โศกนาฏกรรมอินเดีย "นิรภยา"เตือนภัยสังคม (สกู๊ปพิเศษ)
โศกนาฏกรรมอินเดีย "นิรภยา"เตือนภัยสังคม
สกู๊ปพิเศษ
คดีรุมโทรมนักศึกษาหญิงวัย 23 ปีเมื่อปลายปี 2555 ถึงจุดจบลงเมื่อศาลมีคำพิพากษาในปีนี้ ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 4 คน
แม้ญาติและชาวบ้านจะพอใจผลการตัดสิน แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างคัดค้านเพราะเห็นว่าโทษประหารชีวิตไม่ได้ช่วยยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงในอินเดียได้
โทษประหารชีวิตเป็นเพียงการแก้แค้น เพื่อตอบสนองอารมณ์โกรธแค้นของสาธารณชน
ดูเหมือนการคาดการณ์ขององค์การนิรโทษกรรมจะเป็นจริง เพราะไม่นานหลังมีคำพิพากษาก็เกิดคดีช็อกสังคมอีกในเดือนสิงหาคม เมื่อช่างภาพข่าวสาววัย 22 ปี ถูกชาย 5 คนรุมข่มขืนในนครมุมไบ เมืองเศรษฐกิจที่แสนจะเจริญของอินเดีย
หนังสือพิมพ์ไทมส์ออฟอินเดียรายงานด้วยคำพาดหัวว่า Gang rape in India, routine and invisible แปลว่า แก๊งข่มขืนอินเดีย เหตุประจำและบังตา เพื่อสื่อถึงเหตุการณ์ลักษณะนี้ที่มีขึ้นซ้ำซาก และยากที่จะรู้ล่วงหน้าว่าใครเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะลงมืออีก
ชีวิตของ "นิรภยา" นามแฝงที่สื่อมวลชนอินเดียตั้งให้เหยื่อนักศึกษาหญิง มีความหมายว่า "ปราศจากความกลัว" เป็นตัวอย่างของโศกนาฏกรรมที่ตั้งคำถามว่า ทำไมชีวิตของผู้หญิงที่รักดีคนหนึ่งต้องมาจบสิ้นเช่นนี้
นิรภยาเกิดและเติบโตจากครอบครัวที่ยากจน แต่เข้าเรียนในคณะกายภาพบำบัดในมหาวิทยาลัยเดห์ราดันได้ ก่อนจะเข้ามาฝึกงานในโรงพยาบาลเดลี
พ่อซึ่งเป็นคนดูแลกระเป๋าให้กับผู้โดยสารในสนามบินและรับเงินเดือนเพียง 6,000 บาท ตั้งความหวังว่าลูกสาวจะเป็นคนแรกในครอบครัวที่ประกอบอาชีพที่ได้รับการนับหน้าถือตาจากสังคม ยอมขายที่ดินของครอบครัวในรัฐอุตตรประเทศ เพื่อส่งเสียให้ลูกได้เล่าเรียน
ด้วยความขัดสนประกอบกับต้องการแบ่งเบาภาระของทางบ้าน ทำให้นิรภยาตัดสินใจรับจ้างทำงานช่วงกลางคืนและสอนพิเศษเด็กนักเรียน โดยหวังว่าจะนำเงินมาใช้จ่ายเรื่องเล็กน้อย เช่น ซื้อเสื้อผ้า ทานอาหารที่ดี หรือดูหนังสักเรื่อง
แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานพิเศษ แต่ "การเรียน" เป็นสิ่งหนึ่งที่หญิงสาวไม่เคยละทิ้ง
ชีน เคอร์ เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งเล่าว่า ในแต่ละวันนิรภยาได้นอนเพียงวันละ 3 ชั่วโมง บางครั้งคิดว่าเพื่อนคนนี้จะเป็นลมในห้องเรียน แต่นิรภยาก็ไม่ยอมหยุดพัก
คำบอกเล่านี้สอดคล้องกับศัลยแพทย์ มิสชราซึ่งรักษาหญิงสาวระหว่างที่อยู่ในสิงคโปร์ว่า "การกลับไปเรียนให้จบ" คือสิ่งที่เหยื่อสาววัย 23 ปีต้องการมากที่สุด
ภายหลังเสียชีวิตได้ไม่นาน ปรากฏว่านิรภยาทำคะแนนได้อยู่ในระดับดีมากในการสอบปลายภาค กลายเป็นรางวัลที่หญิงสาวไม่มีโอกาสได้รับในที่สุด
นอกจากผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมแล้ว บรรดาเพื่อนยกย่องว่า จากอดีตเด็กขี้อาย นิรภยากลายเป็นคนกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม โดยช่วยจัดงานทางสังคมมากมาย รวมถึงเป็นนักออกแบบท่าเต้นด้วย
ชีวิตส่วนตัว "นิรภยา" มักจะนัดพบกับหนุ่มรุ่นพี่ซึ่งทำงานด้านคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ เพื่อนหลายคนเผยว่าทั้งคู่มีแผนจะแต่งงานกันในอนาคต แม้หนุ่มรุ่นพี่คนนี้ปฏิเสธที่จะพูดถึงความสัมพันธ์ กล่าวเพียงว่า ชอบหญิงสาวและมีความสุขที่ได้อยู่ด้วย
ชายหนุ่มกล่าวสดุดี "นิรภยา" ว่า "เป็นคนที่วิเศษมาก ทำให้ทุกคนมีความสุขและยิ้มได้แม้จะอยู่ในช่วงเวลาอันเลวร้าย"
เมื่อเรื่องราวของนิรภยาปรากฏเป็นข่าวไปทั่วโลก จอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวสุนทรพจน์ถึงในการประกาศรางวัล "International Woman of Courage" ซึ่งอุทิศให้แก่ผู้หญิงซึ่งมีความกล้าหาญ ว่า ความกล้าหาญของนิรภยาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชายและผู้หญิงให้ก้าวไปพร้อมกัน
ด้วยข้อความสั้นๆ ว่า "พอกันที"
Create Date : 29 ตุลาคม 2556 |
Last Update : 29 ตุลาคม 2556 2:13:19 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1386 Pageviews. |
|
|
|
|
|