|
เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา .. เหมือนสายฝน
เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา
เหมือนสายฝน
เพทาย
วันนี้ฉันออกเวรเช้า ลงมาจากตึกที่ฉันปฏิบัติงานอยู่ แม้จะมีความอ่อนเพลียเต็มทีแต่ก็มิได้รีบเร่งที่จะเดินกลับไปยังที่พัก เดินทอดน่องเอื่อยไปเรื่อย เป็นเวลาที่เย็นมากพอสมควร ผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ในตอนกลางวันนั้น ตอนนี้ก็บางตาเต็มที หรือแทบจะไม่มีใครเดินสวนทาง เมื่อเดินผ่านมาตามทางเดินที่ทอดเชื่อม ระหว่างตึกหนึ่งไปยังอีกตึกหนึ่ง ของโรงพยาบาลศูนย์ ในจังหวัดใหญ่ที่ฉันทำงานอยู่ ตามข้างทางก็จะมีม้านั่งตัวยาว ให้ญาติผู้ป่วยหรือผู้มาใช้บริการได้นั่ง ตั้งอยู่เป็นระยะ ๆ
พอเดินมาใกล้ม้ายาวตัวแรก ตาของฉันก็เหลือบมองไปพบชายชราผู้หนึ่งดูท่าทางทรุดโทรม ทั้งสังขารและเครื่องแต่งกาย นั่งอยู่อย่างเซื่องซึม ข้างตัวแกมีสัมภาระรุงรัง ในจำนวนสัมภาระนั้นก็มีผ้าขาวม้าสีคร่ำคร่า ห่อของวางอยู่เช่นกัน ก็ไม่ผิดอะไรกับเสื้อกางเกงที่แกสวมใส่ ซึ่งฉันก็มิได้สนใจอะไร ยังคงเดินผ่านแกไป แต่ยังไม่ทันจะผ่านพ้นตัวแก ก็ได้ยินเสียงแกร้องเรียกเบา ๆ พร้อมกับยกมือขึ้นพนมไหว้ แบบชาวบ้านทั่วไป
คุณหมอครับ
เสียงนั้นทำให้ฉันต้องหยุดชงัก
มีอะไรหรือจ๊ะลุง
เราได้รับการอบรมมาให้ช่วยเหลือ แนะนำคนไข้ในทุกกรณี
คุณหมอครับ กรุณาผมด้วยเถิดครับ
แกพูดทั้ง ๆ ที่ยังพนมมืออยู่เช่นเดิม จนฉันรู้สึกกระดากใจขึ้นมาทันที ผู้ใหญ่รุ่นปู่รุ่นตา แล้วยังมาพนมมือไหว้ฉัน ซึ่งเป็นเด็กรุ่นหลานเหลนแล้วก็ว่าได้
ลุงอย่าไหว้ฉันเลยจ้ะ ลุงมีอะไรก็บอกมาเลยจ้ะ
ลุงแกก็เอามือลงอย่างว่าง่าย
ผมจะกลับบ้านแต่ไม่มีค่ารถ แล้วก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย
ใจฉันไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธและเดินเลยไปได้ จึงซักถามต่อไปจนได้ความว่า แกเป็นคนเพชรบุรี มาป่วยรักษาตัวอยู่ที่นี่ และวันนี้หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว แต่แกไม่มีเงินติดตัวเลย เพราะไม่มีญาติ ไม่รู้ว่าจะกลับไปได้อย่างไร แกเล่าพร้อมควักบัตรประจำตัวคนไข้ และถุงยาที่หมอสั่งให้ไปกินที่บ้าน ออกมาให้ดูเพื่อเป็นการยืนยัน ทำให้ฉันต้องคิดอยู่ชั่วอึดใจ ด้วยท่าทางที่น่าสงสารของแก ทำให้ฉันตัดสินใจ ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงปลายเดือนเต็มทีแล้ว
