์เข้ามาจอด ทองดีมองหน้าบ้านอย่างแปลกใจ
“เอ๊ะ ใครมาเปิดไฟเนี่ย...ตอนออกจากบ้านฉันว่าฉันปิดหมดแล้วนะ”
“หรือว่าอาม้าแกลุกขึ้นมา”
“ฮื้อ...อาม๊าน่ะมีแต่จะลุกมาปิดไฟ”
ทองดีเริ่มไม่สบายใจ
“เราแยกกันก่อนดีกว่า ไว้ค่อยเจอกัน”
ทองดีรีบเดินเข้าบ้านทันที ทิ้งตี๋ใหญ่ให้มองอย่างไม่ค่อยพอใจ
“เล่นตัวนักนึงมึง พรุ่งนี้ถ้ากูไม่ได้ไม่ใช่ไอ้ตี๋ใหญ่”
ตี๋ใหญ่ขี่รถมอเตอร์ไซด์ออกไป

ทองดีเดินเข้ามาในบ้าน เห็นวีระชัยนั่งอยู่ในบ้านสีหน้าเคร่งเครียด ทองดีสะดุ้ง
“พี่ฮง!”
“ไปไหนมา...”
“แล้วทำไมพี่กลับมาล่ะ”
“พี่ถามว่าไปไหนมา”
ทองดีอึกอัก
“ไปข้างนอกมา”
วีระชัยลุกพรวดพราดมาจับแขนทองไว้แน่น มองเสื้อผ้า...
“ไปกับผู้ชายมาใช่ไหม”
ทองดีเงียบหลบตา
“ถามไม่ได้ยินเหรอ”
“แล้วจะทำไม”
“เลวมาก แม่พี่ไม่สบาย ยังกล้าทำแบบนี้อีกเหรอ ไปกับใคร ไอ้ตี๋ใช่ไหม อยากได้มันเป็นผัวอีกคนใช่ไหม”
ทองดีสะบัดแขน
“จะบ้าเหรอ ก็แค่ไปดูหนัง ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย ช่วยไม่ได้ก็พี่ไม่พาฉันไปนี่ ฉันก็ต้องไปกับคนอื่นสิ”
“แพศยา”
วีระชัยเงื้อมือจะตบทอง ทองเชิดหน้าให้ตบ ทั้งคู่ตาต่อตาจ้องกัน
“อย่านะ ถ้าแกตบฉัน ก็อย่าหวังว่าชาตินี้แกกับฉันจะได้เห็นหน้ากันอีก”
วีระชัยลดมือลง หันไปทุบกำแพงอย่างแรง ทองดีถอนหายใจ แล้วเดินขึ้นห้องไปทันที
“โธ่เว๊ย...”
วีระชัยเดินไปหยิบขวดเหล้าในตู้มานั่งกิน สักพักมีเสียงโทรศัพท์มือถือดัง
“ว่าไง....เฮ้ย...พี่ขอโทษ พี่ไม่มีกะจิตกะใจไปทำงานอีกแล้ว”
วีระชัยกดตัดสายแล้วขว้างมือถือทิ้งเป็นการระบาย แล้วรินเหล้ากรอกปากอีก

ทองดีวิ่งเข้ามาในห้อง เดินไปเดินมาอย่างวุ่นวายใจ
“ทำไมถึงซวยแบบนี้ ไม่น่าเลยเรา”
ทองดีล้มตัวลงนอนอย่างเซ็งๆ วีระชัย เมาได้ที่ยืนเคาะประตู
“ทอง..เปิดปะตูหน่อย...พี่มีเรื่องจะคุย”
ทองดีมองหน้าห้องแบบไม่ไว้ใจ
“ไม่คุย ฉันไม่คุยอะไรทั้งนั้น”
วีระชัยตบประตูแรงขึ้น
“พี่จะเข้าห้อง เปิดเดี๋ยวนี้”
“ไม่เปิด”
วีระชัยเดินไป ไปหยิบกุญแจ เปิดเข้ามายืนหน้าเตียง ทองดีตกใจลุกนั่ง
“บอกให้เปิดทำไมไม่เปิด”
วีระชัยจับแขนแรง
“ฉันเจ็บนะ”
ทองดีเริ่มกลัว เห็นเขาเมามาด้วย
“ทำไม ฉันให้ความสุขไม่สะใจใช่ไม๊ ถึงออกไปกับไอ้ตี๋ใหญ่มัน ฮะ”
ทองดีโกรธ
“อย่ามาดูถูกฉันนะ”
“ฮึ ก็ดูไม่ผิดนี่”
วีระชัยมองหยามเหยียด ทองดีแค้น เงื้อมือจะตบ วีระชัยรวบมือไว้ กดลงเตียงแล้วปล้ำ ทองดีต่อสู้ ตะโกนด่า
“ชอบแบบนี้ใช่มั้ย”
“ไอ้บ้า ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแก”
ทองดีกรีดร้องอย่างโมโห

เช้าวันใหม่
ขวดเหล้าเรียงรายอยู่ที่พื้นหลายขวด วีระชัยนั่งยกขวดเหล้ากิน อยู่หน้าบ้านสีหน้าเครียด เสียงทองดีดียังแว่วอยู่ในหู
‘ฉันเกลียดแก...ฉันเกลียดแก...’
ตี๋ใหญ่ขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอด เห็นสภาพวีระชัยแล้วยิ้มพอใจ
“เฮ้ย ไอ้ฮง มานั่งเมาแต่เช้าเลยเหรอวะ เสียใจเรื่องอะไร”
วีระชัยก็เดินเข้าไปหาตี๋ใหญ่ทันที
“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง ไอ้ตี๋”
“เรื่องอะไรของมึงวะไอ้ฮง มึงไปนอนให้สร่างก่อนดีไหม”
“ไม่...กูไม่ไป กูจะคุยกับมึง”
“มีเรื่องอะไร”
วีระชัยกำหมัด
“ไปคุยที่ท้ายซอย มึงกล้าป่ะ”
“กูเคยไม่กล้าเหรอ”
วีระชัยกับตี๋ใหญ่มองหน้ากันท้าทาย

วีระชัยเดินพาตี๋ใหญ่มาถึงที่ลับตาคน ตี๋ใหญ่เดินตามมา
“เมื่อวานมึงพาเมียกูไปเที่ยวเหรอ”
“ใช่ แล้วไง กูพาไปเที่ยวห้าง กินข้าวแล้วก็กลับบ้าน”
“แต่ทองเป็นเมียกู มึงก็รู้”
“ใช่กูรู้ เมียมึงแล้วไง”
“เมียกูก็ต้องเป็นของกู กูจะยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว อย่ามายุ่งกับเมียกูอีก เพราะเมียกู ไม่มีวันรักนักเลงข้างถนนอย่างมึงหรอก”
วีระชัยยิ้มเยาะ ตี๋ใหญ่หยิบโทรศัพท์ออกมา
“มึงแน่ใจเหรอว่าเขารักมึง ถ้าเขารักมึงทำไมออกไปกับกูตั้งหลายหน มึงดูเอาเองแล้วกัน”
วีระชัยดูรูปที่ตี๋ใหญ่ถ่ายกับทองดีก็ตกใจ
“นี่มันชุดที่...ใส่วันนั้น...”
“วันที่เขาไปกับกูแต่โกหกมึงกับแม่มึงไง ตาสว่างหรือยังไอ้หน้าโง่ ทางที่ดีมึงยกทองให้กูดีกว่า เดี๋ยวกูเบื่อกูก็คืนมึงเอง”
“ไอ้เพื่อนชั่ว”
วีระชัยโมโห โดดเข้าต่อยตี๋ใหญ่แบบไม่นับ ตี๋ใหญ่ก็สู้แต่ความที่ตัวเล็กกว่าจึงสู้ไม่ได้ ตี๋ใหญ่จวนตัวเลยควักมีดออกมาแทงใส่ วีระชัยยังจะสู้ตี๋ใหญ่เลยกระซวกเข้าอีกครั้งและอีกครั้งจนล้มลง
ตี๋ใหญ่ได้สติ ค่อยคลายมือจากมีด วีระชัยค่อยๆ ทรุดตัวลงนอนที่พื้น
“ไอ้ฮง...”
ตี๋ใหญ่มองรอบๆตัว ไม่เห็นใคร รีบวิ่งออกจากตรงนั้น ขณะที่วีระชัยนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น

