ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
สัญญาจ้าวราชันย์ เบื้องหลังสมาคมพ่อค้า (36)

“ผมมีเรื่องด่วนต้องรีบรายงานท่านเศรษฐี...เป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านหัตถาครับ”

ใบหน้าของพวกยามซึ่งทำหน้าที่เฝ้าทางเดินเพียงเส้นเดียว ที่นำไปสู่ห้องของเศรษฐีสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ตรงจุดนี้จะต้องมียามอยู่สี่คนเสมอตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน

“ท่านเศรษฐีไม่อยู่”

นั่นหมายความว่าไม่มีใครสามารถผ่านเข้าไปได้ในตอนนี้ แม้แต่หัตถาเองก็ตาม

“ท่านไปไหน”

ยามทั้งสี่คนยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คู่สนทนาต้องขนลุก ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะตอบอย่างยียวน

“กลับไปตามท่านหัตถามาถามเองสิ...บางทีพวกเราอาจจะตอบ”

ยามเฝ้าคุกคอตกถอยหลังกลับไปอย่างหมดหวัง เขาไม่อาจทำตามคำสั่งของหัตถาได้ลุล่วง รอยแผลที่แขน และหน้าอกของเขาปวดแปลบขึ้นมาอย่างฉับพลัน หรือจะถึงเวลาที่เขาควรทำในสิ่งที่คิดเอาไว้เนิ่นนานแล้ว นั่นคือการหลบหนีออกจากสมาคมอันชั่วร้ายแห่งนี้ แต่เพียงแค่คิดเขาก็รู้สึกหนาวเย็นไปถึงกระดูก

'ผู้หลบหนีออกจากสมาคมนักฆ่า ต้องละทิ้งความหวังทั้งมวล'

#####

ชายลึกลับหลับตาลงก่อนที่จะแนบหูเข้ากับกำแพงที่พบ เขานิ่งฟังเสียงอยู่นานจนแน่ใจว่าไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่อีกด้านหนึ่งนั้น มือของเขาพลันเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด สัญลักษณ์บางอย่างถูกขีดวาดขึ้นบนกำแพงอย่างรวดเร็ว นี่เป็นวิธีการเดียวที่จะเปิดประตูลับทั้งหมดภายในปราสาทวายุ ดังนั้นต่อให้หัตถาค้นจนละเอียดขนาดไหนก็ไม่สามารถค้นเจอ

กำแพงเลื่อนเปิดออกอย่างไร้เสียง ชายลึกลับพลันลืมตาแล้วสำรวจไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว ภายในห้องนี้มีแสงจันทร์ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง สายตาที่อยู่ในที่มืดมานานของเขาจึงสามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน

จากข่าวที่ชายลึกลับได้มา ห้องนี้ไม่เคยถูกสมาคมพ่อค้าใช้งานใดๆ เลยด้วยเหตุผลประการหนึ่ง และเหตุผลนั้นก็ปรากฏชัดเจนอยู่ตรงหน้าเขา

ที่ผนังกำแพงด้านหนึ่งภายในห้อง มีสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ มันเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายได้ และเพราะขนาดที่ใหญ่โตของมัน ทั้งหมดจึงล้มเลิกความคิดที่จะทำการปกปิด เนื่องจากภายในปราสาทวายุแห่งนี้มีพื้นที่ให้ใช้งานอย่างมากมาย การปิดตายไปเพียงห้องหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตแต่ประการใด

ที่อยู่บนกำแพงทางด้านนั้นคือรูปนูนต่ำของราชาแห่งสายลมขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจเก่า ที่สมาคมพ่อค้าต้องการให้ถูกลืมไปโดยเร็วนั่นเอง

ชายลึกลับเหม่อมองไปรอบๆ ดูเหมือนว่าห้องนี้จะถูกทิ้งเอาไว้โดยไม่ถูกแตะต้องเลย เขาเดินลูบมือไปตามหัวเตียง มีฝุ่นจำนวนมากจับอยู่แต่เขาก็ไม่สนใจ เครื่องใช้ต่างๆ ภายในห้องดูเรียบง่าย แทบไม่แตกต่างจากห้องนอนของชนชั้นกลางทั่วไป ใครเลยจะคิดว่าสถานที่แห่งนี้คือ ห้องนอนของราชันย์ผู้เคยปกครองมหาอาณาจักรวายุในอดีต

ชายลึกลับทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ที่ลอยเด่นอยู่กลางทะเลของหมู่เมฆคือดวงจันทร์สีนวล 'ใหญ่ขึ้นอีกนิดแล้วสินะ' นับตั้งแต่คืนที่วุ่นวายนั้น เขาก็ต้องรอนแรมเดินทางในป่าเขามาโดยตลอด ในทุกค่ำคืนต้องได้พบเห็นการเปลี่ยนแปลงของดวงจันทร์ และดูเหมือนกับว่ามันกำลังมีขนาดที่โตขึ้นทีละน้อยๆ

ชายลึกลับพลันสลัดเรื่องนี้ออกไปจากใจก่อน เขาหันกลับมาสู่เป้าหมายที่แท้จริงในค่ำคืนนี้ ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ของราชาแห่งสายลมขนาดยักษ์นั่นเอง 'มันจะเป็นความจริงหรือเปล่านะ' เพราะความสงสัยที่ทำให้เขายังคงลังเลจนถึงตอนนี้ เพราะหากทั้งหมดกลายเป็นเพียงคำเล่าลือ นั่นหมายถึงความฝันของเขาก็จะต้องสูญสลายไปด้วยเช่นกัน

“ความลับซ่อนอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย”

เสียงที่คุ้นหูพลันดังขึ้น ชายลึกลับพยายามรักษาอาการที่สงบภายนอกเอาไว้ ตัวเขาเองก็คาดเดาเอาไว้แล้วเช่นกันว่า อาจจะได้พบกับศัตรูในที่นี้ แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของคนผู้นี้เลย หากศัตรูตัดสินใจจู่โจมโดยไม่แสดงตัวออกมาก่อน เขาอาจจะเสียท่าไปแล้วก็ได้

'เมื่อทำแบบนี้ก็แสดงว่า มันมั่นใจฝีมือของตัวเองมาก' นอกจากนี้ชายลึกลับยังเข้าใจถึงเหตุผลอีกข้อหนึ่ง 'แสดงว่ามันเองก็อยากรู้ความลับเรื่องของกองทัพแห่งพายุหมุนเช่นกัน' ซึ่งเขาต้องพยายามใช้สองเรื่องนี้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด

“พูดเรื่องอะไรหรือ ท่านหัวหน้าสมาคม...”

ชายลึกลับจงใจไม่ระบุให้แน่ชัดว่าเขาหมายถึงสมาคมใดกันแน่ เศรษฐีค่อยๆ เผยกายออกมาจากมุมมืดภายในห้อง เมื่อครู่นี้ชายลึกลับเองก็ได้มองผ่านตำแหน่งนั้นไปแล้ว แต่กลับไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

“เลิกอ้อมค้อมกันได้แล้ว แกเป็นใครกันแน่”

“แล้วท่านล่ะ”

ชายลึกลับย้อนถาม

“ฉันคือเศรษฐีหัวหน้าสมาคมพ่อค้า และยังเป็นมรณะหัวหน้าสมาคมนักฆ่าอีกด้วย”

มรณะตอบอย่างไม่ลังเล ชายลึกลับเกิดอาการหวั่นใจขึ้นมาในทันที 'มันกล้าเปิดเผยเช่นนี้ แสดงว่าเห็นเราเป็นแค่คนตายคนหนึ่งเท่านั้น' แต่ในอีกด้านหนึ่งก็นับเป็นโชคดี นั่นคือมันอาจจะประมาทในฝีมือของเขาก็เป็นได้

“ฉันคือนิลวายุแห่งพายุหมุน”

