"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
21 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 
นิทานชาวสวน ชุด สงครามเอเซีย นิทานชาวสวน (๒)

สวนสวรรค์



นอกจากน้องชายและลูกชายของครอบครัวใหญ่ บ้านตรงข้ามกับบ้านผม ที่มาเป็นเพื่อนกับผมแล้ว เจ้าลอน้องครูแล่ม ซอย ๕ ก็เป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง เขาแก่กว่าผมประมาณสองปี ดูเหมือนจะอายุเท่า อารีย์ เขาจะเป็นผู้นำของผมไปหาที่เล่นให้แปลกออกไป เช่นการกระโดดน้ำคลองที่เรียกว่าคลองท่อ

ซึ่งเริ่มต้นจากท่าวาสุกรีข้างวัดราชาธิวาส ลอดถนนสามเสนเข้าไปในสวนสุนันทา เลี้ยวลดคดเคี้ยวอยู่ในนั้นพักหนึ่ง ก็ออกมาทางด้านที่เป็นโรงเรียนการเรือน และขยายขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตในปัจจุบัน

มาทะลุออกที่ถนนนครราชสีมา ที่ตัดผ่ากลางพระราชวังดุสิตไปจนถึงถนนประชาธิปไตย ที่ยาวไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่ถนนราชดำเนินกลาง

ตรงที่โผล่ออกมาลอดถนนนครราชสีมานี้ เขาทำเป็นอุโมงค์ใหญ่แบบเปิด และอยู่นอกรั้วโรงเรียนการเรือนด้านหนึ่ง กับรั้วของสวนพุดตาน ซึ่งเป็นที่ตั้งพระที่นั่งวิมานเมฆ และพระที่นั่งอภิเษกดุสิต จนถึงปัจจุบัน จากราวสะพานซึ่งสูงจากพื้นน้ำไม่กี่เมตร เราก็โดดกันสนุกสนาน

ที่สำคัญคือเขื่อนสองข้างคลองก่อนถึงสะพาน เก่าชราชำรุดผุฟัง เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำที่ใคร ๆ ก็รู้จักกันทุกบ้าน คือกุ้งนาง และกุ้งก้ามกราม คงจะไม่ต้องสาบานใน พ.ศ.นี้ ว่ามีอยู่จริง ๆ

เจ้าลอ เพื่อนอาวุโสของผมนี่แหละ เป็นนักจับกุ้งมือเซียนของสวนอ้อยก็ว่าได้ เมื่อเขาดำน้ำลงไปทุกครั้งที่โผล่ขึ้นมา จะต้องมีกุ้งติดมือมาด้วยทุกครั้ง บางทีก็มือละตัวด้วยซ้ำ ผมซึ่งยังว่ายน้ำไม่เป็นก็คอยเก็บกุ้งอยู่บนฝั่ง เอาผ้าขาวม้าของเจ้าลอห่อไว้ เอาไปเผาแบ่งกันกินทีหลัง

ที่ผมว่ายน้ำไม่เป็นแล้วไปโดดน้ำกับเขาได้นั้น เพราะก้นคลองช่วงนั้นเป็นที่ตื้น ประมาณน้ำท่วมหัวเท่านั้น โดดตูมลงไปแล้วก็ทะลึ่งขึ้นมา โผไปเกาะเขื่อนได้สบาย ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด สมัยนั้นผู้คนในสวนอ้อยซึ่งมีไม่มากนัก ต่างก็พากันเดินไปอาบน้ำที่คลองท่อนี้เป็นส่วนใหญ่ ฝ่ายหญิงนุ่งผ้ากระโจมอก ถือขันใส่สบู่ซันไลท์ไปด้วย

เมื่ออาบเสร็จแล้ว ก็นุ่งผ้าถุงเปียกผืนนั้น กระโจมอกเดินกลับบ้าน ฝ่ายชายไม่ค่อยมีผู้ใหญ่ ก็ไม่นุ่งกางเกงให้เรียบร้อย มักนุ่งแต่ผ้าขาวม้า

ที่ทำเช่นนั้นได้ ก็เพราะทั้งถนนราชวิถี และถนนนครราชสีมานั้น นาน ๆ จึงจะมีรถผ่านสักคันหนึ่ง แค่ข้ามถนนนิดเดียวก็เข้าเขตสวนอ้อย ที่มีแต่ชาวบ้านกันเอง เดินไปตามซอยที่ใช้เดินเท้าอย่างเดียว เหมือนบ้านสวนฝั่งธนบุรีเท่านั้น

