All Blog
ทองประกายแสด ตอนที่ 14 (ต่อ)




สายๆของวันใหม่ ดาราจะเปิดตัวคอลเลคชั่นใหญ่โทรศัพท์สั่งงานวุ่นวาย เชิญนักข่าว โฬมเข้ามาถาม

“เป็นไงบ้างครับพี่ เรียบร้อยมั๊ย”
ดาราเชิด
“ทำไมจะไม่เรียบร้อย ลองฉันลงมือ มันต้องสำเร็จแน่นอน”
โฬมแอบแหวะ
“ผมนึกอยู่แล้วว่าระดับพี่ดารา ไม่มีคำว่าไม่ได้”
โฬมดึงมือดาราขึ้นมาจะจูบแต่เธอกระชากมือกลับ
“อย่าหวังจะหาเศษหาเลยกับทองประกายนะ ฉันขอเตือนไว้ก่อน”
“โธ่...พี่ ผมบอกแล้วไง ทุกวันนี้ผมกินแต่ของดีๆ ไม่อยากกินของเน่าหนอนแบบนั้นหรอกครับ วางใจได้”
“มันก็ไม่แน่หรอก ลักกินขโมยกิน มันมีอร่อยกว่า ไม่ใช่หรือ”
ดารามองอย่างรู้ทัน โฬมทำไม่รู้ไม่ชี้ ขับรถออกไป

ในสตูดิโอ...ทองดีกำลังอุ้มไทยืนโพสท่าอยู่ในฉาก ช่างภาพกำลังถ่ายรูป แอ็คชั่นแม่ลูก แบบเซ็กซี่...ทองดีเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ไทเรียบร้อย หันไปชงนมใส่ขวดให้แล้วหันไปยิ้มให้กล้อง ดารามองแล้วเบ้ปาก
ดารานั่งอยู่บนโต๊ะแถลงข่าว ด้านข้างทองดีอุ้มไทยืนให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ ด้านหลังเป็นบอร์ดงานแถลงข่าว คอลเล็คชั่นใหม่ My Life, My Look
“คุณดารามีคอนเซ็บงานชิ้นนี้อย่างไรครับ” นักข่าวถาม
“ค่ะ...พี่มีความเชื่อว่า ผู้หญิงเรา ที่เห็นจากภายนอก หรือจากสื่อก็ตามอาจไม่ใช่ตัวตนที่เป็นอย่างแท้จริง”
“แล้วคุณดาราคิดยังไงครับ ถึงตัดสินใจเลือกคุณทองประกายมาเป็น นางแบบในคอลเลคชั่นนี้”
“อย่างที่พี่บอกนะคะ จากที่พี่คลุกคลีกับทองประกายมานาน พี่รู้ว่าความจริงแล้ว ทองประกายไม่ได้เป็นอย่างที่สื่อก่อนหน้านี้นำเสนอภาพ เธออาจเคยเป็นโคโยตี้ เคยเป็นนางแบบ แต่เธอไม่เคยขายตัวไม่อย่างนั้นเธอจะไปรับลูกพี่สาว มาเลี้ยงเป็นลูกตัวเองหรอกค่ะ พี่เลยอยากให้โอกาสค่ะ”
“แต่ทองประกายเงียบหายไปนาน คุณดาราเชื่อมั่นในตัวทองประกายถึงขนาดนั้นเชียวหรือครับ”
“ค่ะ พี่เชื่อมั่นในตัวทองประกายมาก พี่เชื่อมันในคุณค่าของผู้หญิงทุกคนและพี่ขอประกาศในที่นี้เลยนะคะ ทองประกายคือ นางแบบที่จะเดินในชุด finale ในคอลเลคชั่นนี้ด้วย”
ดาราพูดจบ กล้องทุกตัวรุมกันถ่ายรูปทองดีกันวุ่นวาย เธอกับไทต่างก็ยิ้มแย้ม

วันใหม่...ดารานั่งรับโทรศัพท์อยู่ในห้อง พี่แมวเดินหอบหนังสือเข้ามาปึกใหญ่
“แหม...ตอนนี้ทองประกายคืนวงการแล้วนะคะ”
ดาราปรายตามองหนังสือ
“ถ้าไม่ใช่ฉัน ไม่มีทางมาถึงตรงนี้ได้หรอก”
พี่แมวประชด
“จริงค่ะ...แหม...ระดับคุณดาราแล้ว เอาน้ำเปล่ามาปั้นยังเป็นตัวขึ้นมาได้เลย”
“อยากเกษียณก่อนวัยอันควรไหม”
พี่แมวแอบจ๋อยเพราะดาราค้อนวงใหญ่เข้าให้ ทองดีเดินเข้ามาในห้อง ดารารีบต้อนรับ

ทองดีเดินออกมาจากร้านดาราแล้วชะงัก เมื่อเห็นโฬมยืนคอยอยู่ พอเห็นทองดีเขารีบวิ่งมาทัก
“ไง...ทองประกาย ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกจนได้”
“แต่ฉันไม่ได้อยากเจอ”
เธอจะเดินหนีแต่เขาจับมือเธอเอาไว้
“ผมดีใจด้วยนะ ในที่สุดเราก็ได้ใกล้ชิดกันอีก”
“ปล่อยมือฉันดีกว่า ถ้าพี่ดารามาเห็นเข้ามันจะไม่ดี”
“ผมไม่เห็นกลัวเลย เธอจะกลัวทำไม”
ทองดีเหล่ๆแล้วแกล้ง
“อุ๊ยพี่ดารา...”
โฬมสะดุ้ง ปล่อยมือทันที พอรู้ว่าทองดีหลอก โฬมก็ฉุน
“จะหวงตัวไปถึงไหน รู้ว่าฉันชอบก็ยอมๆไปเถอะ เรื่องแบบนี้มันสนุกด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว”
“ฝันไปเถอะ ฉันไม่ชอบผู้ชายอย่างคุณหรอก”
“ยังกะเธอดีตายแล้ว ก็ไอ้ขายตัวเหมือนกันละว๊า”
“ฉันไม่มีสันดานเหมือนแกหรอกนะ”
“ปากดีนักใช่ไหม ไหนขอลองหน่อยซิ”
โฬมกระชากทองดีมากอด จูบ เธอขัดขืนซักพักเกือบเคลิ้มตามเขาแล้วได้สติผลักเขาออก
“ยอมรับมาเถอะ คุณชอบใช่มั๊ย”
ทองดีทั้งโกรธทั้งอาย
“อยากให้ฉันตะโกนเรียกพี่ดารามาดูมั๊ย”
ทองดีวิ่งหนีออกไป โฬมมองตามยิ้มๆ
“ซักวัน เธอไม่รอดฉันแน่”

ค่ำนั้น..ทองดีใส่ชุดในคอลเลคชั่นของดารา ชุดแล้วชุดเล่า ดาราคอยวิจารณ์ขยับชุด ติชม พี่แมวคอยจดรายละเอียดที่ต้องแก้ไขจนชุดสุดท้ายดาราก็ยิ้มออกมาได้
“โอเค...ใช้ได้ สวยมาก แมวเธอดูติดโค้ดเสื้อด้วยนะ งานนี้รับรองเริ่ดแน่”
“ค่ะสวยมากเลย ทองประกาย ยิ่งชุดสุดท้ายนะ เซ็กซี่มาก”
“ขอบคุณค่ะ พี่แมว เออ...เสร็จแล้วใช่มั๊ยค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ จะรีบกลับไปรับลูกที่โรงเรียน”
“เดี๋ยวก่อน...” ดาราหันไปบอกพี่แมว “แมวเธอเสร็จแล้วกลับได้เลย แต่ทองประกายรอก่อน ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
พี่แมวกับทองประกายหันไปมองหน้ากัน
“ได้ค่ะ...ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ พี่ดารา”
ทองดีเดินออกไป พี่แมวหันมาถามเบาๆ
“คุณดาราจะคุยเรื่องอะไรกับทองประกายคะ”
“มีคนเขาอยากเจอเธอ”
“เจ้าสัวนั่นเหรอคะ คุณดาราคะ แมวว่ารายนี้อย่าให้เขาไปทำเลยค่ะ”
“แล้วเธอมาเกี่ยวอะไร กลับไปให้พ้นหูพ้นตาฉันเลย รำคาญ”
พี่แมวมองค้อนแล้วสะบัดเดินไป