ที่แท้ชายลึกลับผู้นี้คือนิลวายุ หรือวาณิชนั่นเอง ไม่มีใครรู้ว่าผลการต่อสู้ระหว่างเขากับผู้เคลื่อนไหวในยามราตรี ในค่ำคืนแห่งงานฉลองนั้นจบลงอย่างไร แท้จริงแล้วอาวุธที่ถูกเรียกขานว่าเป็นราชาแห่งสายลมนั้น มีรูปร่างหน้าตาเช่นไรกันแน่ และเขาได้นำมันติดตัวมาด้วยหรือไม่ในค่ำคืนนี้

นิลวายุมีแผนอะไรถึงได้ยอมเสี่ยงชีวิตลอบเข้ามาภายในสมาคมพ่อค้า หรือว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการยึดครองมหาอาณาจักรทั้งหมดตามความฝันของเขา

“ฉันรู้จักชื่อนั้นดี...แต่ว่าเจ้าจะใช่ลูกชายของราชาพายุหมุนคนนั้นจริงหรือ”

นิลวายุพยายามข่มความรู้สึกโกรธที่พุ่งขึ้นมาเอาไว้ในใจ นี่เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เขาไม่อยากได้ยิน 'มันรู้และจงใจพูดออกมาหรือเปล่านะ' เขาไม่อาจดูถูกศักยภาพของสมาคมนักฆ่าได้ พวกมันมีโยงใยอยู่ทั่วทุกที่ ข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาล ทั้งที่สำคัญ และเป็นเรื่องเล็กน้อย ต่างถูกพวกมันตรวจสอบแทบทั้งสิ้น

“ท่านถาม และฉันก็ตอบแล้ว”

“โอ...ถ้าอย่างนั้นฉันจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงก็แล้วกัน ว่าแต่ท่านนิลวายุกลับมายังบ้านเก่าแห่งนี้ ด้วยธุระอันใดมิทราบ หรือว่าตอนจากไปนั้นรีบร้อนเสียจนลืมข้าวของสิ่งใดทิ้งไว้”

นิลวายุพยายามข่มใจตนเองเอาไว้ การปฏิวัติในครั้งนั้น บิดาของเขาต้องยอมสละชีพในการต่อสู้ ป้องกันปราสาทแห่งนี้เอาไว้ให้นานที่สุด เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวที่เหลือทั้งหมด ใช้ทางลับสายนี้หลบหนีออกไป แต่สุดท้ายแล้วกลับมีเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่สามารถรอดชีวิตมาได้ จึงนับได้ว่าเขาต้องสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมกับการล่มสลายของมหาอาณาจักรวายุ

“ท่านนิลวายุแห่งพายุหมุน ฉันมีข้อเสนอ”

มรณะจงใจเน้นชื่อของนิลวายุเป็นพิเศษ เขาไม่ได้โต้ตอบ แต่ก็คิดจะลองรับฟังข้อเสนอนั้นดู แน่นอนว่าเขายังคงระวังตัวอยู่เสมอ นักฆ่านั้นมากด้วยเล่ห์เหลี่ยม และพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในยามที่ผู้คนคาดไม่ถึง

“ตอนนี้ทางสมาคมพ่อค้ากำลังปวดหัวกับการที่ต้องติดอยู่ตรงกลางระหว่างมหาอำนาจทั้งสอง คือสุริยันทางทิศตะวันออก กับวารีทางทิศใต้ การเลือกฝ่ายนั้นยาก แต่การไม่เลือกข้างนั้นกลับยิ่งยากกว่า”

มรณะที่ต้องใช้ชีวิตในฐานะพ่อค้าใหญ่เศรษฐีมานาน พอพูดถึงเรื่องนี้ ท่าทางของเขาก็ดูคล้ายกลับกลายเป็นพ่อค้าคนหนึ่งที่กำลังถกเถียงถึงผลกำไรขาดทุนอยู่จริงๆ

“นิลวายุ ท่านอาจจะเป็นคำตอบที่ฉันต้องการ”

นิลวายุเองก็เคยใช้ชีวิตเป็นพ่อค้าเร่เช่นกัน ดังนั้นจึงพอจะเข้าใจในความคิดของมรณะ

“ท่านต้องการให้เรากลายเป็นทางเลือกที่สาม”

