"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 
4 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
แนะนำ เรื่องสั้นชั้นครู ...เจียวต้าย เรื่องที่ต้องตัดสินใจ




เรื่องเล่าของคนวัยทอง

เรื่องที่ต้องตัดสินใจ

“ เพทาย “




“ กินเข้าไปเถอะเพื่อน เหล้าน่ะ ตายแล้วไม่มีใครใส่บาตรให้กินหรอก “

วาทะอันเป็นความจริงนี้ ผมได้ยินจากปากของเพื่อน ต่อหน้าแม่โขงชุดใหญ่ ในร้านแผงลอยเวิ้งหลังกระทรวงกลาโหม เมื่อสี่สิบปีที่แล้ว

ผมกินเหล้าเป็นมาตั้งแต่อายุได้สิบหกปี กินเรื่อยมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เกี่ยงว่าฝนจะตกแดดจะออก ข้างขึ้นข้างแรม วันเวลาและสถานที่ เว้นแต่ในโบสถ์เท่านั้น ไม่เกี่ยงว่าเป็นเหล้าอะไร ตั้งแต่แม่โขง กวางทอง เซี่ยงชุน ข้าวเหนียวแดง เหล้าโรง ๒๘ ดีกรี จนถึงเหล้าพื้นบ้าน ประเภทน้ำขาว กระแช่ อุ และเหล้าต้มเอง ซึ่งเมื่อเทลงบนพื้นกระดานแล้วเอาไม้ขีดจุด มันจะลุกเป็นแสงเรืองสีเขียวน่าดู ขอให้มีน้ำเย็นตบตูดเป็นพอ

ผมกินเหล้ามาจนอายุสี่สิบเศษ หลังจากที่เพื่อนผู้กล่าวประโยคข้างต้น ตายไปนานหลายปีแล้ว ผมก็ต้องมานอนให้หมอตรวจตับ ซึ่งโตกว่าขนาดมาตรฐาน หมอบอกว่า

“ เลิกกินเหล้าได้แล้ว ถ้ายังไม่อยากตาย “

ครั้งนั้นเป็นครั้งแรก ที่ผมต้องคิดว่าจะตัดสินใจอย่างไร ระหว่างคำพูดของเพื่อน กับคำพูดของหมอ แล้วผมก็ตัดสินใจเลิกกินเหล้า แต่กินเบียร์เติมโซดามาจนถึงบัดนี้

เพื่อนหลายคนที่เคยกินเหล้าด้วยกันมา ต่างก็ทยอยตายไปทีละคน ด้วยโรคต่าง ๆ นา ๆ เพื่อนบางคนที่ชอบพูดว่า “ กินก็ตายไม่กินก็ตาย “ นั้น ในที่สุดก็ตาย

ส่วนคนที่มีชีวิตยืนยาวอยู่จนถึงวันนี้ บางคนเลิกกินเหล้าแล้วก็ไปบวช หรือเข้าวัดทำสมาธิ วิปัสสนา กรรมฐาน หลายคนเลิกกินเพราะป่วย ด้วยโรคที่ขัดขวางต่อการกิน เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดเกินเกณฑ์ โรคหัวใจ ทั้งที่ผ่าตัดแล้วและยังไม่ผ่า คนที่ยังกินอยู่และยังไม่มีโรคร้ายนั้น เหลืออยู่น้อยเต็มที

ตั้งแต่เกษียณอายุราชการแล้ว ผมก็ไปตรวจโรคทุกสามเดือนที่คลีนิคผู้สูงอายุ ของโรงพยาบาลทหาร ก็ได้ยาประเภทวิตามิน ยาแก้โรคกระดูก ยาแก้โรคกะเพาะ มากินอยู่เป็นประจำ ไม่มีโรคที่จะทำให้ตายได้ง่าย จึงต้องคอยระวังตัวเวลาเดินทางไปไหนต่อไหน ทั้งในกรุงและต่างจังหวัด เพราะไม่แน่ใจว่าจะตายด้วยอุบัติเหตุ อันเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนได้สูงที่สุดหรือไม่