เมื่อออกปากชวนแก ให้ไปกินข้าวที่โรงอาหารของโรงพยาบาล แกก็หอบหิ้วสัมภาระของแกตามไปแต่โดยดีไม่อิดออด ระหว่างที่แกกินข้าวราดแกงอยู่นั้น ก็คิดคำนวณว่าแกจะต้องใช้ค่ารถสักเท่าไร เพราะตัวฉันเองไม่เคยไปจังหวัดเพชรบุรีเลย จะไปก็แต่กรุงเทพมหานคร แต่ระยะทางมันช่างไกลกันเป็นเท่าตัว แล้วยังคนละทิศละทางอีกต่างหาก
จนแกกินข้าวจานที่สองหมดไปแล้ว แกก็ยกมือไหว้ให้ศีลให้พร ตามธรรมเนียมของผู้เฒ่าผู้แก่ฉันตัดสินใจส่งเงินให้แกเป็นสองร้อยบาท แกรับไปด้วยมือที่สั่นเทา และให้พรอีกยืดยาว จึงบอกกับแกให้รีบกลับ เดี๋ยวจะมืดค่ำไปใหญ่ แล้วแกจึงลาจากไป
ฉั นเดินกลับมาถึงหอพักด้วยความอิ่มใจ ที่ได้ทำบุญแก่ผู้ยากไร้ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก คืนนั้นจึงนอนหลับสบาย เอิบอิ่มไปด้วยความภูมิใจ
เมื่อตื่นขึ้นก่อนฟ้าจะสว่าง เพื่อไปรับเวรแต่เช้ามืดเนื่องจากไปรับปากเพื่อนร่วมงานไว้ ว่าจะขึ้นเวรเร็วหน่อยก่อนเวลา เพื่อให้เขาลงเวรเร็วเพราะเขามีธุระ จิตใจฉันก็แจ่มใสเป็นสุข หลังจากอาบน้ำแต่งเครื่องแบบแล้ว ก็ออกจากหอพักไปยังตึกที่ทำงาน
อากาศตอนรุ่งอรุณกำลังเย็นสบาย มีลมพัดเอื่อย ๆ มาเป็นระยะ ๆ เพราะใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว ทำให้ฉันซุกมือทั้งสองเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงทั้งสองข้าง เดินทอดน่องไปอย่างไม่เร่งรีบ ขณะที่เดินผ่านเส้นทางเดิมซึ่งมีแสงไฟส่องเพียงสลัว ๆ ก็เห็นว่าที่ม้ายาวข้างทางเดินนั้น มีร่างของใครคนหนึ่งนอนขดอยู่ แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าคงเป็นญาติคนไข้ที่มาเฝ้าไข้ แล้วหนีออกมานอนข้างนอก ตอนที่พยาบาลกำลังปฏิบัติงานตอนเช้ามืดของเวรดึก
เมื่อเดินผ่าน จึงจำห่อผ้าขาวม้ากระดำกระด่างห่อนั้นได้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชายชรา คนที่ฉันทำบุญไปเมื่อเย็นวานนี้เอง ทำให้ฉันชะงักเท้าหยุดลงพินิจพิจารณาร่างอันขมุกขมอม เสื้อผ้าชุดเก่าที่เห็นเมื่อวาน อดที่จะคิดไม่ได้ว่าฉันทำผิดพลาดไปหรือเปล่า หรือว่าเงินที่ให้ไปนั้นยังไม่พอกับค่ารถ แกจึงยังไม่กลับไปบ้าน หรือว่าแกมีอาการเจ็บป่วยมากจนไปไม่ได้ และจะรอตรวจเช้านี้ หรือว่าแกจะรอให้เช้าก่อนค่อยกลับบ้าน หรือ
ขณะที่ฉันกำลังคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ยังไม่ทันจะสิ้นกระแสความ ร่างนั้นก็ขยับเขยื้อน แล้วก็ลุกขึ้นนั่งไม่เงยหน้าขึ้นมามอง แกพนมมือไหว้ อย่างที่แกเคยไหว้ฉันมาแล้ว ลุงแกคงจำเราได้ฉันคิดอยู่ในใจ แล้วแกก็เปล่งเสียงอันแหบแห้งออกมาเบา ๆ
คุณหมอครับ กรุณาเถอะครับ ผม
.