ส่วนเด็กนั้นไม่ต้องพูดถึง เด็กชายไม่เคยสนใจเครื่องแต่งกาย มีกางเกงขาด ๆ ปุปะตัวเดียวก็พอแล้ว เวลาลงน้ำก็ถอดกางเกงกองไว้ พอขึ้นจากน้ำก็นุ่งกางเกงไปไหนต่อไหนได้สบาย แถมบางคนไม่นุ่งอะไรเลยอีกด้วย ส่วนเด็กหญิงเขาก็ทำตามผู้ใหญ่ คือนุงผ้าถุงตัวเดียว แต่ไม่ต้องกระโจมอก เพราะไม่มีอะไรมากกว่าหัวนมนิดเดียว ไม่เหมือนสมัยนี้

นอกจากงมกุ้งแล้ว เจ้าลอยังเป็นผู้นำในเรื่องอื่น ๆ อีก เช่นการกระโดดน้ำจากราวสะพานดูจะง่ายไป ลองโดดจากบนกำแพงวัง ที่คล่อมคลองดูบ้าง คลองท่อนี้ลอดท่อจากใต้ถนนนครราชสีมา เข้าไปในสวนพุดตาน ผ่านข้าง ๆ พระที่นั่งวิมมานเมฆ ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครรู้จัก

เลี้ยวซ้ายไปลอดใต้กำแพงวังด้านถนนราชวิถี ลอดสะพานที่ข้ามถนนราชวิถี เข้าไปในกองพันทหารราบที่ ๓ เดิม ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ริมถนนพระรามที่ ๕ ไปบรรจบกับคลองสามเสนที่วัดแคสามเสน หรือวัดสวัสดิวารีสีมาราม

จากกำแพงของพระราชวังดุสิต ที่คล่อมคลองท่อ ตรงที่จะลอดถนนราชวิถีนี้แหละ ที่เป็นสนามทดสอบกำลังใจของเด็กสวนอ้อยในสมัยนั้น ว่าจะแน่แค่ไหน เพราะต้องไต่กำแพงขึ้นไปข้างบนสุดด้วยเท้าเปล่า โดยเหยียบปุ่มลายกำแพง และเอามือเหนี่ยวพาตัวขึ้นไปด้วยความลำบาก นั่งยอง ๆ พอหายเหนื่อยแล้วก็โดดตูมลงมาในน้ำ ซึ่งลึกกว่าทางด้านถนนนครราชสีมา แค่ความกว้างพอกัน

คนเก่งก็ใช้ท่าพุ่งหลาว ซึ่งคงจะมุดน้ำลงไปถึงพื้นดินก้นคลอง คนเก่งรองลงมาก็ใช้ท่าลูกมะพร้าว คืองอเข่าเอาสองมือประสานรัดไว้ใต้เข่า ให้ก้นต้านน้ำ จะได้ไม่จมไปลึกนัก คนที่ไม่เก่งเลยอย่างผม ก็เอามืออุดจมูกกลั้นใจ โดดลงมาตรง ๆ พร้อมกับหลับตาด้วย พอทะลึ่งขึ้นมาเหนือน้ำได้ ก็ตะกายเข้าหาขอบเขื่อนริมคลองอย่างเร็ว ก่อนที่จะจมลงไปอีก

เรื่องเล่นอย่างพิสดารนี้ยังมีอีก คือสมัยนั้นภายในสวนพุดตานเต็มไปด้วยต้นไม้หนาแน่น อยู่ทั่วไป เป็นไม้ผลต้นโต ๆ เช่นชมพู่ มะม่วง มะหวด และอะไรอีกหลายชนิดที่มีลูกกินได้ มันขึ้นอยู่ใกล้บ้านพัก หรือที่เรียกว่าตำหนัก ซึ่งรกร้างว่างเปล่าอยู่

เราเด็ก ๆ ก็เข้าไปวิ่งเล่นแล้วก็นอนพัก เพราะมีความร่มรื่นด้วยเงาไม้ แล้วก็เก็บผลไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขมพู่ ที่ไม่ต้องออกลูกตามฤดูกาล สีม่วงบ้าง สีชมพูบ้าง สีเขียวบ้าง มาแทะกินแก้หิว บางคนก็ปีนต้นขึ้นไปนอนกินอยู่บนคาคบไม้เสียเลย และที่พิสดารกว่านั้น ก็คือไม่เด็ดลูกชมพู่มากิน แต่กัดให้วิ่นแหว่งคาก้านอยู่เหมือนกระรอกแทะอย่างนั้น

ซึ่งการเล่นที่เกี่ยวกับการปีนป่ายแบบนี้ แน่นอนว่าไม่มีเด็กผู้หญิงมาร่วมวงด้วยเลย และสวนอ้อย สวนพุดตาน และสวนดุสิต ในสมัยนั้น จึงเป็นสวรรค์ของเด็ก ๆ รุ่นผม ที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นสวนสวรรค์เลยทีเดียว.

