ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
14 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

สัญญาจ้าวราชันย์ ราชาในภาพวาด (44)

รัตติกาลค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขายังคงอยู่ในอาการมึนงง สิ่งแรกที่มองเห็นนั้นก็คือท้องฟ้าในยามค่ำคืน ทะเลแห่งดวงดาว และดวงจันทร์ที่ดูเหมือนว่าจะมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ข้าวเขียวเคยบอกเอาไว้ตั้งแต่คืนก่อนที่จะออกเดินทาง

ความเจ็บปวดจากบริเวณด้านหลังลำคอ เรียกสติของรัตติกาลให้กลับมาสู่สิ่งที่พึ่งเกิดขึ้น เมื่อครู่มีศัตรูสองคนบุกจู่โจมเข้ามาภายในห้อง แต่ตอนนี้เขากลับกำลังนอนอยู่ในที่โล่ง แสดงว่าได้ถูกจับตัวออกมา หากศัตรูเพียงต้องการชีวิต ก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ทันใดนั้นเงาลึกลับทั้งสองก็โผล่เข้ามาในสายตาของเขา

รัตติกาลถูกจับมัดอย่างแน่นหนาอยู่ในท่านอนหงาย แขนทั้งสองถูกมัดไขว้กันไว้ทางด้านหลัง ในขณะที่ขาทั้งสองข้างก็ถูกมัดติดกัน ในลักษณะเช่นนี้เขาคงทำได้เพียงแค่กลิ้งตัวไปมา แต่คนลึกลับทั้งสองนั้นต่างยืนคอยคุมเชิงอยู่ทั้งสองด้าน เขาจึงไม่อาจทำอะไรได้

“เธอเป็นคนฆ่าท่านอรุณรุ่งใช่ไหม”

พอหนึ่งในนั้นเอ่ยปากถาม รัตติกาลจึงรู้ความจริงว่าเธอเป็นผู้หญิง และเขาคาดว่าอีกคนหนึ่งนั้นก็คงจะเป็นผู้หญิงด้วยเช่นกัน เขาเคยได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองคนนี้ในขณะที่นอนพักรักษาตัวอยู่

รัตติกาลคาดว่าสองคนนี้คือมาลา กับมาลาตีแห่งหน่วยพิเศษ ทั้งคู่เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทางหน่วยพิเศษนำมาเลี้ยงดู และฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันอรุณรุ่งโดยเฉพาะ เนื่องจากทั้งสามคนนี้มีอายุใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังเติบโต เล่น และฝึกฝนวิชาดาบมาด้วยกัน จึงทำให้รักกันดุจดั่งเป็นพี่น้องเลยทีเดียว

“...ผมไม่ได้ทำ”

“ไอ้เด็กปากแข็ง”

มาลาตีกระชากเสียงพร้อมกับเตะใส่รัตติกาลที่ด้านข้างลำตัว โชคดีที่แผลที่ท้องของเขานั้นเกือบจะหายสนิทแล้ว มันจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนัก มาลารีบยกมือขึ้นห้ามเพื่อนของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะเริ่มถามต่อ

“ในห้องตอนนั้นมีเพียงเธอกับท่านสนธยา หรือจะให้พวกฉันเชื่อว่าท่านอาจารย์เป็นนักฆ่า”

“ผมไม่รู้...ผมจำอะไรไม่ได้เลย”

มาลาตีขยับตัวอีกครั้ง แต่มาลาส่งสายตาห้ามเอาไว้

“...ถ้าเธอมั่นใจว่าเป็นฝีมือของท่านอาจารย์จริงๆ แต่กลัวว่าจะไม่มีใครยอมเชื่อ เลยต้องแกล้งโกหกว่าจำอะไรไม่ได้ ก็ขอให้บอกกับพวกฉันมาตามตรง”

