มีเงินหนึ่งพันบาทอุ้มก็สามารถนั่งรถไฟมากราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธที่จ.ขอนแก่นได้


ด้วยความที่เชื่อมั่นในการรถไฟแห่งประเทศไทย สำหรับการเดินทางมาจ.ขอนแก่นคนเดียวจะปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง
ก็เลยเป็นที่มาของเอนทรี่ฉบับคุณาลัย-อาจารย์ใหญ่ หลวงพ่อคูณ ปุริสุทโธเจ้าค่ะ
ด้วยความที่เคยไปให้หลวงพ่อคูณเขกกะโหลกตั้ง 2 ทีน่ะค่ะ



ดังนั้น เมื่ออุ้มทราบข่าวว่าวันที่ 29 มกราคม 2562
จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคุณ ปริสุทโธ)
แต่วันนั้นอุ้มมาไม่ได้
พอทราบว่าข่าวจะมีการฟังสวดพระอภิธรรมงานหลวงพ่อคูณวันที่ 21-30 มกราคม 2562
ในใจก็รำลึกนึกถึงพระคุณของหลวงพ่อคูณว่าถ้าหนูมีบุญขอให้หนูได้มากราบท่าน
พอเคลียคิวว่างลงตัวที่วันที่ 24-25 มกราคม 2562 อุ้มจึงถามอากู๋ (กูเกิ้ล) ว่า
รถไฟจะไปจังหวัดขอนแก่นมีเที่ยวเย็นรอบดึกมีกี่โมง แล้วราคาเท่าไหร่
ได้ความว่าประมาณสองทุ่ม ราคา 200 กว่าบาท
เพราะฉะนั้นเสร็จจากงานเปิดตัวยูเซอรินเสร็จ
รีบแจ้น(ไปจองตั๋ว)นั่งรถเมล์สาย 14 มาลงป้ายประปาฯ เดินอีกนิดหน่อยก็ถึงสถานีรถไฟสามเสน
พอถึงสถานีรถไฟสามเสนขอซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวที่ดึกที่สุด
จึงได้ตั๋วรถไฟไปขอนแก่นขบวนที่ 133 เวลา 20.59 น. BINGO โชคดีที่มีที่นั่งว่างพอดี
ราคาตั๋วรถไฟชั้น 3 พัดลม ราคา 187.-บาท (ถูกกว่าที่อากู๋บอก) ใช้เวลาเดินทาง 9 ชั่วโมง
จะตีตั๋วกลับวันที่ 25 มกราคม 2562 พร้อมกัน
พนักงานฯ บอกว่าให้ไปดูอีกทีที่ขอนแก่นดีกว่า (คงคิดว่าเดี๋ยวอุ้มเกิดติดลมฟังสวดพระอภิธรรมยาว)
แต่ไม่เป็นเช่นนั้นดอกคิวเดินสายอุ้มวางยาวไปจนถึง 31 มกราคม 2562 ไม่มีคิวโดด



โชคดีที่เตรียมการณ์มาอย่างดี มีเสื้อแขนยาวพร้อมหมอนผ้าห่ม BLOGGANG เผื่ออากาศเย็น
อากาศเย็นมากจริงๆ ขอ-บอก ถ้าจะมารถไฟแบบอุ้มให้เตรียมแบบอุ้มเลยนะคะ
(เพราะมีพี่ผู้หญิงมาคนเดียวอายุ 61 ปี มาชุดเดียวเสื้อแขนสั้นสีขาวกางเกงขาว บ่นอุบเลยว่า
รู้งี้น่าจะหอบเสื้อหนาวใส่ถุงมาด้วย น่าสงสารแกนอนหนาวทั้งคืน)

เนื่องจากเป็นขบวนรถไฟสายสั้นๆ ผู้คนนั่งเต็มพอดีไม่มียืน (เนื่องจากไม่ใช่วันหยุด)
มีป้ายกั้นไว้สำหรับที่นั่งพระภิกษุสงฆ์ด้วยค่ะ...เดี๋ยวนี้ขึ้นรถไฟจะต้องนั่งตามเลขที่นั่งนะคะ
จะมามั่วนั่งแบบแต่ก่อนไม่ได้ คืนนั้นอุ้มก็เห็นหลายคนพอเห็นที่นั่งว่างนั่งเลยไม่สนใจ
พอเจ้าของที่นั่งมาก็จะต้องลุกให้..จะมาบอกว่าฉันมาก่อนได้เลือกก่อนใช้ไม่ได้นะคะพี่น้อง
เพราะด่านแรกแค่พนักงานมาตรวจตั๋ว..
ถ้าเขารู้ว่าไม่ใช่ที่นั่งของคุณพนักงานจะบอกทันทีเลยค่ะ พนักงานรถไฟใส่ใจผู้โดยสารเป็นอย่างดี

งานนี้อุ้มเตรียมพาวเวอร์แบ๊งหอบมา 2 ก้อน หูฟังพร้อม ยูทูปพร้อม เรียกว่าขนทุกอย่างใส่เป้
ได้เวลารถไฟออกก็ใส่หูฟังเพลงที่ตัวเองโหลดไว้แค่นี้เดินทางคนเดียวก็มีความสุข
เสบียงอาหารกินระหว่างก็พร้อม กินง่ายขนมกอบแกบถุงใหญ่ น้ำเปล่าขวดใหญ่ กาแฟตุนไว้ 2 กระป๋อง

CUT ไว้ถึงสถานีรถไฟจังหวัดขอนแก่นในเวลา ตีห้าครึ่งตามเวลาที่บอกในตั๋ว
แล้วอุ้มก็เดินไปที่จำหน่ายตั๋วล่วงหน้าตีตั๋วกลับไว้เลยว่ากลับคืนนี้ 25 ม.ค. 62 เที่ยวสามทุ่ม
มีไหมคะ ...โชคดีมีอีกส่งบัตรประชาชนให้...ได้ตั๋วกลับแล้วก็หาปั้มน้ำมันอาบน้ำอาบท่าแปรงฟัน
สอบถามว่าจะมีรถบัสฟรีไปส่งที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นฟรีแต่เที่ยวแรกเวลา 08.00 น.
นี่เพิ่งจะตีห้าครึ่งเอง...
เพราะฉะนั้นในสมองอุ้มคิดอยู่สองอย่างคือหาข้าวเช้ากินกับไปไหว้ศาลหลักเมืองก่อนเป็นลำดับแรก
ถามเจ้าหน้าที่ว่ามีรถไปตลาดไหม
เจ้าหน้าที่บอกมีรถบัสติดแอร์ราคา 15 บาทตลอดสายติดแอร์วิ่งรอบเมือง
ขอบคุณเสร็จก็เดินเลี้ยวขวามีรถจอดคนรอขึ้นรถเต็มพอดี
รถวิ่งมาจอดที่ บขส.ที่ให้ลงมาขึ้นรถฟรีที่จะไปกราบหลวงพ่อคูณ
แต่เพิ่งหกโมงเช้าไปหาข้าวกินก่อน (หาอะไรทำดีกว่ามารอรถมาแปดโมงเช้า)



