ททท.ลงพื้นที่จัดกิจกรรม Agent Media Fam Trip ณ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2562 นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม หัวหน้างานภาคกลาง1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และคณะ ลงพื้นที่จัดกิจกรรม Agent Media Fam Trip โดยการนำผู้แทนจากสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ทดสอบสินค้าทางการท่องเที่ยวและบริการระดับ Premium ณ จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เกิดการเสนอขายเข้าสู่ระบบตลาดต่อไปในอนาคต และสามารถต่อยอดการจัดกิจกรรมดังกล่าว ให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของภูมิภาคภาคกลางในปี 2563 อีกทั้งได้ร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้นำผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ตัวแทนของสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ มาสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ตลอดทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกของการท่องเที่ยวในเรื่องของสินค้าและบริการ ในส่วนของภาคกลางเองก็คือจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-สมุทรสงคราม ในวันแรกที่เราไปโดยออกจากรุงเทพมหานครไปทางถนนพระรามสองไปเข้าที่จังหวัดเพชรบุรี โดยได้ไปท่องเที่ยวชุมชนถนนคลองกระแชง เป็นการท่องเที่ยววิถีชุมชน ได้ไปเห็นความสามัคคีของชุมชนที่ร่วมมือกันทำเรื่องการท่องเที่ยว หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตัวเมืองประจวบฯ เลย ไปดูสถานที่ท่องเที่ยว เราไม่ได้ไปหัวหินที่เราเดินทางไปไกลกว่านั้นหน่อย กระจายตัวออกไป ไปเที่ยวอ่าวมะนาว ก็จะมีหาดทรายที่สวยงามเล่นน้ำได้ แล้วก็มีถนนคนเดินในตัวเมืองประจวบฯ แล้วก็พักที่โรงแรมประจวบแกรนด์ในตัวเมืองประจวบ พอวันรุ่งขึ้นเดินทางไปที่ด่านสิงขรซึ่งเป็นด่านชายแดนไทย-พม่า บริเวณด่านก็จะมีการค้าขายสินค้าของทางฝั่งพม่าเองและฝั่งไทย ที่สามารถเข้ามาเที่ยวชมได้และเป็นจุดที่สามารถนำเสนอขายการท่องเที่ยวได้ หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่ชะอำนะครับ ช่วงบ่ายเดินทางมาที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน มาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 6 แล้วก็ได้เรียนรู้เรื่องราวทางสถาปัตยกรรม โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยายให้ความรู้และนำเที่ยวชม และได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในมุมทางด้านสถาปัตยกรรม ตลอดถึงได้เห็นการบูรณะ การก่อสร้างตั้งแต่อดีตซึ่งมีเรื่องราวเล่าที่น่าสนใจมากนะครับ เมื่อมาเที่ยวชมทำให้รู้สึกรักและหวงแหนสถานที่แห่งนี้นะครับ สุดท้ายตอนเย็นเราก็มาที่ตลาดน้ำอัมพวาที่จังหวัดสมุทรสงคราม ในช่วงเช้าของวันสุดท้ายเราก็มาที่ริมคลองโฮมสเตย์ มาดูวิถีชุมชนที่มีกิจกรรมต่างๆ มากมายในเรื่องของวิถีชุมชนที่นี่ และนี่เป็นเส้นทางทั้งหมดที่เรานำเสนอให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ที่จะสามารถไปทำเส้นทาง ทำโปรแกรมที่จะขายนักท่องเที่ยวได้ตรงกลุ่มวัตถุประสงค์ และตรงตามเป้าหมายนะครับ ก็จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกวิธีหนึ่งที่เราจะร่วมกับพันธมิตร กระตุ้นในเรื่องของการท่องเที่ยวนะครับ ต้องขอขอบคุณ ททท.ภาคกลางที่ชวนอุ้มมาค่ะ หลังจากที่เราสามารถฟันฝ่าในวันรถติดแห่งชาติวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2552 เราก็มาถึงจังหวัดเพชรบุรี เมืองเล็กๆ ที่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่เท่าไหร่เพียงแค่ 120 กิโลเมตร เดินทางมาได้ 2 ทางก็คือทางรถยนตร์และทางรถไฟลงที่สถานีรถไฟเพชรบุรี เรียกว่ามาท่องเที่ยวแบบเพลิดเพลินเมืองเพชรได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุด (จะว่าไปปีนี้อุ้มมาเมืองเพชรนี่เดือนเว้นเดือนแล้วนะคะปีนี้) ที่นี่มีให้เลือกเที่ยวได้ครบไม่ว่าจะเป็นทะเล ถ้ำ ภูเขา วัง เขื่อน น้ำตก วัด แม่น้ำ เมืองเพชรมีดีทั้งเรื่องศิลปวัฒนธรรมต่างๆ มากมาย อาหารก็อร่อย และวิถีชีวิตของคนในชุมชนก็มีความน่าสนใจอย่างเช่นวันนี้อุ้มนำภาพมานำเสนอค่ะ เป็นถนนสายวัฒนธรรม หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า ถนนคลองกระแชง เป็นการท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง วันนี้วิทยกรนำเที่ยวชมที่ชุมชนคลองกระแชงก็คือ คุณโฟล์ค-ปภังกร จรรยงค์ เป็นผู้นำชุมชนที่นี่ค่ะ ได้รับรู้เรื่องของจังหวัดเพชรบุรีเยอะเลยค่ะ ถนนคลองกระแชง คือถนนสายหนึ่งที่ขนานกับแม่น้ำเพชรบุรี จุดเริ่มต้นจากบริเวณน้ำพุข้างจวนผู้ว่าฯ หัวถนนติดกับถนนดำเนินเกษม ผ่านหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเจ็กเม้งถึงสะพานจอมเกล้า ตัดผ่านถนนชีสระอินทร์ไปยังท่าน้ำสุนทรภู่ วัดพลับพลาชัย และสิ้นสุดที่ถนนสุวรรณมุนี เชิงสะพานใหญ่หน้าวัดมหาธาตุ เป็นถนนสายเล็กที่มีความยาวเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งอาชีพของคนในละแวกนี้ ประกอบอาชีพเย็บ "กระแชง" ขายแก่พวกเรือค้า "กระแชง" คือการนำไม้ไผ่มาสานและเย็บเป็นแผงขนาดใหญ่ใช้ทำหลังคาเรือใช้เป็นที่บังแดดบังฝน (ที่มาของข้อมูล : วารสารเพชรบุรี) จังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีงานศิลปะที่เก่าแก่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีการสืบสานอัตลักษณ์ทางศิลปกรรมที่งดงาม จากรุ่นต่อรุ่นด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของงานศิลปะโบราณและเป็นช่างที่มีฝีมือ จึงอาจกล่าวได้ว่าจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัด สกุลช่างเมืองเพชร ที่เป็นกูรูของช่างพื้นบ้านระดับฝีมือ มีรูปแบบ มีเนื้อหา อันเป็นลักษณะเฉพาะของสกุลช่างเมืองเพชรบุรี จะเห็นได้จากผลงานพระราชพิธีสำคัญของประเทศจะใช้ช่างเมืองเพชรแทบจะทุกงาน สมชื่อเมืองเพชร ที่เป็นเพชรเม็ดงามที่เป็นประณีตศิลป์ที่มีลักษณะวิจิตรที่เลอค่า และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจที่ควรค่าต้องมาเที่ยวที่จังหวัดเพชรบุรี ณ พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย หนังใหญ่จัดว่าเป็นมหรสพเก่าแก่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นการละเล่นชั้นสูงของคนไทยในอดีต เพราะเป็นการรวมงานศิลปะมาไว้ด้วยกัน ทั้งจิตรกรรม งานแกะสลัก วรรณกรรม ดนตรี และนาฏศิลป์ หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย เกิดขึ้นโดยหลวงพ่อฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดในสมัยนั้น ท่านเป็นผู้มีความสามารถและมีความรู้หลายแขนง หนังใหญ่เป็นฝีมือของหลวงพ่อฤทธิ์ (ลูกศิษย์ของขรัวอินโข่ง) ที่นี่มีหนังใหญ่ประมาณ 200 ตัว ล้วนแต่งดงามล้ำค่าควรแก่การมาเห็นกับตาตัวเองค่ะ พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเข้าชมได้ทุกวันไม่เสียค่าใช้จ่าย ออกจากวัดพลับพลาชัยที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายแล้ว ก่อนเดินออกจากวัดให้สังเกตลายปูนปั้นที่หน้าบันพระอุโบสถด้วยนะคะ สวยงามมากค่ะ แล้วอย่าพลาดที่มาเยือนแม่น้ำเพชรบุรีซึ่งจะต้องผ่านลานอนุสาวรีย์สุนทรภู่ก่อนค่ะ จากนั้นไม่พลาดที่แวะบ้านมนัส จรรยงค์ (โปรดสังเกตว่านามสกุลเดียวกับคุณโฟล์คผู้บรรยาย) มนัส จรรยาวงศ์ เป็นราชาเรื่องสั้นของไทย ใครที่คอนวนิยายคงจะคุ้นชื่อเป็นอย่างดี และสุดท้ายแวะศาลาคามวาสีซึ่งเดิมเป็นโรงเรียนสตรีที่ชื่อว่า โรงเรียนเพชรสตรี เป็นศาลาหลังใหญ่คล้ายศาลาการเปรียญ ปัจจุบันใช้เป็นสถานประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา UP BLOG ช้ามากเพราะเน็ต True อืดมากกกกกกกกก ทำไมคะ True Street Art บริเวณตลาดริมน้ำและซอยริมน้ำ จะมีผลงาน Street Art ตามกำแพงหลายผลงานจากศิลปินชาวเพชรบุรีค่ะ ต้องเสาะแสวงหาว่าแอบซ่อนอยู่มุมไหนบ้าง สวยและหาค้นหาเพลินเมืองเพชรจริงๆ เดินชมเดินแชะที่ Street Art บริเวณในซอยตลาดริมน้ำเพชรบุรีได้เหงื่อพอสมควร ร้อนๆ อย่างนี้มันต้องข้าวแช่อย่างเดียวเจ้าค่ะ ซึ่งในซอยริมน้ำเพชรบุรีแห่งนี้มีข้าวแช่ขึ้นชื่อนั่นก็คือ ข้าวแช่แม่อร สามารถโทรสั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่ 08-9410-1969 พี่น้อย-นางรมยกรณ์ เอราวัณ เปิดเผยว่า ข้าวแช่เพชรบุรีเราจะต้องกินกับช้อนทองเหลือง เพราะจะเก็บความเย็น แล้วข้าวแช่จะต้องใส่มากับถ้วยกระเบื้องเคลือบ เพราะในสมัยโบราณเราไม่มีน้ำแข็งเราอบควันเทียนอบกลิ่นดอกไม้แล้ว นำพิมเสนมาใส่ 1 ลำหับ (ขนาดเท่ากับนิ้วชีกับนิ้วนางเหยาะลงไปก็จะเย็นเหมือนว่าเรากินกับน้ำแข็ง) การกินข้าวแช่ที่ได้อรรถรสนั้นจะต้องตักกับอย่างหนึ่งใส่ปากแล้วค่อยตักข้าวแช่ เราจะไม่กินข้าวแช่พร้อมกับกับ อันนี้เป็นสำรับที่ถวายในหลวงรัชกาที่ 5 โดยเจ้าจอมก๊กออ ตำรับข้าวแช่ต่างๆ นั้นมาจากเจ้าจอมเอื้อนซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องใน 5 เจ้าจอมก๊กออ โดยคุณยายของแม่อรเป็นเด็กในวังที่ได้เรียนรู้การทำอาหารชาววังในรัชกาลที่ 5 พอท่านสิ้นจึงนำมาทำขาย ในจังหวัดเพชรบุรีข้าวแช่เป็นอาหารปกติไม่ได้แพงมาก สอบถามข้อมูลเกี่ยววิถีชีวิตชุมชนเพชรบุรี หรือจะให้พี่น้อยพาท่องเที่ยวได้ที่ เพจ : เพลินเมืองเพชร เฟชบุ๊ค : Sabaidee Phet มือถือ 08-6344-4418 ขอขอบคุณนะคะที่พานำชมเมืองเพชรบุรี เพลินเมืองเพชรจริงๆ ค่ะ ออกจากจังหวัดเพชรบุรีก็มุ่งตรงมายังร้านอาหาร "รับลม" ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขาช่องกระจก พอกินข้าวกันเสร็จมีการปรับแผนเพราะถ้าขึ้นเขาช่องกระจกตอนนี้คงละลายสลายร้อนมากค่ะ ก็เลยปรับแผนเปลี่ยนหมายมุ่งตรงไปที่อ่าวมะนาว ในกองบิน 51 ดีกว่าค่ะ อ่าวมะนาว เป็นชายหาดยอดนิยมของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงข้ามกับหาดเป็นเขาล้อมหมวก ยามน้ำลดจะปรากฏสันทรายทอดยาวให้เดินไปเที่ยวชมได้ ตั้งอยู่ในเขตทหาร กองบิน 5 (ชื่อเดิม กองบิน 53) ของกองทัพอากาศ อ่าวมะนาวเคยเป็นยุทธภูมิในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างกองทัพไทยและกองทัพญี่ปุ่น ปัจจุบันภายในกองบินจะเห็นอนุสาวรีย์วีรชนรูปทหารอากาศในชุดนักบิน ยืนอยู่บนใบพัดเครื่องบินถือธงหันหน้าออกทะเล และยังมี อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 โดยจะเห็นแท่งหินขนาดใหญ่แกะสลักจำลองฉากการต่อสู้ระหว่างกองทัพไทยกับญี่ปุ่น บริเวณอ่าวมะนาวของทุกปีเพื่อรำลึกวีรกรรมวันที่ 8 ธันวาคม 2484 นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ร่วมต้อนรับ นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง ททท.และคณะฯ พร้อมร่วมเดินทางในกิจกรรม Agent Media Fam Trip โดยมีตัวแทนจากสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย (สนท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ทดสอบสินค้าทางการท่องเที่ยวและบริการระดับ Premium ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้เกิดการเสนอขายเข้าสู่ระบบตลาดต่อไปในอนาคต ตลอดทั้งสามารถต่อยอดการจัดกิจกรรมดังกล่าวให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน กับการดำเนินงานของภูมิภาคภาคกลางในปี พ.ศ. 2563 อีกทั้งได้ร่วมหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยเดินทางทดสอบสินค้าตามเส้นทาง นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมของ ททท. นะครับ เป็นกิจกรรมที่เราจะพยายามส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ในด้านการตลาดและการท่องเที่ยวในพื้นที่ของจ.ประจวบคีรีขันธ์ และหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบฯ ที่เป็นนิยมของนักท่องเที่ยว จะอยู่ในกองบิน 5 ที่อ่าวมะนาวซึ่งเป็น 1 ใน 3 อ่าวของจังหวัดประจวบฯ ทำให้จ.ประจวบฯ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสามอ่าว อ่าวมะนาวเป็นหนึ่งในนั้นนะครับ จะเห็นว่านักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันอย่างคึกคักพอสมควรในอ่าวมะนาว ซึ่งตรงนั้นจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่จัดการและดำเนินการควบคุมดูแลโดยกองบิน 5 กิจกรรมที่เราทำเป็นเรื่องของการส่งเสริมการตลาด การท่องเที่ยว ในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีชายหาดยาวกว่า 200 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นทะเลจ.ประจวบฯ ในทุกส่วนของกว่า 200 กิโลเมตร มีความงามแตกต่างกันไป แล้วก็ทำให้แหล่งท่องเที่ยวเป็นที่น่าสนใจ ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องทะเลแล้วนี้ ป่าเขา และอุทยานแห่งชาติ และวิถีชีวิตชุมชนก็ยังมีให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมได้ครับ ประจวบคีรีขันธ์เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยว ถ้าเป็นคนไทยจะเน้นเรื่องเดินทางเป็นวันหยุดนะครับโดยเฉพาะวันหยุดที่เป็นวันหยุดยาว เราจะคึกคักพอสมควร เพราะฉะนั้นกิจกรรม Agent Media Fam Trip เป็นเรื่องการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวโดยแท้ในพื้นที่ครับ เรียกว่ามาถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้วจุดเช็คอินที่นักเที่ยวนักช้อปนักกินต้องห้ามพลาด สราญวิถี ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่ามาเดินที่นี่มีแต่สุขสำราญ เป็นจุดแลนด์มาร์คที่โดดเด่นเป็นสะพานที่ยื่นออกมาสู่ทะเล นั้นก็คือสะพานสราญวิถีหรืือเป็นที่รู้จักกันว่าคือสะพานปลาประจวบนั่นเอง แต่เดิมเคยเป็นสะพานปลาอ่าวประจวบสำหรับการประมง และมีการประกาศยกเลิกใช้สะพานปลาดังกล่าว ทางจังหวัดจึงทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ใช้รูปแบบและสีสันอิงกับสถานีรถไฟของจังหวัด สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า สราญวิถี ซึ่งหมายถึงสะพานแห่งความสุขสำราญ และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ประทับที่ป้ายชื่อด้วยค่ะ Prachuap Grand Hotel โรงแรมประจวบแกรนด์ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไม่ไกลจากสะพานสราญวิถีเลยค่ะ ที่พักก็โอเค มีตู้เย็น มีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นเขาช่องกระจกและ มี WiFi แต่ที่อุ้มให้คะแนนเต็ม 100 ก็คือ เมนูอาหารเช้าค่ะ ที่ห้องอาหารเขาช่องกระจก ให้เยอะจัดเต็ม นี่ถ้ามีเวลามาก จะสัมภาษณ์พ่อครัว อุ้มเลยได้แต่ถ่ายภาพพ่อครัว สุดยอดตั้งแต่กินอาหารเช้าจากหลายๆ โรงแรมเพิ่งเห็นที่นี่ล่ะค่ะมีเมนูอาหารเยอะมาก ผลไม้ : คุณสามารถกินเสาวรส อโวคาโด่ ลำไย กล้วยน้ำหว้า ฯลฯ ของหวาน : มีทุกอย่างที่อยากกินที่นึกถึงมีเยอะจนเลือกไม่ถูก ที่สำคัญมีพระบิณฑบาตรผ่านหน้าโรงแรมด้วยค่ะ มิน่าล่ะเพราะเหตุนี้เองมีชุดสังฆทานในห้องอาหารด้วย ถ้ามาท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้วจะพักในตัวเมืองอุ้มขอแนะนำให้พักที่โรงแรมประจวบแกรนด์ ขอ-บอกว่า work มากค่ะ เช้านี้ออกจากโรงแรมประจวบแกรนด์เราแวะมาที่ชุมชนคลองวาฬ แต่พอดีต้องส่งข่าวน่ะค่ะ เลยไม่ได้ไปลงพื้นที่ได้แค่แวะร้านกาแฟ Anfield เป็นร้านกาแฟสวยที่ชุมชนคลองวาฬ เจ้าของร้านชงกาแฟขายเองและเป็นเด็กหนุ่มที่มีอนาคตไกล บรรยากาศดีกาแฟอร่อยมาเช็คอินกันที่ Anfield ได้โดยไม่ต้องไปถึงประเทศอังกฤษเลยค่ะ ตลาดการค้าชายแดนนับเป็นตลาดสำคัญระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เศรษฐกิจมีความคึกคักสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในท้องถิ่นทั้งสองฟากฝั่ง ทั้งทางด้านตะวันตกของประเทศไทยก็มีตลาดการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างพม่ามีหลายที่ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนี้แหละค่ะ ด่านสิงขร ด่านสิงขร นั้นเป็นตลาดการค้าชายแดนที่เป็นเพียงจุดผ่อนปรนการค้า ยังไม่ได้เปิดเป็นด่านหรือจุดผ่านแดนถาวร ในอดีตด่านสิงขรนั้นมีความสำคัญกับทั้งไทยและพม่า โดยใช้เป็นเส้นทางคมนาคมผ่านคาบสมุทรฝั่งทะเลอ่าวไทยไปยังฝั่งทะเลอันดามันที่พม่า เรียกกันว่า เส้นทางข้ามคาบสมุทร ในสมัยกรุงศรีอยุธยาพม่าใช้จุดด่านสิงขรเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินทัพ จนกระทั่งในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางยุทธศาสตร์ ที่กองทัพญี่ปุ่นสร้างขึ้นเพื่อลำเลียงกำลังพลพร้อมเสบียงอาหาร เชื่อมต่อไปยังฝั่งเมืองมะริดในประเทศพม่า ปัจจุบันด่านสิงขรเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าระหว่างชายแดนไทยและพม่า และพัฒนามาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยด่านสิงขรนั้นเชื่อมต่อระหว่างฝั่งไทยที่ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และฝั่งพม่าตรงกับหมู่บ้านมูด่อง เมืองมะริด นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ด่านสิงขรที่เราไปวันนี้มันเงียบผิดปกติไปนิดหนึ่ง ผมไม่แน่ใจว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2562 คาดกันว่านักท่องเที่ยวหรือคนที่จะมาเที่ยวด่านสิงขรน้อย ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิด จริงๆ นี่มีอะไรให้เราดูเยอะแยะ อย่างเช่น ร้านที่เป็นร้านกาแฟนี่ ตรงนั้นเขาเรียกว่า "ล้านของดี" สังเกตว่าร้านของเขาสะกดด้วยตัวล.ลิง ที่ด้านหน้าของเขาจะมีกาแฟสดซึ่งกาแฟสดนี่เขาบดด้วยมือไม่ใช้เครื่อง เพราะฉะนั้นเวลาตอนที่เขาเปิดร้านนี่แล้วเราไปนั่งกินกาแฟเราจะได้ยินเสียง บดเครื่องบดกาแฟที่เขาใช้มือหมุน เป็นบรรยากาศอีกบรรยากาศหนึ่งที่ที่ตรงนั้นน่าสนใจ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเขาชอบใจจะไปนั่งตรงนั้นกัน กาแฟก็จะมีทุกแบบทุกประเภทที่เราหากินหาดื่มได้จากร้านกาแฟทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ อะไรต่ออะไรตรงนั้นมีหมดนะครับ เพียงแต่วิธีปรุงของเขาจะใช้วิธีแบบธรรมชาติโดยใช้เครื่องบดกาแฟที่ใช้มือบด แล้วก็การปรุงอะไรทั้งหลายก็จะใช้วิธีการทางธรรมชาติโบราณ ก็เป็นเสน่ห์เล็กๆ น้อยๆ แล้วก็จะเป็นเรื่องของต้นไม้ เรื่องของกล้วยไม้ เรื่องของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งในวันปกติวันธรรมดาที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันก็จะคึกคักพอสมควรครับ ซึ่งส่วนใหญ่ด่านสิงขรจะอยู่ในโปรแกรมเพราะไม่ไกลจากตัวเมือง ซึ่งห่างจากตัวเมืองไม่เกิน 30 กิโลเมตร แล้วก็ใกล้ๆ ไม่ได้ลำบากอะไร เพราะฉะนั้นในการเดินทางมาตรงด่านสิงขรนี้ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างถิ่นจะแวะแน่ๆ นายพรเลิศ อุ่นเจริญ รองผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า สำหรับการเดินทางมายังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรื่องของการทำถนนตรงพระรามสอง ตรงนั้นค่อนข้างจะเป็นปัญหาพอสมควร คนประจวบฯ ก็เริ่มคิดถึงตรงนี้แล้วว่าการเดินทางค่อนข้างจะใช้เวลาพอสมควร ซึ่งเกิดจากการทำถนนแล้วรถติด เพราะฉะนั้นถ้าจะเดินทางมายังจ.ประจวบคีรีขันธ์ ถ้าจะวางแผนเดินทางมาระหว่างทางที่มาถึงหัวหินเราจะมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะเป็นแหล่งเชื่อมโยง ซึ่งทริปที่ ททท.จัดอันนี้นี่เราก็กำลังจะดูเส้นทางที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองกัน ทั้งเมืองรองเมืองหลัก คือสมุทรสงคราม สมุทรสาครแล้วก็เพชรบุรี แล้วประจวบคีรีขันธ์ เพราะฉะนั้นในพื้นที่ระหว่างทางที่เดินทางมากันมีอะไรให้เราแวะชม เพราะฉะนั้นการที่วางแผนมาประจวบฯ นี่ก็แบ่งปันกันได้ว่า คุณจะแวะที่สมุทรสงครามสมุทรสาครเพชรบุรีก่อนแล้วค่อยข้ามมาถึงฝั่งประจวบฯ พักหัวหินก่อนก็ได้หรือจะพักระหว่างทางก็ได้ครับ จากนั้นมากินข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหารครัวห้วยทราย ตั้งอยู่ระหว่างชะอำก่อนถึงหัวหินประมาณ 10 กิโลเมตร เข้าซอยเดียวกับวัดห้วยทรายใต้ จะมากินร้านนี้ต้องโทรจองที่นั่งก่อนนะคะไม่งั้นต้องมายืนรอโต๊ะค่ะ ขอบอกว่าคนเพียบ อาหารที่นี่เป็นอาหารพื้นบ้านรสจัดจ้านจริงๆ ค่ะ มีทั้งอาหารป่าและอาหารทะเลมาที่เดียวได้กินครบเลย พิเศษที่ร้านครัวห้วยทรายข้าวสวยฟรีค่ะ อาหารก็ออกเร็ว ถ้าใครชอบรสจัดจ้านขอแนะนำร้านนี้ไม่ผิดหวังค่ะ ออกจากร้านครัวห้วยทราย...หมายต่อไปคือ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และต้องเขียนเพิ่มว่าห้ามใส่กางเกงขาสั้น-กระโปรงสั้น-เสื้อแขนกุดด้วยค่ะ เพราะไม่งั้นคุณจะได้เป็นอาหม่องในบัดดล เจ้าหน้าที่จะให้นุ่งโสร่งนุ่งผ้าถุง โดยต้องใช้บัตรประชาชนทิ้งไว้กับเจ้าหน้าที่ค่ะ และเมื่อเข้าถึงในเขตพระราชนิเวศน์ก็ต้องถอดหมวกด้วยนะคะออเจ้า ค่าเข้าชมคนละ 30 บาทเจ้าค่ะ อุ้มมาที่นี่เป็นครั้งที่ 3 น็อครอบของการมาทำงานเลยค่ะ (เพราะผ่านมา 10 ปีแล้วนั้น มาถ่ายทำอยู่ที่นี่ทั้งวันเลยค่ะ) พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตั้งอยู่ ต.ห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นที่ประทับระหว่างเสด็จแปรพระราชฐานในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากในช่วงนั้นทรงพระประชวร แพทย์หลวงจึงถวายคำแนะนำให้เสด็จไปประทับ ณ สถานที่ตากอากาศชายทะเล ดังนั้นจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนิกชาวอิตาลีนามว่า มาริโอ ตามานโญ ออกแบบตามแนวความคิดของพระองค์ท่านซึ่งได้ทรงร่างแผนผังด้วยพระองค์เอง พระราชทานให้สถาปนิกนำไปออกแบบรายละเอียดและได้ดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2466 2467 สำหรับทริปนี้อาจารย์อริยะ ทรงประไพ ตำแหน่งอาจารย์เป็นที่ปรึกษางานบูรณะ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นวิทยากรนำเยี่ยมชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ต่อไปเป็นการถอดเทปการบรรยายของอาจารย์อริยะ ทรงประไพ..ความว่า ...สิ่งที่น่าสนใจก็คือรัชกาลที่ 6 ปรับแก้อะไรไม่มีใครพูด ก็ต้องมานั่งวิเคราะห์เองว่าในจำนวนผังทั้งหมดของฝ่ายหน้า มีอาคารอยู่แค่หลังเดียวที่อยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด นั่นก็คือที่ประทับของรัชกาลที่ 6 ไม่ใช่ศาลานะครับ ศาลานี่ไม่มีคนอยู่ อาคารที่มีคนอยู่คือที่ประทับของรัชกาลที่ 6 ปรากฏว่าอาคารที่ใกล้ทะเลรองลงมาจากหลังรัชกาลที่ 6 ปรากฏว่าอยู่โน้นครับฝ่ายในก็คือห้องพระมเหสีน่ะครับ ปรากฎว่ามันก็มีฐานัดรศักดิ์ทางสังคมในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชในสมัยนั้น ทำให้อาคารแต่ละหลังสลับยักเยื้องตามฐานะของเรือนแต่ละหลัง ฝ่ายหน้าถ้ามีตำแหน่งน้อยกว่าฝ่ายในก็จะอยู่เรือนหลังสุด แต่จะมีฐานะทางสังคมที่นี่เลยกลายเป็นตัวแทนของสังคมในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช แสดงออกผ่านการวางผังแบบตะวันเชื่อมโยง 2 วิธีการเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งทางตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกัน มันไม่ใช่ไทยประยุกต์ แต่เป็นการประยุกต์ concept แนวคิดเรื่องระบบสังคมเข้ามาเกี่ยวข้องกัน... มาริโอ ตามานโญ หัวลำโพ-พระที่นั่งอนันตฯ-มิวเซี่ยมสยาม-ตึกไทยคู่ฟ้า ถ้ามีชื่อมาร์วีดี้ก็ต้องมีชื่อมาร์วิดี้อยู่ในเอกสาร เอกสารพูแต่ว่าการ์โร่พูดถึงมาริโอ ตามานโญแต่ไม่พูดถึงมาร์วีดี้เลย น่าสนใจแต่ผมไม่ฟันธงบางทีมาร์วีดี้อาจเป็นผู้ช่วยตามานโญก็ได้ แต่ว่าภาษาที่ใช้ในการทำงานทั้งหมดนี้ เป็นภาษาที่ตามานโญใช้กับเอกสารของเขา... ...สิ่งที่เรามีแบบในการใช้งานในการตรวจสอบอาคาร แค่ผังที่เขียนด้วยภาษาอิตาลีแผ่นเดียวเท่านั้นเอง นอกนั้นไม่มีอะไรเลยข้อมูล เพราะฉะนั้นข้อมูล 95 ปี เราไม่มีฐานข้อมูลในการซ่อมเลย จึงต้องมานั่งวิเคราะห์กันใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ สุดท้ายเราพบว่าคนที่เป็นวิศวกรเป็นคนเยอรมันชื่อ ทีจีการ์โร่ แล้วคนที่เป็นคนวางผัง ชาล์สเบอกาแลงค์ เป็นคนสวิส แต่คนคุมงานก่อสร้างที่นี่เป็นคนไทยคือเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) สรุปได้ว่า แบบก่อสร้างเป็นภาษาอิตาลี วิศวกรเป็นคนเยอรมันี คนวางผังเป็นคนสวิส คนคุมงานเป็นคนไทย แต่คนก่อสร้างเป็นคนจีน แต่ทุกอย่างเสร็จภายในเวลา 7 เดือน... ...สิ่งหนึ่งที่อาจจะมองข้ามไปนะครับ เราเปลี่ยนสีอาคารแล้วครับ เราพบว่าสีของอาคารหมู่พระที่นั่งไม่ใช่สีฟ้ากับสีเหลืองที่ทุกคนคิดมาตลอดนะครับ คืออย่างนี้นะครับ เราเลือกภาพถ่ายขาวดำ 3-4 ภาพที่เรามี เราพบว่าเฉดสีขาวดำน่ะมันไม่เหมือนกับเฉดสีขาวดำที่เกิดขึ้นในสีฟ้ากับสีเหลือง เพราะมันจะกลายเป็นสีสลับกันล่ะ แล้วเรามาตั้งคำถามว่าแล้วสีจริงคือสีอะไร เราก็เลย something ว่าตั้งสมมุติฐานน่ะครับว่า ถ้าสมุุมติว่าสีจะเสื่อมสภาพนี่เกิดจากอะไร 1.แดดลมฝน 2.มนุษย์ มนุษย์เข้ามาใช้งานเข้ามาซ่อมทำสีใหม่เขาจะต้องลอกสีเก่าออกให้หมด พอลอกสีเก่าออกให้หมดแล้วเขาก็ทาสีใหม่ทับแล้วคุณจะเจอสีจริงได้อย่างไร เราก็เลยคาดว่าสิ่งที่มนุษย์เข้าถึงยากสิ่งที่แดดลมฝนทำลายได้ยาก ในขณะที่สูงๆ น่าจะมีสีอยู่ เราก็เลยแบ่งวิธีการขูดสีออกเป็น Layer จากชั้นปกติไปจนสีแต่ละชั้นก่อนถึงเนื้อไม้ ทำทั้งหมด 424 จุด แล้วเราก็พบเจอกลุ่มสีซ่อนอยู่ใต้ผิวสีปกติก่อนถึงเนื้อไม้ น่าจะเป็นสีกลุ่มดั้งเดิมที่สุดของตัวอาคารพระราชนิเวศน์ใรช่วงที่มีการก่อสร้างครั้งแรก สีที่เป็นสีเขียวเข้มๆ นี่นะครับเรียกว่าสีเทาเขียว แล้วสีที่เป็นสีเขียวตรงช่องลมน่ะครับเราเรียกว่าสีเขียวไก่กา แล้วสีที่เป็นสีเหลืองมัสตาดชื่อว่าสีเหลืองเพียงทอง แต่ว่าสีใต้ฝ้ากับใต้ทองพื้นมันจะเป็นสีเขียวอ่อนๆ เราเปิดรางไฟเราพบว่ามันซ่อนอยู่ใต้รางไฟได้สีที่เราเรียกว่า เคยมีใครชมพวกเราว่าหน้าขาวผ่องเป็นยองใย นั่นอย่าไปดีใจที่ว่าหน้าขาวผ่องนั่นก็คือหน้าขาวๆ เขียวๆ ครับ ถ้าอยากจะชมเพื่อนด้วยความรักให้ชมว่า "หน้าขาวควายเผือก" นะครับ นั่นก็คือหน้าขาวอมชมพูครับเป็นชื่อเรียกของคนโบราณ....... อยากเขียนเล่าต่อแต่ไว้รออ่านในหนังสืออาจารย์ดีกว่านะคะ แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือเมื่อไหร่แจ้งด้วยนะคะอาจารย์จะไปซื้อพร้อมขอลายเซ็นต์ Amazing ในการซ่อมแซมไม้ การเข้าไม้ เป็นการใช้รอยต่อไม้มาแก้ปัญหาซ่อมแซมไม้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นในการต่อไม้ของช่างไทยที่สืบทอดต่อกันจากรุ่นต่อรุ่นยอดเยี่ยมค่ะ ก่อนจะเดินออกจากพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จะมีมุมกาแฟ อาหาร เครื่องดื่ม และร้านขายของที่ระลึก แวะช้อปแวะชิมด้วยนะคะ เพราะรายได้จะสมทบทุนในการซ่อมแซมบูรณะปฏิสังขรณ์พระราชนิเวศน์ฯ ที่สำคัญต้องห้ามพลาดดื่มน้ำมะขามนะคะ แก้วลละ 25 บาท เริ่ดค่ะอุ้มคอนเฟิร์ม ขอขอบคุณอาจารย์อริยะ ทรงประไพ เป็นวิทยากรนำเยี่ยมชมพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน นับเป็นกูรูที่เข้าใจการบูรณะเป็นอย่างยิ่งได้รับความรู้ใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน คนบรรยายก็ตั้งใจเล่าคนฟังก็ตั้งใจฟังงานนี้เคมีตรงกันนับเป็นอีกทริปที่มีความสุขขอบคุณค่ะ CUT มาที่เช้าวันที่ 20 พฤษภาคม 2562 ณ ชูชัยบุรีศรีอัมพวา จ.สมุทรสงคราม ชูชัยบุรีศรีอัมพวา ตั้งอยู่ที่ถ.เลียบนที ต.อำพวา อ.อำพวา จ.สมุทรสงคราม เบอร์ติดต่อ : 034 129 900 ชูชัยบุรีศรีอัมพวามีอาคารชินบัญชรเป็นสถาปัตยกรรมอาคารแปดเหลี่ยมจำนวน 4 ชั้น แบบวิกตอเรียได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุโรปผสมกับไทยประยุกต์ก่ออิฐถือปูน ทั้งหมดทาด้วยสีครีมอ่อนหลังคาสีแดงหลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์ ห้องพักทั้ง 18 ห้อง มีการตกแต่งที่หรูหราสะดวกสบายให้บริการแบบ 5 ดาว เข้าพักที่นี่ + อาหารเช้าด้วยค่ะ คุณแจ็ค-เจษฎา เตชะธรรมรัตน์ เล่าให้ฟังว่า ฐณิชารีสอร์ทเป็นรีสอร์ทเล็กๆ จำนวน 15ห้องติดตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม เราสามารถมีกิจกรรมทางน้ำตอนเช้า คือโดยพระสงฆ์จะมาบิณฑบาตรทางเรือ รวมทั้งตอนเย็นมีบริการพาไปชมหิ่งห้อยด้วยนะครับ เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ที่มีความอบอุ่นที่ Family พาครอบครัวมาพักผ่อน หรือเป็นคู่รักมาเป็นเพื่อนกัน ทางรีสอร์ทเราก็มีพื้นที่รองรับสำหรับแขกทุกท่านครับ แล้วก็อาหารเช้าเราจะเป็นแบบบุตเฟ่เป็นสไตล์ American Breakfast นะครับ สามารถรองรับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ คุณแจ็ค-เจษฎา เตชะธรรมรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จริงๆ concept การตั้งชื่อแต่ละห้องนี้เราคิดจากสิ่งของในพื้นที่น่ะครับ ที่นี่จะมีเรื่องนาเกลือ หอยหลอด หอยแครง หอยแมงภู่ หรือกระทั่งปลาทู เราก็นำมาตั้งเป็นชื่อห้อง หรือจะเป็นห้องมะพร้าว ส้มแก้ว เรียกว่าสิ่งของที่มีชื่อในพื้นที่อัมพวาน่ะครับ ห้องพักของเรามี 4 แบบคือ standard-superior-deluxe-Family suite สำหรับไอเดียผ้าขาวม้าผ้าถุงนี่เป็นไอเดียมาจากวิถีชีวิตที่นี่ครับ เวลาเราไปสวนเราก็จะมีผ้าขาวม้าติดตัวเสมอ ทางเราจึงนำมาเป็นอุปกรณ์ไว้ในห้องพักไว้ให้ลูกค้า เผื่อลูกค้าไว้คาดเอวบ้าง ไว้นุ่งนอนบ้างได้ หรือลูกค้าสตรีสามารถนุ่งผ้าถุงลงมาใส่บาตรยามเช้าได้ ดูเป็นเอกลักษณ์ มีความเป็นไทยน่ะครับ ฐณิชาฌ์ รีสอร์ท มีสิ่งอำนวยสะดวกมากมายคุ้มค่า เช่น รูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง-ฟรี Wi-Fi ทุกห้อง-แม่บ้านทำความสะอาดรายวัน มีห้องเก็บกระเป๋า, Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ ฐณิชาฌ์รีสอร์ทตกแต่งบรรยากาศให้ดูเสมือนบ้านหลังที่สองเลยค่ะโอมากชอบๆ สนใจสำรองที่พักได้ที่ 08-3161-4655 และ 08-3282-6464 และนี่คือตัวอย่างของความสำเร็จของชุมชนที่อุ้มภูมิใจนำมาฝาก ป้าเล็ก-จิตรลดา เอกแก้วนำชัย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและท่องเที่ยวชุมชนบ้านริมคลองโอมสเตย์ ได้เล่าให้ฟังว่า ในการที่เราทำท่องเที่ยวมาตั้งแต่เริ่ม 17 ปีที่แล้วจนกระทั่งมาถึงปัจจุบันนี้ การท่องเที่ยวของเราได้บูมขึ้นเยอะมากเลยนะคะ จากที่ทาง ททท.ได้ให้การประชาสัมพันธ์ อย่างเมื่อตอน 16 ปีที่แล้ว เราเติบโตด้วย call center ของ ททท.1672 จนถึงทุกวันนี้ ททท.สมุทรสงครามและ ททท.สำนักงานใหญ่ ให้การสนับสนุนชุมชนบ้านริมคลองมาโดยตลอด ทำให้เราเติบโตขึ้นมาแล้วก็เข้มแข็ง มีนักท่องเที่ยวรู้จักเรามากมายทั้งนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ทำให้เราสามารถได้รับทัวร์มาจากต่างประเทศมาพักที่บ้านริมคลอง มาทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมขี่จักรยาน จากที่เราได้รับการประเมินรางวัลกินรีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ตั้งแต่เริ่มแรกปี พ.ศ.2553 -2559 เราได้รับรางวัลมา 3 ครั้ง ในสามครั้งนี้มีสิ่งดีดีเข้ามาโดยตลอดทำให้บ้านริมคลองโฮมสเตย์ได้เติบโต และได้ขยายกิจกรรมต่างๆ ขึ้นมา จากการที่เราได้ส่งการประเมินเราได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของเรามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ดูแลเรื่องของสังคมในชุมชนของเรา ทำให้ชุมชนของเราเกิดความรักและสามัคคีช่วยกันทำเรื่องราวดีดีในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยวหรือกิจกรรมต่างๆ นี้ จนเราได้อยู่ได้กินได้ใช้จ่ายเสมอเหมือนเรามีความสุขกับการท่องเที่ยวตรงนี้ค่ะ (ไว้วันดีคืนดีอุ้มจะมาจองบ้านสักหลังพักมั่งค่ะ...ชอบๆๆๆ) จากที่เราทำเรื่องท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2546 เราใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินการทำโฮมสเตย์แบบค่อยคิดค่อยทำ เรามีการประเมินดูในพื้นที่ของเราว่า พื้นที่ของเรามีอะไรบ้างที่เราจะขายเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ พอประเมินแล้วเราดูเหตุผลเราดูความต้องการของนักท่องเที่ยว ว่าเราขายนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ไหม พอเราประเมินเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเราก็ดำเนินการตามขั้นตอน แล้วพอเราดำเนินครั้งแรกสำเร็จเราจะขยายกิจการหรือทำกิจกรรมต่อไปนี่ เราก็ใช้หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาดำเนินการ ในสิ่งเหล่านี้เรามีภูมิคุ้มกันจากภูมิปัญญาของเรา เราใช้ภูมิปัญญาที่เรามีอยู่ในชุมชนของเราไม่ใช่เฉพาะตัวเราอย่างเดียว เราจะเชิญพี่ป้าน้าอามาช่วยกันโดยใช้ภูมิปัญญาที่มีอยู่ในชุมชนออกมาเป็นการท่องเที่ยว ถ้ามาท่องเที่ยวที่ชุมชนของเราๆ มีกิจกรรมการเรียนรู้ ก็จะมีเรื่องของการทำน้ำตาลมะพร้าว เรามีตั้งแต่เรื่องกระบวนการปาดตาล เพื่อแสดงให้เห็นว่าน้ำตาลเราได้มาจากตรงไหน แล้วมาเข้าสู่กระบวนการเคี่ยวจนเป็นน้ำตาลมีวิธีการทำอย่างไร แล้วเราก็สามารถที่จะสอนให้คนที่อยากจะนำไปทำต่อจากเราได้ด้วย พี่คนเคี่ยวน้ำตาลบอกกับอุ้มว่า สำหรับการทำน้ำตาลมะพร้างของที่นี่ ตอนเช้าเราก็จะไปปาดดอกมะพร้าวเพื่อเอาน้ำหวานจากดอกมะพร้าวมาเคี่ยว โดนเคี่ยวเราก็จะทำเป็นน้ำตาลเนื้อเป็นเนื้อแท้ 100 % ก็จะใช้วัตถุดิบ 30 ลิตร เคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมงจนขึ้นดอกหมาก แล้วยกลงมาให้คลายความร้อนจนตกผลึกเป็นเนื้อแล้วเราก็นำมาหยอดลงแม่พิมพ์ เราหยอดพิมพ์ไหนเราก็จะได้พิมพ์นั้นแล้วก็แพ็คขายต่อไป แต่การทำน้ำจาลไซรัสก็จะใช้สัตถุดิบประมาณ 60 ลิตร เคี่ยว 3 ชั่วโมง ตัวนี้ก็จะเคี่ยวไปโดยวัดความหวาน 80 เราถึงยกลงมากรอกใส่ขวด อุณหภูมิที่ 80-85 องศา ปิดฝาแล้วน็อคน้ำเย็น ซึ่งการทำน้ำตาลมะพร้าวนี้เราได้ประโยชน์ตรงที่ใช้วัสดุภายในสวนของเรา ใช้ประโยชน์จากทางมะพร้าว-ลูกมะพร้าวที่เสียๆ นำมาเป็นเลื้อเพลิง แทนที่จะปล่อยให้รกอยู่ในสวนเปล่าประโยชน์ หรือนำมาเผาทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์ก็นำมาใช้ในการเคี่ยวน้ำจาลได้ อยากขอบคุณ ททท. การท่องเที่ยวเข้ามาสนับสนุนหลายเรื่อง ก็มีการพานักท่องเที่ยวมาเราก็จะได้รายได้ตรงนี้ แล้วก็พามาดูงานเขามีอะไรเขาก็จะแนะนำเราแล้วเราก็ปรับปรุง ทั่วไปทุกวันนี้ความเป็นอยู่ดีขึ้นชุมชนก็มีงานคนงานก็มีงานทำ ตามบ้านมีนักท่องเที่ยวมาก้ทำเป็นโอมสเตย์ไปเขาก็มีรายได้ แล้วนักท่องเที่ยวเข้ามาในชุมชนแห่งนี้ ชาวบ้านมาทำครัวมั่งมาเป็นวิทยากรมั่งทำให้มีรายได้ขึ้นค่ะ จอนนี้ที่นี่มีคนมาดูงานทุกวันมากน้อยก็แล้วแต่ว่าแต่มีมาทุกวัน มาพักบ้างมาดูงานบ้างทุกวันนี้ชุมชนเราเข้มแข็งขึ้นก็ดีใจค่ะ แล้วเราก็นำน้ำตาลที่เราทำนี้มาทำขนมไทย ขนมไทยของเราก็จะเป็นขนมมงคลไทยยุคแรกๆ ของประเทศไทย แล้วก็จะมีขนมยุคที่สองด้วยก็คือประเภทขนมฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด แต่เราจะให้นักท่องเที่ยวทำเป็นกิจกรรมก็คือฝอยทอง แล้วเราก็มีกิจกรรมจักสานด้วยใบมะพร้าวนักท่องเที่ยวชอบมากเลยค่ะ จักสานเป็นหมวก เป็นกระเช้า เป็นนก-ปู-ปลา เป็นพัด เราทำแล้วก็สอนให้เขาเอาไปใช้ในวิถีชีวิตของพวกเขาได้ด้วย หรือว่ากิจกรรมโฮมสเตย์อื่นๆ ก็ได้ ตอนนี้เราเพิ่มกิจกรรมมาที่เราส่งรางวัลกินนรีเพิ่มมาเป็นการละเล่นเด็กไทย หรือว่าการปั่นจักรยาน การทำมัดย้อม มัดย้อมเราไม่ได้ใช้เปลือกผลิตภัณฑ์อย่างอื่น เราใช้เปลือกมะพร้าวเอาเปลือกมะพร้าวมาทำให้เป็นสีแล้วค่อยทำการมัดย้อม ก็จะมีรูปแบบการมัดย้อมเพื่อให้การมัดย้อมตรงนี้แปลกกว่าที่อื่น แล้วพอนักท่องเที่ยวมาทำแล้วก็จะได้เป็นของฝากติดมือกลับบ้านไปด้วย ป้าเล็กเล่าให้ฟังส่งท้ายว่าตอนนี้เราเพิ่มกิจกรรมเป็นกิจกรรมคนย่ำเกลือ ซึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามนี้เราก็มีเกลืออยู่ เรานำเกลือมาต่อยอดพร้อมด้วยน้ำมันมะพร้างสกัดเย็น เวลาเราทำย่ำเกลือเสร็จเราก็จะลูบผิวด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เพื่อเป็นการบำรุงผิวอีกทางหนึ่ง ถ้าสนใจที่จะมาเรียนรู้กับกิจกรรมที่นี่ติดต่อ โทร.08-9170-2904 หรือติดต่อทางเฟชบุ๊ค : บ้านริมคลองโฮมสเตย์ หรือทางเวบไซด์ : https://www.Baanrimklong.net ชื่อนายธีรยุทธฺ ทรัพย์สงวน ผลิตกระเป๋าผ้าปลาทูแฮนด์เมคทั้งหมด ทั้งผ้าพิมพ์ลายและผ้ามัดย้อมธรรมชาติย้อมด้วยตัวเอง และของที่ระลึกต่างๆ ที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม สำหรับของที่ทำขายออกมานี้ซึ่งเกิดจากความชอบมาก่อน โดยคุณฝนเรียนจบจากโชติเวชจบด้านการออกแบบผ้าและเครื่องแต่งกาย ส่วนผมจบทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ได้มาเข้าสู่วงการ OTOP ดริ่มมาจากที่เราชอบในงานผ้ามาก่อน แล้วก้อยากจะสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ต้องการของคนทั่วๆ ไป คือตอนแรกทำงานประจำไปด้วยแล้วก็ทำงาน OTOP เสริมไปด้วย แต่ ณ ปัจจุบันยอดขายและสภาวะงานผ้างานกระเป๋าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้สามารถยืนอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประจำก้เลยออกมาทำเต็มตัว ในส่วนของงานผลิตภัณฑ์แฮนด์เมคทำด้วยตัวเอง เราไม่ได้จ้างคนอื่นทำ แล้วใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อสื่อถึงอัตลักษณ์ มีเท่าไหร่ก็ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เราเข้าสู่วงการผ้ามา 10 ปี ส่วนในวงการ OTOP เข้าสู่ปีที่ 5 ครับ โดยยึดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เราก็ผลิตให้ได้มาตรฐานเพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อไปใช้ได้กลับมาซื้ออีก ขอขอบคุณ : ททท.ภูมิภาค ภาคกลาง ที่ชวนอุ้มมาเป็นอีกทริปที่มีความสุขกับทุกที่ที่ไปค่ะ ขอขอบคุณ : เพลง : ไปเที่ยวกันไหม วงลิปตา ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ / ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม / ททท.สำนักงานเพชรบุรี BG : ญามี่ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : lozocat / Banner : oranuch_sri ของแต่ง BLOG : ป้ามด + ดอกหญ้าเมืองเลย + ชมพร + ญามี่ + เนยสีฟ้า ได้เที่ยวยาวเลยนะครับ ไปถึงอ่าวมะนาว อยากไปมั่งครับ
ไปถึงหาดบ้านกรูดหรือเปล่าครับ โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:8:23:09 น.
ช่วงนี้พี่อุ้มเดินสายเที่ยวเลยครับ
อิจฉาๆๆๆๆๆ แต่ละที่ แต่ละจังหวัดที่ไป น่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:47:09 น.
รีวิวเข้มข้นมากค่ะ
อ่านเพลินได้ความรู้ที่บางอย่างก็ไม่เคยรู้ แต่พี่หมดตัวแล้วค่ะ กดไลค์ที่ 4 ให้นะคะ โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:11:45 น.
สวัสดีครับคุณอุ้มสี
ใต้ฟ้าสีครามรู้สึกว่าจะมีเป็นหนังคุณตู่นพพลเล่นคู่กับคุณจิ๊กเนาวรัตน์ครับ แต่ผมเองก็เกิดไม่ทันยุคนั้น อาศัยข้อมูลจากอากู๋เอาเหมือนกัน ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมครับ โดย: ruennara วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:18:11 น.
ประจวบเป็นจังหวัดที่หลุดจากหัวหินไป ทำให้ความเป็นธรรมขาติยังอยู่ได้ครบถ้วนครับ
น่าไปมาก วันนี้ไม่ไกลแล้ว แต่เมื่อก่อนนั้นดูจะไกล คนก็เลยหยุดแค่หัวหิน โดย: พายุสุริยะ วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:54:43 น.
เมืองเพชรบุรีนี่ มีแต่ที่เที่ยวน่าสนใจทั้งนั้นเลยนะคะ
เดี๋ยวนี้มี Street Art กระจายอยู่ในตัวเมืองด้วย ดีงาม ^^ เวเลซไปเพชรบุรีตอนเช้าวันอาทิตย์ ถนนโล่งเลยค่ะ โดย: VELEZ วันที่: 21 พฤษภาคม 2562 เวลา:21:34:38 น.
น่าไป
เคยไปอ่าวมะนาว ชอบทั้งวิว ชอบทั้งโรงแรมที่พัก ยังประทับใจมากค่ะ โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:29:57 น.
โอ้โห เที่ยวมาราธอน มากเลยนะครับนี่ 555
เดี๋ยวนี้ อ.เต๊ะไปได้ไม่เกินวันละ 2 ที่ เพราะเที่ยวมาก ก้เหนื่อยมาก พอเหนื่อยก็ต้องกินแยะ เสร็จแล้วก็พุงป่อง ยิ่งแถวนั้น ของอร่อยแยะด้วยนะครับ ดูจากรูปของกินแล้วนี่ ขากลับ คุณอุ้มน่าจะโดนแรงดึงดูดโลกเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3โล แหงๆนะครับ 555 ยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ โดย: multiple วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:10:25 น.
ขอบคุณครับพี่อุ้ม
หนังสือเล่มนี้น่าอ่านจริงๆครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:31:21 น.
เพชรบุรีนึกถึงข้าวแช่ค่ะ
กิจกรรมดี ที่เที่ยวเยอะ อาหารน่าอร่อย ขอบคุณภาพบรรยากาศนะคะคุณอุ้ม เพลงประกอบสนุกน่ารักค่ะ โดย: Sweet_pills วันที่: 22 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:26:02 น.
มาเที่ยวด้วยค่ะ
ไปอัมพวา ชูชัยบุรี และอ่าวมะนาวด้วย พี่ชอบอ่าวมะนาว โดย: newyorknurse วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:3:25:04 น.
เจอหน้าตามมาโดยพลันค่ะ
วันนี้ยังรวยมาก หาบล็อกอัพใหม่ไม่ค่อยได้ด้วย เอนทรี่นี้เที่ยวสามจังหวัดเลยนะคะ พี่คงไปได้ครั้งละจังหวัดเดียว โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:14:42:58 น.
เพชรบุรีนี่ไม่ไกลจริงๆ ครับ ถ้าไปเที่ยวช่วงนี้ยังพอได้อยู่ ถ้าเลยช่วงนี้ไปสักหน่อย เริ่มหน้าฝนจะเริ่มเที่ยวลำบากขึ้นละ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:14:31 น.
อ่านแล้วสนใจครัวห้วยทรายแหละพี่อุ้ม
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต อุ้มสี Travel Blog ดู Blog ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:16:41:25 น.
พี่อุ้มกลับเข้าสู่โหมดคนเดิมล่ะ
ภาพเยอะข้อมูลแน่น ที่มาประวัติศาสตร์จัดเต็ม เข้าบล็อกวันนี้คุ้มค่ะ สุดยอด โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:46:12 น.
สวัสดี จ้ะ น้องอุ้ม
มาเที่ยว เพชรบุรี ตามทางที่อุ้มรีวิว จ้ะ สถานที่เที่ยวก็มาก ของกินก็ ไม่น้อยเลย ภาพข้าวแช่ ดูน่า อร่อยมากนะเนี่ย หิวเลย อิอิ โหวดหมวด ท่องเที่ยว โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 24 พฤษภาคม 2562 เวลา:23:30:15 น.
ขอบคุณพี่อุ้มสำหรับกำลังใจนะคะ
มีความสุขมาก ๆ ค่ะ โดย: mariabamboo วันที่: 25 พฤษภาคม 2562 เวลา:15:58:57 น.
เพิ่งเห็นว่าคุณอุ้มสีแวะเยี่ยมเอนทรี่เกาะสีชัง ขอบคุณมากค่ะ ตามคุณอุ้มสีมาเที่ยวบ้างค่ะวันนี้
น่าสนใจมากเลยค่ะ คลองกระแซง ไม่นึกว่าเพชรบุรีจะมีที่เยี่ยมชมน่าสนใจซ่อนอยู่อีกเยอะแยะขนาดนี้ ปกติเป็นทางผ่านไปหัวหินเท่านั้นเองค่ะ ต้องขอตามบ้างแล้ว ขอบคุณข้อมูลมากๆเลยนะคะ โดย: melody_bangkok วันที่: 26 พฤษภาคม 2562 เวลา:9:46:00 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ชอบอยู่ หัวหิน ปราณบุรี
เลยไปบ่อยหน่อย 555
อากาศเย็นสบายกว่ากรุงเทพ..
นำบุญมาฝากครับ.. ผมไป
อยู่ที่ร่มอารามธรรมสถาน
คลองสิบมา งดพูดคุย..เลยสงบดี 555