ดารานั่งคุยกับทองดีในห้องทำงาน
“เจ้าสัวปั้น เขายังสนใจเธออยู่ ฉันจะนัดให้เธอไปทานข้าวด้วย”
ทองดีนิ่งคิด
“แค่ทานข้าวหรือคะ”
“เธอนี่ฉลาดดีนี่ ไม่ต้องพูดเยอะ ฉันชอบ เอาเป็นว่า ถ้าถูกใจ รายนี้จ่ายไม่อั้น”
ทองดีเครียด
“ไม่ต้องไปเครียด นางแบบบางคนขอร้องให้ฉันช่วยหาไฮโซรวยๆให้ด้วยซ้ำ สมัยนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว...ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอก ต้องเงินถึงจะพูดกันรู้เรื่อง ที่เธอมาหาฉันเพราะต้องการเงินไม่ใช่หรือ ทองประกาย”
“ค่ะ”
“ฉันทำให้เธอมีชื่อเสียงกลับมา อย่าคิดเบี้ยวฉันนะ”
ทองดีมองดารานิ่ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปพอลับตัว ดาราฉุนคว้าหนังสือบนโต๊ะขว้างตามหลังไป

ดาราโทรศัพท์เรื่องงานอยู่ในห้อง โฬมนั่งๆนอนๆอยู่บนเตียงหน้าตาเบื่อหน่าย
“ฉันฝากหล่อนจัดการเรื่องบูธที่ฝรั่งเศสให้ฉันด้วยแล้วกัน แหม...หล่อนหาทางให้ฉันพบท่านประจักษ์ให้ได้สิ ไม่งั้นฉันจะจ้างหล่อนทำไมล่ะ”
ดารากดโทรศัพท์ปิดอย่างอารมณ์เสีย โฬมรีบเข้ามาเอาใจ
“เป็นอะไรครับพี่ ท่าทางหงุดหงิดเชียว ผมนวดให้เอามั๊ย”
“ก็เรื่องบูธที่ฝรั่งเศสน่ะสิ ติดขัดนี่นั่นโน่น วุ่นวายไปหมด ต้องหาทางเข้าผู้ใหญ่ แต่ยังไม่รู้จะทำไงเลย”
“อย่าเครียดสิฮะ...แค่ในเมืองไทยพี่ก็หนื่อยแย่แล้ว นี่ขยายไปต่างประเทศ พี่จะไหวหรือครับ”
“ต้องไหวสิ นี่เป็นความฝันของพี่เลยนะ พี่ต้องทำให้ได้”
โฬมแอบเบ้ปาก
“ชัวว์ฮะ พี่ดาราของผม ต้องทำได้อยู่แล้ว มาผมนวดให้นะ”
โฬมนวดไหล่เอาใจ ดาราเริ่มผ่อนคลาย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก
“อะไรกันนักหนาเนี่ย...ฮัลโหล อุ๊ยสวัสดีค่ะ เจ้าสัว เป็นยังไงบ้าง น้องทองประกายพร้อมแล้วค่ะ นัดเลยนะคะ”

วันต่อมา ขณะที่ดาราอยู่ร้านเสื้อ แม่บ้านเอาโทรศัพท์มาให้
“คุณดาราคะ สายจากทางคนของรัฐมนตรีประจักษ์ค่ะ”
ดาราแปลกใจ
“ท่านประจักษ์” ดารารับโทรศัพท์หน้าเครียด “ค่ะๆ ได้ค่ะ ฝากเรียนท่านว่าดาราจะรีบจัดการให้ค่ะ ทันทีเลยค่ะ”
โฬมมองอย่างสงสัย
“มีอะไรเหรอครับพี่”
ดารารับโทรศัพท์เสร็จหันไปคว้ายาระงับประสาทมากิน

ในกองถ่ายแฟชั่น ทองดีกำลังยืนโพสต์ท่าอยู่กลางฉาก ช่างภาพกำลังถ่ายรูป ดาราเดินเข้ามาในกองแล้วยืนมองดูทองดีเงียบๆ พอช่างภาพสั่งพัก เธอรีบเดินเข้าไปหาทองดี
“อ้าว...พี่ดารา”
“เป็นไงบ้าง” ดารามองเสื้อผ้าของทองดี “ฮึ...เสื้อของพี่เนตรนี่ยังวางสีไม่สวยเหมือนเดิมนะ”
“พี่มาหาฉันเพื่อจะมาว่าเสื้อของพี่เนตรหรือเปล่า”
“เอ่อ...เปล่าหรอก ทองประกาย ฉันมีเรื่องให้เธอช่วย”
ทองดีมองดาราด้วยสายตาไม่ไว้ใจ

ดาราชวนทองดีมานั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ
“เรื่องเจ้าสัวเธอไม่ต้องไปแล้ว พี่จะหาทางเคลียร์เอง...ทองประกาย แต่งานนี้ เธอพลาดไม่ได้ ไม่งั้นพี่ต้องแย่แน่”
ทองดีแปลกใจ
“เปลี่ยนคนเหรอคะ”
ดาราถอนใจเครียด
“มันก็ประมาณนั้น”
“งั้นฉันขอคิดดูก่อน”
ดาราโกรธ
“อย่านะทองประกาย” ดาราได้สติเสียงอ่อนลง “คนๆนี้เขามีอิทธิพลมาก เขาอยากจะพบตัวน้องทองซักครั้ง พี่ พยายามบ่ายเบี่ยง แต่เขาไม่ยอม”
“ถ้าเขาไม่ยอมก็ช่างเขาสิคะ”
ดาราสงบสติพูดดีๆ
“เขามีอิทธิพลมากนะ ที่พี่มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะอิทธิพลของเขาและไม่ใช่แค่วันนี้นะ ในอนาคตพี่ก็ยังจะต้องอาศัยเขาอีกเยอะในการต่อยอดธุรกิจ”
“เขาใหญ่มากเลยเหรอคะ”
“ก็ชี้เป็นชี้ตายธุรกิจของพี่ได้น่ะ”
ทองดีครุ่นคิดตาม
“ทองประกาย ช่วยพี่สักครั้งนะ แล้วพี่สัญญาว่าจะไม่ให้เธอทำงานพวกนี้อีก”
ทองดีอึดอัดใจ

ดาราเดินเข้ามาในบ้าน โฬมกำลังจะเดินออกไป พอเจอดาราเขาก็ชะงัก
“จะไปไหนล่ะ ไม่มีงานไม่ใช่หรือ”
“อยู่แต่บ้านก็เหงาน่ะสิครับพี่ ผมขอออกไปเดินเล่นหน่อยนะ”
“ไม่ได้ วันนี้ฉันอยู่บ้าน”
“อ้าว...ไหนว่าพี่ต้องทำงานไม่ใช่หรือ”
“ไม่ต้องแล้ว” ดารายิ้มพอใจ “งานนี้ ฉันส่งทองประกายไปทำแล้ว”
โฬมชะงัก
“ทองประกาย พี่ส่งทองประกายไปทำอะไรหรือครับ”
ดารายิ้มร้าย
“ไม่ต้องสนใจหรอก เอาเป็นว่า งานนี้ฉันได้ไม่มีเสียแน่นอน...นวดเท้าให้ฉันหน่อยสิ”
ดาราสะบัดรองเท้าออกแล้วมองหน้า โฬมแอบถอนหายใจนั่งลงนวดเท้าให้อย่างว่าง่าย ดารายิ้มอย่างพอใจ

