ยังคงติดเกมและเล่นเฟสมากกว่า อาจไม่ค่อยมาตอบคอมเม้นท์นะคะ

ยาคูลท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




ข้าพเจ้าเป็นสุข และเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้ -- วาทะของท่านมหาตมะ คานธี


Book Archive by Group



หมายเหตุ: โซน Romance และ การ์ตูน ยังไม่ทำเพราะมีน้อย


Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
20 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ยาคูลท์'s blog to your web]
Links
 

 
รองเท้าบัลเลต์ (Ballet Shoes)

ผู้แต่ง: Noel Streatfeild / ผู้แปล: งามพรรณ เวชชาชีวะ
สำนักพิมพ์: ร่วมด้วยช่วยกัน
พิมพ์ครั้งแรก พฤศจิกายน 2550
ราคา 270 บาท

พบกับเรื่องราวประทับใจของสามพี่น้อง สามบุคลิก ตระกูลฟอสซิล กับการตามหาฝันที่โรงเรียนสอนการแสดงและบัลเลต์

พอลลีน เพโทรวา และโพซี เติบโตในบ้านของปู่แมตธิวอย่างมีความสุข จนกระทั่งเมื่อปู่แมตธิวหายสาบสูญและเงินเริ่มร่อยหรอ ทั้งสามพยายามช่วยเหลือทางบ้านอย่างเต็มความสามารถ

พอลลีนใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดง เพโทรวามีความสุขที่สุดเวลาอยู่ในอู่รถยนต์ โพซีอยากเต้นบัลเลต์ตลอดเวลา

สามพี่น้องจะทำสำเร็จหรือไม่ ร่วมเป็นกำลังใจให้กับสามพี่น้อง และสนุกสนานไปกับหลากลีลาในโรงเรียนบัลเลต์

* * * * * * * * *


บล็อกหนังสือ แต่ขอเริ่มคุยเรื่องหนังก่อน ...
ใครเคยดูหนังรัก You’ve Got Mail (นำแสดงโดยทอม แฮงค์และเม็ก ไรอัน) ที่เกี่ยวกับธุรกิจร้านหนังสือ คงจำได้ว่ามีฉากที่นางเอกเข้าไปนั่งร้องไห้ในร้านหนังสือของพระเอก เธอกำลังจะปิดกิจการร้านหนังสือของตัวเองเพราะสู้ร้านเชนสโตร์ใหญ่อย่างฟ็อกซ์ไม่ได้ ระหว่างนั้น มีลูกค้ามาถามหาหนังสือชุด “รองเท้า” แล้วพนักงานไม่รู้จัก ถามว่าชื่อผู้แต่งสะกดยังไง นางเอกที่นั่งสะอื้นอยู่แถวนั้นเลยสะกดชื่อให้ทีละตัว ตามด้วยข้อมูลหนังสือ
... เป็นฉากที่นักอ่านหรือคนทำร้านหนังสือทุกคนต้องสลด ลูกค้าไม่รู้จักหนังสือเพราะเธอแค่มาซื้อหนังสือนอกเวลาให้ลูก พนักงานทำหน้าที่ขายอย่างเดียวตามหน้าที่ นางเอกเป็นคนเดียวที่รู้จักหนังสือจริง แต่กลับต้องออกนอกวงการ เพราะไม่มีทุนพอสำหรับการแข่งขันในตลาด หนังสือที่หนังเรื่องนี้ใช้เป็นสื่อแสดงถึงความรู้พื้นฐานในวงการก็คือ Ballet Shoes ของโนเอล สเตรทเฟลด์เล่มนี้เอง

หนังสือเล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่มีอายุถึง 70 ปีแล้ว โดยตีพิมพ์เมื่อปี 2479 และขายดีมากขนาดที่คนแต่งเองยังซื้อจากหน้าร้านได้แค่สองเล่ม นี่คือร้านให้สิทธิพิเศษในฐานะคนแต่งแล้วนะ เพราะความจริงร้านให้โควต้าซื้อได้แค่คนละเล่ม! (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shoes series ได้ ที่นี่)

