Group Blog
 
All blogs
 
โปรดเรียกหนูว่า...มาเฟียรี่10

Practice

ฝึกปรือ

ช่วงเย็นศุภสุตาพาเกตน์นิภาออกมาวิ่งที่สวนสาธารณะ หลายๆคน มีความเข้าใจว่าการออกกำลังกายช่วงเช้าเป็นสิ่งที่ดีความจริงนั้น ช่วงเช้าร่างกายของเรายังตื่นไม่เต็มที่ดังนั้นการออกกำลังกายในช่วงเย็นจึงดีกว่าและยังทำให้หลับสบายอีกด้วย

“อะไรนะคะวิ่งไปกลับสี่รอบ เกตได้ขาดใจตายแน่ๆ” บัตเลอร์สาวถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น

“ร่างกายจะได้ฟิตๆไงคะไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะวิ่งไปเป็นเพื่อนนะ” แป้งให้กำลังใจ

สองสาวสวยวิ่งคู่กันผ่านไปหนึ่งรอบเกตเริ่มถูกทิ้งห่างโดยนายสาวจนแป้งต้องชะลอฝีเท้า เมื่อเหลียวหลังกลับมาดูเกตน์นิภานั่งหอบอยู่ที่ริมทางเดินเหงื่อโทรมกาย แป้งหยิบผ้าซับเหงื่อมาซับให้แม่บ้านสาวเบาๆ

“วันสองวันแรกมันจะเหนื่อยมากร่างกายยังไม่ชิน ต่อไปหล่อนวิ่งได้ชิวชิวเลยล่ะ”

ปล่อยให้ระบบหายใจเป็นปกติได้สักพักก็ฉุดนักวิ่งหน้าใหม่ให้ขึ้นมาวิ่งต่อ เกตวิ่งไปได้สักพักก็ร้องลั่น

“โอ้ย! โอ้ย! นาย เกตเจ็บ”

สิ้นเสียงร้องแม่บ้านสาวร่างเล็กก็นั่งจ้ำเบ้าลงไปที่พื้นมือน้อยๆกุมไปที่น่อง แป้งตกใจหันมาดูรีบเดินเข้ามา คุกเข่าดูอาการพอรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรก็หัวเราะร่าออกมา

“ฮิฮิไงยัยตัวดี ตะคริวกินเอาแล้วเห็นมั้ย อยู่นิ่งๆนะอย่าเกร็ง”

มาเฟียสาวจัดการยืดขาคนเป็นตะคริวออกมาตรงๆให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเกตร้องลั่น

“โอ้ย! นาย เกตเจ็บ เบาๆสิคะ”

“นิดหน่อยน่าอย่าเกร็งสิคะ”

สาวรุ่นหน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดแป้งนั่งลงหลังคลายกล้ามเนื้อเสร็จ

“เอาล่ะวันแรกทำได้เท่านี้ก็น่าพอใจมากแล้ว เดินไหวมั้ยคะ เรากลับบ้านกัน”

นายสาวพยุงคนร่างเล็กขึ้นมาขาที่ยังไร้เรี่ยวแรงทำให้ทรงตัวไว้ไม่อยู่เซมาอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟียสาว

“อย่าไปทำแบบนี้กับใครนะชั้นโกรธตายเลย” แป้งกระเซ้ายิ้มกว้าง

“ค่ะก็มีนายคนเดียวแหล่ะที่แกล้งเกตได้ขนาดนี้”สาวรุ่นตอบโต้

“ใครแกล้งเปล่านะ ฝึกร่างกายมันก็ต้องจริงจังสิคะ เกตต้องไปอยู้ในดงเสือดงจรเข้นะชั้นตามไปปกป้องหล่อนไม่ได้ตลอดเวลา ต้องรู้จักปกป้องตัวเองรู้มั้ยคะ” ทั้งน้ำเสียงแววตาบ่งบอกว่าเป็นเช่นนั้นจริง

“นาย...นายห่วงเกตหรือห่วงงาน”หญิงสาวอยากรู้ความในใจ

“ก็...ก็ทั้งสองอย่างอ่ะ” คนฟังหน้างอสะบัดหน้าไปอีกทางนายสาวยิ้มออกมาทั้งเอ็นดูในความน่ารักน่าตี