ทองดีเดินลงจากรถแท็กซี่ที่จอดหน้าห้องอาหารหรูมาก เธอมองไปรอบๆมีรถคันโตจอดอยู่คันเดียว
“เอ๊ะ...ทำไมมันเงียบแบบนี้ มาผิดที่หรือเปล่า”
ทองดีหยิบกระดาษออกมาอ่าน
“ก็ถูกที่แล้วนี่นา ทำไมมันเงียบแบบนี้”
บอดี้การ์ดเดินมา โค้งให้อย่างสุภาพ
“เชิญทางนี้ครับคุณทองประกาย ท่านรออยู่แล้วครับ”
ทองดีอึ้งไป
“เอ่อ...แล้วท่านคือใครคะ”
บอดี้การ์ไม่ตอบแต่ยิ้มแล้วผายมือให้เธอเดินไป ทองดีมองหน้าแล้วตัดสินใจเดินตามไป...เธอเดินเข้ามาในห้องอาหารที่บรรยากาศดีมากแต่ไม่มีใครซักคน ก่อนจะมองเห็น ด้านหลังของชายคนหนึ่งนั่งอยู่ บอดี้การ์ดผายมือ
“เชิญทางด้านนี้เลยครับ”
ทองดีรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปใกล้ ประจักษ์ลุกขึ้นยืนหันหน้ามายิ้มให้อย่างอบอุ่น
“คุณทองประกาย ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ”
ทองดีตะลึง เพราะท่านดูดีกว่าที่คิดไว้เยอะ ประจักษ์เดินยิ้มเข้ามาใกล้ เธอผงะถอยห่างไป
“ขอโทษถ้าทำให้เธอกลัว ฉันแค่อยากจะเชิญเธอนั่ง”
เขาเขยิบเก้าอี้แล้วผายมือให้ เธอกระชับเสื้อผ้าให้มิดชิดเสริมความมั่นใจก่อนนั่งแล้วประจักษ์ก็เดินไปนั่งตรงข้ามกับทองดี
“ขอบคุณนะที่ยอมมาพบฉัน”
ทองดีนั่งเฉย ประจักษ์เลยหันไปพยักหน้ากับพนักงาน แล้วอาหารต่างๆก็เริ่มออกมาเสิร์ฟ บริกรมารินแชมเปญให้ทั้งสอง ประจักษ์หยิบแก้วแต่ทองดีนั่งนิ่ง
“ปกติไม่ดื่มเหรอ”
“นานๆทีค่ะ”
ประจักษ์ยิ้ม
“ถ้าฉันขอเพราะนี่เป็นโอกาสพิเศษล่ะ”
“ถ้าฉันดื่มแล้ว อาจจะเสียกริยานะคะ ท่านอาจจะขายหน้าได้”
ประจักษ์ยิ้มให้แล้วยกแก้วจะขอชน ทองดียิ้ม ยกแก้วขึ้นชนตอบ
“เธอรู้จักฉันหรือเปล่า”
“พี่ดาราบอกว่าท่านเป็นนักการเมือง”
“แสดงว่าไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง”
“ค่ะ...ฉันไม่มีความรู้เรื่องการเมืองหรอกค่ะ ขอโทษนะคะที่ฉันไม่รู้จักท่าน”
ประจักษ์ยิ้มให้ ทองดีเริ่มอายๆ ประจักษ์หัวเราะ
“ฮ่าๆๆ ท่าทางวันนี้ฉันจะได้เพื่อนทานข้าวที่คุยสนุกซะแล้ว”
ทองดีมองเขางงๆ
“ทานอาหารกันเถอะ เราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ”
ทั้งคู่สบตากัน ทองดีเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

ประจักษ์กับทองดีเดินออกมาที่หน้าร้านอาหาร เขาให้เกียรติเธอโดยเดินห่างๆ รถของประจักษ์แล่นมาจอด บอร์ดี้การ์ดเปิดประตูให้
“ฉันไปส่งเธอที่บ้านนะ”
ทองดีงงๆ
“อ้าว...ท่านเรียกดิฉันมาทานข้าวเฉยๆหรือค่ะ”
ประจักษ์ยิ้ม
“ที่จริงเธอคงไม่อยากจะมาด้วยซ้ำ”
ทองดีหลบตา
“ผู้หญิงคนอื่นที่ฉันเคยเชิญมา หลายคนแทบจะไม่ใส่อะไรมาเลย”
ทองดีจับเสื้อตัวเองแบบเขินๆ ประจักษ์ยิ้มเอ็นดู
“ถ้าเธอไม่อยากทำแบบนี้ แล้วทำไมถึงยอมมา ดาราเขาบังคับหรือ”
“เปล่าค่ะ ฉันแค่คิดว่าขนาดพี่ดารายังไม่กล้าขัดท่าน แสดงว่าท่านต้องไม่ธรรมดาแน่ บางทีวันหนึ่งข้างหน้าฉันอาจจะต้องพึ่งพาท่าน”
ประจักษ์หัวเราะ
“ด้วยความยินดี ว่าแต่เจอแล้วผิดหวังรึเปล่า”
ทองดียิ้ม
“ท่านก็ออกจะหน้าตาดี”
ประจักษ์ยิ้มขำทองดีที่ชมผู้ชายตรงๆ ทองดีหยุดมองหน้า
“ฉันสงสัยว่า ท่านไม่มีเวลาจีบผู้หญิงเองเหรอคะ”
ประจักษ์หัวเราะ
“พูดเก่งจริงนะเรา ไม่น่าให้ดื่มเลย”
ทองดีจ๋อยๆลง
“ขอโทษค่ะถ้าฉันพูดผิดไป”
“เธอนี่เป็นผู้หญิงตรงดีนะ ฉันสนุกที่ได้อยู่กับเธอจริงๆ”
ประจักษ์ผายมือให้เธออย่างสุภาพเชิญไปขึ้นรถ ทองดียิ้มยอมตามไปอย่างโดยดี

รถประจักษ์มาจอดหน้าคอนโด ทองดีเดินลงจากรถหันหลังเดินไปแล้วชะงัก ก่อนจะวิ่งกลับไปที่รถอีกครั้ง ประจักษ์ลดกระจกลง
“ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ”
ประจักษ์ยิ้ม
“อืม...วันหลัง เธอจะมาทานข้าวเป็นเพื่อนฉันอีกหรือเปล่า”
ทองดียิ้มรับ
“ถ้าท่านให้เกียรติดิฉัน ดิฉันก็ยินดีค่ะ”
“ฉันดีใจที่ได้ยินอย่างนี้นะ”
ทองดียกมือไหว้แล้วยืนรอจนรถลับตาไป
“เฮ้อ...ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ ออกจะน่ารักซะด้วยซ้ำนะท่านเนี่ยหรือเราจะเริ่มเมา”
ทองดียิ้มแล้วเปิดกระเป๋าหยิบซองมาเปิดดูเอาเช็คออกมา พอเห็นตัวเลขก็ตกใจ
“ห๊า...แสนหนึ่ง”

