Group Blog
 
All blogs
 
ยามเมื่อสายลมหนาวพัดมา 12

โชติกายืนรอเจ้านายของตนอยู่ข้างรถพร้อมคนขับ ที่จัดการเช่าไว้กับทางรีสอร์ทเพราะสถานที่ถ่ายทำอยู่ห่างออกไปจากรีสอร์ท20 กิโลเมตรสินีนาฏเดินไปที่รถฝั่งคนขับที่มีคนขับยืนรออยู่

“ฉันจะขับไปเอง” คนขับรถหันมองโชติกาเพราะหล่อนเป็นคนติดต่อ

“คุณวาร์มจะขับไปเองเหรอคะ”

“หรือเธอจะขับหละ” สินีนาฏย้อนถาม โชติกาเมินหน้าหนีเก็บซ่อนอารมณ์ขุ่นเคืองหล่อนเพียงพยักหน้าน้อยๆกับคนขับรถ จากนั้นสองสาวก็เข้าไปนั่งในรถ และรถก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอีกแล้วที่เราต้องอยู่ด้วยกันตามลำพังเธอไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยให้ตายซิ

“ศึกษาแผนที่ก่อนไหมค่ะ” โชติกาทำหน้าที่

“ไม่ต้องเพียงเท่านั้นการสนทนาก็หยุดลงแต่ก็ทำให้โชติกาเบาใจได้ว่าบอสของตนรู้ทาง แต่ทำไมระยะและเวลาในการเดินทางดูยาวนานผิดปกติเพราะจากที่เธอสอบถามทีมงานมันใช้เวลาในการเดินทางไม่เกินครึ่งชั่วโมงเองแต่นี่ขับรถก็ออกจะเร็วจนน่ากลัวแต่จะเป็นชั่วโมงแล้วทำไมยังไม่ถึง

“คือ…เรามาถูกทางแน่ๆใช่ไหมคะ” โชติกาถามเสียงอ่อยเพราะไม่รู้ว่าบอส

อยู่ในอารมณ์ไหน

“อื่อ”

“แต่เราขับออกมาตั้งนานแล้วทำไมถึงยังไม่ถึงสักทีคะ”

“ใกล้จะถึงละ”

“อ่อ” โชติกาทิ้งตัวพิงพนักด้วยความเบาใจและสุนทรีไปกับวิวทิวทัศน์ข้างทางความเย็นของเครื่องปรับอากาศในรถบวกกับความสุนทรีในหัวใจที่ได้เห็นสิ่งสวยงามมาตลอดข้างทางทำให้คนที่แทบจะไม่ได้นอนทั้งคืนหลับใหลลงไปโดยไม่รู้ตัว

โลเกชั่นในการถ่ายทำเป็นเนินสูงที่รายล้อมไปด้วยดอกหญ้าสีขาวโพลนเต็มท้องทุ่งเมธินีอยู่ในชุดผ้าชีฟรองสีขาวอมชมพูฟูฟ่อง กับหมวกปีกบานสีดำสนิทใบใหญ่ร่างบางเดินไปเรื่อยสีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความรู้สึกที่เป็นอิสระเพื่อให้ตากล้องชักภาพในมุมต่างๆแม้ในใจจะพะวงคิดถึงบอสใหญ่ของศิราณุวัฒน์แต่ก็ยังสามารถทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างสมบูรณ์

“โอเครับ เดี๋ยวเราจะย้ายไปถ่ายกันต่อตรงริมผา ด่วนๆนะครับทุกคนเดี๋ยวแสงหมด” เมื่อได้ยินคำสั่งทุกคนก็จัดการโยกย้ายข้าวของในความรับผิดชอบของตนไปยังอีกที่ส่วนนางแบบก็ได้รับการดูอย่างดีจากทีมงานมืออาชีพ

“ไหนว่าผู้บริหารของศิราณุวัฒน์จะมาดูการถ่ายทำด้วยไงคะ” เมธินีถามออกไปเมื่อเดินไปใกล้กับอดิพัทรตัวแทนของศิราณุวัฒน์

“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ” แค่เท่านั้นชายหนุ่มก็ยิ้มสำทับและเดินออกไปพูดมากไปก็ไม่ใช่เรื่องดีและเรื่องที่คุณนางแบบถามก็ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีความสำคัญอะไรกับงานนี้คุณวาร์มจะมาหรือไม่มางานก็ต้องดำเนินต่อไปตามแผนที่วางไว้อยู่แล้วหรือจะพูดกันตรงๆก็ได้ว่าคุณวาร์มไม่ได้อยู่ในแผนของงานนี้