อยู่มาถึงเมื่อสามสี่เดือนก่อน หมอเจ้าประจำสั่งเจาะเลือดไปตรวจซ้ำ สองสามครั้ง แล้วบอกว่าตับท่านแย่เต็มทีแล้ว ผมไม่ทราบว่าหมอดูจากผลเลือดตัวไหน ท่านก็เอาปากกาวงตรงตัว GAMMA - GT ซึ่งมีเกณฑ์ 7 - 50 แต่ของผมขึ้นไปถึง 196 หมอก็สงสัยว่าเป็นได้อย่างไรเหล้าก็ไม่กิน ผมจึงสารภาพว่าผมกินเบียร์ หมอก็บอกว่า เลิกได้แล้ว

เมื่อสองสามปีก่อน ก็มีผู้หวังดีหลายท่าน แนะนำให้ลดการดื่มแอลกอฮอล์ลงบ้าง อายุจะได้ยืนนาน เพื่อนคนหนึ่งในอดีตเคยเป็นนายแพทย์ระดับ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรัฐ ก็เตือนด้วยความหวังดีว่า กินเข้าไปทำไมแอลกอฮอล์น่ะ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงห้ามไว้ในศีลข้อห้า ในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธ เราไม่ควรที่จะดื้อดึงต่อ คำสอนของท่าน

ผมก็น้อมรับฟังไว้ด้วยความเคารพ แต่กิเลสมันก็เถียงแทนว่ากินด้วยความอยาก เช่นเดียวกับคนที่กินน้ำชา กาแฟ และน้ำโคลา หรือเครื่องดื่มบำรุงกำลังทั้งขวดและกระป๋อง นั่นแหละ

ผมจึงคิดเข้าข้างกิเลสว่า คนเราเกิดมาจากกรรม มันอยู่ได้ด้วยกรรม และตายด้วยกรรม เมื่อถึงเวลามันจะตายก็ต้องตาย ไม่ว่าจะกินหรือไม่กินอะไร จะอายุเท่าไหร่ก็ได้ ไม่มีข้อจำกัดขัดข้องใดใด

แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ตื่นเช้าขึ้นมาผมก็รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ พอกินข้าวเช้าแล้วก็มีอาการเหมือนจะเป็นลม ผมก็กินยาหอมที่ใช้เป็นประจำ แล้วก็นั่งรอดูผล เพราะผมเคยเป็นโรคที่มองเห็นบ้านหมุนไปรอบ ๆ ตัว เมื่อไปตรวจหมอบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน แต่คราวนี้ไม่ใช่ และก็ไม่มีอาการอะไรมากไปกว่านั้น ผมจึงออกจากบ้านเพื่อไปยื่นเรื่องราว ขอรับค่ารักษาพยาบาลของ แม่บ้าน ที่กระทรวง แต่ด้วยความไม่ประมาท จึงชวนลูกชายคนโตไปเป็นเพื่อนด้วย

ผมเดินไปขึ้นรถเมล์หน้าวชิรพยาบาล และลงรถเมล์ที่สนามหลวง แล้วเดินผ่านศาลหลักเมืองไปถึงแผนกเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ ด้วยความรู้สึกว่าการเดินไม่เป็นปกติ การทรงตัวไม่ดีนัก แต่ก็สามารถยื่นเรื่องราวจนได้รับบัตรนัดรับเงินเรียบร้อย ขากลับเห็นแดดมันจัดจ้านักตัวเองก็ไม่ค่อยสบาย จึงเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน

พอรถแท็กซี่จอดที่ปากซอยหลังบ้าน ผมเปิดประตูรถก้าวลงก็ใจหายวูบ เพราะเข่าอ่อนยวบ ดูเหมือนเท้าจะยืนไม่ติดดิน ก็นึกรู้ทันทีว่าเป็นอาการของโรคที่เกี่ยวกับสมองแน่ จึงบอกลูกชายสั่งคนขับ ให้พาไปส่งที่โรงพยาบาลของมูลนิธิแห่งหนึ่ง แถวแยกยมราชทันที