ทองประกายเปิดประตูห้องเข้ามา เห็นไทหลับอยู่บนเตียง เธอค่อยๆย่องๆ ทำเสียงเบาที่สุด ไทที่แกล้งหลับลืมตาขึ้นมานั่ง แล้วเรียก
“จ๊ะเอ๋”
ทองดีสะดุ้ง
“ว๊าย ตกใจหมดเลยลูก ยังไม่หลับอีก ดึกป่านนี้”
“พรุ่งนี้วันเสาร์ครับ ผมไม่ต้องไปโรงเรียน”
“แต่นี่มันดึกมากแล้วนะ นอนด้ายแล้ว”
ทองดีขึ้นไปฟัดลูกบนเตียง ไทหัวเราะกิ๊ก แล้วหยุด
“ปากคุณแม่มีกลิ่นอะไรไม่รู้”
ไททำหน้าเหม็น ทองดีชะงัก
“อุ๊ย...ขอโทษนะลูก แม่ดื่มแอลกอฮอร์มา แม่ไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนนะ เดี๋ยวมานอนด้วย”
ไทยิ้ม ลงนอนรอแม่

เช้าวันใหม่...ทองดีนอนอ่านนิทานให้ไทฟัง เจียมเดินเข้ามา
“คุณทองคะ วันนี้เพื่อนคุณนิคโทรมาที่คอนโดค่ะ ถามหาลูกคุณนิค”
ทองดีตกใจ
“เพื่อนคุณนิค ชื่ออะไร แล้วเขาพูดอะไรบ้าง”
“เขาอยากรู้เรื่องลูกกับเมียคุณนิค เจียมบอกว่าคุณวิไล เธอเสียไปนานแล้ว เจียมถามถึงคุณนิค ก็ว่าคุณนิคยังไม่สะดวกกลับมา ฝากแกมาถามข่าวลูกเมีย แต่ไม่เกินปีคุณนิคคงได้กลับมาเมืองไทย”
ทองดีหน้าเครียดลงทันที

ค่ำนั้น ทองดีในชุดนอนเดินออกมายืนเครียดที่ระเบียง
“หายหัวไปหลายปี พึ่งจะมาถามหา ฉันไม่ยอมให้ใครมาแย่งลูกของฉัน”
ทองดีเดินเข้าไปมองไทที่นอนหลับปุ๋ย เธอก้มลงหอมแก้มลูกขายอย่างสุดรัก
“ไทต้องอยู่กับแม่นะ แม่จะไม่ยอมให้ไทไปไหน ท่านต้องช่วยฉันได้!”

วันใหม่ ทองดีไปหาดาราที่ร้าน ดาราปลื้มจับเนื้อจับตัวทองดี
“ทำอะไรให้ท่านติดใจ ท่านถึงอยากจะนัดเจอเธออีก ท่านไม่เคยมีบ้านเล็กหรือวาสนาจะหล่นทับเธอซะแล้ว แม่ทองประกายรู้มั๊ยว่าท่านน่ะ ใหญ่โต และร่ำรวยขนาดไหน”
ทองดีออกจะภูมิใจตัวเองหน่อยๆ
“ฉันก็ไม่ได้ทำอะไร”
“ย่ะ อยากอุ๊บไว้ ไม่บอกก็ตามใจ ท่านให้ฉันเตรียมของให้เธอด้วย”
ทองดีมองกล่องของขวัญในมือ ดาราชำเลืองมองหมั่นไส้

บ่ายนั้นทองดีกลับมาที่ห้อง เธอนั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอกดรับสาย
“สวัสดีค่ะ...พี่ดาราบอกแล้วค่ะ...ได้ค่ะฉันก็แต่งตัวจะเสร็จแล้วค่ะ”
ทองดีกดปิดโทรศัพท์ แล้วแกะห่อของขวัญที่ดาราให้มาออก เป็นชุดกลางคืนสวยหรู เธอเอาชุดมาทาบกับตัวตัดสินใจแน่วแน่
“ทองประกายพร้อมแล้วค่ะท่าน”

ค่ำนั้น คนขับรถส่งทองดีลงที่หน้าประตูโรงแรม บริกรมารับต่อ พาเธอไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่จัดเตรียมไว้อย่างดี นั่งรออยู่นานมาก จนมีอาหารมาเสริฟ สักครู่บอร์ดี้การ์ดเดินเข้ามา ทองดีหันไปถาม
“ท่านมาแล้ว”
“ท่านให้มาเรียนคุณผู้หญิงว่า ท่านติดราชการด่วนครับท่านส่งให้ผมมาดูแลแทนครับ”
ทองดีรู้สึกเสียหน้า มองอาหารเซ็งๆ
“ท่านไม่มาแล้ว งั้นฉันกลับดีกว่า”
ทองดีรู้สึกผิดหวังลุกจะเดินออก
“ถ้างั้นผมเดินไปส่งที่รถนะครับ เชิญครับ”
ทองดีไม่พูดอะไรเดินออกไป

ทองดีเปิดประตูเข้ามาเห็นลูกหลับอยู่บนเตียง เธอย่องๆไปมอง ลูกไม่ตื่นก็ถอนหายใจ หอมแก้มลูกแล้วลุกเข้าไปอาบน้ำ
วันใหม่...ทองดีหิ้วกระเป๋าไท จะออกไปส่งไปโรงเรียน มีคนมากดออด ไทวิ่งไปเปิดประตู สักครู่ไทก็ถือดอกไม้ช่อสวยเข้ามา พร้อมกล่องของขวัญ
“มีคนเอาดอกไม้มาให้คุณแม่ ของขวัญด้วย เปิดได้มั๊ยครับ”
“ไม่ได้ลูก ลูกต้องไปโรงเรียนแล้วนะ ไปเลย เร็วๆ”
ไทหอมแก้มแม่
“ตอนเย็นแม่ไปรับไทนะครับ”
“จ๊ะ”
เจียมยิ้มพาไทออกไป ทองดีอ่านการ์ดที่แนบมากับห่อของขวัญ
“หวังว่าเธอจะไม่โกรธ ขอไถ่โทษคืนนี้นะ”
ทองดียังงอนๆอยู่ แกะกล่องออกดูเป็นเสื้อผ้าสวยอีก เธอครุ่นคิดในใจ
ค่ำนั้น ทองดีนั่งรอประจักษ์อยู่ที่โรงแรมหรู สักครู่เขาก็เดินเข้ามายิ้ม ทองดีลุกยืนรับ

“นั่งเถอะ ตามสบาย ขอโทษที่ต้องให้รอ และผิดนัดคราวที่แล้ว หวังว่าเธอคงไม่โกรธ”
“ดิฉันไม่กล้าโกรธท่านหรอกค่ะ เพราะหน้าที่ของดิฉันคือทำให้ท่านพอใจ”
“ถ้าเธออยากโกรธ เธอก็มีสิทธิ์ ฉันชอบให้เธอเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับฉัน เหมือนที่แต่งตัวมาวันนี้”
ทองดีแอบยิ้ม
“ก็ดิฉันไม่อยากแต่งตัวเก้ออีก”
“เห็นเธอยิ้มได้ ค่อยใจชื้นหน่อย เพราะปากบอกไม่โกรธแต่สีหน้าเมื่อครู่...มันชัดมาก สั่งอะไรทานรึยัง”
“รอท่านอยู่ค่ะ”
“งั้นฉันจะสั่งให้นะ ที่นี่มีของอร่อยหลายอย่าง มาดูว่า ฉันจะสั่งได้ถูกปากเธอมั๊ย”

ทั้งสองทานอาหารกัน คุยกัน ประจักษ์เทคแคร์ทองอย่างดี ทองหัวเราะ และเริ่มคุยมากขึ้น
เมื่อทานอาหารและคุยกันอย่างถูกคอ ทั้งสองก็ไปจบลงที่ห้องนอน
“ดูเหมือนเธอกลัวๆนะ”
“กลัวท่านเหรอคะ”
“ถ้ายังไม่พร้อมก็บอก”
“อาจเป็นเพราะฉันอยู่ตัวคนเดียวมานานมั้งคะ”
“แปลกนะ ที่ผู้หญิงสวยอย่างเธอจะโสด ไม่เหงาเหรอ”
ทองดีเงียบไม่ตอบ
“เมื่อกี้เธอยังพูดเก่งอยู่เลย...”
ประจักษ์อุ้มทองดีไปวางลงบนเตียง ก่อนจะโถมตัวตามไป...

