All Blog
ทองประกายแสด ตอนที่ 10



นรินทร์กำลังนั่งเซ็นต์เอกสารอยู่ในห้องทำงาน มนตราเดินเข้ามาหา

“อ้าว...คุณมนตรา ทำไมวันนี้มาเร็วจัง อ๋อ...มาซ้อมเพลงให้นักร้องใหม่หรือ”
“เปล่าครับ ผมมีเรื่องจะมาคุยกับคุณนรินทร์ เรื่อง...ผมจะขอลาออก”
“ได้สิคิดว่าเรื่องอะไรซะอีก” นรินทร์นึกได้ก็ตะลึง “อะไรนะลาออก...ไม่นะ คุณอย่าล้อผมเล่น เดี๋ยวผมหัวใจวายหรอก”
“ไม่ได้ล้อเล่นครับ ผมขอลาออกจริงๆ”
“ไม่นะ...โธ่...”
นรินทร์ ก้มเอาหัวโขกโต๊ะอย่างเครียดจัด

มนตรา เดินออกจากหน้าคลับนรินทร์คุยโทรศัพท์กับเพื่อนไปด้วย
“ฉันฝากวงให้นายดูแลด้วย ฉันมั่นใจนายทำได้ โอเค นะเพื่อน”
มนตรากดปิดโทรศัพท์ แล้วหันหน้าไปมองคลับของนรินทร์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยิ้มเศร้า
“ทำไงได้ ผมรักคุณมากกว่านี่ ทองประกาย”

ละเอียดเดินไปเดินมาอย่างใช้ความคิด
“ไม่รู้ละ เป็นไงเป็นกัน คราวนี้พี่เอียดต้องพูด ขืนปล่อนไว้ คุณมนตราต้องแย่แน่เลย”
มนตราเดินเข้ามาในบ้านหน้าขรึมๆ ละเอียดสูดลมหายใจรวบรวมความกล้า เดินเข้าไปหา
“คุณมนคะ พี่เอียดมีเรื่องจะบอก”
“ดีครับ ผมก็มีเรื่องจะบอกพี่เอียดเหมือนกัน ผมลาออกจากงานแล้วนะ”
ละเอียดตะลึง
“แหม...ดีใจจนพูดไม่ออกเลยนะครับ คงสมใจคุณแม่แล้ว...อีกไม่นานผมจะกลับไปเชียงใหม่”
“อะไรนะคะ ลาออก ทำไมถึงได้ปุบปับขนาดนี้ล่ะ”
“ก็พี่เอียดแนะนำผมเอง ให้ผมเลือก ตอนนี้ผมเลือกทองประกาย ทำไงได้ล่ะครับ ผมรักทองมากกว่านี่ ขอบคุณนะคะรับพี่เอียด” มนตรานึกได้ “เออ...พี่เอียดมีเรื่องอะไรหรือครับ”
ละเอียดถอนใจบ่นเบาๆ
“คงไม่ทันแล้วละค่ะ”
“พี่เอียดอย่าลืมนะครับ พี่เอียดต้องทำให้ทองประกายพร้อมที่สุด คุณแม่จะยอมรับทองได้หรือไม่ อยู่ที่พี่เอียดคนเดียว ผมฝากด้วยนะครับ”
มนตราลุกขึ้นจับมือพี่เอียด ก่อนจะเดินออกไป ละเอียดมองตามถอนหายใจหนักใจ
“โธ่คุณมน...เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย...”