ทองดีในชุดเมื่อคืนยังหลับอยู่ ที่หน้าประตูมีเสียงเคาะประตูดังลั่น
“อาทอง...อาทองตื่น”
ทองดีงัวเงียเปิดประตูมา ซิ่มรีบชะโงกหัวมาดูในห้อง
“อาฮงล่ะ”
ทองดียังโกรธวีระชัยมาก
“ก็ไปทำงานไง”
“งั้นเหรอ แต่มันแปลกๆนะ”
“แปลกอะไรอีกล่ะ”
“ก็อั๊วะเห็นขวดเหล้าเต็มบ้านเลย ถ้าอาฮงไปทำงานแล้วใครมันเข้ามากินเหล้าในบ้านอ่ะ นี่ไงหน้าห้องลื้อก็มีขวดหนึ่ง”
อาซิ่มเอาเท้าเขี่ยขวดเหล้าแบนหน้าห้อง ทองดีมองเริ่มคิดตาม มองขวดเหล้า เริ่มห่วง ว่ากินเยอะขนาดนี้ เมื่อคืนด่าไปเยอะด้วย
“พี่ฮงกินเหล้าด้วยเหรอม๊า”
“ปกติก็ไม่กิน อีจะกินเวลาไปงานเลี้ยง หรือไปกับพวกที่ตลาด”
ทองดีกับอาซิ่มมองหน้ากัน ทองดีรู้ตัวว่าเป็นต้นเหตุให้วีระชัยเป็นแบบนี้ ตัดสินใจรีบเดินลงไป เพราะห่วงวีระชัย และสงสารอาซิ่ม

ทองดีเดินลงมาก็เห็นขวดเหล้าวางอยู่เต็ม เห็นตี๋ใหญ่กำลังสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ท่าทางเร่งร้อน
“พี่ตี๋ จะไปไหนแต่เช้า เห็นพี่ฮงบ้างหรือเปล่า”
ตี๋ใหญ่มองทองแล้วหลบตาอย่างมีพิรุธ
“ไม่เห็น”
พูดจบ ตี๋ใหญ่ก็ขี่รถออกไปอย่างเร็ว ทองดีมองตามตี๋ใหญ่อย่างแปลกใจ
“จะรีบไปไหน...เฮ้อ...แปลกคน”
อาซิ่มเดินออกมาสมทบ
“นี่ไง ใครมันบ้ามากินเหล้าในบ้านเราวะ ถ้าเป็นขโมยก็น่าจะเอาของไปนะ”
ทองดีกับอาซิ่มมองหน้ากันอย่างเริ่มวิตก ขณะเดียวกัน เพื่อนบ้านวิ่งเข้ามาตกใจสุดขีด
“อาซิ่ม อาฮงถูกแทง”
อาซิ่มตกใจ
“อะไรนะ ลื้ออย่าล้อเล่น”
“ล้อเล่นที่ไหน จริงๆ ไปดูเร็ว”
“พี่ฮงถูกแทงที่ไหน”ทองดีรีบถาม
“ลานจอดรถท้ายซอย”
“อาฮง...”
อาซิ่มเป็นลมล้มลงทันทีเพื่อนบ้านรีบเข้าไปประคอง ทองดีตะลึง
“พี่...ฝากดูอาม๊าด้วยนะ”
ทองดีรีบวิ่งไป เพื่อนบ้านรีบประคองอาซิ่มนั่ง อาซิ่มร้องไห้

ทองดีวิ่งอย่างรวดเร็วมาจนถึงที่เกิดเหตุ ค่อยๆเบียดคนเข้าไป เห็นวีระชัยนอนนิ่งจมกองเลือดอยู่ที่พื้น เธอเอามืออุดปากตัวเองไม่ให้กรี๊ด หันหลังไม่ยอมมองภาพตรงหน้า ชาวบ้านถาม
“น้องเป็นเมียอาฮงนี่ มันเกิดอะไรขึ้น”
“ฉันไม่รู้”
“นี่มีใครตามตำรวจหรือยังเนี่ย...”
ทองดีได้ยินคำว่าตำรวจ ชะงักไป ชาวบ้านหันมาบอก
“น้องไปแจ้งตำรวจสิ”
ทองดีหน้าตื่น
“เอ่อ..ตำรวจเหรอ จ้ะๆ จะไปแจ้งเดี๋ยวนี้”
ทองดีหน้าตื่นค่อยรีบเดินเลี่ยงๆ ออกจากตรงนั้นทันที คิดในใจว่าจะทำยังดี ถ้าตำรวจเรียกตัวไปโรงพักจะทำยังไง ตำรวจต้องจับคดีเก่าของแม่แน่ๆ เพราะฉะนั้นเธอจะเจอตำรวจไม่ได้ เธอเดินวนไปวนมาอย่างใช้ความคิด
ชาวบ้านประคองอาซิ่มมา ทองดีรีบหลบไปอีกทาง มองตามไปเห็นอาซิ่มนั่งร้องไห้คร่ำครวญกอดศพไว้
“อาฮง...อาฮง....ลื้อไม่น่าเลย”
ทองดีเดินหันหลังเดินออกไปทันที

ทองดีกลับเข้าไปที่ห้องนอน ตรงไปค้นหยิบเงินตัวเองที่เก็บอย่างดี หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองออกมา แล้วหันกลับไปจะหยิบเสื้อผ้า แล้วชะงักเมื่อได้ยินเสียงไซเรน
“ตำรวจมา”
ทองดีโยนกระเป๋าไว้ในตู้ตามเดิมแล้ว วิ่งออกจากห้องไป เธอเดินออกไปจากบ้าน ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่กล้าสบตาใคร ชาวบ้านเดินผ่านมาเห็นทองก็รีบเรียก
“อ้าว...นั่นเมียอาฮงนี่นา...จะไปไหนหรือ”
ทองดีอึกอัก
“จะไปโรงพัก เขาเรียกไปโรงพักน่ะ”
“เออ...จริงสิ อาซิ่มก็อยู่ที่โรงพักนั่นแหละ สงสารแกเนอะ ลูกชายคนเดียวซะด้วยแล้วนี่ใครวะ มันฆ่าอาฮง ไม่เคยเห็นมีเรื่องกับใคร”
ทองดีคิดถึงตี๋ใหญ่ที่รีบหนีไป มั่นใจว่าใช่แน่ๆ แต่รีบปฏิเสธ
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันจ๊ะ ไปก่อนนะน้า”
ทองดีรีบเดินออกมาเรียกแท็กซี่ แล้วขึ้นไปทันที รถเคลื่อนห่างออกไป

ทองดีพิงพนักหลังหลับตา บอกกับตัวเองว่า...ลาก่อนวีระชัย







Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 16:25:03 น.
Counter : 383 Pageviews.

0 comment
ทองประกายแสด ตอนที่ 4




วีระชัยวางโทรศัพท์ด้วยความไม่สบายใจ ทองดีแต่งตัวเรียบร้อย เดินออกมาจากห้องสีหน้าเบิกบาน

“เป็นไง ชุดนี้สวยมั้ย”
“มันดูโป๊ไปหน่อยนะ”
“เนี่ยนะโป๊...ไม่หรอก ก็แค่มองแหละ คนเค้าจะได้รู้ว่าทองประกายเมียของพี่ฮงสวยแค่ไหน”
ทองดีกอดวีระชัยอย่างประจบ วีระชัยลังเล
“เอ่อ..ทอง เราแวะไปตลาดก่อนได้มั้ย”
“แวะไปทำไม”
“แวะไปดูอาม้าหน่อย เมื่อกี้พวกที่ตลาดโทรมาบอกอาม๊าไม่ค่อยสบาย แต่พี่คุยแล้วแกบอกแค่เหนื่อยนิดหน่อย”
ทองดีหน้าหงิกทันที
“ได้..พี่ไปช่วยแม่ที่ตลาดเถอะ ฉันไปของฉันเอง”
ทองดีเดินจ้ำพรวดจะออกจากบ้าน วีระชัยรีบคว้าแขนไว้
“ทอง”
“พี่ไม่อยากพาฉันไปก็บอกมาตรงๆดีกว่า ไม่ต้องเอาอาม๊ามาอ้างหรอก”
ทองดีสะบัดเดินออกจากบ้านไป วีระชัยรีบวิ่งตามไป

วีระชัยกับทองดีลงจากรถเมล์ที่หน้าห้างสรรพสินค้า ทองดียังงอนๆวีระชัย แต่พอหันไปเห็นห้างสรรพสินค้า เธอก็ตาโตอย่างตื่นตาตื่นใจ
“โอโห..มันใหญ่โตดีจังเลย”
วีระชัยยิ้ม
“อารมณ์ดีแล้วละสิ”
ทองดีควงแขนวีระชัย เดินเข้าไปในห้องอย่างตื่นเต้น เมื่อเข้าไปด้านใน ทองดียืนนิ่งรับไอเย็นอย่างสดชื่น
“แหม...มันเย็นชื่นใจจริง...จริ๊ง เย็นกว่าแอร์ที่โรงแรมของพี่อีกเน๊อะ...แถมยังหอมดีอีกด้วย”
ทองดียิ้มให้วีระชัยอย่างมีความสุข เดินควงแขนวีระชัยเดินดูร้านค้าอย่างตื่นตาตื่นใจ เมื่อไปถึงโงหนัง เธอยืนมองโปสเตอร์ตัวอย่างหนังอย่างสนใจ
“เราดูเรื่องนี้กันได้มั้ย”
วีระชัยมองอย่างลังเล พอเห็นป้ายบอกราคา ค่าตั๋วเข้าชม วีระชัยส่ายหน้า
“อย่าดีกว่า”
“ทำไมล่ะ ฉันอยากดูนี่ เขาบอกโรงหนังกรุงเทพดีมากเลย ฉันอยากเข้าโรงหนังอ่ะ”
“ค่าดูสองคนก็เกือบสามร้อยแน่ะ ซื้อหมูได้ตั้ง 2 โล”
วีระชัยเดินลากทองออกไปทันทีทันที ทองดีมองโปสเตอร์หนังอย่างเสียดาย หงุดหงิด