วันใหม่...ทองดีลงนั่ง ดาราเข้ามาเอาอกเอาใจ
“นี่พี่ฝากไปให้หลานด้วย ของนอกทั้งนั้นเลยนะ”
ทองดีมองนิ่ง
“ทำไมพี่ดาราถึงใจดีล่ะ”
“รู้ไหมว่าท่านโทรมาบอกว่าคุณน้องอ่ะน่ารัก ไม่ดูเสแสร้งเหมือนพวกเด็กเก่าๆที่คุณพี่ส่งให้ แล้วแบบนี้คุณพี่จะไม่สมนานาคุณคุณน้องยังไงไหวละจ้ะ”
“เอ่อ...ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณน้องก็ได้”
“แหม...ขนาดจะก้าวขึ้นเป็นคนโปรดของท่านยังถ่อมตัวอีก น่ารักจริงๆ”
“พี่ดาราอย่าพูดแบบนั้นนะ ฉันไม่มีทางเป็นน้อยของท่านได้หรอก”
“แหม...เมียอยู่แบบนอนพะงาบๆจะตายมิตายแหล่ และท่านก็ยังหนุ่มยังแน่น อีกไม่นานหรอกพี่ว่าหนูเข้าวินแน่”
ทองดียิ้มเจื่อนๆ
“แล้วตกลงพี่ดารานัดฉันมานี่ทำไมคะ”
“พี่มีเรื่องจะขอร้องคุณน้องเรื่องหนึ่ง คุณน้องต้องช่วยพี่นะ”
ทองดีถอนหายใจ
“เรื่องอะไรอีกล่ะคะ”
“พี่จะไปเปิดบูธขยายตลาดที่ยุโรปแล้วก็กะจะแสดงผลงานที่นั่นด้วย แต่พี่วิ่งเต้นมานานแล้ว ไม่สำเร็จสักที เลยอยากให้คุณน้องช่วยพูดกับท่านหน่อย นะๆๆคุณน้องทองประกาย”
ทองดีหนักใจ เพราะเวลาเจอกับประจักษ์ยังแทบไม่มี

ค่ำนั้น ดาราเดินเข้ามาในบ้านอย่างเหนื่อยอ่อน แดงรีบเข้ามารับของจากมือ
“คุณโฬมล่ะ ขึ้นนอนแล้วเหรอ”
แดงอ้ำอึ้ง
“เอ่อ...ยังค่ะ”
“แล้วอยู่ไหนล่ะ ไปตามมาหน่อยสิ”
“เอ่อ...คุณโฬมยังไม่กลับเลยค่ะ”
“อะไรนะ ยังไม่กลับ” ดาราบ่นอย่างโมโห “ไอ้บ้าเอ๊ย...กล้าหลอกฉันว่าเสร็จงานจะรีบกลับบ้านเหรอ” ดาราหันไปไล่สาวใช้ “แกจะไปไหนก็ไปไป๊”
แดงรีบวิ่งออกไป ดาราลนลานควานหาโทรศัพท์มากดหาโฬมทันที

โฬมกำลังฟัดกับลิซ่านางแบบสาวอยู่บนเตียง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาไม่สนใจฟัดลิซ่าต่อ สักพักทนไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเห็นหน้าจอเป็นรูปดารา เขากดปิดมือถือทันที แล้วหันไปนัวเนียกับลิซ่าต่อ
ดารามองโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
“อ๋อ...กล้าลองดีกับฉันหรือ ไอ้โฬม ได้เห็นดีแน่”
ดารากดโทรศัพท์ ออกอีกครั้งพูดเสียงหวาน
“สวัสดีค่ะ คุณก้อง พี่ดารานะ...พี่มีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย”

สายของวันใหม่...โฬมงัวเงียตื่น ลิซ่ากอดไว้ เขาหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วตกใจ
“เฮ้ย...ทำไมออร์กาไนซ์เซอร์โทรตามกันเยอะแบบนี้ล่ะ”
ลิซ่าโผล่หน้ามาดู
“อุ๊ย...สงสัยรุมแย่งตัว ดังแล้วอย่าทิ้งกันนะ ดันๆงานให้บ้างล่ะ”
โฬมยิ้มแล้วกดโทรออก
“สวัสดีครับพี่ก้อง มีอะไรให้โฬมรับใช้ครับ...อะไรนะ ยกเลิกอีเว้นต์หรือทำไมล่ะครับ...ครับๆผมเข้าใจแล้ว”
โฬมปิดโทรศัพท์อย่างหัวเสีย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกเขากดรับ
“พี่ใหญ่เหรอครับ ผมจะโทรหาอยู่พี่พอดีเลย...แคนเซิ่ลถ่ายแบบหรือครับ แต่ผมฟิตหุ่นตามพี่บอกตั้งหลายเดือน จู่ๆจะมายกเลิกแบบนี้ได้ไง...ฮัลโหลๆ พี่ครับ”
โฬมกดโทรศัพท์ปิด แล้วลุกขึ้นจากเตียงแต่งตัวทันทีลิซ่ามองงงๆ
“เกิดอะไรขึ้นอ่ะ”
โฬมหงุดหงิดมาก
“จะรู้ไหม ก็อยู่บนเตียงด้วยกัน ไปแล้วนะ”
โฬมเดินออกไปลิซ่ายิ่งงง
“อะไรของมันวะ”

ดารานั่งดื่มกาแฟทานอาหารเช้า โฬมเดินเข้ามาหน้าตาบูดบึ้ง
“พี่ทำแบบนี้ทำไมกัน”
“ทำอะไร”
“ทุกงานของผมถูกยกเลิกหมด ฝีมือพี่ใช่ไหมผมรู้นะ”
“คิดว่ารู้คนเดียวเหรอ เมื่อวานเดินแบบเสร็จก็ลากนังลิซ่านางแบบใหม่ไปกกกันมาใช่ไหม”
“เอ่อ...ผมๆกลับบ้านไปดูแม่ครับ”
“มีคนบอกฉันว่า พอเดินแบบเสร็จเธอก็หายไปกับนังลิซ่า”
“ลิซ่าเขามาอ้อนให้ผมไปส่งที่คอนโดฯ แต่ผมไม่ไป ผมรับปากพี่แล้วผมไม่ทำอีกแน่ๆ ผมกลับบ้านจริงๆครับ”
“พี่จะปิดหูปิดตาเป็นครั้งสุดท้าย แต่เรื่องงานยังไงพี่ก็ไม่ให้เธอทำอีก”
“ถ้าไม่ให้ผมทำงานแล้วพี่จะให้ผมทำอะไร”
“ทำหน้าที่ผัวพี่อย่างเดียวก็พอ” ดาราเดินมาลูบแก้ม “พี่จะเพิ่มเงินที่ให้เธอใช้จ่ายอีกเท่าตัว โอเคไหม”
โฬมยิ้มออก
“แบบนี้ผมรักพี่ตายเลยครับ”
โฬมรีบเข้ามากอดดาราเอาใจแต่แอบเบ้ปาก ระหว่างนั้นโทรศัพท์ดาราดังขึ้น เธอกดรับสาย
“น้องทองประกาย พี่กำลังรออยู่พอดี เดี๋ยวเราไปหาอะไรเก๋ๆทานด้วยกันนะคะ...จ้า เจอกันที่ร้าน...”
โฬมดีใจ
“พี่จะไปหาทองประกายเหรอครับ”
“ใช่”
“เอ่อ...จะให้ผมไปด้วยไหมครับ ผมจะได้ขับรถให้พี่ดารา”
ดาราจ้องหน้าเอาเรื่อง
“ไม่จำเป็น พี่กลัวเธออยู่ใกล้ทองประกายมากๆแล้วจะทำตามที่พี่รับปากไม่ได้” ดารายิ้มร้าย “เชื่อพี่เถอะนะ ถ้าไม่อยากกลับไปอยู่สลัมตามกำพืดเดิมของเธอ”
ดาราตบแก้มโฬมเบาๆแล้วหยิบกระเป๋า แล้วก็ถุงของใช้เด็กเล็กเดินออกไป โฬมมองตามด้วยความฉุน
“โธ่เว้ย...จะให้กินของหมดอายุไปจนตายหรือไง”