มนตราเดินเข้ามาในห้อง ทองดีสังเกตเห็นท่าทางของเขาดูไม่สดชื่น
“เป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า”
“ผมลาออกจากคลับแล้วนะ”
ทองดีตื่นเต้น
“จริงหรือ...ออกจากคลับน่ะหรือ ทำไมเร็วจัง”
“อ้าว คุณไม่อยากให้ผมทำงาน ผมก็ลาออกน่ะสิ เตรียมตัวเก็บข้าวของได้เลย เราจะได้กลับไปเชียงใหม่กัน”
ทองดีอึ้งอ้าปากจะพูด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดเสียก่อน มนตรามองโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ
“คุณแม่นี่ เหมือนเลี้ยงกุมารทองเข้าไปทุกวัน” มนตรารับสาย “สวัสดีครับคุณแม่ ผมลาออกจากงานแล้ว ครับผมทราบ”
ทองดีพยายามส่งสัญญาณว่าไม่กลับเชียงใหม่ มนตราไม่เข้าใจ เอามือปิดโทรศัพท์แล้วถาม
“คุณพร้อมเมื่อไหร่ล่ะ”
ทองดีหงุดหงิด คว้าโทรศัพท์จากมือเขา แล้วกดปิดทันที มนตรางง
“เป็นอะไรของคุณน่ะ ทิ้งโทรศัพท์ทำไม”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก มนตราจะเดินไปรับ ทองดีห้ามเสียงดัง
“อย่ารับนะ”
“ทำไม...นี่คุณอารมณ์ไหนกันแน่ ผมตามไม่ทันเลย”
“ฉันยังไม่พร้อม ฉันไม่อยากไปเชียงใหม่ตอนนี้”
“อะไรนะ ไม่พร้อมหรือ นี่ผมลาออกจากงานเพื่อคุณแล้วนะ”
มนตราฉุนเดินออกจากห้องไปทันที ทองดีหน้าเครียดลำบากใจ

มนตราเดินลงมาจากข้างบนอย่างหงุดหงิด เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ละเอียดเดินเข้ามารับสายอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ฮัลโหล...คุณผู้หญิงหรือคะ...อุ๊ย...ทำไมรู้เร็วนักเนี่ย...”
มนตรารีบเดินเข้ามาใกล้ ทำท่าโบกไม้โบกมือ ละเอียดไม่เข้าใจคิดว่ามนตราจะขอพูดกับแม่
“คุณมนตราจะพูดกับคุณผู้หญิงค่ะ”
มนตราเซ็งเลย
“ครับคุณแม่ ผมขอโทษครับเมื่อกี้โทรศัพท์มันหล่น”
“ถ้าลาออกแล้ว ก็กลับมาช่วยแม่ทางนี้เถอะลูก งานเยอะแยะเหลือเกิน แม่ไม่ไว้ใจคนอื่น กลับมาพรุ่งนี้เลยก็ได้ เดี๋ยวแม่เช็คไฟลท์ให้เลย”
“คงยังกลับไม่ได้หรอกครับ ผมต้องเคลียร์งานกับเพื่อนๆก่อน นี่ก็กะทันหันมาก”
“ให้มันเร็วหน่อยแล้วกัน แม่คิดถึงอยากเห็นหน้าลูก”
“แค่นี้ก่อนนะครับแม่”
มนตราวางหู หันกลับมาเห็นละเอียดทำหน้าเบื่อๆ
“พี่เอียดไม่ต้องมาเยาะเย้ยผมเลย...เพราะพี่เอียดนั่นแหละ”
มนตราเดินหนีละเอียดเข้าห้องทำงานไป ละเอียดทำท่าเซ็ง