“โรส”…

“โรส” ร่างบางปรือตาขึ้นมองใจหายเมื่อมีสติรูตัวว่าตนเผลอหลับไป

“ขอโทษค่ะ โรสเผลอหลับ”

“ลงไปกันได้ละ” โชติกาสดชื่นขึ้นมาในบัดดลเมื่อเห็นทิวทัศน์ตรงหน้า

“ว้าว…สวยมากๆเลย” ร่างบางพูดออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นเพราะหาคำที่สื่อถึงความรู้สึกได้มากกว่าเบื้องหน้าเป็นทิวเขารายล้อมไปรอบตัว ในบริเวณเป็นที่สวนสวยจากแมกไม้หลากหลายพันธุ์

“กุหลาบ” ซุ้มเบื้องหน้าถูกโอบล้อมไปด้วยกุหลาบหลากสีผสมผสานเป็นความงดงามดั่งอยู่ในความฝัน

“ทำไมกุหลาบมีดอกเยอะแบบนี้คะ และก็มีกลิ่นหอมมากเลยค่ะ”

“กุหลาบมอญ เป็นไม้พุ่มออกดอกเป็นช่อมีสีหลากหลาย ที่นี่ยังมีอีกหลายกุหลาบเลยแหละไว้จะพาเดินดู” พูดจบร่างสูงก็เดินเข้าบ้านไปโชติกามองตามแม้ใจจะยังตื่นเต้นกับของสวยงามแต่ก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติร่างบางติหันมองไปโดยรอบเพื่อมองหาทีมงานแต่ก็ไม่เห็นมีรถของทีมงานไม่มี และก็ต้องใจหายเมื่อยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาก็เห็นว่าเป็นเวลาสี่โมงเย็น นี่เธอนั่งรถมาสามชั่วโมงเลยเหรอ โชติกาเดินหน้าตาตื่นตามบอสเข้าไปภายในบ้าน เธอต้องการคำอธิบายว่าทำไมมันผิดแผนไปมากขนาดนี้

“ว้าว…” อีกครั้งที่ร่างบางต้องตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่ที่สวยหรูและลงตัวบ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแต่ก็โออ่าและกว้างขวาง ตัวบ้านทำด้วยไม้โอ๊คทั้งหลังข้าวของและเฟอร์นิเจอร์เกือบทุกชิ้นจะเป็นไม้ที่คงสีเนื้อไม้เอาไว้ให้ดูเป็นธรรมชาติเมื่อเดินออกไปจนทะลุอีกฝั่งจึงจะเห็นว่าตัวบ้านตั้งอยู่บนเนินสูงแม้จะกำลังตื่นเต้นแต่เรื่องงานต้องสำคัญมากกว่า

“มีอะไรให้ป้านวลรับใช้หรือเปล่าคะ” โชติกาหันมองไปยังต้นเสียงเห็นหญิงวัยกลางคนยืนยิ้มอยู่ด้วยความเป็นมิตร

“คือ หนูกำลังตามหาเจ้านายค่ะป้าเห็นไหมคะเป็นผู้หญิงสูงๆสวยๆ” โชติกาขอความช่วยเหลือ

“อ๋อคุณวาร์ม เธอเข้าห้องไปแล้วค่ะ”

“ห้องไหนคะ”

“ห้องคุณวาร์มอยู่ทางปีกซ้ายด้านนี้ค่ะ” โชติกามองตามมือที่ป้าชี้ไปก่อนจะรีบจ้ำอ้าวออกไปเมื่อถึงหน้าห้องก็เคาะประตูเป็นมารยาทแต่ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับออกมาจึงถือวิสะเปิดเข้าไปภายในห้องมีไฟสีส้มเปิดไว้บางจุดทำให้มองเห็นว่าอะไรเป็นอะไรร่างบางเดินผ่านทุกอย่างเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่เดาว่าบอสน่าจะอยู่ในนั้นและก็จริงๆด้วยแต่อะไรทำไมพี่วาร์มถึงนอนยาวเหยียดแบบนี้อีกแล้วนี่เรามาทำงานกันนะ

“คุณวาร์มคะ” ร่างบางเดินไปเรียกใกล้ๆ แล้วอะไรทำไมยังนิ่ง เธอต้องการคำอธิบายนะ

“คุณวาร์มคะ นี่เรามาทำงานกันนะคะทำไมคุณถึงมานอนขี้เกียจแบบนี้” เกินจะทนโชติกายื่นมือไปแตะที่แขนแต่ก็ต้องใจหาย ก็พี่วาร์มตัวร้อนจี๋เลย

“คุณตัวร้อนมากเลย” โชติกานั่งลงข้างๆยื่นมือไปแตะที่หน้าผากและลำคอไม่ว่าจะแตะไปตรงไหนก็ร้อน

