ฉายเดี่ยว 22 วิธีเติมพลังชีวิต สนิทกับตัวเอง : ใช้ชีวิตอย่างมีอิสระและเข้มแข็งให้ถูกทาง


ฉายเดี่ยว 22 วิธีเติมพลังชีวิต สนิทกับตัวเอง
ผู้เขียน : Yoshihiko Morotomi
ผู้แปล : ธนัญ พลแสน
หนา 176 หน้า

ท่ามกลางสังคมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คุณก็ต้องใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกับคนอื่น
ที่ทำงานก็ต้องทำงานร่วมกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน
ที่โรงเรียนก็ต้องเจอเพื่อนร่วมชั้นเรียน รุ่นพี่ และรุ่นน้อง

บ.ก. คิดว่าคุณเองก็น่าจะเคยรู้สึกเหนื่อยหน่ายหรืออึดอัดใจกับการคบหากับคนรอบข้าง
- ต้องไปดูหนังกับเพื่อน ทั้งที่อยากพักผ่อนอยู่บ้าน
- ต้องคุยกับคนอื่นในเรื่องที่เราไม่อยากคุย
- อยากใช้ชีวิตคนเดียวบ้าง แต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่
- มีงานอื่นต้องทำ แต่ไม่กล้าบอกหัวหน้า
- ต้องดูแลลูกและสามีจนไม่มีเวลาส่วนตัว
ฯลฯ

ในความเป็นจริง คนเราทุกคนต้องการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ และอยากเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่เพราะอยากเป็น "คนดี" ของครอบครัวและคนรอบข้าง และไม่อยากถูกคนอื่นมองว่า "ยายนี่ไม่สนใจใคร" หรือ "หมอนี่ไม่แคร์คนอื่น" จึงจำยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับคนรอบข้าง แต่สะสมความอัดอั้นตันใจเอาไว้เรื่อย ๆ สุดท้ายก็กลายเป็นการใช้ชีวิตไปตามกระแสของคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ลืมความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวหากต้องอยู่คนเดียว

"ฉายเดี่ยว 22 วิธีเติมพลังชีวิต สนิทกับตัวเอง" เล่มนี้ แนะนำ 22 วิธีใช้ชีวิตอย่างมีอิสระและเข้มแข็งให้ถูกทาง โดยจิตแพทย์ชื่อดังในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ได้สนิทกับตัวเอง กล้าที่จะเป็นตัวเองโดยไม่ต้องเลียนแบบใคร และจัดการความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้อย่างลงตัวโดยไม่ต้องฝืนใจอีกต่อไป

เนื้อหาช่วงเริ่มต้นแนะนำเคล็ดลับการครอบครอง "หัวใจอิสระ" ที่จะให้คุณเลิกใช้ชีวิตที่ต้องคอยแคร์คนอื่นและคิดเสียใหม่ว่า "คนอื่นจะมองอย่างไรก็ช่าง" แล้วจัดระเบียบความสัมพันธ์ให้เป็น โดยแยกให้ออกว่า ตัวเราก็ตัวเรา คนอื่นก็คนอื่น และชวนให้คุณมากำกับ "บทละครชีวิตของคุณ" ให้เป็นงานชิ้นเอก โดยตระหนักอยู่เสมอว่าจะใช้ชีวิตที่มีโอกาสแค่ครั้งเดียวอย่างไร และจะสร้างชีวิตของตัวเองอันเป็น "ผลงานที่ไม่ซ้ำแบบใคร" ได้อย่างไร

ต่อมา มาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็งให้ถูกทาง อย่างเช่น ลองถามตัวเองว่า “การที่เราติดต่อกับเพื่อนหรือแฟนวันละหลาย ๆ ครั้ง ทำให้ชีวิตของเราไปผูกติดกับเขาหรือเปล่า” ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ก็ควรเลิกติดต่อกับเขาบ้าง อาจจะใช้วิธีกำหนดวันห้ามใช้โทรศัพท์หรือตอบอีเมล เฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น การได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวบ้างและลิ้มรสประสบการณ์อันเจ็บปวดด้วยตัวเอง จะทำให้คุณแกร่งขึ้น

หลังจากนั้น มาตีสนิทกับตัวเองด้วยการฟังเสียงหัวใจของตัวเองว่าจริง ๆ แล้ว เราต้องการอะไร ในเวลาที่คุณมีปัญหาหรือสับสนกับชีวิต ให้ลองขอคำปรึกษาจากตัวเองดู เพราะคุณคือที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมของตัวคุณเอง โดยไม่ปิดกั้น "เสียงกระซิบภายในใจ" ไม่ว่าในหัวของคุณจะมีความคิดอะไร “ทั้งแง่บวกและแง่ลบ” ก็ขอแค่ยอมรับและเฝ้ามองมันก็พอ

เพราะการฝืนคิดแง่บวกในเวลาที่เรามีความรู้สึกแง่ลบอยู่ บางทีจะให้ผลตรงกันข้าม เช่น การบอกตัวเองว่า “เอาล่ะ ฉันจะเลิกหดหู่” อาจจะยิ่งทำให้จิตใจหดหู่มากขึ้นกว่าเดิม ลองหันมาใช้วิธีสร้างสวิตช์ปรับเปลี่ยนความรู้สึกในเวลาที่ชีวิตคุณผิดหวังหรืออกหัก เช่น ระงับอาการหงุดหงิดใจด้วยอโรมาจำพวกมินต์ หรือรู้สึกโล่งขึ้นด้วยการอัดตุ๊กตาหมี เป็นต้น