ค่ำนั้น...ละเอียดจูงมือทองดีพร้อมถาดของว่าง มายืนหน้าห้องทำงานมนตรา
“นี่หน้าที่ของภรรยาที่ดี ต้องรู้จักดูแลสามี โบราณว่า ก้นถึงฟาก ปาก ต้องถึงข้าว”
ทองดีลังเล
“แน่ใจนะว่าจะได้ผล”
“คุณจะไปรู้อะไร คนเราน่ะ พอท้องอิ่ม อารมณ์ก็จะดี เร็วเข้า เอาเข้าไปให้คุณมนตรา พูดกับเธอเพราะๆนะคะ ไปเร๊ว...”
ทองดีลังเลอยู่หน้าห้อง ละเอียดโบกมือให้ทำ ทองดีตัดสินใจเคาะประตูก่อนเข้าไปละเอียดถอนหายใจโล่งอก
มนตรานั่งเล่นดนตรีอยู่ พอทองดีเดินเข้ามา เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปรับ
“ฉันเห็นคุณปิดห้องเงียบ เลยเอาของว่างมาให้ทาน”
“ขอบคุณมาก มาทานด้วยกันสิ”
ทองดียิ้ม
“ฉันทานมาแล้ว คุณทานเหอะ”
มนตรานั่งทานขนมอย่างอร่อย ทองดีมองแล้วยิ้ม
“คุณลาออกจากงานแล้ว คืนนี้ก็ว่างน่ะสิ เราไปดูหนังกันดีมั๊ย”
มนตราส่ายหน้า
“ไม่ดีกว่า ผมไม่ชอบ ไปตามโรงหนังหรอก คนเยอะ เหม็นควันบุหรี่ด้วย อึดอัด”
“อ้าว...แล้วทีไปที่คลับล่ะ ทั้งเหล้า ทั้งควัน ทั้งเสียงดัง คุณยังไปได้เลย”
“มันไม่เหมือนกัน ผมไปที่นั่นเพราะไปทำงาน ไปเล่นดนตรี มันจำเป็น”
“งั้นไปทานข้าวนอกบ้านก็ได้ ดีมั๊ย”
“อย่าดีกว่า ทานที่บ้านนี่แหละ อร่อย ไม่ต้องเบียด เป็นส่วนตัวดีด้วย”
ทองดีเซ็งลุกขึ้นยืนทันที
“สรุปว่า คุณจะไม่พาฉันไปไหน ให้อยู่เฝ้าบ้านแบบนี้ใช่มั๊ย”
“อาทิตย์นี้ เราก็ไปกันเกือบทั้งอาทิตย์แล้วนี่นา วันนี้เราพักอยู่บ้านเงียบๆกันบ้างดีกว่า”
“ก็ได้ คุณไม่อยากไป งั้น...ฉันไปเอง”
ทองดีสะบัดหน้าออกจากห้องไปทันที มนตราหงุดหงิดมาก
“มันอะไรวันวะเนี่ย...”

ละเอียดแอบฟังหน้าห้อง ทองดีเปิดประตูออกมาหน้าบึ้งหน้างอ
“อ้าว...ทำไมหน้าหงิกแบบนั้นล่ะคะ ไม่ได้ผลหรือคะ”
“ไม่ได้ผลหรอก คนบ้าอะไร ว่างก็จะหมกตัวอยู่แต่บ้าน ฉันเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา จะเอามาตั้งทิ้งๆขว้างๆ ไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปพบเจอผู้คนบ้างเลยหรือไง”
ละเอียด ตกใจ
“ตายจริง...คุณทองประกาย พูดออกมาได้ยังไง”
ละเอียดลากแขนทองดีออกมา กลัวมนตราได้ยิน
“นี่คุณ...ใช้อะไรคิด คุณรู้หรือเปล่าว่า คุณมนเธอรักคุณแค่ไหน”
ทองดีเชิดหน้า ไม่ตอบ
“ทางบ้านขอร้องแทบเป็นแทบตายให้คุณมนเลิกทำงาน คุณมนยืนยันคำเดียวว่าไม่ แต่พอคุณพูดคำเดียว เธอก็วิ่งไปลาออก หัดให้หัวคิดซะบ้างนะคะ ว่าคุณมนทำเพื่อใคร”
“ไม่ต้องมาสะเออะสั่งสอนฉัน มีหน้าที่เป็นขี้ข้าก็เป็นต่อไป...”
ละเอียดไม่พอใจ
“ค่ะ...ฉันรู้ว่าฉันเป็นแค่คนใช้ แต่อยากจะบอกว่า คุณมนตรา เสียสละเพื่อคุณได้ทุกอย่าง กระทั่งงานที่คุณมนรัก แล้วคุณล่ะ เคยทำอะไรเพื่อคุณมนบ้างหรือเปล่า”
ทองดีหน้าเสียไปนิด แต่ไม่ยอมแพ้สะบัดหน้าเดินออกไปจากบ้านทันที ละเอียดมองตามไปอย่างหงุดหงิด
“นี่ถ้าไม่เห็นกับคุณมนล่ะก็ สองตา อีเอียดก็ไม่อยากจะแล เชอะ”
มนตรากำลังเล่นเปียโน อย่างกระแทกกระทั้น ละเอียดแง้มประตูห้องแอบมองอย่างสงสาร ก่อนจะปิดประตู ถอยหลังออกจากหน้าห้อง หันมาจะเอ๋กับแอนที่เดินประคองถาดอาหารเข้ามา
“นังแอน เข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียง เดี๋ยวฉันก็หัวใจวายหรอก”
แอนงง
“ก็คุณแม่บ้านสั่งไม่ใช่หรือคะ ให้ทำอะไรเงียบๆ”
ละเอียดจะเขกหัว
“กวนประสาทนักนะแก เฮ้อ...เมื่อไหร่จะสงบเหมือนเดิมนะนี่...ไม่เคยเห็นคุณมนเป็นแบบนี้เลย”
“แล้วจะให้แอนทำยังไงกับข้าวต้มคะ คุณแม่บ้าน”
“เอาไปเก็บก่อน”
แอนทำท่าหวานหมู รีบเดินออกไป ละเอียดทำท่าจะเดินตาม มนตราเปิดประตูพรวดออกมา ละเอียดสะดุ้ง
“อุ๊ย...คุณมน หิวหรือยังคะ เดี๋ยวเอียดจัดอาหารให้”
“ไม่ต้อง ทองประกายไปไหน”
“อุ๊ย..ไม่ทราบค่ะ เห็นว่าจะออกไปเที่ยว กลับดึก”
“ไปเที่ยว...เที่ยวที่ไหน บอกหรือเปล่า”
ละเอียดประชด
“เธอคงจะบอกเอียดหรอกนะคะ”
มนตราร้อนใจรีบวิ่งออกไปตามทองดี ละเอียดเบื่อหน่าย
“โอ๊ย...อะไรกันนักกันหนานี่”