#############


โดย :
เจียวต้าย วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา: 20:59:50 น.




Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2556 21:53:00 น. 17 comments
Counter : 817 Pageviews.

 
ขอบพระคุณมากนะคะพี่ปู่
สนุกค่ะ มองเห็นภาพชัดเจน
อยากกินกุ้งแม่น้ำเผา ก้ามใหญ่ๆ เวลาดึงออกมาจากกล้าม เป็นยวงยาวๆ หวาน

คนเดินไปอาบน้ำที่คลอง ถือสบูซันไลท์ไปด้วย ไม่หอมเลย ที่จริงเอาไว้ซักผ้าค่ะ

สมัยนั้น มีสบู่ตรานกแก้วแล้วค่ะ และมีสบู่ลายๆ สีน้ำเงินหม่นๆ ปนขาว ก้อนเล็กและบางกว่าซันไลท์ ที่บ้านนาถขาย รู้สึกว่าไว้ใช้ซักผ้าค่ะ แต่ที่บ้านไว้ใช้ขัดหม้อ ใช้กับฝอยเหล็ก หากไม่สะบัดน้ำตอนล้างออกให้หมด ก็จะเป็นสนิมค่ะ

คุณป้ากับพี่ปู่ทัน น้องหนูเคยเห็นไหมคะ สาวเค็งน่าจะเคยเห็นนา

ในวังสมัยก่อน มีคลองเล็กๆ ที่ลัดเลาะไปได้ติดต่อกัน นับเป็นกำไรชีวิตของพี่ปู่โดยแท้ ผังเมืองละแวกเขตดุสิตนี่ พี่ปู่รู้แจ้งแทงตลอด เรื่องนี้ นับได้ว่ามีค่ายิ่ง ดีจริงๆ เลย ที่กรุณานำมาลงให้อ่านกัน นำมาไว้ที่ ๑๓๑ คนอื่น จะได้อ่านด้วยได้นะคะ

นึกขำท่ากระโดดน้ำของพี่ปู่ค่ะ

แล้ว แหม ทะเล้นกันจริง แทะชมพู่พอแหว่ง ก็มันเยอะนะคะ เข้าใจเลยค่ะ


ลุงนาถ มีสวนแตงโมชั้นดี ไปได้พันธุ์มาจาก ม.จ.กฤษดากร ทรงประทานให้เกษตรกรที่ตั้งใจ แตงโมบางเบิด มาปลูกที่โคราชช่วงชนบทออกมา อากาศเย็นๆ แตงโมงามมาก ผ่าลูกใดไม่แดง ก็โยนทิ้ง ก็มันมาก

และนาถก็เหลือร้าย ใช้ช้อนหมุนเป็นกลมๆ กินแต่ตรงที่ไม่มีเม็ดค่ะ เฮ้อ เด็กบ้า...


เป็นเด็ก ช่างไม่กลัวที่จะเข้าไปแถวตำหนักต่างๆ นะคะ ชาววังบางกะตุ๋ย เขาเห็นองค์นั้นองค์นี้ ทรงดำเนินสใบปลิวว่อนกันทั่ววัง .... บรื๋อ


โดย: นาถศรี (sirivinit ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:06:26 น.  

 
เขียนเข้าไปได้..สใบ
สไบ นะคะ


โดย: นาถศรี (sirivinit ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:22:09:27 น.  

 
ทันค่ะพี่นาถ ทั้งสบู่ลาย สบู่ซันไลท์ ใช้เหมือนกันค่ะ คือเอามาไว้ขัดหม้อกับฝอยเหล็ก เค้าบอกว่าใช้ซักพวกถุงเท้าได้ดี แต่หนูก็ไม่เคยใช้ค่ะ ด้วยว่าฟองน้อย โรคจิตน่ะค่ะ ฟองไม่เยอะกลัวไม่สะอาด

จะบอกว่าคุณลุงจำผิด สบู่ไลฟ์บอยหรือเปล่าก็ไม่น่าใช่ ซันไลท์ไม่น่าอาบน้ำเลยค่ะ นอกจากไม่หอม ยังเหม็นด้วย กลิ่นเฉพาะของเค้านะคะ / สบู่นกแก้ว อมตะนิรันดร์กาลค่ะพี่นาถ ทุกวันนี้ยังมีขาย ถึงจะมีแบบสบู่เหลว แต่ก็ไม่คลาสสิคเท่าที่เป็นก้อนสีเขียวนะคะ (พ่อหนู กับอากง ยังชอบใช้อยู่เลยค่ะ)