เสียงนั้นทำให้ฉันสาวเท้าก้าวเดินต่อไปข้างหน้า โดยไม่รอฟังให้จบประโยค เพราะมือที่กำประเป๋าตังค์อยู่ในกระโปรงนั้น บอกว่าถ้าขืนชักช้า อาจจะมีเงินเหลือไม่ถึงสิ้นเดือน อย่างแน่นอน.
* * * * * * * *
ผมวางนิตยสารขนาดพ็อคเก็ตบุ๊คส์ ฉบับที่ลงพิมพ์เรื่องสั้น ชื่อ อันความกรุณาปราณี ซึ่งได้หยิบมาอ่านซ้ำหลายครั้ง จนแทบจะจำข้อความได้ทุกวรรคนั้น ลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ เรื่องนั้นเป็นเรื่องจากประสบการณ์ของพยาบาลคนหนึ่ง เมื่อหยิบมาอ่านทุกครั้ง ทำนองเพลงประจำสถาบันแห่งหนึ่ง ก็มักจะแว่วเข้ามาในโสตประสาทของผม
อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุลาลัยสู่แดนดิน
ผมปล่อยความคิดคำนึงให้ล่องลอยไปยังอดีตที่ไม่ไกลนัก ผู้เขียนเรื่องนี้เป็นสาวน้อยอายุเพียงยี่สิบเศษ ๆ เธอเป็นคนชอบอ่านและใฝ่ฝันที่จะเป็นนักเขียน เรื่องสั้นนี้เป็นเรื่องแรกของเธอ ถูกส่งมาให้ผมแก้ไขตรวจทาน ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้เป็นบรรณาธิการหรือผู้ช่วยบรรณาธิการ นิตยสารฉบับใดทั้งสิ้น นอกจากจะเป็นนักเขียนเล็ก ๆ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จ ได้พิมพ์หนังสือเล่มแรกออกวางตลาดเมื่อไม่นานมานี้เอง
ผมพยายาม นึกถึงใบหน้าของเธอ แต่ก็นึกไม่ออก จำได้แต่เพียงว่าเธอมีจมูกโด่งคมสัน ราวกับดาราลูกครึ่งในละครโทรทัศน์ เราพบกันหรือที่ถูกเธอพบผมเป็นครั้งแรก ที่บ้านญาติของเพื่อนผม ในงานอะไรก็จำไม่ได้ ที่มีผู้คนมากมายจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ผมได้ทราบว่าเธอเป็นหลานของใครคนหนึ่งที่มาในงานนั้น โดยที่เราไม่ได้พูดกันเลยแม้แต่ประโยคเดียว
ต่อมาจึงได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง ในงานวันเกิดของเพื่อนคนหนึ่งของเพื่อนผม เธอฟังผมคุยถึงเรื่องความสำเร็จในงานเขียนของผม และสนใจในหนังสือที่ผมจัดทำขึ้น เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดแก่เพื่อนคนนั้น เราจึงได้คุยกันเป็นครั้งแรก และเธอออกปากอยากจะได้หนังสือเล่มนั้นไปอ่านบ้าง เพื่อศึกษาการเขียนเรื่องสั้นแบบที่ผมถนัด ซึ่งมีอยู่หลายเรื่องในหนังสือที่ระลึกวันเกิดนั้น
ผมจึงส่งไปให้เธอทางไปรษณีย์ ถึงที่ทำงานของเธอในวันหลัง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร เธออ่านแล้วก็มีหนังสือตอบขอบคุณ และแสดงความชื่นชมในเรื่องต่าง ๆ ที่ผมเขียน กับขอคำแนะนำในการเขียนเรื่องสั้นแบบนั้นบ้าง
