All Blog
ทองประกายแสด ตอนที่ 8



ค่ำนั้น...มนตรากับลูกวง เล่นสดบนเวที โดยมี ทองดี จูนและเหล่าโคโยตี้เต้นตามปกติ แขกคนหนึ่งตะโกนขึ้น

“ทองประกายของพี่ วันนี้ในโบรชัวร์บอกมีทีเด็ด”
วิไลยิ้มแย้มตอบ
“มีสิคะ อดใจรอนิดนึงนะคะ ได้เห็นแน่รับรอง”
แขกอีกคนทำท่าตื่นเต้น
“หรือว่า เขาจะเซอร์ไพรส์กับพวกเรา แบบให้ไปโชว์ส่วนตัวกันแน่วะเนี่ย”
“จริงง่ะ” แขกหันไปถามนรินทร์ “เป็นอย่างนั้นใช่มั๊ย...ผมจองก่อนเลยนะคุณนรินทร์ ไม่ได้มีเคืองนะ บอกไว้ก่อน”
วิไลยิ้มอย่างใจเย็น นรินทร์ทำหน้าจ๋อยๆ
“ใจเย็นๆนะครับ มีเซอร์ไพรส์แน่นอน รับรองครับ”

บนเวที ทองดีเริ่มออกลวดลาย ด้วยชุดที่เซ็กซี่กว่าปกติ แขกตบมือเฮกันลั่น ทองดีหันไปหาวง
“เอ้า หนึ่ง...สอง...สาม...ไป”
ทองดีลิปซิ้งค์ เต้นโชว์ จูนและเหล่าโคโยตี้กลายเป็นแดนซ์เซอร์ คนดูอึ้งตะลึงกับโชว์ ปรบมือ อย่างมีอารมณ์ร่วม...วิไลยืนมองอย่างภูมิใจ นรินทร์เริ่มผ่อนคลาย
“สุดยอด...สุดยอดจริงๆ”
นรินทร์หันไปมองเห็นแขกทุกคนท่าทางสนุกสนานไปกับโชว์ เขายิ้มออกปรบมือสนุกไปกับคนดูด้วย...ทองดีลิบซิ้งค์และเต้นโชว์จนจบเพลง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับมนตราอย่างมีความสุขคนปรบมือกันลั่น
หลังจากโชว์จบ ทองดียืนจับกลุ่มคุยกับจูนและเหล่าแดนเซอร์อยู่หลังเวที
“โอ๊ย...เมื่อกี้นะ ฉันแทบจะลืมจังหวะ เวลาซ้อมก็แทบไม่มี” จูนบ่นอุบ
ทองดียิ้มแย้มให้ทุกคน
“ขอบใจนะ ทุกคน”
“ไม่ต้องขอบใจหรอก วันนี้สนุกจะตาย แถมยังได้ทิปเยอะกว่าเดิม ฉันว่าพวกเราต้องขอบคุณทองมากกว่านะ”
อีกด้านหนึ่ง มนตรายืนคุยอยู่กับลูกน้องในวงแต่ตาแอบเหล่มองทองดีอยู่ตลอดพอได้จังหวะ เขาก็เดินเข้าไปคุยกับเธอ จูนพอเห็นมนตราเดินเข้ามารีบบอกกับเหล่าโคโยตี้
“เฮ้ย...ไปพวกเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”
จูนกับพวกเดินเลี่ยงออกไปอย่างรู้คิว มนตรายิ้มให้ทองดี
“วันนี้เธอทำได้ดีนะ เก่งมาก เอาคนดูอยู่เลย”
“ขอบคุณนะคะ ที่สอนฉัน”
ทั้งคู่สบตากัน ทองประกายยิ้มเขิน
“จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใช่ไหม งั้นฉันเดินไปส่ง”
ทองดีมองงงๆ
“ก็จะคุยเรื่องที่ต้องเรียนร้องเพลงไง”
มนตราเดินมาส่งทองดีที่หน้าห้องแต่งตัว
“ถึงแล้ว ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”
นรินทร์เดินตรงรี่เข้ามาหาทองดี
“ทองประกาย เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ไปทักทายกับแขกหน่อย”
ทองดีทำหน้าอึดอัด มนตรามองเธออย่างประเมิน
“เอ่อ...ฉัน...ฉันเป็นนักร้องแล้วยังต้องไปนั่งดริ๊งค์อีกเหรอ”
“จริงๆก็ไม่อยากให้ไปนะ แต่รายนี้น่ะวีไอพีมาก เปิดเมมเบอร์ทีห้าร้อยขวด ฉันถึงยอมให้เธอไปนั่งดริ๊งค์”
ทองดีถอนใจ
“งั้นรอแป๊บนะคะ”
ทองดีจะเดินไปแต่มนตราพูดขึ้นก่อน
“แต่ผมว่า ถ้าใครรู้ว่านักร้องของที่นี่ ต้องนั่งดริ้งค์ด้วย มันจะทำให้คลับคุณดูโลว์นะ ถ้าคุณอยากรักษาระดับคลับให้ดูดีล่ะก็ ผมว่าอย่าดีกว่า”
“อ้าว...แต่ถ้าทองไม่ไปผมก็ขาดรายได้จากค่าดริ๊งค์น่ะสิ” นรินทร์แย้ง
“ไม่ขาดหรอกครับ ผมรับรอง ถ้าคลับคุณดูมีคลาส ทีนี้ จะขึ้นราคาอะไรก็ได้ โชว์ เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่ง น้ำแข็งเปล่า คุณกำไรมากกว่าค่าดริ้งค์อยู่แล้ว ลองคิดดูดีๆนะครับ”
นรินทร์นิ่งคิด เริ่มคล้อยตาม มนตราย้ำ
“ลองคำนวณตัวเลขให้ดี ได้ไม่มีเสียแน่นอน”
“ก็ได้วะ...เอาก็เอา...ยอมโดนด่าเอาหน่อยแล้วกัน เธอไม่ต้องนั่งดริ้งค์ก็ได้ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
นรินทร์เดินออกไป มนตราหันไปยิ้มให้ทองดี
“ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉัน”
“ไม่เป็นไร เรื่องเล็ก แล้วเธอล่ะเสียดายเงินที่หายไปหรือเปล่า”
“เฮ้อ...ไม่เลย โล่งใจด้วยซ้ำ ฉันอยากขายความสามารถ ไม่ได้อยากขายตัวนะคุณมนตรา”
ทองดีร่าเริงหน้าตามีความสุข มนตรามองอย่างชื่นชม แล้วเดินมาส่งทองดีถึงหน้าห้องพักของวิไล
“ถึงแล้วฉันพักห้องนี้แหล่ะ”
มนตรามองรอบๆ
“อยากจะออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกหรือเปล่า”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันก็ถามดู เพราะต่อไปเธอจะมาเป็นนักร้องในวงฉัน ก็เหมือนเป็นลูกน้องของฉันด้วย ฉันต้องดูแลความเป็นอยู่ของเธอ”
“อย่าดีกว่า ห้องที่นี่ก็ดีแล้ว และที่ฉันชอบเพราะฉันมีเพื่อนอยู่ที่นี่ มัน อบอุ่นดี”
ทันใดนั้นเสียงนรินทร์ดังขึ้น
“ถูกต้องแล้วจ้ะทองประกาย”
มนตรากับทองดีหันไปตามเสียงก็เห็นนรินทร์เดินเข้ามาหา
“จะย้ายทำไม ถ้าอยากได้ห้องดีกว่านี้ ก็ไปอยู่ห้องที่ฉันจัดให้แล้วล่ะ”
ทองดีเบ้ปาก
“อ๋อ...ที่เขาว่าเป็นห้องที่คุณไว้เชือดเด็กน่ะเหรอ”
มนตราจ้องมองนรินทร์ทันที นรินทร์หน้าเสีย
“เฮ้ย...เธอก็พูดเกินไป ถ้าเป็นทองประกายน่ะ ฉันให้กุญแจแล้วสัญญาว่าจะไม่เหยียบห้องนั้นเด็ดขาด”
“เอาเป็นว่า ฉันอยู่ห้องนี้แหละ ไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันขอตัวนะคะ”
ทองดีไขกุญแจห้องแล้วเดินเข้าไปปิดประตู มนตรากับนรินทร์มองหน้ากันอย่างไม่ค่อยชอบหน้ากัน นรินทร์รีบบอก
“ดึกแล้วกลับสิครับ”
มนตรายิ้มแล้วเดินออกไป

ทองดีอยู่ในชุดนอนนั่งในห้องอย่างสบายใจ วิไลที่นุ่งกระโจมอกออกมาจากห้องน้ำเดินเช็ดหัวมานั่งคุยด้วย
“เธอนี่บ้าหรือเปล่าเนี่ย ไหนจะคุณนรินทร์เสนอห้อง ไหนจะหัวหน้าวงจะหาที่อยู่ดีๆให้ แล้วจะมาอุดอู้อยู่ที่นี่อ่ะนะ”
“ตลอดชีวิตของฉันนะ ฉันไม่เคยมีเพื่อนเลย ฉันเลยไม่รู้ว่า เพื่อนดีน่ะน่าคบหาไว้ ขอใช้เวลาอยู่กับเพื่อนบ้างไง อยู่กับผู้ชายมาตลอด เบื่อแล้ว ฮ่าๆๆ”
วิไลขำๆ
“เออ ฟังแล้วซึ้ง”
“เฮ้ย...ฉันน่ะเสียใจเรื่องพี่เมย์ แต่ความจริงพี่เมย์ก็ เป็นคนดี และยิ่งจูนที่อภัยฉัน กับพี่ที่ดูแลฉันดี๊ ดี”
วิไลเขิน
“อย่ามาหวาน ฉันฟังแล้วจักกะจี๋...”
“อีกอย่างพี่แก่แล้ว คงไม่มาแย่งผู้ชายกับฉันหรอก”
“อ้าว...เดี๋ยวพี่ถีบกระเด็นเลย”
สองคนหัวเราะขำ สักครู่ทองดีก็ท่าทางจริงจังขึ้น
“จริงนะพี่วิไล ฉันรู้สึกว่า พี่เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่สาวนี่แหละ ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า ห้องสวยๆ แอร์เย็นๆ อาจทำให้ฉันสบายกาย แต่เพื่อนต่างหากที่ทำให้ฉันสบายใจ”
วิไลมองเพื่อนรุ่นน้องอย่างซึ้งใจ
“ขอบใจเธอมากนะทอง เธอทำให้ผู้หญิงต่ำๆอย่างฉัน รู้สึกมีคุณค่าขึ้นอีกแยะเชียว”
ทั้งคู่สบตากันแล้วยิ้ม เข้าใจกันมากขึ้น
“ตอนนี้เธอกำลังจะได้เป็นนักร้องแล้ว ยังอยากเป็นดาราอยู่อีกหรือเปล่า”
ทองดียิ้ม
“แน่นอนที่สุด ฉันยังไม่ทิ้งความฝันหรอก ยังไงฉันต้องตะเกียกตะกายให้ถึงจนได้...แล้วพี่ล่ะ ฝันอยากได้อะไรอีก”
วิไลเขิน
“ถ้าพี่บอกแล้ว...เธออย่าล้อพี่นะ...พี่ฝันอยากจะมีครอบครัว มีลูกน่ารักซักคน พี่รักเด็ก พี่อยากเป็นแม่น่ะ”
“พี่คิดแบบนั้นจริงๆหรือ”
“จริงสิ ถ้ามีผู้ชายซักคน ขอแต่งงานกับพี่ พี่จะเลิกชีวิตแบบนี้ทันที”
“แล้วมันจะมีเหรอ ผู้ชายที่มันอยากจะจริงจังจริงใจกับผู้หญิงกลางคืนอย่างพวกเรา”
“จริงๆมันก็คงไม่มีหรอก แต่พี่แค่อยากให้มีสักคนน่ะ”
ทองดีถอนใจ
“จะว่าไปฉันก็อยากให้มีเหมือนกันนะ แต่ในเมื่อผู้ชายดีๆมันไม่มี ขอเอาเงินเอาชื่อเสียงดีกว่า ฉันจะไม่รักใครอีก”

เช้าวันใหม่...ทองดียังนอนหลับอยู่ เสียงโทรศัพท์บนหัวนอนดังขึ้น ทั้งทองดีทั้งวิไลต่างสะดุ้งตื่น ทองดีเอื้อมมือไปรับทั้งที่ยืนหลับตาอยู่
มนตรา ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างรถที่หน้าคลับของนรินทร์
“ตื่นได้แล้ว ฉันมารอเธออยู่ที่หน้าคลับแล้ว”
ทองดีหยิบนาฬิกามาดูเห็นว่าเป็นเวลาสิบโมงเช้า
“จะไปไหน นี่เพิ่งจะสิบโมงเช้าเอง ขอนอนก่อนได้มั๊ย”
“ได้...แต่ฉันจะปลดเธอออกจากนักร้อง”
ทองดีกดโทรศัพท์ปิด เด้งตัวขึ้นจากที่นอนด้วยความโมโห
“ตาบ้า”
วิไลงัวเงียชึ้นมา
“ใครอ่ะ พวกโรคจิตเหรอ ฉันด่าให้เอาไหม”
“ไม่ใช่หรอก อีตาหัวหน้าวง มาคอยฉันแล้ว ไม่รู้จะบ้าอะไรขึ้นอีก”
ทองดีลุกขึ้นอย่างเซ็งๆแล้วรีบเข้าห้องน้ำทันที วิไลมองตามยิ้มๆ
“ปากด่าแต่ก็รีบไป”
วิไลอมยิ้มแล้วนอนหลับต่อ

มนตรายืนพิงหลังรถรออยู่สักครู่ ทองดีเดินแต่งตัวเรียบร้อย อ้าปากหาวมาแต่ไกล
“จะไปไหนเนี่ย...ทำไมต้องเช้าขนาดนี้”
“อย่าขี้เกียจสิ ถ้าไม่เรียน ไม่ฝึก เธอจะไปทันใครเขา...เธอต้องเรียน...”
ทองดีชะงักส่ายหน้าทันที
“ไม่เอานะ ฉันไม่ไปโรงเรียนหรอก...จะบ้าหรือ โตป่านนี้ไปโรงเรียน อายเขาตาย”
“ไม่ได้ไปโรงเรียน ฉันจะพาเธอไปเรียนโน้ตเพลง แล้วก็ภาษาอังกฤษเป็นนักร้องต้องรู้พื้นฐานดนตรี แล้วจะร้องแต่เพลงไทยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรู้ หลายๆภาษาถึงจะได้เปรียบ”
“แน่ใจนะ ว่าไม่ต้องไปโรงเรียน”
มนตราทำท่าสาบาน
“รับรองได้...เชิญขึ้นรถเถอะครับ คุณผู้หญิง”
ทองดีมองหน้ามนตราแล้วตัดสินใจเดินขึ้นรถ มนตราปิดประตูแล้วส่ายหน้าขำ
“ดื้อจังแฮะ...ไม่ไปโรงเรียนท่าเดียว”
มนตราขับรถเข้ามาจอดในบ้าน ทองดีเดินลงมามองรอบๆท่าทางตื่นเต้น
“นี่ที่ไหนอ่ะ สวยจัง บ้านคุณเหรอ”
“บ้านของครอบครัวฉันเอง”
ทองดีงงๆ
“ของพ่อแม่คุณ ก็เหมือนของคุณนั่นแหละ”
มนตรายิ้ม
“ถ้าจะบอกว่าเป็นของฉัน หมายถึงฉันต้องสร้างด้วยตัวเอง นี่ไม่ใช่ เข้าใจมั๊ย”
ทองดีส่ายหน้าแบบไม่เข้าใจ
“เฮ้อ...เธอนี่ บทจะเข้าใจยากก็ ยากซะจริงๆ ไปเข้าบ้านเถอะ”
มนตราจะเดินนำเข้าไปแต่ทองดีรีบจับมือไว้
“เธอแตะอั๋งฉันทำไม”
ทองดีค้อนแล้วปล่อยมือ
“ไม่ค่อยเลยนะ ฉันจะถามว่าแล้วนี่คุณพาฉันมาเจอกับพ่อแม่คุณทำไม ไหนบอกจะพาฉันไปเรียนหนังสือไง แล้วพ่อแม่คุณดุไหม แล้วฉันต้องทำไงบ้าง ฉันไม่เคยเข้าหาผู้ใหญ่นะ”
มนตราหัวเราะ
“ครอบครัวฉันอยู่ทางเหนือ แล้วเราจะเรียนกันที่นี่ โดยฉันเป็นคนสอน สงสัยอะไรอีกไหม”
“โล่งอก...งั้นก็พาฉันเข้าไปสิ”
มนตราเดินนำเข้าบ้านถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน ทองดีมัวแต่ตาโตมองรอบๆตัวอย่างตื่นเต้นเดินเข้าบ้านทั้งรองเท้า ละเอียดเดินมาเปิดประตูรับของจากมนตรา
“อ้าว...ทำไมวันนี้กลับเร็วจังคะ”
ละเอียดเห็น ทองดีเดินตามนตราเข้ามาในบ้านก็มองสำรวจหัวจรดเท้า ก่อนจะโวยวายลั่น
“ตายจริง คุณใส่รองเท้าย่ำเข้ามาในบ้านแบบนี้ ก็เลอะเทอะหมดสิคะ”
มนตรานึกได้
“จริงสิ ลืมบอกไป...ทองประกาย ต้องถอดรองเท้าไว้หน้าประตูก่อน”
ทองดีรีบหันไปถอดรองเท้าของตัวเองออก แล้วเอาเท้าเขี่ยไปไว้อีกทาง ละเอียดมองอย่างไม่ชอบใจ
“พี่เอียด...นี่ทองประกาย นักร้องในวงของฉัน” มนตราหันไปหาทองดี “ทองประกาย นี่พี่เอียด แม่บ้านของฉัน”
ทองดียกมือไหว้แผล่บ ละเอียดมองอย่างไม่ชอบใจ
“อ้อ...เป็นนักร้องนี่เอง คุณมน จะทานกลางวันที่บ้านหรือเปล่า เอียดจะได้ให้เด็กเตรียมให้”
มนตราหันไปถามทองดี
“ยังไม่ได้ทานอะไรมาใช่มั๊ย”
“ใครจะไปมีเวลา เล่นปลุกฉันแต่เช้านี่ ตอนนี้ฉันกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว”
ทองดีบ่นไปตามเรื่อง แล้วเดินหยิบโน่นดูนี่ มนตรามองแล้วยิ้ม
“งั้นขออะไรให้คุณทองประกายทานเล่นรองท้องก่อนดีกว่า พี่เอียดช่วยเอาไปให้ที่ห้องซ้อมเลยนะ”
มนตราก็พาทองดีเดินไป ละเอียดมองตามอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ทองประกาย...แหม...ดูแต่งตัวเข้าสิ ยังกะพวกอย่างว่า...หน้าตาก็สวยดีหรอก ไม่มีมารยาทเล๊ย...ผู้หญิงอะไร เอาเท้าเขี่ยข้าวของ...น่ารังเกียจ”
ละเอียดเดินบ่นกระปอดกระแปดเข้าครัวไป

มนตราพาทองดีเข้ามาในห้องทำงาน เธอมองรอบตัวอย่างทึ่งๆในห้องมีเปียนโนวางไว้ มีเครื่องนับจับหวะ ทองประกายเดินไปจับอย่างสนใจ
“นาฬิกาคุณหรือ หน้าตาแปลกๆ”
“นั่นเรียกว่า เครื่องนับจังหวะ ไม่ใช่นาฬิกา”
ทองดีเขินๆ
“ถึงว่า ไม่เห็นมีตัวเลข มีแต่เข็ม...นี่คุณทำงานในห้องนี้หรือ เงียบจังเลยเนอะ”
“ใช่...เวลาทำงาน ต้องใช้สมาธิ”
ทองดีพยักหน้าหงึกหงัก
“แล้วแม่บ้านคุณเนี่ย ทำไมดุชะมัด เป็นแค่คนใช้เอง”
“อย่าเรียกแบบนั้น พี่เอียดน่ะ เกือบจะเหมือนญาติอยู่แล้ว ตั้งแต่ฉันเล็กๆแล้ว พี่เอียดก็ดูแลมาตลอด”
“มิน่า อยู่มานานนี่เอง ถึงได้ทำตัวยังกับเจ้าของบ้าน”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ละเอียดประคองถาดอาหารเข้ามาวางบนโต๊ะ สองสาวแอบเหลือบตามองกันแบบเขม่นกัน ทองดีหยิบอาหารกินทันทีโดยไม่ใช้ช้อน ละเอียดมองตาเขียว
“ทำไมไม่ใช้ช้อนส้อมล่ะคะ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย อยู่ที่บ้านฉันก็ใช้มือแบบนี้แหละ”
“ตายจริง...มือน่ะไปจับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ สกปรกจะแย่”
ทองดีเริ่มหงุดหงิดเอามือจับแก้วน้ำถูๆแล้วเอามือมาเช็ดกับเสื้อ ละเอียดส่ายหน้า
“ล้างมือในห้องน้ำดีกว่าไหม”
“โอ๊ย...อะไรกันนักกันหนา ยุ่งกับฉันจริง”
ละเอียดหน้าเสียไป มนตราต้องรีบตัดบท
“ขอบคุณนะพี่เอียด”
ละเอียดค้อนใส่ทองดีแล้วสะบัดหน้าเดินออกไป ทองดีแกล้งพูดไล่หลัง
“คุณอยู่ร่วมบ้านกับคนน่าเบื่อแบบนี้ได้ไง”
ละเอียดกำลังจะออกไปได้ยินก็ชะงัก แต่ไม่หันกลับใช้วิธีปิดประตูกระแทกเสียงดัง ทองดีตกใจหันมอง
“พี่เอียดเขาอาจจะดูดุไปหน่อย แต่เขาเป็นคนทำงานดีมาก แล้วก็ไว้ใจได้”
“ดีเหมือนแม่ว่างั้นเถอะ”
มนตราขำที่ทองดีประชด ละเอียดเดินออกจากห้องอย่างอารมณ์เสีย
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคุณมนจะคบผู้หญิงแบบนี้...ไม่ได้การล่ะ ต้องคอยจับตาดูให้ดี”
ละเอียดทำท่าจะเดินออกไปแล้วนึกได้ เอาหูแนบประตูห้องแอบฟังการเคลื่อนไหวต่อ สักพัก ไม่ได้ยินอะไร เธอเดินออกไปพยายามหามุมที่เหมาะๆแอบดูมนตรากับทองดีอย่างเอาจริงเอาจัง
มนตราเปิดสมุดโน้ตเพลงให้ดู ทองดีประกายมองตาโตแล้วส่ายหน้า
“ฉันจำได้ไม่หมดหรอก ตัวอะไรเนี่ย ยึกยือๆ”
“เป็นนักร้องต้องรู้โน้ตพื้นฐานบ้าง ลองออกเสียงตามฉัน...โด...”
ทองดีทำเสียงตาม
“โด...” ทองดีหัวเราะ “อะไรมันโด่...”
“อย่าทำเป็นล้อเล่น...ตั้งใจหน่อยสิ”
มนตราทำหน้าดุ ทองดีจ๋อย แล้วเริ่มตั้งใจอย่างจริงจัง...มนตราสอนให้ทองดีเปล่งเสียง เขาเดินมาด้านหลังของเธอ แล้วผลักให้เธอตัวตรงอย่างสง่า ซ้อมเพลงกันไปเรื่อยๆ
มนตรานั่งลงเล่นเปียนโน แล้วให้ทองดีร้องคลอตาม เธอยืนร้องเพลงอย่างจริงจัง จนจบเพลง มนตรายิ้มอย่างพอใจ
“ทำได้ดีมาก เห็นมั๊ย เวลาที่ร้องเพลง แล้วเปล่งเสียงออกมาจากท้อง จะไม่เหนื่อย”
“จริงด้วย พอหัดหายใจอย่างที่คุณว่า ฉันรู้สึกเหมือนเสียงมันดังขึ้น”
“ถ้าฝึกดีๆ ต่อไปนี้ทั้งร้องทั้งเต้น เสียงก็จะไม่สั่น แล้วก็เหนื่อยน้อยลง”
“เนี่ยนะ ขนาดเหนื่อยน้อยลง ฉันรู้สึกเหมือนจะขาดใจเลย”
“อย่าเพิ่งขาดใจ ลุกขึ้นมายืนก่อน”
ทองประกายลุกขึ้นยืน หลังงออย่างเหนื่อยๆ มนตราเดินไปด้านหลัง จัดท่าให้ทองดียืนตัวตรง จนดูเหมือนกับ มนตรากับทองดีกอดกัน ละเอียดมองอย่างตกใจ
“ตายจริง...คุณมน ทำอะไรน่าเกลียด ถ้าขืนคุณผู้หญิงรู้เข้า มีหวัง เอียดโดนด่าเละ”
ละเอียดร้อนๆ รนหาทางแก้ไข
“เข้าไปห้ามเลยดีมั๊ยเนี่ย...” ละเอียดคิดๆเอาไงดี “ไม่ได้หรอก มีหวังคุณมนจะเกลียดเราซะอีก...อ๋อ...คิดออกแล้ว”
ละเอียดรีบเดินเข้าไปในบ้านทันที มนตราพยามจัดให้ทองดียืนตัวตรง เธอเริ่มเหนื่อย พอเขาถอยห่างออกมาเธอก็ทรุดตัวลงนั่ง อย่างหมดแรง
“ไม่ไหว ฉันเหนื่อยจังเลยขอพักแป๊บนึงได้มั๊ย”
มนตรามองทองดีอย่างขำๆ ขณะเดียวกันนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มนตรามองดูเบอร์โทรศัพท์
“คุณแม่โทรมา”
มนตราเดินเลี่ยงออกไปจากห้อง
มนตรายืนคุยโทรศัพท์อยู่ในห้องรับแขก พยายามอธิบายให้แม่ฟัง
“อ๋อ...เธอเป็นนักร้องใหม่ในวงของผม แค่นั้น...ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณแม่ก็รู้ว่าพี่เอียดเขาก็เว่อร์ไปเรื่อย...ครับผมทราบครับ ไว้ผมมีแฟนเมื่อไหร่จะรีบโทรบอกคุณแม่ทันทีครับ...ผมขอตัวไปทำงานก่อนครับ”
มนตราปิดโทรศัพท์อย่างเบื่อๆ แล้วนิ่งใช้ความคิด ละเอียดเดินเข้ามา
“พี่เอียด...เมื่อกี้คุณแม่โทรมา”
ละเอียดทำตื่นเต้นเกินเหตุ
“หรือคะ แล้วคุณผู้หญิงว่ายังไงบ้าง เรื่องผู้หญิงคนนั้น”
ละเอียดทำท่าไม่รู้ไม่เห็นแบบเว่อร์ๆ มนตรายิ้มขำ
“อ๊ะ...พี่เอียดทราบได้ยังไง ว่าคุณแม่พูดเรื่องอะไร”
“อุ๊ย...เอียดไม่ได้พูดนะคะว่า แม่คนนั้นชื่อทองประกาย...อุ๊ย...”
ละเอียดนึกได้รีบเอามือปิดปาก มนตราหัวเราะขำ
“พี่เอียด ขอบใจที่เป็นห่วงนะ แต่คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเลย เพราะคนที่จะไม่สบายใจคือคุณแม่”
“แหม...ก็เอียดกลัวแม่นั่นจะจับคุณมนน่ะสิคะ”
“แล้วไม่กลัวฉันเป็นฝ่ายไปจับเขาบ้างเหรอ”
“นั่นไง เอียดว่าแล้ว”
“ฉันล้อเล่น...เอาเป็นว่าถ้าฉันจะชอบใครรักใคร นอกจากคุณพ่อคุณแม่แล้ว ฉันจะขออนุญาตพี่เอียดอีกคนนะ”
“คุณมนน่ะ ล้อเล่นอยู่เรื่อย”
มนตรายิ้มแล้วเดินออกไป ละเอียดเหนื่อยใจ
“ตกลงคุณมนชอบหรือไม่ชอบแม่นั่นเนี่ย”








Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:17:49 น.
Counter : 465 Pageviews.