หนูพยายามวาดแผนผังนึกภาพตามค่ะ ได้ลางๆ ถนนแถวนั้นไม่ค่อยชำนาญด้วยสิคะ สารภาพตามตรงค่ะ แต่ก่อนตอนที่คุณลุงพูดถึงสวนอ้อย หนูนึกว่าหมายถึงบ้านที่สระบุรี จริงๆ ก็ปะติดปะต่อเรื่องได้ว่า พ่อน้องออกัสอยู่ในโรงงานเป็นบ้านพัก...แต่นึกว่าคุณลุงมีสวนแถวนั้นด้วย แล้วพี่นาถก็คุยกับคุณลุงเป็นคุ้งเป็นแคว หนูก็ไ่ม่กล้าถาม เพิ่งหายคาใจ...นิทานชาวสวน ตอนแรก...ภาษาเดี๋ยวนี้ เค้าว่ากันว่า "โง่ได้อีกนะเธ๊ออออ" ต้องขึ้นเสียงสูงด้วยนะคะ ขำตัวเองค่ะ

หนูนุ่งผ้าถุงเป็นนะคะ ถึงจะไม่ค่อยเรียบร้อยแต่ก็นุ่งเป็น ให้งามแบบเป็นซิ่นทบปลายเสมอกัน แล้วใส่เข็มขัดพับปิดหัวเข็มขัดสวยๆ อาจจะไม่งามเ่ท่าไหร่ เคยเล่นน้ำในคลอง แ่ต่ไม่ใส่ผ้าถุงค่ะ ที่บ้านต่อให้มีนิดเดียวยังไง เป็นผู้หญิง แม่ให้ใส่เสื้อยืดค่ะ เราจะรู้กันว่าถ้าลงน้ำ ให้ใส่เสื้อสีเข้มหน่อย ยาวหน่อยพอปิดก้นได้...

มีกุ้งนางด้วยเหรอคะ นึกว่าเป็นชื่อเรียกของหนัง ของลูกสาวคุณสุประวัติแค่นั้นไม่นึกว่าเค้ามีตัวตน หน้าตาเป็นไงน้อ กลางกรุงมีกุ้งก้ามกรามด้วย เก่งนะคะ จับกุ้งด้วยมือ


นึกย้อนกลับไป ปะป๊าเคยเล่าให้ฟังว่าว่ายน้ำเป็นเพราะบ้านอยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยากระโดดเล่นเกือบทุกวัน...กับเรื่องที่คุณลุงเล่า....บ้านเมืองเรา ไม่ได้เจริญมาก แต่ก็อยู่กันสุขสบายดี น้ำท่าในหนองคลองบึง อากาศก็ยังดี อยากเล่นได้เล่น อาหารการกินก็ไ่ม่ได้แร้นแค้น คิดแล้วก็...นะคะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:39:56 น.  

 
สมัยนั้นมีไลฟ์บอย แล้วค่ะน้องหนู และมีแชมพูสระผมสีไข่ ค่อนข้างเหลว เรียกว่า "แชมพูไข่" แชมพูซองแฟซ่า ไลอ้อนมีแล้ว คู่ละ ๑ บาท ก๋วยเตี๋ยวหมูก็ชามละบาทนะคะตอนนั้น

ตอนพี่นาถเด็กๆ ขออนุญาตไปอาบน้ำที่คลอง ธรรมดาอาบที่บ้าน นึกสนุก มีพี่เลี้ยงไป ๓ คน เขากำลังเป็นสาว ขากลับบ้าน พี่ ๓ คนก็หาบน้ำกลับบ้านด้วยค่ะ

ธรรมดาจะใช้เกวียนเทียมวัว นำถังน้ำมัน ๒๐๐ ลิตร ไปลากน้ำมาไว้ใช้ หนุ่มๆ สาวๆ เขาช่วยกันตักน้ำจากถังน้ำบนเกวียนขึ้นไว้ใช้บนบ้านค่ะ น้ำฝนก็มีเต็มโอ่งมังกรสูงวางเป็นแถวที่เรือนน้ำ ยกพื้นสูงกว่าคนอื่นหน่อย เอาไว้กิน กับประกอบอาหารค่ะ ที่บ้านรู้จักใช้สารส้มมาแต่สมัยโน้นแล้วค่ะ

มีคลองใหญ่ และคลองเล็ก เรียกภาษาถิ่นว่า "ขัวะน่อย - ขัวะใหญ่" แม่สั่งให้เล่นที่ "ขัวะน่อย" แต่พี่เลี้ยงเขาเป็นสาว เขาพากันไปขัวะใหญ่ ก็ไปด้วยสิ อยู่แต่ตรงตื้นๆ ห้ามเดินเลยเชียว