ผมพยายามเดินในโรงพยาบาล โดยไม่ให้ลูกชายประคอง เพราะต้องการจะสังเกตอาการของตนเอง ก็ปรากฏว่าแขนและขาขวาอ่อนเปลี้ยไม่ค่อยมีแรง แต่ยังเดินได้

หมอถามอาการและตรวจดูร่างกายภายนอกแล้ว สันนิษฐานว่าเส้นโลหิตในสมองตีบ แต่ต้องการจะรู้สาเหตุจึงให้มาเจาะเลือดตรวจ ในวันรุ่งขึ้น ส่วนวันนี้ได้ยามากินบรรเทาไปก่อน

ผมกลับมาถึงบ้านด้วยความหดหู่ในใจ ผมเคยเห็นคนที่เป็นโรคที่มีอาการอย่างนี้มาแล้วหลายคนในชีวิต บางคนล้มลงแล้วก็เป็นอัมพาตไปครึ่งซีก อยู่ได้เพียงครึ่งวันก็ตาย บางคนที่เป็นน้อยกว่านั้น ก็ยังอยู่โดยใช้แขนและขาข้างขวาไม่ได้ต้องนั่งรถเข็น หรืออย่างดีก็ถือไม้เท้าก้าวเดินไปไหนมาไหนด้วยความลำบาก และมีบางคนที่เดินโขยกเขยกแต่สามารถทำงานเบา ในสำนักงานได้ต่อไป การรักษาก็เป็นการทำกายภาพบำบัด ซึ่งอาจจะมีอาการดีขึ้นบ้าง แต่ผมไม่เคยพบว่าจะมีคนไหนกลับฟื้นคืนเป็นคนปกติดังเดิมได้เลย
วันรุ่งขึ้นผมทดสอบตนเอง ด้วยการหยิบจับสิ่งของ ปรากฏว่ามือขวาไม่มีแรง จับปากกาเขียนหนังสือหรือเซ็นชื่อไม่เป็นตัว เวลาเดินขาขวาแกว่งไม่มั่นคง แม้จะยังพอเดินได้แต่ไม่มีแรงก้าวขึ้นบันได พูดเสียงไม่ค่อยชัด ลิ้นชาเหมือนเวลาหมอฉีดยาจะถอนฟัน ผมรู้ว่ากรรมมาถึงตัวแล้ว จึงไม่ได้วิตกจนเกินเหตุ การรักษาก็คงต้องเป็นไปตามระบบของแพทย์ แต่ผมจะต้องยอมรับกับตัวเองว่า ถ้าโชคดีก็คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ผมคงจะอยู่กับสภาพที่ไม่สามารถจะเดินได้ไกล ไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำได้เหมือนเดิม และจะต้องใช้มือซ้ายพิมพ์คอมพิวเตอร์ เมื่อเวลาที่จะเขียนหนังสือต่อไป

แล้วผมก็ออกจากบ้านไปโรงพยาบาลแต่เช้า คราวนี้แม่บ้านไปช่วยดูแลด้วย เมื่อเจาะเลือดส่งตรวจแล้ว รอชั่วโมงเดียวก็เอาผลไปให้หมอวิเคราะห์ได้ หมอดูแล้วบอกว่าไม่มีสาเหตุจากความดันสูง น้ำตาล และไขมันสูง จึงสั่งให้เอ็กซเรย์สมองด้วยคอมพิวเตอร์ ผมก็ขอร้องหมอขอให้ไปทำที่โรงพยาบาลรัฐ จะได้เบิกเงินค่าเอ็กซเรย์ได้ หมอก็เห็นใจไม่ขัดข้อง ผมจึงมาที่วชิรพยาบาล ซึ่งมีเพื่อนสนิทของลูกชายคนเล็ก เป็นหมอช่วยจัดการให้เรียบร้อยภายในวันนั้นเอง