พอรถบัสวิ่งผ่านประตูเมืองจำได้คลับคลาว่าเคยมาจังหวัดขอนแก่นเมื่อ 10 ปีที่แล้วนี่นา
จำได้รางๆ ว่าเดี๋ยวก็จะถึงศาลหลักเมืองแวะสักการะที่ศาลหลักเมืองก่อนกินข้าวดีกว่า
ว่าแล้วอุ้มก็กดกริ่งลงที่ศาลหลักเมืองเลยค่ะ



ประวัติของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น เดิมอยู่บ้านโนนเมือง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอชุมแพ 1 กิโลเมตรบริเวณโดยรอบเป็นเนินดินสูงมีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่
ล้อมรอบด้วยคลองสองชั้นมีสะพานข้ามและมีทางเข้าออกทางเดียว
ชาวอำเภอชุมแพ เรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า "กู่”
ก่อนจะไปถึงกู่จะมีรูปพระนอนสลักลงบนหิน ปัจจุบันบริเวณนี้เป็นวัดป่า



เมื่อปี พ.ศ.2498 ประมาณเดือน 4
มีคนแก่มาเล่าให้พระราชสารธรรมมุนี(หลวงพ่อกัณหา) เจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น วัดศรีนวล
คนแก่คนนั้นเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งเขาได้ไปนอนพักที่โรงนาฝันประหลาด
ฝันเห็นคนแก่นุ่งห่มชุดขาวบ่นว่า "อยากจะไปอยู่ในเมือง”
คืนที่สองฝันอีกว่า "อยากจะไปอยู่ในเมือง”
และพูดต่อว่า "อยากจะไปอยู่เป็นมิ่งขวัญของเมือง” พอคืนที่สามก็ได้ฝันลักษณะเดิมอีก
จากนั้นพอตื่นขึ้นก็รู้สึกว่าร้อนรนอยู่ไม่ได้นอนไม่ได้ ไม่รู้จะไปเล่าให้ใครฟังได้
ก็เลยเดินทางเข้าในเมืองมาเล่าความฝันให้ท่านเจ้าคุณฟัง
เมื่อท่านเจ้าคุณได้ฟังแล้วจึงได้ถามไปว่า
ที่ลักษณะตรงนั้นเป็นอย่างไร
คนแก่ตอบว่า เป็นกู่เก่ามีป่าขนาดใหญ่ ต้นไม้ขึ้นหนาทึบมีเสาหิน และใบเสมาเป็นจำนวนมาก



ท่านเจ้าคุณก็เลยออกปากว่า ถ้าเป็นมิ่งเป็นขวัญของเมือง ก็ต้องเป็นหลักเมือง
ประกอบว่าจังหวัดขอนแก่นยังไม่มีหลักเมือง
ท่านเจ้าคุณจึงเรียนให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น คือ หลวงพินิจ
และได้มอบหมายให้ฝ่ายพระมหาสุคนธ์ พระอีกจำนวนหนึ่งพร้อมปลัดจังหวัด
ไปอัญเชิญหลักเมืองออกมาจากกู่
แต่เกิดอาเพทฝนตกหนักมีฟ้าผ่าลงมาโดนเสาหลักเมือง (ปัจจุบันเป็นเสาหลักเมืองอำเภอชุมแพ)
รถเกิดติดหลุ่มไม่สามารถเดินทางต่อไปได้
ก็เลยพูดกันว่า "เฮาเป็นผู้น้อย ผู้ใหญ่บ่ได้มาเพิ่นเลยบ่ไป”
จึงได้อัญเชิญหลักเมืองลงไว้ที่วัดพระนอน แล้วกลับมาเล่าเหตุการณ์ให้ท่านเจ้าคุณฟัง



ท่านเจ้าคุณเลยไปอัญเชิญด้วยตัวท่านเอง ได้นำหมอลำ หนัง มาฉลองที่วัดพระนอน 1 คืน
แล้วค่อยอัญเชิญออกมาสี่หลัก
หลักที่หนึ่งอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น หลักที่สองอยู่ที่ศาลหลักเมืองอำเภอชุมแพ



ส่วนอีกสองหลักที่เหลืออยู่ที่หน้าโบสถ์วัดศรีนวล จังหวัดขอนแก่น
ลักษณะหลักเมืองเป็นเสาหินทราย รูปทรง 8 เหลี่ยม สูงประมาณ 3 เมตร มีลายสลักตัวหนังสือขอม



พิธีตั้งเสาหลักเมือง
ได้มีการนิมนต์พระมาสวดยกตั้งตามแบบพิธีพุทธ ณ ที่สนามศาลาสุขใจ
ท่านเจ้าคุณได้ตั้งชื่อว่า "ศาลเทพารักษ์หลักเมือง” มีนามย่อว่า "อินทร์ตา”
การก่อสร้างได้ร่วมกันสร้างทั้งคนจีนและคนไทย
นอกจากนี้ได้อัญเชิญอากงอาม่าอยู่รวมกันกับหลักเมือง
คนจีนเรียกว่า "ศาลหลักเมืองกง” คนไทยเรียกว่า "ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง”



ที่นี่อุ้มเคยเพิ่งจะเห็นเซียมซีมีหลายสี ปกติจะเห็นแต่สีแดงเท่านั้นเนาะ
Amazing ไทยเท่ ว่าแล้วก็ซะหน่อยค่ะอุ้มเสี่ยงได้หมายเลขที่ 13
จำได้ว่าถ่ายภาพมา
สงสัยว่าให้ป้าๆ กดไล่ดูภาพที่อุ้มถ่ายมาทั้งหมด
ท่านคงมือลั่นลบ..ภาพกระดาษเซียมซีใบที่ 13 อุ้มแน่ๆ...หาภาพไม่เจอ
ออกจากศาลหลักเมืองโบกรถสองแถวไปตลาดบางลำพู ค่ารถ 10 บาทไปหาข้าวเช้ากินค่ะเริ่มหิวล่ะ