ระหว่างสองสะพานนี้ แถวนี้ เป็นที่นาของครอบครัว แต่สะพานเป็นสะพานสาธารณะ ที่พังแล้วบ้านเราซ่อมแซม คนอื่นมาใช้ด้วยค่ะ

ตอนอาบน้ำ พอเราใช้แชมพูไข่สระผม มีฟองฟอดเต็มหัว มีคนแก่ ญาติห่างๆ กัน พี่นาถเรียกลุง มาขอลองใช้บ้าง ลุงชื่นชมมาก เพราะยังไม่เคยใช้มาก่อนในชีวิต บอกว่าหอมมาก ไม่อยากล้างออก กลัวกลิ่นหมด สงสัยกลับไปบ้าน คันเกือบตาย เกาทั้งคืนเด็ด

อันที่จริงลุงมีเงิน แต่ขี้เหนียวมาก ใครได้กินของลุงคนนี้ มีบุญมาก และพี่นาถได้กินขนมตาลของลุง และลุงให้เม็ดลูกตาลมีฝอยๆ เป็นผม มาเล่นตุ๊กตาด้วยค่ะ ลุงคงหวังได้ใช้แชมพูจากพี่นาถอีก ฮ่าๆๆๆ

เมื่อลุงตาย ลูกเมียไปค้นห้องเก็บสมบัติ มีแบงค์บาท แบงค์ห้าสิบสตางค์ เหรียญ เต็มสามปี๊บน้ำมันก๊าด แต่ปลวกขึ้น เขาจะทิ้งกัน พี่นาถบอกว่า ลองเอาไปที่คลังจังหวัดสิ ไปอ้อนวอนขอแลก ยังได้มาหลายพัน ป้าแบ่งให้พี่นาถยี่สิบบาทด้วยค่ะ ขำกันจะตาย ก็เขางกทั้งบ้าน แม่บอกให้พี่นาถไปปิดทองไว้บนหิ้งด้วยค่ะ เอิ๊ก เอิ๊ก

ขอบคุณน้องหนู ที่มาร่วมระลึกชาติค่ะ


โดย: นาถศรี (sirivinit ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:11:07:56 น.  

 
มาร่วมระลึกชาติด้วยค่ะ


เรื่องเกี่ยวกับเมืองบางกอกหรือฝั่งธนป้าไม่ค่อยรู้จัก เพราะเป็นเด็ก ตจว. เข้ากรุงครั้งแรกโดยกินนอนในเรือ จากสมุย-บางกอก พ.ศ. 2506 ค่ะ

เป็นเด็ก ตจว. ที่เด๋อด๋ามาก ไปไหนต้องอาศัยพี่เลี้ยง ขึ้นรถคนแน่น มองหาพี่ไม่เจอ ต๊กกะใจคิดไรไม่เป็น ลงมันซะดื้อๆงั้น

โชคดีพี่เค้าทันเห็นอีตอนป้าลงรถ เค้าร้อง เฮ้ย แต่ลงตามไม่ทัน รถเมล์ออกก่อน ต้องลงป้ายหน้า แล้วเดินย้อนมารับ

ตอนเข้าบางกอก ทันเห็นรถรางด้วย ได้ขึ้น 2-3 เที่ยว

สบู่หรืออะไรที่พูดถึงกัน ป้าทันหมด ที่บ้านเป็นร้านขายสัพเพเหระ นอกจาก เครื่องบิน / เรือรบ / ยาบ้า แล้วน่าจะมีครบนะ


ลุงของป้าก็สุดยอดจอมเก็บเหมือนกัน เก็บแบงค์ไว้ที่หัวเตียง เป็นเตียงไม้ไผ่ ปรากฏว่าปลวกรับประทานเรียบ ลุงเสียใจมากเอ๋อไปเลย


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:48:18 น.  

 
แชมพูซองแฟซ่าหนูก็ทันค่ะพี่นาถ

หนูเคยหาบน้ำจากบ่อมาด้วยค่ะ ตอนจะตักน้ำใช้ไม้ปลายมีตะขอเกี่ยวหูถังน้ำลงไป ตอนแกว่งถังเพื่อวักน้ำเข้าถังต้องมีจังหวะด้วยค่ะไม่งั้นถังจม หาบกันอยู่หลายเดือนค่ะ ทีแรกไม่เป็น ถังน้ำไม่ได้สมดุลหน้าหลัง ตอนหลังมาก็เป็นค่ะ

สมัยก่อนเค้าเรียกยาม้านะคะป้ากุ๊ก หนูอยู่กรุงเทพฯ เมื่อปี ๒๕๒๙ เองค่ะป้ากุ๊ก อยู่ฝั่งธนจะยี่สิบปีแล้วค่ะ

รถรางหนูไม่ทัน

ของพี่นาถ ไม่ได้เป็นแบงค์ เป็นหนังสือดีๆ ปลวกอ่านเอ็นไซโคลปีเดียงี้ สารานุกรมงี้ ดร. ปลวกแล้วมังคะ นี่ก็เกือบแย่แล้วนะคะพี่นาถ คงน้ำตาซึมไปเลยเหมือนกันค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:29:42 น.  