“โอ๋ๆต้องห่วงคนสิคะ ถ้าคนไม่เป็นอะไรงานก็ตามมาเอง”

นายสาวพูดและลูบไปที่หัวของสาวร่างเล็กเกตรับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่นจากหญิงสาวตรงหน้า การกระทำสำคัญกว่าคำพูด แม้นายสาวจะไม่เคยเอ่ยวจีใดๆว่าชอบหรือรักเธอแต่เกตน์นิภาก็สุขใจแล้ว ที่นายสาวแสดงความเป็นห่วงเธอออกมาเช่นนี้

แป้งพยุงร่างบัตเลอร์คู่ใจมาถึงหน้าบ้าน ทั้งคู่นั่งพักตรงม้านั่งในสวน

“ดีขึ้นรึยังเอ่ย”ศุภสุตาถาม เกตพยักหน้า

“จันจัน เอายานวดคลายกล้ามเนื้อมาให้หน่อยสิ”

นายใหญ่ตะโกนเรียกสาวใช้ไม่นานจันก็เอายามาให้ แป้งรับยาหลอดนั้นมา บีบใส่มือและจับขาเกตมานวด

“นายนายทำอะไรคะ ไม่เอา เดี๋ยวเกตทำเอง”

สาวรุ่นปฏิเสธพัลวันมันไม่เหมาะเลยที่เจ้านายจะมาทำอะไรแบบนี้กับสาวใช้

“ไมอ่ะอย่าดิ้นสิ ยาเลอะหมดแล้ว”

“มันไม่ดีอ่ะค่ะนายเป็นเจ้านายเกตนะ มาทำอะไรแบบนี้มันไม่เหมาะ” เกตพยายามเตือนสติให้นายสาวรู้ตัวแต่แคร์ที่ไหนกัน

“ชั้นทำในฐานะอื่น”

เกตอายหน้าแดงเพราะรู้ดีแก่ใจว่ามันหมายความว่ายังไง ไม่รู้เป็นอะไรได้ยินคำพวกนี้แล้วสาวรุ่นใจเต้นตูมตามทุกครั้งไป

“นายอ่ะเค้าเขินนะ”

“เหรอแล้วแบบนี้อ่ะ” แป้งจุ๊บไปที่แก้มใสๆของคนขี้อายหนึ่งที

“อุ๊ยนายอ่ะอายคนอื่นเค้านะคะ” สาวรุ่นพูดได้เท่านั้นก็โดนระดมจูบอีกชุดใหญ่ เกตน์นิภายกมือปัดป้องพัลวัน

“พอแล้วค่ะแก้มเกตช้ำหมดแล้วนะคะ”

มาเฟียสาวแกล้งจนพอใจและจูงมือสาวน้อยเข้าไปในบ้าน วันนี้คนในบ้านทานอาหารเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตาและคนร่วมโต๊ะก็เพิ่มขึ้นจากเดิมสี่คนตอนนี้เพิ่มเป็นหก

ก็แม่ลูกสาวคุณหนูทั้งสองต่างก็มีคนสนิทคนรู้ใจอยู่ข้างกายไม่ห่างตัวชายชนม์ผู้เป็นพ่อก็เข้าใจและไม่ว่าอะไร เรื่องส่วนตัวของลูกๆเขาไม่ยุ่งอยู่แล้ว

ชายชนม์บอกกับแป้งและปอนด์ว่าช่วงนี้เขายุ่งมากคงไม่ค่อยอยู่ติดบ้าน ลูกสาวทั้งสองก็ไม่พูดอะไรเข้าใจดีส่วนเรื่องที่ปอนด์ไปมีเรื่องเอาไว้ กับเรื่องวุ่นๆของแป้งนายใหญ่ที่สุดของบ้านก็รับรู้มาก่อนหน้าจากมณี และเขาก็ไม่ได้ตำหนิอะไรเพราะถึงเวลาที่ลูกๆควรจะจัดการปัญหาได้ด้วยตัวเอง เพราะวันหนึ่งข้างน้าหากไม่มีบารมีเขาคุ้มหัวอยู่ลูกๆทั้งสองก็ต้องเรียนรู้ที่จะสร้างมันขึ้นมาเองและอยู่ในโลกสีเทานี้ให้ได้ชายชนม์ลุกจากโต๊ะเดินไปที่ตึกสีเทา ทิ้งให้ลูกๆอยู่กันตามประสาส่วนมณีก็ขอตัวไปพักผ่อน