ถึงตลาดบางลำพู เห็นตั้งของขายตามริมถนน แวะชมสักหน่อยเพราะหิวข้าวมาก
ใจจริงอยากกินดักแด้มากแต่เขายังไม่ได้ต้มเลยอด เห็นไข่มดแดง เห็นผักอยากกินแกงไข่มดแดงจัง
คนหิวเห็นอะไรก็หิวหมด



ว่าแล้วเจอข้าวจี่อันละ 5 บาท ซื้อ 2 อัน มีแบบข้าวเหนียวธรรมดาและข้าวเหนียวก่ำ
ซื้อมาอย่างละอัน สองอันราคา 10 บาท แล้วเดินหาข้าวกินใจจริงอยากกินโจีกมากเลยค่ะ



ว่าแล้วอุ้มก็แวะร้านนี้ค่ะโจ๊กน้ำฝน ที่ตลาดบางลำพู อ.เมือง จ.ขอนแก่น



แต่วันนี้โจ๊กไม่ขาย ซึ่งเข้าทางอุ้มเลยเพราะพอเห็นข้าวจี่ (ขนมปังญวน)
อุ้มก็เปลี่ยนใจอยากกินข้าวจี่ (ขนมปังญวน) ในบัดดลคู่ละ 20 บาท สั่งมากินทันทีค่ะ



เรียกว่าถ้ามาภาคอีสานล่ะก็ไม่แคล้วที่จะต้องสั่งไข่กะทะมากินด้วย ราคา 30 บาท ก็จัดไป



มื้อเช้านี้คิดค่าเสียหายรวมกาแฟด้วย ชุดนี้จัดไปราคา 70 บาท อิ่มเลยค่ะ
เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องก็จัดเผื่อเป็นเสบียงระหว่างไปไหว้หลวงพ่อคูณ
ซุปมะเขือ 20 บาท ข้าวเหนียว 2 ห่อ ตับย่าง 2 ไม้ รวมเป็นเงิน 50 บาท
จากนั้นถามคนขายต่อว่าจะไป บขส.เพื่อจะขึ้นรถบัสฟรีไปไหว้หลวงพ่อคูณไปยังไง
ได้ความว่านั่งรถสองแถวสีฟ้าสาย 4 ราคา 10 บาท ฝั่งเดียวกับร้าน อุ้มขอบคุณนะคะ



เมื่อรถสองแถวมาจอดที่ บขส. มองหาป้ายนี้เลยนะคะพี่น้อง "ที่จอดรถและบริการรับ-ส่งฟรี"
อุ้มก็เพิ่งทราบว่า ที่ฟังสวดพระอภิธรรมอยู่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่นกับที่นกหัสดีลิงค์จะอยู่กันคนละที่
อ้าว...หลายคนนึกว่าอยู่ที่เดียว...รวมทั้งอุ้มด้วยล่ะ



นกหัสดีลิงค์จะอยู่สถานที่ฌาปนสถานชั่วคราว วัดหนองแวงพระอารามหลวง ภายในเกาะกลางน้ำ
ซึ่งจะอยู่ด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน
ริมถนนสายเลี่ยงเมืองขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ห่างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร
จะเป็นสถานที่สำหรับการประกอบพิธีถวายเพลิงครูใหญ่ หลวงพ่อคูณ โชคดีที่อุ้มเผื่อเวลาไว้



มีพี่ป้าน้าอาหลายคนที่มาแบบเดียวกับอุ้มชล่าใจนึกว่าอยู่ที่เดียวกันก็แวะโน้นนี่ก่อน
ส่วนป้าอีกคนมารถ บขส.นึกว่าอยู่ที่เดียวกัน
ป้าเลยได้แค่สวดพระอภิธรรมไม่ได้มาวางดอกไม้จันทน์ที่นกหัสดีลิงค์ เป็นหลายคนเลยนะคะ
สำหรับการแต่งกาย ขอให้แต่งกายสุภาพน่ะค่ะ
อุ้มเห็นมีแบบใส่ชุดขาวมาทั้งชุด หรือไม่ก็เสื้อขาวกางเกง/กระโปรงดำ หรือชุดดำทั้งชุดแบบอุ้ม



ถึงแล้วค่ะ ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น
จะมีจิตอาสาเป็นทหารและน้องนักศึกษาคอยบอกทางเข้าว่าให้เดินไปทางซ้ายมือก่อน
พอดีอุ้มเห็นรถยนต์จอดอยู่ที่ด้านหน้าศูนย์ประชุมฯ ก็เลยถามน้องทหารว่ารถอะไร
นี่คือรถยนต์ที่จะบรรทุกพระอาจารย์ใหญ่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธก็เลยถ่ายภาพมาฝาก





















จากนั้นเดินลงมาจากศูนย์ประชุมฯ เดินตรงมาแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอป้ายบอกว่า
"รับ-ส่งไปพุทธมณฑลอีสาน"
เพราะเราจะไปวางดอกไม้จันทน์ ณ ฌาปนสถานชั่วคราวที่มีนกหัสดีลิงค์



เพราะเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัวทุกชนิดเข้าไปภายในพุทธมณฑลอีสาน
หรือนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาภายในฌาปนสถานเด็ดขาด
เพราะฉะนั้นสะดวกที่สุดก็คือนั่งรถบัสแอร์เย็นๆ ที่ทาง มข.จัดรถรับ-ส่งนะคะพี่น้อง





เมื่อมาถึงฌาปนสถานชั่วคราววัดหนองแวงพระอารามหลวง บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน
เดินตรงมารับดอกไม้จันทน์ที่นี่เลยค่ะ



จากนั้นเลี้ยวซ้ายจะบริจาคสมทบเข้ากองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
สร้างอนุสรณ์สถานหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธก็แล้วแต่ศรัทธาค่ะ



ดร.กิติสันต์ ศรีรักษา และนายภราดร เสมาเพชร
2 อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้ออกแบบและวิจัยค้นคว้านกหัสดีลิงค์เทินบุษบกบนยอดเขาพระสุเมรุ



ตามความเชื่อเรื่องชาติภพในดินแดนสุวรรณภูมิจำลองขึ้นเป็นป่าหิมพานต์บนยอดเขาพระสุเมรุ



ดร.กิติสันต์ ศรีรักษา อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า
เจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ต้องการให้จัดงานศพอย่างเรียบง่าย
ดังนั้น คณะศิลปกรรม มข. จึงได้ออกแบบให้มีการผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน
เน้นความเป็นอิสระเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ
โดยมี รศ.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มข.
เป็นประธานออกแบบและฌาปนกิจ คอยอำนวยการและตรวจตราในทุกขั้นตอน