 
นิทานของผมเข้าถึงประชาชนสมความมุ่งหมายของผู้เขียนแล้วครับ
มีความคิดเห็นมากมายตอบไม่ทันเลย

๑.สบู่ เขาใช้สบู่ซันไลท์ถูตัวจริง ๆ ครับ สบู่ลายสีฟ้าสลับขาว เรียกว่าสบู่กรด ใช้สำหรับซักผ้า

อย่าลืมว่าเวลานั้น กำลังมีสงครามทางยุโรป เยอรมันบุก โปแลนด์ และฝรั่งเศสราบเรียบไปแล้ว

ประเทศไทยสินค้าขาดแคลน ต้องมีบัตรปันส่วน สำหรับซื้อสินค้าจำเป็น เช่นไม้ขีดไฟ น้ำตาล น้ำมันก๊าด สำหรับจุดตะเกียง

สบู่หอมผมไม่เคยเห็นเลย สบู่กรดก็เอามาถูตัวได้ ส่วนสบู่ซักผ้า ใช้ขี้เถ้าในเตา ใส่ถังผสมน้ำไว้ แล้วช้อนเอาน้ำใส ๆ ไปซักผ้า มีฟองด้วยครับ

๒.จำไม่ได้แล้วต้องเลื่อนขึ้นไปดู กุ้งครับ
กุ้งนางเป็นกุ้งพันธุ์เดียวกัยกุ้งกัมกรามครับ
กุ้งก้ากรามเป็นตัวผู้ กุ้งนางคือตัวเมีย ถึงฤดูของเขาจะมีไข่เต็มท้อง กุ้งก้ามกรามไม่มีไข่ครับ

เพื่อนเขาสอนให้ผมจับถุ้งเหมือนกัน เขาบอกว่ากุ้งมันเดินถอยหลัง ให้เอามือหนึ่งไล่ไปตามถิ่นที่กุ้งมันแอบอยู่
แล้วอีกมือหนึ่งคอยดักไว้ด้านตรงข้ามพอมือที่ไล่กระทบหนวดมันก็จะถอยไปข้างหลังเราก็เอามือที่ดักตะครุบไว้

แต่พอมันถอยมาโดนมือ ผมกลับสะดุ้งไม่ได้ตะครุบ จึงไม่สำเร็จ เป็นคนคอยเก็บกุ้งบนบกดีกว่า

๓.ผู้หญิงรุ่นเดียวกันคือสิบขวบเขายังไม่นุ่งผ้าถุงกระโจมอกกันครับ เด็กผู้ชายส่วนใหญ่แกผ้า แต่ผมขี้เกียจนุ่งขี้เกียจถอด ก็เลยนุ่งเดี๋ยวเปียกเดี๋ยวแห้งไปทั้งวันครับ

๔.ตำหนักต่าง ๆ ในพระราชวังดุสิต ซึ่งรวมทั้ง สวน
สุนันทาแถวท่าวาสุกรี มาสวนดุสิต จนถึงสวนพุดตาล สุดท้าย พระที่นั่งอัมพร พระที่นั่งอนันตสมาคม
เป็นพื้นที่เดียวกันครับ

เวลานั้นจะมีใครอยู่บ้างหรือไม่ก็ไม่ทราบครับ แต่สวนพุดตาล บ้านว่างเยอะครับ เราเที่ยวเล่นสบายใจ ร่มรื่นน่านอนครับ

๔.ก๊อกน้ำอยู่ใกล้กับที่เราโดดน้ำเล่นทางสวนพุดตาล
ต่อกับกรมทหาร ร.พัน.๓ แต่ผมไม่มีแรงหาบหรือหิ้วน้ำ ต้องจ้างซิ้มคนหนึ่ง หาบเที่ยวละสองปีบ ราคาคงไม่เกิน ๒ สตางค์ หาบไปเทใส่ตุ่มในบ้านไว้กิน

ส่วนน้ำใช้ในบ้านขุดไว้สองบ่อ ใส่ถังส้วมกลม ๆ ถึงห้าใบซ้อน แต่มีน้ำแค่ถังเดียวข้างล่าง
ผมใช้เชือกผูกกระป๋องใบย่อม ๆ กระตุกตักน้ำแบบที่คุณหนูเล่า เพิ่งถมบ่อเทปูนซิเมนต์เมื่อดัดแปลงบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูง เป็นสองชั้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๔ นี้เองครับ.

