เพลงศึกอยุธยา (๒๘)
ก๊กเสือผันขวัญเปิงกระเจิงกระจาย
แลรอบกายซ้ายขวาหน้าตาตื่น
คาดคิดไปไม่ถึงตะลึงยืน
ในอกครืนครืนครั่นหวาดหวั่นกลัว
เพียงครู่นายพันแคล้วผู้แกล้วกล้า
ก็หยุดม้ายืนเด่นมองเห็นทั่ว
ร้องว่าอย่าตระหนกจนอกรัว
กูไม่ชั่วไม่ช้าคิดฆ่าฟัน
บอกให้รู้กูใคร่คิดไกล่เกลี่ย
อย่าให้เสียเลือดเนื้อเลยเสือผัน
เถิดจงวางอาวุธยุทธภัณฑ์
เรื่องโทษทัณฑ์สุดแท้แล้วแต่กรรม
เหล่าโจราพะว้าพะวังยืน
หากขัดขืนปืนเขาคงกระหน่ำ
จึงยอมในเงื่อนไขไร้เงื่อนงำ
ต่างยอมจำนนโดยดุษณี
พันแคล้วจับโจรได้ละไมละม่อม
เชือกมัดคร่อมพาจรย้อนวิถี
ถึงธารทรายเคหายามราตรี
จัดหน้าที่ไพร่พลแล้วพักกอง
ฝ่ายอ้ายช้างนึกขัดใจบัดซบ
ทำกระทบกระเทือนต่อเพื่อนผอง
ด้วยตัวเป็นผู้นำการจำจอง
ให้พวกพ้องต้องพันธนาการ
รุ่งอีกวันพันแคล้วแจ้วแจ้วเสียง
เรียกพลเพรียงพร้อมหน้าหมู่ทหาร
แจงจัดสรรบัญชาเป็นประมาณ
ยกจากบ้านธารทรายสู่สุพรรณ
เชือกรัดร่างเชลยพาลัดเลาะ
แต่เฉพาะโจรไพรกลุ่มเสือผัน
ครอบครัวที่ขามคร้ามอยู่ครามครัน
ไม่ถือทัณฑ์โทษฐานประการใด
การที่จัดเสบียงส่งเลี้ยงโจร
จริงควรโดนเค้นคาดเป็นทาสไพร่
แต่พันแคล้วครุ่นคิดไม่ติดใจ
ตามวิสัยแห่งผู้กรุณา
เขาชาวบ้านด่านดงเขตพงไพร
ก็ควรให้อยู่คามตามประสา
ไม่ควรที่จะจับบังคับมา
ไม่ใช่หน้าที่กูผู้ปราบปราม
หน้าที่เกณฑ์เลกไพร่สารพัด
พระสุรัสวดีนั้นมีหลาม
เตรียมพลรณรงค์สู่สงคราม
ไม่ควรข้ามขอบข่ายก้าวก่ายกัน
ควายเฒ่า