รองเท้าบัลเลต์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสามพี่น้อง พอลลีน เพโทรวาและโพซี ซึ่งไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันเลย ต่างก็เป็นเด็กที่ ‘กัม’ (G.U.M. – Great-Uncle Matthew) ไปเจอเข้าระหว่างออกเดินทางหาฟอสซิล แล้วนำกลับมาให้หลานสาวชื่อ โซเฟีย กับพยาบาลพี่เลี้ยง นาน่า ก่อนจะออกเดินทางครั้งใหม่ เด็กทั้งสามจึงใช้นามสกุลฟอสซิลที่ตั้งขึ้นเอง และปฏิญาณไว้ว่าจะทำให้ชื่อฟอสซิลนี้ได้อยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ ไม่ให้ใครพูดได้ว่าพวกเธอเดินตามรอยปู่

เมื่อกัมเดินทางหายไปหลายปี โดยไม่ส่งข่าวหรือเงินกลับมา การเงินในบ้านเริ่มฝืดเคือง โซเฟียและนาน่าจำต้องเปิดบ้านให้คนเช่า และส่งเด็ก ๆ ไปโรงเรียนสอนการแสดง เพื่อที่เมื่ออายุครบกำหนด พวกเด็ก ๆ จะได้หารายได้จากการแสดง โชคดีที่เด็กสองในสามชอบการแสดงและเต้นรำเป็นทุนอยู่แล้ว จึงไม่ลำบากใจกับการฝึกฝนเป็นนักแสดงนี้ และโชคดีซ้ำสองที่ผู้เช่าบ้านทุกคนสามารถสนับสนุนพวกเด็ก ๆ ในด้านการศึกษาและคำแนะนำเรื่องอื่นได้ด้วย

หนังสือเล่มนี้อาจเริ่มเรื่องด้วยโทนอบอุ่นน่ารัก ละม้ายคล้ายบรรยากาศในหนังสือของเอนิด ไบลตันที่ผู้ใหญ่ทุกคนปกป้องและโอ๋เด็ก แต่ยิ่งเด็กเริ่มโต เรื่องก็ยิ่งจริงจัง มีเรื่องการศึกษา เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เข้ามาให้คิด รวมถึงความชอบ ความฝัน การแข่งขันในหมู่เพื่อน ...และจุดที่ชอบมากคือ เรื่องนี้เขียนให้เด็กโตแล้วมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้จักขวนขวาย กล้าเลือก กล้าเสี่ยงและค้านผู้ใหญ่ (อย่างมีเหตุผล--แม้จะเป็นเหตุผลจากคนละมุมมองกัน) แล้วผู้ใหญ่ก็รับฟังในที่สุด

ตัวละครสามพี่น้องในเรื่องมีเสน่ห์ไปคนละแบบ
พอลลีน สวยแบบตุ๊กตาอังกฤษ ตาสีฟ้า ผิวอมชมพู ผมบลอนด์เป็นหลอด นิสัยรักการแสดง เธอเป็นคนแรกที่อายุครบจะหางานแสดง เลยมีบทบาทในเรื่องมากกว่าพี่น้องคนอื่น
เพโทรวา ผมดำเงางาม โครงหน้าแบบรัสเซีย ชื่นชอบเครื่องยนต์เป็นชีวิตจิตใจ
โพซี ผมสีแดงสะดุดตา รักการเต้นบัลเลต์และทำให้คนหัวเราะกับการแสดงเลียนแบบได้เสมอ
ทั้งสามคนเป็นตัวละครแบบที่คนอ่านจะเอาใจช่วยหรืออยากสวมบทบาทได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเมื่อสามคนนี้มีเป้าหมายร่วมกันคือหาเงินมาจุนเจือครอบครัวด้วยการแสดง เวลาอ่านเลยลุ้นตลอดว่าใครจะได้งานดี ๆ เป็นคนต่อไป ใครจะได้แสดงความสามารถไหม ฯลฯ

ถึงจะแต่งมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว เล่มนี้ก็ยังอ่านติดหนึบค่ะ จขบ. อ่านรวดเดียวจบเลย เหตุผลแรกที่อ่านแล้ววางไม่ลงก็คือลุ้นเรื่องการแสดงของแต่ละคน เสียดายที่โพซีมีบทน้อยไปหน่อย เรื่องเกริ่นถึงความสามารถไว้เสียเลิศเลอ แต่ไม่ยักกะมีบทให้โชว์แฮะ วางเล่มนี้ลงด้วยความรู้สึก “อิ่มอารมณ์” ซึ่งแปลว่าเล่มนี้มีสาระดี