0 comment
ทองประกายแสด ตอนที่ 7 (ต่อ)



เย็นนั้น...ทุกคน อยู่ในห้องแต่งตัวนั่งฟังนรินทร์อธิบาย

“วันนี้คงต้องเต้นหลายรอบหน่อย”
“ทำไมล่ะคะปกติเราก็เต้น 2 รอบอยู่แล้ว” จูนถามอย่างสงสัย
“ใช่...วันนี้เราไม่มีวงเล่น”
พนักงาน หันไปซุบซิบกัน ท่าทางวิตก
“วงดนตรีเราถูกซื้อตัวไปเล่นที่คลับเฮียบุ๋นแล้ว เขาคงโกรธที่ทองประกายกับจูนมาอยู่กับเรา”
ทองดีเป็นเดือดเป็นแค้น
“ไอ้เฮียบุ๋น...นี่มันเลวได้โล่ห์จริงๆ...ฉันจะโทรไปด่ามันเอง”
นรินทร์ห้ามไว้
“ช่างมันเถอะ ธุรกิจก็แบบนี้ ใครดีใครได้”
“แบบนี้แขกเราก็ต้องตกลงน่ะสิคะ”
นรินทร์ยิ้ม
“ไม่หรอก เพราะผมได้เรียกวงใหม่มาคุยคืนนี้แล้ว ถ้าเขารับเล่นรับรองแขกต้องเยอะแน่ เพราะวงใหม่นี่สดกว่าดังกว่า” นรินทร์ถอนใจ “แต่ก็แพงกว่า”
วิไลเหล่มอง
“แหม...เฮีย...เดี๋ยวพวกหนูถอนทุนให้เอง”
ทุกคนหัวเราะมีความสุข

ค่ำนั้น...ทองดี จูน และโคโยตี้เต้นสนุกสนาน วิไลและผองเพื่อนต้อนรับแขกอย่างดี เมื่อเต้นเสร็จ ทองดี วิไล จูน มานั่งคุยกันในห้องแต่งตัว จูนยิ้มพอใจ
“ได้เงินค่าทิปค่อยคุ้มเหนื่อยหน่อย”
ทองดีพยักหน้าเห็นด้วย
“ทำงานแบบนี้เงินมันหาง่ายเนอะ”
วิไลถอนใจก่อนจะเอ่ยเตื่อนเพื่อน
“ใช่...มันหาง่าย แต่ก็ใช้ง่ายเหมือนกันแหละ ต้องรู้จักเก็บ รู้จักรักษาตัวด้วย ไม่อย่างนั้นคงจะต้องลงเอยเหมือนนังอ้อยมัน”
“ไปกลับเถอะ อยากอาบน้ำแล้ว” จูนชวน
ทองดีลุกขึ้นแล้วจะถอดตุ้มหูแต่ข้างหนึ่งหายไป
“ตายแล้ว ตุ้มหูฉันหายอ่ะ”
“หล่นบนเวทีแหงๆ” จูนออกความเห็น
“เพิ่งซื้อมาด้วย ไม่น่าเอาของตัวเองมาใช้เลย เสียดายอ่ะ”
“จะไปหาป่ะ เดี๋ยวฉันไปด้วย ตอนนี้พวกทำความสะอาดคงยังไม่เสร็จหรอก ลองไปถามดูเผื่อเจอ” วิไลชวน
“ไม่เป็นไร เธอสองคนกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันเดินไปดูเอง”
สาวๆพากันเดินออกไปจากห้องแต่งตัวแล้วปิดไฟ
ทองดีเดินมาหาพวกทำความสะอาดที่กำลังเก็บเครื่องมือ
“พี่ๆใครทำเวทีอ่ะ เห็นตุ้มหูหนูไหม”
เหล่าพนักงานมองหน้ากันแล้วส่ายหน้า
“ขอบใจจ้ะ”
ทองดีเดินไปหาแถวเวที พนักงานทำความสะอาดเดินออกไป ทองดีเดินดูแถวๆที่เต้นแล้วเอามือควานใต้เวที แล้วก็เจอเธอดีใจมาก
“แหม...นึกว่าจะไม่เจอแล้ว”
ทองดีจะเดินกลับไปแล้วมองไปที่เวทีตรงเครื่องดนตรีก็ชะงัก ก่อนจะเดินไปดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครเธอจึงเดินไปจับไมค์แล้วยิ้มเขิน
“สวัสดีค่ะทองประกาย พบกันทุกวันศุกร์ห้าทุ่มถึงห้าทุ่มสี่สิบห้านะคะ ตอนนี้เรามาฟังเพลงกัน รับรองเพลงนี้ต้องถูกใจทุกท่านแน่ค่ะ”
ทองดีเก๊กเหมือนนักร้อง แล้วเริ่มต้นร้องเพลง โดยไม่มีดนตรีและผู้ชม ทองดีร้องอย่างอินมาก ออกลีลาอย่างเต็มที่ มนตราเดินเข้ามาจากมุมหนึ่งแล้วมาหยุดยืนฟังเธอร้องเพลงจนจบ ก่อนจะปรบมือให้ ทองดีชะงักหันขวับไปมอง
ทองประกายแสด ตอนที่ 11.1

มนตราที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ทองดีอายมาก
“เอ่อ...ขอโทษนะคะ ตอนนี้คลับปิดแล้วนะคะ”
“ครับผมทราบ แต่พอดีเดินผ่านมาได้ยินเสียงเพราะๆก็เลยต้องเข้ามาฟัง”
“คุณมาแอบฟังฉันร้องเพลงเหรอ”
“ผมไม่ได้แอบ คุณไม่เห็นผมเองต่างหาก คุณนี่เต้นเก่งนะ ร้องเพลงก็เพราะพอใช้ได้”
“ฉันเหรอ ร้องเพลงเพราะ”
มนตราพยักหน้ารับ
“เป็นนักร้องที่นี่เหรอ”
ทองดีถอนใจเฮือก
“ถ้าใช่ฉันจะมาร้องให้โต๊ะเก้าอี้ฟังเหรอ เอ๊ะ...ถ้าคุณเป็นแขกที่นี่ทำไมไม่รู้ล่ะว่าฉันไม่ใช่นักร้อง คนทำความสะอาดก็กลับไปหมดแล้ว หรือว่าคุณเป็นโจร”
มนตราหัวเราะ
“ถ้าใช่ผมจะรับไหมล่ะ ผมนัดคุณนรินทร์ไว้”
ทองดีนึกได้
“หรือว่า ...คุณ..เป็น..วงดนตรีที่นัดมา”
“ใช่ผมเป็นหัวหน้าวงดนตรี”
“...ไม่จริงมั้ง....วงดนตรีอะไรมีแค่คนเดียว”
“ผมเป็นหัวหน้าวง เวลารับงาน ก็มาแค่คนเดียวแบบนี้แหละ จะให้ขนมาทั้งวงกันเลยหรือไง”
“เหรอ”
วิไลเดินตามเข้ามา
“ทอง เจอต่างหูไม๊ หานานจัง อ้าว..ใครล่ะเนี่ย หล่อเชียว”
“หัวหน้าวงดนตรีใหม่ มาหาคุณนรินทร์น่ะ”
วิไลหันไปยิ้มให้มนตรา
“เอ่อ...เชิญทางนี้ค่ะ ฉันจะพาคุณไปหาคุณนรินทร์เอง”
นรินทร์เดินตามวิไลไป ทองดีมองตามอย่างครุ่นคิด อยากเป็นนักร้องขึ้นมา

วิไลนำมนตราเข้ามาหน้าห้อง นรินทร์ออกมาพอดี
“อ้าว.. คุณมนตรามาแล้ว เชิญข้างในเลยครับ ขอบใจมากวิไล”
นรินทร์เดินนำเข้าไป วิไลรีบถาม
“มีแฟนรึยังคะ”
มนตราหันมายิ้มให้ แล้วเดินตามนรินทร์เข้าห้องไป
“แหม ถ้าได้แบบนี้สักคนนะ ฉันจะเลิกอาชีพนี้เลย”
วิไลมองตามมนตราตาเป็นมัน

คืนวันต่อมา มนตราเล่นดนตรีด้วยมาดเท่ สาวๆพากันสนใจ หลังจากเล่นดนตรีเสร็จ มนตราเดินป่านพนักงานสาวๆ ก็ถูกแซวทันที
“โอ๊ย คนอะไรไม่รู้ เงียบๆเรียบร้อย น่ารักซะไม่มี”
“ใช่ ชวนคุยก็ยิ้มลูกเดียว ไม่ค่อยจะพูดเลย”
วิไลรำคาญ
“วี๊ดว๊ายกันอยู่ได้ นังพวกนี้ หนวกหูจริง”
“เจ๊ไม่ชอบ เจ๊ก็ไม่สนน่ะสิ”
“ใครว่ากูไม่ชอบ น่ารักซะ”
ทุกคนครื้นเครงขำขันกันรวมทั้งวิไล

หลายคืนต่อมา...ทองดีรอขึ้นเวที มานั่งดูมนตราเล่นดนตรี และเมื่อเธอขึ้นเวที มนตรามองอย่างสนใจ จนเพื่อนๆแซว
“สวยเซ็กซี่นะ ทองประกายเนี่ย เต้นเก่งด้วย”
อีกคนว่า...
“เฮ้ย มนตรา สนใจเหรอ ปกติไม่เคยเห็นสนใจใครเลย”
มนตราหันหาเพื่อน ยิ้มๆ
“แต่ผู้หญิงทำงานอย่างเงี้ย น่ากลัวว่ะ เด็กเสี่ยรึเปล่าก็ไม่รู้”
มนตราหันมองทองดีจนเต้นจบ เห็นเธอเดินทักทายแขกอย่างร่าเริง

คืนต่อมา...มนตราเล่นดนตรี โดยมีทองนั่งมองอยู่ตลอด เล่นเสร็จเพื่อนๆแซวอีก
“สงสัยแม่สาวทองประกายจะปลื้มคุณมนตราซะแล้ว นั่งมองตาไม่กระพริบเชียว”
อีกคนเสริม
“จริงด้วยว่ะ นายก็สนใจอยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่ลองจีบดูล่ะ”
มนตราส่ายหน้า
“กลัวเขามีแฟนแล้วน่ะสิ”
“เฮ้ย สนจริงเหรอวะ อะไรวะ แล้วจะจีบเป็นมั้ยเนี่ย ปกติเห็นแต่ถูกหญิงจีบ เอางี๊ เดี๋ยวจัดให้”
อีกคนร้องบอก
“เฮ้ยๆ ไม่ต้องจัดแล้วว่ะ มาโน่นแล้ว”
ทองดีเดินเข้ามายืนมองมนตราใกล้ๆ มนตรางงๆ เขินๆ เพื่อนแซวหัวเราะกัน มนตราเลยเดินลงเวทีไปหา
“ไปคุยกันตรงนั้นหน่อยได้มั้ย” ทองดีเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
มนตรามอง งงๆ ขำๆว่าเธอจะมาจีบรึไง ทองดีเดินนำมนตราออกไปที่มุมหนึ่ง แล้วหันมาพูดอย่างลังเล...
“นี่คุณ ช่วยฉันหน่อยได้มั๊ยคะ”
“พูดเพราะเชียวนะ จะให้ช่วยอะไรครับคุณผู้หญิง”
“เอ่อ...ช่วยบอกคุณนรินทร์ทีสิ ฉันอยากเป็นนักร้อง”
มนตรามองหน้าทองดีแล้วยิ้มไม่พูดอะไร ทองดีอ้อนวอน
“น่านะ...ให้ฉันเป็นนักร้องในวงคุณก็ได้ ตอนเจอกันครั้งแรกคุณยังบอกเลยว่า ฉันร้องเพลงเพราะ เสียงก็ดี แถมยังสวยด้วย นะ...นะ ช่วยฉันหน่อย”
“ผมชมคุณสวยด้วยเหรอ” มนตรางงว่าชมตอนไหน
“ฮื่อ” ทองดีพยักหน้ามั่วนิ่ม
“เป็นนักร้องในวงผมเหรอ เรายังไม่รู้จักกันดีเลยนะ”
“ฉันชื่อ ทองประกาย”
“ผมทราบ”
“แล้ว เอ่อ...คุณ…”
มนตราหัวเราะ
“ผมชื่อ มนตรา”
“นั่นไง คุณมนตรา ทีนี้เราก็รู้จักกันแล้ว คุณจะช่วยฉันได้หรือยัง”
“ยัง”
ทองดีหน้าหงิก มนตรายิ้มแล้วส่ายหน้าขำในความใจร้อนของเธอ ทองดีค้อน
“แค่นี้เอง ช่วยหน่อยก็ไม่ได้...คนใจจืด”
ทองดีโกรธ มนตราขำๆ เดินกลับไป
“โห...ใจดำได้ถ้วยจริงๆ คนไม่มีน้ำใจ” ทองดีเซ็งสุดๆ
มนตราเดินกลับไปที่วง เพื่อนถามเขากระซิบบอกเพื่อนขำกร๊าก มนตราขำตามหน้าแตก นึกว่าสาวมาจีบ เขายิ้มเอ็นดูทองดี
ทองดีเดินหน้างอมาถึงห้องแต่งตัว เริ่มแกะเครื่องประดับแล้วหันกลับไปมอง
“ไอ้คนใจจืด นิดหน่อยก็ไม่ยอมช่วย”
ทองดีมองตัวเองในกระจกพิจารณาตัวเองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“แต่...ถ้าเราลองง้ออีกหน่อย เพราะนายนั่นก็น่าจะสนใจเรานะ พรุ่งนี้ก่อนนะ”
ทองดีบอกตัวเองอย่างมาดมั่น

ค่ำนั้นก่อนเริ่มงาน ทองดีมาแอบรอเมื่อเห็นมนตรามากับเพื่อน เธอมองตามก่อนจะเดินตามไป แล้วหยุดคิด ดึงไหล่เสื้อให้กว้างออกมา จัดผมให้สวยแล้วตามต่อ...มนตรากระซิบเพื่อนแล้วเดินแยกไปที่ห้องนรินทร์ ทองดีมองตามงงๆ แล้วเรียกไม่ทัน เลยไปแอบรอหน้าห้อง
มนตรานั่งคุยกับนรินทร์ในห้องทำงาน นรินทร์ดีใจมาก
“ขอบคุณมากคุณมนตรา ผมดีใจจริงๆที่เราจะได้ร่วมงานกัน”
“เช่นกันครับ แต่...ผมมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณนรินทร์ พอจะช่วยผมได้หรือเปล่า”
นรินทร์ปาดเหงื่อ
“คุณมนตราต้องการอะไร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ผมยินดีครับ เอ่อ...หวังว่า คงไม่ใช่ค่าเหนื่อย 3 เท่าหรอกนะครับ”
มนตรายิ้มขำ
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ”
นรินทร์ยิ้มกว้างทันที...ทองดีอยากรู้มากเลยแอบแง้มประตูว่าเขาคุยอะไรกัน
“ถ้าไม่ใช่เรื่องเงินละก็ คุณมนตราต้องการอะไรว่ามาเลย”
“ผมอยากได้...ทองประกาย มาเป็นเป็นนักร้องในวงผม”
ทองดีตาโตไม่เชื่อหูตัวเองเอามือแยงหู
“ฉันได้เป็นนักร้อง”
ทองดีเผลอกรี๊ดออกมา แต่พอนึกได้รีบอุดปากตัวเอง ฟังต่อ นรินทร์กับมนตราสะดุ้งหันไปมองหน้าห้อง นรินทร์ลังเล
“คุณแน่ใจหรือ ว่าทองประกายจะทำได้”
“ก็ต้องลองดูครับ”
ทองดียืนแอบฟังที่หน้าประตู นรินทร์กับมนตราเปิดประตูออกมา เธอไม่ได้ตั้งตัวก็ลุกพรวดจะหนี แล้วไปผิดทาง ต้องหันกลับมา เลยจ๊ะเอ๋กันพอดี ทองดีเลยทำเนียนๆ
“ฉันจะไปห้องน้ำ”
นรินทร์มองหน้า
“นี่มันทางมาห้องผม ไม่ใช่ห้องน้ำ”
ทองดียิ้มแหยๆ นรินทร์ถอนหายใจเฮือกหันไปมองหน้ามนตราแล้วส่ายหน้า มนตรายิ้ม
“แบบนี้คงไม่ต้องเสียเวลาทาบทามแล้วล่ะครับ”
ทองดีหลบตาพูดเสียงอ่อย
“ฉันไม่ได้จะมาแอบฟังนะ แค่...ตามมาเฉยๆ”
มนตราอมยิ้มขำ นรินทร์มองทองดีด้วยสายตาเป็นกังวล
“จะไหวแน่เหรอครับ”
ทองดีงงๆ
“อ้าว...นี่ฉันยังไม่เป็นนักร้องอีกเหรอ”
มนตราจ้องหน้าขำๆ
“ไหนว่าไม่ได้แอบฟังไง”
ทองดีหน้าเสียเจื่อนไป มนตรายิ้ม
“คุณนรินทร์เขาอยากดูว่าเธอจะร้องเพลงได้ดีจริงหรือเปล่า”
ทองดีหน้าเหวอมองมนตรากับนรินทร์งงๆว่าจะต้องทำไง

ทองดียืนอยู่บนเวที กำลังร้องเพลง โดยมีมนตรากำลังเล่นกีต้าร์อยู่ด้านข้าง นรินทร์นั่งฟังอยู่หน้าเวที สองคนร้องเพลงเข้าขากันมานรินทร์นั่งฟังอย่างชื่นชม จบเพลงนรินทร์ลุกขึ้นปรบมือให้ทองดี
“ผมขอโทษนะ ทองประกาย ผมมองข้ามไปได้ยังไง”
ทองดีกรี๊ดอย่างยินดี โผเข้าไปกอดมนตราจากด้านหลังอย่างดีใจสุดขีด
“ฉันได้เป็นนักร้องแล้ว ได้เป็นนักร้องแล้ว เย้...”
ทองดีกระโดดโลดเต้น พอนึกได้ รีบปล่อยมือจากมนตราอย่างเขินๆ
“ขอโทษนะคะ ฉันดีใจเกินไปหน่อย”
“ใครบอกว่าได้เป็นแล้ว ถ้าจะเป็นนักร้อง คุณต้องฝึกอีกเยอะ ผมจะยอมเสียเวลาฝึกให้คุณเองก็ได้ เฮ้ย...ว่าแต่ตอนนี้ ตอนนี้ผมช่วยคุณแล้ว จะไม่เลี้ยงข้าวตอบแทนผมหน่อยเหรอ”
ทองดีค้อน
“ได้สิ...จะไปไหนล่ะ”
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า ไปชุดนี้คงไม่ดี”
นรินทร์มองมนตราและทองดี อย่างหวงก้างรีบขึ้นเวทีมาแทรกกลาง
“ผมไปด้วยคนสิ ตั้งใจว่าจะพาทองประกายเขาไปฉลองพอดี...คุณมนตรากับผมนี่ใจตรงกันเลย”
ปากพูดดีแต่ตาชักไม่ค่อยพอใจ มนตรารู้แกว
“ผมว่าไม่ค่อยสะดวกหรอกครับ เพราะรถผมเล็กนั่งได้แค่สองคนเท่านั้น ไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะครับ”
นรินทร์หน้าแตกโดนมนตรากีดกันซึ่งหน้า ทองดีตัดบท
“งั้นคุณไปรอฉันที่ลานจอดรถนะ”
มนตราพยักหน้ารับ หันมายิ้มให้นรินทร์ก่อนจะแยกย้ายกับทองดีไปคนละทาง นรินทร์มองตามมนตราด้วยความเซ็ง
“ไอ้นี่ทั้งหล่อทั้งไวเลยเว้ย เฮ้ย...ไอ้เราก็ช้าตลอด ขี้อายอีกกู เปลี่ยนอาชีพดีมั้ยเนี่ย”
นรินทร์หงุดหงิดเตะโต๊ะด้วยความเจ็บใจแล้วต้องร้องจ๊าก ยกขาเซไปมาโต๊ะล้มระเนระนาด
“โอ๊ย...ซวยมันเข้าไป”

รถมินิคูเปอร์ของมนตราจอดอยู่ เขาเดินรอไปมาอยู่ที่รถ สักครู่ทองดีเดินออกมาพอเห็นรถของมนตราก็หน้าเบ้ทันที
“เฮ้อ...นี่แสดงว่าคุณต้องรวยละสิ แล้วยังจะมาให้ฉันเลี้ยงคุณอีก”
“ทำไมคิดงั้นล่ะ”
“ดูรถคุณก็รู้ คันเล็กกระจิ๋วแค่เนี๊ยะ ฉันไม่เข้าใจ คนรวยทำไมชอบทำ อะไรแปลกๆ มีเงินเยอะแยะจะซื้อรถคนใหญ่ๆก็ไม่ได้ มาทนใช้รถคันเล็กจะปีนเข้าออกก็ลำบากลำบน”
มนตราหัวเราะ
“เธอนี้ขำจริงๆ จะไปมั๊ยเนี่ย...”
“ก็จริงไม่ล่ะ”
“เอาเป็นว่ารวยหรือจนไม่รู้ รู้แต่ว่าชีวิตฉันมีความสุขก็โอเค”
มนตราเดินไปเปิดประตู้ให้ทองดีขึ้น พอปิดประตูก็แอบอมยิ้มก่อนเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป

ทองดีกับมนตรานั่งกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง เธอมองรอบๆตัวอย่างไม่เข้าใจ
“ตกลงนี่คุณรวย หรือจนกันแน่ฉันชักสับสนแล้วนะเนี่ย”
“ทำไมจนหรือรวย มันสำคัญอะไรนักหนา”
“ฉัน...ก็แค่สงสัยเท่านั้นน่ะ”
“พามาหาที่กินแบบนี้ รวยหรือจนล่ะ”
“ไม่รู้สิ รวยมั้ง...แล้วตกลง คุณจะจีบฉันหรือเปล่าเนี่ยถ้าจะจีบคุณก็จ่ายนะ ไม่ใช่ให้ฉันมาเลี้ยงคุณ”
มนตราชะงักหยุดกินทันที ทองดียิ้มหวานให้
“เฮ้ย...ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ เห็นฉันเป็นคนแบบไหน”
“ก็ผู้ชายส่วนใหญ่เวลาเจอฉันเขาก็จะจีบ แล้วก็ชวนไปกินอาหารแพงน่ะสิ”
“งั้น...ฉันคงเป็นแบบไม่ปกติ”
มนตราทำเป็นก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจ ทองดีหยักไหล่ไม่แคร์
“ดีแล้วแหละ ถ้าคุณไม่จีบฉันเราจะได้ทำงานด้วยกันสะดวก เพราะฉันเบื่อแล้วล่ะ ไอ้พวกร่วมงานกัน แล้วอยากจะร่วมเตียงกันกับฉันอ่ะ”
มนตราสำลักก๋วยเตี๋ยวหยุดกินทันที ทองดีรีบส่งน้ำให้
“เธอนี่พูดตรงดีนะ แต่เป็นผู้หญิงน่ะไม่ต้องตรงมากก็ได้”
มนตรามองหน้าแล้วหัวเราะอย่างเอ็นดู ทองดีงง ไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิด

วันใหม่...ในห้องวิไล ส้มตำและอาหารอื่นๆวางเต็มพื้นห้อง ทองดี จูน วิไล นั่งชนแก้วน้ำอัดลมกัน วิไลยิ้มให้เพื่อน
“ยินดีด้วยนะ ทอง ที่จะได้เป็นนักร้อง เธอนี่โชคดีจริงๆ”
“ฉันละอิจฉาแกจริงๆเลยทอง...” จูนถอนใจ “เฮ้อ...ไม่รู้เมื่อไหร่ จะถึงตาฉันมั่ง”
ทองดีมองหน้าเพื่อน
“แล้วเธอฝันอะไรล่ะจูน”
จูนนึกๆ
“ไม่รู้สิ...ตอนแรกก็อยากได้คุณมิตรเป็นผัว...ตอนนี้ก็นึกไม่ออกแฮะ...อยู่ไปวันๆ”
วิไลมองเพื่อนเซ็งๆ
“เจริญละแก...แล้วจะไปทางไหนล่ะเนี่ย”
ทุกคนมองหน้ากัน แล้วหัวเราะขำ ทองดีหันไปถามวิไล
“แล้วพี่วิไลล่ะ ทำไมมาทำอาชีพนี้ล่ะ”
“พี่น่ะเหรอ ก็มันเริ่มจากไม่มีจะกินไง นี่พี่ก็เก็บเงินอยู่ พี่จะทำงานเก็บเงินอีกซักพัก ไปซื้อที่ซื้อทางแถวบ้านไว้แล้ว อีกซัก สี่ห้าปี พี่ก็ว่าจะกลับไปปลูกบ้านที่ต่างจังหวัด ไปค้าขาย พี่อยากค้าขาย”
ทองดีหน้าสลดลง
“ชีวิตคนเราก็แปลกนะ เหมือนมีใครคอยขีดเส้นไว้แล้วว่าเราจะต้องเดินไปทางไหน ต้องเจอกับอะไร ตอนที่เสียคุณมิตรไป ฉันรู้สึกเหมือนว่า โลกนี้คงพังทลาย แต่แล้ว ฉันก็เจอเพื่อนดีๆ เจอสิ่งดีๆ นี่ตกลงฉันควรจะขอบคุณคุณมิตรใช่ไหม”
จูนมองหน้า
“ควรขอบคุณตัวเองต่างหาก ที่ผ่านมันมาได้”
วิไลเห็นด้วย
“ใช่...เพราะมันคือประสบการณ์ชีวิตให้เราเข้มแข็งขึ้น”
จูนยิ้มกว้าง
“จริงจ๊ะ...เพราะแกน่ะ...สวยเลือกได้”
ทุกคนหัวเราะขำ ยกแก้วชนกัน วิไลนึกขึ้นได้
“แล้วนี่ อีตาหัวหน้าวงที่รับเธอน่ะ ไม่ใช่รับเพราะอยากฟันนะ”
ทองดีชะงักนิดนึง
“คงไม่หรอก ดูท่าทางเขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
“เอาแล้ว เข้าโหมดซื่ออีกแล้ว...คนเราน่ะ ดูแต่หน้าไม่ได้หรอก” จูนเตือน
วิไลคิดๆ
“เอ๊ะ...หรือว่าไอ้คุณมนตรานี่มันจะหล่อ เพื่อนเราเลยซื่อซะงั้น”
ทุกคนหันไปกิ๊วก้าวหัวเราะเบิกบานกัน ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น วิไลรีบวิ่งไปเปิดคุยกันแป๊บนึงก็วิ่งกลับเข้ามาอมยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ทองประกาย
“หวานมันบอกว่ามีคนมาหาเธออ่ะ”
“ใครอ่ะ”
“ชื่อมนตรา”
จูนสำลัก
“ไหนแกว่า เขาไม่จีบแกไง นี่มาหาแต่เช้าเลยโว้ย มันชักยังไงยังไงซะแล้ว”
ทองดีเขิน
“บ้า...เขาคงมีธุระมากกว่า”
ทองดีรีบเดินออกไปจากห้อง
มนตรายืนรออยู่ที่รถ สักครู่ทองดีเดินมาหาหน้าตางงๆ จูนกับวิไลแอบมาดูอยู่มุมตึก
“แหม...ไหนบอกว่าไม่จีบฉันไง มาแต่เช้าเลย”
มนตราส่ายหน้าขำๆ
“ขอโทษนะ ฉันมาตามเธอไปซ้อมร้องเพลง เป็นนักร้องจะไม่ซ้อมร้องหน่อยเหรอ”
แป่ว...ทองดีหน้าเจื่อนไปเลย
“งั้น...ฉันขอเวลา แต่ตัวแป๊บนึง คือฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย”
มนตราทำเสียงเข้ม
“อย่านาน...ฉันชอบทำงานกับคนตรงเวลา...ไปสิ”
“ไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ ดุชิบเลย”
ทองดีจะวิ่งไปแล้วนึกได้
“แล้วเราจะซ้อมร้องที่ไหนล่ะ”
“ไปเจอที่เวที”
ทองดีรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับเข้าไป มนตรามองตามยิ้มเอ็นดู

ทองดีใส่ชุดใหม่ออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวอย่างรีบร้อน จูนกับวิไลยืนมองงงๆสงสัย
“ยังไงฉันก็ว่าเขาจีบเธอชัวร์” วิไลบอกอย่างมั่นใจ
“ชัวร์อะไร ก็บอกแล้วไง คนอะไรยังไม่เริ่มงานเลย ดุแล้ว”
จูนคิดๆ
“ฉันว่านายนี่แกล้งว่ะ ไม่เคยพบเคยเห็น หัวหน้าวงอะไร ต้องมารับนักร้องไปซ้อมเพลง”
วิไลมองยิ้มๆ
“เอ...มันคงไม่ซ้อมเพลงเฉยๆละม๊าง...ซ้อมไปซ้อมมา ระวังกลายเป็นชวนซ้อมอย่างอื่นด้วยล่ะสิ”
จูนกับวิไลหัวเราะชอบใจ
“โอ๊ย...ไม่มีเวลาคุยไร้สาระแล้ว ไปล่ะ”
ทองดีรีบวิ่งออกไป

มนตราสอน ทองดีร้องเพลงอยู่บนเวทีจนจบเพลง โดยมีนรินทร์ ยืนมองอยู่ด้านล่างเวที
“ผมว่าสอนคุณที่นี่ไม่ค่อยสะดวกแล้วล่ะ คงต้องหาที่ซ้อมใหม่แล้ว”
ทองดีมองเหล่มนตราแบบ จะมาหลอกฉันไปขึ้นเตียงรึไง
“หาที่ซ้อมใหม่เหรอ”
“เฮ้ย...ทำไมมองแบบนั้นล่ะ คิดเยอะไปรึเปล่าคร๊าบ...คืนนี้ลองดูนะ เริ่มต้นยังไม่ต้องร้องจริง ลิปซิ้งค์ให้ได้ก่อน เพราะคุณยังต้องฝึกอีกเยอะ”
มนตราขำๆ








Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:16:54 น.
Counter : 716 Pageviews.

0 comment
เรื่องย่อ ทองประกายแสด



บทประพันธ์ : สุวรรณี สุคนธา
บทโทรทัศน์ : วรวรรณ ธวมงคล และ พิมพิน
กำกับการแสดง : ชุดาภา จันทเขตต์
แนวละคร : ชีวิต
ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 07.00 น. / 10.00 น./19.30 น./22.30 น. ทางช่อง 8
เริ่มตอนแรก : 13 ก.พ. 55 (หมายเหตุ 13 ก.พ. เป็นเบื้องหลังการทำงาน และ 14 ก.พ. เริ่มออกอากาศตอนแรก)
จำนวนตอนออกอากาศ : -

ทองดี (พิงค์กี้-สาวิกา ไชยเดช) เด็กสาวบ้านนอกหน้าตาสวย วัย 17 ปี ผู้มีความทะเยอทะยานและใฝ่ฝันอยากเป็นดารา เธอเติบโตมากับครอบครัวของ เตี่ย (ครรชิต ขวัญประชา) และ แม่ (อำภา ภูษิต) ซึ่งเปิดร้านขายอาหารและกาแฟอยู่ที่ตลาด ทองดีมักถูกแม่ด่าว่า จิกหัวใช้งานเธอตั้งแต่เช้ายันค่ำ เพราะเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเตี่ยกับแม่ แต่เป็นเด็กที่แม่เอามาเลี้ยงเพื่อไว้ใช้งาน

ความสวยของทองดีเป็นที่ดึงดูดใจของชายหนุ่มที่ได้พบเห็น แต่ทองดีหวงตัวและมักจะเชิดใส่ใครต่อใครที่มาตอแย ยกเว้นก็แต่ พิสุทธิ์ (แบงค์-อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม/แบงค์ แบล็ควานิลลา) เพราะนอกจากจะเป็นหนุ่มหน้าตาดีมีการศึกษาแล้ว เขายังเป็นลูกข้าราชการในจังหวัดอีกด้วย ทองดีฝันอยากจะมีชีวิตสุขสบายกับเขาบ้าง ทั้งสองลักลอบได้เสียกัน และพิสุทธิ์ก็ตั้งชื่อให้ทองดีใหม่ว่า “ทองประกาย”

ด้วยความหลงใหลในเสน่ห์ของทองดี ทำให้พิสุทธิ์เสียการเรียนและแอบมานอนที่บ้านทองดีโดยที่เตี่ยกับแม่ไม่รู้ แต่หลังจากที่เตี่ยซึ่งป่วยเป็นวัณโรคขาดใจตายได้ไม่กี่วัน แม่ก็จับได้จึงไล่ทั้งคู่ออกจากบ้าน ทองดีขอเงินแต่แม่ไม่ยอมให้ ทองดีจึงใช้กำลังจนแม่กระเด็นไปติดผนังเลือดนอง ทองดีขโมยเงินแม่และหนีออกจากบ้านไปพร้อมกับพิสุทธิ์ เข้ามาเช่าโรงแรมราคาถูกในกรุงเทพ เพราะความยากลำบากทำให้ทองดีและพิสุทธิ์มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง แต่ทั้งสองก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้

และแล้วโชคชะตาของทองดีก็พลิกผัน เมื่อพิสุทธิ์ถูกรถชนตาย!

หลังจากพิสุทธิ์ตาย วีระชัย (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) ผู้จัดการโรงแรมที่ทองประกายพักอยู่ ซึ่งแอบหลงรักทองประกายตั้งแต่แรกพบ จึงชวนทองประกายไปอยู่ที่บ้าน ทองประกายหวังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเข้าใจว่าวีระชัยรวย แต่พอได้รู้ว่าวีระชัยกับซิ้มแม่ของเขามีอาชีพขายไก่ ทองประกายก็รู้สึกผิดหวัง ระหว่างที่ทองประกายอาศัยอยู่ในบ้านของวีระชัย เธอต้องคอยช่วยงานบ้านและไปช่วยซิ้มขายไก่ที่ตลาด ความสวยของทองประกายเข้าตาหนุ่มๆ แม้กระทั่ง ตี๋ใหญ่ เพื่อนของวีระชัยก็หลงเสน่ห์ จนวีระชัยและตี๋ใหญ่มีเรื่องชกต่อยกัน ตี๋ใหญ่สู้ไม่ได้เลยใช้มีดแทงวีระชัยตาย ทองประกายเห็นชาวบ้านแจ้งตำรวจ ด้วยความกลัวคดีเก่าที่เคยทำร้ายแม่และพิสุทธิ์ถูกรถชนตาย ทำให้ทองประกายต้องหนีอีกครั้ง

แต่ทองประกายไม่รู้จักกรุงเทพฯ เธอได้แต่เดินเตร็ดเตร่อยู่ในห้างสรรพสินค้าโดยไม่รู้ว่าจะไปไหนและเอาอย่างไรกับชีวิต จนไปเจอกับ เฮียบุ๋น (กมล ศิริธรานนท์) เจ้าของไนท์คลับจอมเจ้าชู้เข้า เฮียบุ๋นปิ๊งทองประกายขึ้นมาทันที ทองประกายไม่เล่นด้วยแต่ขอให้เฮียบุ๋นช่วยหางานให้ทำ เฮียบุ๋นจึงพาทองประกายมาทำงานที่ไนต์คลับ

ชีวิตใหม่ของทองประกายที่ไนต์คลับแห่งนี้ เธอได้ทั้งเพื่อนใหม่ เมย์ (นาตาลี เดวิส) ที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจ และศัตรูตัวร้าย จูน (ไอซ์-อรวรรณ ปรีดากุล) โคโยตี้สาวดาวเด่นประจำไนท์คลับแห่งนั้น

ดูเหมือนว่าชีวิตของทองประกายน่าจะดีขึ้นแล้ว เพราะเธอมีทั้งที่พักและงานให้ทำ แต่เสน่ห์และความสวยในตัวเธอก็ยังคงนำมาซึ่งความเดือดร้อนจนได้ เพราะเพียงแค่การทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟคืนแรก ทองประกายก็มีเรื่องกับแขกเสียแล้ว โชคดีที่เมย์เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน

คืนต่อมาแขกคนเดิมยังคงมาตอแยไม่เลิก ถึงขั้นจะฉุดทองประกาย โชคดีที่ได้ มิตร (ฟลุค-จิระ ด่านบวรเกียรติ) น้องชายของเฮียบุ๋นเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน สร้างความไม่พอใจให้กับจูนอย่างมาก ทองประกายออกอาการปลื้มมิตรไม่น้อย ถึงกับฝันหวานว่าได้แต่งงานด้วย โดยหารู้ไม่ว่าเมย์พี่สาวที่เธอรักและไว้วางใจที่สุดแอบคบหาอยู่กับมิตร

มิตรดูแลเอาใจใส่สอนงานต่างๆ ให้จนทองประกายได้ขึ้นเป็นโคโยตี้ ยิ่งทำให้ทองประกายปลื้มและยึดติดมิตร ในขณะที่มิตรไม่คิดจริงจังอะไร ทองประกายกลายเป็นดาวเด่นของคลับเพียงชั่วข้ามคืน จนได้เป็นตัวหลักแทนจูน ยิ่งทำให้จูนเกลียดทองประกายหนักเข้าไปอีก จูนคอยหาเรื่องทองประกายตลอดเวลา เพราะคิดว่าทองประกายแย่งทุกอย่างไปจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือความรัก ทั้งสองมีเรื่องตบตีกันรุนแรง จนจูนต้องออก

นรินทร์ (ใหญ่-ฝันดี จรรยาธนากร) เจ้าของผับเปิดใหม่มาชวนทองประกายให้ไปทำงานด้วย พร้อมข้อเสนอให้มากกว่า ทองประกายตัดสินใจลาออกไปทำงานกับนรินทร์ เมื่อได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างมิตรกับเมย์ ชีวิตใหม่ของทองประกายเริ่มอีกครั้ง เมื่อเธอไปทำงานให้ผับของนรินทร์ นอกจากเธอจะได้เจอเพื่อนร่วมงานใหม่ วิไล (นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล) แล้ว เธอยังเจอคู่ปรับเก่าอย่างจูนด้วย แต่หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว ทองประกายและจูนกลับกลายเป็นเพื่อนกัน มิตรตามมาง้อทองประกาย แต่ทองประกายตัดมิตรอย่างเด็ดเดี่ยว และเริ่มหันหลังให้กับความรัก เธอหวังเพียงแค่เงินและชื่อเสียงเท่านั้น

ทองประกายได้พบกับ มนตรา (ออย-ธนา สุทธิกมล) หัวหน้าวงดนตรีวงใหม่ จึงไปขอเป็นนักร้องในวงและก็ได้เป็นนักร้องสมใจ จากความใกล้ชิดเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรัก และเริ่มก่อตัวช้าระหว่างมนตราและทองประกาย ในขณะเดียวกันความสวยโดดเด่นของทองประกายก็ไปเข้าตา บีบี (ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล) แมวมองนักปั้นชื่อดัง ทองประกายสนใจขึ้นมาทันที แต่มนตราไม่ยอมให้ทำ ทองประกายตัดใจจากบีบีและยอมลาออกจากคลับของนรินทร์ไปอยู่ที่บ้านมนตรา

จนวันหนึ่งมนตราคิดจะพาทองประกายไปพบพ่อและแม่ที่เชียงใหม่ ทองประกายจึงขอให้มนตราพาไปทะเลอีกครั้ง เธออยากลบล้างความทรงจำในอดีต เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่กับมนตรา ชีวิตของทองประกายคงจะไปได้ดีและมีความสุข ถ้าอุบัติเหตุไม่คร่าชีวิตมนตราไปอย่างไม่มีวันกลับ ทองประกายเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเธอรักเขาสุดหัวใจ วิไลซึ่งกำลังตั้งท้องกับแฟนหนุ่มจึงพาทองประกายมาอยู่ด้วย

แม้มนตราจะจากไปหลายเดือน แต่ทองประกายก็ยังคงจมอยู่กับความเศร้า ปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบไร้จุดหมาย จนได้วิไลเตือนสติให้คิดทำตามความฝัน ทองประกายจึงนึกถึงบีบี บีบีพาทองประกายไปหา ดารา (ท็อป-ดารณีนุช โพธิปิติ) เจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง ดาราตกลงให้ทองประกายมาเดินแบบให้กับห้องเสื้อของเธอคู่กับ โฬม (ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย) นายแบบหนุ่มที่ดาราเลี้ยงดูอยู่ โฬมแอบปิ๊งทองประกายทันทีที่แรกพบ ดาราเห็นสายตาของโฬมแล้วเริ่มไม่ไว้ใจคอยจับตามองตลอดเวลา

วิไลคลอดก่อนกำหนดในวันที่ทองประกายแวะไปเยี่ยมพอดี แต่วิไลไม่ทันได้ปลื้มกับลูกชายเธอก็จากไป ทิ้งน้องไทไว้ให้ทองประกายดูแล ทองประกายได้พบกับ ดำเกิง (แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) ทายาทค่ายหนังยักษ์ใหญ่ เพื่อชื่อเสียงและบทนางเอกหนัง ทองประกายยอมพลีกายให้กับดำเกิง แต่ถูกตลบหลังจนชื่อเสียงป่นปี้ จากดาวรุ่งจึงกลายเป็นดาวร่วงทันที ดาราเสนองานให้ทองประกายด้วยการไปเป็นเด็กเจ้าสัว แต่ทองประกายปฏิเสธและขอนรินทร์กลับไปทำงานที่คลับ

3 ปีผ่านไป ทองประกายกำลังมีความสุขกับงานในคลับของนรินทร์ แต่ชีวิตเธอต้องพลิกผันอีกครั้ง เมื่อจู่ๆ ดำเกิงโผล่มาพร้อมกับน้องสาวของนรินทร์ จนเกิดทะเลาะกันใหญ่โตเป็นเหตุให้ทองประกายตัดสินใจลาออก ทองประกายตัดสินใจกลับไปหาดาราอีกครั้ง เพราะต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูไท ดาราจึงปั้นเธอให้เป็นนางแบบอีกครั้ง

จากการที่ดาราฉุดทองประกายขึ้นมาในครั้งนี้ ทำให้ ท่านประจักษ์ (โอ๊ต-วรวุฒิ นิยมทรัพย์) รัฐมนตรีหนุ่มใหญ่เกิดความสนใจในตัวทองประกาย แค่พบกันครั้งแรกท่านประจักษ์ก็ทั้งรักทั้งหลง จนเลี้ยงดูทองประกายอย่างจริงจัง หลังจากที่คุณหญิงภริยาของท่านเสียชีวิตลง ท่านจึงจดทะเบียนสมรสกับทองประกาย แม้ทองประกายจะแต่งงานกับท่านประจักษ์ไปแล้ว แต่โฬม ก็ยังอยากเชยชมทองประกายอยู่ ถึงขั้นใช้กำลังปลุกปล้ำและแอบถ่ายรูปไว้

ชีวิตของทองประกายจะพลิกผันไปทางใด เธอจะมีชีวิตสวยงามตามฝันได้หรือไม่ คงต้องแล้วแต่โชคชะตาจะนำพาชีวิตเธอไป

ติดตามชมชีวิตเข้มข้นของเธอได้ใน "ทองประกายแสด" ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 07.00/10.00/19.30/22.30 น. ได้ที่ “ช่อง 8” ฟรีทีวี วาไรตี้ 24 ชั่วโมง

เริ่มอุ่นเครื่องด้วยเรื่องราวเบื้องหลังการทำงาน วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 19.30 น. และ ออกอากาศตอนแรก เวลา 19.30 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์

และติดตามอ่านเรื่องราวชีวิตสุดเข้มข้นของ “ทองดี - ทองประกาย” การหวนคืนวงการครั้งสำคัญของ “พิงค์กี้ - สาวิกา ไชยเดช” ทางละครออนไลน์ เริ่มตอนแรก วันศุกร์ที่ 10 ก.พ. 2555

ใครเป็นใคร ใน "ทองประกายแสด"


พิงค์กี้-สาวิกา ไชยเดช รับบท ทองดี/ทองประกาย
ออย-ธนา สุทธิกมล รับบท มนตรา
วุธ-อัษฏาวุธ เหลืองสุนทร รับบท วีระชัย
ฟลุ๊ค-จิระ ด่านบวรเกียรติ (ฟลุ๊ค ซีควินท์) รับบท มิตร
โอ๊ต-วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบท ท่านประจักษ์
แบงค์-อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม (แบงค์ black vanilla) รับบท พิสุทธิ์
แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม รับบท ดำเกิง
ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย รับบท โฬม
กมล ศิริธรานนท์ รับบท เฮียบุ๋น
ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล รับบท บีบี / บุญเทียม
ท็อป-ดารณีนุช โพธิปิติ รับบท ดารา
นาตาลี เดวิส รับบท เมย์
นุ่น-รมิดา ประภาสโนบล รับบท วิไล
อำภา ภูษิต รับบท แม่ (ของทองดี)
ครรชิต ขวัญประชา รับบท เตี่ย (พ่อของทองดี)
พิมพ์พรรณ บูรณพิมพ์ รับบท ซิ้ม (แม่ของวีระชัย)








Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 20:57:36 น.
Counter : 982 Pageviews.