“ป้าขอตัวนะคะรู้สึกแน่นๆ”

“เกตว่าจะถามป้าอยู่เหมือนกันค่ะเกตเห็นป้าดื่ม น้ำเต้าหู้ทุกวันเลย” หมอยาประจำบ้านตั้งข้อสังเกต

“มันไม่ดีเหรอคะ”

“น้ำเต้าหู้ดีค่ะเพียงแต่ว่าไม่ควรทานบ่อยเกินไปเพราะว่ามันจะไปลดประสิทธิภาพการย่อยของกระเพาะอาหารลงเกินกว่าครึ่งหนึ่งทีเดียว ที่ป้ารู้สึกท้องอืดเป็นเพราะอาหารมันไม่ย่อยค่ะ”

ผู้สูงวัยทำหน้าไม่เชื่อ

“ป้าไม่ต้องเชื่อเกตนะคะแต่ลองลดน้ำเต้าหู้ลง สังเกตดูว่าระบบการย่อยดีขึ้นไหมค่ะ” บัตเลอร์สาวเพียงให้คำแนะนำของแบบนี้ต้องลองปฏิบัติเองเห็นเองเจ้าตัวจึงจะเชื่อ

“ค่ะงั้นป้าไปก่อนนะคะคุณๆ” มณีเดินออกไป คราวนี้ก็เหลือกันแต่สี่สาวสวย

“เดี๋ยวเราไปอาบน้ำถูหลังกันนะคะวันนี้จะถูหลังให้คนเป็นตะคริว” แป้งพูดกับแม่บ้านสาวหวังเช็คอาการน้องตัวดีไปในที

“แหมๆมีอาบน้ำถูหลังให้กันด้วย เชอะ ไปกางเขนเราก็ไปอาบน้ำกันบ้างดีกว่า”

อ้าวไหงมาตกเอาที่สาวรุ่นได้กางเขนหน้าแดง ก็หล่อนเคยอาบน้ำพร้อมกับนายน้อยซะที่ไหนกัน

“คุณปอนด์อ่าพูดอะไร กางเขนอายเค้านะ ไม่จริงนะคะ กางเขนไม่เคยอาบน้ำพร้อมคุณปอนด์เลย”

“ก็วันนี้ไงไป เราจะน้อยหน้าเขางั้นเหรอ” นายน้อยคะยั้นคะยอล๊อบบี้สุดฤทธิ์

“คุณปอนด์อ่ะ”

ทั้งโต๊ะหัวเราะกันลั่นเว้นแต่สาวรุ่นคนเดียว เธอไม่สนุกด้วยเลยสักกะติ๊ด

“ไปกันเถอะค่ะ ทิ้งให้เขาเคลียร์กันเอง เสร็จแล้วคืนนี้จะสอนให้เล่นโป๊กเกอร์”

แป้งจูงมือเกตขึ้นข้างบนเป็นอันว่าชัดเจนแล้วว่า น้องสาวตัว ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับแม่บ้านข้างกายเจ้าเสน่ห์ผู้นี้อีกต่อไปแป้งยิ้มอย่างมีความสุขที่สุด เดินผ่านหน้ารูปแม่เจี๊ยบและกล่าวว่าฝันดีค่ะแม่เช่นเคย

ศุภสุตาเดินโทงๆออกมาจากห้องน้ำแม่บ้านสาวก็เดินตามออกมาในสภาพเดียวกันมันกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วกับคนทั้งสองศุภสุตาเดินมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง เกตน์นิภาหยิบผ้าเช็ดผมมาเช็ดให้นายสาวเอาเสื้อคลุมมาคลุมให้และจัดการกับตัวหล่อนเอง แป้งเดินมานั่งที่โซฟายาวหยิบไพ่หนึ่งสำรับมาวางบนโต๊ะ เกตนั่งลงตาม

“คงจำได้คร่าวๆใช่มั้ยว่ามันเป็นยังไง”

“ค่ะแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีนับแต้มอ่ะค่ะ”