วันต่อมาจึงเอาผลเอ็กซเรย์ไปให้หมอ ที่โรงพยาบาลเดิม หมอตรวจดูฟิล์มซึ่งถ่ายภาพศรีษะของเรา เป็นภาพตัดตามขวางเหมือนฝานมะนาวเป็นแว่น รวมสิบเก้าภาพ หมอบอกว่าห่างกันภาพละ ๔ ม.ม. ปรากฏว่าหาร่องรอยที่จะเป็นสาเหตุของโรคไม่ได้ สรุปว่าอาจมีเส้นโลหิตตีบเล็กน้อย แอบซ่อนอยู่ตรงช่วงที่เว้น ๔ ม.ม.นั้นเอง จึงมีอาการปรากฏออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็ได้ยามากินอีกเจ็ดวัน และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หรือทำกายภาพบำบัดอย่างที่คาดไว้

ทุกเช้าเมื่อตื่นนอนแล้ว ผมจะต้องหยิบปากกามาบันทึกเหตุการณ์ ที่ผ่านมา เพราะกลัวจะลืม และเพื่อทดสอบการทำงานของนิ้วมือด้วย ผมห่วงมือขวามาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผมเขียนเรื่องราว เป็นงานอดิเรกและอาชีพเสริมมาหลายสิบปีแล้ว ถ้ามือพิการผมคงเหงาแย่เลย แต่ผลปรากฏว่าเขียนตัวหนังสือได้ดีขึ้นทุกวัน จนสามารถเซ็นชื่อได้เกือบเหมือนเดิม

เดี๋ยวนี้ผมเดิน และเขียนหนังสือ หรือพิมพ์คอมพิวเตอร์ได้เป็นปกติ เสียงพูดก็ชัดเจนเหมือนเดิมแล้ว คงเหลือแต่อาการอ่อนเพลีย และเหนื่อยง่าย เหมือนคนฟื้นไข้ทั่วไป ซึ่งนับว่าโชคดีมาก เมื่อแรกนั้นคิดว่า อาการป่วยจะต้องเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ปากเบี้ยว แขนขายกไม่ขึ้น ต้องถือไม้เท้าสี่แฉก หรือนั่งรถเข็น แต่ตรงกันข้ามจากจุดเริ่มต้นค่อย ๆ ดีขึ้นทุกวัน จนหายกลับคืนเป็นปกติได้ ภายในอาทิตย์เดียว

ผู้ที่คุ้นเคยหลายท่านต่างก็บอกว่า นี่เป็นการเตือนไม่ให้ประมาท ทางที่ดีควรจะเลิกการดื่มเสีย

ผมก็รับฟังด้วยความเคารพเช่นเคย ผมสวดมนต์กราบหมอนขอบคุณทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกท่านที่ช่วยให้ผมป่วยเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น ไม่หนักหนาสาหัสเหมือนที่คิด หรือเหมือนบางคนที่โชคร้ายกว่านี้ แต่ผมจะต้องเลิกดื่มโดยเด็ดขาดเชียวหรือ ผมถามใจตนเองด้วยความอาลัยอาวรณ์เป็นอย่างยิ่ง

ผมมีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์มากว่าห้าสิบปีแล้ว ผมจะต้องตัดสินใจอีกครั้ง ในรอบยี่สิบแปดปี เป็นครั้งที่สองของชีวิต

ผมเคยกินเบียร์ เป็นเครื่องดื่มประจำ ทั้งมื้อกลางวัน และเย็น บางทีก็แถมมื้อเช้าด้วย เมื่อการป่วยได้ผ่านไปเจ็ดวัน จนเกือบเป็นปกติแล้ว ผมก็ซื้อเบียร์กระป๋องมาสองกระป๋อง แล้วผมก็ลองค่อย ๆ กินกับอาหารกลางวัน เพื่อจะดูผลว่าจะเกิดอาการจากแอลกอฮอล์อย่างไร และจะเป็นผลให้อาการป่วยเลวลงหรือไม่ และทำซ้ำอีกในเย็นวันเดียวกัน ปรากฏว่าไม่มีผลดีหรือเสียหายเกิดขึ้นเลย ไม่มีอะไรผิดปกติในทางใดเลย