มรณะยิ้ม เขาจะรู้สึกตื่นเต้นยินดีทุกครั้งหากคู่เจรจานั้นฉลาดพอที่จะตามความคิดของเขาได้ทัน การหลอกใช้ผู้อื่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่บางครั้งการมีคนที่สามารถเข้าใจตนเองได้ ก็นับเป็นความสุขอย่างหนึ่ง หากไม่มีความเสี่ยงใดๆ เลย ชีวิตนี้คงจืดชืดสิ้นดี

“สมาคมพ่อค้านั้นมีเพียงอำนาจทางการเงิน แต่หากได้อำนาจทางการทหารมาเพิ่มเติม มันจะกลายเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าทั้งสองอาณาจักรเสียอีก”

“รวมถึงอำนาจที่ซ่อนเร้นอยู่ในเงามืดของสมาคมนักฆ่าด้วยใช่ไหม”

นิลวายุพูดเสริมขึ้น มรณะยิ่งยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม

“ฉันอาจจะเจรจากับท่าน...หากกองทัพพายุหมุนที่ว่าเป็นเรื่องจริง”

นิลวายุไม่เชื่อคำพูดของมรณะแม้แต่คำเดียว เขามั่นใจว่า หากประมาทเลิ่นเล่อเมื่อไร มรณะจะต้องลงมือจัดการกับเขาทันที เพราะถึงแม้กำลังรบจะทำให้สมาคมพ่อค้าเข้มแข็งขึ้นจริง แต่คนอย่างมรณะคงไม่ต้องการให้กองกำลังที่ว่านี้ ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น สถานการณ์ในตอนนี้ของสมาคมพ่อค้าแม้จะดูว่าเลวร้าย แต่ก็ยังไม่ถึงกับไร้ทางแก้ สิ่งเดียวที่มรณะต้องการคือให้เขาคลายความระมัดระวังลงเท่านั้น

มรณะที่ยังไม่อาจประเมินคู่ต่อสู้ของเขาได้ดีนัก จึงยังไม่ยอมลงมือ เขาไม่รู้ว่านิลวายุซุกซ่อนอาวุธชนิดใดเอาไว้ แต่สิ่งนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่ เพราะสามารถเล็ดรอดการตรวจค้นอย่างถี่ถ้วนของหัตถาไปได้

นิลวายุนั้นยังคงอยู่ในสภาพที่ตื่นตัว และระมัดระวังเต็มที่ ด้วยสภาพเช่นนี้ เมื่อยังไม่มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม มรณะจึงยังไม่ยอมลงมือ เขาพยายามพูดคุยเพื่อให้นิลวายุเปิดเผยช่องว่างออกมา ขอเพียงศัตรูชะล่าใจเพียงชั่วครู่ สุดยอดแห่งนักฆ่าผู้นี้ก็มั่นใจว่าสามารถลงมือประสบผลได้

นิลวายุพลันถอนหายใจออกมา

“เสียเวลาเป...”

เสียงกรีดแหลมของคมโลหะกระทบกันพลันดังขึ้น โดยที่ทั้งสองแทบไม่ได้ขยับตัวเลย ทั้งคู่ยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม มีเพียงชายแขนเสื้อข้างซ้ายของมรณะที่สั่นไหวเล็กน้อย และตำแหน่งแขนของนิลวายุที่เปลี่ยนท่วงท่าไปจากเดิมเท่านั้น

มรณะพึ่งรู้สึกตัวว่าที่ผ่านมานั้นตนเองหยิ่งยะโส และมั่นใจในฝีมือจนเกินไป 'หากฉาบยาพิษเอาไว้ ก็เรียบร้อยไปแล้ว' รอยขีดสีแดงจางๆ ปรากฏขึ้นที่ข้างลำคอของนิลวายุ โลหิตสีแดงเข้มค่อยๆ ซึมออกมารวมกันจนกลายเป็นหยดเลือดไหลรินลงมาช้าๆ