วีระชัยพาทองดีเดินเที่ยวในห้าง ผ่านมาจนถึงหน้าร้านเสื้อผ้า พอเห็นเสื้อในหุ่นโชว์สวยมาก ทองดีปล่อยมือจากวีระชัย ไปยืนเกาะกระจกหน้าร้าน จ้องมองชุดที่โชว์ไว้ แล้วรีบเดินร้านทันที วีระชัยรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว ทองดีเดินไปจับเสื้อแบบทะนุถนอม
“พี่ซื้อให้ฉันนะ ผ้านุ้ม..นุ่ม สีก็สวยถูกใจ ซื้อให้ฉันนะ”
วีระชัยพลิกป้ายราคาขึ้นมอง แล้วสะดุ้ง รีบดึงมือทองดีออกจากชุดทันที
“ตั้ง 2 พันกว่า ไม่ไหวหรอก แพงไป ใช้ผ้านิดเดียวเอง ไว้พี่พาไปซื้อแถวตลาดนัดดีกว่า”
“แต่ฉันอยากได้ ฉันไม่เคยใส่ผ้าแบบนี้เลยนะ”
วีระชัยไม่ฟังเสียงลากทองดีออกจากร้านเสื้อผ้าทันที ทองดีหน้าหงิก วีระชัยลากทองดีผ่านมาหน้าร้านฟาสฟู้ด ทองดีสะบัดมือแล้วยืนนิ่ง วีระชัยหันไปมองหน้าทองดีแล้วส่ายหน้า
“พามาเที่ยวแล้วยังจะทำหน้าบึ้งหน้างออีก ไม่น่ารักเลยนะ”
“ฉันหิว จะกินไก่ทอด จะซื้อให้กินมั้ย”
วีระชัยมองป้ายแล้วส่ายหน้า
“กับข้าวที่บ้านก็มีกลับไปกินข้าวบ้านดีกว่านะ”
“ทำไมเมื่อวานยังให้ฉันกินบะหมี่เป็ดได้เลย”
“ก็มันไม่ได้กินทุกวันนี่”
ทองดีสะบัด
“...โอ๊ย..ไอ้นั่นก็แพง ไอ้นี่ก็ไม่คุ้ม กลัวแต่เสียเงิน แล้วจะพาฉันมาทำไมเนี่ย กลับไปบ้านมีอะไรกิน มีแต่กับข้าวเค็มยังกะเกลือ”
วีระชัยจ๋อย
“ทองจ๋า พี่ก็พามาเที่ยวห้างแล้วไง เราเดินเล่นเฉยๆก็ได้ อย่าโกรธพี่เลยนะ”
ทองดีมองหน้าวีระชัยอย่างหงุดหงิด แล้วสะบัดหน้าเดินหนีไปทันที วีระชัยมองตามอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ของทองดี แล้วรีบวิ่งตามไปจับมือทองดีไว้ แล้วพอเดินออกจากห้าง
“วิ่งซะเร็ว ประเดี๋ยวก็หลงกันหรอก ป้ายรถเมล์อยู่ทางนี้”
วีระชัยดึงมือทองดีให้ออกเดิน ทองดียืนนิ่ง วีระชัยหันมามองทองดีอย่างแปลกใจ
“อ้าว จะกลับไม่ใช่เหรอ ไปเถอะรถเมล์มาโน่นแล้วเดี๋ยวไม่ทัน”
“ใครบอกฉันจะนั่งรถเมล์”
วีระชัยงง
“ไม่นั่งรถเมล์แล้วจะเดินหรือไง”
“ฉันจะนั่งแท็กซี่”
ทองดีไม่ฟังเสียงเดินไปเรียกรถแท็กซี่แล้วขึ้นไปนั่งทันที วีระชัยหงุดหงิด แต่ก็รีบเดินขึ้นไปนั่งบนรถพร้อมกับทองดี

ตี๋ใหญ่กำลังนั่งเช็ดมีดอยู่ที่หน้าบ้าน ขณะที่รถแท็กซี่วิ่งเข้ามาในจอด ทองดีลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านทันที วีระชัยลงตามมา จะวิ่งตามแล้วนึกได้ว่าลืมจ่ายเงิน วีระชัยรีบจ่ายเงินค่าแท็กซี่
“เฮ้ย...วิ่งไล่จับกันหรือไงวะ ไอ้ฮง” ตี๋ใหญ่แซว
“เรื่องของผัวเมีย มึงอย่าเสือก”
วีระชัย วิ่งตามทองดีเข้าบ้านไปทันที ตี๋ใหญ่มองตามไปอย่างหงุดหงิด
ทองดีเดินปึงๆ เข้ามาในห้อง วีระชัยตามเข้ามา พอทองดีเห็นวีระชัยก็เมินหน้า
“ทองโกรธพี่เหรอ ทองอยากไปห้างพี่ก็พาไปแล้วนี่”
วีระชัยเดินเข้าไปจะกอดทองดีสะบัด วีระชัยชักหงุดหงิด
“เนี่ยนะพาไปเที่ยว จะซื้อ จะดู จะกินอะไรก็ไม่ได้ อย่างนี้จะพาไปทำไม”
“ก็ทุกอย่างมันแพงจริงๆนี่นา เงินทองไม่ได้หาได้ง่ายๆนะ”
“แล้วทีฉันทำงานให้พี่ล่ะ ไม่ต้องไปเสียเงินจ้างคนใช้ อย่างนี้พี่ไม่ประหยัดหรือไง แค่ไปดูหนังซักครั้งมันจะเปลืองซักแค่ไหนเชียว”
“ก็หนังพวกนั้นมันไม่ได้ประโยชน์อะไรนี่นา”
“ได้ ในเมื่อพี่ให้สิ่งที่ฉันต้องการไม่ได้ฉันก็ไม่อยู่แล้ว”
วีระชัยอึ้งรีบเข้าจับมือทองดีทันที
“ทองทำไมพูดแบบนี้ล่ะ”
“ฉันเบื่อ ฉันเป็นเมียพี่ ทำงานให้พี่ แต่พี่เคยให้อะไรฉันบ้าง”
ทองดีดิ้นจะดึงมือออก
“ทอง! อย่าไปเลย เอางี้พี่จะให้เงินทองไว้ใช้ วันละร้อย”
“จริงนะ”
“แต่ต้องไม่พูดจาแบบนี้อีก”
วีระชัยเปิดกระเป๋าหยิบเงินให้ทองดีๆค่อยยิ้มออก วีระชัยกอดทองดีแล้วดึงมาหอม ทองดีก็ยืนนิ่งๆ แต่แค่นี้วีระชัยก็มีความสุขมาก ทองดีดูแบงก์ร้อยในมืออย่างครุ่นคิด

อาซิ่มเดินเข้าบ้านมา เห็นวีระชัยกับทองดีกำลังทำกับข้าวมีเสียงหัวเราะคิกคัก แล้วเห็นทั้งคู่ถือกับข้าวมาตั้งบนโต๊ะ
“อ้าว...อาม๊า เป็นไงบ้านกลับซะเย็นเลย”
“อั้วหน้ามืด ต้องรอให้พวกที่ตลาดเขาช่วยเก็บของแล้วเรียกรถให้”
วีระชัยฟังแล้วอึ้งลงนั่งข้างๆ
“ผมขอโทษนะอาม๊า พอดี...”
อาซิ่มสวนขึ้น
“ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ อาม๊าไปอาบน้ำก่อนนะ เหนื่อยเหลือเกิน”
อาซิ่มเดินขึ้นข้างบนไป วีระชัยมองตามเศร้าๆ ทองดีเดินมานั่งข้างๆ
“อาม๊าไม่สบายจริงๆเหรอ”
“แกชอบหน้ามืด บอกให้ไปหาหมอก็ไม่ไป”
“คนแก่ชอบเป็นแบบเนี๊ย แถวบ้านฉันก็มี พี่ซื้อยาดมให้แกติดตัวสิ พี่ไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวต้องไปทำงานอีก”
“เวลาพี่ไม่อยู่ ฝากอาม๊าด้วยนะ”
“ก็ได้ แต่พี่ก็บอกอาม๊าให้พูดกับฉันเยอะๆแล้วกัน ฉันไม่ชอบเวลาใครมาทำหน้าหงิกหน้างอใส่ มันรำคาญ”
วีระชัยพยักหน้ารับลอยแบบไม่ได้ใส่ใจที่ทองดีพูด แต่ตามองตามขึ้นไปชั้นบน