ผมจึงได้แนะให้นำเอาประสบการณ์ในการทำงาน หรือพฤติกรรมที่ได้พบเห็น จากคนไข้ พยาบาล หรือแพทย์ ซึ่งน่าจะมีมากมายหลายแบบ ทั้งสุข เศร้า รันทด น่าเวทนา หรือแม้แต่ขำขัน มาเป็นข้อมูลในการเขียน ซึ่งเธอก็ได้ทดลองเขียนมาให้ผมตรวจแก้ แล้วผมก็บอกชื่อนิตยสารที่สมควรจะส่งไปให้พิจารณา เพราะเป็นนิตยสารที่เปิดกว้างสำหรับเรื่องของนักเขียน มือใหม่ เพียงแต่ว่ามีผู้ส่งไปมากมายจนต้องรอนานเป็นเวลาหลายเดือน หรือร่วมปี กว่าจะได้รับการพิจารณาลงพิมพ์ หรือทิ้งตะกร้า
ผมเตือนให้เธอใช้ความมานะพากเพียรพยายามในการเขียน และความอดทนในการรอคอยให้มาก ผมคาดหมายว่าวันหนึ่งเธอจะพบความสำเร็จสมหวังตั้งใจ แม้ว่าผมจะไม่มีโอกาสได้แสดงความยินดีกับเธอด้วยตนเองก็ตาม
เพราะผมไม่ได้ติดต่อกับเธออีกเลย ตั้งแต่ส่งต้นฉบับเรื่อง อันความกรุณาปราณี คืนไปให้เธอแล้ว เธออาจจะน้อยอกน้อยใจหรือเสียใจ ที่ผมหายเงียบไปไม่ตอบจดหมายของเธอตามประสาคนช่างคิดช่างฝัน แต่นั่นก็ถือได้ว่าเป็นบทเรียนบทแรก ในการรอคอยแล้วก็พบกับความผิดหวัง ที่นักเขียนมือใหม่แทบทุกคนจะต้องได้พบ บางคนต้องพบอยู่เป็นประจำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะประสบความสำเร็จ หรือบางคนก็ท้อแท้เลิกราวางมือไปเลย
ถึงอย่างไรผมก็ได้ช่วยต่อเติมความใฝ่ฝันของเธอ ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่าง ราง ๆ แล้ว ถ้าเธอมีความมานะอดทนต่อไป ก็คงจะเป็นรูปที่สมบูรณ์ได้ในวันหนึ่ง โดยไม่ต้องมีคำแนะนำจากผมก็ได้
แต่เรื่องไม่ได้ยุติลงเพียงแค่นั้น เรื่องสั้นของเธอที่ส่งไปให้นิตยสารชื่อดัง ตามที่ผมแนะนำนั้น ได้ลงพิมพ์ห่างจากวันที่เธอส่งไป เพียงเดือนเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่ผมซึ่งเขียนส่งไปเป็นประจำ ยังได้ลงบ้างหายเงียบบ้าง และเรื่องที่ได้ลงก็มักจะห่างจากวันที่ส่งเป็นเวลาหลาย ๆ เดือน เธอรีบเขียนมาขอบคุณผมอย่างมากมาย ซึ่งผมก็ได้แสดงความยินดีด้วย จากใจจริง แล้วก็ให้กำลังใจแก่เธอ ที่จะทำงานที่เธอรักนี้ต่อไปได้ดีขึ้น
จากนั้นเธอก็ยังคงเขียนจดหมายมาคุยอีกหลายครั้ง เธอเล่าถึงความเพ้อฝันในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งความว้าเหว่ ความเศร้า ความรัก และความผิดหวังของเธอ ซึ่งผมก็ไม่ได้ตอบไปเลย เธอจึงต่อว่าที่ผมเงียบหายไปเฉย ๆ และอยากจะได้พบผมอีกสักครั้ง แต่ผมก็ต้องทำเฉยเสีย ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้ง ๆ ที่ความรู้สึกของเธอที่มีต่อผมนั้น เหมือนสายฝนที่โปรยความชุ่มชื่นให้แก่จิตใจของผม อย่างที่ไม่เคยได้เป็นเช่นนั้นมานานหนักหนาแล้ว
เธอคงจะเอือมระอากับความนิ่งเงียบ ของผมเต็มที จดหมายของเธอจึงห่างลงและในที่สุดก็หายไป รวมทั้งไม่มีต้นฉบับเรื่องสั้นของเธอ มาให้ผมช่วยตรวจแก้อีกเลย จนเวลาได้ล่วงเลยไปกว่าครึ่งปี ผมจึงได้รับการติดต่อจากเธออีกครั้ง เมื่อบ่ายนี้เอง