จิตส่วนที่เป็นกิเลสหรือฝ่ายชั่วในกายผม ก็ตื่นเต้นดีใจว่าไม่มีผลเสียต่ออาการป่วย ก็กินเบียร์ต่อไปได้ แต่ส่วนที่เป็นฝ่ายดีค้านว่า เมื่อกินแล้วไม่มีผลเสียหรือผลดี กินหรือไม่กินก็เหมือนกัน แล้วกินมันเข้าไปทำไม จิตทั้งสองฝ่ายของผม โต้เถียงกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง ผมคิดไม่ตกว่า ควรจะเชื่อฝ่ายไหนดี

และอีกไม่ช้าไม่นาน ก็คงถึงเวลาที่ผมจะต้องตัดสินใจให้ได้…….ในที่สุด.

#########

วารสารข่าวทหารอากาศ
มิถุนายน ๒๕๔๘

โดย: เจียวต้าย 4 กันยายน 2554 7:43:44 น.



Create Date : 04 กันยายน 2554
Last Update : 4 กันยายน 2554 9:47:23 น. 13 comments
Counter : 541 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

ทราบเลยค่ะ ว่าตัดสินใจได้ในที่สุด คือ ..
เลิกเชื่อความหวังดีของใครๆ เชื่อใจตนเองว่าควรดื่มต่อไป

การติด เป็นโรคอย่างหนึ่ง
แต่เมื่อเสพแล้วเป็นสุข ความสุขนั้นนับเนื่องได้ยาวนาน

พอจะหมดสุข ก็เสพต่อพอดี ชีวีจึงมีแต่สุข

ก็เมื่อทราบจากอาการเตือนของโรคแล้ว มันเป็นแค่นั้น

ก็เสพต่อไปเถอะค่ะ
คนดื้อมาพบคนดื้อกว่า

หลานชายคนเดียว จิตใจกล้าหาญ ขับชอปเปอร์ร่อนทั่วประเทศและออกนอกประเทศกับพรรคพวกเพื่อนฝูงคราละ ๓๖ คัน

ไปไหนแต่ละทีปฐพีสะเทือน เสียงบึ้มๆๆ น่ากลัวมาก

เขาก็เซฟ.ตนเองด้วยหมวกนิรภัยชั้นดี ชุดสวมใส่ชั้นดี ราคาประคองชีวิตนี้สองแสน มันคุ้ม

เขากล้าฝังตระกรุดหลวงพ่อคูณครั้งเดียว ๙ ดอก...
บริบท คือเขาเป็นคนกล้า
แต่เขากลัวน้าจะตายด้วยกระเพาะทะลุก่อนผมเปลี่ยนสี

วันหนึ่งนำตะปูหกนิ้วสนิมเขรอะมาอวด ถามว่าน้ารู้จักไหมว่าอะไร

รู้สิ ตะปูสนิมเขรอะไง

นี่นะ เอาหย่อนใส่ขวดเปปปี้นะ สมัยนั้นมีขนาดเดียว ขนาดมาตรฐานในฝาจีบ

แล้วเขาก็ปิดขวดไว้ตามเดิม ใช้ที่เปิดขวดเคาะฝาจีบให้สนิท

รุ่งขึ้น เขาก็จูงมือไปดูผลงาน เปิดขวดเทน้ำดำทิ้ง ตะปูตกลงมา ขาวจั๊ว...

เป็นไง มันมีฤทธิ์ขนาดไหน ตะปูสนิมเขรอะยังเกลี้ยง .. น้ากลัวไหมครับ

กลัว .. เขาถามต่อ แล้วจะกินอีกไหม
คำตอบคือ กิน...