ความพิเศษของเรื่องนี้คือ “ความจำเป็น” (ครอบครัวไม่มีเงิน) กับ “ความฝัน” (เด็กชอบการแสดง) หลอมรวมเป็นเรื่องเดียวกัน เรื่องราวความสำเร็จของสามพี่น้องเลยเป็นทั้งการแก้ปัญหาหลักในเรื่องและการดึงดูดด้วยเรื่องหวือหวาพาฝัน ซึ่งในเล่มนี้ใช้ฉากเป็นโลกการแสดง เรื่องเลยยิ่งดึงดูดใจ เพราะคนสมัยไหนก็ชอบอ่านเรื่องประเภท “เส้นทางสู่ถนนสายดวงดาว” (ที่จบแบบแฮปปี้) อยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จึงอ่านสนุกทุกยุคสมัย แถมยังมีคุณค่ามากขึ้นด้วย เพราะเป็นหนังสือเด็กที่ realistic ดี นั่นคือแฝงคติปลูกฝังให้เด็กเตรียมตัวเป็นผู้ใหญ่ (พูดง่าย ๆ คือ รู้จักทำมาหากิน) พร้อมกับให้อ่านสนุก

แนะนำทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ชอบหนังสือเด็กค่ะ



Create Date : 20 มกราคม 2551
Last Update : 20 มกราคม 2551 6:10:11 น. 18 comments
Counter : 2167 Pageviews.

 
ผุ้ใหญ่หัวใจเด็กอยากอ่านค๊า


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:6:22:09 น.  

 
ตกลงมันไม่เศร้าเหรอ อ่านหลังปกแล้วรู้สึกว่ามันจะเศร้าอ่ะ เลยไม่ได้สนใจ


โดย: the grinning cheshire cat วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:11:45:40 น.  

 
เพิ่งซื้อมาให้แฟนอ่าน เมื่อเช้าวันนี้นี่เองครับ หลังจากแฟนตะลุยอ่านสปาร์กส์จบสิบเล่มแล้ว

หวังว่าแฟนจะชอบเหมือนกันครับ


โดย: Zhivago วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:13:00:15 น.  

 
นึกถึงวรรณกรรมรุ่น 4 ดรุณีเลยค่ะ


โดย: แก้วกังไส วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:13:40:48 น.  

 
เพิ่งเคยเห็นเล่มแปลไทยแฮะ สงสัยต้องหาซื้อมาเก็บ + ชวนหลาน ๆ อ่านเสียแล้ว รู้สึกว่าชุดนี้จะมีความร่วมสมัยมากกว่า 4 ดรุณีนะคะ

แต่เคยอ่านเมื่อหลาย ๆ ปีมาแล้วค่ะ แทบจะจำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว ดีที่จขบ.เอามารีวิว...


โดย: แม่ไก่ วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:16:31:26 น.  

 
อ๊าเรื่องนี้เคยอ่านๆ
คุณงามพรรณแปลลงนิตยสาร "เพื่อนใหม่" ตอนเด็กๆ
เดี๋ยวต้องไปตามหาเสียหน่อย


โดย: ทินา IP: 58.64.49.32 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:23:35:27 น.  

 
น่าอ่านมากค่ะ จดชื่อๆ ต้องซื้อแน่นอน ^^


โดย: piccy IP: 210.246.146.37 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:0:13:01 น.  

 
คุณนางน่อยน้อย -

LMJ - ไม่เศร้านะ เป็นวรรณกรรมเด็กใฝ่ดี ประเภทแนะนำให้เด็กอ่านเลย

คุณ Zhivago - หวังว่าแฟนคุณจะชอบเล่มนี้นะคะ ต่อให้มันไม่ใช่เรื่องรักแบบสปาร์คส์ก็ตาม

คุณแก้วกังไส - แนวก็คล้ายกันด้วยค่ะ

คุณแม่ไก่ - จขบ. ก็คิดว่าเล่มนี้ร่วมสมัยกว่าสี่ดรุณีค่ะ
(แหะแหะ ได้อ่านเรื่องอื่นในชุดด้วยเปล่าคะ?)