มาลาตีมองหน้าเพื่อนของเธออย่างแปลกใจ ดูเหมือนว่ามาลาจะไม่เคยเปิดเผยความคิดนี้ให้เพื่อนของเธอได้รับรู้มาก่อน มาลาคิดว่าเรื่องที่รัตติกาลบอกว่าตัวเองความจำเสื่อมนั้น อาจเป็นการโกหกเพื่อรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้ เขาอาจรู้เห็นอะไรบางอย่าง แต่กลัวว่าจะไม่มีใครยอมเชื่อ จึงแกล้งทำเป็นว่าตัวเองไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ดูเหมือนว่าเธอเองก็มีความสงสัยในตัวสนธยาอยู่บ้างเหมือนกัน

“...ผมจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ”

สายตาที่เคยคาดหวังของมาลาเปลี่ยนไป มาลาตีขยับดาบของเธอไปจ่อไว้ที่ลำคอของรัตติกาล

“เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ เด็กนี่แหละที่เป็นนักฆ่าตัวจริง รีบล้างแค้นให้กับท่านอรุณรุ่งเถอะ”

“เธอแน่ใจนะ”

มาลาถามย้ำกับรัตติกาลอีกครั้ง ซึ่งเขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจนใจเท่านั้น เธอมองข้ามหัวของเขาไปยังผืนดินเล็กๆ ที่ยังหลงเหลือร่องรอยจากการกลบฝังอยู่ ใกล้ๆ กันนั้นมีรูปปั้นหินอ่อนของนางฟ้าครึ่งตัว อยู่ในท่ากางแขนทั้งสองข้างออก เพื่อโอบกอดดวงวิญญาณของผู้ที่นอนสงบนิ่งอยู่เบื้องล่าง ใบหน้าของนางฟ้านั้นมีความเมตตาของมารดาฉายอยู่อย่างชัดเจน สถานที่แห่งนี้คือหลุมฝังศพของอรุณรุ่งนั่นเอง

ทั้งสองคนไม่อาจทนต่อการเพิกเฉยของเจิดจรัส ที่เอาแต่พูดว่าไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดกับใครได้ จึงตัดสินใจจับตัวรัตติกาลที่คิดว่าเป็นผู้ลงมือสังหารอรุณรุ่งมายังที่แห่งนี้ เพื่อทำการลงโทษด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนว่ามาลาจะยังไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องนี้นัก ซึ่งผิดกับมาลาตีที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

ในที่สุดมาลาก็พยักหน้าให้กับมาลาตี เธอได้ให้โอกาสกับรัตติกาลไปแล้ว เขากลับยังไม่ยอมปริปาก 'เขาอาจเป็นคนลงมือ หรือไม่ก็จำอะไรไม่ได้จริงๆ แต่จะว่าเป็นฝีมือของท่านอาจารย์ มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เหมือนกัน' แต่เมื่อได้ตัดสินใจลงไปแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด เลือดต้องล้างด้วยเลือด ชีวิตก็ต้องแลกด้วยชีวิต

“ตามไปขอขมาท่านอรุณรุ่งเสียเถอะ”

มาลาตียกดาบขึ้นเพื่อจะลงดาบตัดคอของรัตติกาลให้ขาดหลุดจากบ่า ในจังหวะนั้นเขาก็รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดไปที่สะโพกพร้อมกับดีดตัวขึ้นมายืนได้อย่างน่าประหลาด หญิงสาวทั้งสองต่างคิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถทำเช่นนี้ได้ และในชั่วพริบตานั้น เขาก็ตัดสินใจพุ่งเข้าชนมาลาตีทันที

เงาร่างอีกสายหนึ่งที่รอจังหวะอยู่รีบพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว รัตติกาลเห็นประกายสองสายที่เกือบจะแยกกันไม่ออกพุ่งเข้าใส่มาลา และมาลาตีแทบจะในเวลาเดียวกัน เขารีบร้องออกไปด้วยความตกใจ

“อย่า...”