โดยเราสร้างเมรุลอยนกหัสดีลิงค์
ตามประเพณีโบราณที่จัดขึ้นเฉพาะการฌาปณกิจศพเจ้านายชั้นสูง หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่
ซึ่งนอกจากงานจะมีศิลปกรรมที่สวยงามแล้ว
ขั้นตอนของการฌาปนกิจจริง ก็จะต้องคำนึกถึงตำนานป่าหิมพานต์ด้วย
สำหรับตำนานของนกหัสดีลิงค์นั้น
เริ่มจากตํานานโบราณของนครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานครที่ต่อกันมาว่า
เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งนครนั้นถึงแก่สวรรคตต้องอัญเชิญพระศพออกไปฌาปนกิจที่ทุ่งหลวง
จากนั้นนกหัสดีลิงค์ที่เป็นนกขนาดใหญ่ ตัวโตเท่าช้าง เรียกชื่อตามเจ้าของภาษาว่า
หัตถลิงคะสะกุโณ เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ เป็นนกที่มีหัวเป็นช้าง มีหางเป็นหงส์
มีพละกําลังดั่งช้างเอราวัณ 3-5 เชือกรวมกัน บินโฉบลงมาเอาพระศพไป



เมื่อพระมหาเทวีเห็นเช่นนั้นก็ประกาศให้คนดีเข้าต่อสู้เพื่อเอาพระศพคืนมา
นางสีดาจึงเข้ารับอาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์โดยใช้ศรอาบยาพิษยิงนกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตาย
ตกลงมาพร้อมพระศพ
พระมหาเทวีจึงโปรดสั่งให้ช่างทําเมรุ คือหอแก้วบนหลังนกหัสดีลิงค์
แล้วถวายพระเพลิงไปพร้อมกัน
หลังจากนั้นมาจึงถือเอาประเพณีทํานกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุของชั้นเจ้านาย
ตามความเชื่อที่ว่านกหัสดีลิงค์สามารถนําดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ได้



ในการณ์นี้ได้ใช้เวลาศึกษาและออกแบบนานกว่า 2 ปี
และได้รับการปรึกษาทางผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านเพื่อให้ได้ถึงศิลปกรรมที่เรียบง่าย สวยงาม
และมีเรื่องราวตามประวัติความเป็นมาของนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังนำเสนอศิลปกรรมถ้องถิ่นของภาคอีสานเข้ามาด้วย
เนื่องจากศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสานได้รับอิทธิพลมาจากอาณาจักรเขมร
ผสมผสานเข้ากับศิลปะล้านนาและศิลปะล้านช้างในภูมิภาคไทย
ซึ่งมีรายละเอียดไม่วิจิตรเทียบเท่ากับงานหลวงของภาคกลาง
แต่ถือเป็นรากเหง้าที่แสดงออกถึงความเป็นอีสานได้อย่างชัดเจน



ดร.กิติสันต์ ศรีรักษา อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า..ความเรียบง่ายในบางครั้งก็ไม่ธรรมดา
เฉกเช่นตัวหลวงพ่อคูณที่ความเรียบง่ายคืออัตลักษณ์ความบริสุทธิ์ทางการกระทำต่างๆ จึงได้สื่อออกมาเป็นสีขาว



นายภราดร เสมาเพชร อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
โครงสร้างของตัวนกหัสดีลิงค์เป็นไม้เนื้อแข็งสูง 22.6 เมตร
ได้ใช้ไม้ไผ่ประกอบเป็นโครงด้านนอก แปะรอบด้วยประติมากรรมกระดาษเปเปอร์มาเช่
โดยภายในบรรจุเตาเผาฟืนไว้ประดิษบนฐานแปดเหลี่ยมกว้าง 16 เมตร



มีตัวนาคหันหน้าไปแต่ละทิศ มีความยาว 5 เมตร 12 ตน



และรายล้อมด้วยสัตว์หิมพานต์ 32 ตน บนสระอโนดาษที่จะเพิ่มลูกเล่นใส่ควันไอน้ำ



ซึ่งทั้งหมดจะถูกเผาไปพร้อมกับร่างของหลวงพ่อคูณ ปุริสุทโธ
ก่อนจะนำอังคารของท่านไปลอยแม่น้ำโขง ที่จ.หนองคาย ตามเจตจำนง



จากนั้นอุ้มก็นั่งรถบัสกลับมาที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษกมหาวิทยาลัยขอนแก่น



แต่แวะเก็บตกใส่ท้องก่อนนะคะ มีมาออกโรงทานเยอะมาก อาหารไม่แคล้วตำบักหุ่ง
หรือว่าส้มตำนั้นแหละค่ะ คิวยาวเลยไม่ว่าจะตำปูหรือว่าตำไทย ขนม อาหารแจกให้กินเยอะค่ะ



เพราะอุ้มจะมาฟังสวดพระอภิธรรมในเวลา 17.00 น.น่ะค่ะ
คราวนี้เป็นบุญของอุ้มที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้เข้ามานั่งในด้านหน้าอีก 2 แถว
อุ้มเลยได้นั่งแถวหน้าสุด 2 คนแรก
อุ้มเลยได้ฟังพระอภิธรรมอย่างใกล้ชิดและที่สำคัญหากใครนั่งแถวหน้าก็จะกรวดน้ำด้วยเป็นบุญจริงๆ



ในระหว่างมีพิธีการเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้กล้องส่วนตัวถ่ายภาพน่ะค่ะ
เราจะบันทึกภาพได้เฉพาะเมื่อเสร็จพิธีเท่านั้นนะคะ



รู้สึกว่าเป็นบุญมากเลยค่ะที่ได้มา..แต่ก็ขอบอกว่าแอร์เย็นมากค่ะ



เมื่อฟังสวดพระอภิธรรมเสร็จก็จะได้รับภาพขาวดำของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธค่ะ