“เขาก็นับแต้ม เริ่มจากต่ำสุดคือ 2 ไล่มาจนถึง 10, J, Q K , A ค่ะ แล้วสัญลักษณ์โพธิ์ดำแบบนี้ใหญ่สุดรองลงมาก็เป็นโพธิ์แดง ข้าวหลามตั่ดแล้วก็ดอกจิก”

นายสาวหยิบไพ่สัญลักษณ์ต่างๆให้แม่บ้านสาวดู

“ถัดมาก็จะเป็นไพ่แต้มสูง ได้แก่รอยัลสเตรทฟลัช (Royal Straight Flush) คือไพ่ที่ประกอบด้วยA , K , Q , J , 10 ที่มีดอกเดียวกัน ดอกได้ก็ได้(ถ้าหากมีเหมือนกันให้ถือว่าโพดำใหญ่สุดแบบนี้ค่ะ”

แป้งเรียงไพ่ให้ดู สาวน้อยพยักหน้าค่อยๆเรียนรู้

“โอกาสที่จะเกิดไพ่แบบนี้มีเพียง0.0015% เท่านั้น”

“โห อย่างนี้ก็ชนะใสๆเลยสิคะ” เกตทำตาลุกวาวนายสาวฉวยหอมไปทีแก้มทีนึง

“อุ้ย นายอ่ะ เล่นทีเผลออีกแล้ว” สาวรุ่นทำท่าทางจะเอาเรื่องแต่คนตรงหน้ากลับไม่สนใจทำท่าทีจริงจังอธิบายต่อ

“อือ แต่มันคงเป็นเรื่องฟลุ๊คเอามากๆเลย แล้วดูไพ่แบบนี้นะคะ”

ศุภสุตาเรียงไพ่ 5 ใบ ที่เรียงลำดับกันและมีดอกเดียวกัน

“แบบนี้เขาเรียกสเตรทฟลัช หรือเรียงสีค่ะ มันก็เหมือนกันกับรอยัลเพียงแต่แต้มไม่สูงเท่า ส่วนความน่าจะเป็นก็คือ 0.0015% เท่านั้น”

หลังจากนั้นแป้งก็สอนรายละเอียดเกี่ยวกับการนับแต้มทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โฟร์การ์ดหรือQuad คือไพ่ที่มีแต้มเท่ากัน 4 ใบ ฟูลเฮ้าส์หรือ ตองคู่ ประกอบด้วยตองและคู่ ฟลัชหรือสี คือไพ่ที่มีดอกเดียวกัน 5 ใบและสเตรทหรือเรียง คือเป็นไพ่ดอกใดก็ได้ที่มีแต้มเรียงลำดับต่อกัน 5 ใบ

“พอเข้าใจไหมคะสาวน้อย”

นายสาวมองไปที่ใบหน้าคนงงๆ ทำไมเธอต้องมาเรียนอะไรแบบนี้ด้วย?เกตพยายามทำความเข้าใจแต่ก็ไม่วายสงสัยอยู่ดี

“ก็พอเข้าใจค่ะ แต่ถ้าได้เห็นวิธีเล่นหรือว่าลองเล่นจริงๆคงเข้าใจได้เร็วขึ้น”

ศุภสุตายิ้มออกมา หล่อนหยิบไอแพดขึ้นมา เปิดยูทูบให้แม่บ้านสาวดูเกมการแข่งขันจริงหลังจากนั้นก็เปิดโปรแกรมแบบออน-ไลน์ให้เกตลองเล่น

ผ่านไปราวชั่วโมงเศษ เกตน์นิภายังง่วนอยู่กับการเล่นโป๊กเกอร์บนโลกออน-ไลน์ส่วนนายสาวก็ผลอยหลับไปบนตักหล่อน

เมื่อรู้สึกตัวเหลือบดูเวลาก็ตกใจ และคิดได้ว่าการพนันมันเป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าใครจิตอ่อนก็จะลุ่มหลงหมกมุ่นและตกเป็นทาสมันได้โดยง่ายเกตวางไอแพดและปลุกนายสาวให้ไปนอนบนเตียง สาวรุ่นล้มตัวลงนอนข้างกายมาเฟียสาวแม้รู้ว่าสิ่งที่นายสอนมันจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีหากถ้ามันเป็นการช่วยให้นายได้แก้ปัญหาหล่อนก็ยินดีและเต็มใจที่จะทำมัน