ทองดีเดินอยู่บนสะพาน เห็นคนอื่นมาเป็นคู่ๆ เธอมองอย่างรู้สึกว้าเหว่
“ทำไมมันหนาวแบบนี้นะ”
ทองดีห่อไหล่อย่างรู้สึกหนาว นิ่งคิด เธอนึกถึงคำพูดของละเอียด
‘คุณมนตรา เสียสละเพื่อคุณได้ทุกอย่าง กระทั่งงานที่คุณมนรัก แล้ว คุณล่ะ เคยทำอะไรเพื่อคุณมนบ้างหรือเปล่า’
ทองดีหน้าเสียรู้สึกผิด เธอนิ่งคิด ถึงมนตราเมื่อครั้งที่เขาถอดเสื้อคลุมไหล่ให้ แล้วพูดกับเธออย่างจริงจัง
‘แค่มีคุณอยู่ใกล้ๆ เป็นกำลังใจให้ผม เท่านั้นผมก็พอใจแล้ว’
ทองดีรู้สึกผิด
“บ้าจริง แล้วฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่...”
ทองดีหันหลังกลับจะเดินลงจากสะพาน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาเขาแล้วนิ่งคิด ก่อนจะชะงักเปลี่ยนใจเป็นกดข้อส่งข้อความแทน
‘ฉันจะรอคุณ ที่เราสองคนเคยดูดาวด้วยกัน’
ทองดีพูดเบาๆกับตัวเอง
“ไหนลองดูซิ เขา จะใจตรงกับเรามั๊ย”
ทองดียืนชมวิวรอ มนตราอย่างใจเย็น ขณะเดียวกันนั้น จิ๊กโก๋ 2 คน เห็นทองดีนั่งอยู่คนเดียว ทั้งสองคนหันไปมองหน้ากัน แล้วยิ้มร้าย

มนตราขับรถตระเวนไปที่ต่างๆ ที่เคยไปกับทองดี แต่ไม่มีแม้แต่เงา
“คุณไปอยู่ที่ไหนนะ ทองประกาย”
ขณะเดียวกันนั้นเสียงแมสเสจดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มากดอ่าน
“นี่คุณ จะลองใจผมใช่มั๊ยเนี่ย...ที่ที่เราเคยดูดาวด้วยกัน...”
มนตรานิ่งคิดแล้วเลี้ยวรถกลับอย่างรวดเร็ว