0 comment
ทองประกายแสด ตอนที่ 7



ค่ำนั้น...มิตรขับรถมาจอดที่หน้าคลับเฮียบุ๋น แล้วลงมาเปิดประตูให้ ทองดีเดินลงมาหน้านิ่งๆ มิตรสังเกตเห็นเธอหน้าตาไม่สบายใจก็ถามขึ้น

“ทองเป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อกี้ผมเห็นทองไม่ทานอะไรเลย”
“เปล่าค่ะ ทองไม่ค่อยหิว”
“ไม่หิวกับไม่ยอมยิ้มนี่มันไม่เหมือนกันนะ”
มิตรยิ้มให้ ทองดียิ้มรับเศร้าๆ
“ทองคิดเรื่อง...เรื่องจูนค่ะ”
“เรื่องจูน”
มิตรมองหน้าทองดีไม่เข้าใจ
“ทองสงสารจูนค่ะ เป็นเพราะทองหรือเปล่า ถึงทำให้จูนเป็นแบบนี้ ปุบปับลาออกแบบนี้ไม่รู้ว่าจูนจะไปทำงานที่ไหน”
มิตรยิ้ม
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับทองหรอก จูนเขาตัดสินใจเลือกทางของเขาเองนี่นา ชีวิตของใครคนนั้นกำหนดเอง”
“แต่ต้นเหตุก็มาจากทอง”
“ไม่เอาน่าเลิกคิดมากได้แล้ว...ยิ้มหน่อยนะ คนสวยของผม”
ทองดีฝืนยิ้ม
“เอ่อ...คุณมิตรคะ คุณมิตรชอบจูนบ้างหรือเปล่า”
มิตรสบตาทองดีแล้วยิ้ม
“ไม่เลย ผมชอบทองมากกว่า”
มิตรจับมือทองดีมากุมไว้ ทั้งคู่สบตากัน เขาโน้มตัวเข้ามาจูบเธอ

วันใหม่... ในห้องนอนของทองดี มิตรนอนหลับอยู่บนเตียงเคียงคู่กับทองดี เธอพลิกตัวหันไปมองเขาอย่างปลาบปลื้มเขี่ยหน้าอกเล่น มิตรรู้สึกตัวตื่นขึ้น
“นี่กี่โมงแล้วนี่”
“เพิ่งจะ 10 โมงเอง นอนต่ออีกหน่อยก็ได้ค่ะ”
มิตรลุกขึ้นนั่ง ทองดีขยับตัวเข้าไปกอดเขาทางด้านหลัง
“จะไปแล้วหรือคะ นอนต่ออีกหน่อยนะ ทองยังอยากอยู่กับคุณ”
“ไม่ได้หรอก วันนี้ผมมีนัดทานข้าวกับแม่ ไว้คืนนี้ผมมาหานะ”
มิตรหอมหน้าผาก
“งั้นทองไปกับคุณด้วยได้มั๊ยคะ ทองอยากเห็นบ้านคุณมิตรจังเลย ให้ทองไปทำกับข้าวให้แม่คุณทานก็ได้ ทองทำกับข้าวเก่งนะคะ”
“อย่าลำบากเลย บ้านผมมีแม่ครัว”
“ถึงมีแม่ครัว แต่อีกหน่อยพอเราแต่งงานกัน ทองก็ต้องทำอาหารอยู่ดี เดี๋ยวครอบครัวคุณมิตรจะหาว่าทองไม่เป็นแม่ศรีเรือน”
“แม่ศรีเรือนเหรอ” มิตรหัวเราะ “ทองล้อผมเล่นหรือเปล่า ไม่เอาแล้ว ผมไปอาบน้ำก่อนนะ”
มิตรเดินเข้าห้องน้ำไป ทองดียังเพ้อไม่เลิก
“ไม่เชื่อว่าเราเป็นแม่ศรีเรือนละสิ...ทองรักคุณมิตรจังเลย คุณมิตรขา”
ทองดียิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะลุกขึ้นตามเขาไปที่ห้องน้ำ หยิบผ้าเช็ดตัวไปส่งให้
“คุณมิตรลืมผ้าเช็ดตัวค่ะ”
เธอส่งผ้าเช็ดตัวให้เขาโดยไม่มอง มิตรยิ้ม
“ดีเลย...งั้น ทองเข้ามาช่วยถูหลังให้ผมด้วยแล้วกันนะ”
ทองดีทำเขิน
“คุณมิตรก็...ทองอายนะคะ”
มิตรกระชากตัวเข้าไปในห้องน้ำ ทองดีกรี๊ดกร๊าด เสียงหัวเราะกันคิกคัก

ทองดีช่วยมิตรแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย เธอหน้าเบิกบานมีความสุขมาก มิตรหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้ปึกหนึ่ง ทองดีมองเห็นเงินก็ตาโต
“คุณให้ทองเหรอคะ คุณมิตรใจดีจัง ทองรักคุณนะคะ”
มิตรมองทองประกายงงๆ
“ผมก็ต้องให้ทองสิ เพราะทองต้องมีค่าตัว”
ทองดีชะงักทันที มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ค่าตัว...คุณมิตรหมายความว่า...”
“อ้าว...ผมนอนกับทอง...ก็ต้องจ่ายค่าตัวสิ”
ทองดีจ้องมองหน้าเขากำเงินแน่น ด้วยความเจ็บใจแต่มิตรยังไม่เข้าใจ
“เป็นอะไรหรือทอง” มิตรนึกได้ “จริงสิ ทองเป็นดาราแล้ว งั้นเอาเพิ่มไปอีกหมื่นนึงนะ”
มิตรหยิบเงินเพิ่มส่งให้ ทองดีแค้นสุดขีด
“นี่คุณ...ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ คุณ...คุณดูถูกทอง”
มิตรพูดซื่อๆ
“ดูถูก...ผมไม่ได้ดูถูกทองนะ แต่ที่ทองมาทำงานนี้ก็เพื่อเงินไม่ใช่เหรอ”
“คุณมิตร!...คุณเลวมาก”
ทองดีตบหน้าเขาอย่างแรงจนหน้าหัน มิตรหันกลับมามองหน้าเฉยชา
“ผมไม่รู้ว่าทองคิดอะไรนะ แต่ผมจะถือว่าทองเข้าใจผิดแล้วกัน”
มิตรวางเงินลงบนเตียง แล้วเดินออกจากห้องไป
“คุณมิตร...กลับมาก่อน คุณมิตร”
ทองดีมองเงินในมือแล้วขว้างไป รวมกับเงินที่วางบนเตียงแล้วรีบวิ่งตามไป มิตรเดินมาถึงรถที่จอดไว้ ทองดีวิ่งตามมาทันกระชากตัวเขาให้หันกลับมา
“คุณยังไปไม่ได้ ต้องพูดกันให้รู้เรื่องก่อน”
“พูดเรื่องอะไรอีก”
“ก็เรื่องฉันกับคุณไง ไหนคุณบอกว่าคุณชอบฉัน”
“ผมก็ชอบทองจริงๆ”
“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าฉันขายตัว ฉันชอบคุณจริงๆนะคะ ฉันอยากแต่งงานกับคุณ ฉันอยากเป็นเมียคุณคอยดูแลคุณ”
ทองดีจ้องหน้ามิตรนิ่ง
“ผมไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น”
ทองดีหน้าเหวอ
“นี่...นี่คุณพูดจริงเหรอ”
“เชื่อผมเถอะทอง เราอยู่กันแบบนี้ดีแล้ว พอใจก็มาหากัน อย่าผูกมัดกันเลย ผมไม่ชอบ...ทองยังอยากให้มิตรภาพของเราเดินต่อไป ก็รับข้อเสนอผมเถอะนะ แล้วเราจะมีความสุขทั้งคู่”
เขาลูบไหล่เธอเป็นการปลอบ แล้วเดินขึ้นรถขับออกไปทันที ทองดีตะลึงถอยไปยืนพิงกำแพงน้ำตาไหล

ทุกคนกำลังซ้อมเต้นอยู่ในห้องซ้อมเต้น ทองดีเดินเข้ามาในห้องหน้าเศร้าหมอง ทรุดตัวลงนั่ง กอดเข่าซึม วันดีรีบสะกิดเมย์ ทุกคนหันมามองทองเป็นตาเดียว พี่ป๊อบหันไปเห็น
“อ้าว...แม่ดาวประกาย...มาสายแล้วยังเฉยอีก มาซ้อมเต้นสิยะ จะขึ้นเพลงใหม่”
วันดีรีบไปฉุดลากทองดีขึ้นมายืนในแถว
“พร้อมแล้วค่ะ...น่านะ...ซ้อมไม่นานหรอก เดี๋ยวก็พักแล้ว น้องทองประกายจ๋า”
พี่ป๊อบเริ่มนับ
“เอ้า...พร้อม...5...4...3...2...1”
ทุกคนเริ่มซ้อมเต้น แต่ทองดีเต้นแบบไร้อารมณ์มาก จนพี่ป๊อบทนไม่ไหว สั่งหยุด
“นี่...แม่ทองประกาย...วิญญาณหล่อนยังไม่เข้าร่างหรือไงยะ...ไปทำอะไรมา อารมณ์หล่อนถึงได้เหือดแห้งยังกะ แม่วันดีเข้าวัยทองแบบนั้น”
“อ้าว...ว่าแบบนี้ ปล่อยหมาทั้งฝูงกัดฉันซะดีกว่า...ฮึ” วันดีหันไปหาทองดี “เป็นอะไรไปล่ะคะ คุณน้อง ถึงได้หงอยเป็นไก่ป่วยแบบนี้”
“ฉันไม่มีอารมณ์จะเต้น วันนี้ขอหยุดวันนึงได้มั๊ย”
ทุกคนหันไปมองหน้ากันอย่างแปลกใจ พี่ป๊อบไม่พอใจ
“นี่แม่ทองประกาย พอเริ่มดังก็คิดจะแผงฤทธิ์หรือไง”
“ฉันไม่ไหวจริงๆ...ขอพักวันนึงเถอะ...”
ทองดีท่าทางทองหมดอารมณ์จริงๆ วันดีหันไปมองหน้าพี่ป๊อบเป็นเชิงขอร้อง พี่ป๊อบชักฉุน
“เออ...เจริญเถอะ...ไม่อยากเรียน ฉันก็ไม่อยากสอนเหมือนกัน ยังไงก็ได้ค่าตัวครบอยู่แล้วนี่ เลิก...เลิก หมดอารมณ์โว๊ย...”
ทองดีเดินออกจากห้องไปทันที เมย์กับวันดีหันไปมองหน้ากัน
“เดี๋ยวฉันไปดูให้เอง”
เมย์รีบเดินตามออกไป วันดีถอนใจ
“ยังไมทันไร ก็ออกลายซะแล้ว แม่ทองประกายเอ๊ย...”

ทองดีนั่งกอดหมอนน้ำตาไหลอยู่ในห้องนอน เมย์นั่งมองอย่างเห็นใจ
“ฉันคิดว่าเขาชอบฉันรักฉัน แต่เขาเห็นฉันเป็นผู้หญิงขายตัว”
“เฮ้อ...ก็ฉันเตือนเธอแล้วนี่นา อย่าไปคิดจริงจังกับคุณมิตรเลย เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นแหละ”
“แต่ฉันรักเขานะ รักเขามากด้วย ฉันคิดว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันเป็นผัวเมียกัน ไม่ใช่แบบนี้”
“อะไรที่ทำให้เธอคิดไปได้ไกลขนาดนั้น”
“เขาดีกับฉัน เขาซื้อของให้ฉัน เขาให้พี่ป๊อบสอนฉัน เวลาฉันมีเรื่องไม่สบายใจเขาก็ปลอบฉัน”
“ก็น่าเห็นใจนะ คุณมิตรเขาก็ดีอย่างที่เธอว่า เพียงแต่...”
ทองดีแปลกใจ
“เพียงแต่อะไร”
“ทอง...ถ้าเธอจะรักคุณมิตรน่ะมันก็ไม่ผิดหรอก แต่เธอต้องท่องไว้อย่างนะ ถ้าเธอไม่หวังอะไรจากคุณมิตรเธอก็จะไม่ผิดหวัง”
“หมายความว่ายังไง”
“เอาเป็นว่า เธอตั้งใจทำงานเก็บเงินไว้เลี้ยงตัวตอนแก่ดีกว่า อย่าคิดเอาชีวิตไปฝากไว้กับใคร เพราะไม่มีใครที่มันจะรักเราเท่ากับตัวเรา ทำอย่างที่ฉันพูดให้ได้แล้วเธอจะมีความสุข”
ทองดีนั่งนิ่งหันหน้าหนีเมย์
“ทอง”
ทองดีสวนขึ้น
“ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันรักเขา ฉันอยากอยู่กับเขา ฉันจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายที่ดีที่สุดคนนี้ไปจากฉัน”
เมย์จับไหล่ปลอบ
“ขอให้เธอโชคดีสมหวังในสิ่งที่เธอต้องการนะ”
เมย์ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ทองดีมองตามไปอย่างเศร้าใจ ก่อนจะฟุบหน้าลงกับหมอนร้องไห้

เย็นนั้น ทองดียืนชะเง้อรอมิตรอย่างกระวนกระวาย พอเขาลงจากรถก็ยิ้มให้เฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อ้าวทอง ทำไมไม่ไปแต่งตัวอีก”
“ทองอยากคุยกับคุณ”
“มีธุระอะไรหรือ”
“เอ่อ...ทอง...ทองจะขอโทษที่ตบคุณมิตรเมื่อเช้า”
“ช่างมันเถอะ...ผมลืมไปแล้ว”
ทองดีดีใจ
“คุณมิตรไม่โกรธทองนะคะ”
มิตรยิ้มไม่พูดอะไร ทองดีคิดว่าเขาไม่ถือโทษแล้ว เธอเกาะแขนแล้วซบหน้าลงกับไหล่เขา
“งั้นเรามาเริ่มกันใหม่นะคะ ทองสัญญาว่าจะทำตัวให้ดีคุณมิตรจะได้รักทองมากๆ”
“เธอน่าจะไปเตรียมตัวทำงานได้แล้วนะ”
“คุณมิตรไปส่งทองที่ห้องแต่งตัวนะคะ”
มิตรยิ้มอีก ทองดีดีใจมากเดินเกาะแขนเข้าไปด้านในด้วยกัน

ทองดีเดินเกาะแขนเขามาในห้องแต่งตัว วันดี เมย์ ที่ช่วยแต่งตัวกันอยู่มองมาที่สองคน พี่ป๊อบรีบวิ่งมาหาทันที
“อุ๊ย...คุณมิตรมาเร็วแบบนี้ก็ดีเลยนะคะ”
“มีอะไรเหรอ”
วันดีเข้าไปบอก
“วันนี้มีคนมารอสมัครโคโยตี้ใหม่แทนจูน แต่กว่าเฮียบุ๋นจะกลับจากฮ่องกงก็อีกหลายวัน คุณมิตรจะไปดูแทนหรือเปล่าคะ”
“ได้...เดี๋ยวผมไปดูให้ ผมว่าให้เต้นจริงบนเวทีเลยแล้วกัน”
ทองดีชักไม่พอใจ
“คุณมิตรจะไปดูทำไม ให้เขารอเฮียบุ๋นมาสิ”
มิตรสวนขึ้นทันที
“ทอง...เพิ่งให้สัญญาอะไรกับผมไว้จำได้ใช่ไหม”
“จำได้...ทองจะทำตัวดี แต่คุณไม่ต้องไปดูนังพวกนั้นไม่ได้เหรอ”
มิตรปลดแขนทองดีแล้วพยักหน้ากับวันดีแล้วเดินตามกันไป ทองดีจะวิ่งตามไปแต่เมย์มาดึงแขนไว้
“ไปแต่งตัวกันเถอะ...ถ้าขึ้นเต้นช้าคุณมิตรจะไม่พอใจนะ”
ทองดีจะไม่ไปแต่เมย์ดึงแขนไว้แล้วกระซิบบอก
“คุณมิตรน่ะยิ่งตามเหมือนยิ่งหนีนะ เห็นจูนเป็นตัวอย่างมาแล้วนี่”
ทองดีคิดนิดหนึ่งแล้วเชิดหน้า
“ไม่...ฉันจะไม่แพ้เหมือนอย่างจูน”
ทองดีพูดจบก็เดินตามมิตรกับวันดีไป เมย์มองตามแล้วส่ายหน้าระอาใจ

เหล่าเด็กโคโยตี้ เต้นกันอยู่ 3-4 คน บนเวที มิตร วันดี พี่ป๊อบ ยืนดูแล้วปรึกษากัน ทองดีแอบดูอยู่ห่างๆ เมย์ที่เปลี่ยนชุดแต่งหน้าเสร็จแล้วเดินมาหา
“เป็นไงมั่ง”
“ก็ไม่มีอะไร”
“เห็นไหม เรื่องงานก็เป็นงานแหละ ไปแต่งตัวแต่งหน้าเถอะ”
ทองดีพยักหน้าจะตามเมย์ไปแต่หันไปที่เวทีอีกครั้ง เพลงจบเหล่าโคโยตี้เดินลงมาที่ มิตร วันดี พี่ป๊อบ ทองดีชะงักหยุดเมย์หยุดตาม เพราะมีคนหนึ่งยิ้มหวานให้มิตร ทองดีไม่พอใจ
“หมั่นไส้นักเชียว อีนังเสื้อแดง มันกล้าอ่อยคุณมิตร”
เมย์ถอนใจ
“แล้วเธอจะทำยังไง”
“ฉันจะไปตบมัน”
ทองดีจะเดินไป เมย์รีบยุส่ง
“ไปสิ...ตบมันเลย แต่ฉันอยากรู้ว่าหลังจากตบนังนั่นแล้ว คุณมิตรจะกลับมาหาเธอเหรอ”
ทองดีชะงักหยุดเดิน
“ฉันจะไม่เตือนเธออีกแล้วนะ ถ้าเธอจะทำอะไรก็ทำเลย แต่คืนนี้ไม่มีสมาธิเต้น ลูกค้าไม่ชอบต่อไปเฮียบุ๋นกับคุณมิตรก็คงไม่เอาเธอไว้ ถึงตอนนั้นอนาคตเธอก็จะดับวูบ คราวนี้ได้ไปขายตัวกันจริงๆล่ะ”
ทองดีรู้สึกเหนื่อยอ่อนใจมาก เมย์มองทองดีแล้วสงสารถอนใจเครียดตาม
“ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเถอะ อย่างน้อยความเป็นดาวของเธอก็จะทำให้เฮียบุ๋นกับคุณมิตรเกรงใจ”
“ก็ได้ ฉันจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด เพื่อคุณมิตร”
เมย์ส่ายหน้า
“ก็ยังดีกว่าเดิมหน่อย”
สองสาวเดินไปแต่ทองดีไม่วายหันมามองมิตรกับสาวโคโยตี้ที่ยิ้มให้กัน

ค่ำนั้น...บนเวที ทองดี เมย์ และเหล่าโคโยตี้ทั้งหลายกำลังเต้นโชว์ ทองดีเต้นอย่างเต็มที่ แต่หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม แขกแย่งกันให้ทิปจนทองดีรับแทบไม่หวาดไม่ไหว จนกระทั่งโชว์จบ
นรินทร์นั่งมองทองดีเต้นโชว์อย่างตั้งใจจนโชว์จบ เขาปรบมืออย่างพอใจ วันดีเดินผ่านเข้ามาด้านข้าง นรินทร์รีบเรียกไว้
“นี่หนูๆๆ”
วันดีหันมายิ้มหวานชื่นใจ
“อุ๊ยว่าไงคะคุณพี่ขา”
นรินทร์สะดุ้ง
“รุ่นป้าเลยเหรอ”
วันดีค้อน
“ช่วยตามคุณทองประกาย มานั่งคุยกับผมหน่อยได้มั๊ย”
“อุ๊ย...คุณขา น้องทองประกายน่ะเขาไม่นั่งดริ๊งค์ค่ะ ขอเป็นน้องคนอื่นได้ไหมคะ”
“ผมต้องซื้อดริ๊งค์เท่าไหร่”
วันดียิ้มๆ
“แฮ่ะๆ ช่วงนี้ราคาทองขึ้นเอ้าขึ้นเอา เปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 200 ดริ๊งค์ค่ะ”
“ตกลง” นรินทร์หยิบแบงค์พันส่งให้วันดี “ช่วยเร่งเวลาด้วยนะ ผมไม่ชอบคอยนาน”
วันดีตาโต ตีมือนรินท์เบาๆ
“แหม...ใจร้อนจริง...จริ๊ง จะไปตามให้เดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
วันดีรีบเดินไปทันที

ทองดีกับเมย์ และเหล่าโคโยตี้เดินเข้ามา ทองดีรีบหยิบเสื้อผ้าและรื้อผมออก เมย์ยิ้มล้อๆ
“แหม...รีบจังเลยนะ”
“ไม่ได้สิ ฉันไม่อยากให้คุณมิตรรอนาน”
วันดีเดินเข้ามายิ้มหวาน
“คุณทองประกายคะ...มีแขกเชิญคุณไปพบค่ะ”
“วันนี้ฉันไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้นแหละ ไว้วันหน้าแล้วกันนะ”
วันดีโวยวาย
“อ๊าย...ไม่ได้นะยะหล่อน เขาจ่าย 200 ดริ้งค์ แบบไม่มีเงื่อนไข น่านะ ทองประกายของเจ๊ ทำเพื่อองค์กรของเราสักหน่อยนะ”
ทองดีค้อน
“ทำเพื่อองค์กรหรือเพื่อส่วนแบ่งของเจ๊”
วันดีง้องอนสุดๆ ทองดียังนิ่งทำท่าเบื่อๆ วันดีทำมารยา
“เสร็จแน่ละฉัน มีหวังต้องโดนไล่ออก ตกงานตอนวัยทองแน่ๆถ้าทองไม่ยอมออกไป แขกต้องไปฟ้องเฮีย...คราวนี้ เจ๊ต้องออกไปขุดดินกินหญ้าตามนังจูนอีกคน...กระซิก...กระซิก”
วันดีทำท่าเศร้าอย่างเว่อร์ๆ หันไปขยิบหูขยิบตาให้เมย์ เมย์ถอนหายใจอย่างหนักใจ
“ทอง...ถือว่าช่วยเจ๊แกหน่อยเถอะ...ออกไปก็ได้เงินนะ มีเงินไว้น่ะ ดีกว่าไม่มีนะทอง”
ทองดีลุกขึ้นแต่ยังหน้างอๆอยู่ วันดีน้ำตาแห้งทันที รีบประคองหน้าประคองหลังออกไปทันที เมย์มองตามถอนหายใจยาว อย่างอึดอัด

ทองดียกมือไหว้อย่างมีมารยาท นรินทร์เห็นก็ยิ้มรับไหว้อย่างพอใจ
“มารยาทดีสมกับเป็นดาวของที่นี่”
“คุณจะดื่มอะไรดีคะ เดี๋ยวดิฉันสั่งให้”
“ไม่หรอกครับ ผมอยากคุยกับคุณมากกว่า”
นรินทร์จ้องจนทองดีอึดอัดแต่พยายามฝืนยิ้ม แล้วหันไปเห็นมิตรที่ยืนคุยกับลูกค้าก็มองนิ่ง
“คุณทองประกายครับ...”
ทองดียังนิ่ง นรินทร์เลยเรียกเสียงดังขึ้น
“คุณทองประกายครับ”
ทองดีสะดุ้ง
“อะไรนะคะ ขอโทษค่ะ คุณว่าอะไรนะคะ”
นรินทร์ยื่นนามบัตรให้
“ผมชื่อนรินทร์ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของผับที่จะเปิดใหม่น่าจะไปได้ดีกว่าที่นี่ ผมอยากได้คุณไปร่วมงานด้วย ถ้าคุณสนใจ”
“ขอบคุณมากนะคะ...ฉันคงไม่ไปหรอกค่ะ”
ทองดีรับนามบัตรไว้แล้วก็หันไปมองทางมิตร นรินทร์มองตามก็รู้ทันที
“คุณคงไม่ใช่แฟนของน้องชายเฮียบุ๋นนะครับ”
ทองดียิ้ม
“เผอิญใช่ค่ะ...ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
ทองดีส่งนามบัตรคืน นรินทร์ไม่ยอมรับคืน
“ถ้าคุณไป...ผมจ่ายมากกว่าที่นี่ 2 เท่าทุกอย่าง”
ทองดีนิ่งอึ้ง นรินทร์ลุกขึ้นหันไปมองทางมิตร แล้วยิ้ม
“ถ้าคุณสนใจ ก็เชิญนะครับ ผมยินดีต้อนรับเสมอ แล้วอีกอย่าง ความรักกินไม่ได้หรอกครับ”
นรินทร์ยิ้มแล้วเดินออกไป ทองดีมองนามบัตรอย่างครุ่นคิดแล้วหันกลับไปมองมิตร

ทองดีเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวพร้อมนามบัตรในมือแล้วลงนั่งครุ่นคิด วันดีเดินหน้าตื่นเข้ามา พอเห็นวันดีทองดีรีบซ่อนนามบัตรไว้ด้านหลัง
“นี่...ทำไมมันเร็วอย่างนี้ล่ะ แล้วแขกไปไหน Oh…No! เธอคงไม่ไล่แขกฉันไปนะ ตายแล้วฉันจะได้ส่วนแบ่งไหมเนี่ย”
“เป็นไรมากป่ะเนี่ย ไม่ต้องห่วงหรอก เขาจ่ายเงินครบ”
วันดีงง
“จริงเหรอ...อะไรวะ ทำไมถึงได้มาไว เคลมไวแบบนี้ล่ะ”
“ไม่ได้เงินก็บ่น ได้เงินก็สงสัย เยอะไปไหมเนี่ยเจ๊”
วันดีเข้ามาลูบเนื้อตัวทองดีด้วยความเอ็นดู
“แหม...ก็แค่สงสัยน่า”
“แล้วเห็นพี่เมย์หรือเปล่า ฉันมีเรื่องจะปรึกษา”
“เห็นแว๊บๆ เมื่อกี้ยังคุยโทรศัพท์อยู่นี่ มีเรื่องอะไร ปรึกษาเจ๊ก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรดีกว่า แล้วเอ่อ...เจ๊เห็นคุณมิตรหรือเปล่า”
“ไม่เห็น...เหมือนกัน”
“ไม่ใช่กลับไปแล้วล่ะ”
ทองดีรีบหยิบโทรศัพท์แล้ววิ่งออกไป วันดีมองตามแล้วงง
“อะไรของหล่อนยะ แม่ตัวเงินตัวทอง”

ทองดีรีบวิ่งมาที่จอดรถ เห็นรถมิตรจอดอยู่
“รถยังอยู่...”
ทองดีหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหา เสียงโทรศัพท์บอกว่าไม่สามารถติดต่อได้ เธอปิดโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
“ปิดโทรศัพท์ทำไมเนี่ย”
ทองดีเดินตามหามิตรในส่วนต่างๆทั้ง ในห้องทำงาน ในส่วนของคลับก็ไม่มีแต่พอเดินกลับมาที่ลานจอดรถ รถหายไปหมดเหลือแต่รถมิตรคันเดียว ทองดีเดินวนไปวนมา โทรศัพท์อีกแต่เขาก็ไม่เปิดเครื่องเหมือนเดิน ทองชักหงุดหงิด
“คุณมิตร...คุณอยู่ที่ไหนเนี่ย”

ทองดีเดินหน้าเศร้าลากเท้ามาที่หน้าห้องตัวเองจะไขประตูแล้วเปลี่ยนใจ เดินไปหาเมย์ที่หน้าห้อง แล้วเคาะประตู
“พี่เมย์...พี่เมย์ เปิดประตูหน่อย นี่ฉันเอง”
ทองดียืนเรียก สักครู่เมย์เปิดประตูแล้วยื่นหน้าออกมา
“ดึกดื่นป่านนี้มีอะไร ไปนอนได้แล้ว”
“พี่จะนอนแล้วเหรอ”
“พี่ไม่ค่อยสบายน่ะ”
“ฉันนอนไม่หลับน่ะ แล้วก็มีเรื่องจะปรึกษาพี่ด้วย ให้ฉันเข้าไปในห้องได้มั๊ย”
เมย์อึดอัดใจมาก
“ไม่ได้หรอก...ฉัน...ไม่สะดวก”
เมย์หันไปมองในห้อง ทองดีนึกว่าเฮียบุ๋นอยู่ข้างในห้องก็หน้าจ๋อยๆไป
“ไม่เป็นไรพี่ ขอโทษนะ ฉันไปละ”
เมย์ปิดประตูห้องทันที ทองดีมองหน้าประตูอย่างเศร้าๆ
“เฮียบุ๋นนะเฮียบุ๋น เวลางานละไม่มา ดันต้องมาหาพี่เมย์ตอนนี้ด้วย”
ทองดีถอยหลังออกมา 2-3 ก้าว แล้วทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้นั่งเล่นใกล้ๆดูวิวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เมย์หันหลังพิงประตูเหมือนรู้สึกผิดเล็กน้อยแต่แล้วก็กลับเป็นปกติ เดินกลับมาที่เตียง ซึ่งมิตรนอนหันหลังให้อยู่ มิตรพลิกตัวกลับมาหา
“ไปแล้วหรือ”
“ค่ะ...คงกลับไปนอนแล้ว”
เมย์ขึ้นไปบนเตียง มิตรดึงเข้าไปกอด
“น่าสงสารทองนะ...นี่คุณมิตรคิดจะจริงจังกับทองบ้างมั๊ยคะ”
มิตรยักไหล่
“เมย์พูดเหมือนไม่รู้จักผม...หรือว่า เมย์ไม่รักผมแล้ว”
“อย่าถามเมย์แบบนั้นเลย คุณมิตรน่ะ รักใครเป็นบ้าง”
มิตรหัวเราะ
“ถึงผมจะยังไม่รักใคร แต่บอกได้เลยว่าอยู่กับเมย์เนี่ยผมสบายใจที่สุด”
“แต่ทองชอบคุณมากนะ คุณน่าจะชอบเขา”
“เขาก็น่ารักดีนะ แต่ผมไม่คิดอะไรและคงจะไม่คิดด้วย”
“แต่ทองเขาคิดว่า...”
มิตรกลบเกลื่อน
“ว๊า...คุยเรื่องนี้ไม่สนุกเลย ผมชักหิวแล้วสิ เมื่อกี้ออกแรงเยอะ ไปหาอะไรกินกันหน่อยดีกว่า”
เมย์เขิน มิตรดึงมากอด
“ดึกป่านนี้ไม่กินแล้วค่ะ เดี๋ยวอ้วนเป็นหมู”
“ไม่เป็นไร ไม่กินก็ไปนั่งเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ”
ทองดีนั่งอยู่ที่เก้าอี้ใกล้ห้องเมย์ เธอนั่งกดโทรศัพท์เล่นด้วยความเซ็งแล้วเริ่มหาวนอน ลุกขึ้นจะเดินเข้าห้อง แล้วได้ยินเสียงประตูห้องเมย์เปิดออกมา ทองดีหันหลังกลับไปทันทีเธอจะเดินไปแต่จังหวะเดียวกันนั้น มิตรเดินกอดคอเมย์ออกมา ทั้งสามเจอกันก็ชะงักทันที ทองดีตวาดลั่น

“นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“ทอง”
เมย์หน้าเจื่อนทันที มิตรหน้าเฉยเมย ทองดีโกรธจัดเดินไปกระชากเมย์มาตบ
“อีเพื่อนสารเลว เสียแรงกูไว้ใจมึง...มึงกลับมาแย่งผัวกู”
“ทอง...ฉันขอโทษ”
ทองดีไม่ฟังตบซ้ำ เมย์ไม่สู้ได้แต่ร้อง ทองดีร้องกรี๊ดไปตบไป มิตรช่วยลากดึงพัลวัน วันดีที่พอกหน้าไม่เสร็จกับเหล่าโคโยตี้ในชุดนอนก็วิ่งกรูกันออกมาดู
“ซวยแล้วไหมล่ะ รถไฟฟ้าชนกัน”
ทองดียังดึงจะเข้าตบเมย์จนมิตรคว้ามือไว้
“ทอง...หยุดก่อน”
“ไม่หยุด วันนี้กูจะตบอีเพื่อนตอแหลให้มันตายคามือ”
ทองดีดิ้นจะตบโวยวายทั้งทุบทั้งตีมิตร
“คุณก็เหมือนกัน...คุณมิตร...คุณมิตรทำอย่างนี้กับทองได้ยังไง ฉันเป็นเมียคุณนะ ทำไมคุณไปเอามัน”
มิตรจับมือทองดีแล้วกอดไว้แน่น ทองดีร้องไห้ เมย์ก็ร้องไห้ ทองดีเอาแต่ร้องกรี๊ดๆๆ
“ทอง...ฟังนะ ไม่มีใครเป็นเมียฉันทั้งนั้น เราทุกคนเป็นเพื่อนกัน”
ทองดีชะงักหยุดดิ้น
“อะไรนะ เพื่อนเหรอ”
“ฉันไม่ชอบผูกมัดกับใคร ความสัมพันธ์แบบนี้มันก็ดีอยู่ ถ้าเธอไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าของฉัน เราสามคนก็จะมีความสุข ฉันรู้สึกดีกับเธอนะทองประกาย แต่ฉันไม่อยากเป็นมากกว่าเพื่อนกับใครทั้งนั้น”
“ไม่...ฉันรับไม่ได้ ฉันรักคุณฉันจะเป็นเมียคุณคนเดียว”
“ฉันอยากให้เธอเข้าใจฉันนะ เพราะถ้าเธอไม่เข้าใจเราก็คงต้องยุติความสัมพันธ์”
มิตรปล่อย ทองดีร้องไห้ แต่มิตรเดินไปพยุงเมย์ ทองดีโกรธจัด
“มึง...อีเพื่อนทรยศ”
มิตรกับเมย์พากันเดินไป ทองดีตามไปดึงแขนมิตร
“คุณมิตร...อย่าทิ้งฉัน”
“ทอง...เราเป็นได้แค่เพื่อนร่วมกัน เธอกับฉันไปด้วยไม่ได้หรอก ฉันเสียใจ”
ทองดีทรุดตัวร้องไห้ วันดีสงสารลงนั่งลูบหัวเห็นใจ มิตรจะพาเมย์ไปแต่เมย์ชะงักไม่อยากไป
“ไปก่อนเถอะ ไว้อารมณ์ดีๆค่อยมาคุยกัน”
มิตรกับเมย์จะไปแต่ทองดีประกาศก้องขึ้นมา
“ฉันขอลาออก”
ทองดีจ้องหน้ามิตรกับเมย์ด้วยความแค้นใจ มิตร เมย์ วันดีตกใจกับสิ่งที่ทองดีประกาศ

ทองดีนั่งนิ่งร้องไห้ด้วยความแค้น มิตรเคาะประตูเข้ามา ทองดีชะงักมอง
“จะไปจริงๆเหรอ”
“ฉันไม่ชอบใช้ผัวร่วมกับใคร”
“เธอน่าจะคิดดูให้ดีนะ ที่นี่มีทั้งเงินและโอกาสให้เธอมากมาย ถ้าเธออยากได้อะไรเพิ่มฉันจะบอกเฮียให้เอาไหม”
“ฉันอยากเป็นเมียคุณคนเดียว คุณทำให้ฉันได้ไหม”
มิตรอึ้ง
“ทอง...เรากำลังคุยเรื่องธุรกิจนะ”
“ใช่...ฉันรู้แล้วว่าคนอย่างคุณมันไม่รักใคร เพราะคุณกับพี่คุณมันก็ไอ้หน้าเงิน”
“ฉันยอมรับ แล้วเธอล่ะทำไมไม่ยอมรับบ้างว่าก็ต้องการเงิน ฉันว่าเธออย่าทำอะไรให้มันยุ่งยากไปกว่านี้เลยนะ”
“ไม่หรอกคุณมิตร คุณไม่ต้องกลัว เชิญคุณเสวยสุขกับผู้หญิงของคุณเถอะ ฉันขอไม่เจอคุณอีก”
“ทอง...เธอแน่ใจเหรอที่พูดออกมา”
“แน่สิ เพราะให้ฉันอยู่กับผู้ชายหมาๆอย่างคุณ ฉันขอไปตายดีกว่า”
มิตรมองทองประกายแล้วถอนใจเครียด
“ถ้างั้นฉันก็ขอให้เธอโชคดีนะ”
มิตรเดินออกไป ทองประกายมองตามแล้วทรุดตัวนั่งร้องไห้

วันใหม่...ทองดีเดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกมาที่หน้าผับ คนงานกำลังปลดป้ายรูปของทองดีลงมาวางที่พื้น คนงานเดินย่ำไปมาเป็นลอยเลอะเทอะ ทองดีชะงัก
“เออ...กูจะจำไว้...พวกมึงทำเหมือนกูเป็นสิ่งของ ทำเหมือนกูไม่ใช่คน ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ทองดีเชิดหน้าเดินออกไปอย่างเจ็บช้ำ เมย์ยืนมองอย่างเศร้าใจ
“ขอโทษนะทอง โลกมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ”

นรินทร์นั่งคุยกับทองดีในห้องทำงาน
“รู้ไหม ผมทั้งดีใจและเป็นเกียรติมากนะ ที่ได้คุณทองประกายมาร่วมงานกับเรา...รับรองผมจะปั้นให้คุณดังกว่าที่เก่าอีก”
“แต่ฉันอยากร้องเพลงมากกว่า ฉันขอเป็นนักร้องได้ไหมคะ”
“ทำไมล่ะแขกเขาอยากดูคุณเต้นมากกว่าร้องเพลง จะไปร้องทำไม”
“ฉันอยากได้เงินเยอะๆค่ะ”
“ทำไมล่ะ เงินเดือนกับค่ารอบที่ผมให้มันก็มากกว่าที่เก่าทั้งสองเท่านะ”
“ฉันขอสามเท่า คุณนรินทร์ดูใจดีคงให้ฉันนะคะ นะๆๆๆ”
นรินทร์นิ่งคิดแล้วยิ้ม
“ได้...ถ้าคุณทำให้ที่นี่ดัง ผมอาจจะให้คุณมากกว่าที่ขอ”
ทองดียิ้มพอใจ

ทองดีเดินเข้ามาในห้องพักสุดหรู นรินทร์เดินตามเข้ามา ทองดีตื่นเต้นเพราหรูกว่าที่เคยพักมาตลอดชีวิต เธอเดินไปนั่งที่ชุดรับแขกแล้วยิ้ม นรินทร์ทรุดตัวลงนั่งตาม แล้วเอามือโอบไหล่ของเธอ
“นี่เป็นห้องพักส่วนตัวของผม เวลาที่ผมไม่กลับบ้าน คุณจะพักที่ห้องนี้ก็ได้ แต่มีเงื่อนไขเล็กน้อย”
ทองดีชะงัก เริ่มรู้ว่านรินทร์ต้องการอะไร
“บอกไว้ก่อนนะ ฉันไม่ขายตัว และไม่เป็นเมียน้อยของใครทั้งนั้น”
“แหม...ตีค่าตัวเองน้อยไปหรือเปล่า สวยๆอย่างคุณน่ะมีค่ามากกว่านั้น”
นรินทร์จะโน้มตัวมาหอมแต่ทองดีผลักหน้าออกอย่างไม่เกรงใจ
“นี่คุณนรินทร์ อย่าเห็นว่าฉันพูดเพราะกับคุณแล้วฉันจะง่ายนะ ฉันมาทำงานอย่างเดียวเท่านั้น”
นรินทร์ชะงัก อารมณ์เสียดึงมือกลับทันที
“งั้นก็พักที่นี่ไม่ได้ ต้องไปพักหอรวม เลือกเอาแล้วกัน”
นรินทร์กับทองดีจ้องตากัน
นรินทร์เดินนำหน้าทองดีมาอย่างหงุดหงิด ไปถึงห้องๆหนึ่ง นรินทร์เคาะประตูอย่างแรง วิไลเยี่ยมหน้าออกมาหน้าโทรมๆ
“วิไล...อ้อยเก็บของไปหรือยัง”
“ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ คุณนรินทร์”
“ดีแล้ว” นรินทร์หันไปบอกทองดี
“งั้นเธออยู่ห้องนี้ นี่วิไล เด็กนั่งดริ้งค์ นี่ทองประกายโคโยตี้คนใหม่ รู้จักกันซะ”
ทองดีไม่พอใจ
“ไม่เอานะ ฉันไม่อยู่กับพวกนั่งดริ้งค์ ไม่เอา”
“ถ้าไม่อยู่ที่นี่ ก็ต้องไปหาห้องเช่าเอาเอง”
นรินทร์พูดจบก็เดินออกไป ทิ้งให้ทองดีมองหน้าวิไลอย่างไม่แน่ใจ
วิไลเดินพาทองดีเข้ามาในห้อง ทองดีเข้ามามองรอบๆตัวอย่างไม่ค่อยพอใจ สภาพแย่กว่าห้องที่เคยอยู่ไม่มีแอร์
“ตามสบายเลยนะ โน่นเตียงของเธอ คงต้องหาผ้าปูที่นอนมาเปลี่ยนใหม่เอง ของเก่าฉันเก็บใส่ถุง ทิ้งขยะไปหมดแล้ว”
ทองดีแปลกใจ
“อ้าว...ทิ้งทำไมล่ะ เจ้าของเก่าเขาไม่เอาไปด้วยหรือ”
“อ้อยน่ะหรือ คงไม่ได้ใช้หรอก มันไปพระบาทน้ำพุ ของพวกนี้คงใช้ไม่ได้หรอก”
ทองดีงงๆ
“ไปทำไม พระบาทน้ำพุ”
วิไลมองทองดีอย่างแปลกใจ
“เธอไม่รู้หรอกหรือ อ้อยมันโดนไล่ออก เพราะเป็นเอดส์ เลยไปรักษาตัวที่นั่น”
ทองดีอึ้ง มองรอบตัวอย่างรังเกียจ
“อะไรนะ เป็นเอดส์หรือ ว๊าย ไม่ไหวมั๊งเนี่ย จะติดฉันมั้ยเนี่ย”
วิไลงง
“ไม่ติดหรอก เอดส์มันติดต่อกันเพราะเรื่องอย่างว่า ไม่ต้องกลัวหรอก” วิไลมองทองดีอย่างชื่นชม “แหม...เธอสวยจริงๆนะ หุ่นก็ดี...ดี้ เออ...เป็นโคโยตี้ สนุกมั้ย”
ทองดีเชิด
“ก็ดี...นี่เธอ แน่ใจนะว่าทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกจ๊ะ...ฉันเช็คตั้งหลายรอบแล้ว เออ...เอากระเป๋ามาสิ ฉันจะช่วยจัดเสื้อผ้าให้”
ทองดีรีบกอดกระเป๋าไว้แนบตัว มองรอบๆตัวอย่างรังเกียจ
“ไม่ต้อง ฉันทำเองได้”
วิไลหน้าเจื่อนไป
“ถ้าจะให้ช่วยอะไรก็บอกนะ ตามสบายเลย”
วิไลมองทองดีอย่างไม่เข้าใจ เลี่ยงไปอีกทาง นั่งลงมองทองดีอย่างสนใจ

เย็นนั้น...วิไลเดินพาทองดี ไปตรงที่เด็กนั่งดริ้งค์ทั้งหลายนั่งตั้งวงกินส้มตำกันอยู่ วิไลแนะนำทองดีอย่างภูมิใจมาก
“พวกเรา นี่โคโยตี้คนใหม่ ทองประกาย” วิไลหันมาหาทองดี “นั่น แก้ว...อี๊ด...คำหล้า...”
ทุกคนยิ้มต้อนรับ แต่ทองดีทำท่าเชิดๆ ทุกคนเลยเบ้ปาก แก้วหมั่นไส้
“แหม...นังวิไล ท่าทางเพื่อนแกจะหยิ่งไม่ใช่เล่นนะ นังวิไล”
วิไลรีบแย้ง
“เฮ้ย...ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เขามาใหม่ คงยังเขินอยู่”
ทองดีเบ้ปาก
“แถวนี้ไม่มีอย่างอื่นกินหรือ ฉันไม่อยากกินส้มตำเลย เหม็นปลาร้าติดปาก”
วิไลหน้าเสีย เหล่าเด็กนั่งดริ้งค์เริ่มไม่พอใจ อี๊ดส่งเสียงแดกดัน
“กลัวเหม็นปลาร้า แหม...ผู้ดีตีนแดงจริงนะมึง ก็ไม่พ้น กระหรี่เหมือนกันละว๊า ทำเป็นอัพเกรด หมั่นไส้”
ทองดีโกรธ
“นี่แกว่าใคร”
แก้วลอยหน้าลอยตาพูด
“ใครอยากได้ก็รับไป”
ทองดีปรี่เข้าไปหาแก้ว จะเอาเรื่อง วิไลรีบห้าม
“อย่ามีเรื่องกันเลยน่า ทองเขาไม่ได้หมายความแบบนั้นหรอก ขอร้องนะ...งั้นฉันพาเธอไปกินข้าวแกงแล้วกัน”
วิไลรีบดึงมือทองดีออกไป เหล่าเด็กดริ้งค์มองตามไปอย่างหมั่นไส้

วิไลพาทองเดินแยกออกมา พอพ้น ทองดีสะบัดมือวิไลอย่างรำคาญ วิไลงง
“ไม่ต้องมาทำดีกับฉันเลย เธอหวังอะไรจากฉันกันแน่”
“เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ไม่รู้ล่ะ ไอ้ที่เธอพยายามทำดีกับฉัน อย่ามาตอแหลซะให้ยากเลย ฉันรู้นะ เธอต้องหวังอะไรจากฉันแน่นอน”
วิไลจ้องหน้านิ่งแล้วส่ายหน้าอย่างน้อยใจ
“ไม่อยากเชื่อเลย เธอจะคิดแบบนั้น ฉันแค่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ ถามหน่อยเถอะ ชีวิตผู้หญิงกลางคืนอย่างเรานี่ ยังเลวร้ายไม่พออีกหรือ ทำไมฉันจะต้องมาใส่ร้าย ตอแหลกับเธออีก...แค่นี้ ฉันก็รู้สึกแย่พอแล้ว”
ทองดีได้คิดเสียงอ่อนลง
“เอ่อ...เธอ อยากเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆน่ะหรือ”
“แล้วแต่เธอจะคิดแล้วกัน ถ้าเชื่อเมื่อไหร่ ค่อยมาคุยกันก็ได้”
วิไลหันหน้าเดินหนีทองอย่างเซ็งๆ ทองดีมองตามวิไลไปอย่างรู้สึกผิด
“ใครจะไปรู้...ไม่รู้ละ ฉันต้องระวังไว้ก่อน จะไม่ยอมเจ็บซ้ำซากอีกแล้ว”
ทันใดนั้นเสียงจูนก็ดังขึ้น
“เช๊อะ...เจ็บเป็นกับเขาเหรออีหน้าด้าน”
ทองดีกับวิไลหันไปตามเสียง ทองดีตกใจที่เห็นจูนยืนจ้องหน้าเอาเรื่องอยู่
“จูน ทำไมไปว่าทองเขาล่ะ ยังไม่รู้จักกันสักหน่อย”
ทองดีหันไปบอกวิไล
“เรารู้จักกันแล้ว” ทองดีหันมาหาจูน “จะคุยกันไหม”
จูนกับทองดีมองหน้ากัน

ทองดีกับจูนนั่งคุยกันอยู่ที่มุมหนึ่งในผับนรินทร์
“ฟังเรื่องแกแล้วก็อยากจะสมน้ำหน้านะ แต่ด่าแกก็เหมือนด่าฉัน”
“ฉันไม่คิดว่าเลยว่าอีเมย์มันจะหักหลังได้”
“โทษคนอื่นไม่ได้หรอก ต้องโทษตัวพวกเรากันเอง”
ทองดีแปลกใจ
“อะไร นี่เธอไม่แค้นมันเหรอ มันแย่งผัวพวกเรานะ”
“ตอนที่ฉันออกจากที่นั่น ฉันก็โกรธแก ส่วนเมย์น่ะฉันโกรธตั้งแต่แรกที่รู้แล้ว แต่ก็ถือว่ามันมาก่อนเลยยอมให้ แต่คุณมิตรก็ไม่หยุด ยังมามีแกอีก ลองคิดดูดีๆสิว่าควรโกรธใคร”
ทองดีนั่งนิ่งคิด
“คุณมิตรเป็นเหมือนชายในฝันของฉันเลย”
จูนทำหน้าเซ็งๆ
“โอ๊ย...เขาก็ไม่ได้เลวเกวนะ แต่พวกเราไปหวังกับเขามากเองต่างหาก”
“พูดแบบนี้ก็คือพวกเราควรจะโกรธตัวเองน่ะสิ”
จูนหัวเราะ
“จำไว้นะนังทองประกายคนสวย หัวใจมันก็เหมือนกับเงินในกระเป๋าของเรา ถ้าเราไม่ให้ใครมันก็มาเอาไปไม่ได้ แล้วเงินถ้าไม่ให้เขาเราก็ไม่จน หัวใจถ้าไม่ให้เขาเราก็ไม่เจ็บ”
ทองดีมองจูนอย่างสำรวจจนจูนงง สักพักทองดีก็หัวเราะขำ
“นี่...ฟังฉันเทศน์เสร็จแกบ้าไปแล้วเหรอ”
“เปล่าฉันแค่นึกว่า เราสองคนต้องขอบคุณ ไอ้คุณมิตรมันไหม ที่ทำให้เราได้เป็นเพื่อนกัน”
“แหม...พูดก่อนเลยนะ ฉันเคยแอบคิดเหมือนกันว่าจริงๆก็อยากเป็นเพื่อนกับคนสวยๆอย่างแก”
“ตอนนี้ชักคิดถึงอีพี่เมย์แล้วสิ”
“ถ้าไม่ตายคงได้เจอกันละวะ”
สองสาวหัวเราะสนุกกัน

ค่ำนั้น...บนเวที ทองดีกับจูน เต้นโชว์อย่างสวยงามจนจบเพลง แขกเรียกทองดีเดินไปรับทิปวุ่นวาย ทองดีปลื้มหันไปยิ้มกับเพื่อน จูนแอบยกนิ้วให้ นรินทร์ยืนรอทองดีอยู่หลังเวที พอเธอกลับเข้ามา เขารีบเดินเข้าไปหา
“เห็นหรือเปล่า แขกตามเธอมาจากร้านโน้นเพียบเลย”
ทองดีงง
“เขารู้ได้ยังไงล่ะ ฉันเพิ่งลาออกเมื่อวานนี้เอง ไม่ได้บอกใครซักคน”
นรินทร์หัวเราะขำ
“ฉันสั่งให้พีอาร์ โปรโมทข่าวเธอในเฟซบุค พวกนั้นก็ตามมาดู เพราะอยากรู้ว่า ทองประกายตัวจริงน่ะสวยแค่ไหน”
“อย่างนี้ คุณต้องทิปฉันเป็นพิเศษแล้วล่ะ”
“แหม...ทั้งสวยทั้งเขี้ยวเชียวนะเรา เอาไว้ให้ครบเดือนก่อน ฉันมีรางวัลให้แน่นอน”
ทองดียิ้มอย่างพอใจ พอนึกถึงมิตรก็แค้นๆรำพึงออกมาเบาๆ
“คอยดู ฉันจะทำให้คุณมิตร เสียดายฉันให้ได้”
ทองดีมุ่งมั่นมาก

วิไลกำลังจัดที่นอนให้จนเรียบร้อย ทองดีเดินออกมาจากห้องน้ำ วิไลเลี่ยงไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไป ทองดีมองที่นอนตัวเองแล้วรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่กล้าเรียกวิไล ได้แต่เดินไปนั่งที่ตัวเองค่อยๆหยิบเงินทิปที่ได้รับวันนี้ออกมานับเงียบๆ
“เฮ้อ...ค่อยคุ้มค่าเหนื่อยหน่อย เห็นเงินแล้วมันชื่นใจแบบนี้เอง”
ทองดีลุกขึ้นหาที่เก็บ แล้วตัดสินใจยัดไว้ในกระเป๋าใต้ตู้ของตัวเอง
“เอาไว้อย่างนี้ก่อนแล้วกัน มีโอกาสต้องเอาไปฝากธนาคาร”
ทองดีล้มตัวลงนอนเงียบๆ วิไลเดินออกจากห้องน้ำ แต่งตัวจนเรียบร้อย ก็ปิดไฟนอน ทองดี นอนกระสับกระส่ายเพราะอากาศร้อน
“โอ๊ย...ร้อนจริงโว๊ย...จะนอนได้ยังไงเนี่ย”
วิไลถอนหายใจนิดนึง แล้วลุกขึ้นมาหันพัดลมของตัวเองที่ส่ายไปทั่วห้องไปพัดให้ทองดีคนเดียว ส่วนตัวเองก็ล้มตัวลงนอนต่อ ทองดีมองเพื่อนร่วมห้องอย่างนึกเกรงใจ แต่ไม่ยอมเอ่ยปากขอบใจ
“ไว้ฉันหาที่พักได้ดีกว่านี้ ฉันจะไม่รบกวนเธอหรอกนะ”
วิไลเงียบไม่มีคำตอบ ทองดีนอนกระสับกระส่ายอีกพักก็หลับไป

ในคลับเฮียบุ๋นมีลูกค้านั่งอยู่บางตา มิตรยืนมองอย่างเครียดๆ
“ลูกค้ามันหายไปไหนกันหมดวะ...”
วันดีเดินเข้ามาหา
“คุณมิตรคะ...เฮียบุ๋นโทรมาจากฮ่องกง แกรู้แล้วว่าทองประกายออกไป”
“เจ๊บอกเหรอ”
“เปล่าค่ะ เฮียบอกรู้จากเพื่อนเฮีย จะโทรหาคุณมิตรก็ปิดเครื่อง”
“ไว้ฉันจะโทรกลับไปเอง”
“ไม่ต้องค่ะ เฮียบอกว่าถ้ากลับมายังไม่เห็นทองประกาย คุณมิตรไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก แล้วถอนหุ้นไปเลย เฮียยังบอกอีกว่า กูทำของกูดีๆไอ้เวรนี่มาทำฉิบหายหมด คอยดูนะกูกลับไป...”
วันดียังพูดไม่จบมิตรตวาดลั่น
“พอแล้ว...ไม่ต้องละเอียดมากก็ได้ เรื่องนี้ฉันจัดการเอง”
มิตรลำบากใจ