ทองดีดูปฏิทินตั้งโต๊ะที่ผ่านไปหลายวัน เธอกลุ้มใจที่ประจักษ์เงียบหาย เธอรู้สึกเป็นห่วงเรื่องลูกขึ้นมา
“ถ้าไม่มีท่าน นิคต้องกลับมาเอาไทไปจากฉันแน่ๆ”
ทองดีกดโทรศัพท์หาดารา ซึ่งรีบรับสายทันที
“โทรหาพี่มีเรื่องอะไรคะคุณน้อง”
“พี่ดาราทราบข่าวท่านบ้างรึเปล่าคะ ท่านเป็นยังไงบ้าง”
“อ้าว...แล้วเธอไม่เจอท่านเหรอ”
“ท่านเงียบหายไปเกือบเดือนแล้วค่ะ”
“อุ๊ย...ถ้าอย่างนั้นท่านคงจะเบื่อเธอแล้วน่ะสิ ช่วยไม่ได้นะจ๊ะ แล้วนี่มันจะกระทบถึงงานของฉันด้วยมั๊ยนี่ แค่นี้นะ”
ดาราวางสายไป ทองดีน้อยใจ และรู้สึกอาย ไม่คิดว่าประจักษ์จะทิ้งกันง่ายๆ

ดาราวางสายเสร็จแล้วก็โทรหาประจักษ์
“ทนจริงๆนะนังทองประกาย ท่านหายไปตั้งเกือบเดือน พึ่งจะถามหา...ฮัลโหล ดาราค่ะท่านรัฐมนตรี ทองประกายโทรมาแล้วค่ะ”
ประจักษ์ กำลังเคลียร์งานอยู่ในห้องทำงานที่คฤหาสน์ยิ้มพอใจ
“เขาว่ายังไงบ้าง”
“ก็ถามถึงท่านน่ะสิคะ”
“ขอบใจมากนะ”
ประจักษ์วางสาย ดารางงๆ
“เล่นอะไรของท่านคะ งงจริงๆ”

เย็นวันใหม่ โทรศัพท์มือถือของทองดีดังขึ้นเธอกดรับสาย
“ท่าน”
“กำลังให้รถไปรับนะ เดี๋ยวเจอกัน”
“เดี๋ยวค่ะท่าน...ท่านคะ”
ทองดีรู้สึกหงุดหงิดในความเอาแต่ใจของประจักษ์ เธอจะไม่ไป แต่รู้สึกค้างคาใจและโมโหจึงตัดสินใจไป

ทองดีลงจากรถ มีการ์ดเปิดประตู แล้วแจ้งว่าท่านรออยู่ข้างใน ทองดีเดินผ่านรถป้ายแดงหน้าบ้านที่จอดอยู่โดยไม่ได้สนใจ เธอโมโห ตั้งใจจะไปต่อว่าแต่เมื่อเข้าไปถึง ประจักษ์หันกลับมามองแล้วยิ้มให้ ทองดีพูดไม่ออก เพราะสายตาของเขาที่มองเธออย่างเอ็นดูรักใคร่
“ขอโทษ ถ้าสิ่งที่ฉันทำมันทำให้เธอโกรธหรือไม่พอใจ”
“ฉันไม่ทราบว่าท่านกำลังเล่นอะไรอยู่”
“ฉันเงียบไป แล้วทำไมไม่โทรหาฉันล่ะ...ทองประกาย”
ทองดีเงียบไม่พูดอะไร...ประจักษ์มองยิ้มๆ
“แต่โทรถามกับพี่ดารา”
ทองดีอึ้งไป
“ท่านทราบ...ฉันไม่กล้าโทรหาท่านหรอกค่ะ คิดว่าท่านคงยุ่ง หรืออาจจะลืมฉันแล้ว”
“แต่เธอก็ยังคอย”
ทองดีเงียบ
“ฉันต้องการลองใจเธอ ว่าเธอจะอดทนพอ จะคบกับคนอย่างฉันได้มั๊ย”
ทองดีไม่ค่อยพอใจ
“ท่านทำกับฉัน เหมือนฉันเป็นของเล่นของท่าน”
“อย่าโกรธฉันที่ฉันต้องทดสอบเธอ ชอบบ้านหลังนี้มั๊ย”
ทองดีงงๆ
“บ้านท่าน”
“ใช่...แต่หลังจากนี้ มันจะกลายเป็นบ้านของเธอ”
ทองดีตกใจตาโต
“บ้านหลังโตหลังนี้จะเป็นบ้านของทอง”
ทองดีหันมองรอบบ้าน
“รวมทั้งรถยนต์คันใหม่ที่จอดอยู่หน้าบ้านด้วย”
ทองดีวิ่งไปดู ดีใจ วิ่งกลับมายืนมองหน้าแล้วไหว้ลงตรงอกประจักษ์ ก่อนโผเข้ากอดแนบแน่น ดีใจที่เขาเมตตากับเธอขนาดนี้ ประจักษ์จับทองดีเงยหน้าขึ้น แล้วจูบอย่างรักใคร่ ทั้งสองล้มลงที่โซฟา

ทองดีเอนนอนซบ อกเขาอยู่ที่โซฟา เธอรู้สึกอบอุ่น แล้วนึกได้ หันมาพูด
“ท่านคะ ดิฉันขออนุญาตเอาลูกมาอยู่ด้วยนะคะ”
“ลูกบุญธรรมเธอใช่มั้ย”
ทองดีแปลกใจ
“ท่านทราบประวัติดิฉันทุกเรื่อง”
ประจักษ์หัวเราะขึ้นมา
“ชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อไทค่ะ”
“ท่านจะอนุญาตมั้ยคะ”
“ไม่ต้องขออนุญาติฉัน เพราะเมื่อฉันยกให้เธอแล้ว บ้านนี้ก็จะเป็นสิทธิ์ของเธอทุกอย่าง แล้วฉัน จะให้คนไปทำเรื่องโอนให้เธอนะ”
ทองดีซึ้งใจมาก
“ท่านดีกับดิฉันมาก ดิฉัน...”
ทองดีอึกอัก ประจักษ์ยิ้ม
“สัญญาแค่ว่าเธอจะทำตัวดี”
“ค่ะ ดิฉันสัญญา”
ทองดียิ้มอย่างมีความสุข