เสร็จพิธีในเวลาใกล้จะจะ 19.00 น. พอมีเวลาเลยแวะหาข้าวกินที่โรงทานรอบๆ ศูนย์ประชุมฯ
สรุปค่าใช้จ่าย ดังนี้ : ค่ารถเมล์ 9 บาท
ค่ารถใต้ดินจากบ้านมาขึ้นสถานีรถไฟ 30 บาท
ค่ารถไฟ 187X187 = 374 บาท
ค่ารถโดยสารรอบเมือง 15 บาท
ค่าซื้อดอกไม้ที่ศาลหลักเมือง 20 บาท
ค่าเซียมซี 1 บาท
ค่ารถสองแถวมาตลาดบางลำพู 10 บาท
ค่าข้าวจี่ 10 บาท
ค่าอาหารเช้า 70 บาท
ค่าเสบียง 50 บาท
บริจาคให้หลวงพ่อคูณ 200 บาท
ค่ารถตุ๊กตุ๊กมาสถานีรถไฟขอนแก่น 80 บาท
ค่ารถใต้ดินกลับบ้าน 30 บาท รวมเป็นเงิน 899.-บาท
เงิน 1000 บาท แวะมาไหว้หลวงพ่อคูณเหลือเงิน 101.-บาท คุ้มจริงๆ ค่ะ



จากนั้นออกมายืนรอรถสองแถวตั้งแต่ 19.30 น. ไม่มีสักคัน
ยืนไปได้สักครึ่งชั่วโมงเริ่มมองหาคนถามทางมองหาตำรวจ สรุปรถสองแถวหมดตั้งแต่ทุ่มหนึ่งล่ะ
เอาล่ะสิ มอเตอร์ไซดรับจ้างก็ไม่มี แท็กซี่ก็ไม่มี รถตุ๊กตุ๊กก็ไม่เห็นมาสักคัน
ทำไงล่ะทีนี้คุณนายอุ้มสี
ว่าแล้วก็นึกถึงหลวงพ่อคูณเลยค่ะ
อุ้มพูดออกมาเลยค่ะ หลวงพ่อคะหนูตั้งใจมาทำบุญกับหลวงพ่อแล้ว
หลวงพ่อโปรดเมตตาหารถให้หนูไปสถานีรถไฟให้ด้วยนะคะ

(แต่ถ้าอุ้มตกรถมาไม่ทันก็จะโทรไปหาเพื่อนที่เป็นเกษตรกรดีเด่นในจังหวัดขอนแก่น
หรือไม่ชีก็จะโทรหาน้องที่เป็น รศ.ดร.ที่ม.มหาสารคามมารับ
หรือไม่ก็จะมีเพื่อนเป็นครูอีกคน...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่อยากกวนใครน่ะค่ะ
อีกอย่างมีงานต้องกลับมาทำที่ กทม. ด้วยยังไงก้ต้องกลับ กทม.ให้ได้)

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ปาฏิหาริย์มีจริง รถตุ๊กตุ๊กโผล่มาจากไหนไม่รู้มารับไปส่งสถานีรถไฟ
ไกลจริงๆ ค่ะจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมาสถานีรถไฟขอนแก่น คิดอุ้ม 80 บาท
พอขึ้นรถไฟได้เจอป้าอีกคนมาคนเดียวเหมือนอุ้ม
(แต่ตอนขามาป้านั่งรถ บขส.มา หารถไม่ได้ ก็นึกถึงหลวงพ่อเหมือนกัน เสียค่ารถตุ๊กๆ ไป 120 บาท)
ส่วนพี่อีกคนหนึ่งก็เสียค่ารถตุ๊กตุ๊กมาขึ้นรถไฟไป 100 บาท ดีที่พี่เขาออกมาไวตั้งแต่หกโมงเย็น
ป้าเธอมาทันก่อนรถออก 3 นาที คุยกับป้าๆ ที่มาคนเดียวเหมือนกันสักชั่วโมงแล้วอุ้มก็หลับ
รถไฟเข้าตามเวลากลับมาหลับสนิทถ้าไม่มีใครมาปลุกเพราะทำสปาเก็ตตี้ให้กินอุ้มคงยังไม่ตื่นเลยค่ะ

ถ้าให้พูดตามตรง BLOG นี้เอนทรี่นี้เป็น BLOG สุดยอดในชีวิตของคุณนายอุ้มสี
เป็น BLOG ที่ฝากไว้ในแผ่นดินเลยค่ะ
นับเป็นทริปท่องเที่ยวสายบุญที่มีความสุขมากเลยค่ะเอาบุญมาฝากค่ะ
หมายเหตุ : จะมีทริปเดินทางไปวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ขอเคลียคิวก่อนนะคะพี่น้อง
(เพราะมีคิวจองตัว ราชบุรี-ปราจีณบุรี-สงขลา-อุทัยธานี)



ขอขอบคุณ : เพลง : หลวงพ่อคูณ / วงคาราบาว
ที่มาของข้อมูล : จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
BG : ญามี่ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : lozocat / Banner : oranuch_sri
ของแต่ง BLOG : ป้ามด + ดอกหญ้าเมืองเลย + ชมพร + ญามี่ + เนยสีฟ้า




Create Date : 28 มกราคม 2562
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2562 20:01:29 น.
Counter : 2902 Pageviews.

37 comments
ตลาดเช้า, สถานีรถไฟพินอูลวิน สายหมอกและก้อนเมฆ
(18 เม.ย. 2567 17:06:42 น.)
สงกรานต์หรรษา จันทราน็อคเทิร์น
(18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)
春和歌山市 : ทำไมต้องวากะยามะ mariabamboo
(15 เม.ย. 2567 11:06:33 น.)
Bangsaen 21 The Finest Running Event Ever 2023 บางแสน แมวเซาผู้น่าสงสาร
(12 เม.ย. 2567 10:20:55 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเรียวรุ้ง, คุณpoepum, คุณเกศสุริยง, คุณJinnyTent, คุณnewyorknurse, คุณวลีลักษณา, คุณตะลีกีปัส, คุณเริงฤดีนะ, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณKavanich96, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณauau_py, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณhaiku, คุณญามี่, คุณSai Eeuu, คุณInsignia_Museum, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณkatoy, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณจารุพิชญ์, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSweet_pills, คุณkae+aoe, คุณtoor36, คุณก้นกะลา

  
นั่งรถนานเหมือนกันนะครับ เมือได้
ไปก็เป็นบุญแล้วครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:8:43:33 น.
  
9 ช.ม.ในรถไฟ แล้วไปคนเดียว ต้องไปให้ถึงเป้าหมายใจสั่งมา
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:10:14:32 น.
  
ส่งกำลังใจค่ะ
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:10:33:16 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สาวไกด์ใจซื่อ Review Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
คุณอุ้มเินทางบ่อยเหมือนกันนะคะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:10:51:04 น.
  
