ฉันพบความจริงบางอย่างจากเหตุการ์ณใน "อดีต" ที่ฉันเคยแก้ไม่ได้แก้ไม่ตก ซึ่งตัวฉันในตอนนั้นใช้ความพยายามเต็มที่เพื่อจะหนีและลืมอดีตไป แต่คุณเชื่อไหมค่ะว่ามันมีความแปลกอยู่ข้อหนึ่งที่ฉันได้ค้นพบคือ OMG! พระเจ้าจอร์จ! ให้ตายสิ...# อดีตติด GPS #
"อดีตไม่ว่าจะเป็นความแค้นหรือความเกลียด
ไม่ว่าอดีตที่ว่านั้น มันจะผ่านมานานแค่ไหน
ต่อให้ฉันพยามจะทิ้งหรือแกล้งลืมมันไป
ไม่ว่าจะอย่างไร มันก็สามารถ
ที่จะหาหนทาง กลับมาได้เองเสมอ"
ในเมื่อฉันไม่ยอมปล่อยแล้วใครจะปล่อย ในเมื่อฉันไม่เริ่มเปลี่ยนแล้วใครล่ะจะเปลี่ยน ถ้าหากฉันไม่เริ่มให้อภัยตัวเองก่อนแล้วใครจะทำ เพราะขนาดตัวฉันยังให้อภัยตัวเองไม่ได้ ก็อย่าหวังให้ใครหน้าไหนมาให้อภัยเลย
สิ่งที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้และสามารถปล่อยมือจากอดีตได้ ก็คือคำว่า "อภัย" สำหรับฉันแล้วความหมายของมันคือการไม่ติดค้างกันและการปราศจากความกลัว(ความกลัวที่จะต้องมานั่งมานอนคิดเสียใจภายหลัง)
"หากความรักความเกลียด เริ่มที่ตัวเอง
ดังนั้นเราต้องรักตัวเองเป็น และต้องให้อภัยตัวเองได้
ถ้าหากเรามีเหตุผลในการรักและให้อภัยตัวเองได้
ดังนั้นเราก็น่าจะมีเหตุผลในการรักและให้อภัยคนอื่นได้เช่นกัน"
ฉันคิดว่าทุกคนที่เข้ามาอ่าน Blog ของฉันก็คงรู้ว่า...เราทุกคนล้วนมีอดีตที่ไม่อยากจะเอ่ยถึง ยิ่งถ้าบอกว่าเป็นอดีตที่เลวร้ายและไม่น่าจดจำ มันก็มักจะทิ่มแทงใจ ทำให้ต้องเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเสมอ (คิดว่าใครหลายคนคงเห็นด้วย) ถ้าหากใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ฉันว่าคุณคงรู้แล้วว่า "อย่าขวางทางออก" (Do Not Block Exit) มันคืออะไร
สำหรับตัวฉัน "อย่าขวางทางออก" คือคำว่า "อภัย" และสิ่งที่ฉันทำคือการที่ฉันแค่ลองขยับ (ความเกลียดความแค้น) ออกมาจากประตู (ใจ) ไม่กีดขวางทางออก ดังนั้นตัวฉันในวันนี้จึงได้เห็นถนนแห่งชีวิต ที่ฉันก็รู้ว่ามันรออยู่ตรงนั้นเอง ...
"ขอเพียงแค่ มีความจริงใจต่อตัวเอง
ก็จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงได้
นั่นคือเหตุผลที่นำมาซึ่งความหวัง
แห่งการค้นพบทางออกไปสู่
ถนนที่งดงามในวิถีทางของตัวเอง"
ส่งท้าย...หวังว่าทุกท่านที่เข้ามาอ่านคงเจอคำตอบและความหมายของคำว่า "อย่าขวางทางออก" (Do Not Block Exit) นะคะ
By...Sakormaree