“อื่อ” สินีนาฏชักรำคาญที่มีอะไรยุกยิกบนตัวตน

“คุณตัวร้อนมากเลย เดี๋ยวโรสออกไปหายามาให้นะคะ” ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไร ร่างบางรีบเดินตัวปลิวออกไปทันที

“ป้านวลคะ ป้านวล” เสียงจากหญิงสาวลูกครึ่งทำให้ป้านวลรีบเดินออกมาจากในครัว

“มีอะไรจ๊ะหนู”

“คือเจ้านายของโรสเขาไม่สบายหน่ะค่ะโรสอยากได้ยาแก้ไข้กับผ้าชุบน้ำเย็นค่ะ”

“อ๋อคุณวาร์มเธอเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ขึ้นมาบนภูแหละค่ะ เป็นเพราะอากาศเปลี่ยน ร่างกายยังปรับตัวไม่ได้ยังไงหนูโรสก็ทานยาดักไว้ด้วยนะจ๊ะเดี๋ยวป้าไปหยิบให้” แล้วป้านวลก็เดินหายเข้าไปภายในบ้านที่มีห้องสลับซับซ้อนในความรู้สึกของผู้มาใหม่ที่ยังไม่คุ้นชินเพียงอึดใจป้านวลก็เดินออกมาพร้อมถาดที่มีอุปกรณ์ต่างๆสำหรับดูแลคนป่วย

“ฝากหนูโรสดูแลคุณวาร์มด้วยนะจ๊ะ ป้าเข้าครัวไปทำกับข้าวก่อน เสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนอุปกรณ์กันหนาวอยู่ในตู้นะจ๊ะที่นี่ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงสายอากาศจะเย็นจัดมาก” โชติการับถาดไปถือสมองครุ่นคิดติดค้างอยู่หลายเรื่อง

““ดีจังค่ะมีพร้อมทุกอย่างเลย” ร่างบางแนบเนียน เธอต้องการคำตอบบางอย่าง

“คุณวาร์มเธอโทรมาบอกป้าตั้งแต่ตอนเที่ยงละจ้ะว่าจะขึ้นมา” หึ นั่นไง!

“แล้วทีมถ่ายทำโฆษณาเขาอยู่ตรงไหนกันเหรอคะป้า” โชติกาแนบเนียนต่อ

“หือ โฆษณาอะไรกันจ๊ะที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวศิราณุวัฒน์ เป็นสถานที่ส่วนบุคคลไม่มีใครเข้ามาทำอะไรหรอกจ้ะ” ร่างบางเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินสิ่งที่ป้านวลพูด

“ขอบคุณค่ะป้าโรสขอตัวไปดูแลคุณวาร์มก่อนนะคะ” พูดจบร่างบางก็หมุนตัวเดินออกไปในใจขุ่นข้อง พี่วาร์มทำอะไรแบบนี้ทำไมเมื่อเข้าไปในห้องร่างบางจัดการวางถาดไว้บนโต๊ะข้างเตียงหยิบผ้าออกมาซับหน้าให้แต่ก็หนักมือจนคนป่วยโอดโอย

“โอ้ย! ทำเบาๆหน่อยซิ”

“คุณวาร์มพาโรสมาที่นี่ทำไมคะ แล้วทำไมเราไม่ไปหาทีมงานและคุณวาร์มต้องมาดูแลผู้ร่วมทุนลืมไปหรือไงคะ” โชติกาลืมตัวมีน้ำเสียงไม่พอใจออกไป

“แล้วเธอหละมีหน้าที่อะไร” สินีนาฏถามกลับ

“ก็มีหน้าที่เลขาไงคะ”

“ใช่ เธอแค่ทำหน้าที่ของเธอให้ดีก็พอ”

“งั้นถ้าการมาที่นี่ไม่เกี่ยวกับงานโรสก็ขอตัวนะ” โชติกานำผ้าไปวางลงในถาดก่อนจะลุกขึ้น

“จะไปไหน” ข้อมือบางถูกคนป่วยจับไว้

“โรสจะกลับรีสอร์ท”

“กลับไปทำไม”

“จะกลับไปทำไมมันก็เรื่องส่วนตัวของโรสปล่อยโรสเดี๋ยวนี้นะคะ”

“ถ้าคิดจะไปนัดพบกับผู้ชายที่นั่น ก็เสียใจด้วยนะ”

“คุณหมายความว่ายังไง”

“ก็หมายความว่าที่นี่ห่างจากรีสอร์ท 250 กิโลและไม่มีรถประจำทางไง”