รุ่งขึ้นแป้งเรียกให้ปอนด์กับกางเขนอยู่ที่บ้าน เพราะว่าวันนี้จะมีการเรียนหลักสูตรการป้องกันตัวสำหรับผู้หญิงเบื้องต้น นายสาวติดต่ออาจารย์พิเศษมาสอนตัวต่อตัวถึงที่บ้านหล่อนบอกจันให้เปิดห้องออกกำลังกาย จัดวางเบาะและอุปกรณ์การฝึกไว้เรียบร้อย

ไม่นานอาจารย์พิเศษก็มาถึงแป้งแสดงความเคารพเพราะเคยเป็นศิษย์อาจารย์กันคุ้นเคยมาก่อน ครูฝึกชื่ออีริคเป็นชาวฝรั่งเศสที่อดีตเคยเป็นถึงหน่วยสืบราชการลับของฝรั่งเศส หน่วย MOSSAD อันลือลั่น

กล่าวกันว่าหน่วยนี้เก่งที่สุดในโลกมากกว่า CIA ของอเมริกา หรือว่า KGBของรัสเซียเสียอีกและชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบมือเปล่าหรืออาวุธหนักเบา

อีริคได้เมียสาวชาวไทย จึงตัดสินใจทิ้งชีวิตที่ลึกลับผาดโผนและมาใช้ชีวิตเรียบง่ายในเมืองไทยจากนั้นเขาได้เปิดสอนหลักสูตรการต่อสู้ขึ้น ซึ่งค่าเรียนนั้นแพงมากๆอีริคคิดค่าตัวชั่วโมงละ สองพันเหรียญ! นอกจากนี้ไม่ใช่ว่ามีสตางค์แล้วจะได้เรียนนั่นเพราะอาจารย์คนนี้เลือกผู้ที่จะสอนด้วยนั่นเอง อีริคพอพูดไทยได้ เพราะมาอยู่เมืองไทยได้เกือบสิบปีแล้ว

“เอาล่ะครับเราจะมาเริ่มเรียนถึงวิธีการป้องกันตัวกัน มีกฎง่ายๆอยู่ข้อเดียวนะครับและจงจำให้แม่น คือ การป้องกันตัวนั้นยาก แต่การจู่โจมนั้นง่าย”

สองสาวคือเกตและกางเขนทำหน้างงๆไม่เข้าใจสิ่งที่ฝรั่งตัวโตพูด

“ครูหมายความว่าเราจะต้องฝึกการป้องกันและหลบหลีกให้ชำนาญ อย่าเพิ่งคิดตอบโต้หรือบวกกลับเพราะมันอันตรายมาก โดยเฉพาะกับผู้หญิงตัวเล็กๆ เราไม่อาจสู้แรงปะทะได้”

ครูฝรั่งไซส์ยักษ์อธิบายเกตพยักหน้ารับ ส่วนกางเขนยังไม่ค่อยเข้าใจ

“เอาล่ะเวลาเราน้อย มาเริ่มเลยนะครับ ท่าแรกเป็นท่ายืนป้องกัน จะเริ่มจากการฝึกยืนตรงกางขาเล็กน้อยรักษาสมดุลของร่างกายไว้นั่น อย่างนั้น ดีมาก”

แป้งกับปอนด์อาสามาเป็นคู่ฝึกทำให้การเรียนรวดเร็วยิ่งขึ้น

“ดีมากทุกคนเข้าใจแล้วนะครับ จากนั้นก็ยืนเฉียงซ้าย เฉียงขวาแบบนี้”

อีริคยืนกางขาเล็กน้อยสืบเท้าขวามาอยู่ด้านหน้าและเอียงตัวเป็นแบบสี่สาวทำตาม

“คราวนี้ลองตั้งการ์ดดูนะครับเพื่อเป็นการป้องกันจะตั้งแบบกำมือทั้งสองข้างก็ได้กำข้างหนึ่งแบข้างหนึ่งก็ได้หรือว่าจะตั้งแบบแบมือทั้งสองข้างและยกแขนมาไขว้กันแบบนี้ดีมากครับ”