ทองดีนั่งซักผ้าอยู่หลังบ้าน ใส่ผงซักฟอกเต็มที่ฟองล้นเต็มพื้น เปิดวิทยุดังลั่น อาซิ่มมองด้วยความไม่พอใจ เดินไปปิดวิทยุ ทองดีหันไปมอง
“อ้าว อาม๊าไม่ขายไก่หรือ”
“วันนี้วันพระ อั้วไม่ขาย”
ทองดีพยักหน้า
“แล้วอาม๊ามีอะไร”
“วิทยุนี่น่ะ ทีหลังอย่าเปิดอย่าให้มันดังนัก หนวกหูชาวบ้าน มัวแต่ฟังเพลง เมื่อไหร่งานจะเสร็จ”
ทองดีทำหน้าเบื่อๆเอาแปรงซักผ้ามาถูเท้า อาซิ่มหันไปเห็นทองดีเอาเท้าจุ่มในกะละมัง
“ไอ๊หยา....ซี้เลี้ยว...อาทองประกาย ทำไมลื้อเอาตีนไปแช่ใน กะละมังซักผ้า”
ทองดีมองอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยกเท้าออกแต่โดยดี
“อะไรอีกล่ะ อาม่า ไม่เห็นเป็นไรเลย ที่บ้านฉันก็ทำแบบนี้ ไม่เห็นจะแปลก”
อาซิ่มค้อน...
“นั่นมันที่บ้านลื้อ พ่อแม่ลื้อไม่สั่งสอนหรือว่า ตีนน่ะมันของต่ำ เอาไปเหยียบย่ำเสื้อผ้าของผู้ชายไม่ได้ มันซวย ทำแบบนี้ อาฮงก็ซวย...”
อาซิ่มหยิบเสื้อออกมา แถมมีกางเกงในของทองดีด้วย อาซิ่มโวยวาย ทองดีมองอย่างรำคาญ
“อะไรอีกล่ะ”
“นี่ ที่บ้านลื้อคงไม่สอนให้เสื้อแยกกางเกงด้วยใช่มั้ย ซักรวมกันแบบนี้ได้ยังไง อั๊วจะเป็นลม ซวย...ซวยตายชัก...”
“ซวยยังไง...มันก็แค่เสื้อผ้า...พอซักเสร็จมันก็สะอาดเหมือนกันนั่นแหละทำเป็นเรื่องมากไปได้น่ะม๊า”
“ลื้อมันซี้ซั๊ว...เฮ้อ...แปไอ๊บ่อก๊าสี่”
อาซิ่มด่าว่าว่าลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน แล้วมองทองดีอย่างรังเกียจ โยนผ้าในมือทิ้งอย่างขยะแขยงแล้วเดินหนีไป ทองดีงง
“พูดอะไร ไม่เห็นรู้เรื่องเลย แน่จริงด่าให้รู้เรื่องสิ เรื่องมากชิบเป๋ง ทำอย่างกะเป็นผู้ดีมาจากไหน โธ่...ยายซิ้มขายไก่”
ทองดีซักผ้าต่ออย่างกระแทกกระทั้น จากนั้นก็ไปตากผ้า ทำงานบ้าน แล้วพึมพำอย่าง
“เฮ้อ...นี่ชีวิตฉันจะต้องมาอยู่ที่นี่ไปตลอดเหรอเนี่ย”

ทองดีเปิดประตูเข้ามาเห็นวีระชัยนอนหลับ ก็เดินไปนั่งมองไปนอกหน้าต่าง
“จะทำอะไรต่อเนี่ย ไปไหนก็ไม่ได้ โอ๊ย...เบื่อ”
ทองดีนึกได้ รีบเดินไปเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าที่วีระชัยซื้อมาให้ออกมาดูแล้วเบ้ปาก
“โหย...ใส่เข้าไปได้ไงเนี่ย แขนยาว คอปิด อี๊...เชยชะมัดเลย”
ทองดีนิ่งใช้ความคิดแป๊บนึง แล้วไปหยิบกรรไกรตัดชายกระโปรงออก แล้วสอยอย่างรวดเร็ว ทองดีตัดแขนเสื้อออกแล้วหยิบเสื้อขึ้นมามองอย่างพอใจ แล้วลองใส่ดู ชุดเชยๆกลายเป็นชุดเปรี้ยว เหมือนกับในหนังสือดารา
“อืมม...อย่างนี้สิ ค่อยยังชั่วหน่อย มีของดีมันต้องโชว์สิ”
ทองดีมองวีระชัยที่นอนหลับ
“พี่ ฉันออกไปซื้อขนมหน่อยนะ”
ทองดีเดินเฉิดฉายออกไปอย่างมั่นใจ

ทองดีเดินไปที่ร้านขายของชำแถวบ้าน ตรงไปเลือกขนมส่งให้เจ้าของร้านใส่ถุง ตี๋ใหญ่นั่งกินกาแฟอยู่ หันไปเห็นทองดีด้านหลัง ตี๋ใหญ่ผิวปากหวือ
“ใครเนี่ย สวยจริงๆ”
“อ้าวพี่ตี๋...จำฉันไม่ได้หรือไง”
“โห...แต่งตัวซะสวยเชียว จำไม่ได้เลยนะเนี่ยมานั่งกินโอเลี้ยงด้วยกัน พี่เลี้ยง”
ทองดีทำท่าอึดอัด ตี๋ใหญ่มองอย่างเข้าใจ
“กลัวไอ้ฮงมันจะเห็นหรือ ไม่ต้องห่วง เราไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ คนออกเต็มถนน”
ทองดีลังเล
“พี่เค้าไม่ชอบให้ฉันคุยกับพี่ตี๋”
“พี่คงเลวมาในสายตามัน”
“ไม่หรอก...จริงๆ เค้าไม่อยากให้ฉันคุยกับใครทั้งนั้นแหละ”
“ไอ้ฮงมันเป็นแบบนี้ มันขี้งก ขี้หวง ของมันใครอย่าหวังไปแตะ”
“ใช่ เมื่อวานนี้พาฉันไปห้าง ดูหนังก็ไม่ได้ดู ซื้ออะไรก็ไม่ได้ นั่นก็แพง นี่ก็ไม่คุ้มค่า สรุปไปเดินดู เดินดมๆ แล้วก็กลับบ้าน”
ทองดีบ่นอย่างอึดอัด ตี๋ใหญ่มองอย่างเข้าใจ
“งั้นไว้พี่พาไปเอง กะอีแค่ดูหนังกินข้าว จะกี่ตังค์เชียวพี่นะชอบเดินห้างที่สุด ดูหนังยิ่งชอบ”
“เหรอ...โรงหนังเป็นไงอ่ะ”
“โอ๊ย....สบาย ยิ่งตั๋วแพงๆนะที่นั่งยิ่งดี บางทีห้าร้อยพี่ก็ดูนะ มันนอนดูสบายดี”
“มีแบบนอนดูด้วยเหรอ”
“วันหลังพี่พาไปนะ”
ทองดีลังเล
“ไม่รู้สิ”
เจ้าของร้านหยิบถุงขนมมาส่งให้ทองดี
“ฉันต้องไปแล้วละ ออกมานานแล้ว...คิดตังด้วย”
ทองดีหันไปบอกเจ้าของห้าง ตี๋ใหญ่โบกมือห้าม
“..ไม่ต้อง พี่จ่ายให้เอง”
“เอางั้นเหรอ”
“ใช่สิ ว่าแต่ทองว่างเมื่อไหร่ล่ะ พี่จะพาไปเที่ยว ทองอยากกินอะไรอยากทำอะไรบอกพี่แล้วกันนะ”
ทองดีนิ่งคิดไม่ตอบ แต่ตี๋ใหญ่แอบอมยิ้ม

วีระชัยตื่นขึ้นมา อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เดินลงมาข้างล่างไม่เห็นทองดี จึงเดินเข้าไปหาในครัว
“ทอง...ทอง...ไปไหนของเค้าเนี่ย...บ้านช่องไม่อยู่”
วีระชัยเดินเข้าไปในครัวก็ไม่มี ไปหลังบ้านก็ไม่มี จึงเดินกลับเข้ามา อาซิ่มลงมาจากชั้นสองพอดี
“อาม๊า เห็นทองไหม”
“คงไปซื้ออะไรแถวนี้มั้ง”
วีระชัยรีบเดินออกไปนอกบ้านทันที อาซิ่มมองตามแล้วส่ายหน้า
“อาฮงเอ๊ย...อั๊วะเหนื่อยแทนลื้อจริงๆ”

