ด่านชายแดนหลักแต่ง




ชื่อภาพ : ค่ายทหารพม่า
สถานที่ : ด่านชายแดนบ้านหลักแต่ง
เทคนิค : สีน้ำบนกระดาษ
ขนาด : ๒๑ x ๒๙ เซนติเมตร




ด่านชายแดนหลักแต่ง




คุณที่รัก


แดงเขียวเหลืองที่เห็นปลิวสะบัดอยู่อีกฟากเขานั้นคือธงชาติสหภาพเมียนม่าร์ ผมนั่งที่ศาลามุงฟางฝั่งไทย ที่มีต้นมะเดื่อใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาเหนือหุบเขาห้วยลึกที่เสมือนซอกสันปันเขตแดน


จุดสิ้นสุดชายแดนไทยบ้านหลักแต่งนี้ คือที่ตั้งของ วัดฟ้าเวียงอินทร์ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูยน์รวมใจของผู้คนทั้งสองฟากฝั่งภูเขา เป็น วัดสองแผ่นดิน ที่คนไทยใหญ่และคนพม่าร่วมกันสร้าง


หากในวันนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ในส่วนของพม่า คือพระอุโบสถและโรงเรียนปริยัติธรรม ส่วนค่ายของไทยกลับอยู่เยื้องไปทางด้านหลังวัด (ศาลสมเด็จพระนเรศวร) หันหน้าไปทางช่องเขาอันเป็นที่ตั้งของด่านชายแดนที่พม่าสั่งปิดตายตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ เหลือแต่ป้อมโกโรโกโสของสองฝ่าย เสาธงโย้เย้ ประตูเหล็กและรั้วลวดหนามในพงหญ้า


คิด-คิดก็น่าขำ วัดวาอารามถูกแบ่งแยก ศาสนาสถานที่พักใจ กลับกลายเป็นบังเกอร์ป้อมค่ายปืนกล...


ผมไม่แปลกใจหรอกว่า ทำไมพม่าถึงสั่งปิดด่านชายแดนนี้ เพราะบ้านเปียงหลวง-หลักแต่งนี้คือขุมเสบียงของกองกำลังไทยใหญ่ เป็นจุดเดียวของชายแดนด้านนี้ที่พม่ายังตรึงกำลังตั้งค่ายอยู่ได้ นอกเหนือจากนั้น เป็นเขตอิทธิพลของกองกำลังของกองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ที่นำโดยเจ้ายอดศึกแทบทั้งสิ้น


ผลพวงของการสู้รบอันหนักหน่วงทำให้ พี่น้องชาวไทยใหญ่ ทิ้งบ้านเกิดเรือนนอนจากเมืองปั่น ในเขตพม่า พากันหนีแรงกดดันของสงครามเข้าสู่บ้านเปียงหลวงและบ้านหลักแต่งเป็นจำนวนมหาศาล รวมกับพวกอพยพรุ่นปู่รุ่นย่าตายายและชาวจีนยูนาน จากกองพล ๙๓ ที่ปักหลักค้าขายกับด่านชายแดนมาก่อน


ขณะผมนั่งวาดภาพ ก็มีทหารพม่าสะพายปืนเดินมาที่ลาดเชิงเขาตรงข้าม เมียงมองอย่างไม่ไว้วางใจ ดูเหมือนว่าผืนดินที่ว่างตรงลาดเชิงเขานั้น เขาจะหว่านพืชผักสวนครัวไว้(หรือว่าวางกับระเบิดก็ไม่ทราบ)


คิด ๆ ก็ให้ห่อเหี่ยวใจ อย่างไร เขาก็ต้องพึ่งพาเสบียงกรังจากฝั่งไทยเราอยู่ดี เช่น ค่ายหทารที่ชายแดนบนเขา อำเภอสวนผึ้ง ที่ผมเคยพบเห็นเวลาทหารไทยเข้าไปในเมือง ก็ต้องป้องปากบอกทหารพม่าที่อยู่บนยอดเขาตรงข้าม ทหารไทยจ่ายตลาดมาเผื่อทหารพม่าด้วยทุกครั้ง (เพราะสะดวกและอุดมสมบูรณ์กว่าไปเอาที่บ้านตัวเอง)


แค่พูกันคนละภาษา ต่างกันคนละเชื้อชาติแต่ความเป็นคนไม่แตกต่างกัน ผมว่าทหารฝั่งโน้นก็คงเบื่อแสนเบื่อและคิดถึงลูกเมียที่อยู่ที่บ้าน มากกว่าการอยู่ประจำการที่ด่านชายแดน กับสงครามกับชนกลุ่มน้อยที่ยืดเยื้อยาวนานไม่รู้จบสิ้น


ผมลองโบกมือให้ทหารคนนั้น เขาท่าทางงงงัน แต่ก็โบกมือตอบ



เรื่องและภาพ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล
จากคอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ" นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๒๓ มี.ค. ๒๕๕๗
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอทิตย์






บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณsomjaidean100

Free TextEditor




Create Date : 26 มีนาคม 2557
Last Update : 8 เมษายน 2557 9:24:15 น.
Counter : 2125 Pageviews.

0 comments
บันทึกน้องหนาม ยิมโนด่าง VS ยิมโน LB (2.1.2568 - 26.3.2568) ฟ้าใสวันใหม่
(26 มิ.ย. 2568 08:28:43 น.)
Mother, I cannot mind my wheel by Samuel Barber ปรศุราม
(26 มิ.ย. 2568 11:07:09 น.)
ดอกไม้ไหว : งานประดิษฐ์โลหะจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน สมาชิกหมายเลข 7565667
(22 มิ.ย. 2568 12:50:56 น.)
가고파 (Hope to go) by KIM Dong-jin (김동진) ปรศุราม
(20 มิ.ย. 2568 10:45:44 น.)

Haiku.BlogGang.com

haiku
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 166 คน [?]

บทความทั้งหมด