ทองดี นั่งรอจนเริ่มเบื่อ
“เค้าคงไม่มาแล้ว ใครจะไปจำได้ สมน้ำหน้าตัวเองมั๊ยล่ะ หาจนได้เรื่อง”
ทองีเปลี่ยนใจ หันหลังเดินลงสะพาน จิ๊กโก๋ 2 คนเข้ามาขวางไว้ ทองดีหน้าเครียด
“น้องสาวคนสวย จะรีบไปไหนจ๊ะ...”
“ยืนชมดาวคนเดียวไม่เหงาหรือ มามะ พี่จะยืนเป็นเพื่อน”
ทองดีตวาด
“หลีกไป ฉันจะกลับ”
“โหย...พูดจากกระชากใจพี่จัง ทำไมเสียงไม่หวานหมือนหน้าเล๊ย...”
ทองดีเดินหนี จิ๊กโก๋คนหนึ่งคว้าแขนไว้ เธอสะบัดแล้ววิ่งหนีทันที จิ๊กโก๋ทั้งสองวิ่งตามมาทันขวางไว้ ทองดีร้องลั่น
“ช่วยด้วย...เจ้าค่ะ ไฟไหม้ ไฟไหม้”
จิ๊กโก๋ตรงเข้าต่อท้องทันที ทองดีตัวงอ จิ๊กโก๋ทั้งสองลากเธอมาทีเปลี่ยว แล้วกระชากเสื้อเธอออก ทองดีกรี๊ดลั่น ทันใดนั้นเสียงมนตราดังขึ้น
“เฮ๊ย...พวกแกทำอะไรวะ”
ทองดีหันไปเห็นเขา
“คุณมน ช่วยด้วยค่ะ”
จิ๊กโก๋ทั้งสองคนหันมามอง เห็นมนตราคนเดียว จึงชักมีดออกขู่
“มาเสือกเรื่องอะไรด้วย เดี๋ยวกูแบ่งให้ก็ได้ ตามคิวสิวะ”
“นั่นมันเมียกู”
จิ๊กโก๋เข้ารุมมนตราทันที แต่สู้มนตราไม่ได้จึงหนีไปแบบสะบักสะบอม ส่วนมนตรา มีแผลปูดบวมเล็กน้อย ทองดีรีบเข้าไปประคอง
“คุณมนตรา ฉันทำให้คุณเดือดร้อนอีกแล้ว”
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ไม่มีคุณผมอยู่ไม่ได้เข้าใจมั๊ย”
ทองดีรู้สึกผิดมาก
“ฉันขอโทษค่ะ”

ทองดี ประคองมนตราเข้ามาในบ้าน ละเอียดเห็นเขาบอบช้ำก็โวยวาย
“ตายจริง คุณมน เป็นอะไรไปคะ ทำไมถึงได้หน้าตายับเยินขนาดนี้”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่หกล้มนิดหน่อย”
ละเอียดค้อน หันไปมองหน้าทองดีอย่างจับผิด
“ค๊า...หกล้ม พี่เอียดดูไม่ออกเลย มาพี่เอียดทำแผลให้”
“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง ผมแค่ล้างหน้า เดี๋ยวให้ทองประกายทายาให้ก็พอขอบคุณนะครับ”
มนตรารีบพยักหน้าให้ทองดีพาขึ้นไปข้างบนทันที ละเอียดมองตามอย่างเป็นห่วง
“คุณมนตราละก็ ออกรับกันไปซะทุกเรื่องเลยนะ ดูซิ วันนี้เจ็บแค่นี้ วันหน้าไม่ถึงแก่ชีวิตหรอกหรือ”
ละเอียดพูดแล้วนึกได้ รีบตบปากตัวเอง
“ตายจริง พูดอะไรก็ไม่รู้...ไม่เอา ไม่เอา”