วันนี้พอแค่นี้ เพราะเดี๋ยวจะไปทำบุญที่วัดสังเวช วันเกิดน้องสาวครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:5:43:29 น.  

 
เข้ามาอ่านแล้ว อยากย้อนอดีตกลับไปเป็นเด็กๆ ในสมัยนั้นอีก เหมือนกันค่ะ สนุกมาก

เวลารร. ปิดเทอมมักจะขอแม่ไปอยู่บ้านยาย ที่บ้านนอก เพราะมี สวนต้นหมากรากไม้ เต็มไปหมด ปีนขึ้นไป เก็บลงมาทานกันสนุกสนาน

เชื่อใหมคะว่าชอบฝักนุ่น ที่ยังเป็นลูกอ่อนๆสีเขียวๆ นั่นน่ะมากเลยค่ะ เม็ดนุ่นอ่อนๆนั้นหวานนัก เขียนแล้วยังคิดถึง

ข้างบ้านที่มาอยู่ที่สระบุรีก็มีต้นนุ่นสูงใหญ่อยู่ ยังพูดถึงอยู่เลยว่าชอบ กินเม็ดข้างในของนุ่นนัก เห็นแล้วคิดถึงสมัยเป็นเด็กน้อยจัง

น้ำในลำตะคลองก็ชอบ ค่ะใส่ผ้าถุงซึ่งใส่ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่นักใช้เชือกมัดไว้รอบอกไม่ไห้หลุดกระโดดลงไปในน้ำตีผ้าถุงให้พองลม ลอยคลอเล่น เวลาขึ้นจากคลอง รอบปาก จะมีคราบดินดำรอบไปหมด สนุกจริงๆค่ะ

หาบน้ำก็เคยหาบค่ะ เห็นเขาหาบ แล้วอยากลองบ้าง กว่าจะกลับถึงบ้านพักข้างทางซะ 500 รอบ เจ็บบ่ามากมาย แต่ก็สนุก พอถึงบ้านน้ำเหลืออยู่แค่ก้นกระป๋องน้ำค่ะ ฮิๆ

เห็นเขาปลูกข้าว ก็อยากลองทำบ้าง อะไรๆ ก็ดูสนุกไปหมด สำหรับตอนเป็นเด็ก อ่านเรื่องที่ท่านเจียวต้ายเขียนแล้ว ให้คิดถึง อดีต ตอนช่วงนั้น จริงๆค่ะ

ขอบคุณที่ทำให้ได้รำลึกถึงอดีตตอนเด็กๆที่ลืมไปแล้วหลายอย่างกลับคืนมาอีก


โดย: Katai_Akiko วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:9:33:04 น.  

 
เข้ามาระลึกชาติต่ออีกรอบค่ะ


เรื่องสบู่ที่พี่ปู่เล่าไว้ ใช่เลยค่ะ ส่วนไลฟ์บอย แฟซ่า และมีอีกหลายๆชื่อที่ชักจำไม่ได้แล้ว จะเป็นยุคไล่ๆมาค่ะ


เรื่องหาบตอนเล็กๆนี่ไม่ถนัดค่ะ แต่เรื่องปีนป่าย เรื่องทูนของไว้บนหัวนี่ถนัดมาก สงสัยเพราะทูนของหนักนี่ละมั๊งตัวถึงได้เตี้ยแบบนี้ อ้าว...โทษซะ


ในบ้านจะมีบ่อน้ำใช้ค่ะ ไม่ลึกนัก ตักชำนาญมากเพราะตักวันละหลายๆรอบ หูถังผูกเชือกฟั่นจากใยมะพร้าว สมัยนั้นยังไม่มีเชือกแบบปัจจุบัน หย่อนถังลงไปในบ่อ มือจับปลายเชือก ตวัดให้ถังเอียง พอน้ำเข้าเต็มก็สาวเชือกขึ้นมา


บ่อน้ำนี้ใช้ไปนานๆต้องวิดกันเสียทีค่ะ ก็ป้าอีกแหละ จะใครเล่า ก็เป็นลูกคนโตนี่นา ทุกอย่างในบ้านต้องเป็นผู้ช่วยพ่อ แม่ ให้ได้ เรื่องตักน้ำจึงเป็นงานที่เชี่ยวชาญมาก



น้ำกินก็เป็นน้ำบ่อค่ะ แต่เป็นบ่อเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ห่างทะเลออกไป น้ำออกหวาน ทานอร่อย บ่อลึกหน่อยค่ะ ขอบบ่อสูงด้วย ป้าตักลำบากเพราะบ่อสูงถึงอก งานนี้เป็นหน้าที่พ่อ ตักใส่ปี๊บหลายปี๊บ วางเรียงบนรถเข็น ใช้ใบตอง หรือใบไม้สะอาดปิดปี๊บซะหน่อยกันน้ำกระฉอก กว่าจะเข็นถึงบ้านน้ำก็พร่องไปเยอะ เพราะทางขรุขระ


เยอะแล้ว แค่นี้ก่อนค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:33:26 น.  

