ยัย เจ้ สุด ฮา กับ หมอ เกย์ จอม เฟี้ยว บทที่ 20 หน้า 1
เป็นเอกเตรียมตัวออกจากโรงแรมแต่เช้า

เพราะเขาจะไปตักบาตรกับปิ่นมณีตอน 6โมง

เขาให้รถตู้มาส่งเขาก่อนแล้วค่อยกลับไปรับคนอื่นๆ


ที่จะมาตั้งขบวนขันหมากตอน 8 โมง ครึ่ง เขาไปเคาะห้องเรียกปุณอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ โทรไปก็เงียบ เขาตั้งใจว่าจะชวนปุณไปด้วย

แต่กล้วจะสายไปเลยให้คนขับรถตู้มาส่งเขาก่อนพร้อมกับช่างกล้องบันทึกภาพ


ส่วนปุณ นอนหมดอาลัยน้ำตาซึมอยู่ที่นอนคิดทบทวนเรื่องเมื่อคืน เหตุการณ์ตั้งแต่เข้าประตู บนเตียงที่ตอนนี้เยิ่นเย้อ ด้วยกิจกรรมอันหนักหน่วงของเขากับน้ำฝน



โอ้ววว นี่มันอะไรกัน



เขาปิดปากตัวเอง กลั้นน้ำตาเอาไว้


นี่เขาเสียความจิ้นไปแล้วเหรอ


แล้ว เขาจะต้องทำยังไงดี


แล้วน้ำฝนล่ะ คิดยังไง



ตอนนี้เธอคงกำลังช่วยงานที่บ้านของปิ่นมณี


แล้วเขาจะมองหน้าเธอได้ยังไง



เสียงหัวใจเต้นแรงและเร็วจนยากจะบอก คำถามต่างๆ ของตัวเองที่ตอบไม่ได้


เขามี one night stand แบบไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับชีวิตจริงแบบนี้



แถมยังเป็นครั้งแรกกับผู้หญิง นี่เขาต้องทำตัวยังไง เวลาเจอกับน้ำฝน เธอคงไม่ติดใจอะไรใช่ไหม เขาต้องเงียบเก็บคำเอาไว้ไม่บอกใครรู้ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น



ยิ่งคิดยิ่งสับสนปวดใจ



ปุณมองนาฬิกา นี่ก็ 6 โมงแล้ว จึงลุกขึ้นมาอาบน้ำ กระเป๋าก็อยู่ในห้องนี้ เขาสำรวจห้อง น้ำฝน เก็บกระเป๋าเธอไปแล้ว แต่เธอทิ้งแปรงสีฟันไว้ในห้องน้ำ เขาเลยเก็บมันมาด้วย



ปุณรีบอาบน้ำแต่งตัว เขาต้องไปหาช่างแต่งหน้าที่เหลืออยู่ที่โรงแรม 1 คน เพื่อแต่งองค์ให้ทุกคนที่ร่วมขบวนขันหมาก เสื้อผ้าทุกคนคงอยู่ที่ห้องช่าง



เมื่อเขาไปที่ห้องก็พบคุณพ่อคุณแม่และคนอื่นๆ ที่ตื่นมาแต่งตัวกันแล้ว
 


เป็นเอกยิ้มแฉ่งอย่างมีความสุขที่ได้ตักบาตรเช้ารับอากาศดีๆ ที่บ้านของปิ่นมณี ช่างภาพมาเก็บบรรยากาศด้วย


ทั้งที่ปิ่นมณีไม่เคยคิดถึงเรื่องงานแต่งของตัวเองมากก่อน ก็อดตื่นเต้นประหม่ากับการแต่งงานไม่ได้

เธอถูกน้ำฝนมาปลุกตั้งแต่ตี 3 พร้อมช่างแต่งหน้า ดูน้ำฝนสิราวกับคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเธอเลย


ที่ตื่นเต้น หัวใจตึ๊กตั๊กมาทั้งคืน ช่างแต่งหน้าราวกับคนสนิทของคุณนายแม่มาหลายปี ต่างก็เอ่ยชมใบหน้ารูปไข่ ผิวเนียนสุขภาพดีของเจ้าสาวที่ตกแป้งไป ก็กลมกลิ้งหน้าเงาวับ แต่งโทนสีเรียบง่ายเข้ากับชุดเรียบแต่หรูของเจ้าบ่าวที่จัดหามาให้


“สวยจริงๆ ค่ะ”


ท่าทางชื่นชมของสาวประเถทสองยิ้มหรา เมื่อมาส่งตัวเจ้าสาวไปตักบาตรเช้ากับเจ้าบ่าว


“ตักบาตรเสร็จแล้วก็กลับมาเปลี่ยนชุดเจ้าสาวนะคะ”


ช่างแต่งหน้ากำชับ


ปิ่นมณียิ้ม


เป็นเอก เจ้าบ่าวร่างสูงโปร่งในชุดไทยโจงกระเบนยืนเคียงคนร่างเล็ก ในชุดไทยแขนกระบอกสีชมพูพาลเทล  เธอดูสวยกว่านางแบบบนโปสเตอร์หน้าคลินิกเขาเสียอีก