แป้งตั้งการ์ดเป็นเหมือนนักมวยปิดเป้าใหญ่ตรงหน้า มือหนึ่งแบออกอีกมือหนึ่งกำหมัดน้อยๆไว้อีริคเห็นว่าทั้งหมดทำตามได้แล้วจึงเริ่มขั้นตอนต่อไป

“โอเคต่อไปเป็นการเคลื่อนไหวนะครับ มีสเตปสืบเท้า แบบนี้ครับ”

ครูฝรั่งตัวโตแต่กลับเคลื่อนไหวคล่องแคล่วสอนการสืบเท้าโยกย้ายส่ายตัวไปด้วยทั้งทางซ้าย ขวาและหน้าหลังสี่สาวทำตามรู้สึกสนุกสนาน

“ต่อมาก็สปริงข้อเท้าถ้าคนไทยก็เรียกฟุตเวิร์คครับ ดีมากสาวๆ ต่อมาครับ เราจะเบี่ยงตัวซ้าย ขวา ดีครับไหนลองก้มตัวหลบซิครับ เก่งมากครับ”

อีริคสอนสเตปการเคลื่อนที่ทุกกระบวนท่าเน้นไปที่ความรวดเร็วในการเคลื่อนไหวร่างกายเล็กๆบางๆของทั้งเกตและกางเขนจึงไม่ใช่อุปสรรคต่อการฝึก

“โอเคทบทวนนะครับ ดีครับ” ครูฝรั่งสั่งทบทวนจนสาวๆเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว

“เอาล่ะครับถัดมาเป็นการเคลื่อนไหวทั้งสี่ทิศนะครับมันจะมีประโยชน์มากๆเวลาเราเจอคู่ต่อสู้ที่มีมากกว่าหนึ่งคน แบบนี้ครับ”

แป้งและปอนด์ทำท่าเป็นคู่ต่อสู้ยืนขนาบทั้งซ้ายและขวา ต่างก็สาวหมัด และเตะเข้ามาเกตก้มหลบหมัดของแป้งอย่างคล่องแคล่วและหมุนตัวหลบเท้าของปอนด์ส่วนกางเขนยังเงอะงะอยู่เล็กน้อย ชีวิตหล่อนเคยมาทำอะไรแบบนี้ที่ไหนกัน

“ดีมากครับเราพักกันสักห้านาทีนะครับ”

สี่สาวดื่มน้ำดื่มท่าหัวร่อต่อกระซิกและยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายอิริยาบถ เมื่อครบเวลาพักก็เริ่มฝึกเรียนต่อ

”ต่อมาเราจะสาธิตถึงการถูกจับแขนด้วยมือข้างเดียว สองข้างและถูกล็อคคอนะครับ จากนั้นเราจะเบรกกลางวันกันแล้วช่วงบ่ายจะเริ่มฝึกการตอบโต้รวมไปถึงการป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธนะครับ”

ครูพิเศษฝึกสองสาวจนชำนาญจนมั่นใจได้ว่าหากถูกคนปองร้ายก็จะสามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้โดยการฝึกทั้งหมดจะเน้นไปที่การหลบหลีกเป็นหลักเมื่อคู่ต่อสู้เปิดช่องก็ฉวยโอกาสโจมตีอย่างรวดเร็วและเอาตัวรอดออกมา

หลังจากผ่านการฝึกอย่างเข้มงวดด้วยหลักสูตรเร่งรัดพิเศษเบื้องต้นครบถ้วน อีริคก็ขอลากลับไปสองสาวสวยนอนแผ่หราหมดแรง แป้งกับปอนด์ยิ้มหวานให้กัน เป็นอันว่าเกตพร้อมเข้าสู่สนามรบแล้ว...

หลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์เต็มเกตกับกางเขนก็จะต้องมาฝึกที่ห้องนี้ทุกวันโดยมีคู่ฝึกเป็นคุณหนูทั้งสองนั่นเอง จนทั้งสองเริ่มชำนาญขึ้นเรื่อยๆและแป้งเห็นแล้วว่า พอไปวัดไปวาได้ จึงเริ่มสอนด้วยมีดคารัมบิต

สองสาวเรียนรู้อีกสามวันแป้งก็จัดบททดสอบขึ้นโดยให้ลูกสมุนของพ่อมาเป็นคู่ประลองเชิง

คู่ต่อสู้ของเกตเป็นชายร่างสูงเกือบร้อบแปดสิบเมื่อยืนเทียบกันแม่บ้านสาวนั้นสูงแค่ไหล่

“ไม่ต้องกลัวนะคะคิดว่าเขาตัวเล็กกว่าเราสิ สู้ๆนะคะสาวน้อย” ศุภสุตาให้กำลังใจบัตเลอร์สาวที่ยืนตัวสั่น

หนุ่มร่างสูงถือมีดสาวเท้าก้าวเข้ามา เกตตั้งการ์ดตามอย่างที่เรียนมา ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ปรี่เข้าจ้วงมีดจะแทงเกตเบี่ยงตัวหลบฉากอย่างไวไปทางด้านซ้าย คู่ต่อสู้เหวี่ยงมีดกลับหมายซ้ำทำให้เปิดช่องโหว่เข้าที่ด้านข้างเกตใช้ท่อนแขนน้อยๆฟาดเข้าไปที่ต้นคอเต็มแรง ซ้ำด้วยการเตะผ่าหมาก

หนุ่มร่างยักษ์ทรุดตัวลงแม่บ้านสาวไม่รอช้าถีบเข้าที่ยอดอก ทำให้ชายหนุ่มล้มตึงสาวรุ่นรีบชาร์จเข้ามาใช้เท้าเหยียบที่ข้อมือแย่งมีดมาทำท่าแทง จบเกม...

“สุดยอดค่ะเยี่ยมมาก” นายสาวตะโกนให้กำลังใจเป็นอันว่าผ่าน...

เสียงปรบมือจากกองเชียร์ดังเกรียว

เกตน์นิภาโผเข้ากอดนายสาวด้วยความตื่นเต้นยินดี

“เกตทำได้ทำได้จริงๆ นายดูสิ ไอ้ยักษ์นี่ล้มไปแล้ว” เธอพร่ำออกมาอย่างกับเด็กน้อยเริงร่ายิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง

“ค่ะเกตเก่งมาก แต่สถานการณ์จริงมันคับขันอันตรายมากๆนะ เกตต้องมีสติและอย่าประมาทจำไว้นะคะ”

มาเฟียสาวกำชับและกระชับวงกอดแน่นส่วนกางเขนนั้นไม่ต้องทดสอบ เพราะแป้งตั้งใจให้เรียนรู้ไว้เผื่อยามฉุกเฉินเท่านั้น

“เอาล่ะจากนี้อีกสามวันเราจะไปเจอเฮียอ้วนกันวันนั้นจะมีงานประมูลของเก่าหายากเกตจะต้องโดดเด่นที่สุดในงาน”

เกตน์นิภาทำหน้างงๆ

อีกแล้วนายที่รักจะให้หล่อนไปทำอะไรพิเรนทร์ๆอีก สาวรุ่นรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงไม่น้อย

รุ่งขึ้นแป้งพาแม่บ้านสาวไปทำสวยเข้าสปาและจับแต่งเนื้อแต่งตัวเสียใหม่ หลังจากออกจากสปาศุภสุตาตะลึงงันกับความงามตรงหน้า

“เกตเกตสวยจริงๆเลยค่ะ”

“นายทำไมต้องให้เกตทำอะไรแบบนี้ด้วยคะ เกตไม่ชอบเลยอ่ะ” เกตน์นิภาบ่นอุบ

“เอาน่าเห็นมั้ยว่าน่ารักน่ากอดขนาดไหน นึกไม่ถึงเลยจะมีเมียสวยขนาดนี้” นายสาวกระเซ้า

“นายอ่ะ”เกตเขินตามเคย

“เอาล่ะเกตคะฟังไว้นะ จากนี้ไป เกตคือมิสซูซี่ เป็นลูกครึ่งลูกสาวมาเฟียจากไต้หวันและเข้างานประมูลของเก่าอีกสองวันถัดจากนี้ เพื่อเข้าถึงตัวเฮียอ่ำเกตต้องทำทุกวิถีทางให้เฮียอ้วนหลงให้ได้ เข้าใจนะ”

“นี่นายจะใช้เกตเป็นนางนกต่อ?”