วีระชัยเดินมาแล้วต้องชะงัก เห็นทองดีในชุดที่ตัดเองเดินยิ้มมา มีตี๋ใหญ่เดินมาด้วย
“พี่ตื่นแล้วเหรอ ฉันไปซื้อขนมมา”
วีระชัยมองไปรอบๆ ก็เห็นพวกผู้ชายแถวนั้นมองทองดีเป็นตาเดียว วีระชัยรีบดึงมือทองดีเดินจ้ำเข้าบ้านไปทันที ตี๋ใหญ่มองตามแล้วยิ้มสะใจ
วีระชัยกับทองดีเดินเข้ามา อาซิ่มนั่งกุมขมับอยู่ แต่ทั้งคู่ไม่สังเกต
“ไอ้ชุดบ้าเนี่ยไปเอามาจากไหน”
“จำไม่ได้หรือ ก็พี่เป็นคนซื้อให้ไง”
“ไม่ใช่แน่ พี่ไม่ซื้อชุดทุเรศให้เมียตัวเองใส่เด็ดขาด ทำไมถึงแต่งแบบนี้ จะไปล่อตะเข้ที่ไหน”
ทองดีโมโห
“ฉันแต่งแบบนี้เพราะฉันชอบแบบนี้ ถึงทุเรศแล้วใครจะทำไม”
ทองดีสะบัดหน้าจะเดินหนี วีระชัยตามไปลากแขนเธอไว้
“ออกไปไหนมา นี่ไปหาไอ้ตี๋ใหญ่มันมาใช่มั้ย...”
ทองดีสะบัด
“ฉันซื้อขนมกิน ไม่ได้ไปหาใครทั้งนั้น แต่ไปเจอพี่ตี๋เขาที่ร้าน เขาก็เลยเดินมาส่ง”
“พี่ไม่เชื่อ ก็มันเห็นตำตาว่ามากับมัน อยากมีผัวกี่คนกันแน่หา”
ทองดีมองหน้าวีระชัยอย่างเจ็บช้ำ เธอสะบัดตัวออก ทั้งหยิกทั้งข่วน คว้าอะไรได้ก็ขว้างใส่ วีระชัยหลบพัลวัน แต่ไม่ยอมตอบโต้
“ไอ้บ้า ผัวเฮงซวย ดูถูกเมียตัวเอง กูไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก มึงคิดว่ามึงดีนักหรือ มึงก็แค่เจ๊กขายไก่ ขี้งก ทุเรศ ไอ้ลูกแหง่”
ทองดีวิ่งหนีวีระชัยขึ้นไปบนห้อง วีระชัยจะวิ่งตามไป แต่ซิ่มเกิดหมดแรงปัดถ้วยน้ำชาตกแตก
“อาฮงช่วยม๊าด้วย”
วีระชัยชะงัก หันไปมองอาซิ่มที่นั่งหมดแรงอยู่ วีระชัยมองตามทองไปอย่างไม่สบายใจ

ในห้อง...ทองดีคว้าข้าวของปาลงกับพื้น
“คำก็โป๊ สองคำก็ยั่วผู้ชาย ฉันเป็นคนนะ..ไม่ใช่กะหรี่ โอ๊ย...ชักจะเบื่อแล้วนะ”
ทองดีขว้างหมอนไปทั่วห้อง แล้วกุมขมับ
“อีทองดี ทำไมชีวิตมึงเป็นแบบนี้”
ทองดีลุกไป หยิบเงินตัวเองมาดู กลัวไปไม่รอด
“ก็ได้ ครั้งนี้จะยอมให้”
ทองดีถอนใจเฮือกใหญ่แล้วเดินออกจากห้องไป

วีระชัยเอายาดมให้อาม๊า แล้วเก็บเศษถ้วยชา พร้อมกับเช็ดพื้น พอเสร็จแล้วก็กลับมาดูอาซิ่ม
“อาม้าเป็นอะไรเนี่ย หน้าซีดเชียว”
“ไม่เป็นไร อั๊วไม่เป็นไร ม๊าห่วงแต่ลื้ออ่ะ หน้าตาลื้อไม่มีความสุขเลยนะอาฮง”
“โธ่อาม๊า ห่วงตัวเองก่อนเถอะ”
“อั๊วะน่ะอีกหน่อยก็ตายแล้ว แต่ลื้ออ่ะ ต้องอยู่ไปอีกหลายสิบปีลื้อจะวิ่งตามอาทองไปอย่างนี้ ตลอดชีวิตเหรออาฮง”
วีระชัยหลบตา
“อั๊วไม่ดีเองแหละ อั๊วะมันปากเสีย พูดกับทองเขาไม่ดี”
“เฮ้อ...บอกตรงๆนะ อาฮงเอ๊ย อั๊วะไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นจะมีดีตรงไหน ไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือนแม้แต่น้อย ขืนลื้อยังเลี้ยงอีไว้ ใกล้ตัว มีแต่จะซวย เชื่ออั๊วเหอะ”
ทองดีที่แอบฟังอยู่โมโหเดินออกมา
“..ว่างใช่มั้ย ถึงมานั่งยุให้ผัวเมียเค๊าทะเลาะกันน่ะ....อาม๊า”
ทองดีจ้องหน้าอาซิ่มอย่างโมโห
“อาทอง ลื้อพูดกับอั๊วะดีๆ ได้ไหม อั๊วะเป็นแม่ผัวลื้อนะ”
“แล้วอาม๊าล่ะ เคยพูดถึงฉันดีบ้างไหม ฉันตั้งใจจะมาขอโทษผัวฉัน แต่กลับต้องมาได้ยินแม่ผัวปากเสียเห่าเรื่องของฉัน”
“ทอง...นี่แม่พี่นะ”
“เออ...แล้วไง ไม่ใช่แม่ฉันนี่ ปากเสียแบบนี้ฉันคงไม่นับญาติ หรอก”
วีระชัยโมโหตบหน้าทองดี
“แกตบฉันเหรอ”

วีระชัยหน้าเสียรู้สึกผิด ทองดีจ้องหน้าสองแม่ลูกด้วยความแค้นใจสุดๆ
ทองดีจ้องหน้าวีระชัยด้วยความโกรธจัด

“แกตบฉันเหรอไอ้ฮง ตบฉันทำไม”
“ทอง พี่ขอโทษ”
วีระชัยจะเข้ามาประคองปลอบ ทองดีผลักออก
“ต่อไปนี้แกไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
ทองดีจ้องหน้าสองแม่ลูกก่อนเดินหนีขึ้นข้างบน วีระชัยยืนนิ่งทำตัวไม่ถูกแล้วตัดสินใจนั่งลงหยิบยาดมส่งให้อาซิ่ม
“ลื้อไปดูเมียลื้อเถอะ”
“...ม๊าไม่โกรธเมียอั๊วะเหรอ”
อาซิ่มยิ้มปลอบ
“ที่จริงอั๊วะน่าจะดีใจนะที่เห็นลื้อสองคนตีกัน แต่ลื้อรู้ไหมตั้งแต่เล็กจนโต อั๊วะไม่เคยเห็นหน้าตาลื้อเศร้าดูไม่มีความสุขมากขนาดนี้เลย”
วีระชัยอึ้ง
“อาม๊า”
“อั๊วะยอมแล้ว อะไรที่เป็นความสุขของลื้อ อั๊วะจะให้ลื้ออยู่กับมัน ลื้อขึ้นไปคุยกับเมียลื้อเถอะ “
วีระชัยกับอาซิ่มยิ้มให้กัน แล้วอาซิ่มก็ตบไหล่ปลอบพยักหน้าให้ วีระชัยรีบวิ่งขึ้นข้างบนไป อาซิ่มมองตามวีระชัยไปด้วยรอยยิ้มเศร้าๆแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเปื้อนรอยยิ้มนั้น

ทองดีนั่งบนเตียงนับเงินที่เหลือติดตัวมาด้วยความเจ็บใจ ข้างๆตัวมีกระเป๋าเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้เอาเสื้อผ้าใส่
“แกนึกเหรอ ว่าฉันไม่มีทางไป”
ระหว่างนั้นวีระชัยรีบเปิดประตูเข้ามา พอเห็นทองดีนับเงินอยู่แล้วมีกระเป๋าอยู่เปิดอยู่ด้วยก็ตกใจ
“ทอง”
ทองดีมองด้วยความเจ็บใจแล้วลุกไปหยิบเสื้อผ้าออกมา วีระชัยเข้ามาจับมือทองไว้
“พี่ขอโทษ อย่าไปเลย”
“ถอยไป”
ทองดีผลักวีระชัยออก วีระชัยก็เข้ามาใหม่แล้วทรุดตัวลงกอดเอวทองดีไว้ น้ำตาไหล
“ทอง พี่ขอร้อง อย่าไปเลยนะ พี่ขอโทษที่ทำรุนแรง พี่จะไม่ทำอีกแล้ว”
ทองดียังพยายามขัดขืนจะแกะวีระชัยออก
“ทองลองคิดดูดีๆ นะ ถ้าทองไปจากที่นี่ ทองจะไปอยู่ไหน”
ทองดีเริ่มนิ่งคิดแต่ยังเชิดหน้าอยู่ วีระชัยลุกขึ้นแล้วจ้องหน้าทองดี
“ต่อไปนี้เราจะอยู่กันอย่างมีความสุขนะ ตอนนี้อาม๊าบอกพี่ว่าจะไม่ขัดขวางเราอีกแล้ว อาม๊ายอมรับทองของพี่แล้วนะ ส่วนพี่ๆ ก็สัญญาว่าจะไม่ทำให้ทองเสียใจอีก อะไรที่เป็นความสุขของทองถ้าพี่ให้ได้พี่จะให้นะ”
“แน่ใจเหรอ”
“นี่แสดงว่าทองไม่ไปจากพี่แล้วใช่ไหม”
วีระชัยกอดทองดีด้วยความดีใจสุดๆ ทองดียืนนิ่งหน้าเครียดไม่ยินดียินร้าย

