สิงห์ยิ้มยาก



ชื่อภาพ : สิงห์เมืองบะหม่า
สถานที่ : วัดพระหยก ย่างกุ้ง
เทคนิค : สีน้ำบนกระดาษ
ขนาด : ๒๔ x ๓๒ เซนติเมตร




สิงห์ยิ้มยาก



วัดในพม่า ถ้าไม่มีสิงห์ยืนผงาดอยู่หน้าวัด คงจะเป็นเรื่องแปลกพิลึกเชียวล่ะ


สิงห์เมืองพม่าตัวใหญ่โต และประดับเครื่องทรงอลังการงานสร้างมาก ต่างจากสิงห์เมืองไทย


ของเราตัวเล็กจ้อย หางงอน ถึงจะมีเครื่องทรง ก็จะเน้นสีขาวเรียบ ๆ ไม่ค่อยลงสีทองอะร้าอร่าม


มีแปลกอยู่แห่งหนึ่ง คือสิงห์ที่ยืนเฝ้าเชิงบันไดทางขึ้นวัดพระธาตุกองมู เมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน ถิ่นของชาวไทใหญ่ ที่พุทธศิลป์ได้รับอิทธิพลจากพม่ามาเต็มเปี่ยม ถึงขนาดเอาพระพุทธรูป (เจ้าพาราระแข่ง) จากมัณฑะเลย์ลงแพล่องแม่น้ำมาไว้ที่วัดกลางเวียง (รักษาคตินิยมทรงมงกุฏชฏาอะร้าอร่าม แบบเจ้าพารามหามัยมุนีไม่ผิดเพี้ยน)


แต่สิงห์คู่นี้ไฉนแชเชือนคตินิยมดั้งเดิมไปสิ้น


เห็นแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าทำไมไม่มีสีทองรองเรืองเลยสักนิด รักษาไว้แต่รูปลักษณ์อันใหญ่โต และก็แถมหน้าตาถมึงทึงดุดัน น่ากลัวมาก ๆ ยิ่งมีดอยกองมูอันสูงตระหง่านทะมึนเป็นฉากหลัง มืดค่ำผมไม่ค่อยกล้าเยี่ยมกรายไปแถวนั้นหรอกครับ


สิงห์วัดพม่านั้น ใหญ่กำยำก็จริง แต่ส่วนมากเป็นสิงห์ ยิ้มง่าย ใจดี...


ว่าแต่ว่าสิงห์มาอยู่หน้าวัดได้อย่างไร คตินิยมนี้มาจากไหน *มีผู้รู้ท่านว่ามาจากตำนาน เรื่อง “สีหพาหุกุมาร” ที่ได้รับอิทธิพลมาจากลังกา เล่าเรื่องพระเจ้าแผ่นดินในอินเดียชื่อพระเจ้าวังคราช พระองค์มีธิดาองค์หนึ่งชื่อ สุปราชบุตรี เกิดเหตุหลงไปอยู่ในป่า ได้พบกับพญาราชสีห์มาช่วยชีวิตไว้ ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกันและมีลูกชายชื่อสีหพาหุกุมาร และลูกสาวชื่อสีหสิมพลี ต่อมาพระธิดาได้พาลูกหนีกลับเข้ามาอยู่ในเมือง พระยาราชสีห์เที่ยวตามหาลูกเมียด้วยความโกรธ ไล่ทำร้ายผู้คน แม้พระเจ้าวังคราชให้คนไปปราบ ก็ถูกพญาราชสีห์ฆ่าตายหมด


พระสีหพาหุกุมารซึ่งโตเป็นหนุ่มแล้ว จึงอาสาพระเจ้าตาไปปราบพญาราชสีห์เอง เมื่อทั้งสองฝ่ายพบหน้ากัน ลูกจำพ่อไม่ได้ แต่พ่อจำลูกได้ จึงไม่ทำร้าย แต่พระสีหพาหุกุมารผู้ลูกกลับคิดว่าตัวเองได้ที จึงฆ่าพญาราชสีห์ตาย พระเจ้าตาจึงยกบัลลังก์ให้ครอบครอง จนเวลาต่อมา ได้ทราบความจากพระนางสุปราชบุตรีผู้เป็นมารดาว่า พญาราชสีห์ที่ตัวเองฆ่านั้นคือบิดาตนเอง ก็เศร้าโศกเสียพระทัยและอยากไปไถ่บาป จึงคิดสร้างรูปสิงห์ไว้เพื่อเคารพบูชา แต่กลัวประชาชนจะติฉินนินทาว่าไหว้สัตว์เดรัจฉาน


พระองค์จึงออกอุบาย สร้างรูปสิงห์ไว้ที่หน้าวัด เวลาเดินผ่านก็ยกมือไหว้ ผู้คนเห็น ก็เข้าใจว่าไหว้พระพุทธรูปที่อยู่ในวัด จึงเป็นตำนานที่มาของการสร้างสิงห์ไว้ที่หน้าวัดในลังกา ก่อนจะแพร่เข้ามานิยมในพม่า และเพิ่มความสำคัญให้เป็นสัตว์ผู้ดูแลศาสนสถานอีกด้วย


ฟังตำนานเรื่องนี้ ผมก็สะดุดใจอีกน่ะแหละ ว่าทำไมที่วัดพระเจ้าตนหลวงพะเยา หน้าวัดนอกจากมีสิงห์เฝ้าแล้ว ยังมีเสือและลิงอีกต่างหาก มีใครรู้เหตุผลบ้างครับ


* เรียบเรียงจากประวัติศาสตร์และศิลปะพม่า ภภพพล จันทร์วัฒนกุล เขียน


เรื่องและภาพ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล
จากคอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ" นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๒๖ ต.ค. ๒๕๕๗
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์