“ถูก”

“นายไม่กลัวว่าเกตจะพลาดเหรอคะ”

“high risk highreturn หล่อนเคยได้ยินไหม”

เกตน์นิภาจำใจรับแผนร้ายของนายรักแม้จะรู้ว่าเสี่ยงก็คงต้องขอลอง...

วันงานศุภสุตานัดคุยกับชัยทางหนึ่ง เพื่อดึงความสนใจจากลูกน้องเก่าและปล่อยให้เกตไปกับปอนด์ที่งานประมูล ป้ามณีกับจันช่วยเกตแต่งตัว โดยมีนายสาวคอยกำกับอีกทีหนึ่งเกตน์นิภาอยู่ในชุดราตรียาวสีดำ การแปลงโฉมทำให้หล่อนสลัดคราบแม่บ้านกิ๊กก๊อกทิ้งไปณ ตอนนี้หล่อนคือมิสซูซี่ ไฮโซสาวชาวไต้หวัน

“ดูแลตัวเองดีๆนะคะอย่าประมาท มีอะไรให้รีบกลับมาที่รถ ปอนด์จะรออยู่ด้านนอก”

เกตน์นิภาใจหายเล็กๆที่ต้องจากนายสาวหนึ่งเดือนที่ผ่านมาตัวติดกันตลอดแทบไม่คลาดสายตากันเลยนี่เจ้านายยังใจร้ายปล่อยหล่อนไปเผชิญหน้ากับมาเฟียใหญ่ตัวเก๋า แบบต้องฉายเดี่ยวอีก

“นายคะเกตรักนายนะ เกตอยากบอกกับนายเผื่อว่า...” แม่บ้านสาวเข้าสวมกอดนายใหญ่

“บ้าสิคะมาพูดเรื่องเป็นตายเอาตอนจะออกรบแบบนี้มันเสียฤกษ์หมด”

แป้งตัดบทเพราะรู้ว่าสาวน้อยของหล่อนจะพูดอะไรต่อ หล่อนจุมพิตเข้าที่ริมฝีปากอวบอิ่มของคนรู้ใจหวังให้ความอบอุ่นและกำลังใจพอถอนริมฝีปากออกมา แม่บ้านสาวจึงพูดขึ้น

“ไปกันเถอะค่ะนายได้เวลาแล้ว”

สองสาวสวยมาดมาเฟียเดินลงบันไดคู่กันมาปอนด์ตาค้างกับภาพตรงหน้า ดั่งเหมือนพญาหงส์สองตัวบินเคียงคู่กัน กางเขนก็ขนลุกซู่เกตราศีจับจริงๆ ส่วนนายใหญ่ก็ไม่ต้องพูดถึง รัศมีมาเฟียผู้มากบารมีแผ่ซ่านมาแต่ไกล

“ปอนด์ชั้นฝากเกตด้วยนะ ตอนนี้เราต้องทำงานกันเป็นทีม มีอะไรแกต้องปกป้องเกตอย่าให้บอบช้ำแม้รอยเล็บข่วน เข้าใจมั้ย”

“จ้าแม่นางสิงห์ปอนด์ก็ห่วงและหวงเกตไปไม่น้อยไปกว่าแป้งหรอก”

สามสาวสวยเดินมาหาป้ามณีขอพรจากผู้อาวุโสที่เคารพรักเปรียบเหมือนแม่แท้ๆ

“คุณหนูทั้งสองและหนูเกตขอให้โชคดีมีชัยสำเร็จลุล่วงตามแผนนะคะ ป้าจะเป็นกำลังใจให้ตรงนี้”

สามสาวไหว้ลาปอนด์หันมาสวมกอดกางเขนที่เริ่มจะน้ำตาไหล

“นี่ปอนด์ไม่ได้ไปสงครามนะ ร้องไมอ่ะ อย่าทำให้ใจเสียสิ”

กางเขนไม่ได้พูดอะไรคลายอ้อมกอด แป้งมองที่รูปแม่เจี๊ยบ

“แม่คะคุ้มครองแป้งปอนด์และคนของแป้งด้วยนะคะ”สามสาวมุ่งหน้าปฏิบัติภารกิจด้วยใจที่มั่นคง




Create Date : 06 มีนาคม 2558
Last Update : 6 มีนาคม 2558 20:47:20 น. 0 comments
Counter : 683 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.