ชื่นชมที่พี่อุ้มตั้งใจทำอะไรแล้ว
ก็ทำให้สำเร็จจนได้
พี่มีพลังศรัทธาเป็นตัวนำ
ใจอยากจะไปกราบก็ได้ไป
จินชื่อในพลังความศรัทธา
ประกอบกับมีบุญที่ได้ไปจนได้
เคลียร์งานหาวันว่างจนได้ไป

ลุยมากเลยค่ะพี่
แล้วแวะนั่นแวะนี่อีกต่างหาก
เป็นจินนะไม่ได้ไปแน่แบบนี้
ไม่กล้าเดินทางคนเดียวค่ะ ไม่เคยด้วย

ได้ความรู้เรื่องศาลหลักเมืองด้วยขอบคุณนะคะที่เอามาฝากกัน
โดย: JinnyTent วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:11:45:06 น.
  
ดีจังได้ไปวางดอกไม้จันทร์ด้วย
รายละเอียดเพียบตั้งแต่การสร้าง
สร้างเมรุลอยนกหัสดีลิงค์
ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ทีจะเดินทางไปอีกด้วย
โดย: newyorknurse วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:19:07:25 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับพี่อุ้ม
อ่านเพลินเลยครับ
เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆเลย
พี่อุ้มเป็นสาวขาลุยจริงๆครับ
บุกเดี่ยวเลย

งานนี้คนมากมายมหาศาลจริงๆ
ทุกคนศรัทธาหลวงพ่อมากๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:19:17:00 น.
  
สวัสดีมีสุขค่ะ

ความตั้งใจดีก่อเกิดความสำเร็จ
และแช่มชื่น
อนุโมทนากับจิตอันเป็นกุศลครั้งนี้ด้วยค่ะ
ท่านเป็นพระปฏบัติดีปฏิบัติชอบ
สมควรกราบไหว้ค่ะ
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:19:35:25 น.
  
อนุโมทนาบุญ

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 28 มกราคม 2562 เวลา:20:17:44 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 29 มกราคม 2562 เวลา:3:03:50 น.
  


สวัสดียามเช้าครับพี่อุัม

โหวตครับพี่

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2562 เวลา:6:38:20 น.
  
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
ทันสมัยมากค่ะคุณอุ้ม

โดย: หอมกร วันที่: 29 มกราคม 2562 เวลา:8:27:32 น.
  
นี่เพิ่งรู้ว่าจัดที่ขอนแก่นค่ะ นึกว่าจะจัดที่โคราช ทำไมไปจัดที่โน่นน้อ

พี่อุ้มทรหดมากค่ะ เขียนการเดินทางละเอียดมาก ใครที่จะไปได้มาอ่านน่าจะมีประโยชน์นะคะ

นกหัสดีลิงค์งามมากๆ เลยค่ะ

อาเพท - เขียนแบบนี้นะคะพี่

อนุโมทนาในบุญที่ได้ทำด้วยค่ะพี่

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 มกราคม 2562 เวลา:9:28:53 น.
  
อนุโมทนาบุญ

คนที่มีความตั้งใจคิดทำอะไรก็สำเร็จผล คุ้มค่ามากเลยค่ะพี่อุ้ม^^
โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 29 มกราคม 2562 เวลา:11:20:15 น.
  
อนุโมทนาบุญค่ะ อ่านแล้วประทับใจพี่อุ้มจัง ^___^
โดย: auau_py วันที่: 29 มกราคม 2562 เวลา:16:50:06 น.
  
ถ้าพี่อายุน้อยกว่านี้สัก 20 ปี
พี่คงตามรอยคุณอุ้มไปบ้างค่ะ
ได้ไปอยู่ตรงนั้นสักชั่วอึดใจ
คงมีความอบอุ่นใจมาก

แต่พี่กลับคิดอีกอย่างว่า
หลวงพ่อท่านทำทุกอย่างที่มีประโยชน์มากมาย
แต่สมณศักดิ์ของท่านแค่ชั้นเทพ
อีกหลายๆพระผู้ใหญ่ที่อื้อฉาวไม่น้อย
ได้ถึงขั้นสูงสุด

พี่ก็แค่คิดไป
หลวงพ่อท่านไม่ได้สนใจทางนี้หรอก
ตัวตนของท่านสมถะมาก

ขออนุโมทนาบุญที่คุณอุ้มได้กระทำนะคะ
ขอบคุณที่นำมาเล่าเผื่อแผ่กันค่ะ

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 29 มกราคม 2562 เวลา:21:53:22 น.
  
บล๊อกของน้องอุ้ม เหมือนได้ไปเที่ยวที่นั่นจริงๆ เลยค่ะ
โดย: Sai Eeuu วันที่: 30 มกราคม 2562 เวลา:14:35:01 น.
  
อ่านที่คุณอุ้มเล่าการเดินทางไปกราบหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธที่ จ.ขอนแก่น เหมือนไม่ไกลเลย ระหว่างเส้นทางคงได้พบเห็นอะไรมากมายเลยนะครับ
โดย: Insignia_Museum วันที่: 30 มกราคม 2562 เวลา:16:11:22 น.
  


สวัสดียามเช้าครับพี่อุ้ม


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:6:22:01 น.
  
เข้ามาวันนี้มีรูปเพิ่ม

...............

เยี่ยมไปเลยค่ะคุณอุ้ม บูชาหลวงปู่ทวดขึ้นคอเลย
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:10:25:26 น.
  
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
เคยไปวัดบ้านไร่ให้หลวงพ่อคูณเคาะหัว 2 ครั้ง(ไป 2 ครั้ง)
เรื่องนั่งรถไฟ(รถเร็วป ถ้าสายใต้ช่วงเทศกาล จะมีคนมาขอนอนใต้เก้าอี้ที่เรานั่งครับ
นั่งจากหัวลำโพงถึงหาดใหญ่ ประมาณ18 ช.ม.ครับ

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:11:30:43 น.
  