ผมไม่จำเป็นต้องเดา หรือตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้รับอย่างไม่คาดฝัน เพราะภายในซอง สีนวลและมีกลิ่นหอมนั้น ก็คือบัตรเชิญเพื่อเป็นเกียรติในงานแต่งงาน ระหว่างเธอ กับนายทหาร สังกัดหน่วยที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันนั้นเอง
ผมยังไม่ได้อ่านรายละเอียด ว่างานนั้นกำหนดจัดขึ้นเมื่อใด และที่ไหน เพราะมัวแต่ปล่อยความคิดคำนึง ให้ล่องลอยไปกับความหลังอันแสนสั้น ที่ได้ผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็พอดีได้ยินเสียงเด็กชายคนหนึ่ง ร้องตะโกนเข้ามาจากหลังบ้าน ด้วยเสียงอันดัง
คุณปู่ครับ
คุณปู่คร้าบ คุณย่าให้มาทานข้าวได้แล้วครับ
ผมจึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝัน และสำนึกในความจริงของปัจจุบันว่า ผมคงจะไม่มีโอกาสได้ไปงานมงคลสมรสของเธอเป็นแน่ เพราะลูกหลานของผมเขาจะจัดงานวันเกิด ครบรอบเจ็ดสิบปีให้ ในสัปดาห์หน้านี้เอง.
###########
วารสารข่าวทหารอากาศ มีนาคม ๒๕๔๘
โดย : เจียวต้าย วันที่: 27 กันยายน 2554 เวลา: 7:48:44 น.
Create Date : 27 กันยายน 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 27 กันยายน 2554 8:38:38 น. |
Counter : 624 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: tar (sirivinit ) 27 กันยายน 2554 8:52:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: tar (sirivinit ) 27 กันยายน 2554 8:56:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: tar (sirivinit ) 27 กันยายน 2554 10:38:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: nart (sirivinit ) 6 ตุลาคม 2554 13:32:30 น. |
|
|
|
|
|
|
/
2558
2556
2555
น้ำใจจากคุณ krittut 2554
2553
สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ
ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ
เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ
๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์
ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ
เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552
08.27 - 250811
207 flags collected 300316
|
|
|
|
|
|
|
|
อ่านกันแล้ว มีเสียงรำพึงรำพันออกมาว่า
555 เจะสิหนอเจะสิ...
สองร้อยบาท ไม่ถึงเพชรบุรีหรือไร
ทำไมชายชรา ต้องทำอย่างนั้น
ขอแสดงความยินดีกับวัยวัฒนา
ที่เลย เจะสิ...มาเกือบรอบแล้วครับ
คนบางคน ทำตามความฝัน
คนลางคน ฝันว่าอยากทำ
เมื่อทำได้แล้วก็พอใจ ไม่สานต่อก็มี
แถวๆ ผมนี่แหละครับ
ย่าฝากความรักระลึกถึง หนูต่าย น้องหนู ด้วยครับ
สวัสดีครับ