วันใหม่...มิตรขับรถเข้ามาจอดหน้าคลับของนรินทร์ เขาลงจากรถมายืนตามด้วย วันดีและเมย์ วันดีรีบบอก
“คุณมิตร เข้าไปง้อแม่ทองเลยนะคะ พูดกับเธอดีๆหน่อยนะ”
มิตรรำคาญ
“ทำไมต้องฉันด้วย เพราะเจ๊นั่นแหละ เป็นคนพาทองไปหาไอ้ นรินทร์ เลยโดนคาบไปซะ”
“อ้าว...อย่ามาโทษอย่างนั้นสิคะ ตั้ง 200 ดริ้งค์นะ ถ้าปฎิเสธ รายได้ไม่เข้าก็จะมาว่าวันดีอีก แล้วอีกอย่าง ทองคงไม่ได้โกรธเจ๊ซักเท่าไหร่หรอก เรื่องบาดตาบาดใจมากกว่ามั๊ง...”
วันดีพูดจบก็ปรายตามองมิตรกับเมย์ มิตรโมโห
“พูดเรื่องนั้นทำไม ไม่เห็นเข้าเรื่องเลย”
มิตรกับวันดีทำท่าจะเถียงกัน เมย์รีบห้าม
“เอาน่า...อย่ามัวแต่ทะเลาะกันเลย คุณมิตร โทรหาทองหน่อยดีกว่านะคะจะได้คุยกันให้รู้เรื่อง”
มิตรทำฮึดฮัดแต่ก็กดโทรศัพท์หาทองดี แต่โดยดีแต่พอมีสัญญาณก็ถูดกดตัดสาย มิตรหงุดหงิด
“ตัดสายอีกแล้ว”

ทองดีนั่งอยู่บนรถแท็กซี่มองโทรศัพท์ในมือแล้วกดปิดเครื่องไปเลย
“ท่องเอาไว้ หัวใจก็เหมือนเงิน ถ้าไม่ให้ใครก็เอาไปไม่ได้”
แท็กซี่วิ่งมาถึงหน้าคลับของนรินทร์พอดี
“จอดตรงนี้เลยจ๊ะ”
มิตรมองโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด เมย์ถอนใจ
“ยังไงเราก็ต้องรอจนกว่าจะเจอตัวเขา ไม่งั้นเฮียบุ๋นเอาตาย”
มิตรฮึดฮัดแต่ไม่พูดอะไร ทุกคนยืนรออย่างเบื่อหน่าย รถแท็กซี่วิ่งเข้ามาจอด ทองดีเดินลงจากรถมาพอเห็นทั้งสามคนก็ชะงักไป
“มาทำไม...”
สายตาของทุกคนเห็นทองดีดูสวยสง่ากว่าเดิม วันดีตาลุกโชน
“ต๊าย...ตายแล้ว คุณทองประกาย ประกายเจิดมาก”
เมย์เข้าไปหา
“ทอง...ฉันมาตามเธอ กลับไปอยู่ด้วยกัน เฮียบุ๋นเขาอยากให้เธอกลับไปอยู่ด้วย”
ทองดียืนนิ่ง เมย์กับวันดีสะกิดมิตร
“ทอง...คือฉันขอโทษกับเรื่องทั้งหมด”
“ฉันขอคุยกับพี่เมย์คนเดียว”
มิตร วันดี เมย์ ยิ้มอย่างมีความหวัง
เมย์กับทองดีเดินห่างออกไปคุยกันสองคน มิตรกับวันดีคอยอย่างกระวนกระวายใจ
“เมย์จะคุยสำเร็จไหมอ่ะ”
“จะรู้ไหมคะยืนอยู่ด้วยกัน”

ทองดีกับเมย์ยืนคุยกันตามลำพัง...
“ฉันขอโทษจริงๆนะทอง ฉันไม่ได้อยากทำร้ายเธอ”
ทองดีถอนใจ
“ช่างมันเถอะ จูนสอนอะไรๆฉันหลายอย่าง”
เมย์แปลกใจ
“จูนเหรอ”
“จูนก็อยู่ที่นี่ เราสองคนคุยกันแล้ว คนที่ผิดน่ะคือตัวฉันเอง...อย่างที่พี่พูดนั่นแหละ ถ้าฉันไม่หวังฉันก็คงไม่ผิดหวัง ตอนนั้นฉันฟังพี่นะ แต่ฉันไม่ได้ยินแค่นั้นเอง”
เมย์ยิ้ม
“ไม่โกรธพี่แล้วเหรอ”
“ฉันก็อยากมีเพื่อนนะ”
ทองดีกับเมย์ยิ้มแล้วกอดกัน
“แล้วเรื่องกลับไปทำงานล่ะ”
ทองดีส่ายหน้า
“ถ้าไม่ติดว่านึกถึงบุญคุณเฮียบุ๋นนะ ฉันจะชวนพี่มาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ จะได้ไม่ต้องรองรับอารมณ์คุณมิตร”
เมย์นิ่ง ทองดีรู้ทันที
“ที่แท้สอนได้แต่คนอื่น แต่ตัวเองก็รักเขาใช่ไหม”
“พี่ขอโทษนะทอง”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่รู้อยู่แล้วนี่ว่าจะอยู่ให้มีความสุขกับนายนั่นยังไง โชคดีนะ ว่างๆฉันจะโทรไปชวนพี่กับพี่วันเคยดีมากินส้มตำกับจูนนะ”
สองสาวยิ้มให้กัน

ทองดีเดินกลับเข้ามาในห้อง ทิ้งข้าวของแล้วนั่งลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน สักครู่เธอกระเด้งตัวขึ้นมอง รอบๆ เห็นข้าวของในห้องถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ
“เฮ้ย...ใครมาจัดข้าวของเนี่ย หรือว่า” ทองดีนิ่งไปแป๊บนึง “เงินของฉัน”
ทองดีรีบวิ่งไปค้นดูเงินที่ซ่อนไว้พบว่ายังอยู่ดีก็ถอนหายใจโล่งอก วิไลเดินออกมาจากห้องน้ำยืนมองหน้าเฉยเมย ทองดีหันไปมองเห็นวิไลก็หน้าเจื่อนไป
“อยู่ครบหรือเปล่าล่ะ”
“ครบจ๊ะ...เอ่อ...ฉันไม่ได้กลัวเธอขโมยนะ”
วิไลโวยใส่
“ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงนั่งดริ้งค์ แต่ฉันไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นโจรหรอกนะ และฉันไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลือในคุกหรอก”
พูดจบวิไลก็เดินไปเก็บเสื้อผ้า ทองดีรู้สึกผิด
“ฉันขอโทษ...บอกตรงๆนะ ฉันเจออะไรมาเยอะ”
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจเธอ ไม่โกรธหรอก ใครดี ใครเลว ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เถอะนะ”
ทองดีจับมือวิไล ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างเข้าใจกันมากขึ้น
“จะว่าไปฉันก็ชักชอบที่ได้ย้ายมาทำงานที่นี่ซะแล้วสิ”
“แหม...แล้วจะเริ่มชอบปลาร้าได้หรือยัง”
วิไลหัวเราะ









Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 16:31:35 น.
Counter : 478 Pageviews.

0 comment
ทองประกายแสด ตอนที่ 6 (ต่อ)



ทองดียืนกระสับกระส่ายด้วยความตื่นเต้นอยู่ด้านหลังเวที จนเมย์ต้องเดินเข้าไปปลอบ

“ตื่นเต้นใช่มั้ย...วันแรกที่ฉันขึ้นเต้นก็เป็นแบบนี้แหละ”
“นี่ฉันสั่นไปหมดแล้วพี่ ไม่รู้จะทำยังไงให้หาย”
เมย์ยิ้ม
“สูดลมหายใจลึกๆ...พอขึ้นไปบนเวทีก็คิดซะว่า คนดูเป็นเก้าอี้ เหมือนตอนซ้อมนั่นแหละ วาดลวดลายให้เต็มที่เลย ท่องไว้คำเดียวว่า ฉันทำได้”
“...เป็นเก้าอี้หรือ ฉันทำได้ ฉันต้องทำได้ขอบใจนะพี่เมย์”
เมย์ยิ้มให้ทองดี จูนยืนมองอย่างหมั่นไส้ เดินเข้ามากระแทกทองดีเซไป
“ทำไม่ได้ก็หลบไป เกะกะขวางทางคนอื่น...”
“ไม่เห็นคนหรือไง เดินผ่าเข้ามาได้” ทองดีย้อน
“อ้าว...ขอโทษนะ ฉันไม่เห็นคน...เห็นแต่ อีกิ้งก่า ชูคออยากเป็นนักเต้นน่ะสิ”
“เอ๊ะ...แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง..”
ทองดีฉุนปรี่เข้าไปจะเอาเรื่อง วันดีรีบดึงตัวไว้ จูนยิ้มเชิด
“จูน อย่ามีเรื่องกันเลย จะขึ้นเวทีอยู่แล้ว”เมย์บอก
“เอา...นี่พวกแกจะเป็นนักเต้นหรือ นักตบกันยะ ใครไม่อยากเต้น ออกมาเดี๋ยวฉันเต้นแทนเอง”
พี่ป๊อปค้อน
“อุ๊ย...แม่วันดี ช่างกล้าพูดนะยะ...หล่อนเบิ่งตาดูซะก่อนนะยะ นี่เวทีแดนเซอร์ ไม่ใช่เวทีหมอลำซิ่ง จะได้ให้หล่อนขึ้นไปเซิ้งปอบผีฟ้า”
วันดีค้อนควับ
“เออ...จิกเข้า จิกเข้า...ชาติที่แล้วเกิดเป็นไก่หรือไง...”
อีกด้าน...แดนเซอร์ที่เต้นเสร็จกรูกันเข้ามาด้านหลังเวที
“อย่าไปสนใจเลยทอง เตรียมตัวให้พร้อม”
จูนมองไม่พอใจ
“ฉันจะรอดูแก โดนคนโห่ไล่ลงจากเวที น้ำหน้าอย่างแก ไปไม่รอดหรอก...นังทองประกาย....”
จูนกับทองดีมองกันอย่างไม่ถูกชะตา จูนสะบัดหน้าเดินออกไปหน้าเวที
“ไปทอง อย่าไปคิดอะไร แค่เต้น เต้นให้ดีที่สุดเท่านั้น”
ทองดีพยายามระงับอารมณ์
“....จ๊ะ...ฉันจะทำเต็มที่”
เมย์ยิ้มแล้วเดินออกไปหน้าเวที ทองดีรีบเดินตามออกไป วันดีกับพี่ป๊อปรีบตามไปแอบดูอย่างลุ้นสุดตัว

หน้าเวที...เฮียบุ๋นกับมิตรยืนอยู่ด้านหน้า เฮียบุ๋นมองไปที่เวทีอย่างตื่นเต้น
“มันจะไปรอดมั้ยเนี่ย”
“ต้องรอดู”
บนเวที...ทองดีเริ่มเต้น ตอนแรกยังดูเงอะงะ เมย์แอบมองอย่างเป็นห่วง จูนรอจังหวะ พอหมุนตัว จูนกระแทกทองอย่างแรง จนทองดีเซๆไป แต่เธอยังพยายามรักษาจังหวะ จูนยิ้มสะใจ วันดีกับพี่ป๊อปหันไปมองหน้ากัน
“ตายจริง...นังจูนแผลงฤทธิ์ซะแล้ว”
เฮียบุ๋นเอามือปิดตา แต่ยังแอบมองลอดนิ้ว
“โอ๊ย...ทนดูไม่ได้ คราวนี้ชื่อเสียกูป่นปี้แน่ เพราะแกเชียวไอ้มิตร มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ แกรับไปนะ”
เฮีบบุ๋นวิตก แต่มิตรยังยิ้มเฉย ขณะที่บนเวที จูนรอจังหวะหมุนตัวอีกครั้ง ตั้งใจกระแทกทองดีเต็มแรงกะให้ตกเวที แต่ทองดีระวังตัวอยู่ก่อนหลบทัน จูนเสียหลักยั้งตัวไม่อยู่ กระเด็นตกเวทีไป คนดูหัวเราะชี้ชวนกันดูจูนอย่างขำๆ วันดีกับพี่ป๊อปหันไปตีมือกันอย่างสะใจ
“อุ๊ย...นังนี่ ร้ายได้ที่นะยะ...มวยถูกคู่คนดูถูกใจนะเนี่ย...”
จูนนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้นหน้าเวที ทั้งเจ็บทั้งอาย เธอลุกขึ้นหันไปมองลูกค้า ที่ยืนเชียร์ทองดีอย่างเมามัน
“ฝากไว้ก่อนเถอมึง..อีทองประกาย”
จูนเบะปากสะบัดหน้า เดินโขยกเขยกกลับไปหลังเวที ขณะที่บนเวที ทองดีเต้นอย่างสวยงาม จนเพลงจบ คนดูปรบมือกันต่อเนื่องยาวนาน เฮียบุ๋นหันไปมองคนดูปรบมือให้ทองดี บางคนยกแบงค์ขึ้นชู พยายามจะทิป เฮียบุ๋นรีบปรบมือตาม
“โอ๊ย...ไม่อยากเชื่อเลย ตาเราเนี่ย คมจริงๆ มองอะไรไม่เคยพลาด ว่าแล้วทองประกายต้องเป็นดาวเด่น จริงมั้ย”
มิตรขำ
“อ้าว...เมื่อกี้บอกว่า โวยวายว่าชื่อเสียงจะป่นปี้ ทีนี้จะมาชม”
เฮียบุ๋นทำเป็นไม่ได้ยิน ลุกขึ้นปรบมือให้ทองดีตามลูกค้าในร้าน มิตรมองนิ่งๆ ทองดียืนรับไฟอยู่กลางเวทีอย่างภูมิใจ

จูนโขยกเขยกกลับเข้ามาหลังเวที พี่ป๊อบกับวันดีรีบเข้าไปหา
“ครู..อีนั่นมันผลักฉันตกเวที ฉันไม่ยอมนะ”
“แหม...แกนี่กล้าทำกล้าแหลจริงๆนะ นังจูน คนเค้าเห็นกันทั้งห้องว่าแกผลักทองก่อน หุบปากไปเลย”
จูนหน้าเจื่อน อีกด้าน เหล่านักเต้นกรูกันเข้ามาจากด้านหน้า เมย์กับทองดีเดินตามเข้ามา
“เก่งมากเลยทอง ดีใจด้วยนะ”
“ยังไม่หายตื่นเต้นเลยพี่ ขอบใจนะพี่เมย์”
เฮียบุ๋นกับมิตรเดินเข้ามา เฮียบุ๋นรีบดึงแขนทองดี ทำท่าจะกอด
“มามะ มาให้เฮียกอดรับขวัญหน่อย เก่งจริง...จริ๊ง ทองประกายของเฮีย”
วันดีกระแอม...เฮียบุ๋นค้อนขวับ ทองรีบผละไปหามิตร
“คุณมิตรเห็นทองเต้นใช่มั้ยคะ ทองทำได้แล้ว..”
“เก่งมากทอง เธอทำได้เพราะตัวเธอเอง”
ทองดีสบตามิตรอย่างปลาบปลื้มปิดไม่อยู่ เฮียบุ๋นกระแอม...ทั้งคู่รู้ตัวผละออกจากกัน จูนรีบไปฟ้องเฮียบุ๋น
“เฮีย ฉันไม่ยอมนะ อีทองกระแทกฉันตกเวที ใครๆก็เห็น”
เฮียบุ๋นมองรำคาญ
“อะไรอีกล่ะ ฉันก็เห็นนะว่าแกชนทองประกายก่อน...เอาน่า แค่นี้เองอย่าให้เป็นเรื่องเลย”
“อะไรกัน ฉันเจ็บนะ ไม่มีใครสนใจเลยหรือไง”
“จูน...พอได้แล้ว...เรื่องมันแล้วไปแล้ว...จบซะที”
จูนหันไปมองหน้ามิตรที่จ้องจูนแบบดุๆ จนจูนหลบตา
“ค่ะ คุณมิตร”
มิตรหันไปบอกวันดี
“เจ๊วันดี ช่วยพาจูนไปพักด้วย อาการจะได้ไม่กำเริบ”
วันดีกับครูธันว์หันไปมองหน้ากัน แล้วรีบประคองพาจูนไปอย่างรู้หน้าที่ จูนทำขัดขืน
“ไปสิ” มิตรจ้องหน้า
จูนสงบทันที แต่ไม่วายแอบมองทองแบบอาฆาต ทองดีมองตามจูนไป เฮียบุ๋นยิ้มร่าเริงรีบแก้สถานะการณ์
“อย่างนี้ต้องเลี้ยงฉลอง ไป๊เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะจ๊ะ ทองประกายของเฮีย”
เฮียบุ๋นเดินเข้าไปโอบไหล่พาทองดีเดินไป ทองจำใจเดินตามไปอย่างอัดอัด เธอแอบมองมิตรตลอดเวลา มิตรยิ้มเฉยๆ แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมากดแล้วพูดอะไรบางอย่าง

ในห้องแต่งตัว...เมย์และทองดีนั่งลบเครื่องสำอางออก
“พี่เมย์ จูนเค้าเป็นอะไรหรือ ท่าทางเค้าไม่ชอบฉันเลยนะ”
“จูนมันก็เป็นแบบนี้แหละ เอาแต่ใจ ขี้วีน อย่าไปสนใจมันเลย ต่างคนต่างอยู่ดีแล้ว”
“ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกว่า เค้าจงใจหาเรื่องฉันตลอดเลย”
เมย์มองหน้าทองดี
“ไม่รู้จริงๆหรือว่า เค้าไม่ชอบเธอเพราะอะไร”
ทองดีส่ายหน้าแบบไม่รู้จริงๆ เมย์ถอนหายใจ พอจะเอ่ยปาก เจ๊วันดีโผล่เข้าประตูมา
“แม่ทองประกาย ดาวเด่น...เฮียบุ๋นเรียกให้ไปถวายงาน...เอ๊ย..ไม่ใช่ เค้าให้มาเรียนถามว่า เปลี่ยนชุดเสร็จหรือยังแม่คุณ”
“เสร็จแล้วจ๊ะ พี่เมย์ไปด้วยกันมั้ย”
เมย์ส่ายหน้า
“ทองไปเถอะ”
“งั้นฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวคุณมิตรจะรอ”
ทองดีรีบลุกขึ้นไปทันที เมย์มองตามไปแล้วถอนหายใจ
“ถอนหายใจทำไม...ช่วยไรเค้าได้...”
“เปล่า...ฉันแค่สงสารทอง ก็เท่านั้นแหละ”
“สงสารมันทำไม...ดูมันออกจะร่าเริง...สงสารตัวแกเองดีกว่านังเมย์”
วันดีเดินเชิดหน้าออกไป เมย์ยิ้มเศร้าๆกับตัวเอง

เฮียบุ๋นกับมิตรกำลังนั่งคุยกันในห้อง
“ลางสังหรณ์ของฉันบอกว่า ทองประกายนี่จะเป็นตัวเรียกแขกให้คลับเราไม่เชื่อคอยดูสิ”
“ไม่ออกนอกหน้าไปหน่อยหรือเฮีย...”
มิตรแย้ง วันดีกับทองดีเดินเข้ามา
“มาแล้วค่ะเฮีย...”
เฮียบุ๋นรีบลุกขึ้นไปประคองทองให้นั่ง วันดีรีบยื่นมือให้เฮีบบุ๋นบ้างเฮียบุ๋นตีมือ
“ไปให้พ้นเลยแก”
วันดีค้อนแล้วเดินหนีไป
“ทองจ๋า วันนี้ทองอยากกินอะไรเฮียจะเลี้ยง...ไป...ไปด้วยกันนะจ๊ะ”
ทองดีอึดอัด พยายามจะสบตามิตรที่นั่งเฉย
“แล้วแต่เฮียกับคุณมิตรเถอะค่ะ ทองไม่รู้จักหรอก
“งั้นเฮียจะพาไปคลับของเพื่อนเฮีย...หนูจะได้เปิดหูเปิดตาไง ที่นั่น มีนักเต้นเก่งๆเยอะแยะไปหมด”
ทองดีลังเล เฮียบุ๋นรีบลุกขึ้นประคอง เสียงโทรศัพท์เฮียบุ๋นดังขึ้น เฮียบุ๋น รีบกดรับ พอเห็นหน้าจอเป็นรูปอาซ๊อ เฮียบุ๋นยืนตัวตรงเสียงอ่อน
“..ครับ...อะไรนะ วันครบรอบแต่งงาน...ได้สิ..แหม..ไม่กล้าไถลหรอก ...15 นาที อะก็ได้..”
เฮียบุ๋นกดโทรศัพท์ปิด แล้วจ้องมองให้แน่ใจว่าปิดจริง แล้วโวยวาย
“ไม่อยากจะเชื่อ กูตกนรกมา15 ปีแล้วหรือเนี่ย...” เฮ้ยบุ๋นหันไปพูดกับทองดี “สงสัย เฮียคงต้องขอตัวก่อน วันนี้ติดธุระด่วน ไว้คราวหน้านะจ๊ะทอง”
ทองดีโล่งอก
“...ไม่เป็นไรค่ะเฮีย...”
เฮียบุ๋นมองหน้าทองดีอย่างเสียดาย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก
“จ๊ะ..กำลังขึ้นรถแล้วเนี่ย...จ้า...ไม่เกิน 15 นาที..” วางสายแล้วหันมาบอกทองดี “เฮียไปก่อนนะ...อะไรวะ...ร้อยวันพันปีไม่ครบ ไม่เคยฉลอง จำเพาะจะต้องเป็นวันนี้ด้วย...เซ็งจริงเลยโว๊ย”
เฮียบุ๋นบ่นมองทองดีแล้วกลืนน้ำลายแบบเสียดาย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก เฮียบุ๋นสะดุ้งเฮือก รีบจ้ำออกไปทันที ทองดีถอนหายใจโล่งอก หันไปสบตามิตรที่ยิ้มให้
“เหลือเราแค่สองคน เหนื่อยแล้วใช่มั้ย”
“ยังค่ะ ทองยังไม่เหนื่อย แล้วคุณมิตรล่ะคะ”
“ฉันหิว...มัวแต่วุ่นๆ ทองล่ะหิวหรือเปล่า ไปทานข้าวด้วยกันมั้ย”
ทองดีตื่นเต้น
“หิวค่ะ คุณมิตรจะพาทองไปที่ไหนหรือคะ..ทองอยากไปทุกแห่งที่มีคุณมิตรอยู่ด้วย”
“จริงนะ งั้นทานข้าวกันที่นี่แหละ ฉันอยากกินข้าวกับไข่เจียว”
ทองดีอ้ำอึ้ง
“...ป่านนี้ครัวคงปิดแล้ว”
“หรือว่าทองไม่อยากกินข้าวกับฉัน”
“อยากสิคะ ทองยังไงก็ได้ตามใจคุณมิตรเถอะค่ะ”
มิตรยิ้มไม่ว่าอะไรจูงมือทองดีเดินไป ทองจำใจเดินตามไป มิตรหยุด
“หลับตาก่อนสิ”
ทองดีงง แต่ยอมหลับตาอย่างว่าง่าย มิตรยิ้ม

มิตรเดินประคองทองดีที่โดนเอาผ้าปิดตา ขึ้นมาที่ดาดฟ้าของตึก
“ถึงแล้ว”
มิตรเปิดผ้าปิดตาของทองออก ทองดีตะลึง เมื่อมองไปบนฟ้า เห็นดาวเต็มท้องฟ้า มองเห็นแสงสียามราตรีสวยๆ ตรงมุมหนึ่งตั้งโต๊ะอาหารจุดเทียนอย่างโรแมนติค
“สวยจังเลย สวยเหมือนในหนัง”
“มาสิ มาผมสั่งเตรียมไว้สำหรับทองโดยเฉพาะเลยนะ”
มิตรจูงมือทองมาที่โต๊ะอาหาร แบบสุภาพบุรุษสุดๆ ทองดียิ้มปลื้ม
“ขอบคุณคุณมิตรนะคะ ทองดีพูดอะไรไม่ออกแล้ว
“ไม่ต้องพูด แค่ผมมองตาทอง ผมก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว”
“โอโห...สวยจังเลย ทองเพิ่งเห็นทองฟ้าสวยๆแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยนะคะเนี่ย”
“รู้มั้ย ตรงโน้นมีดาวดวงสว่างมาก ชาวเรือจะใช้เป็นดาวนำทาง”
ทองดีเงยหน้ามองอย่างสนใจ
“แต่วันนี้ ดาวดวงนั้นหมองไป เพราะดาวดวงใหม่ดวงนี้”
ทองดีมองหา
“ดวงไหนคะ”
มิตรจับตัวทองหมุนมาเผชิญหน้า เธอยิ้มเขิน
“ดวงนี้ไง ทองประกาย ดาวเด่นของคลับ”
ทองดีเขิน ทำอะไรไม่ถูก มิตรยิ้มพาทองลงนั่ง คลี่ผ้าปูตักให้อย่างนุ่มนวล
“นี่เป็นอาหารที่ผมชอบ สมัยที่ผมอยู่เมืองนอก ทองลองชิมดูสิ ผมสั่งให้เค้าทำพิเศษเลย เพื่อทองโดยเฉพาะ”
ทองดียิ้ม ภูมิใจสุดๆ ทั้งคู่นั่งกินอาหารอย่างมีความสุข มิตรตัดอาหารแล้วจิ้มป้อนส่งให้ทองดีกิน จากนั้นก็รินไวน์ให้ เธอรับมาจิบอย่างมีจริตมารยา มิตรจิบไวน์นั่งมองแล้วยิ้ม
หลังจากนั้น ทั้งคู่มานั่งชมดาวด้วยกัน มิตรมองตาทองดีแล้วโน้มตัวเข้าไปจูบ ซึ่งทองดีก็รับจูบนั้นอย่างเต็มใจ