เวลานี้หัวใจเขาพองโต ราวกับเด็กหนุ่มวัยใส ที่เพิ่งเจอกับสาวน้อยวันกระเตาะ


ทั้งตื่นเต้น ดีใจ จนแทบระงับความเบิกบานบนใบหน้าไม่ได้
พอตักบาตรเช้าเสร็จ


ทั้งสองต้องแยกกันเพื่อไปแต่งตัว เจ้าบ่าวไม่ได้เปลี่ยนชุด เขาไม่ได้ปรึกษาปิ่นมณีเรื่องชุดแต่งงาน

เขาจัดการเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชุดเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว ทั้งที่ไม่มีเจ้าสาวไปลองชุดก่อน

แต่เขาก็สามารถหาชุดที่พอดีกับปิ่นได้อย่างลงตัว ส่วนเจ้าสาวเธอก็ไม่ได้มีความขัดแย้งเรื่องชุดหรือเครื่องประดับแต่อย่างใด ช่างจับเธอแต่งยังไงก็ยินยอมแต่โดยดี
 


เมื่อได้เวลาฤกษ์ดีตามกำนันบอก 9 โมง 9 นาที



เสียงโห่...นำขบวนขันหมากดังขึ้น เจ้าสาวที่ทำลังส่องดูตัวเองหน้ากระจก ก็ต้องตื่นเต้น


ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็บอกว่าไม่อยากจะแต่งงานกับเขาแต่ตอนนี้ ตื่นเต้น จนกินอะไรไม่ลง พอหันไปมองเพื่อนเจ้าสาวที่นั่งเศร้าหวีผมค้างอยู่ที่เตียงก็แปลกใจ เธอลุกเดินไปหาน้ำฝน หยิบหวีออกจากมือ แต่น้ำฝนก็ยั่งท่าค้างราวรูปปั้น



“ฝน แกหิวข้าวไหม?”


เธอถาม แต่ก็ไร้การตอบ



ปิ่นเลยจับหน้าที่ถูกโบรท็อกดึงไว้ให้หันมาหา


“อ้อ แกว่าไงนะ”


เธอถามงงๆ



“แกสวยแล้ว จะกินข้าวก่อนไหม?”


“อ้อ กินก็กิน”



การตอบโต้ราวกับหุ่นยนต์ ปิ่นมณีสงสัยกับท่าทางของเพื่อนรัก อยากจะซักเพื่อนมากกว่านี้


แต่ตอนนี้ขบวนขันหมากใกล้เข้ามาทุกที เธอต้องเตรียมตัว ช่างแต่งหน้า ก็คอยดูหน้าดูผมให้ ช่างแต่งหน้าที่มาแต่งหน้าเจ้าสาวและญาติๆ


เจ้าสาวทั้ง 2 คน ทำงานแข่งกับเวลาจนเสร็จดี เนื่องจากถูกคุณนายปิ่นไหมกำชับมาอย่างดีว่าทุกคนต้องสวย เจ้าสาวต้องงามที่สุด แต่ก็ไม่ผิดหวัง


จนขบวนขันหมากผ่าด่านประตูเงินประตูทองมาถึงประตูบ้าน เจ้าสาวต้องไปล้างเท้าให้เจ้าบ่าว เป็นเอกยืดอกสุดๆ มองปิ่นไหม ที่นั่งลงล้างเท้าและเช็ดเท้าเขาอย่างดีให้กับเขา


เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้ามานั่งคู่กันต่อหน้า พ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ที่ยิ้มกันอย่างปิติ ทั้งสองสวมแหวนแต่งงาน และเจ้าสาวต้องกราบที่ตักเจ้าบ่าว เป็นจังหวะที่เป็นเอกฟินมากถึงขึ้นลูบหัวเธอเบาๆ ภาพนี้จะเป็นตำนานที่เขาจะยืดไปอีกหลายปี



แค่แคปชั่นที่เพื่อนๆ ให้เขา คือ “ยืดได้แค่ 1 วิ”



เมื่อได้เวลาฤกษ์บายศรี  พิธีการผูกข้อมือแบบธรรมเนียนประเพณีชาวเหนือ


เมื่อแขกแต่ละคนเข้ามาผู้ข้อมือ อวยพรให้คู่บ่าวสาว จะมีพ่อเฒ่าคอยบอกว่าเป็นญาติลำดับขั้นต้องเรียกอะไร และมอบของรับไหว้คืนให้ กว่าจะเสร็จวิธีการผูกข้อมือก็ใช้เวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมง

เนื่องจาก พ่อกำนันเป็นที่รู้จักทั้งตำบล ผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้านพอได้ข่าวก็มาช่วยงาน ญาติๆ บ้านใกล้เรียงเคียงก็มากันหมด เพราะทุกคนรู้จักปิ่นมณีตั้งแต่เด็ก รวมทั้งแขกทางกรุงเทพก็ราว 30 คน