สาธุค่ะ
อ่านแล้วก็ปลื้มปิติมีความสุขไปด้วย
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:12:05:00 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องอุ้ม
เป็นบล็อกที่อ่านแล้วชื่นใจจริงๆ
จ้ะ ถึงครูจะไม่มีโอกาสได้ไปกราบ
หลวงพ่อคูณ ครูก็มีโอกาสได้กราบไปพร้อม ๆ กับอุ้มด้วย
อุ้มให้ข้อมูลรายละเอียดมาก
ทัังการเดินทาง การไปงานฟังสวด
พระอภิธรรม ตลอดจนความรู้เรื่อง
สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ถือว่า บล็อก
นี้ผู้อ่านได้ทั้งบุญ ได้ทั้งความรู้จ้ะ
ครูขออนุโมทนา สาธุจ้ะ
และขอชมถึงความเก่งกล้า
ของอุ้มด้วยที่เดินทางคนเดียว
อาจเป็นเพราะว่า อุ้มเป็นคนมี
มนุษยสัมพันธ์ดี ทำให้การเดิน
ทางแม้จะมีอุปสรรคก็สามารถ
ตลี่คลายไปในทางดี บุญกุศล
และหลวงพ่อคูณ ช่วยให้มีรถตุ๊กๆ
มาทันรถไฟออก
ครูเคยไปกราบหลวงพ่อคูณ
อยู่ครั้งหนึ่งที่วัดท่าน ได้รับการ
เคาะหัวด้วยนะ ทำบุญไปเท่าไหร่จำไม่ได้ ท่านคืน แบงค์ ห้าสิบมา
ให้ครู ตอนนี้ยังอยู่ในกระเป๋าตังค์
ครูตลอดเวลาเลย จ้ะ เหรียญท่าน
ก็มีนะ อิอิ พกติดตัวเวลาไปเที่ยว
โหวดหมวด ท่องเที่ยว
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:12:09:07 น.
  
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
ทรงไทยเดิม Food Blog ดู Blog
poepum Food Blog ดู Blog
ล้งเล้งลัลล้า Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Art Blog ดู Blog
สองแผ่นดิน Photo Blog ดู Blog
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
ดีจังพี่อุ้มไปงานหลวงพ่อคูนด้วย
โดย: จารุพิชญ์ วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:12:42:32 น.
  
บางเล่มผมซื้อมาก็อ่านไม่ค่อยเข้าใจครับพี่
แต่ก็อ่านจนจบนี่ล่ะครับ 5555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:12:50:18 น.
  
ขอบคุณพี่อุ้มที่ไปเจิมให้ที่บ้านน๊า
โดย: JinnyTent วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:18:28:41 น.
  
อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ

ไปด้วยศรัทธาและความตั้งใจอย่างแท้จริง ลุ้นไปด้วยเลยค่ะขากลับ ตั้งจิตอธิษฐานถึงหลวงพ่อ...ในใจตอนนั้นไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะค่ะ ภารกิจราบรื่นลุล่วงด้วยดี ดีใจด้วยค่ะ

เมรุลอยนกหัสดีลิงค์งามมากค่ะ มุมไหนก็งาม
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:19:31:18 น.
  
ขออนุโมทนาบุญกับคุณอุ้มด้วยค่ะ
มีโอกาสชมภาพบรรยากาศจากคุณอุ้ม
ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 31 มกราคม 2562 เวลา:23:24:16 น.
  


สวัสดียามเช้าครับพี่อุ้ม


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:6:53:43 น.
  
พี่อุ้มได้มีโอกาสไปด้วย มี้เก๋ได้เพียงดูในมือถือค่ะ
โดย: kae+aoe วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:9:08:59 น.
  
สวัสดีอีกรอบค่ะพี่อุ้ม

ขอบคุณที่แวะไปกินบุฟเฟต์ปิ้งย่างด้วยกันนะคะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:9:20:21 น.
  
ใช้บริการรถไฟซะด้วย ผมไม่ได้ใช้บริการนานมาก ครั้งล่าสุดตั้งแต่สมัยประถมเลยมั้ง ตั๋วยังเหมือนเดิมคลาสิกยิ่งนัก

เดี๋ยวนี้เรามีสื่อความบันเทิงมากมาย สมัยก่อนเราจะพึ่งหนังสือ ไม่ก็การพูดคุยกับคนแถวๆ นั้น (กรณีที่ไม่มีเพื่อนร่วมเดินทาง) ซึ่งมันก็ดี แต่บางครั้งก็รู้สึกเหงาๆ เหมือนกันนะ

ทุกที่มีที่มมีเรื่องราวจริงๆ ศาลหลักเมืองที่นี่ก็มีเรื่องราวเหมือนกัน เซียมซีหลากสีเกิน แต่แบบนี้ก็ดี เพราะจะได้จัดแยกชุดง่าย ไม่ต้องห่วงว่ามันจะปนกัน

อาหารเช้ากินอะไรง่ายๆ นี่แหละดี ในภาพกินเยอะเหมือนกันนะ แต่มื้อเช้ามันก็ควรกินเยอะๆ

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เราสูญเสียพระเถระผู้ใหญ่ไปมากมายจริงๆ ค่าใช้จ่ายถูกเกินคาดจริงๆ ครับ น่าห่วงสุดก็ค่ารถล่ะนะ

เดี๋ยวมาต่อเรื่องที่ไปคุยนนะครับ ขอเวลาเรียบเรียงหน่อย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:16:51:30 น.
  
มาแล้วครับ (บล้อกเกอร์คนอื่นข้ามๆ คอมเม้นต์นี้ไปก็ได้นะครับ)

จากบล็อกไปที่คุย
จากข้อมูลทั่วไปที่เราสามารถหากันได้เฟซบุ๊กก่อตั้งเมื่อวันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2004 แต่เริ่มเป็นที่รู้จักมากๆ ปี 2007 และเริ่มดังในประเทศไทยปี 2009 ผมยอมรับความแตกต่างในความเห็น ดีเสียอีกที่มีคนคิดต่าง เพราะแสดงว่าเขาได้อ่านบล็อกเรา เขาถึงกล้าแสดงความเห็นที่แตกต่าง

ส่วนระบบการโหวตของบล็อกแก๊งมีครั้งแรกเมื่อปี 2005 บล็อกแก๊งช่วงที่เปลี่ยนระบบเป็นโหวตแบบปัจจุบันนั้นจะอยู่ในช่วงปี 2011 ซึ่งถือเป็นยุครุ่งเรื่องยุคหนึ่งเลย แต่เมื่อเทียบเงื่อนเวลา ผมว่าไม่ใช่ (ประเด็นนี้อยากให้มีคนอื่นมาเสนอความคิดเห็นเหมือนกัน) และแน่นอนล่ะ ผมเชื่อว่าทีมงานก็คงคาดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นวัฒนธรรมแลกโหวต

พี่อุ้มพูดเองเลยนะครับ ว่าพี่โมโห ผมยังไม่ถึงขั้นโมโหเลย แค่รู้สึกไม่ค่อยดี เพราะคนไม่อ่านยังไงก็ไม่อ่านครับ บล็อกที่ผมเขียนล่าสุดที่ผ่านมาก็พิสูจน์เรื่องนี้ออกมาชัดเจนแล้ว ขนาดเน้นตัวอักษรสีแดงชัดเจนขนาดนั้น