ต่อมาหลานสาวคนเล็ก มีหน้าที่จ่ายเช็คเงินสด
ที่รถจากบริษัทหัวเมืองทางใต้มาขนเจ้าน้ำฟองๆ
ที่พี่ห่อชอบดื่มนี่แหละค่ะ

เธอจอดรถรอในโรงงาน แถวๆสะพานนวลฉวีนั่นแหละค่ะ

การที่รถบันทุกคึ่กๆ เวียนเข้าเวียนออกทั้งวัน
น้ำมันเครื่องหยดบ้าง
พื้นปูนแถวนั้นก็มีที่ๆ สกปรกด้วยน้ำมันเครื่องหยดทับ
ครั้งแล้วครั้งเล่า

เผอิญ คนขนลังเบียร์ประมาท ลังหล่นไม่สูงนัก
แต่มีขวดแตก อาจจะไม่หลายขวด
หลานเล่าว่า พื้นตรงนั้น สะอาด เหมือนคอนกรีตที่เทใหม่ๆ เลยค่ะ
น้ากลัวไหมคะ มันแรงนะคะ
คำตอบเหมือนเดิม คือ กลัว แล้ว ..จะกินต่อไป

ก็คนดื้อ มาพบคนดื้อน่ะ มันถึงคุยกันได้ถูกคอไงคะ ฮ่าๆๆๆ


เพิ่งตื่นค่ะ อั๊พหมอดู และเรื่องสั้น
วันนี้ตกอันดับมาอยู่ที่ ๒ ปกติ
เจ้าของตัวจริงเขาปล่อยให้ยิ้มได้ ๕ วัน ก็มาทวงคืน...

ไปอั๊พต่อละค่ะ สวัสดีค่ะ



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:10:18:09 น.  

 
รถบรรทุก พิมพ์ผิดค่ะ



โดย: นาถ (sirivinit ) วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:10:21:31 น.  

 
1/6. http:cartoonthai.bloggang.com 10,550 10,753 17,880

2/7. //vinitsiri.bloggang.com 9,578 9,794 15,978


ไม่แล้วใจ อันดับ ๑ และ ๒ ห่างกัน ๙๘๒ คะแนน

สถิติของนาถเสียตั้งแต่สี่ทุ่ม
มันอยู่ตรง ๙๑๘๑/๑๙๓๓๑๙๑/๑๔๙๐๕/๓๘๖๘๕๔๔

แฟนบล็อกนาถจะมาดึกๆ ยิ่งใกล้อั๊พบล็อกยิ่งมามาก
เพราะชาวอัสดงคตเป็นตอนเที่ยง ใกล้เที่ยง หรือบ่าย
แล้วแต่แนวที่สมมุติกำหนด

มีสแปมคอมเมนท์มา เพราะนาถอั๊พบล็อกไม่ได้
ส่งคอมเมนท์ไม่ไป
เข้าบล็อกเพื่อนๆ ได้ครึ่งเดียว...
หน้าจอจะบอกว่าไลน์ไหนคือไวรัส
ก็ตามลบ
เวลาอยู่อันดับ ๑ ทีไร เขาคงหมั่นไส้
มาเยือนคราละหลายบล็อก ให้ตามล้างตามเช็ด หน้าจอก็เบี้ยวโย้เย้
บางทีก็เบื่อค่ะ เพราะเมื่อวานอั๊พเต็มที่
บล็อกดังๆ อย่างเรื่องหนูอุ๊งอิ๊งลดความอ้วนด้วยระวังอาหาร
เธอเตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้พี่สาว ปลายปีนี้
ดูทุกคำที่ตักเข้าปาก ว่ากี่แคลอรี่...
มีคนมาอ่านเป็นพัน...
แพ้แล้ว ก็ยอมแพ้ แต่ต้องหาเหตุมาแจงให้แจ้งเจนใจ...



โดย: นาถ (sirivinit ) วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:10:33:34 น.  

 
และอีกไม่ช้าไม่นาน ก็คงถึงเวลาที่ผมจะต้องตัดสินใจให้ได้…….ในที่สุด.