ทองดี กำลังทำแผลทายาให้ มนตราสูดปาก
“เจ็บหรือคะ ฉันขอโทษ เพราะฉันแท้ๆเลย ทำให้คุณพลอยมาเจ็บตัวแบบนี้”
“ไม่เป็นไร เจ็บแค่นี้เรื่องเล็ก แต่ถ้าคุณเป็นอะไรไป ผมคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แน่นอน”
“อย่าพูดแบบนี้นะคะ ฉันรู้สึกแย่จริงๆ” ทองดีด่าตัวเอง “ทำอะไรไม่รู้จักคิด”
“เรื่องมันแล้วไปแล้ว ช่างมันเถอะ”
“มีแต่คุณเท่านั้นที่เข้าใจฉัน คอยให้อภัยฉันตลอด ต่อไปนี้ ฉันจะไม่ทำอะไรโง่ๆแบบนี้อีกแล้ว ฉันสัญญา ให้โอกาสฉันอีกครั้งนะคะ ฉันจะเป็นภรรยาที่ดีของคุณค่ะ”
“ทองประกาย ผมไม่เคยโกรธคุณเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่ายังไง ผมก็รักคุณ”
ทั้งคู่สบตากัน ค่อยๆโน้มตัวเข้าหากันแล้วจูบกันอย่างดูดดื่ม

ทองดีนอนหลับฝันไป ภาพในฝันเธอยืนอยู่ท่ามกลางหมอกควัน มองไปด้านหน้า เห็นมนตราเดินอยู่ไกลลิบๆ
“คุณมนตรา รอฉันด้วย”
ทองดีวิ่งตามเขาไปจนทัน เอื้อมมือไปคว้าแขนไว้ แต่พอมนตราหันหน้ามาเขามีเลือดไหลออกมาเต็มหน้า ทองดีกรี๊ดสุดเสียง
ทองดีสะดุ้งตื่นเหงื่อแตกเต็มหน้า เธอหันไปมองข้างตัว เห็นเขานอนหลับอยู่ เธอถอนหายใจโล่งอก
“นี่เราฝันร้ายหรือนี่”
ทองดีรีบกลับหมอนของตัวเองแล้วนั่งสวดมนต์เป็นการใหญ่ มนตราพลิกตัวตื่นขึ้นมาเห็นก็มองอย่างงงๆ
“นึกยังไง ลุกขึ้นมาสวดมนต์ตอนนี้”
“เพื่อความสบายใจค่ะ ฉันสวดเผื่อคุณด้วยนะ”
มนตรายิ้มขำ
“คุณนี่ตลกนะ บทจะดีก็ถึงกับสวดมนต์สวดพรเป็นเรื่องเป็นราว ยังไง ก็อย่าทิ้งผมไปอยู่วัดซะก่อนล่ะ”
ทองดีค้อน
“ดูพูดเข้าสิ นอนได้แล้ว”
ทองดีล้มตัวลงนอนซุกในอ้อมกอดของเขาอย่างมีความสุข

เช้าวันใหม่...ทองดีออกมายืนใส่บาตรตอนเช้า มีแอนยืนคอยอยู่
“เฮ้อ...ทำบุญแล้วสบายใจจังเลย”
“แหม...ถ้าคุณผู้หญิง สั่งแอนไว้ก่อน แอนจะได้เตรียมของไว้ให้ครบเลย”
“ไม่เป็นไรหรอก ไว้พรุ่งนี้ค่อยเตรียมก็ได้ ช่วยเก็บของให้ทีนะจ๊ะ”
“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง”
ทองดีชะงัก
“เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ”
แอนงง
“คุณผู้หญิง...อ้าว ก็คุณเป็นเมีย เอ๊ย...ภรรยาของคุณมนตรา แอนก็ต้องเรียกคุณผู้หญิงสิคะ คุณผู้หญิงโกรธแอนหรือคะ”
“อ๋อ...เปล่าหรอกจ๊ะ...เธอจัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อยนะจ๊ะ”
ทองดีเดินรำพึงเบาๆ
“คุณผู้หญิงหรือ...ใช่สิ ฉันเป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้แล้วนี่”
ทองดียิ้มมองบ้านมนตราอย่างมีความสุข