สุดท้าย ลองมาค้นหาพื้นที่ส่วนตัวที่ทำให้คุณมีสมาธิ เพื่อพูดคุยกับตัวเองอย่างลึกซึ้ง โดยในหนังสือได้ยกตัวอย่างพื้นที่ส่วนตัว 5-6 แห่ง และได้แนะนำหลากหลายวิธีเติมพลังให้วันใหม่ด้วย "ธรรมชาติ" เอาไว้ด้วยค่ะ

พูดถึงเนื้อหาโดยรวมของหนังสือไปแล้ว ต่อไป บ.ก. จะขอยกตัวอย่างเทคนิคสัก 2 เทคนิค

เทคนิคที่ 8 เข้มแข็งให้ถูกทางดีกว่า

คนสมัยนี้ เวลาที่ไม่มีเพื่อนกินข้าวเที่ยงหรือไม่มีใครมาชวนไปกินข้าวด้วย จะรู้สึกหดหู่และโดดเดี่ยว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคซึมเศร้าหรือไม่อยากไปทำงานได้ และนับวันคนประเภทนี้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาการแบบนี้เรียกว่า “กลุ่มอาการติดเพื่อนกินข้าว”

หากจะเอาชนะอาการแบบนี้ได้ ผู้เขียนแนะนำให้คุณต้องลองสำรวจร้านเจ๋ง ๆ ไว้ในเวลาที่ออกไปกินข้าวคนเดียว โดยลองสำรวจร้านที่อาหารอร่อยและราคาไม่แพงมากนัก เมื่อถึงคราวถัดไป คุณก็ลองเอ่ยปากชวนคนอื่นดู เพราะการที่คุณเป็นทุกข์เกิดมาจากเอาแต่รอคนอื่นชวน หรือแม้ว่าคุณชวนคนอื่นแล้ว คนอื่นไม่ไปด้วย ก็ให้ไปกินข้าวที่ร้านนั้นเพียงคนเดียว ด้วยความรู้สึกพึงพอใจที่คุณมีร้านดี ๆ นั่งทานข้าวกลางวันอร่อย ๆ ก็พอ


เทคนิคที่ 9 ประสบการณ์ "การใช้ชีวิตอยู่คนเดียว" จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

...เวลาที่เห็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย ผมจะรู้สึกว่า นักศึกษาที่อยู่กับพ่อแม่ดูเป็นเด็กกว่านักศึกษาที่มาจากต่างถิ่นและใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง...

บ.ก. เห็นด้วยกับคำพูดของผู้เขียนเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะ บ.ก. เองก็เคยใช้ชีวิตอยู่หอพักคนเดียวตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย และคิดว่าตัวเองเข้มแข็งขึ้นมากและได้รับประสบการณ์ชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิต เรื่องเรียน หรือเรื่องเพื่อน

แม้ว่าการอยู่กับพ่อแม่จะมีข้อดีอย่างเรื่องช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและรู้สึกอบอุ่น แต่คุณก็อาจจะพลาดโอกาสที่จะได้เผชิญปัญหาและผ่านพ้นอุปสรรคได้ด้วยตนเองอย่างภาคภูมิใจและได้ค้นพบเพื่อนแท้ที่จะอยู่เคียงข้างคุณ

นอกจาก 2 ใน 22 เทคนิคที่ บ.ก. ยกมาเล่าเป็นตัวอย่างแล้ว ยังมีเคล็ดลับและแนวคิดที่น่าสนใจอีกมายมาย แม้ชีวิตของคุณจะรายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูง สังคม ข่าวสาร หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่คุณก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นตัวของตัวเอง แล้วคุณจะไม่ลอง “ฉายเดี่ยว” ดูบ้างเหรอคะ


---------------------------------------------------------
แวะชม โปรโมชั่นเร้าใจ สุด สุด ของสำนักพิมพ์ ส.ส.ท. ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 16






Create Date : 19 กันยายน 2554
Last Update : 19 กันยายน 2554 12:11:01 น.
Counter : 5410 Pageviews.

4 comments
  
เสียเงินซื้อเล่มนี้แน่นอนค่ะ ^^
โดย: kaew (kosak ) วันที่: 19 กันยายน 2554 เวลา:10:24:42 น.
  
ข้อมูลที่มีประโยชน์มาก หวังที่จะเห็นกระทู้เพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้! Motorcycle Part Kits Motorcycle
โดย: Black Friday 2011 42 LCD tv sales (watseo ) วันที่: 25 กันยายน 2554 เวลา:20:01:14 น.
  
ฉันคิดอย่างนั้น ผมคิดว่าบทความของคุณจะให้คนเหล่านั้น remending ดี และพวกเขาแสดงจะขอบคุณให้กับคุณในภายหลังHusqvarna Snowking Snow Equipment
โดย: Black Friday 2011 42 LCD tv sales (watseo ) วันที่: 25 กันยายน 2554 เวลา:20:16:38 น.
  
คุณ Kaew ขอบคุณนะคะที่เลือกหนังสือเล่มนี้

คุณ Black Friday ขอบคุณค่ะและรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่บทความและเนื้อหาในเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยผลักดันให้ใครหลายคนมีชีวิตที่ดีขึ้น และกล้าฉายเดี่ยวอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขค่ะ
โดย: textbook วันที่: 14 ตุลาคม 2554 เวลา:11:55:31 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Book4u.BlogGang.com

textbook
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]

บทความทั้งหมด