วันใหม่...ประจักษ์เดินเข้ามานั่งเป็นประธานอยู่กลางห้อง มีลูกน้องอยู่รายล้อม
“ขอโทษที่ต้องให้ทุกคนมาประชุมที่บ้าน เพราะคุณหญิงอาการไม่ค่อยดี”
“เราเข้าใจครับท่าน”
“งั้นเราเริ่มเลย” ประจักษ์พยักหน้าให้นักธุรกิจที่มาคุยด้วย
“อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศปีนี้น่าจะอยู่ที่ 6.8%”
“แต่เอสเคปคาดการณ์ว่าจะ ลดลงเหลือเพียงแค่ 6.6 % นะที่ผมทราบ”
“ครับท่าน เรื่องชิ้นส่วนอิเลคโทนิคในการส่งออกที่ขาดแคลน หลายโรงงานยังไม่สามารถดำเนินการได้ และติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่อยราชการ”
นักธุรกิจ ยื่นแฟ้มเอกสารส่งให้ ประจักษ์รับมาเปิดดู
“ยอดทั้งหมดที่ส่งเข้ามา ค่อนข้างสูง ทางธนาคารกลางแจ้งว่าอย่างไรบ้าง”
ประจักษณ์ประชุมอย่างเคร่งเครียด กระทั่งเลิกประชุม เลขาเดินเข้ามาบอก
“ได้เวลาท่านต้องเดินทางไปประชุม และดูงานต่อที่สัตหีบแล้วค่ะ”
ประจักษ์พยักหน้ารับรู้ เดินตามเลขาออกไปขึ้นรถ มีรถการ์ดนำ 1 คัน ก่อนที่เขาจะขึ้นรถเขาหันมาสั่งเลขา
“พรุ่งนี้ 10 โมงเช้า ให้รถไปรับทองประกายไปพบฉันด้วย”

เช้าวันใหม่...ขบวนรถประจักษ์มาจอดที่ท่าเรือโอเชี่ยลมารีน่า ประจักสั่งงานเลขาเรียบร้อย เลขาเดินกลับออกไปขึ้นรถขับออกไป ประจักษ์หันไปยืนมองทะเลรอทองดี โดยมีการ์ดสองคนยืนรออยู่ห่างๆ ไม่นานนัก รถที่ทองดีนั่งก็เข้ามาจอดปลายสุดของท่าเรือ ทองดีลงรถมาด้วยชุดสวยพริ้ว ประจักษ์หันไปมองแล้วยิ้มให้ ทองดีเดินเข้าไปหา
“ท่านจะพาดิฉันไปไหนคะ”
“ไปลงเรือเที่ยวกัน..แต่งตัวแบบนี้แล้วดูน่ารักเชียว ไปกันเถอะ”
ประจักษ์ประคองทองดีเดินไปด้วยกันก้าวลงเรือไป

บนเรือ...ประจักษ์ลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง ทองดีมองอย่างสนใจ
“ฉันไม่ได้ลงมือทำอาหารแบบนี้มานานแล้ว รู้มั้ย”
“ท่านชอบทำอาหารเหรอคะ ดูท่านทำคล่องเชียว”
“ฉันไม่ค่อยมีเวลาที่จะทำแบบนี้เท่าไหร่”
“นึกว่าท่านจะชอบแต่ทานตามโรงแรม ถึงจะถูกปากท่าน”
ประจักษ์หัวเราะ
“ถ้าทานตามโรงแรม เรื่องอาหารน่ะไม่เท่าไหร่ มันสำคัญว่า ทานกับใครมากกว่า”
ทองดีขำ
“ท่านคะ ดิฉันมีเรื่องรบกวน”
“อะไรหรือ”
“เอ่อ...เรื่องธุรกิจของพี่ดารา เธออยากส่งเสื้อผ้าไปขายเมืองนอก เธอบอกว่ามีท่านเท่านั้นจะช่วยเธอได้”
“ช่วยยังไง”
ทองดีส่ายหน้าอึดอัด
“ดิฉันก็ไม่เข้าใจนักหรอกค่ะ เพียงแต่เธอบอกว่า ท่านช่วยเธอได้”
“คงเป็นเรื่องไปเปิดบูธกับจัดแฟชั่นโชว์ที่ยุโรป เขาคงตั้งใจขยายตลาดต่างประเทศ”
“คงงั้นมั้งคะ”
ประจักษ์หัวเราะ
“ไม่ต้องห่วง...ฉันจะถือว่าการช่วยครั้งนี้เป็นการตอบแทน ที่ดาราทำให้ฉันได้รู้จักกับเธอ”
ทองดียกมือไหว้
“ขอบพระคุณมากค่ะท่าน”
“แล้วเธอล่ะ อยากได้อะไรอีกมั้ย”
ทองดีนิ่งคิด ยังไม่กล้าพูดเรื่องลูก
“ที่ท่านให้ดิฉันก็มากพอแล้วค่ะ ดิฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้วค่ะ”
ประจักษ์หันมายิ้มให้ แล้วก้มลงทำอาหารต่อ ทองดียิ้มมองดูเขาตลอดเวลา

เรือจอดอยู่กลางทะเล ทองดีมองทัศนียภาพรอบๆตัวอย่างรู้สึกสดชื่น
“ก่อนหน้านี้ ที่คุณหญิงยังแข็งแรง เรามาลงเรือเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แต่คุณหญิงป่วยหนักมาหลายปีแล้ว เธอทราบเรื่องฉันมีคุณหญิงใช่มั๊ย”
ทองดีก้มหน้า
“พี่ดาราบอกแล้วค่ะ ท่านป่วยเป็นอะไรคะ”
“มะเร็ง กำลังเข้าระยะที่สี่”
“ดิฉันเสียใจด้วยค่ะ”
“ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายที่ดีนัก แต่คุณหญิงก็ยังเป็นที่หนึ่งเสมอ เวลาของคุณหญิงเหลือน้อยเต็มที ฉันจะดูแลเขาให้ดีที่สุดจนกว่า...จะวาระสุดท้ายของเขา”
ทองดียิ้มให้อย่างจริงใจ
“น่าอิจฉาคุณหญิงนะคะ ที่มีคนที่รักคุณหญิงอย่างนี้ ถ้าฉันเป็นคุณหญิงฉันก็คงจะรักท่านมาก”
“ที่ฉันเล่าให้เธอฟัง เพื่อให้เธอเข้าใจฉันมากขึ้น ว่าทำไมฉันถึงไม่มีเวลาให้กับเธอเหมือนคนทั่วไป”
“ขอบคุณที่เล่าให้ดิฉันฟังค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้ว...ดิฉันเองเคยสูญเสียคนรัก และรู้ว่ามันเป็นยังไง”
ประจักษ์ยิ้มพอใจ ที่ทองดีเข้าใจ

เรือกางใบแล่นลมกลับเข้าฝั่ง ทองดียืนชมวิวอยู่คนเดียว ประจักษ์เดินเข้ามายืนใกล้ๆ
“เล่าเรื่องความรักของเธอให้ฉันฟังบ้างได้มั้ย”
ทองดียิ้มเศร้า
“ความรักดีดีของดิฉัน จบลงที่ทะเลนี่แหละค่ะ เขาประสพอุบัติเหตุ จากที่เรามาเที่ยวทะเลกัน เห็นมั้ยคะ ท่านยังมีโอกาศได้ดูแลคุณหญิง หรือแม้แต่จะบอกลา ท่านโชคดีกว่าดิฉันซะอีก”
“นี่เป็นการพูดปลอบฉันเหรอ”
ทองดีจ๋อยลง
“ก็ดิฉันไม่รู้จะปลอบท่านยังไง”
ประจักษ์ยิ้ม
“ขอบใจนะ ขอบใจมาก ถ้าเธอจะให้โอกาสฉัน วันนึงข้างหน้า ความรักดีๆอาจจะเกิดกับเราอีกครั้ง”
ประจักษ์โอบกอดเอว ทองดีรู้สึกอบอุ่นหันไปยิ้มให้แล้วหันมองดูพระอาทิตย์ทอแสงยามเย็นเบื้องหน้า

วันต่อมา...ดารากดวางหูโทรศัพท์แล้วกรี๊ด สุดเสียง ทองดีเดินเข้ามาในห้องพอดี ทองดีสะดุ้ง ดารารีบวิ่งเข้ามาประคองให้นั่งลง
“ต๊าย...ตาย คุณน้องทองประกาย แค่พี่เห็นพี่ก็รู้แล้ว รัศมีของน้องแจ่มเจิดจ้าจริง...จริ๊ง”
“พี่ดารา พี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ท่านเพิ่งให้ลูกน้องโทรมาบอกว่า เรื่องงานออกบูธที่เมืองนอกพี่ผ่านฉลุย ขอบคุณคุณน้องนะคะ แบบนี้แสดงว่าท่านกับคุณน้องน่าจะไปกันได้ดี”
“ค่ะ ท่านขอดูแลฉัน และฉันก็จะบอกพี่ว่าฉันจะไม่รับงานอีกแล้ว”
ดาราโผเข้ากอดทองดีรู้สึกแปลกไม่สนิทใจ โฬมยืนแอบฟังอยู่ยิ้มเหยียด
“โธ่เอ๊ย...คิดว่าจะแน่ สุดท้ายก็ขายตัวเหมือนกันละว๊า...”