 
อ่านผ่านรอบเดียวก่อน...หนูชอบค่ะ

เป็นบันทึกเล่าเรื่องอย่างดีเลยนะคะ ให้มาอยู่รวมกันในหน้าเดียวแบบนี้ เรื่องต่อกัน สนุกมากค่ะ

พี่ต่ายกับพี่นาถ ตอนเด็กๆ ซนนะคะ

เดี๋ยวรอคุณเค็งอีกคนจะสนุกหรือเปล่า


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:39:57 น.  

 
น้องเค็งศรีกำลังขี่แกะมาค่ะ
จะว่าอย่างไร รออีกอึดใจของบัดนาวนะคะ


โดย: นาถศรี (sirivinit ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:53:37 น.  

 
อ่านแล้วนึกภาพตาม สมัยก่อนบ้านเมืองน่าอยู๋นะค่า ไม่มีอันตรายใด ๆ ด้วย
1 สบู่นกแก้วที่บ้านชอบใช้ค่า พี่นาถ แข็งดีค่า คือไม่เละง่ายเหมือนสบู๋ปัจจุบัน แป๊บเดียวก็หมดแล้ว
2
7 วันนี้วันเกิดน้องสาวคุณลุง ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะค่า
10 พี่ต่ายกับพี่นาถ ตอนเด็กๆ ซนนะคะ
เห็นด้วยค่า คุณหนูพูดนะค่า

เค็ง มานั่งฟังเรื่องของคุณลุง พี่ ๆ และคุณหนู ระลึกชาติกันนะค่า สมัยก่อนคุณลุง พี่ ๆ และคุณหนู ลำบากเนอะ
ตัวเค็งเองก็ธรรมดานะค่า พ่อแม่ลำบากมากกว่า หนีสงครามมานะค่า สมัยก่อนอยู่ปากคลองตลาดแม่รับจ้างเย็บย่ามที่พระใช้นะค่า เย็บไปก็ต้องหนีระเบือ ลงหลุมหลบภัย แม่เล่าให้ฟังนะค่า พ่อขับแท็กซี่ พอมีเงินสักก้อน ถึงมาเปิดร้านขายยางรถยนต์จนทุกวันนี้ ก็พอมีพอใช้นะค่า ไม่รวยสักที 555
งั้นขอมาฟังเรื่องคุณลุง พี่ ๆ และคุณหนูนะค่า


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:05:14 น.  

 
11 กร๊ากกกกกกกกก ตัวหนังสือเล็กอ่ะ ต้องขยาย หรือว่าสายตาไม่ดีแล้วหว่าเรา


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:07:08 น.  

 
สมเด็จห่อพ่อของพ่อหลานออกัส กลับมาเห็นบล็อกนี้ คงจะดีใจมาก

ครอบครัวสมเด็จห่อ เป็นครอบครัวคนดี โชคดีมีน้องสาวมาอยู่เป็นเพื่อน พี่สะใภ้ดีนะคะ น้องสามีถึงอยู่ด้วยได้
นับถือน้ำใจทุกท่านค่ะ

เพราะคนกลางดี คือสมเด็จปู่ของเรา รักคุณแม่สุดชีวิต ให้คำยืนยันกับกระดูกคุณแม่ท่านว่า จะดูแลน้อง...


โดย: นาถศรี (sirivinit ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:14:15:24 น.  

 
14 พูดดีมักมากเลยค่า





โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:16:00:17 น.  

 
ขอบคุณ คุณผู้อ่าน ที่ร่วมรำลึกชาติกันคนละนิดละหน่อยครับ มีสุขแล้วก็มีทุกข์ ครั้นความทุกข์หมดไปก็จมีความสุข

เหมือนประโยคขึ้นต้นของสามก๊กครับ

เชิญอ่านตอนต่อไปครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:18:28:18 น.  

 
นิทานชาวสวน ๓ มาแล้วค่ะ
ขอเชิญไปอ่านที่ ๑๓๑
เราจะได้วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นเรื่องๆ ไปค่ะ
ได้ไปทำให้ตัวโตขึ้น ใส่สีกรมท่าเข้มๆ จะได้อ่านกันชัดๆ แล้วค่ะ

ขอบพระคุณพี่ปู่นะคะ


โดย: นาถศรี (sirivinit ) วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:19:16:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.