อาหารจัดวางไว้พร้อมบนโต๊ะ มนตราเดินลงมาจากข้างบน สูดกลิ่นอาหาร
“แหม...พี่เอียดตั้งอาหารเช้าชุดใหญ่เลยนะครับนี้ วันนี้จะมีทัวว์มาลงหรือครับ จัดชุดใหญ่เชียว”
ละเอียดค้อน
“ไม่ใช่เอียดหรอกค่ะ”
“อ้าว...ไม่ใช่พี่เอียดแล้วจะใครซะอีกล่ะ”
ทองดีเดินใส่ผ้ากันเปื้อนยกน้ำผลไม้คั้นสดเข้ามา
“ตื่นแล้วหรือคะ ฉันคั้นน้ำส้มไว้ให้คุณด้วยนะ ลองชิมดูสิคะ”
ละเอียดขยับจะเข้าปรนนิบัติมนตรา แต่ทองดียิ้มให้ละเอียด
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เอียด ฉันจัดการเอง”
ละเอียดชะงัก เหมือนไม่เชื่อหู แต่ยอมให้ทองดีทำโดยดี มนตรายิ้มอย่างพอใจ
“แหม...อย่างนี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นพระราชาเลย”
“คุณชอบหรือคะ ถ้าอย่างนั้น ต่อไปนี้ฉันจะทำอาหารให้คุณทานทุกมื้อเลยดีมั๊ย”
มนตรายิ้มอย่างมีความสุข ทองดีคอยดูแลปรนนิบัติอย่างไม่บกพร่อง ละเอียดกับแอนยืนมองทั้งคู่อยู่ห่างๆ ละเอียดมองอย่างไม่เชื่อถือ ส่วน แอนยิ้มอย่างปลื้มๆ
“ไม่อยากจะเชื่อ สงสัยฝนจะตก น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ แกว่ามั๊ยนังแอน”
“แล้วคุณแม่บ้านไปเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยล่ะคะ” แอนมองทั้งคู่แล้วยิ้ม “แหม...น่ารักอ่ะ...”
ละเอียดมองแอนอย่างหมั่นไส้ หยิกหมับ แอนสะดุ้ง
“นี่แกว่าใคร นังแอน”
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ แอนลืมตัวไป”
ละเอียด มองมนตรากับทองดี
“ขอให้เป็นแบบนี้นานๆเถอะ...กลัวยังไม่ทัน 7วันก็หมดช่วงซะก่อนละสิ”

ทองดีเดินลงมาจากข้างบนบ้าน ในชุดทะมัดทะแมง มองรอบๆตัวหน้าตามุ่งมั่น
“ฉันจะเป็นคุณผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบของบ้านนี้ให้ได้ คอยดูสิ”
ทองดี จัดดอกไม้ใส่แจกัน เอามาวางไว้ในบ้านอย่างสวยงาม ละเอียดมองอย่างทึ่งๆ หลังจากนั้น เธอพยายามแกะสลักผักเป็นดอกไม้ อย่างที่ละเอียดสอนไว้ เธอเอาดอกที่แกะมาวางเทียบกับของละเอียด สวยเหมือนกัน ไม่มีที่ติ ละเอียดพยักหน้ายิ้มๆ
ทองดีบงการให้ แอนทำความสะอาดบ้าน จนสะอาด ละเอียดแอบๆ เอามือลูบแล้วถูมือก่อนจะยิ้ม เป็นเชิงสะอาดมาก จากนั้นเธอพับผ้าเช็ดตัวเป็นรูปสัตว์ วางไว้อย่างสวยงาม จนละเอียดต้องยกนิ้วโป้งให้

ทองดี กำลังยืนชงกาแฟ และจัดของว่างใส่ถาด ละเอียดเดินเข้ามาหา
“บ่ายแล้ว มีใครจัดของว่างให้คุณมนตราหรือยังเนี่ย”
“ฉันเตรียมเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวจะยกเข้าไปให้”
“คุณทองคะ สิ้นเดือนแล้วนะคะ เอ่อ...”
“บัญชีค่าใช่จ่าย กับเงินเดือนคนงาน ฉันจัดไว้เรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ วางอยู่ตรงนั้น”
ละเอียดหันไปมอง บัญชีวางไว้เรียบร้อย
“มีอะไรอีกหรือเปล่าจ๊ะ”
ละเอียดอึกอัก
“ไม่มีค่ะ คุณผู้หญิง เรียบร้อยทุกอย่างแล้ว”
ทองดี ยื่นถาดของว่างส่งให้
“งั้นพี่เอียดช่วย เอานี่ไปเสริฟต์ให้คุณมนตราก่อน ฉันขอตัวไปล้างหน้าก่อน แล้วจะตามเข้าไป”
ละเอียดรับถาดงงๆ
“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง”
ทองดียิ้มหวาน แล้ววางท่าอย่างสง่าเดินผ่านละเอียดไป ละเอียดมองตามอย่างทึ่งๆ

