"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 
15 กันยายน 2554
 
All Blogs
 

แนะนำเรื่องสั้น ของ เจียวต้าย ชุด เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา .. เพื่อนเก่า



เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา


เพื่อนเก่า


" เพทาย "




เช้าวันหนึ่ง เสียงกริ่งโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของผมได้ดังขึ้น ขณะนั้นผมกำลังยุ่งอยู่กับเอกสารปึกใหญ่ตรงหน้า จนไม่อาจจะละมือเอื้อมไปรับโทรศัพท์ได้ เจ้าลูกน้องของผมที่นั่งโต๊ะติดกัน จึงต้องลุกขึ้นมารับสาย ครู่หนึ่งก็หันมาบอกว่า มีญาติของผมมารออยู่ที่ห้องอาหารของหน่วยงาน ผมให้เขาถามชื่อแซ่ดูก่อน เขาบอกว่าชื่อ ยุทธ มีธุระสำคัญต้องการพบด่วน ผมดูเวลาแล้วเห็นว่าจวนเที่ยง ก็บอกให้เขารอสักครู่ เดี๋ยวจะลงไปหา

ยุทธเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายสิบกับผม เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗ พร้อมกับนักเรียนรุ่นนั้นทั้งหมด ๑๐๘ คน ซึ่งแบ่งออกเป็นสองกองร้อยสี่หมวด เฉพาะหมวดที่ ๑ กองร้อยที่ ๑ ซึ่งผมอยู่ด้วยกันเกือบสามสิบคนนั้น ต่างก็สนิทสนมกันเป็นอันดี เพราะได้กินนอนเรียนเล่น ร่วมกันมาเป็นเวลา ๖ เดือนเต็ม แต่ที่ใกล้ชิดกันมากจนจำพฤติกรรมของแต่ละคนได้ดี และยังคบหาสมาคมกันต่อมา หลังจากออกรับราชการแล้วอีกหลายปี ก็มีอยู่หลายคน

คนหนึ่งเป็นลูกชาวสวนทางฝั่งธนบุรี พอได้ลาพักกลับบ้าน ในวันเสาร์อาทิตย์ ก็เอาผลไม้ในสวนกลับมาฝากเพื่อน ให้นอนกินกันในมุ้งเวลาเป่าแตรนอนแล้ว มันตื่นเต้นหวาดเสียวดี โดยเฉพาะชมพู่แก้มแหม่ม เวลากัดกินเสียงมันดังก้องในรูหูจนขนลุก กลัวจะได้ยินไปถึงสิบเวร แล้ว จะต้องลุกขึ้นมาออกกำลังกันในตอนดึก

ตรงกันข้ามกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งมักจะหาเรื่องเถียงกับครูฝึก จนถูกกักงดลาเสาร์อาทิตย์แทบทุกเดือน เวลาที่อยู่เฝ้ากองร้อย ก็เอามุ้งของเพื่อนลงไปช้อนปลาในคูหน้ากองร้อย เอามาย่างมาปิ้งกินเป็นอาหารว่าง โดยอ้างว่าช่วยซักมุ้งให้เพื่อน

อีกคนเป็นหัวหน้าตอน เพราะเป็นนักกล้าม เดินข้อกางหุบไม่ลง เมื่อออกรับราชการได้บรรจุอยู่ในกรุงเทพ พอเขาจะย้ายไปอยู่จังหวัดร้อยเอ็ด ก็ทำท่าจะขอลาออก เพราะเป็นเด็กกรุงเทพไม่เคยเห็นบ้านนอก ผมก็ต้องปลอบใจว่าให้ลองไปดูก่อน พอไปอยู่เข้าจริง ก็มีช่องทางทำมาหารายได้พิเศษ ด้วยการหาโฆษณา เข้าสถานีวิทยุกระจายเสียงประจำจังหวัด เลยติดใจอยู่มันเสียเกือบยี่สิบปี มีบ้านให้ฝรั่งเช่าหลายหลัง มีฐานะมั่นคงมาก

พอนายจะย้ายเข้ากรุงเทพ ก็ไม่ยอมกลับอีกเข้าขั้นหนีราชการ ผมกับเพื่อนอีกคน ก็ต้องไปตามให้ช่วยเซ็นชื่อในใบลาออกให้ที จึงเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญกิน จนถึงบัดนี้ เพราะสุดท้ายบ้านหลายหลังนั้นก็เปลี่ยนเจ้าของไปสิ้น ไม่รู้ว่าเป็นด้วยเหตุใด

แต่ยังดีกว่าอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่นักกล้ามแต่ก็หล่อล่ำ สูงขาวราวกับ มิตร ชัยบัญชา พอสำเร็จออกรับราชการใหม่เอี่ยม มีคนมาชักจูงไปแสดงหนังไทยในยุคนั้น หนแรก ๆ ก็หลบงานไปถ่าย เป็นตัวประกอบ ต่อมาติดใจเลยลาออกไปเป็นนักแสดงเต็มตัว เพราะนายทุนเขาให้เป็นพระเอก ต้องเข้าฉากตลอดเรื่อง แต่น่าสงสารที่เป็นพระเอกได้เพียงเรื่องนั้นเรื่องเดียว ก็หายจ้อยไปเลย