หน้าห้องนอนของทองดี...ทั้งคู่ยังยืนจูบกันอยู่ ทองดีค่อยๆผละออกจากมิตร หันไปไขกุญแจเปิดประตู เสียงจูนดังขึ้น
“คุณมิตรขา จูนคิดทึ้ง คิดถึง”
ทองดีกับมิตรหันไปมองจูนอารมณ์กระเจิง มิตรหงุดหงิด
“อ้อ...จูน...ผมมาส่งทองประกาย ยังไม่นอนเหรอ”
จูนบียดทองกระเด็นไป
“ยังค่ะ จูนรอคุณมิตรน่ะสิคะ หมู่นี้คุณมิตรไม่มาหาจูนเลยนะคะ หรือว่าคุณมิตรลืมจูนซะแล้ว”
ทองดีมองมิตรกับจูน อย่างสงสัยว่าคู่นี้เป็นอะไรกันแน่
“ไม่มีอะไร บอกแล้วไง ผมไม่ว่าง”
“ไม่ว่างมาหาจูน แต่ว่างแวะมาส่งนั่งบ้านนอกนี่หรือคะ”
ทองดีไม่พอใจ
“นี่เธอ คำก็บ้านนอกสองคำก็บ้านนอก เธอมีปัญหาอะไรกับฉันแน่”
จูนหันขวับมา
“หุบปากไปเลยมึง กูยังไม่ได้ชำระแค้นกับมึงเลย อย่ามาเสือกเรื่องของกู”
จูนโผเข้าตบ ทองดีสู้ มิตรคว้าแขนจูนไว้จูนเลยโดนทองดีตบเต็มหน้า
“อีกะหรี่มึงตบกูหรือ คุณมิตรปล่อยจูน จูนจะตบมันให้หายแค้น ปล่อยสิคะ”
มิตรตวาด
“...หยุดเดี๋ยวนี้นะ...ทำไมถึงพูดจาหยาบคายกับทองประกายแบบนี้ ไม่น่ารักเลย ฉันเห็นนะ บนเวทีน่ะ เธอเริ่มก่อน ตอนนี้เธอยังตามมาหาเรื่องเค้าอีก”
จูนน้ำตาร่วง
“คุณมิตร...คุณมิตรเข้าข้างมัน แล้วจูนล่ะ”
“ฉันไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ อย่ามาหาเรื่อง นี่ดึกมากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”
จูนฮึดฮัด มิตรจ้องหน้าจูนนิ่งแต่ดูโหด จูนเริ่มฝ่อ เดินหันหลังกลับไปแบบหงอยๆ มิตรถอนหายใจยาวหมดอารมณ์
“ดึกมากแล้ว ไปพักเถอะ..พรุ่งนี้ค่อยเจอกันนะ”
มิตรดึงตัวทองดีมาจุ๊บเบาๆที่หน้าผาก แล้วเดินจากไป ทองดีจะเรียกมิตร แต่ไม่กล้า ไขกุญแจเข้าห้องอย่างเซ็ง

ทองดีเดินเข้ามาในห้องแบบเซ็งๆ ไปนั่งที่หน้ากระจก
“เพราะนังจูนแท้ๆเชียว ขัดจังหวะได้..แต่เอ๊ะ...มันเป็นอะไรกับคุณมิตรหรือเปล่านะ ทำไมถึงได้หวงคุณมิตรขนาดนี้”
ทองดีดูหัวตัวเองที่เละเทะเพราะฟัดกับจูน แล้วอารมณ์เสีย
“ผู้ชายก็แบบนี้ทุกคนแหละ พี่น้องเชื้อไม่ทิ้งแถวหรอก”
ทองถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วนึกได้ ล้วงในเสื้อในหยิบเงินค่าทิปที่ได้ออกมานับแล้วมัดยางอย่างเรียบร้อย
“ชาตินี้กูไม่ยอมเป็นเมียน้อยใครเด็ดขาด เฮ้อ...สงสัย คงมีแต่เงินเท่านั้นแหละ ที่เป็นเพื่อนแท้ ของเราตลอดไป”
ทองดีหยิบเงินขึ้นมาจูบอย่างภูมิใจ

วันใหม่...จูนกับเหล่าโคโยตี้ เดินถือของกินเข้ามาที่หน้าคลับ ขณะที่ทองดีเดินออกไปเพื่อหาซื้ออาหาร จูนหาเรื่องทันที
“เมื่อวานนี้กูเห็นอีกิ้งก่า...มันได้ขึ้นเวที เต้นก็ไม่ได้ดีเด่ ส่ายนมเข้าสู้”
เหล่าโคโยตี้ หัวเราะคิกคัก ทองดีชะงักหันกลับมาทันที
“นี่เธอว่าใคร ถามจริงๆเหอะ มีอะไรกับฉันนักหนา”
“กูเกลียดหน้ามึงตั้งแต่แรกเห็น มีอะไรมั้ย”
“ฉันไปทำอะไรให้เธอ”
“มึงเข้าก็แบให้เฮียบุ๋นก่อน พอเห็นคุณมิตร มึงกะแบให้คุณมิตรอีกคน ไม่เรียกกะหรี่แล้วเรียกอะไร”
“คำก็กะหรี่ สองคำก็กะหรี่ แหม...หมายถึงฉันหรือ แกกันแน่ที่เป็นน่ะ”
“มึงนั่นแหละ เป็นกะหรี่แต่กำเนิด”
ทองดีฉุนขาดโดดเข้าไปจิกหัวจูนตบซ้ายตบขวา เหล่าโคโยตี้ทั้งหลายเข้ารุม เฮียบุ๋นเดินลงมา มีเมย์เดินตามมาห่างๆ เห็นภาพตรงหน้า
“เฮ๊ย...หยุดเดี๋ยวนี้เลย...”

จูนหัวหูกระเซิงอยู่ในห้องทำงานเฮียบุ๋น ที่เจ้าตัวนั่งด่าจูนอย่างหงุดหงิด
“ดูได้มั้ยเนี่ย...สารรูปแบบนี้ เนี่ยหรือ โคโยตี้ คลับฉัน”
“ก็นังทองมันเริ่มก่อนนี่เฮีย”
เฮียบุ๋นรำคาญ
“ฉันไม่ได้ตาบอดนะ บนเวทีฉันเห็นตลอด จะหยุดได้หรือยัง”
จูนพยายามจะแก้ตัว เฮียบุ๋นโบกมือรำคาญ
“ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ฉันไล่แกออกจริงๆ ไม่มีแต่...”
จูนจ๋อย
“ก็ได้ค่ะ…หนูหยุดก็ได้ ถือว่าเฮียของร้อง”
“ขอบใจนะ แหม..ให้เกียรติฉันจริงๆ ไปออกไปได้แล้ว”
จูนค่อยลุกขึ้น เดินออกไปหน้าประตู มิตรเดินเข้ามาพอดี จูนมองหน้ามิตร แล้วหลบตา ค่อยๆเดินออกไป มิตรเดินมานั่ง
“ไงล่ะพ่อคุ๊ณ..พ่อทูนหัว เด็กในร้านฉันจะตีกันตายก็เพราะเสน่ห์ของแกนั่นแหละ แกจะให้ฉันทำยังไงเนี่ย”
“ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย ผมก็ทำงานของผม เฮียก็ทำงานของเฮีย แค่นั้น”
“แค่นั้น...มันพูดง่ายโว๊ย...พูดกับแกแล้วปวดหัวว่ะ ระวังหน่อยแล้วกันประเดี๋ยวเด็กมันจะตีกันตายซะก่อน โอ๊ยปวดหัวโว๊ย...ถ้ามันตีกันแย่งฉันละก็ จะไม่ว่าซักคำ หนอยตีกันแยกแก...”
เฮียบุ๋นบ่นแล้วเดินออกไป มิตรยิ้มอย่างไม่สนใจ

เมย์นั่งทำแผลให้ทองดีในห้องนอน วันดีนั่งอยู่ด้วย
“ไม่เข้าใจเลย นังจูนนั่นมันอะไรกับฉันนักหนา”
“ไม่เห็นต้องเข้าใจเลย”
“นังจูนน่ะ มันใฝ่สูง ตั้งใจจะจับทั้งเฮียบุ๋นทั้งคุณมิตร แต่พอผู้ชายเค้าไม่เล่นด้วย มันก็แค้นฝังหุ่น”
“เจ๊แน่ใจนะ ว่า จูนกับคุณมิตรไม่มีอะไรกัน”
เมย์กับวันดีมองหน้ากัน แล้วเมิน
“บอกฉันสิ สองคนนั่นไม่มีอะไรกันแน่นะ”
“อยากรู้ไปทำไม”
ทองดีเน้น
“...ถ้าคุณมิตรเค้ารักจูน ฉันจะได้ตัดใจ เพราะคนอย่างฉันจะไม่ยอมเป็นเมียน้อยใครเด็ดขาด”
เมย์กับวันดีมองหน้ากัน วันดีเหวอ เห็นทองดีจริงจังสุดๆ
“ไม่มีทางหรอก ฉันมั่นใจ”
วันดีมองหน้าเมย์งงๆ ทองดีหน้าบานขึ้นทันที เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ทองดีรีบเดินไปเปิดประตู
“ผมมารับคุณทองไปเที่ยว ตามสัญญา”
มิตรเดินเข้ามาในห้องพอเห็นวันดีกับเมย์ มิตรชะงัก
“อุ๊ยคุณมิตรมา งั้นเจ๊ของตัวก่อนนะคะ มีธุระพอดี๊...พอดี”
วันดีลุกขึ้นลากแขนเมย์ออกจากห้องทันที พอทั้งคู่ลับตัวไป เธอนึกได้
“ขอโทษนะคะ ทองลืมซะสนิทเลย รอแป๊บนึงนะคะ ให้ทองแต่งตัวแป๊บนึง”
ทองดีรีบร้อนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอทองดีลับตาไปมิตรหุบยิ้ม สีหน้าครุ่นคิด

วันดีปิดประตูห้อง เดินออกมาทำหน้ามีลับลมคมนัย เมย์เดินออกมาหน้าเฉย
“นังเมย์ บอกมาซะดีๆแกคิดยังไงถึงโกหกทองไปอย่างนั้น”
“โกหกเรื่องอะไร”
“อ้าว...ก็เรื่องนังจูนกับคุณมิตรน่ะสิ เออนังนี่ ปลาทองจริงๆ”
“ไม่ได้โกหก ก็ทองมันถามว่า คุณมิตรรักจูนหรือเปล่าใช่มั้ย”
“ใช่...มันถามอย่างนั้น”
“นั่นไง ฉันก็ตอบตามตรง คนอย่างคุณมิตร น่ะไม่มีทางรักผู้หญิงอย่างนังจูนแน่นอน เจ๊ก็รู้อยู่แล้ว แต่จูนต่างหาก ที่คิดว่ามันรักคุณมิตร”
“...ก็จริงของแกนะ นังเมย์ เฮ้อ...ว่าไปฉันชักสงสารแม่ทองประกายนี่เหมือนกันนะ แกล่ะ เมย์ไม่สงสารมันหรือ”
“สงสารสิ ถึงต้องทำแบบนี้ ต่อไปทองประกายมันจะเก่งแล้วก็แกร่งขึ้น เหมือนอย่างเจ๊กับฉันนั่นแหละ”
“เออ...กว่ามันจะเก่ง กว่ามันจะฉลาด คงคงสะบักสะบอมหน้าดูละ แม่ทองประกายเอ๊ย”
เมย์กับวันดีมองหน้ากันอย่างปลงๆ

ทองดีเดินควงแขนกับมิตร ช๊อบปิ้งอย่างชื่นมื่นในห้างสรรพสินค้า มิตรพาทองไปเลือกที่นั่ง ก่อนซื้อตั๋วเข้าไปดูหนัง ทองดีกอดแขนมิตรเดินเข้าโรงหนังอย่างมีความสุข ก่อนจะพากันออกมาซื้อของต่อ ทองดีเลือกชี้ของแล้วหันมามองมิตรอย่างลังเล เมื่อเห็นว่าแพง มิตรพยักหน้า ทองโดดเข้าหอมแก้มมิตรอย่างดีใจ
มิตรให้ทองดีไปนั่งดื่มน้ำรอ สักพักมิตรเดินมาพร้อมถุงในมือ
“รอนานมั้ยจ๊ะ”
“ไม่หรอกค่ะ คุณมิตรหายไปไหนมา”
“ผมมีของมาให้ทอง ลองดูสิ”
มิตรส่งถุงให้ทองดีเปิดดูเป็นเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมแผ่นหนังมากมาย
“คุณมิตร ซื้อมาทำไมเยอะแยะคะ”
“ผมเห็นทองชอบดูหนัง เลยซื้อให้ทองเอาไว้ดู”
ทองดีมองของอย่างปลื้มๆ
“ขอบคุณคุณมิตรมากนะคะ ทองไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี”
“ผมสงสัยนะ ทำไมทองถึงชอบดูหนัง”
ทองดียิ้ม
“...ทองอยากเป็นดาราค่ะ ทองคิดเสมอว่า ถ้าทองได้เป็นดารา ทองคงมีความสุขมาก ชีวิตนี้ทองคงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”
“อ้าว...ถ้าทองเป็นดาราแล้ว ทองคงไม่ต้องการผมอีกแล้วใช่มั้ย..แย่เลย”
มิตรสบตา ทองดีเขินหลบตา
“คุณมิตรพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ เอ่อ..ทองไม่เข้าใจ”
มิตรยิ้มจับมือทองขึ้นมาจูบแรงๆ
“ทองก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...ทำไมต้องให้ผมพูดด้วยล่ะ”
ทองดีเขิน แต่มีความสุข มิตรยิ้มร้าย

ค่ำคืนนั้น...เฮียบุ๋นกับมิตรยืนคุยกัน ที่มุมหนึ่งในคลับ
“วันนี้คนคึกคัก แฮะ..ปกติก็ไม่เยอะขนาดนี้นี่” เฮียบุ๋นมองไปรอบๆ
“แขกส่วนใหญ่ตั้งใจมาดูโชว์ ทองประกาย ดาวเด่นของคลับนี้เต้นโชว์”
เฮียบุ๋นมองหน้ามิตรอย่างไม่เข้าใจ
“แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเนี่ย”
“จริงสิเฮีย...ดูนี่สิ”
มิตรส่งแผ่นพับโปรโมทให้ เฮียบุ๋นรับไปอ่านแล้วยิ้ม
“ร้ายนี่หว่า...สำหรับแกนี่อะไรๆ ก็เป็นธุรกิจไปหมดเลยนะโว๊ย”
แขกกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา วันดีทักทาย
“เชิญทางนี้ค่ะ จองไว้แล้ว ตามเจ๊มาเลย”
“นี่เจ๊ วันนี้ทองประกายเต้นแน่นะ” แขกถาม
“อุ๊ย..แน่นอนค่ะ รับรองใหม่สด...ซิง.....แท้...แน่นอน คอนเฟิมค๊า...”
แขกหันไปบอกเพื่อน
“โชคดีนะ โทรจองไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นอดแน่”
“ไหน..แม่ทองประกาย ดาวเด่น เห็นว่าเต้นเด็ดดวงนักไม่ใช่เหรอ”
“โอ๊ยยย...เดี๋ยวรอดู เห็นแล้วหัวใจจะวาย เลือดกำดาวพุ่งปรี๊ด”
แขกหัวเราะให้กันแล้วเดินตาวันดีไปนั่งที่โต๊ะ เฮียบุ๋นหันไปยกนิ้วโป้งให้มิตรที่ยิ้มเฉย วันดีเดินกลับมาหา
“โอ๊ย...เฮียเจ้าขา ฉันเดินจนมดลูกแทบไหล ใครๆก็อยากเห็นแม่ทองประกายกันทั้งนั้น อย่างนี้ เฮียต้องทิปฉันหน่อยแล้ว”
“เออ...น่า ...ไม่ต้องห่วง เออ...วันดีแกไปบอกป๊อบหน่อย...วันนี้ผลัดให้ทองเต้นเป็นตัวเมน....”
“อ้าว...ไหงงั้นละ ไม่เอาง่ะ...เฮียไปเองสิ”
เฮียบุ๋นมองหน้ามิตรที่ทำเฉย เลยส่ายหน้า
“เรื่องร้อนๆแบบนี้ กูรับเละ...เฮ้อ....” เฮียบุ๋นหันไปมองวันดีเซ็งๆ “จะอาศัยไหว้วานอะไรไม่ได้เลย อย่าเอาเลยวะท้งทิป”
เฮียบุ๋นถอนหายใจส่ายหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเดินห่างไป วันดีโล่งใจ รีบเดินไปทำงานต่อ มิตรมองแขกรอบๆตัวแล้วยิ้มๆ

ทองดียืนอยู่ด้านหลังเวที ใกล้กับเมย์ ส่วนจูนกับเหล่าโคโยตี้ ยืนรออยู่อีกมุม พี่ป๊อบรับโทรศัพท์ เดินหน้าหงิก เข้ามาเรียกนักเต้นมายืนรวมกัน
“เอาพวกหล่อน มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนิดหน่อย”
ทุกคนเดินมารวมกัน พี่ป๊อบถอนหายใจ แล้วอธิบาย
“ท่อนโซโล ให้ทองประกายเป็นคนเต้นแทนจูน เมย์มาแทนทอง ส่วนจูน...ไปเต้นแถวหลัง เข้าใจมั้ย”
จูนกรี๊ดทันที
“อ้าว...อย่างนี้ นังทองก็ต้องเด่นกว่าฉันน่ะสิ ครูทำอย่างนี้ได้ไง”
พี่ป๊อบถอนหายใจอย่างรำคาญ
“อะไรอีกล่ะนังนี่....ก็เพราะแกนั่นแหละทำตัวเอง อย่ามาโวยวาย นี่เป็นคำสั่งตรงของเฮียบุ๋น”
“งั้นฉันไม่เต้น...”
“วันนี้ต้องเต้น ไม่งั้น ฉันจะฟ้องคุณมิตร แล้วแกก็ไม่เคลียร์เอาเองแล้วกัน...อ้อ...แล้วที่สำคัญ อย่าก่อเรื่องบนเวทีอีกนะ...ขอเตือน”
พอได้ยินชื่อมิตร จูนหน้าเสีย หันไปมองทองดีอย่างอาฆาต จูนสะบัดหน้าเดินไปอีกทาง เมย์จับมือทองไว้อย่างให้กำลังใจ
“โอกาสมาถึงแล้วนะทอง ทำให้ดีที่สุด”
“จ๊ะ..ฉันจะทำให้ดีที่สุด”

ทองดีพยักหน้าอย่างมุ่งมั่นมาก
ทองดียืนเด่นอยู่หน้าเวที เธอเต้นเป็นตัวเอกอย่างคล่องแคล่วสวยงาม ส่วนจูนเต้นอยู่แถวหลังสีหน้าเคียดแค้นตลอดเวลา เมื่อเพลงจบ ทองดียืนรับไฟอยู่กลางเวทีอย่างภูมิใจมาก

แขกด้านล่างเวทีปรบมือกันเกรียวกราว ใครคนหนึ่งตะโกน
“ทองประกาย...ทองประกาย...”
ทองยิ้มอย่างปลื้มสุดๆ หลังจากจบเพลง จูนเดินกลับเข้ามาหลังเวที เห็นเฮียบุ๋นรออยู่ จูนโวยวายทันที
“เฮียทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง”
“โวยวายทำไม เฮียปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม”
“เหมาะสมยังไง อีทอง...เอ๊ย..นังทองนี่มันเพิ่งเต้นได้แค่ 2 วันเอง เฮียก็ดันให้มันเป็นตัวหลัก...แล้วให้ฉันไปเต้นประกอบได้ยังไง”
“อ้าว....ก็คนเค้าแห่มาดูทองเต้น ไม่เห็นเหรอ เออ..ทองอยู่ไหนล่ะ”
“เออ...ไม่เต้นก็ได้วะ ฉันลาป่วย ไม่ต้งไม่เต้นมันแล้ว”
จูนถอดเครื่องประดับบนหัวขว้างไปที่พื้น เฉียดขาเฮียบุ๋นที่กระโดดหลบได้ทัน จูนสะบัดหน้าเดินออกไปทันที
“อีนี่มันชักจะเกินเหตุ” เฮียบุ๋นหันไปหาทองดีที่เดินมาอดี “ทอง..ทองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วด่วน แล้วไปหาเฮียอย่างด่วนเลย”
ทองดีพยักหน้ารับอย่างแปลกใจว่ามีอะไร

ในห้องทำงานเฮียบุ๋น ทองดีลุกขึ้นตบโต๊ะ เฮียบุ๋นตกใจ
“ไม่นะ ฉันเป็นโคโยตี้ ไม่ใช่ผู้หญิงนั่งดริ้งค์”
“เฮ๊ย...นั่งดริ้งค์มันเสียหายตรงไหน แค่ไปนั่งคุยกับแขก แล้วก็ดื่มนิดๆ หน่อยๆ แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเสียหาย ค่าดริ้งก็ได้ ดีกว่าทิปซะอีก”
“แต่ฉันไม่อยากทำแบบนี้นี่นา”
“น่านะ ถือว่าช่วยเฮียหน่อยแล้วกัน แขกเค้าเรียกร้อง”
วันดีโผล่พรวดเข้ามา อย่างร้อนรน
“เอาไงดีล่ะเฮีย...แขกร้องแต่จะหาแม่ทองประกายอย่างเดียว...ฉันต้านไม่ไหวแล้วนะเนี่ย ทำอะไรสักอย่างนึงเหอะ....”
“ชิกหายแล้ว...ซี้เลี้ยวหว่า อาทองลื้อต้องช่วยอั๊วะนา..แหม..แม่”
ทองดีลังเล หันไปมองหน้ามิตรที่นั่งเงียบอยู่นานแล้ว มิตรเฉย ไม่มีท่าทีอะไร ทองดียิ่งอึดอัด เฮียบุ๋นดึงมือมิตรมาอีกทาง
“คุณมิตรคร๊าบ...ช่วยพูดหน่อยสิครับ คลับเราจะแย่แล้ว ถ้าทองไม่ยอมนั่งคุยกับแขก ประเดี๋ยวแขกก็หนีหมด เจ๊งบ๊งแน่งานนี้”
มิตรส่ายหน้า
“...ซอรี่นะเฮีย...ผมไม่ชอบบังคับใจใคร แฟร์ๆดีกว่า”
มิตรส่ายหน้าเดินหนีไปนั่งแยกไป เฮียบุ๋นเกาหัวแกรก วันดีรีบเสนอหน้า
“เอาไงล่ะนี่...หรือว่า ให้ฉันไปนั่งแทนเอามั้ย...”
“หุบปากไปเลยแก...พูดอะไรไม่ได้ดูหนังหน้าตัวเองเล๊ย...” เฮียบุ๋นหันไปหาทางดี
“น่านะ...นึกว่าเห็นแก่เฮียเหอะ...ไปนั่งคุยกะแขกหน่อย ทองอยากได้อะไร เฮียให้ทุกอย่าง”
ทองดีตัดสินใจ
“เอางี้...ฉันไปนั่งด้วยก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องซื้อดริ้งค์ 100 ดริ้งไม่อย่างงั้นฉันไม่นั่ง”
วันดีค้อน
“อุ๊ย...แหม..กล้าเรียกนะหล่อน สมัยฉันฮ๊อต..ฮอต ยังได้ 50 ดริ้งค์เลย อย่างหล่อน ได้ 30 ก็หรูแล้ว”
“ไม่รู้ล่ะ ต้อง 100 ขึ้นไปฉันถึงจะนั่ง นังแล้วก็ห้ามบังคับฉันกินเหล้าด้วยฉันไม่ชอบกิน ขมจะตาย...”
วันดีหันมองหน้าเฮียบุ๋น มิตรยิ้มอย่างพอใจ
“เอางี้ดีมั้ย....เราให้แขกประมูล ใครเสนอดริ้งค์มากที่สุด ทองจะไปนั่งคุยกับคนนั้น...หรือทองว่ายังไง”
ทองดีอึกอัก
“แล้วแต่คุณมิตรค่ะ”
เฮียบุ๋นรีบบอก
“ได้...งั้นตกลงตามนี้”
เฮียบุ๋นหันไปพยักหน้าให้วันดีรีบออกไป

วันดีเดินขึ้นไปบนเวที แล้วประกาศ…
“แหม...แขกพากันเรียกร้องเยอะมาก อยากจะใกล้ชิดน้องทองประกาย คนสวยของเรา แต่ทว่า...น้องทองของเราไม่สามารถแบ่งร่างได้ เอาเป็นว่า ใครเสนอดริ้งค์มากที่สุด น้องทองประกายจะไปนั่งคุยกับท่านนั้นนะคะ เราเริ่มที่ 100 ดริ้งค์”
แขกคนหนึ่งยกมือทันที
“120 เพื่อน้องทอง”
คนอื่นๆโกนบ้าง
“180”
“200”
“ผมให้ 300”
วันดีเห็นไม่มีใครบอกต่อ
“เคาะขาย...เอ๊ย...ไม่ใช่ น้องทองจะไปนั่งกับคุณพี่หล่อเข้ม 300 ดริ้งค์นะคะ”
แขกหัวเราะชนแก้วกันอย่างร่าเริง อีกมุมหนึ่งเฮียบุ๋นยืนลุ้นอยู่ พอวันดีประกาศ 300 ดริ้งค์ มิตรยิ้มอย่างพอใจ เดินหลบไป เฮียบุ๋นตะลึง
“300 ดริ้งค์...โว๊ย....เซ็นจูรี่เบรกเลยโว๊ย..มิตร ตากูถึงจริง...จริ๊ง...พี่ชายแกมันเจ๋งจริง...จริ๊ง...” เฮียบุ๋นหันไม่มองหามิตร ไม่เจอแล้ว “...อ้าว...ไปไหนละเนี่ย”
เฮียบุ๋นถูมืออย่างตื่นเต้น