น้องทินา - เหอ เคยแปลลงนิตยสารไว้ด้วยเหรอ?
เห็นพูดถึงในหน้าคำนำ นึกว่าแปลเก็บไว้ดูเองซะอีก

คุณ piccy - เล่มนี้แนะนำค่ะ



โดย: ยาคูลท์ วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:0:26:36 น.  

 
ตามลิ้งค์ไปอ่านตอนต่อของเล่มนี้ น่าสนใจนะ ชอบให้ตัวละครมีพัฒนาการจากเด็กเป็นผู้ใหญ่


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:14:50:29 น.  

 
ไปยืนลูบๆคลำๆที่ร้านหนังสือมาเหมือนกันค่ะ
แต่ยังไม่ได้ซื้อเลย


โดย: BoOKend วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:15:06:14 น.  

 
น่าสนใจมากๆค่ะ จดๆไว้ก่อน แต่ไม่รู้จะได้อ่านรึเปล่า กองดองเต็มเลย


โดย: หมูย้อมสี IP: 117.47.212.50 วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:19:31:57 น.  

 
หยิบเล่มนี้สองทีแล้ว ลังเล
คราวหน้าต้องซื้อแน่ค่ะ
^ ^


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:13:57:37 น.  

 
เห็นชื่อหนังสือแล้ว คิดไว้ว่าต้องใช่เรื่องเดียวกับใน you've got mail อ่ะครับ ^^ บ้านเราจะแปลครบทุกรองเท้าไหมหนอ หนังสือแปลที่กระแสไม่ดังมาก เขาก็ไม่ค่อยเอามาพิมพ์กันเนอะ อย่างนาร์เนียนี่ถ้าไม่มีหนังมา ท่าทางก็เงียบ ๆ อยู่


โดย: กมลภัทร IP: 124.121.36.173 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:00:47 น.  

 

ตามลิ้งค์ไปอ่านตอนต่อของเล่มนี้ น่าสนใจนะ ชอบให้ตัวละครมีพัฒนาการจากเด็กเป็นผู้ใหญ่





โดย: ;bh IP: 58.8.236.116 วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:10:21:39 น.  

 
ก็น่าอ่านดีนะ

จะซื้อมาอ่านแล้วกัน


โดย: ลาวีญ IP: 117.47.140.170 วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:17:50:11 น.  

 
เพิ่งอ่านเรื่องนี้จบค่ะ
คิดทุกอย่างเหมือนเจ้าของบล๊อกเลยค่ะ
เห็นหนังสือเรื่องนี้ปุ๊ป สิ่งแรกที่คิดคือ
คิดถึงฉากแม็ก ไรอัน นั่งเศร้าสะกดคำว่า
S-t-r-e-a-t-f-e-i-l-d
อ่านแล้ว unputdownable จริงๆค่ะ
พอมาเป็นหนัง แม้จะสื่อสารทุกอย่างออกมาไม่ได้ทั้งหมด
แต่ก็พอให้คนอ่านชุ่มชื่นหัวใจก้บการเลือกตัวแสดงแทน
ลุ้นไปว่า ใครจะแสดงเป็นใครในเรื่อง

สรุปว่า ชอบหนังสือมากค่ะ


โดย: กิ้ม IP: 124.157.235.104 วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:16:28:30 น.  

 
มันมีแบบแปลไทยมั้ยคะ ไม่ค่อยเก่งอังกฤษ กลัวอ่านไม่รู้เรื่องอ่ะคะ


โดย: มิ้น IP: 223.205.124.224 วันที่: 16 มิถุนายน 2555 เวลา:10:25:20 น.  

 
ลองหยิบมาอ่านแล้วค่ะ อยากบอกไม่ผิดหวังเลยท่หยิบมาอ่าน เป็นหนังสือที่แปลออกมาได้น่ารักมาก เชื่อค่ะว่าใครหลายคนเมื่อได้หยับมันมาอ่านแล้ว คุณจะต้องอยากหยิบมันขึ้นมาอ่านอีกรอบแน่นอน


โดย: พาลอยพลอย IP: 124.121.159.10 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:27:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.