เวลาเขียนประโยคนั้น หมายถึง เวลาที่จะต้องไปนอนในโรงพยาบาล โดยไม่มีวันได้กลับบ้านอีก
รับรองว่าจะไม่กินในโรงพยาบาลเป็นอันขาด เช่นเดียวกับที่ไม่กินในโบสถ์ครับ

แต่นั่นมันก่อน
พ.ศ.๒๕๔๘ นะครับ ขณะนั้นอายุ ๗๐ แล้ว เดี๋ยวนี้ก็ไม่เหี้ยมหาญขนาดอีกแล้วครับ
พยายามเจียมเนื้อเจียมตัว เพียงแต่เกรงว่า ถ้าไม่กินพยาธิ์จะก่อการขบถขึ้นเท่านั้น
เพราะเห็นมามากเหมือนกันครับ พอหยุดปุบปับก็เลย มีสารพัดโรค
อย่าว่าผมแก้ตัวเลยครับ อดีตหัวหน้าเหล่าทหารสื่อสาร อายุ ๙๐ กว่า เวลาทหารสื่อสารไปอวยพรวันเกิด ท่านต้อนรับและยืนให้โอวาทตามปกติ แล้วก็เลี้ยงอาหาร และเบียร์ลูกน้องรุ่นหลาน แต่ตัวท่านเองก็มีตั้งอยู่ตรงหน้าแก้วหนึ่งครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:12:09:55 น.  

 
เคยเห็นคนเลิกดื่มเหล้าแบบหักดิบ
คือเลิกดื่มเลย หลังจากดื่มมาแล้วยี่สิบปี

ตัวเขาเห่อ บวมแดง ราวกับเป็นโรคเรื้อน
ทราบว่า นั่นคือส่าเหล้าแผลงฤทธิ์

แล้วก็เกิดอาการ ครั่นเนื้อครั่นตัว
มืดหน้าตาฟางหูดับ โผเผ ปากขม ลิ้นแข็ง
ไปหาหมอ ต้องนอน รพ.หลายวัน
แต่ไม่ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น

แอบสั่งลูกน้องที่ไปเยี่ยม ว่าหาเหล้ามาให้ดื่มสักกรึ๊บสิ
จะลงแดงอยู่แล้ว ลูกน้องมีแบนเล็กในกระเป๋าแจ๊กเก๊ต
ถามว่าอันนี้ได้ไหม .. แม่โขง
เสียงคนเล่าว่า .. มือไม้สั่นรับ แล้วก็ยกดวด จนพอใจ

ตั้งแต่บัดนั้น...อาการราวกับคนใกล้ตาย หายเป็นปลิดทิ้ง
แล้วก็บ้วนปากแปรงฟันกลั้วคออย่างดี กลัวหมอได้กลิ่น
ดื่มน้ำตามมากๆ พอให้กลิ่นสามสิบห้าดีกรีจาง

เมื่อหมอมาเยี่ยม ชมว่า เห็นไหม มาถูกทางแล้ว
อาการดีขึ้นมาก อยู่ดูอาการอีกวันก็คงกลับบ้านได้แล้ว

แต่ขอหมอกลับเลย..หมอก็อนุญาต
แล้วเขาก็กลับมาดื่มดังเดิม แต่ .. ตายแล้วเมื่ออายุ ๖๐
เพราะ..กระเพาะทะลุค่ะ



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:12:35:04 น.  

 
เมื่อกี้ คอมเมนท์แล้วส่งไม่ได้
ต้องไปเปิดบล็อกนี้ใหม่อีกหน้าหนึ่ง
ตอนนี้ยังค้างอยู่เลยค่ะ

ไปดูบล็อกที่เล่าว่าคนอ่านเยอะ ก็ตกใจ คะแนนมันหาย
เพราะตอนดูก่อนปิดบล็อก มัน ๑๒๐๙ ไม่แน่ใจ
ลองกดดู ขึ้นเป็น ๑๒๑๐ โอเค บล็อกยอดนิยม
กับอีกอัน เปิด ๑๐ บ่อนกลางกรุง นั่นน่ะ ๑๒๒๑ แล้ว
ลองกด ก็เป็น ๑๒๒๒ วงไว้ที่ ไดอะรี่ ที่เปิดวางอยู่หน้าจอ