วีระชัย ทองดี อาซิ่มนั่งกินข้าวด้วยกัน ทองดีกินข้าวไม่ได้มาก
“กับข้าวเค็มไปใช่ไหม ไปเจียวไข่สิ”
ทองดีมองอาซิ่มงงแล้วหันไปมองวีระชัย
“ไม่กลัวเปลืองแล้วเหรออาม๊า”
อาซิ่มส่ายหน้า
“ประหยัดแล้วไม่มีความสุขก็ไม่รู้จะประหยัดทำไม”
“งั้นฉันไปเจียวไข่กับไก่ทอดนะ”
ทองดีไม่รอฟังคำตอบรีบลุกออกไป
“อาม๊า”
“ปล่อยอีเถอะ”
วีระชัยกับอาซิ่มยิ้มให้กัน
“ขอบคุณมากครับอาม๊า”
“ดูลื้อสิ พอเมียอารมณ์ดี ลื้อก็หน้าบานเลยนะ” อาซิ่มยิ้มสบายใจ ที่ทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้น

ทองดีเดินลงมาส่งวีระชัยที่หน้าบ้าน
“ตกลงพี่จะหยุดวันไหนอ่ะ”
“อาทิตย์นี้คงไม่ได้หยุดแล้ว เพราะพี่ขอเปลี่ยนกับเพื่อนไปเมื่อวานไง”
ทองดีหงุดหงิด
“อ้าว...แล้วเราจะไปเดินห้างดูหนังกันเมื่อไหร่ล่ะ ฉันเพิ่งดูหนังสือพิมพ์จะมีหนังใหม่เข้าอาทิตย์นี้”
“ก็ไปอีกอาทิตย์ไง”
“...แต่อาทิตย์นี้เงินเดือนพี่ออกนี่ แล้วพี่ก็สัญญากับฉันแล้ว ลาอีกไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้หรอก ไม่เป็นไรนะ อดทนอีกอาทิตย์เดียวเอง พี่ไปทำงานนะ เดี๋ยวปิดบ้านให้เรียบร้อยล่ะ พี่ฝากดูแลอาม๊าด้วยนะ”
วีระชัยหอมหน้าผากทองดี แล้วเดินไป ทองดีเข้าบ้านปิดบ้านเรียบร้อย ตี๋ใหญ่ที่แอบซุ่มอยู่ เดินออกมาจากที่มืด แล้วไปเคาะประตู
“ทองประกาย”
สักพักประตูเปิดออกมา ทองดีมองตี๋ใหญ่อย่างสงสัย

ตี๋ใหญ่พาทองดีไปที่ ร้านขายของชำแถวบ้าน ทั้งคู่นั่งดื่มน้ำอัดลมด้วยกัน
“พี่ตี๋จะปรึกษาอะไรฉันเหรอ”
“ก็เรื่องที่เราเจอกันเมื่อกลางวันน่ะสิ พี่เป็นห่วงทอง เพราะท่าทางไอ้ฮงมันโกรธมาก”
“มากไม่มากก็ตบฉันเลย”
ตี๋ใหญ่ทำขึงขัง
“เฮ้ย..ได้ไงวะ นี่มันจะมากไปแล้วนะ”
“ช่างมันเถอะ ตอนนี้เขาก็มาขอโทษแล้ว พี่ฮงเขาบอกว่าต่อไปเขาจะไม่ทำอีก”
“เอ่อ...แล้วต่อไปเราจะได้เจอกันไหม”
“ที่จริงฉันก็เหงานะ อยู่แต่บ้านไม่ให้ไปเจอใคร แต่ถ้าคุยกับพี่แล้วปัญหามันเยอะ ฉันว่าอย่าเจอเลยดีกว่า”
“อ้าว...แล้วเรื่องที่เราจะไปดูหนังเดินห้างกันล่ะ”
“ยกเลิกไปเถอะ แล้วพี่ฮงเองเขาก็บอกว่าจะพาฉันไป”
“ตกลงดารงดาราที่อยากเป็นก็ยกเลิกไปด้วยละสิ”
ทองดีตาโต
“อยากสิ พี่ตี๋มีทางเหรอ”
ตี๋ใหญ่ยิ้มให้ ทองดีก็ยิ้มรับอย่างมีหวัง

อาซิ่มยืนขายของอยู่ตามลำพัง ชั่งไก่ให้ลูกค้าแล้วบอกราคา
“คิดไป 140 แล้วกัน”
อา ซิ่มเอาไก่ใส่ถุงให้ลูกค้าแล้วรับเงินทอน แม่ค้าขายผักมองๆแล้วถาม
“ซิ่ม วันนี้ดูหน้าตาสดใสนะ อารมณ์ดีละสิ”
อาซิ่มยิ้ม
“เหรอ อั๊วะว่าก็เหมือนทุกวันนะ”
“แล้ววันนี้อาฮงอีจะมาไหมอ่ะ” แม่ค้าปลาถาม
ชัยดึงแขนแม่ค้าผัก กระซิบกับแม่
“ฉันว่าเบี้ยวชัวร์ แม่พนันกับฉันงิ”
“ไอ้ชัย มึงช่วยไปงิไกลๆ กูเลย รำคาญงิ”
แม่ค้าผักค้อนใส่ชัย
“เห็นอีว่าจะมานะ อีบอกว่าต่อไปนี้ทุกอย่างเหมือนเดิม” อาซิ่มเล่า
“แสดงว่าครอบครัวสุขสันต์แล้ว ดีใจด้วยนะซิ่ม”
“ใช่ ตอนนี้อาฮงกะเมียอีปรับความเข้าใจกัน อั๊วะเห็นลูกมีความสุข อั๊วะก็มีความสุข”
แม่ค้าผักพยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่...หัวอกคนเป็นแม่นะ จะมีอะไรดีไปกว่าเห็นชีวิตลูกเจริญ”
ว่าแล้วก็หันไปตีหัวชัย
“เอ้า...แม่ตีหัวฉันทำไมงิ”
“กูเห็นอาซิ่มมีความสุขแล้วกูทุกข์ เรียนก็ตกๆ หล่นๆ ให้มาช่วยขายของก็มาอ่านการ์ตูน มึงจะจบม.6 ปีไหนเนี่ย”
อาซิ่มกับแม่ค้าปลาหัวเราะขำสองแม่ลูก
“เอ...แบบนี้ซิ่มคงจะได้อุ้มหลานเร็วๆ นี้ละสิ”
แม่ค้าปลาบอก อาซิ่มยิ้มเศร้า
“อั๊วะก็หวังอย่างนั้น ถ้าอาเฮงอีมีพร้อมทั้งลูกทั้งเมีย อั๊วะก็นอนตายตาหลับ”
อาซิ่มยิ้มอย่างมีความสุข

ทองดีกำลังผัดข้าวผัด ขณะที่วีระชัยเดินมาจากด้านหลังแล้วกอด
“ตื่นแล้วเหรอ”
“จ้ะ ทำอะไรหอมจัง”
“ข้าวผัดไก่ พี่ไปนั่งสิเดี๋ยวได้กิน”
วีระชัยไปนั่งที่โต๊ะ ทองดียกจานข้าวมาวางให้
“รู้ไหม พี่รู้สึกว่าพี่โชคดีที่สุดเลยที่มีเมียสวยและน่ารักอย่างทอง”
ทองดียิ้ม
“เออ...วันนี้ฉันขอเงินเพิ่มอีกร้อยได้ป่ะ”
วีระชัยชะงัก
“ทำไม”
ทองดียื่นหน้าเข้าหา
“จะไปซื้อผ้าอนามัย”
วีระชัยลังเล
“งั้นพี่ไปด้วย”
“อ้าว...แล้วพี่ไม่ไปช่วยอาม๊าแล้วเหรอ”
วีระชัยถอนใจวางช้อน
“งั้นเอางี้ เดี๋ยวพี่กลับมาพี่จะซื้อมาให้”
“ไม่เอา เดี๋ยวพี่ซื้อไม่ถูก ฉันจะไปเลือกเอง นี่ ไหนบอกว่าอะไรที่เป็น ความสุขฉัน จะไม่ขัดไง ยังไม่ทันไรแค่ขอไปซื้อของแค่นี้ก็ไม่ให้แล้วเหรอ”
“ก็พี่กลัวว่า...”
ทองดีสวนทันควัน
“กลัวอะไร กลัวฉันจะไปอ่อยใครหรือไง ฉันเบื่อจะพูดเรื่องนี้แล้วนะ”
วีระชัยเสียงอ่อย
“เอาละๆ ถ้าไงรีบไปรีบกลับนะ”
ทองดียิ้มหวานให้ แต่วีระชัยยิ้มรับเจื่อนๆมีกังวล