“คุณตั้งใจแกล้งโรส” โชติกาจ้องคนป่วยตาเขม็ง

“สำคัญตัวเองมากไปหรือเปล่า ฉันก็แค่อยากจะมาพักผ่อน”

“แล้วคุณพาโรสมาด้วยทำไม” ร่างบางยังไม่ยอมความง่ายๆ

“ก็เธอเป็นเลขาฉัน” สินีนาฏให้เหตุผลหน้ามึนได้หน้าตาเฉยมากโชติการู้ดีว่าเมื่อถามไถ่เอาความต่อไปคำตอบก็จะเหมือนหมุนวนอยู่ในอ่าง ร่างบางทำใจข่มใจก่อนจะหันเดินออกไปแต่…

“ว้ายโชติกาถลามาอยู่บนตัวของคนป่วยจอมเอาแต่ใจ

“ปล่อยโรสนะคะคุณวาร์ม”

“เธอจะไปไหน”

“เรื่องของโรส”

“เรื่องของเธอเป็นเรื่องของฉันเพราะอายูมิฝากฉันให้ดูแลเธอ”

“โรสโตแล้วไม่ต้องให้ใครมาดูแล” ร่างบางดิ้นรนไม่เลิกจนคนป่วยรำคาญจึงพลิกตัวขึ้นไปทาบทับหวังตัดกำลัง

“ว้ายร่างบางหน้าตาตื่นกับการกระทำของคนเอาแต่ใจ

“พี่วาร์ม” ร่างบางเสียงสั่นในตาตื่นดั่งเป็นลูกกวางน้อยพบเจอราชสีห์

“เตือนหลายทีแล้วใช่ไหมว่าอย่าขัดใจฉัน”

“คุณวาร์ม ปล่ะ ปล่อยโรสนะคะ”

“เลิกขัดใจฉันซิ แล้วจะปล่อย”

“โรสไม่ได้ขัดใจแต่คุณวาร์มต่างหากที่เอาแต่ใจ” โชติกาหลบตาเสียงอ่อยเพราะรู้ว่าตนพูดในสิ่งที่คงจะขัดใจอีกฝ่ายอีก

“กล้าดียังไงถึงมาว่าฉัน ลืมไปหรือไงว่าฉันเป็นเจ้านายเธอ” สินีนาฏทำเป็นเสียงเข้มหวังขู่ให้อีกฝ่ายเกรงกลัว

“โรสไม่ลืมหรอกค่ะว่าคุณวาร์มเป็นเจ้านาย เป็นคนมีอำนาจ เป็นคนรวยและโรสก็เป็นแค่เลขา เป็นแค่เด็ก” คนเอาแต่ใจใจหายเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดในน้ำเสียงสั่นเครือแต่เพราะความเอาแต่ใจจึงไม่คิดจะปลอบโยนและปรับแก้ความเข้าใจที่ผิดๆของเด็กน้อยแต่ถ้าต้องแก้ล่ะเธอจะแก้ตรงไหน โรสพูดอะไรผิด แต่ก็ไม่รู้แหละว่าผิดตรงไหนแต่ใจเธอบอกว่าผิดก็ต้องผิด

ก๊อกก๊อก ก๊อก

“คุณวาร์ม หนูโรส อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ” สองสาวหันมองที่ประตู

“เดี๋ยวฉันออกไป” สินีนาฏพูดตอบไปก่อนจะกลับมาสนใจลูกกวางน้อยที่กำลังขุ่นข้องและน้อยใจตนอยู่

“ปล่อยโรสได้แล้วค่ะ อาหารเสร็จแล้ว” โชติกาใช้เหตุผลเพื่อให้ตนเองหลุดพ้น

“แต่ฉันยังปวดหัวอยู่เลย”

“ก็ออกไปทานข้าวไงคะ จะได้ทานยา”

“ก็บอกแล้วไง ว่าแค่กอดเธอก็หายแล้ว”

“แต่ตอนนั้นตัวคุณไม่ร้อนนะคะ”

“จะร้อนหรือไม่ร้อนมันก็เหมือนกันแหละ” คนป่วยพลิกตัวลงไปอยู่ด้านล่างและกระชับกอดอีกฝ่ายหน้าตาเฉยปิดเปลือกตาลงเพื่อยุติการสนทนาอีกฝ่ายก็จนใจใจร้ายไม่พอที่จะไม่ช่วยเหลือจึงทำเพียงซบหน้าลงไปบนตัวคนป่วยปิดเปลือกตาลงด้วยความเหนื่อยใจ




Create Date : 21 มีนาคม 2557
Last Update : 21 มีนาคม 2557 11:27:00 น. 0 comments
Counter : 651 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.