เช้านี้ คะแนนหายทั้งคู่ สถิติเล่นตลก หรืออะไร
มันเลยเซ็งๆ ค่ะ

ตอนนี้รายการของอะคาเดมี่แฟนเทเชีย มีวิทยากรพิเศษ
ดร.วรภัทร ภู่เจริญ มาเป็นอาจารย์สอน ดร.คนนี้เก่งมาก
น่ารักมาก น่ารักตรงที่ ลิงค์บล็อก sirivinit ไปไว้ที่เฟซบุ๊คของเขา
และแนะนำให้คนมาอ่านบล็อกนี้ ชมว่า เป็นบล็อกดี
วันที่เขาแนะนำ มีคนมาอ่านเป็นหมื่นไอพี.ค่ะ
ที่ทราบ เพราะมีคนมาบอกหลังไมค์ เพราะไม่ได้เปิดให้คอมเมนท์

เขามาบอกว่า ตามมาอ่าน เพราะมาจากบล็อก ดร.วรภัทร
ตอนแรกตกใจ นึกว่านำข้อมูลของ ดร.มาใช้
แต่ถามคนที่มาหลังไมค์แล้ว ทุกคนบอกว่า มาอ่านตาม ดร.บอก
และชอบบล็อกนี้มากค่ะ ...



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:12:48:16 น.  

 
ผมซาบซึ้งในโทษของแอลกอฮอล์ ด้วยตนเองมาเยอะครับ
และสังขารก็กำลังสั่งให้ลดลงเรื่อย ๆ ครับ
แต่คงไม่ต้องถึงกับไปบวชอย่างเพื่อนหรอกครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:17:19:57 น.  

 
พรุ่งนี้เรื่อง ทำบุญผิดที่ ครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:17:22:02 น.  

 


โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:18:14:10 น.  

 

อ่านแล้วก็นึกลุ้นไปด้วยค่ะ ว่าคุณลุงจะตัดสินใจยังไง

พ่อหนูก็เคยกินเหล้าสารพัด แม่ขอร้องยังไงก็ไม่เลิก...แต่ด้วยว่าสัญญากับแม่ไว้ ว่าจะเลิกให้ได้ สุดท้ายยังมีแอบกินเล็กๆ น้อยๆ จนแม่บอกว่า ถ้าจะกินก็กินให้เห็นไปเลย ไม่ต้องมาแอบกินแล้วบอกว่าเลิกแล้ว ข้างพ่อก็กลัวแม่เสียใจ เพราะสัญญาไว้แล้ว (ตอนที่สัญญาเข้าใจว่า พ่อคงอยากทำให้ได้ค่ะ) ข้างแม่เองก็เสียใจว่า ขอแค่นี้ เดี๋ยวก็ตายจากกันแล้ว ให้ไม่ได้หรือ....พ่อคงกินเป็นกระษัยมังคะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:14:29:41 น.  

 
ผู้ชาย ชอบดื่มเหล้าทุกคนซีน่า...


โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:17:35:04 น.  

 
นั่นซินะคะ ผู้ชายทำไมชอบดื่มเหล้ากันนัก

มีเหตุผลอันใดหนอ จึงต้องทำเหมือนกับว่า มีรักเดียวใจเดียวกับการดื่มเหล้า


โดย: Katai_Akiko วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:18:14:50 น.  

 
เรื่องผู้ชายชอบดื่มเหล้ากันทุกคนนี้ไม่แน่ครับ ที่เขาเป็นคนดีไม่ดื่มก็มีเยอะครับ

แต่สำหรับทหารแล้ว คนที่ไม่ดื่มดูเหมือนจะเป็นคนส่วนน้อยครับ

เคยเห็นในภาพยนต์ต่างประเทศ ฝรั่งเขาดื่มก่อนและหลังอาหารกันแทบทุกคนในครอบครัวครับ
ผมเป็นคนโชคดีที่เจ้านายที่บ้านไม่รังเกียจคนกินเหล้า จึงอยู่ด้วยกันมาอย่างมีความสุข ไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลยครับ

แต่เดี๋ยวนี้สังขารก็สู้ไม่ไหวแล้วครับ คงจะหมดเวรในไม่ช้านี้ละครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 6 กันยายน 2554 เวลา:6:10:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.