วันดีเดินประคองทองดีออกไปที่โต๊ะแขก ทองดียกมือไหว้อย่างชดช้อย
“มาแล้วค่ะ ทองประกาย...ดาวเด่นของเรา”
“คุณทองประกาย...เชิญๆนั่งครับ” แขกรีบบอก
ทองดีทรุดตัวลงนั่งอย่างเรียบร้อย วันดีจะนั่งตาม แขกรีบแทรกตัวลงนั่งชิดทองดี
“หมดหน้าทีเจ๊แล้ว ไปได้”
แขกผลักวันดีไป หันไปส่งแก้วเครื่องดื่มให้ทองดี วันดีเบ๊ปาก
“เออ..ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ล่ะก็ แม่จะวีนซะให้เข็ด”
วันดีตะบึงตะบอนเดินแยกไป ทองดีรินเหล้าให้ลูกค้าอย่างดี ลูกค้ายิ้มอย่างพอใจ ทองดีฟังลูกค้าคุยอย่างตั้งใจ ยิ้มแย้มอย่าง มารยาทดี
แขกกระซิบข้างหู บอกอะไรบางอย่าง ทองดียิ้มแต่งจริตแบบสวยๆ มิตรยืนมองทองอยู่ห่างๆ ทองดีหันมาเห็นพอดีก็หน้าเสีย ลูกค้ายื่นแก้วเครื่องดื่มให้
“น้ำส้มครับ จิบซะหน่อยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
ทองดีรับแก้วมาจิบ แล้วหันไปมองมิตร แต่เขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

เมื่อแขกจะกลับ ทองดีออกไปส่ง โบกมือให้แขกเป็นการล่ำลา พอแขกขึ้นรถไป เธอถอนหายใจเฮือก
“จบซะที...คุณมิตรกลับหรือยังนี่”
ทองดีเดินไปมองดูรถมิตรที่จอดอยู่ เด็กรับรถเดินผ่านมา เธอหันไปถาม
“เห็นคุณมิตรหรือเปล่า”
“ไม่เห็นหรอกครับ แต่รถจอดอยู่นี่ครับ”
“งั้นแสดงว่า คุณมิตรยังไม่กลับใช่มั้ย”
“เอ่อ...ไม่ทราบครับ บางที ถ้าแกดื่มแกอาจจะกลับพร้อมเฮียก็ได้ครับ”
ทองดีหน้าจ๋อย
“...ขอบใจมากนะ”
ทองดีถอนใจ เดินกลับที่พักอย่างเซ็งๆ

กลางดึก...ทองดีนอนกระสับกระส่าย พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ซักพักลุกขึ้นเปิดโทรทัศน์ดู กดรีโมทไปเรื่อยเปื่อย แล้วขว้างรีโมททิ้ง
“เซ็งโว๊ย...ไม่สนุกซักเรื่องเลย...ไม่รู้คุณมิตรโกรธเราหรือเปล่านะ”
ทองดีลุกขึ้นไปปิดโทรทัศน์แล้วกลับมานั่งที่เตียง
“ไปปรึกษาพี่เมย์ดีกว่า”
ทองดีออกไปจากห้อง ไปเคาะประตูหน้าห้องของเมย์
“พี่เมย์ นี่ฉันทองนะ เปิดหน่อยสิ”
เมย์เปิดประตูออกมา พอเห็นเป็นทองดี เธอรีบเดินออกมาจากห้องแล้วผลักประตูปิด
“ทอง...มีอะไรหรือ มาดึกดื่นขนาดนี้”
ทองมองเมย์แต่งตัวไม่เรียบร้อย หัวหูกระเซอะกระเซิง
“ฉันนอนไม่หลับ เลยจะมาชวนพี่คุยน่ะ”
เมย์มองเข้าไปในห้องอย่างอึดอัด อึกอัก
“ตอนนี้ฉันไม่สะดวกคุยหรอก”
ทองดีมองในห้องแล้วหันมามองหน้าเมย์ เข้าใจทันทีว่ามีคนอยู่ในห้อง
“อุ๊ย...ขอโทษพี่ งั้นฉันไม่รบกวนแล้วละ ไปก่อนนะ”
เมย์มองทองแล้วรีบกลับเข้าห้องไป พอเมย์ลับตัวไป ทองดีหันหน้ากลับไปทางห้องเมย์ แล้วหัวเราะ
“...เฮียบุ๋นอยู่ก็ไม่บอก”

เช้าวันใหม่
มิตรยืนเคาะประตูหน้าห้อง ทองดีเปิดประตูออกมาพอเห็นมิตรก็โผเข้ากอดทันที
“ขอโทษนะคะ คุณมิตร ทองไม่อยากนั่งดริ้งค์เลย แต่ทองเกรงใจเฮียบุ๋นกับเจ๊วันดี...”
มิตรเอานิ้วมาปิดปาก
“ไม่ต้องพูดหรอก ผมเข้าใจทองทุกอย่าง แค่ทองน่ารักแบบนี้ ผมก็โอเคแล้วละ”
“คุณมิตร...คุณมิตรเข้าใจทอง ไม่โกรธทองนะคะ”
“ผมไม่โกรธทองแม้แต่น้อย ดีใจซะอีก ที่ทองตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง”
“คุณมิตร...ดีจังเลย ที่คุณมิตรเข้าใจทอง ทองรักคุณมิตรเหลือเกิน”
ทองดีกับมิตรจ้องตากัน มิตรค่อยๆเชยคางทองขึ้นมาแล้วประทับจูบลงไป ขณะเดียวกัน จูนกับวันดีเดินถือถุงส้มตำขึ้นมา จูนเห็นภาพทองกับมิตรจูบกัน จูนตะลึงถุงส้มตำหล่นไปที่พื้น
“เฮ้ย..เป็นอะไรไปล่ะ...”
วันดีเห็นภาพทองดีกับมิตรตรงหน้า วันดียิ้ม
“มั้ยล่ะ...นังนี่...กูคิดแล้วไม่มีผิด”
“ไม่ไหวแล้วอีทอง...ขอกูตบมึงให้หายแค้นซะทีเหอะ”
จูนปรี่จะไปตบทองดี วันดีคว้าจูนไว้อย่างเร็ว
“อีกนี่...บทจะโง่ก็โง่ได้เหรียญ...มึงอยากตกงาน กลับไปขุดดินกินหญ้าที่ที่บ้านนอกใช่มั้ย”
“ปล่อยฉันนะเจ๊...อีนี่มันแย่งฉันทุกสิ่งทุกอย่าง”
“หยุดเลยมึง...อีจูน...ของแบบนี้ ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก ถือซะว่าสมบัติผลัดกันชมแล้วกัน”
จูนฮึดฮัด แล้วสงบลง
“ไปเหอะ..ไปกินข้าวให้มีแรง จะได้มีกำลังสู้ต่อไปไง”
จูนสะบัด
“ไม่กงไม่กินมันแล้ว...หมดอารมณ์”
จูนสะบัดหน้าเดินหนีไปอีกทาง วันดีมองตามอย่างเซ็งๆ เก็บถุงส้มตำขึ้นมา
“แล้วจะกินกับใครดีล่ะเนี่ย...นึกออกแล้ว...”
วันดีนึกบางอย่างออกก็ยิ้มกริ่ม

เฮียบุ๋นเดินเข้ามาในห้องทำงาน แล้วชะงักทำจมูกฟุดฟิด วันดีตั้งสำรับส้มตำปลาร้าไว้พร้อมสรรพ
“เชิญค่ะเฮีย...วันดีเอาส้มตำปูร้า แสนอร่อย มาเสิร์ฟ”
“มิหน้าเล่า...เหม็นชะมัด”
เฮียบุ๋นเดินมานั่งลง ชะโงกดูส้มตำ หยิบช้อนตัดส้มตำใส่ปาก แล้วส่ายหน้า
“มิหน้าล่ะ ทำไมถึงเหม็น ทีหลังใส่ตัวปลามาด้วย จะได้ฉีกเนื้อกิน ไม่งั้นเหม็นปวดหัวว่ะ”
วันดีค้อนขวับ พอเห็นเฮียบุ๋นลงมือกินเป็นเรื่องเป็นราว วันดีก็แบมือ
“เอาเชียว...แบมือแต่เช้า...หนอยไม่กินก็ได้วะ”
“ใครว่า ส้มตำน่ะฉันเลี้ยงเฮีย...แต่ขอค่าข่าวคุณมิตร กับแม่ทองประกายต่างหาก”
เฮียบุ๋นชะงัก แต่ทำไม่สนใจ
“ข่าวอะไร”
“ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไร ไม่เล่าก็ได้”
วันดีทำเมิน เฮียบุ๋นรีบควักเงินส่งให้
“เอาก็ได้...อีเกลือหวานเอ๊ย...ไหนมีข่าวอะไร เล่ามาซิ ไม่เด็ดเอาเงินคืน”
วันดีรีบเก็บเงินยัดใส่กางเกงทันที แล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่หู เฮียบุ๋นตะลึง
“เฮ๊ย....อะไรกันวะ ไอ้มิตรนี่มันเร็วไปหน่อยแล้วม๊าง...ไม่ได้การ เฮียหมายตาทองไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่รู้ละ น้องก็น้อง”
“แล้วเฮียจะเอาอะไรไปสู้ ทั้งแก่...ทั้งเหี่ยว...ทั้งดำ....ยอมน้องเหอะ”
เฮียบุ๋นค้อน
“ไม่รู้ล่ะ น้องก็น้องวะ ถึงเวลาแล้ว ที่ไอ้มิตรมันต้องทดแทนบุญคุณพี่ชายคนนี้”
“เฮอะ...พูดเป็นหนังกำลังภายใน ทดทงทดแทนอะไรกัน...แกแล้วแก่เลยจริง...จริ๊ง”
“ไปตามทองมาหาฉันเดี๋ยวนี้...”
วันดีมองหน้าเฮียบุ๋น เห็นเฮียบุ๋นสีหน้าจริงจังจึงนึกสนุก
“ได้เลยค่ะ เฮียขา...เรื่องชาวบ้าน...งานสนุก...”
วันดีรีบวิ่งออกไปทันที

ทองดีแต่งตัวสวย ควงแขนกับมิตรมาที่รถ วันดีวิ่งออกมาเห็น รีบตะโกนเรียก
“รอเดี๋ยวก่อน...คุณมิตรขา...”
มิตรกับทองดีหันมาเห็นวันดียืนหอบ มิตรหัวเราะ
“มีอะไรหรือเจ๊วันดี เดี๋ยวก็หัวใจวายหรอก”
วันดีค้อน
“..เฮียบุ๋นให้มาตาม แม่ทองประกายไปพบที่ห้องด่วนค่ะ”
มิตรหันไปมองหน้าทองดี
“เฮียมีธุระอะไรหรือเจ๊...ด่วนหรือเปล่า”
“แหม...ไม่ด่วนฉันจะวิ่งมาทำไมล่ะ รีบไปเลย เฮียแกรออยู่”
ทองดีลังเล หันไปมองหน้ามิตรที่พยักหน้า
“ทองไปหาเฮียก่อนเหอะ แกคงมีเรื่องด่วน ผมรอแถวนี้แหละ”
“งั้นคุณมิตรรอทองแป๊บนึงนะคะ ทองไปไม่นานหรอก”
ทองดีรีบเดินไป วันดีเริ่มยุ...
“คุณมิตร ไม่อยากรู้หรือคะ ว่าเฮียแกเรียกทองไปเรื่องอะไร”
พูดจบวันดีก็เดินไป ทิ้งให้มิตรมองตามอย่างสงสัย

ทองดีนั่งอยู่ในห้อง เฮียบุ๋นนั่งยิ้มกริ่ม
“เฮียมานึกๆดู เฮียว่า ห้องพักของทองมันจะคับแคบไปหน่อยมั้ย”
“ไม่นี่คะ...ฉันว่าห้องแค่นี้ก็ดีแล้ว เมื่อก่อน บ้านฉันหลังเล็กกว่าห้องนี้อีก”
“เฮียคิดว่า จะย้ายทองไปอยู่บ้านใหม่ แบบว่า ทาวเฮ้าส์หลังใหญ่ๆแล้วก็ มีรถเล็กๆซักคันไว้ขับ เผื่อทองอยากจะไปไหนมาไหนบ้างไง”
ทองดีตาโต เริ่มสนใจ เฮียบุ๋นเดินมาด้านหลัง แล้วนั่งเอามือโอบไหล่ ทองดีเริ่มไม่ชอบใจ
“บ้านหรือคะ ถ้าเฮียให้ทองจริงๆ ทองก็ขอบคุณนะคะ”
ทองดียกมือไหว้ เฮียบุ๋นรีบคว้ามือทองไว้เริ่มเล่นปูไต่
“ทองอยากได้อะไรเฮียให้ได้ทุกอย่าง...แล้ว...ทองล่ะ จะตอบแทนอะไรเฮียบ้าง”
เฮียบุ๋นเบียด ทองดีกระเถิบตัวหนี เริ่มไม่สบายใจ

มิตรนั่งรอทองดีที่รถ เริ่มหงุดหงิด มิตรมองดูนาฬิกาข้องมืออย่างหัวเสีย
“จะคุยอะไรกันนักกันหนาเนี่ย”
มิตรตัดสินใจลุกลงจากรถเดินไปตามทองดี ที่ห้องทำงานเฮียบุ๋น เปิดประตูห้องเข้าไปแล้วชะงัก เห็นเฮียบุ๋นกำลังโอบทองดีไว้ เฮียบุ๋นพยายามจะหอมทองดีให้ได้
“คุณมิตร”
มิตรรีบปิดประตูห้องทันที เดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฮียบุ๋นเริ่มรุกต่อ ทองดีผลักหน้าเฮียบุ๋นไว้ แล้วตะโกน
“คุณมิตร รอทองด้วย”
“เห็นมั้ย มิตรมันเปิดโอกาสให้ทองเป็นของเฮียแล้ว อย่าทำเขินเลยนะทองจ๋า มาให้เฮียจุ๊บๆ ซะดีๆ”
เฮียบุ๋นพยายามรุกต่อ ทองดีทนไม่ไหวถีบเฮียบุ๋นกระเด็นไป ลุกขึ้นชี้หน้า
“ไอ้เสี่ยหัวงู...คนอย่างกูไม่ยอมเป็นเมียน้อยใครเด็ดขาด เลิกฝันได้แล้ว แล้วอีกอย่าง ปากน่ะ เหม็นเหมือนกินหมาเน่า หัดล้างปากซะมั่ง”
ทองดีสะบัดหน้าออกไปจากห้องทันที เฮียบุ๋นได้สติ รีบเป่าปากเช็คลมหายใจตัวเองทันที เฮียบุ๋นทำท่าเหมือนจะอ๊วก
“อุ๊ย...เหม็นจริงๆด้วย...สงสัย ส้มตำปลาร้าทำพิษ วืดเลยกู”
ทองดีรีบวิ่งออกมาตามิตร แต่ไม่ทัน เห็นแค่ท้ายรถมิตรเลี้ยวออกไป ทองหยุดยืนหอบ
“คุณมิตร ฟังทองก่อนสิคะ...คุณมิตร...”
ทองดีเศร้าค่อยๆเดินหันหลังกลับอย่างหมดแรง

เมย์เปิดประตูเห็นทองดียืนหน้าเศร้า เมย์ถอนหายใจ หลีกทางให้ทองดีเดินเข้ามาในห้อง
พอเข้ามาในห้อง
“พี่เมย์ คุณมิตรคงโกรธฉันแล้ว นี่เค้าไม่ยอมเจอหน้าฉันเลย เป็นเพราะเฮียบุ๋นคนเดียว...ทำให้คุณมิตรเข้าใจผิด...ไม่น่าเลย ไอ้เฒ่าหัวงู...”
เมย์ลุกขึ้นเดินไปรินน้ำส่งให้ทองดี
“คุณมิตรจะให้โอกาสฉันหรือเปล่าเนี่ย...ถ้าคุณมิตรโกรธ ฉันจะทำยังไงดี”
“ไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่เฉยๆนั่นแหละ”
“อ้าว...หมายความว่ายังไงนี่”
“ในเมื่อเธอไม่ยอมเป็นเมียเฮียบุ๋น ซักวัน คุณมิตรต้องรู้แน่นอน...ป่วยการจะมานั่งตีโพยตีพาย...ไอ้เรื่องทั้งหลายแหล่ มันก็เกิดไปแล้ว จะแก้ยังไงล่ะ รอดูกันไปแล้วกัน”
ทองดีทึ่ง
“...ทำไมพี่เก่งแบบนี้นะ...เมื่อไหร่ฉันจะคิดแบบพี่ได้”
เมย์มองหน้าทองดีอย่างสงสาร จนเบือนหน้าหนี เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ว่างค่ะ ไปดูหนังหรือคะ ได้ค่ะ”
เมย์กดโทรศัพท์วาง ทองดีมองดูโทรศัพท์ของเมย์อย่างทึ่งๆ
“เออ..แถวนี้มีร้านขายโทรศัพท์ตรงไหนเนี่ย...ฉันอยากได้ซักอันนึง”
“อ๋อ เดินไปถนนใหญ่แล้วเลี้ยวซ้าย มีร้านนึง ไม่แพงด้วย คนที่นี่ซื้อโทรศัพท์ที่ร้านนั้นเกือบทุกคนแหละ เออ....ฉันคงไปกับเธอไม่ได้หรอกนะวันนี้มีนัด”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ แค่นี้เอง ฉันไปถูก งั้นฉันไม่กวนพี่แล้วละ ขอบคุณพี่มากนะจ๊ะ ที่เตือนสติฉันไม่อย่างนั้นฉันคงบ้าบอไปอีกนาน”
เมย์ยิ้มเฉยไม่พูดอะไร เดินไปส่งทองดีที่หน้าประตูห้อง พอทองดีลับตัวไป เมย์ถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย
ทองดีเดินออกมาที่หน้าห้องของเมย์
“ไอ้หัวงูนี่ร้ายจริงๆ ไม่ได้กูก็เรียกพี่เมย์ไประบายอารมณ์ เฮ้อ...สงสารพี่เมย์จังเลย”
ทองดีไม่สบายใจเพราะสงสารเมย์ และคิดว่าตัวเองเป็นเหตุ
“ไปซื้อโทรศัพท์ดีกว่า จะได้เอาไว้ติดต่อกับคุณมิตร”
ทองดียิ้ม เดินออกไปอย่างร่าเริง

ทองดียืนกระวนกระวายอยู่ตรงหน้าที่จอดรถของมิตร เพื่อรอมิตร ไม่นานนักมิตรขับรถเข้ามา ทองดีใจรีบวิ่งเข้าไปหา
“คุณมิตรขาคุณมิตร...”
“ทองธุระอะไรด่วนหรือเปล่า”
ทองดีอ้ำอึ้ง
“คุณมิตรโกรธทองหรือเปล่าคะ ทองสาบานได้นะคะ ทองไม่มีอะไรกับเฮียบุ๋นจริงๆ คุณมิตรต้องเชื่อทองนะคะ”
มิตรมองหน้าทองดี นิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้ม
“ทองพูดแบบนี้ ฉันก็ดีใจนะ”
ทองดีดีใจ
“คุณมิตรเชื่อทองใช่มั้ยคะ...ทองดีใจจังเลย ...ทองมีโทรศัพท์แล้วนะคะ นี่ไง”
ทองดีหยิบโทรศัพท์ออกมาอวด มิตรยิ้ม
“ทันสมัยนะเรานี่ แล้วจะโทรหาใครล่ะเนี่ย”
ทองดีเขิน
“ทองตั้งใจซื้อไว้ติดต่อกับคุณมิตรเป็นคนแรกเลยนะคะ”
มิตรยิ้ม แล้วรับโทรศัพท์จากมือ จัดการเม็มเบอร์ให้เรียบร้อย
“นี่เบอร์ผม เม็มให้ทองเรียบร้อยแล้ว แค่กดโทรออกก็ติดต่อผมได้แล้ว ต้องไปก่อนนะ วันนี้มีธุระต้องเคลียร์เยอะเลย บ๊าย...บาย...”
มิตรส่งโทรศัพท์คืนให้ทองดีแล้วเดินไป ทองดีมองตามอย่างอาลัย สักครู่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทองดีรีบกดรับอย่างตื่นเต้น
“ฮัลโหล...”
มิตรพูดโทรศัพท์กับทองดี
“ตั้งใจทำงานนะ แล้วเจอกัน”
ทองดีมองโทรศัพท์แล้วยิ้มอย่างปลื้ม

ค่ำคืนนั้น...ทองดีเต้นโชว์วาดลวดลายอย่างเต็มที่ ทุกคนตื่นเต้น มองบนเวทีตาไม่กระพริบ
อีกมุมหนึ่งห่างออกมา มิตรยืนคุยกับเฮียบุ๋น
“เด็กคนนี้ท่าทางมันจริงจังกับแกมากนะโว๊ย”
มิตรยักไหล่ยิ้มเฉย เฮียบุ๋นมองอย่างหมั่นไส้
“เด็กมันกำลังรุ่ง อย่าให้เสียงานก็แล้วกัน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกเฮีย...คนอย่างฉันแยกแยะได้อยู่แล้ว ว่าแต่เฮียเถอะ..ถอยแน่นะ”
เฮียบุ๋นค้อน
“...แน่สิวะ โดนถีบเข้ายอดอกแบบนั้น นี่ยังยอกไม่หายเลย...”
เฮียบุ๋นส่ายหน้าแบบเซ็งๆ มิตรมองแล้วยิ้มเฉย มองบนเวที เห็นทองเต้นโชว์อย่างเต็มที่

ในห้องแต่งตัว...ทองดี กับ เมย์ยืนล้างคราบเครื่องสำอาง วันดียืนดูอยู่ด้วย
“เสร็จแล้วไปกินข้าวด้วยกันมั้ย...”
ทองดีส่ายหน้า
“...ไม่หรอกพี่ วันนี้ฉันมีนัด”
ทองดีโทรศัพท์ขึ้นมากดหามิตร วันดีรีบเขยิบมาเงี่ยหูฟังทันที
“คุณมิตรหรือคะ...นี่ทองนะ คุณอยู่ตรงไหนเนี่ย”
“ผมอยู่ที่ลานจอดรถ....อ้าวจูน...”
ทองดีชะงัก หน้าเสีย ลุกพรวดพราดวิ่งออกจากห้องไปทันที วันดีหันไปมองหน้าเมย์อย่างไม่เข้าใจ
“จะรีบไปไหนของมันเนี่ย อ๊ะ..กลิ่นไม่ค่อยโสภา ตาไปดูดีกว่า ไปด้วยกันนังเมย์”
วันดีลุกขึ้น คว้าลากเมย์ออกไปด้วย

มิตรหันมามองจูนที่รีบวิ่งเข้ามากอดแขนมิตรอย่างสนิทสนม เขาแกะแขนเธอออก
“คุณมิตรรังเกียจจูนหรือคะ ทีกับนังทองประกายละก็...”
“ทองไม่เกี่ยว....ผมไม่ชอบให้จูนนินทาคนอื่น มันไม่ดี”
“ไม่เห็นจะผิดตรงไหนเลยนี่นา ก็จูนรักคุณมิตรมากนี่คะ มากจนไม่อยากเห็นคุณมิตร ยุ่งกับใคร”
มิตรถอนหายใจ
“...จูน ฟังผมนะ ยังมีคนดีๆอีกเยอะแยะ ที่รอจูนอยู่”
จูนผงะมองมิตรอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วโดดเข้าไปกอดไว้แน่น
“จูนรักคุณมิตร จูนไม่ยอมให้ใครมาแย่งคุณมิตรเด็ดขาด จูนไม่ยอม”
มิตรพยายามแกะ แต่จูนไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยคุณมิตรเดี๋ยวนี้นะ อีหน้าด้าน”
มิตรกับจูนหันไป ทองดียืนหน้าเครียด
“ทำไม กูจะกอดไม่ได้”
ทองดีไม่ฟังเสียงเดินตรงไปกระชากจูนออกมาแล้วตบ จูนกระเด็นไปนั่งที่พื้น เลือดกบปาก อีกด้าน วันดีกับเมย์วิ่งออกมาพร้อมกับเฮียบุ๋น
“อีทอง มึงตบกูหรือ คุณมิตรขาดูสิคะมันตบจูน”
จูนลุกขึ้นเข้าไปกระชากผมทองดี จะตบ เฮียบุ๋นร้องลั่น
“หยุดเดี๋ยวนี้เลย ฉันบอกให้หยุด”
จูนชะงัก พอเห็นเฮียบุ๋นเอาจริง จูนปล่อยมือจากทองดีแล้วก้มหน้า
“ทีมันตบจูนไม่มีใครเห็น นังนี่มันมีดีอะไร ใครๆถึงพากันเข้าข้างมัน”
“เฮียบอกจูนแล้วใช่มั้ย อย่ามีเรื่องกัน”
“มันเริ่มก่อนนี่คะเฮีย”
เฮียบุ๋นส่ายหน้า
“...ไม่รู้ละ แต่เฮียเห็นว่าจูนกำลังทำร้ายทองอยู่”
“เฮียไม่ยุติธรรม...มึงกับกูสงสัยจะอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว อีทอง”
เฮียบุ๋นตวาด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ พอได้แล้ว...ขอโทษทองเดี๋ยวนี้”
จูนมองหน้าเฮียบุ๋นอย่างน้อยใจ แล้วสะบัดหน้าหนี
“บอกให้ขอโทษทองก่อนไง จูน”
“ไม่ เป็นตายยังไง จูนก็ไม่ยอมขอโทษอีนี่ก่อน”
“งั้นเฮียก็เสียใจ ถ้าสั่งแล้ว จูนไม่ทำ ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ออกไปซะ”
จูนตะลึง มองเฮียบุ๋นแล้วหันไปมองมิตรอย่างเสียใจ มิตรเฉยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จูนหันมาจ้องหน้าทองดี
“สะใจหรือยังล่ะ มึงแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากกูไปหมดแล้ว”

ทองดีหน้าเสีย ไม่คิดว่าเรื่องจะรุนแรงถึงขนาดนี้ เธอหันไปมองมิตรที่หน้าเฉย อย่างไม่เข้าใจความคิดเขา








Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2555 16:29:58 น.
Counter : 421 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]