ททท.ลงพื้นที่จัดกิจกรรม Agent Media Fam Trip ณ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม


ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2562
นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และนายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม หัวหน้างานภาคกลาง1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และคณะ
ลงพื้นที่จัดกิจกรรม Agent Media Fam Trip
โดยการนำผู้แทนจากสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.)
สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)
สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.)
และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ทดสอบสินค้าทางการท่องเที่ยวและบริการระดับ Premium
ณ จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เพื่อให้เกิดการเสนอขายเข้าสู่ระบบตลาดต่อไปในอนาคต
และสามารถต่อยอดการจัดกิจกรรมดังกล่าว
ให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของภูมิภาคภาคกลางในปี 2563
อีกทั้งได้ร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่



นายไพรัชช์ ทุมเสน
ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า
ทางกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว
ตัวแทนของสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ มาสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว
ตลอดทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกของการท่องเที่ยวในเรื่องของสินค้าและบริการ
ในส่วนของภาคกลางเองก็คือจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-สมุทรสงคราม

ในวันแรกที่เราไปโดยออกจากรุงเทพมหานครไปทางถนนพระรามสองไปเข้าที่จังหวัดเพชรบุรี
โดยได้ไปท่องเที่ยวชุมชนถนนคลองกระแชง เป็นการท่องเที่ยววิถีชุมชน
ได้ไปเห็นความสามัคคีของชุมชนที่ร่วมมือกันทำเรื่องการท่องเที่ยว
หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตัวเมืองประจวบฯ เลย
ไปดูสถานที่ท่องเที่ยว เราไม่ได้ไปหัวหินที่เราเดินทางไปไกลกว่านั้นหน่อย
กระจายตัวออกไป ไปเที่ยวอ่าวมะนาว ก็จะมีหาดทรายที่สวยงามเล่นน้ำได้
แล้วก็มีถนนคนเดินในตัวเมืองประจวบฯ แล้วก็พักที่โรงแรมประจวบแกรนด์ในตัวเมืองประจวบ

พอวันรุ่งขึ้นเดินทางไปที่ด่านสิงขรซึ่งเป็นด่านชายแดนไทย-พม่า
บริเวณด่านก็จะมีการค้าขายสินค้าของทางฝั่งพม่าเองและฝั่งไทย
ที่สามารถเข้ามาเที่ยวชมได้และเป็นจุดที่สามารถนำเสนอขายการท่องเที่ยวได้
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่ชะอำนะครับ ช่วงบ่ายเดินทางมาที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
มาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 6
แล้วก็ได้เรียนรู้เรื่องราวทางสถาปัตยกรรม
โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยายให้ความรู้และนำเที่ยวชม
และได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในมุมทางด้านสถาปัตยกรรม
ตลอดถึงได้เห็นการบูรณะ การก่อสร้างตั้งแต่อดีตซึ่งมีเรื่องราวเล่าที่น่าสนใจมากนะครับ
เมื่อมาเที่ยวชมทำให้รู้สึกรักและหวงแหนสถานที่แห่งนี้นะครับ
สุดท้ายตอนเย็นเราก็มาที่ตลาดน้ำอัมพวาที่จังหวัดสมุทรสงคราม
ในช่วงเช้าของวันสุดท้ายเราก็มาที่ริมคลองโฮมสเตย์
มาดูวิถีชุมชนที่มีกิจกรรมต่างๆ มากมายในเรื่องของวิถีชุมชนที่นี่

และนี่เป็นเส้นทางทั้งหมดที่เรานำเสนอให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว
ที่จะสามารถไปทำเส้นทาง ทำโปรแกรมที่จะขายนักท่องเที่ยวได้ตรงกลุ่มวัตถุประสงค์
และตรงตามเป้าหมายนะครับ
ก็จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกวิธีหนึ่งที่เราจะร่วมกับพันธมิตร
กระตุ้นในเรื่องของการท่องเที่ยวนะครับ



ต้องขอขอบคุณ ททท.ภาคกลางที่ชวนอุ้มมาค่ะ



หลังจากที่เราสามารถฟันฝ่าในวันรถติดแห่งชาติวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2552
เราก็มาถึงจังหวัดเพชรบุรี
เมืองเล็กๆ ที่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่เท่าไหร่เพียงแค่ 120 กิโลเมตร
เดินทางมาได้ 2 ทางก็คือทางรถยนตร์และทางรถไฟลงที่สถานีรถไฟเพชรบุรี
เรียกว่ามาท่องเที่ยวแบบเพลิดเพลินเมืองเพชรได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุด
(จะว่าไปปีนี้อุ้มมาเมืองเพชรนี่เดือนเว้นเดือนแล้วนะคะปีนี้)
ที่นี่มีให้เลือกเที่ยวได้ครบไม่ว่าจะเป็นทะเล ถ้ำ ภูเขา วัง เขื่อน น้ำตก วัด แม่น้ำ
เมืองเพชรมีดีทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรมต่างๆ มากมาย อาหารก็อร่อย
และวิถีชีวิตของคนในชุมชนก็มีความน่าสนใจอย่างเช่นวันนี้อุ้มนำภาพมานำเสนอค่ะ
เป็นถนนสายวัฒนธรรม หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า ถนนคลองกระแชง
เป็นการท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง



วันนี้วิทยกรนำเที่ยวชมที่ชุมชนคลองกระแชงก็คือ คุณโฟล์ค-ปภังกร จรรยงค์
เป็นผู้นำชุมชนที่นี่ค่ะ ได้รับรู้เรื่องของจังหวัดเพชรบุรีเยอะเลยค่ะ
ถนนคลองกระแชง คือถนนสายหนึ่งที่ขนานกับแม่น้ำเพชรบุรี
จุดเริ่มต้นจากบริเวณน้ำพุข้างจวนผู้ว่าฯ หัวถนนติดกับถนนดำเนินเกษม
ผ่านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเจ็กเม้งถึงสะพานจอมเกล้า
ตัดผ่านถนนชีสระอินทร์ไปยังท่าน้ำสุนทรภู่ วัดพลับพลาชัย
และสิ้นสุดที่ถนนสุวรรณมุนี เชิงสะพานใหญ่หน้าวัดมหาธาตุ
เป็นถนนสายเล็กที่มีความยาวเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งอาชีพของคนในละแวกนี้
ประกอบอาชีพเย็บ "กระแชง" ขายแก่พวกเรือค้า
"กระแชง" คือการนำไม้ไผ่มาสานและเย็บเป็นแผงขนาดใหญ่ใช้ทำหลังคาเรือใช้เป็นที่บังแดดบังฝน
(ที่มาของข้อมูล : วารสารเพชรบุรี)



จังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีงานศิลปะที่เก่าแก่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
มีการสืบสานอัตลักษณ์ทางศิลปกรรมที่งดงาม
จากรุ่นต่อรุ่นด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของงานศิลปะโบราณและเป็นช่างที่มีฝีมือ
จึงอาจกล่าวได้ว่าจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัด “สกุลช่างเมืองเพชร”
ที่เป็นกูรูของช่างพื้นบ้านระดับฝีมือ
มีรูปแบบ มีเนื้อหา อันเป็นลักษณะเฉพาะของสกุลช่างเมืองเพชรบุรี
จะเห็นได้จากผลงานพระราชพิธีสำคัญของประเทศจะใช้ช่างเมืองเพชรแทบจะทุกงาน
สมชื่อเมืองเพชร ที่เป็นเพชรเม็ดงามที่เป็นประณีตศิลป์ที่มีลักษณะวิจิตรที่เลอค่า
และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจที่ควรค่าต้องมาเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรี



ณ พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย หนังใหญ่จัดว่าเป็นมหรสพเก่าแก่
ได้รับการยกย่องว่าเป็นการละเล่นชั้นสูงของคนไทยในอดีต
เพราะเป็นการรวมงานศิลปะมาไว้ด้วยกัน
ทั้งจิตรกรรม งานแกะสลัก วรรณกรรม ดนตรี และนาฏศิลป์
หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย เกิดขึ้นโดยหลวงพ่อฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น
ท่านเป็นผู้มีความสามารถและมีความรู้หลายแขนง
หนังใหญ่เป็นฝีมือของหลวงพ่อฤทธิ์ (ลูกศิษย์ของขรัวอินโข่ง)
ที่นี่มีหนังใหญ่ประมาณ 200 ตัว ล้วนแต่งดงามล้ำค่าควรแก่การมาเห็นกับตาตัวเองค่ะ
พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเข้าชมได้ทุกวันไม่เสียค่าใช้จ่าย



ออกจากวัดพลับพลาชัยที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายแล้ว
ก่อนเดินออกจากวัดให้สังเกตลายปูนปั้นที่หน้าบันพระอุโบสถด้วยนะคะ สวยงามมากค่ะ
แล้วอย่าพลาดที่มาเยือนแม่น้ำเพชรบุรีซึ่งจะต้องผ่านลานอนุสาวรีย์สุนทรภู่ก่อนค่ะ
จากนั้นไม่พลาดที่แวะบ้านมนัส จรรยงค์ (โปรดสังเกตว่านามสกุลเดียวกับคุณโฟล์คผู้บรรยาย)
มนัส จรรยาวงศ์ เป็นราชาเรื่องสั้นของไทย
ใครที่คอนวนิยายคงจะคุ้นชื่อเป็นอย่างดี
และสุดท้ายแวะศาลาคามวาสีซึ่งเดิมเป็นโรงเรียนสตรีที่ชื่อว่า โรงเรียนเพชรสตรี
เป็นศาลาหลังใหญ่คล้ายศาลาการเปรียญ
ปัจจุบันใช้เป็นสถานประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
UP BLOG ช้ามากเพราะเน็ต True อืดมากกกกกกกกก ทำไมคะ True



Street Art บริเวณตลาดริมน้ำและซอยริมน้ำ
จะมีผลงาน Street Art ตามกำแพงหลายผลงานจากศิลปินชาวเพชรบุรีค่ะ
ต้องเสาะแสวงหาว่าแอบซ่อนอยู่มุมไหนบ้าง สวยและหาค้นหาเพลินเมืองเพชรจริงๆ





เดินชมเดินแชะที่ Street Art บริเวณในซอยตลาดริมน้ำเพชรบุรีได้เหงื่อพอสมควร
ร้อนๆ อย่างนี้มันต้องข้าวแช่อย่างเดียวเจ้าค่ะ
ซึ่งในซอยริมน้ำเพชรบุรีแห่งนี้มีข้าวแช่ขึ้นชื่อนั่นก็คือ ข้าวแช่แม่อร
สามารถโทรสั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่ 08-9410-1969



พี่น้อย-นางรมยกรณ์ เอราวัณ เปิดเผยว่า
ข้าวแช่เพชรบุรีเราจะต้องกินกับช้อนทองเหลือง เพราะจะเก็บความเย็น
แล้วข้าวแช่จะต้องใส่มากับถ้วยกระเบื้องเคลือบ
เพราะในสมัยโบราณเราไม่มีน้ำแข็งเราอบควันเทียนอบกลิ่นดอกไม้แล้ว
นำพิมเสนมาใส่ 1 ลำหับ
(ขนาดเท่ากับนิ้วชีกับนิ้วนางเหยาะลงไปก็จะเย็นเหมือนว่าเรากินกับน้ำแข็ง)
การกินข้าวแช่ที่ได้อรรถรสนั้นจะต้องตักกับอย่างหนึ่งใส่ปากแล้วค่อยตักข้าวแช่
เราจะไม่กินข้าวแช่พร้อมกับกับ อันนี้เป็นสำรับที่ถวายในหลวงรัชกาที่ 5 โดยเจ้าจอมก๊กออ

ตำรับข้าวแช่ต่างๆ นั้นมาจากเจ้าจอมเอื้อนซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องใน 5 เจ้าจอมก๊กออ
โดยคุณยายของแม่อรเป็นเด็กในวังที่ได้เรียนรู้การทำอาหารชาววังในรัชกาลที่ 5
พอท่านสิ้นจึงนำมาทำขาย ในจังหวัดเพชรบุรีข้าวแช่เป็นอาหารปกติไม่ได้แพงมาก
สอบถามข้อมูลเกี่ยววิถีชีวิตชุมชนเพชรบุรี หรือจะให้พี่น้อยพาท่องเที่ยวได้ที่
เพจ : เพลินเมืองเพชร
เฟชบุ๊ค : Sabaidee Phet
มือถือ 08-6344-4418



ขอขอบคุณนะคะที่พานำชมเมืองเพชรบุรี เพลินเมืองเพชรจริงๆ ค่ะ



ออกจากจังหวัดเพชรบุรีก็มุ่งตรงมายังร้านอาหาร "รับลม" ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขาช่องกระจก
พอกินข้าวกันเสร็จมีการปรับแผนเพราะถ้าขึ้นเขาช่องกระจกตอนนี้คงละลายสลายร้อนมากค่ะ
ก็เลยปรับแผนเปลี่ยนหมายมุ่งตรงไปที่อ่าวมะนาว ในกองบิน 51 ดีกว่าค่ะ
อ่าวมะนาว เป็นชายหาดยอดนิยมของ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ตรงข้ามกับหาดเป็นเขาล้อมหมวก
ยามน้ำลดจะปรากฏสันทรายทอดยาวให้เดินไปเที่ยวชมได้
ตั้งอยู่ในเขตทหาร กองบิน 5 (ชื่อเดิม กองบิน 53) ของกองทัพอากาศ
อ่าวมะนาวเคยเป็นยุทธภูมิในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างกองทัพไทยและกองทัพญี่ปุ่น
ปัจจุบันภายในกองบินจะเห็นอนุสาวรีย์วีรชนรูปทหารอากาศในชุดนักบิน
ยืนอยู่บนใบพัดเครื่องบินถือธงหันหน้าออกทะเล
และยังมี อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5
โดยจะเห็นแท่งหินขนาดใหญ่แกะสลักจำลองฉากการต่อสู้ระหว่างกองทัพไทยกับญี่ปุ่น
บริเวณอ่าวมะนาวของทุกปีเพื่อรำลึกวีรกรรมวันที่ 8 ธันวาคม 2484



นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์
ร่วมต้อนรับ นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง ททท.และคณะฯ
พร้อมร่วมเดินทางในกิจกรรม Agent Media Fam Trip
โดยมีตัวแทนจากสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.)
สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)
สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) และสื่อมวลชน
ลงพื้นที่ทดสอบสินค้าทางการท่องเที่ยวและบริการระดับ Premium ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เพื่อให้เกิดการเสนอขายเข้าสู่ระบบตลาดต่อไปในอนาคต
ตลอดทั้งสามารถต่อยอดการจัดกิจกรรมดังกล่าวให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
กับการดำเนินงานของภูมิภาคภาคกลางในปี พ.ศ. 2563
อีกทั้งได้ร่วมหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่
โดยเดินทางทดสอบสินค้าตามเส้นทาง



นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า
สำหรับกิจกรรมของ ททท. นะครับ
เป็นกิจกรรมที่เราจะพยายามส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ในด้านการตลาดและการท่องเที่ยวในพื้นที่ของจ.ประจวบคีรีขันธ์
และหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ที่เป็นนิยมของนักท่องเที่ยว
จะอยู่ในกองบิน 5 ที่อ่าวมะนาวซึ่งเป็น 1 ใน 3 อ่าวของจังหวัดประจวบฯ
ทำให้จ.ประจวบฯ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสามอ่าว อ่าวมะนาวเป็นหนึ่งในนั้นนะครับ
จะเห็นว่านักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันอย่างคึกคักพอสมควรในอ่าวมะนาว
ซึ่งตรงนั้นจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จัดการและดำเนินการควบคุมดูแลโดยกองบิน 5

กิจกรรมที่เราทำเป็นเรื่องของการส่งเสริมการตลาด การท่องเที่ยว ในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์
เป็นจังหวัดที่มีชายหาดยาวกว่า 200 กิโลเมตร
เพราะฉะนั้นทะเลจ.ประจวบฯ ในทุกส่วนของกว่า 200 กิโลเมตร มีความงามแตกต่างกันไป
แล้วก็ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเป็นที่น่าสนใจ
ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องทะเลแล้วนี้ ป่าเขา และอุทยานแห่งชาติ และวิถีชีวิตชุมชนก็ยังมีให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมได้ครับ
ประจวบคีรีขันธ์เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยว
ถ้าเป็นคนไทยจะเน้นเรื่องเดินทางเป็นวันหยุดนะครับโดยเฉพาะวันหยุดที่เป็นวันหยุดยาว
เราจะคึกคักพอสมควร
เพราะฉะนั้นกิจกรรม Agent Media Fam Trip เป็นเรื่องการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวโดยแท้ในพื้นที่ครับ



เรียกว่ามาถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้วจุดเช็คอินที่นักเที่ยวนักช้อปนักกินต้องห้ามพลาด
สราญวิถี ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่ามาเดินที่นี่มีแต่สุขสำราญ
เป็นจุดแลนด์มาร์คที่โดดเด่นเป็นสะพานที่ยื่นออกมาสู่ทะเล
นั้นก็คือสะพานสราญวิถีหรืือเป็นที่รู้จักกันว่าคือสะพานปลาประจวบนั่นเอง
แต่เดิมเคยเป็นสะพานปลาอ่าวประจวบสำหรับการประมง
และมีการประกาศยกเลิกใช้สะพานปลาดังกล่าว
ทางจังหวัดจึงทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ใช้รูปแบบและสีสันอิงกับสถานีรถไฟของจังหวัด

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “สราญวิถี”
ซึ่งหมายถึงสะพานแห่งความสุขสำราญ
และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์
งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ประทับที่ป้ายชื่อด้วยค่ะ



Prachuap Grand Hotel
โรงแรมประจวบแกรนด์ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไม่ไกลจากสะพานสราญวิถีเลยค่ะ
ที่พักก็โอเค มีตู้เย็น มีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นเขาช่องกระจกและ มี WiFi
แต่ที่อุ้มให้คะแนนเต็ม 100 ก็คือ เมนูอาหารเช้าค่ะ ที่ห้องอาหารเขาช่องกระจก
ให้เยอะจัดเต็ม นี่ถ้ามีเวลามาก จะสัมภาษณ์พ่อครัว อุ้มเลยได้แต่ถ่ายภาพพ่อครัว
สุดยอดตั้งแต่กินอาหารเช้าจากหลายๆ โรงแรมเพิ่งเห็นที่นี่ล่ะค่ะมีเมนูอาหารเยอะมาก
ผลไม้ : คุณสามารถกินเสาวรส อโวคาโด่ ลำไย กล้วยน้ำหว้า ฯลฯ
ของหวาน : มีทุกอย่างที่อยากกินที่นึกถึงมีเยอะจนเลือกไม่ถูก
ที่สำคัญมีพระบิณฑบาตรผ่านหน้าโรงแรมด้วยค่ะ
มิน่าล่ะเพราะเหตุนี้เองมีชุดสังฆทานในห้องอาหารด้วย



ถ้ามาท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้วจะพักในตัวเมืองอุ้มขอแนะนำให้พักที่โรงแรมประจวบแกรนด์
ขอ-บอกว่า work มากค่ะ



เช้านี้ออกจากโรงแรมประจวบแกรนด์เราแวะมาที่ชุมชนคลองวาฬ
แต่พอดีต้องส่งข่าวน่ะค่ะ เลยไม่ได้ไปลงพื้นที่ได้แค่แวะร้านกาแฟ Anfield
เป็นร้านกาแฟสวยที่ชุมชนคลองวาฬ
เจ้าของร้านชงกาแฟขายเองและเป็นเด็กหนุ่มที่มีอนาคตไกล
บรรยากาศดีกาแฟอร่อยมาเช็คอินกันที่ Anfield ได้โดยไม่ต้องไปถึงประเทศอังกฤษเลยค่ะ



ตลาดการค้าชายแดนนับเป็นตลาดสำคัญระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
ทำให้เศรษฐกิจมีความคึกคักสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในท้องถิ่นทั้งสองฟากฝั่ง
ทั้งทางด้านตะวันตกของประเทศไทยก็มีตลาดการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างพม่ามีหลายที่ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนี้แหละค่ะ “ด่านสิงขร”

“ด่านสิงขร” นั้นเป็นตลาดการค้าชายแดนที่เป็นเพียงจุดผ่อนปรนการค้า
ยังไม่ได้เปิดเป็นด่านหรือจุดผ่านแดนถาวร
ในอดีตด่านสิงขรนั้นมีความสำคัญกับทั้งไทยและพม่า
โดยใช้เป็นเส้นทางคมนาคมผ่านคาบสมุทรฝั่งทะเลอ่าวไทยไปยังฝั่งทะเลอันดามันที่พม่า
เรียกกันว่า เส้นทางข้ามคาบสมุทร



ในสมัยกรุงศรีอยุธยาพม่าใช้จุดด่านสิงขรเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินทัพ
จนกระทั่งในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางยุทธศาสตร์
ที่กองทัพญี่ปุ่นสร้างขึ้นเพื่อลำเลียงกำลังพลพร้อมเสบียงอาหาร
เชื่อมต่อไปยังฝั่งเมืองมะริดในประเทศพม่า

ปัจจุบันด่านสิงขรเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าระหว่างชายแดนไทยและพม่า
และพัฒนามาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยด่านสิงขรนั้นเชื่อมต่อระหว่างฝั่งไทยที่ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
และฝั่งพม่าตรงกับหมู่บ้านมูด่อง เมืองมะริด



นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า
ด่านสิงขรที่เราไปวันนี้มันเงียบผิดปกติไปนิดหนึ่ง
ผมไม่แน่ใจว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2562
คาดกันว่านักท่องเที่ยวหรือคนที่จะมาเที่ยวด่านสิงขรน้อย
ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิด
จริงๆ นี่มีอะไรให้เราดูเยอะแยะ อย่างเช่น ร้านที่เป็นร้านกาแฟนี่
ตรงนั้นเขาเรียกว่า "ล้านของดี" สังเกตว่าร้านของเขาสะกดด้วยตัวล.ลิง
ที่ด้านหน้าของเขาจะมีกาแฟสดซึ่งกาแฟสดนี่เขาบดด้วยมือไม่ใช้เครื่อง
เพราะฉะนั้นเวลาตอนที่เขาเปิดร้านนี่แล้วเราไปนั่งกินกาแฟเราจะได้ยินเสียง
บดเครื่องบดกาแฟที่เขาใช้มือหมุน
เป็นบรรยากาศอีกบรรยากาศหนึ่งที่ที่ตรงนั้นน่าสนใจ
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเขาชอบใจจะไปนั่งตรงนั้นกัน
กาแฟก็จะมีทุกแบบทุกประเภทที่เราหากินหาดื่มได้จากร้านกาแฟทั่วไป
ไม่ว่าจะเป็นเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ อะไรต่ออะไรตรงนั้นมีหมดนะครับ
เพียงแต่วิธีปรุงของเขาจะใช้วิธีแบบธรรมชาติโดยใช้เครื่องบดกาแฟที่ใช้มือบด
แล้วก็การปรุงอะไรทั้งหลายก็จะใช้วิธีการทางธรรมชาติโบราณ
ก็เป็นเสน่ห์เล็กๆ น้อยๆ
แล้วก็จะเป็นเรื่องของต้นไม้ เรื่องของกล้วยไม้ เรื่องของเฟอร์นิเจอร์
ซึ่งในวันปกติวันธรรมดาที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันก็จะคึกคักพอสมควรครับ
ซึ่งส่วนใหญ่ด่านสิงขรจะอยู่ในโปรแกรมเพราะไม่ไกลจากตัวเมือง
ซึ่งห่างจากตัวเมืองไม่เกิน 30 กิโลเมตร แล้วก็ใกล้ๆ ไม่ได้ลำบากอะไร
เพราะฉะนั้นในการเดินทางมาตรงด่านสิงขรนี้ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างถิ่นจะแวะแน่ๆ



นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
สำหรับการเดินทางมายังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรื่องของการทำถนนตรงพระรามสอง
ตรงนั้นค่อนข้างจะเป็นปัญหาพอสมควร
คนประจวบฯ ก็เริ่มคิดถึงตรงนี้แล้วว่าการเดินทางค่อนข้างจะใช้เวลาพอสมควร
ซึ่งเกิดจากการทำถนนแล้วรถติด เพราะฉะนั้นถ้าจะเดินทางมายังจ.ประจวบคีรีขันธ์
ถ้าจะวางแผนเดินทางมาระหว่างทางที่มาถึงหัวหินเราจะมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
ที่จะเป็นแหล่งเชื่อมโยง
ซึ่งทริปที่ ททท.จัดอันนี้นี่เราก็กำลังจะดูเส้นทางที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองกัน
ทั้งเมืองรองเมืองหลัก คือสมุทรสงคราม สมุทรสาครแล้วก็เพชรบุรี แล้วประจวบคีรีขันธ์
เพราะฉะนั้นในพื้นที่ระหว่างทางที่เดินทางมากันมีอะไรให้เราแวะชม
เพราะฉะนั้นการที่วางแผนมาประจวบฯ นี่ก็แบ่งปันกันได้ว่า
คุณจะแวะที่สมุทรสงครามสมุทรสาครเพชรบุรีก่อนแล้วค่อยข้ามมาถึงฝั่งประจวบฯ
พักหัวหินก่อนก็ได้หรือจะพักระหว่างทางก็ได้ครับ



จากนั้นมากินข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารครัวห้วยทราย
ตั้งอยู่ระหว่างชะอำก่อนถึงหัวหินประมาณ 10 กิโลเมตร เข้าซอยเดียวกับวัดห้วยทรายใต้
จะมากินร้านนี้ต้องโทรจองที่นั่งก่อนนะคะไม่งั้นต้องมายืนรอโต๊ะค่ะ ขอบอกว่าคนเพียบ
อาหารที่นี่เป็นอาหารพื้นบ้านรสจัดจ้านจริงๆ ค่ะ
มีทั้งอาหารป่าและอาหารทะเลมาที่เดียวได้กินครบเลย
พิเศษที่ร้านครัวห้วยทรายข้าวสวยฟรีค่ะ อาหารก็ออกเร็ว
ถ้าใครชอบรสจัดจ้านขอแนะนำร้านนี้ไม่ผิดหวังค่ะ
ออกจากร้านครัวห้วยทราย...หมายต่อไปคือ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี



และต้องเขียนเพิ่มว่าห้ามใส่กางเกงขาสั้น-กระโปรงสั้น-เสื้อแขนกุดด้วยค่ะ
เพราะไม่งั้นคุณจะได้เป็นอาหม่องในบัดดล เจ้าหน้าที่จะให้นุ่งโสร่งนุ่งผ้าถุง
โดยต้องใช้บัตรประชาชนทิ้งไว้กับเจ้าหน้าที่ค่ะ
และเมื่อเข้าถึงในเขตพระราชนิเวศน์ก็ต้องถอดหมวกด้วยนะคะออเจ้า



ค่าเข้าชมคนละ 30 บาทเจ้าค่ะ
อุ้มมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 น็อครอบของการมาทำงานเลยค่ะ
(เพราะผ่านมา 10 ปีแล้วนั้น มาถ่ายทำอยู่ที่นี่ทั้งวันเลยค่ะ)



พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตั้งอยู่ ต.ห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
โดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เพื่อเป็นที่ประทับระหว่างเสด็จแปรพระราชฐานในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากในช่วงนั้นทรงพระประชวร
แพทย์หลวงจึงถวายคำแนะนำให้เสด็จไปประทับ ณ สถานที่ตากอากาศชายทะเล
ดังนั้นจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนิกชาวอิตาลีนามว่า มาริโอ ตามานโญ
ออกแบบตามแนวความคิดของพระองค์ท่านซึ่งได้ทรงร่างแผนผังด้วยพระองค์เอง
พระราชทานให้สถาปนิกนำไปออกแบบรายละเอียดและได้ดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2466 – 2467



สำหรับทริปนี้อาจารย์อริยะ ทรงประไพ
ตำแหน่งอาจารย์เป็นที่ปรึกษางานบูรณะ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
เป็นวิทยากรนำเยี่ยมชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
ต่อไปเป็นการถอดเทปการบรรยายของอาจารย์อริยะ ทรงประไพ..ความว่า
...สิ่งที่น่าสนใจก็คือรัชกาลที่ 6 ปรับแก้อะไรไม่มีใครพูด
ก็ต้องมานั่งวิเคราะห์เองว่าในจำนวนผังทั้งหมดของฝ่ายหน้า
มีอาคารอยู่แค่หลังเดียวที่อยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด นั่นก็คือที่ประทับของรัชกาลที่ 6
ไม่ใช่ศาลานะครับ ศาลานี่ไม่มีคนอยู่
อาคารที่มีคนอยู่คือที่ประทับของรัชกาลที่ 6
ปรากฏว่าอาคารที่ใกล้ทะเลรองลงมาจากหลังรัชกาลที่ 6
ปรากฏว่าอยู่โน้นครับฝ่ายในก็คือห้องพระมเหสีน่ะครับ
ปรากฎว่ามันก็มีฐานัดรศักดิ์ทางสังคมในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชในสมัยนั้น
ทำให้อาคารแต่ละหลังสลับยักเยื้องตามฐานะของเรือนแต่ละหลัง
ฝ่ายหน้าถ้ามีตำแหน่งน้อยกว่าฝ่ายในก็จะอยู่เรือนหลังสุด
แต่จะมีฐานะทางสังคมที่นี่เลยกลายเป็นตัวแทนของสังคมในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช
แสดงออกผ่านการวางผังแบบตะวันเชื่อมโยง 2 วิธีการเข้าไว้ด้วยกัน
ทั้งทางตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน
มันไม่ใช่ไทยประยุกต์
แต่เป็นการประยุกต์ concept แนวคิดเรื่องระบบสังคมเข้ามาเกี่ยวข้องกัน...
มาริโอ ตามานโญ หัวลำโพ-พระที่นั่งอนันตฯ-มิวเซี่ยมสยาม-ตึกไทยคู่ฟ้า
ถ้ามีชื่อมาร์วีดี้ก็ต้องมีชื่อมาร์วิดี้อยู่ในเอกสาร
เอกสารพูแต่ว่าการ์โร่พูดถึงมาริโอ ตามานโญแต่ไม่พูดถึงมาร์วีดี้เลย
น่าสนใจแต่ผมไม่ฟันธงบางทีมาร์วีดี้อาจเป็นผู้ช่วยตามานโญก็ได้
แต่ว่าภาษาที่ใช้ในการทำงานทั้งหมดนี้
เป็นภาษาที่ตามานโญใช้กับเอกสารของเขา...



...สิ่งที่เรามีแบบในการใช้งานในการตรวจสอบอาคาร
แค่ผังที่เขียนด้วยภาษาอิตาลีแผ่นเดียวเท่านั้นเอง
นอกนั้นไม่มีอะไรเลยข้อมูล
เพราะฉะนั้นข้อมูล 95 ปี เราไม่มีฐานข้อมูลในการซ่อมเลย
จึงต้องมานั่งวิเคราะห์กันใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ
สุดท้ายเราพบว่าคนที่เป็นวิศวกรเป็นคนเยอรมันชื่อ ทีจีการ์โร่
แล้วคนที่เป็นคนวางผัง ชาล์สเบอกาแลงค์ เป็นคนสวิส
แต่คนคุมงานก่อสร้างที่นี่เป็นคนไทยคือเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
สรุปได้ว่า แบบก่อสร้างเป็นภาษาอิตาลี วิศวกรเป็นคนเยอรมันี คนวางผังเป็นคนสวิส
คนคุมงานเป็นคนไทย แต่คนก่อสร้างเป็นคนจีน แต่ทุกอย่างเสร็จภายในเวลา 7 เดือน...



...สิ่งหนึ่งที่อาจจะมองข้ามไปนะครับ เราเปลี่ยนสีอาคารแล้วครับ
เราพบว่าสีของอาคารหมู่พระที่นั่งไม่ใช่สีฟ้ากับสีเหลืองที่ทุกคนคิดมาตลอดนะครับ
คืออย่างนี้นะครับ เราเลือกภาพถ่ายขาวดำ 3-4 ภาพที่เรามี
เราพบว่าเฉดสีขาวดำน่ะมันไม่เหมือนกับเฉดสีขาวดำที่เกิดขึ้นในสีฟ้ากับสีเหลือง
เพราะมันจะกลายเป็นสีสลับกันล่ะ
แล้วเรามาตั้งคำถามว่าแล้วสีจริงคือสีอะไร
เราก็เลย something ว่าตั้งสมมุติฐานน่ะครับว่า
ถ้าสมุุมติว่าสีจะเสื่อมสภาพนี่เกิดจากอะไร
1.แดดลมฝน 2.มนุษย์
มนุษย์เข้ามาใช้งานเข้ามาซ่อมทำสีใหม่เขาจะต้องลอกสีเก่าออกให้หมด
พอลอกสีเก่าออกให้หมดแล้วเขาก็ทาสีใหม่ทับแล้วคุณจะเจอสีจริงได้อย่างไร
เราก็เลยคาดว่าสิ่งที่มนุษย์เข้าถึงยากสิ่งที่แดดลมฝนทำลายได้ยาก
ในขณะที่สูงๆ น่าจะมีสีอยู่
เราก็เลยแบ่งวิธีการขูดสีออกเป็น Layer จากชั้นปกติไปจนสีแต่ละชั้นก่อนถึงเนื้อไม้
ทำทั้งหมด 424 จุด แล้วเราก็พบเจอกลุ่มสีซ่อนอยู่ใต้ผิวสีปกติก่อนถึงเนื้อไม้
น่าจะเป็นสีกลุ่มดั้งเดิมที่สุดของตัวอาคารพระราชนิเวศน์ใรช่วงที่มีการก่อสร้างครั้งแรก
สีที่เป็นสีเขียวเข้มๆ นี่นะครับเรียกว่าสีเทาเขียว
แล้วสีที่เป็นสีเขียวตรงช่องลมน่ะครับเราเรียกว่าสีเขียวไก่กา
แล้วสีที่เป็นสีเหลืองมัสตาดชื่อว่าสีเหลืองเพียงทอง
แต่ว่าสีใต้ฝ้ากับใต้ทองพื้นมันจะเป็นสีเขียวอ่อนๆ
เราเปิดรางไฟเราพบว่ามันซ่อนอยู่ใต้รางไฟได้สีที่เราเรียกว่า
เคยมีใครชมพวกเราว่าหน้าขาวผ่องเป็นยองใย
นั่นอย่าไปดีใจที่ว่าหน้าขาวผ่องนั่นก็คือหน้าขาวๆ เขียวๆ ครับ
ถ้าอยากจะชมเพื่อนด้วยความรักให้ชมว่า "หน้าขาวควายเผือก" นะครับ
นั่นก็คือหน้าขาวอมชมพูครับเป็นชื่อเรียกของคนโบราณ.......

อยากเขียนเล่าต่อแต่ไว้รออ่านในหนังสืออาจารย์ดีกว่านะคะ
แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือเมื่อไหร่แจ้งด้วยนะคะอาจารย์จะไปซื้อพร้อมขอลายเซ็นต์



Amazing ในการซ่อมแซมไม้ การเข้าไม้
เป็นการใช้รอยต่อไม้มาแก้ปัญหาซ่อมแซมไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในการต่อไม้ของช่างไทยที่สืบทอดต่อกันจากรุ่นต่อรุ่นยอดเยี่ยมค่ะ



ก่อนจะเดินออกจากพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
จะมีมุมกาแฟ อาหาร เครื่องดื่ม และร้านขายของที่ระลึก แวะช้อปแวะชิมด้วยนะคะ
เพราะรายได้จะสมทบทุนในการซ่อมแซมบูรณะปฏิสังขรณ์พระราชนิเวศน์ฯ
ที่สำคัญต้องห้ามพลาดดื่มน้ำมะขามนะคะ แก้วลละ 25 บาท เริ่ดค่ะอุ้มคอนเฟิร์ม



ขอขอบคุณอาจารย์อริยะ ทรงประไพ เป็นวิทยากรนำเยี่ยมชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
นับเป็นกูรูที่เข้าใจการบูรณะเป็นอย่างยิ่งได้รับความรู้ใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
คนบรรยายก็ตั้งใจเล่าคนฟังก็ตั้งใจฟังงานนี้เคมีตรงกันนับเป็นอีกทริปที่มีความสุขขอบคุณค่ะ



CUT มาที่เช้าวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 ณ ชูชัยบุรีศรีอัมพวา จ.สมุทรสงคราม



ชูชัยบุรีศรีอัมพวา ตั้งอยู่ที่ถ.เลียบนที ต.อำพวา อ.อำพวา จ.สมุทรสงคราม
เบอร์ติดต่อ : 034 129 900
ชูชัยบุรีศรีอัมพวามีอาคารชินบัญชรเป็นสถาปัตยกรรมอาคารแปดเหลี่ยมจำนวน 4 ชั้น
แบบวิกตอเรียได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุโรปผสมกับไทยประยุกต์ก่ออิฐถือปูน
ทั้งหมดทาด้วยสีครีมอ่อนหลังคาสีแดงหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์
ห้องพักทั้ง 18 ห้อง มีการตกแต่งที่หรูหราสะดวกสบายให้บริการแบบ 5 ดาว
เข้าพักที่นี่ + อาหารเช้าด้วยค่ะ



คุณแจ็ค-เจษฎา เตชะธรรมรัตน์ เล่าให้ฟังว่า
ฐณิชารีสอร์ทเป็นรีสอร์ทเล็กๆ จำนวน 15ห้องติดตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม
เราสามารถมีกิจกรรมทางน้ำตอนเช้า คือโดยพระสงฆ์จะมาบิณฑบาตรทางเรือ
รวมทั้งตอนเย็นมีบริการพาไปชมหิ่งห้อยด้วยนะครับ
เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ที่มีความอบอุ่นที่ Family พาครอบครัวมาพักผ่อน
หรือเป็นคู่รักมาเป็นเพื่อนกัน
ทางรีสอร์ทเราก็มีพื้นที่รองรับสำหรับแขกทุกท่านครับ
แล้วก็อาหารเช้าเราจะเป็นแบบบุตเฟ่เป็นสไตล์ American Breakfast นะครับ
สามารถรองรับลูกค้าได้อย่างเต็มที่



คุณแจ็ค-เจษฎา เตชะธรรมรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
จริงๆ concept การตั้งชื่อแต่ละห้องนี้เราคิดจากสิ่งของในพื้นที่น่ะครับ
ที่นี่จะมีเรื่องนาเกลือ หอยหลอด หอยแครง หอยแมงภู่ หรือกระทั่งปลาทู
เราก็นำมาตั้งเป็นชื่อห้อง หรือจะเป็นห้องมะพร้าว ส้มแก้ว
เรียกว่าสิ่งของที่มีชื่อในพื้นที่อัมพวาน่ะครับ
ห้องพักของเรามี 4 แบบคือ standard-superior-deluxe-Family suite
สำหรับไอเดียผ้าขาวม้าผ้าถุงนี่เป็นไอเดียมาจากวิถีชีวิตที่นี่ครับ
เวลาเราไปสวนเราก็จะมีผ้าขาวม้าติดตัวเสมอ
ทางเราจึงนำมาเป็นอุปกรณ์ไว้ในห้องพักไว้ให้ลูกค้า
เผื่อลูกค้าไว้คาดเอวบ้าง ไว้นุ่งนอนบ้างได้
หรือลูกค้าสตรีสามารถนุ่งผ้าถุงลงมาใส่บาตรยามเช้าได้
ดูเป็นเอกลักษณ์ มีความเป็นไทยน่ะครับ



ฐณิชาฌ์ รีสอร์ท มีสิ่งอำนวยสะดวกมากมายคุ้มค่า
เช่น รูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง-ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง-แม่บ้านทำความสะอาดรายวัน
มีห้องเก็บกระเป๋า, Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ
ฐณิชาฌ์รีสอร์ทตกแต่งบรรยากาศให้ดูเสมือนบ้านหลังที่สองเลยค่ะโอมากชอบๆ
สนใจสำรองที่พักได้ที่ 08-3161-4655 และ 08-3282-6464



และนี่คือตัวอย่างของความสำเร็จของชุมชนที่อุ้มภูมิใจนำมาฝาก
ป้าเล็ก-จิตรลดา เอกแก้วนำชัย
ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและท่องเที่ยวชุมชนบ้านริมคลองโอมสเตย์ ได้เล่าให้ฟังว่า
ในการที่เราทำท่องเที่ยวมาตั้งแต่เริ่ม 17 ปีที่แล้วจนกระทั่งมาถึงปัจจุบันนี้
การท่องเที่ยวของเราได้บูมขึ้นเยอะมากเลยนะคะ
จากที่ทาง ททท.ได้ให้การประชาสัมพันธ์
อย่างเมื่อตอน 16 ปีที่แล้ว เราเติบโตด้วย call center ของ ททท.1672
จนถึงทุกวันนี้ ททท.สมุทรสงครามและ ททท.สำนักงานใหญ่
ให้การสนับสนุนชุมชนบ้านริมคลองมาโดยตลอด
ทำให้เราเติบโตขึ้นมาแล้วก็เข้มแข็ง
มีนักท่องเที่ยวรู้จักเรามากมายทั้งนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
ทำให้เราสามารถได้รับทัวร์มาจากต่างประเทศมาพักที่บ้านริมคลอง
มาทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมขี่จักรยาน
จากที่เราได้รับการประเมินรางวัลกินรีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
ตั้งแต่เริ่มแรกปี พ.ศ.2553 -2559 เราได้รับรางวัลมา 3 ครั้ง
ในสามครั้งนี้มีสิ่งดีดีเข้ามาโดยตลอดทำให้บ้านริมคลองโฮมสเตย์ได้เติบโต
และได้ขยายกิจกรรมต่างๆ ขึ้นมา
จากการที่เราได้ส่งการประเมินเราได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของเรามาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็นการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ดูแลเรื่องของสังคมในชุมชนของเรา
ทำให้ชุมชนของเราเกิดความรักและสามัคคีช่วยกันทำเรื่องราวดีดีในชุมชน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยวหรือกิจกรรมต่างๆ นี้
จนเราได้อยู่ได้กินได้ใช้จ่ายเสมอเหมือนเรามีความสุขกับการท่องเที่ยวตรงนี้ค่ะ
(ไว้วันดีคืนดีอุ้มจะมาจองบ้านสักหลังพักมั่งค่ะ...ชอบๆๆๆ)



จากที่เราทำเรื่องท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2546
เราใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินการทำโฮมสเตย์แบบค่อยคิดค่อยทำ
เรามีการประเมินดูในพื้นที่ของเราว่า
พื้นที่ของเรามีอะไรบ้างที่เราจะขายเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวได้
พอประเมินแล้วเราดูเหตุผลเราดูความต้องการของนักท่องเที่ยว
ว่าเราขายนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ไหม
พอเราประเมินเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเราก็ดำเนินการตามขั้นตอน
แล้วพอเราดำเนินครั้งแรกสำเร็จเราจะขยายกิจการหรือทำกิจกรรมต่อไปนี่
เราก็ใช้หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาดำเนินการ
ในสิ่งเหล่านี้เรามีภูมิคุ้มกันจากภูมิปัญญาของเรา
เราใช้ภูมิปัญญาที่เรามีอยู่ในชุมชนของเราไม่ใช่เฉพาะตัวเราอย่างเดียว
เราจะเชิญพี่ป้าน้าอามาช่วยกันโดยใช้ภูมิปัญญาที่มีอยู่ในชุมชนออกมาเป็นการท่องเที่ยว
ถ้ามาท่องเที่ยวที่ชุมชนของเราๆ มีกิจกรรมการเรียนรู้
ก็จะมีเรื่องของการทำน้ำตาลมะพร้าว เรามีตั้งแต่เรื่องกระบวนการปาดตาล
เพื่อแสดงให้เห็นว่าน้ำตาลเราได้มาจากตรงไหน
แล้วมาเข้าสู่กระบวนการเคี่ยวจนเป็นน้ำตาลมีวิธีการทำอย่างไร
แล้วเราก็สามารถที่จะสอนให้คนที่อยากจะนำไปทำต่อจากเราได้ด้วย



พี่คนเคี่ยวน้ำตาลบอกกับอุ้มว่า สำหรับการทำน้ำตาลมะพร้างของที่นี่
ตอนเช้าเราก็จะไปปาดดอกมะพร้าวเพื่อเอาน้ำหวานจากดอกมะพร้าวมาเคี่ยว
โดนเคี่ยวเราก็จะทำเป็นน้ำตาลเนื้อเป็นเนื้อแท้ 100 % ก็จะใช้วัตถุดิบ 30 ลิตร
เคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมงจนขึ้นดอกหมาก
แล้วยกลงมาให้คลายความร้อนจนตกผลึกเป็นเนื้อแล้วเราก็นำมาหยอดลงแม่พิมพ์
เราหยอดพิมพ์ไหนเราก็จะได้พิมพ์นั้นแล้วก็แพ็คขายต่อไป
แต่การทำน้ำจาลไซรัสก็จะใช้สัตถุดิบประมาณ 60 ลิตร เคี่ยว 3 ชั่วโมง
ตัวนี้ก็จะเคี่ยวไปโดยวัดความหวาน 80 เราถึงยกลงมากรอกใส่ขวด
อุณหภูมิที่ 80-85 องศา ปิดฝาแล้วน็อคน้ำเย็น

ซึ่งการทำน้ำตาลมะพร้าวนี้เราได้ประโยชน์ตรงที่ใช้วัสดุภายในสวนของเรา
ใช้ประโยชน์จากทางมะพร้าว-ลูกมะพร้าวที่เสียๆ นำมาเป็นเลื้อเพลิง
แทนที่จะปล่อยให้รกอยู่ในสวนเปล่าประโยชน์
หรือนำมาเผาทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์ก็นำมาใช้ในการเคี่ยวน้ำจาลได้
อยากขอบคุณ ททท. การท่องเที่ยวเข้ามาสนับสนุนหลายเรื่อง
ก็มีการพานักท่องเที่ยวมาเราก็จะได้รายได้ตรงนี้
แล้วก็พามาดูงานเขามีอะไรเขาก็จะแนะนำเราแล้วเราก็ปรับปรุง
ทั่วไปทุกวันนี้ความเป็นอยู่ดีขึ้นชุมชนก็มีงานคนงานก็มีงานทำ
ตามบ้านมีนักท่องเที่ยวมาก้ทำเป็นโอมสเตย์ไปเขาก็มีรายได้
แล้วนักท่องเที่ยวเข้ามาในชุมชนแห่งนี้
ชาวบ้านมาทำครัวมั่งมาเป็นวิทยากรมั่งทำให้มีรายได้ขึ้นค่ะ
จอนนี้ที่นี่มีคนมาดูงานทุกวันมากน้อยก็แล้วแต่ว่าแต่มีมาทุกวัน
มาพักบ้างมาดูงานบ้างทุกวันนี้ชุมชนเราเข้มแข็งขึ้นก็ดีใจค่ะ




แล้วเราก็นำน้ำตาลที่เราทำนี้มาทำขนมไทย
ขนมไทยของเราก็จะเป็นขนมมงคลไทยยุคแรกๆ ของประเทศไทย
แล้วก็จะมีขนมยุคที่สองด้วยก็คือประเภทขนมฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด
แต่เราจะให้นักท่องเที่ยวทำเป็นกิจกรรมก็คือฝอยทอง



แล้วเราก็มีกิจกรรมจักสานด้วยใบมะพร้าวนักท่องเที่ยวชอบมากเลยค่ะ
จักสานเป็นหมวก เป็นกระเช้า เป็นนก-ปู-ปลา เป็นพัด
เราทำแล้วก็สอนให้เขาเอาไปใช้ในวิถีชีวิตของพวกเขาได้ด้วย
หรือว่ากิจกรรมโฮมสเตย์อื่นๆ ก็ได้
ตอนนี้เราเพิ่มกิจกรรมมาที่เราส่งรางวัลกินนรีเพิ่มมาเป็นการละเล่นเด็กไทย
หรือว่าการปั่นจักรยาน



การทำมัดย้อม
มัดย้อมเราไม่ได้ใช้เปลือกผลิตภัณฑ์อย่างอื่น
เราใช้เปลือกมะพร้าวเอาเปลือกมะพร้าวมาทำให้เป็นสีแล้วค่อยทำการมัดย้อม
ก็จะมีรูปแบบการมัดย้อมเพื่อให้การมัดย้อมตรงนี้แปลกกว่าที่อื่น
แล้วพอนักท่องเที่ยวมาทำแล้วก็จะได้เป็นของฝากติดมือกลับบ้านไปด้วย



ป้าเล็กเล่าให้ฟังส่งท้ายว่าตอนนี้เราเพิ่มกิจกรรมเป็นกิจกรรมคนย่ำเกลือ
ซึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามนี้เราก็มีเกลืออยู่
เรานำเกลือมาต่อยอดพร้อมด้วยน้ำมันมะพร้างสกัดเย็น
เวลาเราทำย่ำเกลือเสร็จเราก็จะลูบผิวด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
เพื่อเป็นการบำรุงผิวอีกทางหนึ่ง



ถ้าสนใจที่จะมาเรียนรู้กับกิจกรรมที่นี่ติดต่อ โทร.08-9170-2904
หรือติดต่อทางเฟชบุ๊ค : บ้านริมคลองโฮมสเตย์
หรือทางเวบไซด์ : https://www.Baanrimklong.net



ชื่อนายธีรยุทธฺ ทรัพย์สงวน ผลิตกระเป๋าผ้าปลาทูแฮนด์เมคทั้งหมด
ทั้งผ้าพิมพ์ลายและผ้ามัดย้อมธรรมชาติย้อมด้วยตัวเอง และของที่ระลึกต่างๆ
ที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม
สำหรับของที่ทำขายออกมานี้ซึ่งเกิดจากความชอบมาก่อน
โดยคุณฝนเรียนจบจากโชติเวชจบด้านการออกแบบผ้าและเครื่องแต่งกาย
ส่วนผมจบทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า
ได้มาเข้าสู่วงการ OTOP ดริ่มมาจากที่เราชอบในงานผ้ามาก่อน
แล้วก้อยากจะสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ต้องการของคนทั่วๆ ไป
คือตอนแรกทำงานประจำไปด้วยแล้วก็ทำงาน OTOP เสริมไปด้วย
แต่ ณ ปัจจุบันยอดขายและสภาวะงานผ้างานกระเป๋าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทำให้สามารถยืนอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประจำก้เลยออกมาทำเต็มตัว
ในส่วนของงานผลิตภัณฑ์แฮนด์เมคทำด้วยตัวเอง เราไม่ได้จ้างคนอื่นทำ
แล้วใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อสื่อถึงอัตลักษณ์ มีเท่าไหร่ก็ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ
เราเข้าสู่วงการผ้ามา 10 ปี ส่วนในวงการ OTOP เข้าสู่ปีที่ 5 ครับ
โดยยึดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9
เราก็ผลิตให้ได้มาตรฐานเพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อไปใช้ได้กลับมาซื้ออีก



ขอขอบคุณ : ททท.ภูมิภาค ภาคกลาง ที่ชวนอุ้มมาเป็นอีกทริปที่มีความสุขกับทุกที่ที่ไปค่ะ



ขอขอบคุณ : เพลง : ไปเที่ยวกันไหม วงลิปตา
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ / ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม / ททท.สำนักงานเพชรบุรี
BG : ญามี่ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : lozocat / Banner : oranuch_sri
ของแต่ง BLOG : ป้ามด + ดอกหญ้าเมืองเลย + ชมพร + ญามี่ + เนยสีฟ้า

 



Create Date : 21 พฤษภาคม 2562
Last Update : 18 กรกฎาคม 2562 8:11:16 น.
Counter : 2613 Pageviews.

34 comments
สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดนายโรง ณ พระพุทธเจดีย์สารีริกธาตุ นายแว่นขยันเที่ยว
(11 มี.ค. 2567 00:10:31 น.)
เลี้ยงรุ่น พบเพื่อน kcan9
(10 มี.ค. 2567 15:34:45 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม. ที่ 347 "ติดเป็นนิสัย" จันทราน็อคเทิร์น
(9 มี.ค. 2567 21:46:59 น.)
สวนสาธารณะคลองช่องนนทรี เฟส 1 แมวเซาผู้น่าสงสาร
(9 มี.ค. 2567 14:01:34 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณJinnyTent, คุณทนายอ้วน, คุณtuk-tuk@korat, คุณKavanich96, คุณเนินน้ำ, คุณเจ้าการะเกด, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณNoppamas Bee, คุณนกสีเทา, คุณStand by bowky, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณmariabamboo, คุณmultiple, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณSweet_pills, คุณruennara, คุณnewyorknurse, คุณkae+aoe, คุณhaiku, คุณ**mp5**, คุณtoor36, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณเริงฤดีนะ, คุณหน่อยอิง, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmelody_bangkok

  
ผมชอบไปเที่ยวเพชรบุรีกับ
ชอบอยู่ หัวหิน ปราณบุรี
เลยไปบ่อยหน่อย 555

อากาศเย็นสบายกว่ากรุงเทพ..

นำบุญมาฝากครับ.. ผมไป
อยู่ที่ร่มอารามธรรมสถาน
คลองสิบมา งดพูดคุย..เลยสงบดี 555
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:34:24 น.
  
ได้เที่ยวยาวเลยนะครับ ไปถึงอ่าวมะนาว อยากไปมั่งครับ
ไปถึงหาดบ้านกรูดหรือเปล่าครับ
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:8:23:09 น.
  
ช่วงนี้พี่อุ้มเดินสายเที่ยวเลยครับ
อิจฉาๆๆๆๆๆ
แต่ละที่ แต่ละจังหวัดที่ไป
น่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:47:09 น.
  
รีวิวเข้มข้นมากค่ะ
อ่านเพลินได้ความรู้ที่บางอย่างก็ไม่เคยรู้
แต่พี่หมดตัวแล้วค่ะ
กดไลค์ที่ 4 ให้นะคะ

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:11:45 น.
  
สวัสดีครับคุณอุ้มสี
ใต้ฟ้าสีครามรู้สึกว่าจะมีเป็นหนังคุณตู่นพพลเล่นคู่กับคุณจิ๊กเนาวรัตน์ครับ แต่ผมเองก็เกิดไม่ทันยุคนั้น อาศัยข้อมูลจากอากู๋เอาเหมือนกัน ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมครับ
โดย: ruennara วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:18:11 น.
  
ประจวบเป็นจังหวัดที่หลุดจากหัวหินไป ทำให้ความเป็นธรรมขาติยังอยู่ได้ครบถ้วนครับ
น่าไปมาก วันนี้ไม่ไกลแล้ว
แต่เมื่อก่อนนั้นดูจะไกล คนก็เลยหยุดแค่หัวหิน
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:54:43 น.
  
เมืองเพชรบุรีนี่ มีแต่ที่เที่ยวน่าสนใจทั้งนั้นเลยนะคะ
เดี๋ยวนี้มี Street Art กระจายอยู่ในตัวเมืองด้วย
ดีงาม ^^

เวเลซไปเพชรบุรีตอนเช้าวันอาทิตย์ ถนนโล่งเลยค่ะ
โดย: VELEZ วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:34:38 น.
  
พี่อุ้มเที่ยวอีกแล้ววววว
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:37:54 น.
  
อิจฉาค่ะ เที่ยวจังเลย
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:22:07:17 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:2:39:57 น.
  


สวัสดียามเช้าครับพี่อุ้ม


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:5:44:41 น.
  
เมืองไทยที่เที่ยวสวย ๆ เยอะ
อาหารก็อร่อยมากค่ะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:8:02:22 น.
  
น่าไป
เคยไปอ่าวมะนาว
ชอบทั้งวิว
ชอบทั้งโรงแรมที่พัก
ยังประทับใจมากค่ะ
โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:29:57 น.
  
ข้าวแช่...น่าสนมากค่ะพี่^^
โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:48:16 น.
  
อุ้มสี Travel Blog


แวะมาส่งกำลังใจค่า
โดย: mariabamboo วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:19:05:58 น.
  
โอ้โห เที่ยวมาราธอน มากเลยนะครับนี่ 555

เดี๋ยวนี้ อ.เต๊ะไปได้ไม่เกินวันละ 2 ที่
เพราะเที่ยวมาก ก้เหนื่อยมาก พอเหนื่อยก็ต้องกินแยะ เสร็จแล้วก็พุงป่อง ยิ่งแถวนั้น ของอร่อยแยะด้วยนะครับ

ดูจากรูปของกินแล้วนี่ ขากลับ คุณอุ้มน่าจะโดนแรงดึงดูดโลกเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3โล แหงๆนะครับ 555 ยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

โดย: multiple วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:10:25 น.
  
ขอบคุณครับพี่อุ้ม

หนังสือเล่มนี้น่าอ่านจริงๆครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:31:21 น.
  
ขอบคุณนะคะคุณอุ้ม
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:49:38 น.
  
เพชรบุรีนึกถึงข้าวแช่ค่ะ
กิจกรรมดี ที่เที่ยวเยอะ อาหารน่าอร่อย
ขอบคุณภาพบรรยากาศนะคะคุณอุ้ม
เพลงประกอบสนุกน่ารักค่ะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:26:02 น.
  
มาเที่ยวด้วยค่ะ
ไปอัมพวา ชูชัยบุรี
และอ่าวมะนาวด้วย
พี่ชอบอ่าวมะนาว
โดย: newyorknurse วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:3:25:04 น.
  


สวัสดียามเช้าครับพี่อุ้ม

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:26:32 น.
  
จังหวัดนี่น่าไปเที่ยวสุดๆ ค่ะ
โดย: kae+aoe วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:8:09:18 น.
  
เจอหน้าตามมาโดยพลันค่ะ
วันนี้ยังรวยมาก
หาบล็อกอัพใหม่ไม่ค่อยได้ด้วย

เอนทรี่นี้เที่ยวสามจังหวัดเลยนะคะ
พี่คงไปได้ครั้งละจังหวัดเดียว

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:42:58 น.
  
ส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:53:36 น.
  
เพชรบุรีนี่ไม่ไกลจริงๆ ครับ ถ้าไปเที่ยวช่วงนี้ยังพอได้อยู่ ถ้าเลยช่วงนี้ไปสักหน่อย เริ่มหน้าฝนจะเริ่มเที่ยวลำบากขึ้นละ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:14:31 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:13:15:19 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับพี่อุ้ม




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:46:50 น.
  
อ่านแล้วสนใจครัวห้วยทรายแหละพี่อุ้ม

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:16:41:25 น.
  
พี่อุ้มกลับเข้าสู่โหมดคนเดิมล่ะ
ภาพเยอะข้อมูลแน่น
ที่มาประวัติศาสตร์จัดเต็ม
เข้าบล็อกวันนี้คุ้มค่ะ
สุดยอด
โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:46:12 น.
  
สวัสดี จ้ะ น้องอุ้ม
มาเที่ยว เพชรบุรี ตามทางที่อุ้มรีวิว จ้ะ
สถานที่เที่ยวก็มาก ของกินก็
ไม่น้อยเลย ภาพข้าวแช่ ดูน่า
อร่อยมากนะเนี่ย หิวเลย อิอิ
โหวดหมวด ท่องเที่ยว
โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:30:15 น.
  


สวัสดียามเช้าครับพี่อุ้ม

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:20:23 น.
  
สวัสดีเช้าวันหยุดสุดสดใสครับ
โดย: ruennara วันที่: 25 พฤษภาคม 2562 เวลา:8:32:53 น.
  
ขอบคุณพี่อุ้มสำหรับกำลังใจนะคะ
มีความสุขมาก ๆ ค่ะ
โดย: mariabamboo วันที่: 25 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:58:57 น.
  
เพิ่งเห็นว่าคุณอุ้มสีแวะเยี่ยมเอนทรี่เกาะสีชัง ขอบคุณมากค่ะ ตามคุณอุ้มสีมาเที่ยวบ้างค่ะวันนี้

น่าสนใจมากเลยค่ะ คลองกระแซง ไม่นึกว่าเพชรบุรีจะมีที่เยี่ยมชมน่าสนใจซ่อนอยู่อีกเยอะแยะขนาดนี้ ปกติเป็นทางผ่านไปหัวหินเท่านั้นเองค่ะ ต้องขอตามบ้างแล้ว ขอบคุณข้อมูลมากๆเลยนะคะ

โดย: melody_bangkok วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:46:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aumteerama.BlogGang.com

อุ้มสี
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 118 คน [?]

บทความทั้งหมด