คุณพิบูลศักดิ์ลงภาพสีน้ำงาม ๆ และถ้อยคำเพราะ ๆ ใน เฟซบุค
เห็นแล้วชอบมาก ๆ ขออนุญาตเอามารวมกับบล็อกนี้ด้วยกันค่ะ











อย่ายึดมั่นถือมั่นเลยเพื่อนรัก
ภาพจำหลัก รอยอาลัย ใครคนหนึ่ง
หากสวยงามสดใสในคำนึง
ก็ซาบซึ้งเพียงพอ ไม่ขอใด


เพราะพรุ่งนี้ ถึงแม้..ไม่มีฉัน
ดวงตะวันก็ยังคงวาดฟ้าใหม่
อรุณรุ่ง อัสดงลา ลับตาไกล
เก็บน้ำตาเธอไว้เถิดเพื่อนรัก


เพราะพรุ่งนี้ถึงแม้ ไม่มีเธอ
ก็เสมอ มีตะวันวาดฟ้าใหม่
อรุณรุ่งอัสดงลา ลับตาไกล
เก็บน้ำตาเธอไว้ เถิดที่รัก !


ภาพ แผ่วหนาวลมเหนือ(เมื่อวานนี้)
สีน้ำบนกระดาษสเก๊ตซ์canson 300 gm
ขนาด 21 x 29.7 cm.














ปายยังรอ


บัวตอง กองลอย แม่สะเรียง
แม่อุคอ เคยเคียง คลอถวิล
เขาสูง ทุ่งดอกไม้ แม่สุรินทร์
น้ำเพียงดิน ดินเพียงดาว คืนหนาวใจ


ขึ้นกองมู สู่ปางอุ๋ง ทุ่งหมอกเหมย
ไฉนเลย แม่ละนา มาลืมได้
ถ้ำน้ำลอด เมืองผีแมน แสนยาวไกล
ปางมะผ้า มาร้องไห้ ปายยังรอ......


ภาพประดับจากหนังสือ"ฉันคือสวนดอกไม้ในความเดียวดายของเธอ"
อย่าลืม เปิดเพลง"ปายยังรอ"คลอเคียงชม















ปายในฝันนั้นเคยมีเธอ
ปายในฝน คนในฝัน

ดั่งลมหนาวราน ผ่านมาวูบเดียว
ดั่งรวงข้าวเรียวพบเคียวเกี่ยวรวง
กรีดฝากรอยหวาน ในใจหนึ่งดวง
ดั่งลมหนาวลวง ก่อกองไฟปรารถนา


ตกหลุมรักปาย ตั้งแต่แรกเจอ
ตกหลุมรักเธอ เมื่อแรกสบตา
โอ้ปายในฝัน ที่ปรารถนา
เพียงลมพัดพา รักครั้งนั้นมาเพื่อลากัน


กลับมาปายวันนี้ กลับไม่มีวันนั้น
มีแต่ปายในฝัน ฝันในหยาดน้ำตา


เหลือเพียงปายในฝน ไม่มีคนในฝัน
พบเพียงคืนและวัน ที่กองไฟดับลับลา


วอนให้ปายในฝน ช่วยล้างใจคนมีน้ำตา
อยากจำไว้เพียงว่า ปายในฝันเคยมีเธอ


คำร้องทำนองโดย พยัต ภูวิชัย ขับร้องโดย หมีปาย (อธิราช จิตเลขา)















แม่น้ำสายนั้นชื่อปรารถนา
มีน้ำตกจากดวงตา
ท่วมดาว ท่วมฟ้า ป่าฝัน














บุระลำปาย-ยังรอ


ทิวทัศน์ด้านหลังบุระลำปาย
หมอกหมายซุกไออุ่นโอบขุนเขา
เนินทรายสายน้ำ ปายลำเนา
เสมือนเหย้าเรือนรักพิงพักใจ


๑๔ ๑o ๓o

ทิวทัศน์หลังบุระลำปาย ๑๔ ๑o ๓o
สีน้ำบนกระดาษแคนสัน 300 gm
ขนาด 29 x 42 cm..



ฟังเพลงปายยังรอ และดูภาพสถานที่จริงประกอบแล้วรีบตัดสินใจจองห้องแต่เนิ่นๆนะครับ ผ่านทางอโกดาก็สะดวก แต่หากหากคุณเป็นแฟนเพจพิบูลศักดิ์ ละครพล โทรติดต่อคุณวีรวรรณ จิตเลขา(น้องแมง) o๘๑-๗๕๔-๑๓๕๔ บอกชื่อเสียงเรียงนามและชื่อที่ใช่้ในเฟซบุคของคุณ แค่นั้นก็เรียบร้อย คุณจะได้รับส่วนลดพิเศษสุด-สุดทันที(เบยยย)


ปายยังรอ








บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณsomjaidean100

Free TextEditor

`



Create Date : 01 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2557 23:45:49 น.
Counter : 1658 Pageviews.

0 comments
วัดศรีสุภณ Wat Si Suphon, Nakhon Ratchasima. nanakawaii
(21 มี.ค. 2567 00:48:34 น.)
Till I Wake by Harry T. Burleigh ปรศุราม
(2 มี.ค. 2567 10:22:13 น.)
: แสงแห่งธรรม : กะว่าก๋า
(28 ก.พ. 2567 05:47:45 น.)
: ทำจนรู้ธรรม : กะว่าก๋า
(27 ก.พ. 2567 05:01:07 น.)

Haiku.BlogGang.com

haiku
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]

บทความทั้งหมด