วีระชัยเดินออกมาพร้อมกับทองดีแล้วแยกไป ทองดียืนส่งวีระชัยเสร็จก็รีบเข้าบ้านหยิบถุงเสื้อออกมายืนรอหน้าบ้าน แล้วเห็นรถมอเตอร์ไซค์ตี๋ใหญ่แล่นมาจอด ทองดียิ้ม
“เราจะไปถ่ายรูปกันที่ไหนอ่ะ”
“ที่ห้างไง”
“ห๊า...ไปถึงห้างเลยเหรอพี่ เดี๋ยวอาม๊าก็กลับมาแล้วนะ”
“ไปแป๊บเดียว อยู่แถวนี้จะไปถ่ายตรงไหนล่ะ เดี๋ยวรูปไม่สวยเขาไม่เลือกเป็นดาราพี่ไม่รู้ด้วยนะ”
ทองดีลังเลแล้วตัดสินใจขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของตี๋ใหญ่ไป

วีระชัยเดินเข้ามาที่แผงขายไก่ แล้วเอาผ้ากันเปื้อนมาผูก อาซิ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ
“เป็นอะไรหรือเปล่า ทะเลาะกับอาทองเหรอ”
“เปล่า”
“ลื้อจะกลับก็ได้นะ อั๊วะอยู่ต่อได้”
“ไม่ต้องหรอก อาม๊ากลับบ้านเถอะ แล้วก็นอนพักผ่อนเยอะๆนะ”
อาซิ่มพยักหน้ารับ แล้ววีระชัยก็ตัดสินใจพูด
“อาม๊า ทองเขาไปซื้อผ้าอนามัยนะ”
อาซิ่มมองสงสัย
“ลื้อกลัวอีหนีไปเที่ยวใช่ไหม”
วีระชัยพยักหน้ารับ
“อาฮง...มาจนป่านนี้แล้ว ลื้อต้องเชื่อใจเมียลื้อนะ ไม่งั้นวันๆ ลื้อไม่ต้องทำอะไรกันพอดี”
“ครับอาม๊า”
อาซิ่มเดินออกจากแผงไป วีระชัยยืนนิ่งเงียบจนลูกค้าเดินมายืนข้างหน้าก็ยังไม่เห็น
“อาฮง ลูกค้า”
แม่ค้าผักเรียก วีระชัยสะดุ้งรีบยิ้มให้ลูกค้า

ในห้างสรรพสินค้า...ตี๋ใหญ่ยืนคอยอยู่ด้านหน้า ทองดีเดินออกมาในชุดใหม่ แล้วถือถุงชุดเก่า ตี๋ใหญ่รับถุงไปถือ
“โอ้โห ทองใส่แบบนี้สวยกว่าตั้งเยอะ เซ็กส์ซี่มาก”
ตี๋ใหญ่มองตาเป็นมัน ทองดียิ้มพอใจแต่แกล้งทำเขิน
“แหม..จะสวยอะไรนักหนา”
“ถ้าไม่เชื่อก็ดูสิ คนมองทองกันใหญ่เลย”
ทองดีมองไปรอบๆ ก็จริงอย่างว่ายิ่งทำให้ยิ้มพอใจมาก
“รีบถ่ายรูปกันเถอะ เดี๋ยวจะได้รีบกลับ”
“รีบทำไม ไหนๆ ก็มาแล้ว อยู่เดินเล่นกันสิ จะดูหนังก็ได้นะ”
ทองดีถอนใจ ตัดใจ
“ไม่เอาหรอก ไป ถ่ายรูปเถอะไหนละกล้อง”
ตี๋ใหญ่เซ็งหยิบมือถือมาให้ทองดีดู ทองดีแปลกใจ
“เนี่ยนะเหรอ ฉันนึกว่าจะเป็นกล้องแบบ....แบบที่มันเป็นกล้องอ่ะ”
“นี่ก็เหมือนกันแหละ มาพี่ถ่ายให้”
ทองดียิ้มแอ๊คตามมุมต่างๆ แบบไม่อายคน

รถตุ๊กๆ แล่นมาจอดหน้าบ้าน อาซิ่มลงมาจ่ายเงินแล้วเห็นหน้าบ้านเปิดทิ้งไว้ก็ส่ายหน้าถอนใจเซ็ง
เดินเข้าไปในบ้าน
“อาทอง...อาทองเอ๊ย”
อาซิ่มเดินไปหลังบ้านก็ไม่เห็นมี ขึ้นไปดูที่ห้องนอนก็ไม่พบ
“เอ้อ...ไปไหนก็ไม่ปิดบ้านด้วย” อาซิ่มส่ายหน้าเบื่อๆ
ช่วงเวลาเดียวกันนั้น ทองวิ่งมาดูรูปตัวเองในมือถือ เธอยิ้มชอบใจ เพราะสวย
“พอหรือยังอ่ะพี่ จะได้กลับกัน”
“แล้วหนังล่ะ เรื่องนี้ทองอยากดูไม่ใช่เหรอ”
“ฉันนัดกับพี่ฮงไว้แล้ว อาทิตย์หน้า”
“งั้นขออีกรูป พี่อยากถ่ายกับทองอ่ะ”
“ก็ได้มาเร็วๆ สิ”
ตี๋ใหญ่ยิ้มพอใจรีบเดินเข้าไป แล้วโอบกอดทองดีแล้วยิ้มถ่ายด้วยกัน ยิ่งถ่ายตี๋ใหญ่ก็ยิ่งโอบกระชับแน่นขึ้นจนทองดีต้องแกะมือออก
”ไปพี่ กลับเถอะ”
ตี๋ใหญ่พยักหน้ารับ ทองดีเดินนำไป ตี๋ใหญ่มองตามแล้วเอามือที่โอบทองดีมาดม แล้วเดินตามไป โดยลืมถุงเสื้อไว้

แม่ค้าแผงต่างๆเก็บแผงกัน แผงของวีระชัยเก็บรีบร้อย ล็อคตู้เย็น
“แหม...อาฮง ตอนเก็บแผงละรีบเลยนะ จะกลับไปหาเมียเหรอ” แม่ค้าผักแซว
“จ้ะ”
ชัยออกความเห็น
“เฮียไม่ซื้อโทรศัพท์ไว้ให้ซ้อเขาสักเครื่องล่ะ จะได้โทรคุยกันตลอดเวลา”
“เอ่อ...คือเขาอยู่บ้านไม่รู้จะให้โทรไปหาใคร”
“ไม่ใช่ว่ากลัวคนโทรเข้ามาจีบเหรอ”
แม่ค้าแซวกันหัวเราะขำ แม่ค้าผักออกความเห็น
“แต่ไม่ซื้อน่ะดีแล้ว เมียออกจะสวยขืนมีโทรศัพท์คงได้ตีกันบ้านแตก”
แม่ค้าปลาตัดบท
“นี่พวกเราไปถ่วงอาฮงมัน ป่านนี้คิดถึงเมียแย่แล้ว”
วีระชัยยิ้มรับแล้วรีบเดินออกไปจากตลาด

ตี๋ใหญ่ขี่รถเข้ามาตามทาง ทองดีรีบบอก
“พี่ตี๋จอดตรงนี้แหละ”
ตี๋ใหญ่หยุดรถ
“ทำไมล่ะกลัวแม่ไอ้ฮงเห็นเหรอ”
“ใช่ ฉันไปนะ”
ทองดีลงจากรถแล้วนึกได้
“พี่...ถุงเสื้อล่ะ”
ตี๋ใหญ่นึกได้
“เฮ้ย...สงสัยลืมไว้ที่ห้าง กลับไปเอาไหม”
ทองดีถอนใจ
“ไม่เอาหรอก ช่างมันเถอะ”
ทองดีเดินเข้าบ้านไป ตี๋ใหญ่เลี้ยวรถไป ทองดีเดินเข้ามาถึงหน้าบ้าน พอเห็นอาม๊านั่งจิบน้ำชาอยู่ก็ตกใจ พยายามทำสงบ
“อาม๊า”
“อาฮงบอกลื้อไปซื้อผ้าอนามัย”
“เอ่อ...ใช่จ้ะ”
“ไหนล่ะ”
“อ๋อ....คือยี่ห้อที่ฉันจะใช้มันหมดน่ะ”
อาซิ่มงง
“แล้วลื้อรอได้เหรอ”
“แหม...ก็มันยังไม่มา กะว่าจะซื้อมาเตรียมรอไว้ก่อน”
ระหว่างนั้นรถตุ๊กๆ วีระชัยแล่นมาจอดหน้าบ้าน วีระชัยลงจากรถแล้วส่งเงินให้ พอเดินเข้ามาเห็นทองดีในชุดใหม่ก็สงสัย
“ทองเปลี่ยนชุดทำไม”
“ก็ออกไปซื้อของไง” เห็นวีระชัยมองสงสัยก็รีบตัดบท “นี่ พี่อย่ามาว่าเรื่องฉันแต่งตัวอีกนะ ถ้าจะออกจากบ้านยังไงฉันก็ชอบแต่งตัว”
“เปล่า พี่ไม่ว่าหรอก แล้วกลับมานานแล้วเหรอ”
ทองดีพูดไม่ออก มองอาซิ่มแบบชะตาขาดแน่ แต่อาซิ่มช่วยพูด
“มานานแล้ว เลยมาคุยกับอั๊วะ...ลื้อไปทำงานเถอะ เดี๋ยวงานบ้านไม่เสร็จ”
ทองดียิ้มแล้วรีบเดินไป วีระชัยมองตามสงสัยแต่ไม่พูดอะไร

