ผู้แต่ง: ปีเตอร์ เอเบรอแฮมส์ / ผู้แปล: นฤมล อิงค์ปัญญา
สำนักพิมพ์: แพรวเยาวชน
พิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์ 2552
ราคา 235 บาท

อิงกริด เลวิน-ฮิลล์ วัยสิบสามปี ดันเข้ามาอยู่ผิดที่ผิดเวลา หรืออย่างน้อยถ้าไม่ใช่ตัวเธอ ก็คงเป็นรองเท้าสตั๊ดคู่โปรดของเธอนั่นแหละ แล้วการจะกลับไปเอารองเท้าคืนมาก็หมายถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม แบบเดียวกับคดีของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ ยอดนักสืบในนิยายที่เธอยึดถือเป็นแบบอย่างน่ะ ทั้งที่อิงกริดก็มีทุกอย่างที่เธอต้องการในชีวิต ไหนจะกีฬาฟุตบอลที่เธอรัก ชายหนุ่มที่เธอ...เอ่อ รู้สึกดีด้วย แถมเธอยังได้รับบทนำในละครเวทีเรื่อง อลิซในแดนมหัศจรรย์ อีก อลิซเชียวนะ! บทในฝันของเธอเลยล่ะ

แต่ก็เช่นเดียวกับอลิซที่ตกลงไปในโพรงกระต่ายนั่นแหละ เรื่องราวความลับทั้งหลายเกี่ยวกับเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบแห่งนี้ที่เธอได้ยินได้ฟังมาก็ยิ่งกระตุ้นความอยากรู้ของเธอมากขึ้นๆ ซ้ำร้าย ผู้กำกับละครคนโปรดของเธอก็ดันเกิดอุบัติเหตุบนเวที (แต่มันเป็นอุบัติเหตุแน่หรือ) จนต้องเปลี่ยนตัวผู้กำกับกะทันหัน แถมสารวัตรตำรวจ (ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ก็พ่อของชายหนุ่มที่...เอ่อ เธอรู้สึกดีด้วยนั่นแหละ) ยังทำท่าเหมือนจะระแคะระคายอะไรบางอย่าง ก็เขาเล่นตามจิกเธอไม่เลิกด้วยคำถามสารพัดตั้งแต่เรื่องใส่หมวกกันน็อครถจักรยานไปจนถึงว่าเธอใส่รองเท้าสตั๊ดสีอะไร! เฮ้อ ตอนนี้น่ะเมืองเล็กๆที่เงียบสงบของเธอได้กลายเป็นฝันร้ายไปแล้ว

และอิงกริดก็อยากจะตื่นจากฝันร้ายนี้เสียที

* * * * * * * * *

เล่มนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนแนวสืบสวนค่ะ

ทุกอย่างเกี่ยวกับ อิงกริด เป็นเรื่องธรรมดาไม่โดดเด่น เช่น เธอเป็นเด็กสาววัยรุ่นปกติที่หลงไหลนิยายนักสืบเชอร์ล็อกโฮล์มส์ เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางที่มีอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อแม่ ลูกชายและลูกสาว ทั้งหมดอาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ชื่อ เอ็คโคฟอลส์ ...เมืองที่เคยปลอดภัยไร้อาชญากรรม จนถึงวันหนึ่งที่อิงกริดเผอิญหลงทาง เลยต้องแวะบ้าน 'ยายบ้าเคที' เพื่อเรียกแท็กซี่ แล้ววันรุ่งขึ้น ยายบ้าเคทีก็กลายเป็นเหยื่อฆาตกรรม!