เคยมีคนมาบอกว่าบล็อกผมก็แค่เอาตุ๊กตามาตั้งๆ แล้วก็ถ่ายรูปก็เป็นบล็อกแล้วทำง่ายดี ถ้าคิดว่ามันง่ายแบบนั้นก็ทำแข่งเลย (ทำภายใต้เงื่อนไข โมเดลชนิดเดียวกัน) แล้วจะได้รู้กันว่ามันเป็นอย่างที่คิดมั้ย ผมจะไม่พูดอะไรอีก เพราะเขาตัดสินเราไปแล้วว่าบล็อกเรามันทำง่าย ดังนั้นต่อให้เราพูดอะไรไปมันก็ไร้ค่า เหมือนพวกไม่อ่านบล็อก ต่อให้เราเขียนอะไรไปเป็นความสนใจเขาหรือไม่ เขาก็ไม่อ่าน

อ.เฉลิมชัย ท่านพูดน่าสนใจ "ก็เพราะกระจอก ไง ไอ้เ-ี้ย คนกระจอก เพราะ-ึงหมาไม่แดก อย่าเอาแต่โทษนู่นโทษนี่ -ึงโทษตัวเองดีกว่า ว่าไม่เอาจริงเอาจังกับชีวิต" ผมควรจะยอมรับคำพูดเหล่านี้หรือไม่? ผมเอาจริงเอาจังในการเขียนบล็อกมาก มันคือความสุขที่เราได้ทำ ผมใส่เต็มที่กับทุกเอนทรี่นะ

ถ้าผมยอมรับมันจะหมายความว่า บล็อกแก๊งมีแต่พวกบล็อกเกอร์กระจอก เพราะทุกคนก็น่าจะเคยเจอพวกคนไม่อ่านบล็อกคนอื่น แต่มาเพื่อชวนไปแต่บล็อกเขา ทว่าถ้าไม่ยอมรับ ก็แสดงว่า คนที่ไม่อ่านผิดปกติ ในส่วนนี้ผมไม่ขอให้คำตอบนะครับว่าผมยอมรับ หรือไม่ยอมรับ แต่เชื่อได้เลยว่าทุกคนเคยเจอพวกที่ไม่อ่านบล็อกคนอื่นเลยแม้แต่น้อยมาแล้วทั้งนั้น


ที่พี่อุ้มบอก "สำหรับพี่อุ้มไม่ซีเรียส ใครจะอ่านหรือไม่อ่านไม่ใส่ใจ" งั้นต่อไปนี้ผมจะมาแค่สวัสดี ทักทายเท่านั้น แบบนี้สะดวกดีเหมือนกัน ...........ผมก็พูดไปงั้นแหละครับ ผมทำไม่ได้หรอก มันเป็นการผิดศีล แกล้งอ่านบล็อก มันก็คือโกหกตัวเอง โกหกคนอื่น มันไม่ถูกต้อง ผมจะไม่ทำ เพราะมันไม่ถูกต้อง

เรื่องอัพบล็อกแล้วแต่พี่อุ้มเลย จะอัพอย่างไรไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องพูดถึง แต่ถ้าได้อ่านจนจบรวดเดียวเลย มันก็รู้สึกดีกว่าจริงๆ น่ะแหละ กรณีนี้ผมแค่เข้มงวดกับตัวเอง และจะไม่ปล่อยคะแนนโหวตให้คนอื่นง่ายๆ อีกต่อไปแล้ว

เรื่องเลือกตัวละคร ไม่ใช่พี่อุ้มไม่ได้เลือก ผมลงไว้ว่า "ใครที่สนใจอยากจะเลือกก็ให้บอกที่บล็อกนี้ได้เลย ผมจะส่งรายชื่อนักแสดงไปทางหลังไมค์ของคนที่ต้องการเลือก" ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงหมด (ตอนนี้คนที่ผมส่งหลังไมค์ไปแล้วคือ คุณกะว่าก๋า ซึ่งพี่ก๋าก็ตอบกลับเร็วมาก) ขอแค่คุณต้องการที่จะเลือก เราก็พร้อมจัดให้ คนอื่นๆ ถ้าบังเอิญมาอ่านเจอข้อความนี้ แล้วได้ลงชื่อว่าจะเลือกตัวละครก็ใจเย็นๆ นิดนะครับ ขอเวลาหน่อยเดี๋ยวจัดให้แน่นอน

ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิด และควรมีส่วนในการรับผิดชอบ การปล่อยเกรดปล่อยคะแนนโหวตมากเกินไป ผลเสียก็เป็นอย่างที่เห็น คนที่มาบล็อกผมหลายๆ คนมาเพื่อขอแลกโหวต ไม่ก็ชวนไปบล็อกเขาอย่างเดียวเท่านั้น

สิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่ลืมคือ "WE ARE BLOGGANG" ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนนอกจะเรียกพวกเราแบบเหมารวมว่าบล็อกแก๊ง (เหมือนที่เขาด่าเหมารวมคนไทย) ถ้าผลงานคุณภาพต่ำมากเกินไป สิ่งที่จะเกิิดขึ้นคืออะไร?


สำหรับผมคนอื่นจะทำอย่างไร ก็ตามสบาย แต่ผมจะเข้มงวดกับตัวเองให้มากขึ้น ผมเคยพูดกับเพื่อนบล็อกไว้หลายคน หลายครั้ง มาวันนี้ผมก็จะพูดแบบเดิม ถ้าสามารถเอาสายสะพาย 1 เส้น แลกกับคนที่อ่านบล็อกเรา 1 คนได้ล่ะก็ ผมจะขอแลก 4 เส้นเลย เพอื่เพิ่มจำนวนคนที่อ่านบล็อกเรา 4 คน (ไม่เอาพวกแกล้งอ่าน)
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:17:37:14 น.
  
คอมเม้นต์ไม่ผ่าน ติดคำหยาบอันนึงแน่ๆ ก็ตามนี้แหละครับ ผมจะเข้มงวดกับตัวเองมากขึ้น
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:17:38:23 น.
  
สุดยอดมากๆเลย..
ก้นกะลาก็ชอบเดินทางคนเดียว..แต่ไม่เคยกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้เลยจ้า..
โดย: ก้นกะลา วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:22:51:24 น.
  
แวะมาทักทายครับ
โดย: สมาชิกหมายเลข 5089482 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:4:40:52 น.
  
ด้วยแรงศรัทธาจริงๆ ครับ ไปกลับรถไฟ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
โดย: IFINDNOI (Ces ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:5:47:25 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Aumteerama.BlogGang.com

อุ้มสี
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 118 คน [?]

บทความทั้งหมด