ทองดีกำลังทำกับข้าว อาซิ่มเดินเข้ามา
“ทำอะไรเย็นนี้”
“ผัดผักบุ้ง หมูทอด ยำปลากระป๋อง”
อาซิ่มพยักหน้ารับรู้แล้วจะเดินออกไป ทองดีเรียกไว้ก่อน
“อาม๊า”
“มีอะไร”
“ขอบคุณนะที่ช่วยฉัน”
“อั๊วะไม่ได้ช่วยลื้อ อั๊วะช่วยลูกชายอั๊วะ อั๊วะไม่อยากเห็นอาองไม่สบายใจ”
“แหม...นึกว่าอาม๊าจะญาติดีกับฉัน”
“อั๊วะจะดีหรือจะเลวกับลื้อ มันอยู่ที่ตัวลื้อทำดีกับลูกชายอั๊วะหรือเปล่า”
อาซิ่มพูดจบก็เดินไป ทองดีมองตามแล้วเบ้ปากไม่แคร์

วีระชัยเดินเข้ามาเคาน์เตอร์ เจอเพื่อนร่วมงาน กับหัวหน้าทำงานอยู่ วีระชัยรู้สึกแปลกใจ
“อ้าว พี่เกดไปไหนล่ะครับ ทำไมพี่ต้องมาทำเอง”
“ลาออกแล้วน่ะสิพี่ฮง”เพื่อนบอก
วีระชัยตกใจ
“เฮ้ย...ออกได้ไง เมื่อวันก่อนยังเปลี่ยนเวรกับพี่เลย”
หัวหน้าส่ายหน้า
“มันแอบขโมยเงินน่ะสิ พี่เลยต้องให้ออก นี่พี่ก็รอจะคุยกับฮง”
“เรื่องอะไรครับ”
“กว่าเราจะได้พนักงานใหม่คงอีกระยะ ฮงกับศักดิ์ อย่าเพิ่งหยุดในช่วงเดือนนี้ แล้วพี่จะคืนวันหยุดให้ตอนได้คนใหม่”
วีระชัยกับเพื่อนมองหน้าเครียดๆ ตัดสินใจไม่ถูก

หลายวันต่อมา...ทองดีซักผ้าฟังวิทยุร้องเพลงตาม เพลงสนุก ทองดีลุกขึ้นเต้นร้องตาม แล้วกระโดดไปยืนในกาละมังใช้เท้าซักๆ วีระชัยเดินมาแล้วยืนแอบดูขำเอ็นดู ทองดียังไม่เห็นวีระชัย จนวีระชัยเดินมาใกล้ๆทองดีเริ่มรู้ตัวหันมามองก็ตกใจเขิน
“ว๊าย...พี่อ่ะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็นานจนได้เห็นเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่น่ะ”
วีระชัยหัวเราะ ทองดีได้สติรีบกระโดดออกจากกาละมัง
“เดี๋ยวฉันซักให้ใหม่”
“พี่ไม่บอกอาม๊าหรอก”
ทองดีหัวเราะ
“วันนี้พี่หยุดนี่ ไม่ลืมสัญญาที่จะพาฉันไปดูหนังนะ”
วีระชัยพอได้ยินประโยคนี้ก็ชะงักอึ้งไป ทองดีมองสงสัย
“มีอะไรเหรอ”
“เราเลื่อนไปอีกหน่อยได้ไหม”
“เลื่อน จะเลื่อนไปไหนอีก หนังออกจากโรงกันพอดี ฉันรอมาอาทิตย์นึงแล้วนะ”
วีระชัยถอนใจเครียด
“มันมีน้องที่ทำงานลาออกไปคนหนึ่ง ตั้งแต่คืนนี้พี่คงต้องไปเร็วขึ้นแล้วก็กลับสายหน่อย”
ทองดีเริ่มหงุดหงิด
“งั้นก็ไปกลางวัน วันนี้นะ”
“ไม่ได้หรอก พี่ยังไม่ได้บอกอาม๊าเลย ว่าจะไม่ได้ไปช่วยแก แล้วนี่พี่ก็ยังไม่ได้นอน เอาไว้วีซีดีออกเราไปเช่ามาดูก็ได้นะ”
ทองดีโมโหกันริมฝีปากแล้วล้างมือล้างเท้า วีระชัยรู้สึกผิดจะเข้าไปปลอบ ทองผลักวีระชัยที่ขวางทาง วิ่งขึ้นข้างบน วีระชัยรีบวิ่งเรียกตามไป

ทองดีเปิดประตูห้องเข้ามา แล้วเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเสื้อ วีระชัยเดินตามเข้ามา
“ทองจะทำอะไร”
ทองดีไม่สนใจเลือกเสื้อไปด้วย
“จะไปดูหนัง”
“กับใคร”
“คนเดียว”
ทองดีดึงเสื้อตัวสวยออกมาจากตู้ วีระชัยรีบดึงเสื้อจากมือทันที
“พี่ไม่เชื่อ พี่ไม่ให้ไป จะไปนัดกับใคร”
“ฉันไม่ได้นัดใคร แต่พี่สัญญาแล้วมาเบี้ยว ฉันก็ไปเองสิ”
วีระชัยเสียงอ่อนลง
“โธ่ เห็นใจพี่บ้างสิ พี่ก็ต้องทำงาน เรื่องนี้ไม่ได้ดูไว้เรื่องหน้าก็ได้”
“แต่ฉันอยากดูเรื่องนี้ บอกฉันมาตรงๆ ดีกว่า ว่างก ไม่อยากพาฉันไปเที่ยวใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะ อย่าเข้าใจผิด”
“ฉันไม่เชื่อ พี่โกหก เอาเสื้อมานี่ ฉันจะไปข้างนอก”
ทองดีจะแย่งเสื้อแต่วีระชัยไม่ยอม ทองดีทั้งทุบทั้งตี สุดท้ายวีระชัยดึงทองดีมากอด
“ทอง พี่ขอให้ทองรออีกเดือนเดียว พอมีคนใหม่มาทำงาน พี่จะพาทองไปเที่ยวทันที ทองอยากได้อะไรพี่จะซื้อให้นะ แต่วันนี้ทองอย่าไปเลยนะ”
ทองดีผลักวีระชัยออกแล้วจ้องหน้า แล้วเดินยืนมองที่หน้าต่างนิ่งไม่พูดอะไร วีระชัยเห็นก็เดินไปจับไหล่
“ที่พี่ทำแบบนี้เพราะพี่รักทองนะ”
ทองดีนิ่งไปด้วยความเครียด

หน้าร้านขายของชำ...ตี๋ใหญ่ส่ายหน้าทำเป็นสงสาร
“ไม่ไหว ไม่ไหว พี่ว่าไอ้ฮงมันกะเบี้ยวทองอย่างที่ทองว่าแหละ บ้านนี้มันงก พี่ว่ารออีกสิบชาติมันก็ไม่พาทองไปเที่ยวหรอก”
“ก็ลองดูสิ ถ้าเดือนหน้าไม่พาฉันไป แม่จะด่าให้บ้านแตกเลย”
“ได้ข่าวว่าด่ามาแล้วหลายรอบไม่ใช่เหรอ”
ทองดีถอนใจเฮือกใหญ่ เพราะจริงอย่างที่ตี๋ใหญ่พูด
“ก็ไปเองเลยสิ”
ทองดีมองหน้าตี๋ตั้งใจรอฟังคำอธิบาย
“ไอ้ฮงน่ะมันไม่พาทองไปเที่ยวแบบนี้มันเห็นแก่ตัวชัดๆ พี่ว่าทองอย่าไปง้อมันเลยพี่พาไปเอง”
“จะดีเหรอ”
“ดีสิ ไม่ทำแบบนี้ ทองจะรอให้ไอ้ฮงคิดได้เหรอ ไม่มีทาง”
ทองดีลังเล แล้วตัดสินใจ
“ได้ ฉันจะให้พี่พาฉันไปเที่ยว”
“ไม่มีปัญหา ตี๋ใหญ่ดูแลเอง”
ทองดีนึกได้
“...แล้วเรื่องที่พี่ถ่ายรูปฉันล่ะ ส่งไปหรือยัง”
“เอ่อ...ส่งไปแล้ว เขายังไม่ตอบเลย รออีกหน่อยนะ”
“ได้จ้ะ นานแค่ไหนก็รอได้”

ทองดียิ้มอย่างมีความหวัง






Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2555 2:20:38 น.
Counter : 415 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]