ละเอียดประคองถาดเข้ามาในห้องมนตราท่าทางตื่นๆ มนตรามองแล้วหัวเราะ
“พี่เอียดเป็นอะไรไป ทำท่าประหลาด”
“คุณมนตราคะ เอียดว่า คุณผู้หญิง ทำท่าประหลาดๆนะคะ”
มนตราสะดุ้ง
“อะไรนะ คุณแม่มาหรือ มาเมื่อไหร่เนี่ย”
มนตราตื่นเต้น ละเอียดรีบเบรก
“ไม่ใช่ค่ะ พี่เอียดหมายถึง คุณทองประกายต่างหาก”
มนตราชะงัก
“อ้าว...คิดว่าคุณแม่มา เห็นพี่เอียดเรียกคุณผู้หญิง” มนตราหันขวับไปทางละเอียดทันที “อ๊ะ...พี่เอียดเรียกทองประกายว่าคุณผู้หญิงหรือ นี่ผมหูฝาดหรือเปล่าเนี่ย”
ละเอียดค้อนแบบเขินๆ
“ไม่ฝาดหรอกค่ะ เอียดเรียกคุณผู้หญิงจริงๆ”
“งั้นแสดงว่า ทองประกายพร้อมแล้วใช่มั๊ย”
มนตรากระโดดดีใจเหมือนเด็กๆ ละเอียดยิ้ม
“ค่ะ คุณทองประกายเธอพร้อมแล้ว”
“ผมดีใจจริงๆ งั้นผมจะพาเธอไปเชียงใหม่”
มนตราดีใจโลดออกไปจากห้องทันที ละเอียดยิ้มมองตามไปอย่างมีความสุข
“คุณมนมีความสุข พี่เอียดก็พลอยมีความสุขไปด้วยนะคะ”
ทองดีนั่งอยู่หน้ากระจก
“เฮ้อ...อีกไม่นาน เราคงต้องเผชิญหน้ากับพ่อแม่ของมนตราแล้ว”
ทองดีถอนหายใจ มนตราเปิดประตูพรวดเข้ามาในห้องคว้าตัวทองดีมากอดแล้วอุ้มหมุนไปรอบๆ
“ทองประกายของผม เราจะไปพบเชียงใหม่กันนะ เราจะได้แต่งงานกันซะที”
“ปล่อยฉันลงก่อนเถอะค่ะ หมุนแบบนี้ฉันเวียนหัว”
มนตรา ชะงักวางเธอลงทันที
“จริงสิ ผมขอโทษ มัวแต่ดีใจ”
“มนตราคะ ฉันมีเรื่องอยากขอร้องคุณ”
“ได้สิ คุณต้องการอะไร ผมให้คุณได้ทุกอย่าง ยกเว้นเดือนกับดาวเท่านั้น”
“ฉัน...ฉันอยากไปทะเลอีกสักครั้ง ก่อนไปเชียงใหม่ คือ ฉันอยากแก้ตัวแล้วก็อยากเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ อยากจะล้างความทรงจำที่ไม่ดีทุกอย่าง ในชีวิตออกไป”
มนตรานิ่งคิด
“ถ้าคุณต้องการแบบนั้น แต่สำหรับผม ไม่จำเป็นเลย แค่มีคุณอยู่ ผมไม่ต้องการอะไรแล้ว”
“สำหรับฉันมันจำเป็นมาก ขอฉันเถอะนะคะ คุณมนตรา”
ทองดีกอดซุกกับอกของเขาอย่างหวังให้เป็นที่พึ่งสุดท้าย
“คุณดีกับฉันจริงๆ”







Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 9:23:08 น.
Counter : 563 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]