เชียงรายยังรัก




ชื่อภาพ : โบสถ์สวยที่ประตูสลี
สถานที่ : แยกประตูสลี อ.เมือง เชียงราย
เทคนิค : สีน้ำบนกระดาษ
ขนาด : ๑๑ x ๑๕ นิ้ว




เชียงรายยังรัก



ตั้งใจจะเขียนรำลึกถึงเชียงรายที่รักติดต่อกันไป แต่เกรงผู้อ่านจะเบื่อ ก็สลับสถานที่อื่น ๆ ตามจังหวะเหมาะสม


ผมเขียนถึงโรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊ค ทางผ่านริมฝั่งแม่น้ำกกแห่งวัยฝันวันเยาว์ของผมไปแล้ว และสัญญากับตัวเองว่าจะต้องกลับไปสเก็ตช์ภาพโบสถ์ประตูสลี (คริสตจักร ๑ เวียงเชียงราย) ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า เรือนจำเก่า ตึกบนดอยงำเมืองและอีกหลายแห่งที่ผมผูกพันตรึงใจ


ไปเที่ยวหลังนี้ ได้คุยกับคนเก่าคนแก่ที่นั่น ผมได้รับความรู้เพิ่มเติมว่า 'ระฆัง' ของ คริสตจักร ๑ แห่งนี้ และระฆังของโรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊คที่ชาวเชียงรายก่อนเก่าเรียกกันว่า 'โฮงยาฝรั่ง' นั่น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง


เพราะเขาใช้เป็นสัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศแทนหวอครับ พอมีเครื่องบินทหารญี่ปุ่นบินมาทิ้งระเบิดจุดยุทธศาสตร์สำคัญ บาทหลวงก็จะสั่นระฆังเตือนภัยให้ชาวบ้านวิ่งลงหลุมหลบระเบิด


สะพานข้ามน้ำกกโดนระเบิดเสียหาย แต่สถานที่สามแห่งที่ผมเอ่ยชื่อมานี้กลับไม่เป็นไร ทั้งที่เห็นเด่นสะดุดตา ทหารเก่าผู้เล่าเรื่องนี้บอกว่า ถ้าอยู่ที่สูงมองลงมาจะเห็นศาลากลางจังหวัดเป็นรูปตัว l และโรงพยาบาลจะเห็นเป็นรูปตัว L ส่วนคริสตจักร ๑ รูปแบบสถาปัตยกรรมเห็นเป็นรูปไม้กางเขน


ตามประวัติ 'โบสถ์คริสตจักรที่ ๑ เวียงเชียงราย' หลังนี้ สร้างด้วยเงินบริจาคของคณะเพรสไบทีเรียนมิชชัน แห่งสหรัฐอเมริกาบนที่ดินบริเวณประตูสลี (อ่านว่า สะ-หลี) ใช้เวลาในการปรับพื้นที่เตรียมการและก่อสร้างราว ๔ ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. ๑๙๑๔


ผู้อำนวยการสร้างโบสถ์หลังนี้คือ นายแพทย์วิลเลียม เอ. บริกส์ (William A. Briggs) มิชชันนารีคนสำคัญที่ทำประโยชน์ให้แก่เมืองเชียงรายมากมาย เช่น การก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊ค โรงเรียนและบ้านพักมิชชันนารี ตลอดจนศาลากลาง และเรือนจำประจำจังหวัดเชียงราย


โบสถ์นี้มีแผนผังอาคารเป็นรูปกางเขน (Latin Cross) รูปแบบทางสถาปัตยกรรมและเทคนิคการก่อสร้างใกล้เคียงกับอาคารหลังแรกของโรงพยาบาลโอเวอร์บรู๊ค (ปัจจุบันใช้เป็นอาคารอำนวยการ) ที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล (Colonial Style) โดยต่างมีจุดเด่นที่หอระฆังด้านหน้าอาคาร (Bell Tower)



คนเก่าแก่ผู้เล่าเรื่องเชื่อว่า "เพราะทหารญี่ปุ่นมองเห็นไม้กางเขนจากฟ้า นี่แหละคือมหัศจรรย์ให้โบสถ์ โรงพยาบาล ศาลากลาง และเรือนจำ รอดพ้นจากการถูกระเบิดพังพินาศ"


"แต่กระนั้นเชียงรายก็ไม่พ้นภัยลูกพระอาทิตย์อยู่ดี พอทหารญี่ปุ่นยาตราทัพมา คริสตจักรที่ ๑ เวียงเชียงรายได้ถูกปิด ใช้เป็นค่ายพักของทหารญี่ปุ่น


"ช่วงนั้นชาวคริสเตียนในเชียงรายต้องนมัสการตามบ้านสมาชิกอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ"


"ยังเหลือร่องรอยบูชิโดไว้ให้รำลึกความหลัง คือที่ผนังด้านทิศใต้ของโบสถ์ซึ่งจะมีคราบผลึกเกลือเกาะติดอยู่ ทหารญี่ปุ่นยึดโบสถ์เป็นที่เก็บเกลือ คิดดูเถอะ สมัยสงครามเกลือเป็นสิ่งมีค่ากว่าทองคำนะ"


"ทำไมหรือครับ" ผมสงสัย


"เพราะทองคำกินได้ที่ไหนเล่า หนักก็หนัก แต่ลองไม่มีเกลือสิ เสบียงอาหารเน่าหมด กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคุณ..."


ได้ฟังแล้ว ผมก็บรรลุสัจธรรม


เรื่องและภาพ โดย พิบูลศักดิ์ ละครพล
จากคอลัมน์ "ผ่านตามาตรึงใจ" นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์ ๖ ต.ค. ๒๕๕๖
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์







บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณsomjaidean100

Free TextEditor




Create Date : 08 ตุลาคม 2556
Last Update : 8 ตุลาคม 2556 19:33:13 น.
Counter : 2465 Pageviews.

0 comments
가고파 (Hope to go) by KIM Dong-jin (김동진) ปรศุราม
(20 มิ.ย. 2568 10:45:44 น.)
สวนรถไฟ : นกเฉี่ยวบุ้งใหญ่ ผู้ชายในสายลมหนาว
(19 มิ.ย. 2568 13:46:10 น.)
Out Of The Voids (Cosmic Horror A.I.Generated Concept art) สมาชิกหมายเลข 854948
(15 มิ.ย. 2568 08:04:33 น.)
Di Provenza il mar, il suol from La traviata by Giuseppe Verdi ปรศุราม
(9 มิ.ย. 2568 10:59:43 น.)

Haiku.BlogGang.com

haiku
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 166 คน [?]

บทความทั้งหมด