ร่างของหญิงสาวทั้งสองร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น มันเป็นดาบที่รวดเร็วมาก รวดเร็วจนเกินไป แถมผู้ที่ใช้ดาบนี้ยังฟันด้วยมือซ้าย เพราะว่าเขาหลงเหลือแขนซ้ายอยู่เพียงข้างเดียวเท่านั้น รัตติกาลไม่เคยเห็นสนธยาใช้ดาบมือซ้ายเช่นนี้มาก่อนเลย

บาดแผลบนร่างของสนธยานั้นยังไม่หายดีเหมือนกับของรัตติกาล การฟันออกสองดาบนี้ทำให้ปากแผลที่ท้องของเขาฉีกขาดออกอีกครั้ง เลือดจึงค่อยๆ ไหลซึมผ่านผ้าที่พันเอาไว้ออกมา เขาหยุดหอบหายใจ ใบหน้าของเขาค่อยๆ ซีดลง และเขาถึงกับต้องใช้ดาบต่างไม้เท้า เพื่อช่วยพยุงร่างให้ยืนอยู่ได้

“ท่านอาจารย์ทำร้ายพวกเธอทำไม”

รัตติกาลร้องถามด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าทั้งสองคิดที่จะฆ่าเขา แต่มันก็เป็นเพราะการเข้าใจผิด เขาจึงไม่ได้รู้สึกโกรธ หรือเกลียดพวกเธอแต่อย่างใด

“...แค่...สันดาบ...เท่านั้น”

สนธยาตอบอย่างตะกุกตะกัก รัตติกาลพอได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโล่งอก สนธยาใช้ดาบยันกายค่อยๆ เดินตรงเข้ามาหาเขา ความรู้สึกถึงอันตรายถูกกระตุ้นเตือนขึ้นมาทันที

“...อยู่นิ่งๆ...ฉันจะตัดเชือกให้”

แล้วสนธยาก็ได้เห็นสิ่งแปลกประหลาดที่กำลังเกิดขึ้น ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่กลางฟากฟ้า ดวงตาทั้งสองของรัตติกาลค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม 'เหมือนกับสีดวงตาของชายในภาพวาดนั้นเลย' เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มีความเย่อหยิ่งแบบเดียวกับชายลึกลับคนนั้นเท่านั้นเอง

รัตติกาลรู้สึกถึงความร้อนที่แปลกประหลาดนั้นอีกครั้ง ความรู้สึกแบบเดียวกับเมื่อตอนที่เขากำลังเข้าไปใกล้กับจักรพรรดิแห่งฟากฟ้า เชือกที่มัดมือ กับเท้าของเขาพลันขาดออกพร้อมกัน พร้อมกับมีควันจางๆ ลอยขึ้นมาด้วย เชือกตรงส่วนที่ขาดนั้นมีรอยไหม้ให้เห็นอย่างชัดเจน

สนธยาหยุดก้าวเดิน รัตติกาลรีบสะบัดเศษเชือกที่เหลือติดอยู่ออกจากร่าง

“...เกิดอะไรขึ้น เธอทำได้อย่างไร”

“...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ”

รัตติกาลตอบไปตามตรง สนธยาเก็บดาบคืนสู่ฝัก แต่ยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้ ครั้งนี้รัตติกาลสามารถมองเห็นวิธีการเคลื่อนไหวมือซ้ายของเขาได้อย่างชัดเจน ทุกการเคลื่อนไหวนั้นลื่นไหลไม่ติดขัด คำตอบเพียงอย่างเดียวก็คือ สนธยาสามารถใช้ดาบได้ทั้งสองมือมานานแล้ว

'ทำไมท่านต้องปกป้องเขาด้วย'
“หากเธอยังอยู่ที่นี่ต่อไป คงต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่”

รัตติกาลมองดูหญิงสาวที่กำลังนอนสลบอยู่ เขาเองก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ยังมีอีกหลายคนที่คิดเหมือนกับพวกเธอทั้งสอง ขอเพียงมีโอกาสก็คงต้องมีคนคิดลงมือกับเขาอีกแน่ และถึงแม้เจิดจรัสจะยังคงไม่มีท่าทีใดๆ แต่หากเขาตัดสินใจที่จะลงมือเมื่อใด ก็รับรองได้ว่ารัตติกาลไม่มีทางรอดแน่

'ทำไมต้องเป็นแขนขวา'
“ทางที่ดีเธอรีบหนีไปตอนนี้เลยจะดีกว่า”

“แต่ถ้าทำแบบนั้น...พวกเขาจะยิ่งเชื่อว่าผมเป็นคนลงมือสังหารท่านอรุณรุ่ง”

สนธยาเห็นรัตติกาลเหลือบมองเขาเมื่อพูดถึงคนที่ลงมือสังหารอรุณรุ่ง แต่เขายังคงรักษาท่าทีที่สงบเรียบเฉยเอาไว้ได้เช่นเดิม

'ทำไมไม่รักษาชีวิตของตัวท่านเองก่อน'
“มันก็จริง แต่ฉันคิดว่าเรื่องนั้นคงไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ก่อนจะดีกว่า”

รัตติกาลคิดใคร่ครวญคำพูดของสนธยา มันดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาน่าจะพูดถูก

“ฉันจัดเตรียมม้ากับสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเดินทางไว้ให้กับเธอแล้ว รีบไปที่ประตูปราสาทตอนนี้เลย มีคนที่ไว้ใจได้กำลังรอเธออยู่”

รัตติกาลดูเหมือนกำลังไตร่ตรองเรื่องทั้งหมด

“แล้วท่านอาจารย์จะทำอย่างไรต่อไปครับ”

“ฉันเองก็คงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วเหมือนกัน แต่คนอย่างฉันหายตัวไปเฉยๆ แบบเธอไม่ได้ ต้องจัดการเรื่องที่ยังคั่งค้างให้เรียบร้อยเสียก่อน”

ในที่สุดรัตติกาลก็ตัดสินใจพูดเรื่องที่ยังคงค้างคาใจออกไป และเขาก็จ้องมองสนธยาเพื่อดูการตอบสนองของเขาต่อเรื่องนี้อย่างตั้งใจ

“ในตอนที่แยกทางกับท่านมายา เธอได้บอกเอาไว้ว่า ในคณะเดินทางของท่านอรุณรุ่งนั้นจะต้องมีนักฆ่าแฝงตัวอยู่อีกคนหนึ่งแน่ๆ และยังเตือนให้ผมคอยระวังตัวเอาไว้ให้ดี...ซึ่งในตอนที่เกิดเรื่องขึ้นกับท่านอรุณรุ่งนั้น ก็มีเพียงผม กับท่านอาจารย์เท่านั้น ที่ยังคงอยู่ภายในปราสาทแห่งนี้”

สนธยาพลันยิ้มออกมา ก่อนที่จะส่ายหน้าเหมือนกับจะบอกว่ารัตติกาลได้ถามคำถามที่ผิดเสียแล้ว

“ฉันเองก็มีเรื่องข้องใจเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้จะไปถามใครได้ ทำไมในตอนนั้นท่านอรุณรุ่งถึงใช้จักรพรรดิแห่งฟากฟ้าฟันแขนขวาของฉัน แทนที่จะเป็นแขนซ้าย ทำไมท่านถึงตัดสินใจช่วยเธอ แทนที่จะพยายามรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ ทำไมใครคนหนึ่งถึงสามารถยอมตายให้กับคนที่แทบจะไม่รู้จักกันเลยได้ ทำไม ทำไมกัน”

ทุกการเคลื่อนไหวของสนธยานั้นเรียบลื่น ดาบในมือซ้ายชักออกแล้วแทงเข้ามาอย่างรวดเร็ว รัตติกาลที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วสามารถเบี่ยงตัวหลบได้อย่างเฉียดฉิว แต่แทนที่สนธยาจะฉวยโอกาสลุกไล่ เขากลับรีบหมุนตัวเพื่อหลบหนี พร้อมกันนั้นก็มีความเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นรอบๆ บริเวณ

เจิดจรัสพลันปรากฎกายขึ้นในที่นั้นได้อย่างคาดฝัน หน่วยพิเศษของเขาทำการไล่ล่าติดตามสนธยาไปอย่างกระชั้นชิด น่าแปลกที่เขากลับพาตัวเองไปสู่คุกใต้ดินที่เป็นทางตัน

#####

รัตติกาลเร่งควบม้ามุ่งตรงไปยังแนวป่าข้างหน้า ที่ด้านหลังของเขายังคงพอมองเห็นยอดของปราสาทสุริยันได้อยู่ แต่แสงสว่างที่กำลังมืดลง ทำให้มันค่อยๆ กลืนหายไปกับท้องฟ้ายามราตรีในที่สุด

เรื่องที่เกิดขึ้นภายในห้องนั้นกระจ่างแล้ว นักฆ่าอีกคนหนึ่งกลับกลายเป็นสนธยานั่นเอง เขาลงมือด้วยการใช้ดาบสองมือแทงเข้าใส่อรุณรุ่ง กับด้านหลังของรัตติกาลพร้อมๆ กัน แต่ในช่วงเวลานั้นอรุณรุ่งกลับสามารถดึงจักรพรรดิแห่งฟากฟ้าออกมาจากแท่นของมันได้ และเธอก็ใช้มันตัดแขนขวา แขนข้างที่แทงดาบเข้าใส่รัตติกาล ซึ่งทำให้เขารอดชีวิตมาได้ แต่เธอกลับต้องตายด้วยดาบในมือซ้ายของสนธยา

หลังจากนั้นสนธยาก็ใช้ดาบแทงตัวเองเข้าที่ท้อง กับหน้าอก ซึ่งต้องใช้ฝีมือที่มีความแม่นยำสูงมาก จึงทำให้เขาสามารถรอดชีวิตมาได้ แม้แต่เจิดจรัสเองก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่า สนธยาจะเป็นนักฆ่าที่แฝงตัวอยู่มานานถึงเพียงนี้ และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าแปลกก็คือ ทางสมาคมนักฆ่านั้นใช้วิธีการอย่างไร ถึงสามารถควบคุมนักฆ่าเหล่านี้เอาไว้ได้

สนธยานั้นล่วงรู้ความลับต่างๆ มากมาย คุกใต้ดินที่หลายคนคิดว่าเป็นทางตัน กลับมีทางออกที่คาดไม่ถึงซุกซ่อนอยู่ด้วย เขาอาศัยช่องทางเก่าแก่ที่ใช้ปล่อยสัตว์ร้ายลงไปในคูเมืองนั้นหลบหนีออกไปได้ แต่จนถึงตอนนี้หน่วยพิเศษก็ยังคงไล่ล่าเขาต่อไปอย่างไม่ลดละตามคำสั่งของเจิดจรัส

“ผู้คนในหมู่บ้านของเธอไปถึงดินแดนของวายุแล้ว ส่วนนักมายากลที่ชื่อมายา กับพวกเพื่อนของเธอ มีข่าวว่ากำลังมุ่งหน้าไปยังปราสาทวารี เธอจะไปทางไหนก็จงเลือกเอาเอง”

รัตติกาลตัดสินใจถามเจิดจรัสออกไปในตอนนั้น

“แล้วท่านล่ะ ท่านจะเลือกเส้นทางไหนครับ”

เจิดจรัสหันหลังเดินจากไป พร้อมกับตอบคำถามของเขา

“เส้นทางของฉันมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น...นั่นคือสงคราม”

รัตติกาลหวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนั้นอีกครั้ง เขาเองก็สงสัยเหมือนกับสนธยาเข่นกัน 'ทำไมถึงช่วยชีวิตผมเอาไว้' เขายกมือซ้ายขึ้นปาดเช็ดน้ำตา ดวงตาสีเหลืองของเขาสะท้อนแสงจันทร์เป็นประกายอย่างแปลกประหลาด ถึงแม้ว่าแสงสว่างจะมีอยู่เพียงเล็กน้อย แต่เขากลับสามารถมองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน

รัตติกาลไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่เขาได้ตัดสินใจที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองแล้ว




 

Create Date : 14 ธันวาคม 2553
7 comments
Last Update : 14 ธันวาคม 2553 7:28:36 น.
Counter : 557 Pageviews.

 

รอบต่อตอนต่อไป ผมขอให้คุณอั๊บเร็วกว่านี้ได้ไหม สักวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค. เถิด กำลังสนุก แล้วก็วันจันทร์ผมไม่ว่างเลยอ่ะ ขี้เกียจรอหลายวันอ่ะ

 

โดย: ไอซ์ (เรียบๆง่ายๆ...สบายใจดี ) 14 ธันวาคม 2553 17:15:22 น.  

 

สนุกๆมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่มีเรื่องสนุกๆมาให้อ่าน

 

โดย: อุ๋ย IP: 121.130.60.140 14 ธันวาคม 2553 23:11:55 น.  

 

ถ้าเขียนทันจะลงให้เลยครับ
ตอนต่อไปจะข้ามไปยังกลุ่มของมายาแล้ว
ก่อนที่จะเริ่มขมวดเข้าสู่จุดจบ

อา...แค่ได้พิมพ์คำว่าจบก็ตื่นเต้นแล้ว
เรื่องนี้ผมทำล่มแล้วล่มอีกมาหลายรอบ
ท้อจนจะเลิกเขียนก็หลายครั้งเหมือนกัน

แต่พอรู้ว่ายังมีคนตามอ่านอยู่
ก็เลยต้องพยายามไปให้จบให้ได้
(ถ้าจบเรื่องนี้ได้แล้ว จะเริ่มเรื่องใหม่คงต้องคิดหนักหน่อยครับ)

 

โดย: zoi 15 ธันวาคม 2553 8:49:36 น.  

 

อา..."จะจบแล้ว"...!
ฟังแล้วน่าใจหาย

ยังคิดถึง "รัตติกาล" และเพื่อน ๆ ของเขาอยู่เลย

...ถ้าจะให้วิพากษ์วิจารณ์นิยายเรื่องนี้ สิ่งที่น่าชื่นชม คือ "การตัดสลับฉาก" ที่สอดคล้องกันดี แต่ก็มาพร้อมข้อเสียตรงที่ว่า...

เพราะนิยายเรื่องนี้ยังอยู่ในฉบับออนไลน์ การรอคอยจึงอาจทำให้ "สะดุด" บางครั้งผมต้องเผลออ่านตอนเก่าเพื่อรื้อฟื้นความหลัง ว่าตอนนั้นจบถึงไหน แต่ถ้าเรื่องไม่ตัดสลับ การอ่านอาจไหลลื่น

แต่โดยรวมถือว่าสมบูรณ์แล้ว คุณทำได้ดีทีเดียว (และหลายที)

...แม่ของรัตติกาลไปอยู่ที่ไหนหนา...? อยากรู้เจง จะมีเฉลยให้ไหม

...สรุปว่า "รัตติกาล" เป็นเครือญาติของสุริยะหรือไม่...? อันนี้ก็ยังสงสัย

...แต่ที่สงสัยมากที่สุดตอนนี้ คือ "รัตติกาล" มีจุดหมายอะไรในใจ...?

ถ้าให้เดาเล่น ๆ นะ คิดว่า
"รัตติกาล" เลือกช่วย "ท่านเจิดจรัส" อย่างแน่นอน ไม่มีเหตุอะไรเลยที่จะหนีออกไปไหนที่อื่น และ "ท่านเจิดจรัส" ก็ไม่เลวเกวอะไร ไม่มีพิษมีภัยให้รัตติกาลต้องห่วง หรือกังวลถึงความไม่ปลอดภัยของตน อยู่กับท่านเจิดจรัสแล้ว มีแต่ความปลอดภัย "ผมเชื่อเช่นนั้นนะ"

ไปล่ะคุณ

 

โดย: เรียบๆง่ายๆ...สบายใจดี 15 ธันวาคม 2553 23:03:01 น.  

 

เรื่องตัดสลับฉากมันเลี่ยงไม่ได้เลยครับ
เพราะตัวละครของผมกระจัดกระจายไปทั่ว
และทั้งหมดส่งผลเชื่อมโยงถึงกัน
ถ้าเน้นไปที่เฉพาะกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง
อาจทำให้ต้องมีฉากคิดย้อนหลังเยอะมากครับ

มาตอบยั่วน้ำลายเล่นๆ

จันทร์เสี้ยว เป็นใคร หายไปไหน
มีคำตอบแน่นอนครับ
ถึงแม้มันจะไม่ไช่ความตั้งใจตั้งแต่แรกของผมก็ตามที

ที่มาของ รัตติกาล ก็จะมีเฉลย
และชายเสื้อคลุมแดงที่อยู่ในภาพวาดก็จะมีเฉลยเช่นกัน
และเหมือนกับข้อข้างบนคือพึ่งคิดได้ในภายหลัง

ส่วนจุดหมายของ รัตติกาล ตอนที่พิมพ์น่ะ
ยังไม่ได้คิดไว้เลยครับ แต่ตอนนี้มีแล้วนั่นคือ...
รออ่านละกันครับ 555
(พึ่งคิดได้ตอนอาบน้ำเมื่อวานนี้เอง)

 

โดย: zoi 16 ธันวาคม 2553 7:09:33 น.  

 

เข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมคุณเขียนแล้วต้องหยุด เพราะ"ตัวละครกระจัดกระจาย"นี่เอง มันค่อนข้างยากนะที่จะเอาตัวละครให้อยู่ และต้องรักษาบุคลิกตัวละครให้นิ่ง แต่...เมื่อจะทำการใหญ่...ใจต้องกล้าฉะนี้แล...

ให้เดาเช่นเคย ชายชุดแดงอาจเป็นปู่ของรัตติกาล ไม่ก็พ่อของรัตติกาล แต่พ่อไม่น่าใช่ แต่ก็ไม่แน่ ส่วนจันทร์เสี้ยวอาจเป็นคนในยุคหนึ่งที่อาจข้ามเวลามาก็ได้ และความเป็นไปได้ที่ชายชุดแดงอาจเป็นพ่อของรัตติกาลก็ยังมีค่อนข้างสูง

แต่ที่สงสัยเพิ่มเติมอีก คือ ความสัมพันธ์ระหว่างท่านเจิดจรัสกับท่านรุ่งอรุณนั้นเกี่ยวดองกันอย่างไร อ่านไปก็ยังไม่เข้าใจอยู่เลย และหวังว่าจะเฉลยด้วยนะว่าใครในสมาคมนักฆ่าที่จ้างสนทยามาทำร้ายรุ่งอรุณ

อืม...เท่านี้แล้วกันครับ ก็ฝากคุณไปมโนในห้องน้ำต่อครับ เพราะที่แห่งนั้นมันแสนเงียบ แสนสงบ และเป็นที่พักใจของคนเราได้อย่างดี ผม...ยามคิดอะไรไม่ออก ก็ขอหลบไปคิดในห้องน้ำก่อนเหมือนกัน ก็คิดในนั้นเพียงอย่างเดียวแล้วกันนะครับอย่าทำอย่างอื่นเป็นอันขาด ไม่งั้นคิดไม่ออกแน่

 

โดย: เรียบๆง่ายๆ...สบายใจดี 16 ธันวาคม 2553 22:34:56 น.  

 

โอ๊ะ...โดนไปเต็มๆ เลยแฮะ

สำหรับ เจิดจรัส กับ อรุณรุ่ง นั้น
เป็นคู่หมั่นที่กำลังจะแต่งงานกันครับ
สายเลือดลับๆ ของอดีตราชาประกายแสง
กับ แม่ทัพใหญ่ผู้คุมกำลังทหารจนได้ขึ้นเป็นราชา
มีบอกไว้ในตอน 26 ระหว่างที่
มายา กับ สนธยา กำลังเจรจากันอยู่
ส่วนทั้งสองจะรักกันไหม อ่านดูแล้วน่าจะรู้ใช่ไหมครับ

เห็นข้อเสียที่คุณบอกได้ชัดเจนเลย
เขียนไว้ตอนที่ 26 อ่านมาถึงตอนนี้ก็ลืมไปหมดแล้ว

วันนี้จะเริ่มเขียนต่อแล้วครับ

 

โดย: zoi 17 ธันวาคม 2553 6:56:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.