นิลวายุนับว่ารอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ถึงแม้จะอยากหันไปดูอาวุธที่สุดยอดนักฆ่าผู้นี้ใช้ แต่เขาก็ไม่อาจละสายตาจากศัตรูที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้

'เงาบิน' คือชื่ออาวุธที่มรณะ สุดยอดนักฆ่าผู้นี้ใช้ 'มีน้อยคนนักที่สามารถรอดชีวิตจากมีดเล่มนี้'

มีดเล่มน้อยที่มีคมทั้งสองด้านปักอยู่บนผนังกำแพงทางด้านหลังของนิลวายุ มันมีความยาวไม่ถึงคืบ มีดทั้งเล่มเป็นสีดำสนิท ไม่มีประกายใดๆ ทั้งสิ้น และนี่คือความน่ากลัวของมัน เพราะทำให้ยากที่จะมองเห็นได้ โดยเฉพาะในความมืดเช่นนี้ ปลายแหลมของมีดฝังเข้าไปในผนังหินเพียงเล็กน้อย แต่หากเปลี่ยนเป็นลำคอของผู้คน มีดเล่มนี้คงจมหายเข้าไปจนมิด

มรณะมองเห็นเงาของดาบวูบหนึ่งปัดเงาบินของเขาให้เบี่ยงเบนไป ดาบนี้ของนิลวายุมาจากไหน และหายไปสู่ที่ใดนั้น ยังคงเป็นปริศนา แต่เมื่อคิดถึงเรื่องของกองทัพพายุหมุนแล้ว ก็มีเรื่องของอาวุธอีกชิ้นหนึ่งที่ติดตามมา

“หรือว่าจะเป็น ราชา...”

นิลวายุพลันชิงลงมือเช่นกัน เขากลั้นใจพร้อมกับตวัดดาบโค้งที่อยู่ดีๆ ก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขาเข้าใส่ มรณะเองแม้จะหยิ่งทรนงในฝีมือของตนจนไม่ยอมใช้อาวุธฉาบยาพิษ แต่ในตัวของเขาพกพาเงาบินอยู่มากเท่าใดนั้น ไม่มีผู้ใดรู้ได้

นิลวายุต้องวกดาบกลับมาคุ้มครองตนเองจากมีดบินไร้เงาสองเล่ม พร้อมกับมีเงาบินอีกสองเล่มเตรียมพร้อมอยู่ในมือของมรณะ สุดท้ายนิลวายุได้แต่ถอนหายใจ ดาบโค้งในมือก็หายไปอีกครั้ง

ประตูห้องที่ปิดตายพลันเปิดออก หัตถายืนรออยู่ที่หน้าห้องโดยไม่ได้ก้าวเข้ามา มรณะฉีกยิ้มให้กับนิลวายุ

“ราชาแห่งสายลม ดาบที่เกิดจากสายลม มีอยู่จริงๆ ด้วย”

มรณะคล้ายกับพึมพำกับตนเอง แต่ความจริงแล้วกำลังบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้หัตถาได้ระวังตัวเอาไว้

“มาช่วยฉันอีกแรง...แต่ถ้าเป็นไปได้ให้จับเป็น”

แสดงว่าตอนนี้มรณะมีความเชื่อมั่น และยังคิดจะช่วงชิงความลับของกองทัพพายุหมุนอีกด้วย พ่อค้าความตายผู้นี้ดูเหมือนจะคิดฝันไปไกลแล้ว หัตถาก้าวเข้ามาในห้อง ในมือของเขาคือดาบเรียวยาวที่มีความโค้งเล็กน้อย ซึ่งดูเหมือนกับดาบของสุริยันไม่มีผิด

นิลวายุรีบใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว หากไม่อาจหลบหนีไปได้ เขาคงต้องเลือกจบชีวิตตนเองลงในค่ำคืนนี้


Create Date : 13 ตุลาคม 2553
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 14:34:40 น. 1 comments
Counter : 574 Pageviews.

 
มัน'ssssssssssssssss'


โดย: เรียบๆง่ายๆ...สบายใจดี วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:19:25:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.