บรรยากาศที่แสนชื่นมื่นผ่านไป เป็นเอกยิ้มแฉ่งไม่ห่วงหล่อ เพราะเขาหล่ออยู่แล้ว


แม้เจ้าสาวไม่ได้ออกอาการหรือยิ้มแย้มมากมายแต่ก็สวยมาก ช่างเป็นคู่ที่ลงตัวกันทีเดียว



อาหารเลี้ยงแขกก็สุดแสนอร่อยเลิศรสจากเซฟจากโรงแรมดังมาสรรสร้างให้แขกได้ลิ้มลอง



แต่ไฉนเลย เพื่อนเจ้าบาวเจ้าสาว หน้าตา ราวคนอดหลับอดนอน และอมทุกข์ในใจทั้งคู่ พอหันมาเจอกันก็หลบหน้ากันแต่ก็แอบมองกันเงียบๆ พอเผลอโดนไม้โดนมือกันก็ราวกับโดนไฟช็อต ทั้งคู่พยายามหลีกเลี่ยงห่างกัน ทั้งที่ อยู่ข้างๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวตลอดงาน



หลังรับประทานอาหารกลางวัน บ่าวสาวออกมาส่งแขกและขอบคุณทุกคนที่มาช่วยงาน และแจกของชำร่วยเล็กๆ คนที่มีความสุขมากเห็นจะเป็นเจ้าบ่าว ส่วนคนที่ดูไม่มีความสุขกับงานแต่งนี้เห็นจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวทั้งสอง



เมื่อเสร็จงานเลี้ยงเรียบร้อย ปิ่นเปลี่ยนเสื้อผ้า และช่วยแม่ตรวจสอบข้าวของที่ต้องเอาไปทั้งวัดและรายจ่ายสหกรณ์เสร็จ เธอ



ส่วนแขกทยอยกลับกันหมดมีเพียงกลุ่มขี้เมาอยู่บ้างประปราย แต่ก็ไม่มีใครกล้าก่อกวนที่บ้านกำนัน

พ่อกับแม่และคณะทีมชาวกรุงตกลงกันว่าจะกลับก่อน เพราะทุกคนเหนื่อยกันมาตั้งแต่เช้า


“เดี๋ยวเรากลับกับน้ำฝนก็ได้ค่ะ”

ปิ่นบอกพ่อกับแม่


“ได้จ๊ะ ยังไงเดินทางปลอดภัยนะลูก”


แม่ปิ่นบอก



นางเข้ามาจับมือลูกสะไภ้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่



“ฝากดูแลหมอเอกด้วยนะลูก”


“ค่ะ”



“แล้วก็..”


นางวางมือลงที่ท้อง ทำเอาปิ่นมณีตกใจ



“ดูแลหลานแม่ด้วยนะ”


สีหน้าและแววตาที่แสนดีใจของอีกฝ่าย


แม้จะสร้างความตกใจให้กับปิ่นมณีขนาดไหนที่นางรับรู้เรื่องนี้แล้ว แต่เธอก็ไม่อาจจะทำลายความสุขของคนเป็นย่าได้



“ค่ะ”

เธอยิ้มและตอบรับ



“เอาล่ะ แม่กับพ่อกับก่อนล่ะนะ”



“เดินทางปลอดภัยนะคะ”


“จ๊ะ ออกตอนนี้ พอดีไปถึงค่ำ แล้ว พวกเราก็อย่ากลับกันเย็นล่ะ”


“ค่ะ”



เมื่อส่งทุกคนขึ้นรถกันหมดแล้ว



ปุณกำลังจะขึ้นรถ แต่เขาก็ถูกเป็นเอกล็อคคอเอาไว้



“แกอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิ”



“อะไรนะ!”


ปุณร้องอย่างตกใจ


“ค่อยกลับพร้อมกัน”



เขาหันไปมองหน้าเพื่อนสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่ก็ไม่อาจจะขัดใจเขา สุดท้ายต้องเอากระเป๋าลงจากรถตู้ แล้วมองรถตู้จากไปอย่างอาลัย

 



Create Date : 23 สิงหาคม 2564
Last Update : 23 สิงหาคม 2564 8:06:18 น.
Counter : 646 Pageviews.

2 comments
: รูปแบบของความว่าง : กะว่าก๋า
(18 เม.ย. 2567 04:00:35 น.)
: รูปแบบของชีวิต : กะว่าก๋า
(17 เม.ย. 2567 04:37:20 น.)
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 36 : กะว่าก๋า
(14 เม.ย. 2567 06:17:30 น.)
  
สวัสดียามเช้าครับ
โดย: **mp5** วันที่: 23 สิงหาคม 2564 เวลา:9:06:22 น.
  
แหมกำลังสนุกเชียวค่ะ
สงสัยจะมีสองคู่

โดย: หอมกร วันที่: 23 สิงหาคม 2564 เวลา:9:45:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Unitan.BlogGang.com

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด