ยัย เจ้ สุด ฮา กับ หมอ เกย์ จอม เฟี้ยว บทที่ 8 หน้า 2
มาถึงจุดนี้ เธอกลับจุกในอก ...ตอนเป็นเด็ก ความฝันของเธอคืออะไร ถ้าเทียบกันแล้ว

หมอเอกกลับมีแบบแผนและความฝันที่ชัดเจนที่คว้ามาได้ แต่เธอเล่า

แค่คิดย้อนไปกลับจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากเป็นอะไร ความคิดความอ่านของหมอก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย มากกว่าเธอด้วยซ้ำไป


“แต่ตอนนี้ผมยังมีความฝันที่อยากทำอยู่อย่างหนึ่ง”


“อะไรเหรอ?”


“ผมอยากมีลูก แล้วผมจะพาลูกๆ เที่ยงรอบโลก”

เขากระแซะเธอเบาๆ


ทำเอาปิ่นมณีตาโตลุกวาว


“เออ แกท้องได้เหรอ”

เธอถามกลับ


“ผมท้องได้ที่ไหน ผมไม่มีมดลูกนะเจ้  นี่เจ้ เป็นสาธารณสุข เจ้ก็ต้องได้เรียนเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์มาเหมือนกัน ไม่ใช่เหรอครับ”

เขาแอบแถมต่อว่าเธอ


“ใช่..”

เธอตอบเขาสั่นๆ


“มองหน้าฉันทำไม?”


“อ้าว..ก็แค่ปรึกษา ว่าจะเอากี่คน”

เขาตอบยิ้มๆ


ปิ่นมณีแทบเต้น


“นี่แกเป็นเกย์จริง หรือเกย์เทียมนิ”


“ก็เคยเป็นเกย์”


“เคย...ตอนนี้ไม่ใช่เหรอ?”


“ไม่รู้สิ”


“อ้าว...ถามจริงแกเคยมีเซ็กส์กับผู้ชายมากี่คน”


เธอถามออกไปตรงๆ


“คนเดียวเอง”


คนเดียว....นี่เขาตั้งใจเป็นเกย์จริงๆ หรือเปล่า สังคมพวกนี้ มันจะเป็นยังไงกัน เธอไม่อาจจะรู้ได้


“ตอนนี้ผมไม่ต้องการผู้ชาย ไม่ต้องการผู้หญิง”


“แกบ้าหรือเปล่า”

ปิ่นมณีเหลืออดโผล่งด่าเขาออกไป


“ผมอยากกินทอม”

เขายื่นหน้าหล่อตอบเธอใกล้ๆ


ทำเอาคนฟังขนหัวลุก


“ยี้....ฉันไม่ใช่ทอมนะแก ไอ้บ้า”

ปิ่นมณีทุบตีเขาเป็นการใหญ่


“ฮ้าๆๆๆ”

เขาหัวเราะร่วน  วางเข็มกับด้านและผ้าลงรวบมือเธอไว้


“แล้วเจ้ ล่ะ เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน”

เขาถามกลับ


“คนเดียว”

เธอตอบเขา


“นานหรือยังครับ”


“ 5 ปีแล้ว”

หน้าเธอดู เศร้าๆ อย่างเห็นได้ชัด ราวๆ ไม่อยากจะพูดต่อ
เป็นเอกรับรู้ถึงความอึดอัดในใจของเธอ


“ทำไมเลิกกันครับ”


สายตาที่กล้ำกลืนไม่ได้สบตาเขาเลย


“เขาไม่ต้องการรับผิดชอบ เขาแค่สนุก”

น้ำเสียงเธอตอบอย่างเศร้าใจ


เป็นเอกจับมือของเธอไว้ เสยหน้าม้าของเธอขึ้น


“ช่างมันนะมันผ่านไปนานแล้ว เจ้ก็ลืมไปเถอะ ผมน่ะ เป็นคนมีความรับผิดชอบ”

เขาเอ่ยหนักแน่น


ปิ่นมณีเงยหน้ามองเขา

“รับผิดชอบอะไร?”


“อ้าว...ก็รับผิดชอบแจ้ไง”



“ทำไม ต้องรับผิดชอบฉันด้วย”


“เจ้ จะมาพูดเหมือนคนไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้นะครับ คิดจะฟันผมแล้วทิ้งเหรอ”

เขาไม่พูดเปล่า มองหน้างงของเธอ แล้วก็จุ๊บที่ปาก


ปิ่นมณีตกใจ แล้วเป็นเอกก็ระดมจูบเธออีกครั้ง


การกระทำมันชัดเจนกว่าการพูดสินะ


“แก....หยุดดดดดด”

เธอร้องห้ามเขาพยายามเบี่ยงหน้าหนี


แต่ก็ไม่อาจจะทัดทานการจู่โจมของคนร่างใหญ่ได้ เขารวบเธอไปนั่งบนตัก ระดมจูบตามซอกคอ มือก็กอดรัดเธอแน่นยิ่งกว่าปลาหมึก มือปิ่นมณีถูกล็อคด้วยวงแขนใหญ่ไม่สามารถป้องกันการจู่โจมทุกอย่าง


“แก.แก แก หยุด หยุดก่อน ..เดี๋ยวมีคนมาเห็น”

เธอโวยวายเต้นอยู่บนตักเขา  หัวใจเต้นถี่จนแทบทะลักอก


“อ้อ ลืมไป”

เขาหยุดจูบ


หันไปจับเข็มกับด้าย ม้วนๆ ลงตะกร้ารวมกับผ้า


“อ้าว.....แล้วจะไม่เย็บผ้าต่อเหรอ..”

เธอถามเขางงๆ


“ไม่ล่ะ ไปปั้มลูกดีกว่า”


พูดเสร็จเขาก็อุ้มเธอเข้าไปในบ้าน


ปิ่นมณีร้องเสียงหลง แต่สุดท้ายก็เงียบไป
 

135135135135

 
ช่วงบ่ายหมอเอกเตรียมกระเป๋าเสร็จ เขาจะพาเธอเดินเข้าไปในป่าด้านหลังบ้าน มีภูเขาเล็กๆ เรียงซ้อนกันอยู่


แต่พอลงจากเรือน มีลุงกับเด็ก 2-3 คน พร้อมลิง 1 ตัว เดินมาแถวบ้าน


“นี่มาทำอะไรกันครับ”

เป็นเอกเอ่ยถาม

“มาเก็บลูกมะพร้าวน่ะสิ”

ลุงตอบ


ปิ่นมองลิงอย่างสนใจ แม้จะกลัวการเข้าใกล้ แต่เธอก็ดูเหมือนลิงตัวนี้จะเชื่องกับคนไม่น้อย


“ต้นนี้น่าจะพอได้กินนะ อ้าว เบิร์ด ขึ้นไปเลยลูก”


สิ้นคำสั่ง เบิร์ดปีนขึ้นต้นมะพร้าวอย่างชำนาญ แล้วหมุนๆ ลูกมะพร้าวให้ร่วงลงมา ทีละลูก ทีละลูก จนลุงแกพอใจ


ปิ่นมณีเพิ่งเห็นลิงเก็บลูกมะพร้าวครั้งแรก ก็มองอย่างสนุก ช่วยเด็กทั้งสองคนเก็บมะพร้าวที่ร่วงลงมาใส่เข่ง


“แบ่งให้หมอกินด้วยนะ”

ลุงบอกเด็กลูกมือทั้ง 2


ลุงเรียกเบิร์ดลงมาจากต้นมะพร้าว ไต่ไปเกาะที่ไหล่ลุง


“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไปก่อนนะหมอ”


“ขอบคุณครับ”

หมอยกมือไหว้ขอบคุณลุง ปิ่นไหว้ขอบคุณด้วย


ส่วนลิงทำท่าอยากจะเล่นกับปิ่นมณี เธอได้แต่จับจมูกไว้ มองดูลุงกับเด็กๆ ช่วยกันลากเข่งมะพร้าวกลับ
 
 
หมอเอกเลยชวนเธอเดินเข้าไปป่าหลังบ้าน


“นี่แกเตรียมพร้อมมากเลยนะ เรามาติดเกาะหรือว่าแกวางแผนไว้”

เธอถามเขา

หมอเอกหันมามองคนตามหลัง


“เจ้ เราติดเกาะกันอยู่นะเจ้”


“ติดเกาะ...เหรอ... แกพยายามให้ฉันเชื่อว่าเราติดเกาะ ดูสิ แกเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้ามา ทั้งของแกและของฉัน ของใช้เล็กๆ น้อยๆ อีก แล้วพวกยาสามัญประจำบ้านอีกล่ะ แถมกระเช้าปีใหม่ฉันอีก ถามจริงเหอะ ถ้าแกโดนโจรปล้นจริง แล้วอุ้มฉันวิ่งหนีโจร แกจะมีเวลาเตรียมของพวกนี้ไหม แล้วอีกอย่างดูแกสนิทกับหมู่บ้านชาวประมงนั่น แล้วดูพวกเขาก็เหมือนจะรู้จักแกดีด้วย”


เป็นเอกมองหน้าดูที่กำลังจับผิดเขาอยู่ เพราะเธอสำรวจกระเป๋าที่บ้าน มีทุกอย่างที่เตรียมมาราวกับจัดเตรียมสำหรับออกเดินทาง เขาเดินมาโอบไหล่เธอ


“น่าเจ้อย่าคิดมากเลย เรามาติดเกาะอยู่ด้วยกัน เดือนนึง เพื่อท่องเที่ยวแล้วดูใจกันไปด้วยไง”

เขารีบสรุปย่อๆ


“ดูใจ...อะไรของแก”


เธอยังไม่ลดละการจับผิด


“ไม่ดูใจก็ได้...มาฮันนิมูน”

เขาตอบหน้าตาเฉยแล้วรีบดุนหลังเธอให้เดิน


ปิ่นมณีได้แต่สับสนกับคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม

พอมาถึงน้ำตกเล็กหลังเขา


ปิ่นมณีตื่นเต้น มองน้ำใสๆ แล้วเดินลงไปยืนที่โขดหินด้านล่าง


“น้ำใสมากเลยนะหมอ”


เป็นเอกยิ้มที่เห็นเธอชอบ


“แต่น้ำเย็นมากเลยนะ”


“ลงเลยสิเจ้”


“ลงเลยเหรอ”

เธอถามความคิดเห็น


“เจ้จะถอดเสื้อผ้าหมดเลยก็ได้นะ”

เขาเสนอ


เขามองหน้าเธอ


“ไม่เอา ดูน้ำใสขนาดนี้ เห็นหมดพอดี แล้วถ้าเกิดมีคนมาเห็นเข้าล่ะ”


“เดี๋ยวผมดูต้นทางให้”


“แกนั่นล่ะ คือตัวอันตรายที่สุด”


“ฮ้าๆๆๆ”


เธอค่อยๆ ลงไปนั่งบนโขดหินใต้น้ำ มองดูพื้นดินที่เป็นเนื้อทรายข้างล่างอย่างใสแจ๋ว


“ฉันเคยอ่านที่ท่องเที่ยวในเน็ตนะ มีที่ที่น้ำใสมากๆ อยู่ที่หนึ่ง เขาเรียกว่า ป่าต้นน้ำ ที่สุราษฏร์ ฉันยังฝันอยากจะไปเลย ที่นี่น้ำก็น่าจะใสพอๆ กัน ถ้าได้อยู่ในอัลซีนไทยแลนด์คงเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจมากเลยนะ”

เธอเล่าให้เขาฟังอย่างตื่นเต้น


“ฉันเห็นในรูปก็ใสแบบนี้เลย นี่ถ้าเป็นน้ำอุ่นก็ดีเลยนะ เหมือนแช่บ่อน้ำพุร้อนเลย”


หมอเอกเดินมานั่งลงข้างๆ เธอ


“น้ำพุร้อนก็ดีนะ คราวหน้าเราไปแช่น้ำพุร้อนก็ดีเหมือนกัน น้ำพุร้อนบำบัดโรคได้ด้วย”

หมอเอกสนับสนุน


ปิ่นมณียิ้มแล้วหันมามองหมอเอก


“คราวหน้า หมอ แกคิดจะลักพาตัวฉันคราวหน้าด้วยเหรอ”

เปลี่ยนเป็นหน้ายักษ์ทันที


“ฮ้าๆๆ ก็ไม่ลักพาตัวหรอก ก็ชวนเจ้ดีๆ นี่ไง”


“เชอะ คิดเหรอว่าฉันจะไปด้วย”


“ก็ต้องคิดสิ นี่คือที่แรกที่เรามาด้วยกัน อีกหน่อยเรามีทีมงานแล้ว เราค่อยไปต่างประเทศ เราอาจจะไปปีละ ประเทศหรือ 2 ประเทศก็ได้”

เขาพูดถึงแพลนตัวเองอย่างรวดเร็ว


“ทีมงาน ไปเที่ยวต้องมีทีมงานด้วยเหรอ หรือแกจะถ่ายลง Youtube เหมือน Youtuber พวกนั้น”

เธอหมายถึง


อาชีพที่หลายๆ คน ผันตัวเองมาเป็นนักกิจกรรมในอินเตอร์เน็ต เพื่อให้นักท่องเน็ตได้คลิ๊กเข้าไปดู ยิ่งกิจกรรมใดน่าสนใจมีคนดูแยอะ หรือผู้ติดตามเยอะ

ก็สามารถสร้างรายได้ให้เจ้าของคลิ๊ป ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวที่ถ่ายทอดการเดินทาง ท่องเที่ยว กิจวัตรประจำวัน การทำอาหาร ต่างก็นำอัดคลิ๊ปกันทั้งนั้น


“เปล่า ทีมงานเราอาจจะมีเพิ่มแค่ 2 หรือ 3 คน”

 



Create Date : 22 มีนาคม 2564
Last Update : 22 มีนาคม 2564 11:26:56 น.
Counter : 759 Pageviews.

2 comments
เรื่อง รัก ลึก อุ่น (Omega Verse) - บทที่ 43 วัลยา
(16 เม.ย. 2567 16:34:37 น.)
: รูปแบบของการค้นพบตนเอง : กะว่าก๋า
(16 เม.ย. 2567 06:05:58 น.)
๏ ... ขอฝน แทน พรวันมหาสงกรานต์ ... ๏ นกโก๊ก
(15 เม.ย. 2567 15:30:08 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 34 : กะว่าก๋า
(12 เม.ย. 2567 05:52:40 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณnewyorknurse

  
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ

โดย: หอมกร วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:10:01:23 น.
  
โดย: unitan วันที่: 22 มีนาคม 2564 เวลา:14:15:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Unitan.BlogGang.com

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด