|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สัญญาจ้าวราชันย์ ราชาในภาพวาด (44)
รัตติกาลค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขายังคงอยู่ในอาการมึนงง สิ่งแรกที่มองเห็นนั้นก็คือท้องฟ้าในยามค่ำคืน ทะเลแห่งดวงดาว และดวงจันทร์ที่ดูเหมือนว่าจะมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ข้าวเขียวเคยบอกเอาไว้ตั้งแต่คืนก่อนที่จะออกเดินทาง
ความเจ็บปวดจากบริเวณด้านหลังลำคอ เรียกสติของรัตติกาลให้กลับมาสู่สิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น เมื่อครู่มีศัตรูสองคนบุกจู่โจมเข้ามาภายในห้อง แต่ตอนนี้เขากลับกำลังนอนอยู่ในที่โล่ง แสดงว่าได้ถูกจับตัวออกมา หากศัตรูเพียงต้องการชีวิต ก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ทันใดนั้นเงาลึกลับทั้งสองก็โผล่เข้ามาในสายตาของเขา
รัตติกาลถูกจับมัดอย่างแน่นหนาอยู่ในท่านอนหงาย แขนทั้งสองถูกมัดไขว้กันไว้ทางด้านหลัง ในขณะที่ขาทั้งสองข้างก็ถูกมัดติดกัน ในลักษณะเช่นนี้เขาคงทำได้เพียงแค่กลิ้งตัวไปมา แต่คนลึกลับทั้งสองนั้นต่างยืนคอยคุมเชิงอยู่ทั้งสองด้าน เขาจึงไม่อาจทำอะไรได้
เธอเป็นคนฆ่าท่านอรุณรุ่งใช่ไหม
พอหนึ่งในนั้นเอ่ยปากถาม รัตติกาลจึงรู้ความจริงว่าเธอเป็นผู้หญิง และเขาคาดว่าอีกคนหนึ่งนั้นก็คงจะเป็นผู้หญิงด้วยเช่นกัน เขาเคยได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองคนนี้ในขณะที่นอนพักรักษาตัวอยู่
รัตติกาลคาดว่าสองคนนี้คือมาลา กับมาลาตีแห่งหน่วยพิเศษ ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทางหน่วยพิเศษนำมาเลี้ยงดู และฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันอรุณรุ่งโดยเฉพาะ เนื่องจากทั้งสามคนนี้มีอายุใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังเติบโต เล่น และฝึกฝนวิชาดาบมาด้วยกัน จึงทำให้รักกันดุจดั่งเป็นพี่น้องเลยทีเดียว
...ผมไม่ได้ทำ
ไอ้เด็กปากแข็ง
มาลาตีกระชากเสียงพร้อมกับเตะใส่รัตติกาลที่ด้านข้างลำตัว โชคดีที่แผลที่ท้องของเขานั้นเกือบจะหายสนิทแล้ว มันจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนัก มาลารีบยกมือขึ้นห้ามเพื่อนของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะเริ่มถามต่อ
ในห้องตอนนั้นมีเพียงเธอกับท่านสนธยา หรือจะให้พวกฉันเชื่อว่าท่านอาจารย์เป็นนักฆ่า
ผมไม่รู้...ผมจำอะไรไม่ได้เลย
มาลาตีขยับตัวอีกครั้ง แต่มาลาส่งสายตาห้ามเอาไว้
...ถ้าเธอมั่นใจว่าเป็นฝีมือของท่านอาจารย์จริงๆ แต่กลัวว่าจะไม่มีใครยอมเชื่อ เลยต้องแกล้งโกหกว่าจำอะไรไม่ได้ ก็ขอให้บอกกับพวกฉันมาตามตรง
มาลาตีมองหน้าเพื่อนของเธออย่างแปลกใจ ดูเหมือนว่ามาลาจะไม่เคยเปิดเผยความคิดนี้ให้เพื่อนของเธอได้รับรู้มาก่อน มาลาคิดว่าเรื่องที่รัตติกาลบอกว่าตัวเองความจำเสื่อมนั้น อาจเป็นการโกหกเพื่อรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้ เขาอาจรู้เห็นอะไรบางอย่าง แต่กลัวว่าจะไม่มีใครยอมเชื่อ จึงแกล้งทำเป็นว่าตัวเองไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ดูเหมือนว่าเธอเองก็มีความสงสัยในตัวสนธยาอยู่บ้างเหมือนกัน
...ผมจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ
สายตาที่เคยคาดหวังของมาลาเปลี่ยนไป มาลาตีขยับดาบของเธอไปจ่อไว้ที่ลำคอของรัตติกาล
เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ เด็กนี่แหละที่เป็นนักฆ่าตัวจริง รีบล้างแค้นให้กับท่านอรุณรุ่งเถอะ
เธอแน่ใจนะ
มาลาถามย้ำกับรัตติกาลอีกครั้ง ซึ่งเขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจนใจเท่านั้น เธอมองข้ามหัวของเขาไปยังผืนดินเล็กๆ ที่ยังหลงเหลือร่องรอยจากการกลบฝังอยู่ ใกล้ๆ กันนั้นมีรูปปั้นหินอ่อนของนางฟ้าครึ่งตัว อยู่ในท่ากางแขนทั้งสองข้างออก เพื่อโอบกอดดวงวิญญาณของผู้ที่นอนสงบนิ่งอยู่เบื้องล่าง ใบหน้าของนางฟ้านั้นมีความเมตตาของมารดาฉายอยู่อย่างชัดเจน สถานที่แห่งนี้คือหลุมฝังศพของอรุณรุ่งนั่นเอง
ทั้งสองคนไม่อาจทนต่อการเพิกเฉยของเจิดจรัส ที่เอาแต่พูดว่าไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดกับใครได้ จึงตัดสินใจจับตัวรัตติกาลที่คิดว่าเป็นผู้ลงมือสังหารอรุณรุ่งมายังที่แห่งนี้ เพื่อทำการลงโทษด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนว่ามาลาจะยังไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องนี้นัก ซึ่งผิดกับมาลาตีที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
ในที่สุดมาลาก็พยักหน้าให้กับมาลาตี เธอได้ให้โอกาสกับรัตติกาลไปแล้ว เขากลับยังไม่ยอมปริปาก 'เขาอาจเป็นคนลงมือ หรือไม่ก็จำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่จะว่าเป็นฝีมือของท่านอาจารย์ มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เหมือนกัน' แต่เมื่อได้ตัดสินใจลงไปแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด เลือดต้องล้างด้วยเลือด ชีวิตก็ต้องแลกด้วยชีวิต
ตามไปขอขมาท่านอรุณรุ่งเสียเถอะ
มาลาตียกดาบขึ้นเพื่อจะลงดาบตัดคอของรัตติกาลให้ขาดหลุดจากบ่า ในจังหวะนั้นเขาก็รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดไปที่สะโพกพร้อมกับดีดตัวขึ้นมายืนได้อย่างน่าประหลาด หญิงสาวทั้งสองต่างคิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถทำเช่นนี้ได้ และในชั่วพริบตานั้น เขาก็ตัดสินใจพุ่งเข้าชนมาลาตีทันที
เงาร่างอีกสายหนึ่งที่รอจังหวะอยู่รีบพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว รัตติกาลเห็นประกายสองสายที่เกือบจะแยกกันไม่ออกพุ่งเข้าใส่มาลา และมาลาตีแทบจะในเวลาเดียวกัน เขารีบร้องออกไปด้วยความตกใจ
อย่า...
ร่างของหญิงสาวทั้งสองร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น มันเป็นดาบที่รวดเร็วมาก รวดเร็วจนเกินไป แถมผู้ที่ใช้ดาบนี้ยังฟันด้วยมือซ้าย เพราะว่าเขาหลงเหลือแขนซ้ายอยู่เพียงข้างเดียวเท่านั้น รัตติกาลไม่เคยเห็นสนธยาใช้ดาบมือซ้ายเช่นนี้มาก่อนเลย
บาดแผลบนร่างของสนธยานั้นยังไม่หายดีเหมือนกับของรัตติกาล การฟันออกสองดาบนี้ทำให้ปากแผลที่ท้องของเขาฉีกขาดออกอีกครั้ง เลือดจึงค่อยๆ ไหลซึมผ่านผ้าที่พันเอาไว้ออกมา เขาหยุดหอบหายใจ ใบหน้าของเขาค่อยๆ ซีดลง และเขาถึงกับต้องใช้ดาบต่างไม้เท้า เพื่อช่วยพยุงร่างให้ยืนอยู่ได้
ท่านอาจารย์ทำร้ายพวกเธอทำไม
รัตติกาลร้องถามด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าทั้งสองคิดที่จะฆ่าเขา แต่มันก็เป็นเพราะการเข้าใจผิด เขาจึงไม่ได้รู้สึกโกรธ หรือเกลียดพวกเธอแต่อย่างใด
...แค่...สันดาบ...เท่านั้น
สนธยาตอบอย่างตะกุกตะกัก รัตติกาลพอได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโล่งอก สนธยาใช้ดาบยันกายค่อยๆ เดินตรงเข้ามาหาเขา ความรู้สึกถึงอันตรายถูกกระตุ้นเตือนขึ้นมาทันที
...อยู่นิ่งๆ...ฉันจะตัดเชือกให้
แล้วสนธยาก็ได้เห็นสิ่งแปลกประหลาดที่กำลังเกิดขึ้น ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่กลางฟากฟ้า ดวงตาทั้งสองของรัตติกาลค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม 'เหมือนกับสีดวงตาของชายในภาพวาดนั้นเลย' เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มีความเย่อหยิ่งแบบเดียวกับชายลึกลับคนนั้นเท่านั้นเอง
รัตติกาลรู้สึกถึงความร้อนที่แปลกประหลาดนั้นอีกครั้ง ความรู้สึกแบบเดียวกับเมื่อตอนที่เขากำลังเข้าไปใกล้กับจักรพรรดิแห่งฟากฟ้า เชือกที่มัดมือ กับเท้าของเขาพลันขาดออกพร้อมกัน พร้อมกับมีควันจางๆ ลอยขึ้นมาด้วย เชือกตรงส่วนที่ขาดนั้นมีรอยไหม้ให้เห็นอย่างชัดเจน
สนธยาหยุดก้าวเดิน รัตติกาลรีบสะบัดเศษเชือกที่เหลือติดอยู่ออกจากร่าง
...เกิดอะไรขึ้น เธอทำได้อย่างไร
...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
รัตติกาลตอบไปตามตรง สนธยาเก็บดาบคืนสู่ฝัก แต่ยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้ ครั้งนี้รัตติกาลสามารถมองเห็นวิธีการเคลื่อนไหวมือซ้ายของเขาได้อย่างชัดเจน ทุกการเคลื่อนไหวนั้นลื่นไหลไม่ติดขัด คำตอบเพียงอย่างเดียวก็คือ สนธยาสามารถใช้ดาบได้ทั้งสองมือมานานแล้ว
'ทำไมท่านต้องปกป้องเขาด้วย' หากเธอยังอยู่ที่นี่ต่อไป คงต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่
รัตติกาลมองดูหญิงสาวที่กำลังนอนสลบอยู่ เขาเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ยังมีอีกหลายคนที่คิดเหมือนกับพวกเธอทั้งสอง ขอเพียงมีโอกาสก็คงต้องมีคนคิดลงมือกับเขาอีกแน่ และถึงแม้เจิดจรัสจะยังคงไม่มีท่าทีใดๆ แต่หากเขาตัดสินใจที่จะลงมือเมื่อใด ก็รับรองได้ว่ารัตติกาลไม่มีทางรอดแน่
'ทำไมต้องเป็นแขนขวา' ทางที่ดีเธอรีบหนีไปตอนนี้เลยจะดีกว่า
แต่ถ้าทำแบบนั้น...พวกเขาจะยิ่งเชื่อว่าผมเป็นคนลงมือสังหารท่านอรุณรุ่ง
สนธยาเห็นรัตติกาลเหลือบมองเขาเมื่อพูดถึงคนที่ลงมือสังหารอรุณรุ่ง แต่เขายังคงรักษาท่าทีที่สงบเรียบเฉยเอาไว้ได้เช่นเดิม
'ทำไมไม่รักษาชีวิตของตัวท่านเองก่อน' มันก็จริง แต่ฉันคิดว่าเรื่องนั้นคงไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
รัตติกาลคิดใคร่ครวญคำพูดของสนธยา มันดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาน่าจะพูดถูก
ฉันจัดเตรียมม้ากับสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเดินทางไว้ให้กับเธอแล้ว รีบไปที่ประตูปราสาทตอนนี้เลย มีคนที่ไว้ใจได้กำลังรอเธออยู่
รัตติกาลดูเหมือนกำลังไตร่ตรองเรื่องทั้งหมด
แล้วท่านอาจารย์จะทำอย่างไรต่อไปครับ
ฉันเองก็คงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วเหมือนกัน แต่คนอย่างฉันหายตัวไปเฉยๆ แบบเธอไม่ได้ ต้องจัดการเรื่องที่ยังคั่งค้างให้เรียบร้อยเสียก่อน
ในที่สุดรัตติกาลก็ตัดสินใจพูดเรื่องที่ยังคงค้างคาใจออกไป และเขาก็จ้องมองสนธยาเพื่อดูการตอบสนองของเขาต่อเรื่องนี้อย่างตั้งใจ
ในตอนที่แยกทางกับท่านมายา เธอได้บอกเอาไว้ว่า ในคณะเดินทางของท่านอรุณรุ่งนั้นจะต้องมีนักฆ่าแฝงตัวอยู่อีกคนหนึ่งแน่ๆ และยังเตือนให้ผมคอยระวังตัวเอาไว้ให้ดี...ซึ่งในตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับท่านอรุณรุ่งนั้น ก็มีเพียงผม กับท่านอาจารย์เท่านั้น ที่ยังคงอยู่ภายในปราสาทแห่งนี้
สนธยาพลันยิ้มออกมา ก่อนที่จะส่ายหน้าเหมือนกับจะบอกว่ารัตติกาลได้ถามคำถามที่ผิดเสียแล้ว
ฉันเองก็มีเรื่องข้องใจเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้จะไปถามใครได้ ทำไมในตอนนั้นท่านอรุณรุ่งถึงใช้จักรพรรดิแห่งฟากฟ้าฟันแขนขวาของฉัน แทนที่จะเป็นแขนซ้าย ทำไมท่านถึงตัดสินใจช่วยเธอ แทนที่จะพยายามรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ ทำไมใครคนหนึ่งถึงสามารถยอมตายให้กับคนที่แทบจะไม่รู้จักกันเลยได้ ทำไม ทำไมกัน
ทุกการเคลื่อนไหวของสนธยานั้นเรียบลื่น ดาบในมือซ้ายชักออกแล้วแทงเข้ามาอย่างรวดเร็ว รัตติกาลที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วสามารถเบี่ยงตัวหลบได้อย่างเฉียดฉิว แต่แทนที่สนธยาจะฉวยโอกาสลุกไล่ เขากลับรีบหมุนตัวเพื่อหลบหนี พร้อมกันนั้นก็มีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นรอบๆ บริเวณ
เจิดจรัสพลันปรากฎกายขึ้นในที่นั้นได้อย่างคาดฝัน หน่วยพิเศษของเขาทำการไล่ล่าติดตามสนธยาไปอย่างกระชั้นชิด น่าแปลกที่เขากลับพาตัวเองไปสู่คุกใต้ดินที่เป็นทางตัน
#####
รัตติกาลเร่งควบม้ามุ่งตรงไปยังแนวป่าข้างหน้า ที่ด้านหลังของเขายังคงพอมองเห็นยอดของปราสาทสุริยันได้อยู่ แต่แสงสว่างที่กำลังมืดลง ทำให้มันค่อยๆ กลืนหายไปกับท้องฟ้ายามราตรีในที่สุด
เรื่องที่เกิดขึ้นภายในห้องนั้นกระจ่างแล้ว นักฆ่าอีกคนหนึ่งกลับกลายเป็นสนธยานั่นเอง เขาลงมือด้วยการใช้ดาบสองมือแทงเข้าใส่อรุณรุ่ง กับด้านหลังของรัตติกาลพร้อมๆ กัน แต่ในช่วงเวลานั้นอรุณรุ่งกลับสามารถดึงจักรพรรดิแห่งฟากฟ้าออกมาจากแท่นของมันได้ และเธอก็ใช้มันตัดแขนขวา แขนข้างที่แทงดาบเข้าใส่รัตติกาล ซึ่งทำให้เขารอดชีวิตมาได้ แต่เธอกลับต้องตายด้วยดาบในมือซ้ายของสนธยา
หลังจากนั้นสนธยาก็ใช้ดาบแทงตัวเองเข้าที่ท้อง กับหน้าอก ซึ่งต้องใช้ฝีมือที่มีความแม่นยำสูงมาก จึงทำให้เขาสามารถรอดชีวิตมาได้ แม้แต่เจิดจรัสเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่า สนธยาจะเป็นนักฆ่าที่แฝงตัวอยู่มานานถึงเพียงนี้ และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าแปลกก็คือ ทางสมาคมนักฆ่านั้นใช้วิธีการอย่างไร ถึงสามารถควบคุมนักฆ่าเหล่านี้เอาไว้ได้
สนธยานั้นล่วงรู้ความลับต่างๆ มากมาย คุกใต้ดินที่หลายคนคิดว่าเป็นทางตัน กลับมีทางออกที่คาดไม่ถึงซุกซ่อนอยู่ด้วย เขาอาศัยช่องทางเก่าแก่ที่ใช้ปล่อยสัตว์ร้ายลงไปในคูเมืองนั้นหลบหนีออกไปได้ แต่จนถึงตอนนี้หน่วยพิเศษก็ยังคงไล่ล่าเขาต่อไปอย่างไม่ลดละตามคำสั่งของเจิดจรัส
ผู้คนในหมู่บ้านของเธอไปถึงดินแดนของวายุแล้ว ส่วนนักมายากลที่ชื่อมายา กับพวกเพื่อนของเธอ มีข่าวว่ากำลังมุ่งหน้าไปยังปราสาทวารี เธอจะไปทางไหนก็จงเลือกเอาเอง
รัตติกาลตัดสินใจถามเจิดจรัสออกไปในตอนนั้น
แล้วท่านล่ะ ท่านจะเลือกเส้นทางไหนครับ
เจิดจรัสหันหลังเดินจากไป พร้อมกับตอบคำถามของเขา
เส้นทางของฉันมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น...นั่นคือสงคราม
รัตติกาลหวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนั้นอีกครั้ง เขาเองก็สงสัยเหมือนกับสนธยาเข่นกัน 'ทำไมถึงช่วยชีวิตผมเอาไว้' เขายกมือซ้ายขึ้นปาดเช็ดน้ำตา ดวงตาสีเหลืองของเขาสะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายอย่างแปลกประหลาด ถึงแม้ว่าแสงสว่างจะมีอยู่เพียงเล็กน้อย แต่เขากลับสามารถมองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน
รัตติกาลไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่เขาได้ตัดสินใจที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองแล้ว
Create Date : 14 ธันวาคม 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 14 ธันวาคม 2553 7:28:36 น. |
Counter : 557 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อุ๋ย IP: 121.130.60.140 14 ธันวาคม 2553 23:11:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: zoi 15 ธันวาคม 2553 8:49:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: zoi 16 ธันวาคม 2553 7:09:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: zoi 17 ธันวาคม 2553 6:56:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|