ทองดีนั่งรอพี่แมวอยู่ที่ห้องรับแขก โฬมเดินเข้ามาทัก ทองดีระวังตัวทันที
“สวัสดีคุณทองประกาย”
“สวัสดี ฉันกำลังจะกลับพอดี”
ทองประกายจะเดินหนีแต่โฬมขวางไว้
“อย่าเพิ่งสิ...เฮ้อ...เอาเป็นว่าฉันขอโทษ ที่ผ่านมาฉันทำไม่ดีไว้เยอะต่อไป เรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ”
โฬมยื่นมือมาให้จับ ทองดีนิ่ง
“เอาเป็นว่าเราก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นศัตรูกัน”
ทองดีจะเดินไปแต่โฬมยังยืนขวางแล้วยิ้มเจ้าชู้ให้ พี่แมวเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วเครื่องดื่ม พี่แมวกระแอม โฬมหันไปมอง
“ตามใจ แต่ฉันขอโทษจริงๆนะ”
โฬมเดินออกไป พี่แมวมองตามไปอย่างไม่ไว้ใจ
“มันทำอะไรหนูหรือเปล่า คนอย่างมันน่ะไว้ใจไม่ได้”
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะพี่แมว ฉันรับมือได้”
“ค่อยยังชั่ว นี่พี่ได้ข่าวเรื่องหนูกับท่าน จริงหรือเปล่า”
“จริงค่ะ พี่...แต่ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่า ที่ทำเนี่ยถูกหรือเปล่า เพราะท่านก็มีคุณหญิงอยู่แล้ว”
“เฮ้อ...ถ้าท่านเขาจริงใจ รับดูแลทองจริง ทองจะมากัดก้อนเกลือกินไปทำมั๊ย...พี่ว่าทองควรจะมีความสุขได้แล้ว”
ทองดียิ้ม
“ต่อไปนี้พ่อของไทก็จะหมดโอกาสแย่งไทไปจากทอง”
“ตายจริง เรื่องลูกที่เคยเล่าให้พี่ฟัง ที่แท้ทองก็จะอาศัยบารมีท่านงั้นเหรอ เวรกรรม ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ นี่มันพรากลูกพรากพ่อเขานะ”
“อ้าว...ก็เขาทิ้งแม่ทิ้งลูกไปเอง แล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องอะไรอีกล่ะ”
“คิดแบบนั้นไม่ได้ สายเลือดพ่อลูกยังก็ตัดไม่ได้ ขายไม่ขาดนะ”
“เอาเป็นว่า พี่แมวอย่าพูดอีกเลย ฉันไม่อยากฟัง”
พี่แมวหมดปัญญา เพราะทองดีหน้าตาจริงจังมาก

วันต่อมา...รถของประจักษ์วิ่งเข้ามาจอดตรงหน้าบ้านใหม่ของทองดี เธอลงจากรถ น้อมกับเหล่าเด็กรับใช้ยืนรอต้อนรับ บอดี้การ์ดแนะนำให้ทุกคนรู้จัก
“นี่คุณผู้หญิงทองประกาย”
แม่บ้านยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ฉัน ชื่อน้อมเป็นแม่บ้าน มาดิฉันจูงคุณหนูให้เองค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ ขอบใจมากนะจ๊ะ...น้อม”
บอดี้การ์ดผายมือ
“เชิญคุณผู้หญิงด้านใน คุณท่านรออยู่แล้วครับ”
ทองดียิ้ม
“ขอบใจมากจ๊ะ”
ทองดีจูงลูกเข้ามาในบ้าน ประจักษ์หันมามอง
“ท่านคะ”
ทองดียิ้มร่าเริง ประจักษ์ยิ้มแย้มให้ไท
“นี่ไทใช่มั้ย...น่าตาหล่อไม่เบานี่นา ไหนขออุ้มหน่อยสิ”
ประจักษ์อุ้มไทยกขึ้น ไทยิ้มน่าเอ็นดู
“เข้าท่านะเรา...ฉันชักถูกชะตากับเราแล้วสิ” ประจักษ์หันไปหาทองดี “รู้มั้ย สิ่งเดียวที่อยากได้ แต่ไม่เคยได้เลย ก็คือ...ลูกชายซักคนนี่แหละ อยากขึ้นไปดูห้องนอนมั๊ยไท”
ไทยิ้มตื่นเต้น
“อยากดูครับ”
“เจียมพาขึ้นไปนะคะ ไปค่ะคุณไท”
เจียมจูงไทออกไป ทองดีมองตามลูก
“ขาดอะไรก็บอกนะ ทองประกาย”
ทองดีนิ่งคิด
“ถ้าท่านไม่รังเกียจ รับไทเป็นบุตรบุญธรรมได้มั้ยคะ ดิฉันคงหมดห่วง”
ประจักษ์พยักหน้า น้อมหลบแอบฟังอยู่มุมหนึ่ง
“ใจจริงฉันก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่...ฉันเองก็ห่วงความรู้สึกของคุณหญิง หวังว่าเธอคงเข้าใจนะ คุณหญิงอ่อนแอมาก ฉันไม่อยากทำให้เธอเสียกำลังใจไปมากกว่านี้”
“ฉัน ขอโทษค่ะ แค่ท่านเมตตาดิฉันกับไท นี่ก็เป็นพระคุณล้นเหลือแล้ว”
ทองดียกมือไหว้ ประจักษ์ดึงเธอมากอดไว้แนบอก
“ฉันจะดูแลเธอให้ดีที่สุด เท่าที่ผู้ชายคนนึงจะทำได้...อย่าห่วงเลย ฉันสัญญา นอกจากคุณหญิงแล้ว เธอจะไม่ต้องเป็นรองใครเด็ดขาด วันนี้จะทำอะไรให้ฉันทาน ให้ฉันช่วยมั้ย”
ประจักษ์ยิ้มอย่างมีความสุข ทองดีนิ่งคิด ขณะเดียวกันั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ประจักษ์ถอนใจกังวลกดรับสาย
“มีอะไร...คุณหญิงไม่สบายมากหรือ ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ประจักวางสายแล้วหันไปชำเลืองมองทองดี
“ฉันต้องกลับก่อน”
ทองดียิ้มให้
“ไม่เป็นไรค่ะท่าน”
ประจักษ์เหมือนจะเดินผ่านไป แต่ก็หันมาจูบหน้าผากแล้วรีบเดินออกไป ทองดีถอนใจ
“ยังไงคุณหญิงก็ต้องมาเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว”
ทองดีมอตามแล้วหันมองขึ้นข้างบน ก่อนจะตามลูกชายขึ้นไป







Create Date : 11 มีนาคม 2555
Last Update : 11 มีนาคม 2555 22:57:51 น.
Counter : 497 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]