อิงกริดเกิดนึกได้ว่าเธอลืมรองเท้ากีฬาที่มีป้ายชื่อติดไว้ที่บ้านเคที เลยคิดว่าจะแอบไปเอาคืนมาเอง ไม่น่าจะเป็นไร (อลิซก็คงคิดแบบนี้ตอนตัดสินใจตามกระต่ายเข้าไปในโพรง) แต่มันกลับชักนำให้เธอเข้าไปพัวพันกับคดีนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

จขบ. คิดว่าเล่มนี้เป็นแนวสืบสวนเด็กที่น่าติดตามอย่างที่ไม่เจอมานานแล้วค่ะ (ออกตัวก่อนว่าไม่ได้อ่านแนวนี้เยอะหรอกนะ) อย่างแรกเพราะคนแต่งเปิดเรื่องได้ดึงดูดใจ แค่สองสามฉากแรก อิงกริดก็เกือบได้จ๊ะกับฆาตกรและมีศพโผล่มาให้คนอ่านเริ่มหาคนร้ายแล้ว

หลังจากนั้น เนื้อเรื่องไม่ได้โฟกัสที่การสืบสวน แต่เขียนถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันของอิงกริด เช่น การเรียน การแข่งฟุตบอล หนุ่มที่เริ่มแสดงท่าทีแปลกไประยะหลัง เพื่อน ครอบครัว การแสดงละครเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ ฯลฯ ... ตรงจุดนี้ช่วยให้คนอ่านเริ่มรู้จักและเอาใจช่วยตัวละครอิงกริดมากขึ้น แถมเบาะแสของคดีก็ซ่อนอยู่ในเรื่องราวพวกนี้แหละ จขบ. อ่านไปก็เก็บข้อมูลหาคนร้ายไปด้วย สนุกดี

ตัวละครหลักน่าเอาใจช่วยดีค่ะ จขบ. ชอบที่อิงกริดไม่ได้สนใจจะไขคดีเลยสักนิด เธอก็เหมือนวัยรุ่นหรือคนทั่วไปแหละ ขี้เกียจยุ่งกับตำรวจให้มากความ แต่ดันมีดวงแบบวัตสันหรือผู้ช่วยนักสืบดังที่มักสะดุดเอาเบาะแสโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว เลยต้องรับบทนักสืบจนได้

นอกจากนี้ จุดที่สร้างเสน่ห์ให้เล่มนี้มากคือมีบางอย่างชวนให้นึกถึง "อลิซในดินแดนมหัศจรรย์" ละครที่อิงกริดรับบทตัวเอกด้วย เช่น การตัดสินใจแบบหุนหันของตัวเอกที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว..เอ่อ..มหัศจรรย์ในเวอร์ชั่นอลิซ เฉียดตายในเวอร์ชั่นอิงกริด ฮา มีตัวละครบางตัวที่แอบคิดว่าเหมือนในอลิซจัง ...มีกระทั่งแมวด้วยนะ (แม้จะไม่ถึงขนาดเปรียบเทียบกันได้เป๊ะ ๆ ก็ตาม)

เรื่องราวรอบตัวอิงกริดบรรยายได้เห็นภาพดี บางจุดหรือบางคนน่าจะมีการขยายรายละเอียดมากขึ้นในตอนหลัง (กำลังแอบหวังให้บางคนเป็นฆาตกรหรือตกเป็นเหยื่อในตอนอื่นนะเนี่ย ) ความสัมพันธ์ในครอบครัว กับเพื่อนหรือหนุ่ม โจอี้ ก็น่าติดตามว่าจะพัฒนาต่อไปยังไง

ถ้าจะตินิดเดียว ก็คือทายคนร้ายได้ง่าย และอิงกริดซื่อบื้อมากในตอนไคลแมกซ์ จขบ. เดาคนร้ายได้แล้วนะ (แม้จะเป็นการเดากึ่งนึงก็ตาม) แต่ยัยนักสืบนี่ดันไม่รู้ ... เสียชื่อสาวกเชอร์ล็อกโฮล์มส์หมด ชิ

โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นเล่มที่อ่านสนุก เหมาะจะอ่านแบบเก็บข้อมูลเล่นบทนักสืบไปด้วย และตัวละคร/เนื้อเรื่องก็น่าสนใจดีค่ะ จขบ. อ่านเล่มแรกแล้วติดลมอยากอ่านต่อ ชะเง้อหาเล่ม 2 ทันทีเลย

Create Date : 22 มีนาคม 2552
Last Update : 23 มีนาคม 2552 19:16:09 น.		9 comments
Counter : 998 Pageviews.
Share Tweet