อีกคนหนึ่งเป็นคนซื่อ ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ไม่เคยกลัวใคร ชอบมีเรื่องกับเพื่อน ๆ อยู่เสมอ พอถึงชั่วโมงพละศึกษา ก็ขออนุญาตครูฝึกสวมนวม ต่อยกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันอยู่ ถึงแม้จะตัวใหญ่กว่าก็ไม่กลัว ต่อยเสร็จแล้วหน้าตาแดงปากแดงเลือดกลบ ก็ยังหัวเราะเฉย และไม่อาฆาตจองเวรต่อไป

ส่วนยุทธนั้นเวลาเรียนนั่งโต๊ะติดข้างหลังผม ชอบคุยชอบถามอยู่ทุกวิชา แม้กระทั่งเวลาสอบ จนจะถูกครูลงโทษเอาหลายหน พอถึงเวลากินข้าวที่โรงเลี้ยงเพื่อนก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าแถวใกล้ ๆ เพราะเขากินกับเร็ว วงละสี่คน เขาจ้วงแพล็บเดียวก็หมด ต้องกินข้าวคลุกน้ำปลา มีแต่ผมซึ่งเลื่อนไปเลื่อนมาก็ตรงกับเขาแทบทุกที แต่เขาก็ไม่เคยเหลือกับข้าวไว้ให้ผมเหมือนกัน

สมัยที่มีเสือพรานไปรบในประเทศที่สาม เขาก็อาสาสมัครไปด้วย แต่ก็ไม่เห็นรวยกลับมาเหมือนคนอื่นเขา มีแต่อาการของคนติดสุราเรื้อรัง เขาบอกว่าอยู่ท่ามกลางความตาย มันก็ต้องกินเหล้าย้อมใจให้กล้า ตอนหลังได้ข่าวว่านายขอลาออกจากราชการ จึงไปบวชอยู่ที่วัดแถวบ้านเกิด แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เดี๋ยวสึกเดี๋ยวบวช และชอบแวะเวียนมาให้ผมได้ทำบุญอยู่บ่อย ๆ เขาบอกว่าผมเป็นเพื่อนที่ดีของเขา เขาไม่รู้จะไปหาใคร เขาก็ต้องมาหาผม ผมก็ปวารณาตัวว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอกกันได้ เขาก็บอกว่าไม่ช่วยเพื่อนก็หมาละวะ แต่ลงท้ายก็หายหน้าไป

ตัวผมเองนั้นต่อมาก็ได้เข้าทำงานอยู่ในวงการโทรทัศน์ หลายปีเข้าก็ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น พอลืมตาอ้าปากได้บ้างไม่ถึงกับซื้อรถเก๋งหรือผ่อนบ้านอย่างคนอื่นทั้งหลาย

เมื่อปีก่อนพระยุทธก็มาหาผมถึงที่ทำงานแห่งนี้ บอกว่าเลิกดื่มเหล้าได้เด็ดขาดแล้ว จึงกลับมาบวชใหม่ ตั้งใจจะไม่สึกอีกแล้ว ผมเห็นใบหน้าผ่องใสมีน้ำมีนวล ไม่มีเค้าเดิมที่เมาทั้งวัน จึงเที่ยวตามเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกสามคน มาพบที่ห้องอาหารของที่ทำงาน เพื่อช่วยอนุโมทนา เราจัดอาหารเพลมาถวาย แล้วก็ร่วมใจกันบริจาคปัจจัยไปรวมหลายร้อยบาท

แต่เมื่อผมลงจากห้องทำงาน มาพบเขาในคราวนี้ เขากลับไปเป็นยุทธ คนเดิมอีกแล้ว ใบหน้าบวมฉุ ดวงตาแดง น้ำตาฉ่ำ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมอซอเต็มที ผมชะงักพูดทักทายไม่ออก รีบควักกระเป๋าเงินออกมา หยิบธนบัตรในละห้าสิบบาทส่งให้ แต่เขาไม่ยอมรับ แถเข้ามาใกล้แล้วตะคอกว่า

"อะไรกันวะ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่มาหาทั้งที ให้แค่ห้าสิบก็หมาละวะ"

ผมจึงเปลี่ยนใจยัดธนบัตรใส่กระเป๋ากางเกง แล้วก็บอกลา

"ขอโทษทีวะเพื่อน เราลางานแล้ว จะไปเยี่ยมแม่ยายป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลว่ะ"

ว่าแล้วก็รีบจ้ำอ้าวออกจากที่ทำงานไป โดยไม่เหลียวหลังกลับมามองเพื่อนอีกเลย ได้ยินแต่เสียงเอ็ดตะโร เกี่ยวกับแม่ ๆ อยู่เบื้องหลังฟังไม่ถนัด

ใครจะว่าใจดำก็ยอม ผมอายลูกน้องสาว ๆ ที่กำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่นั่นเต็มที.


###########

นิตยสารทหารปืนใหญ่
เมษายน ๒๕๔๔



โดย: เจียวต้าย วันที่: 15 กันยายน 2554 เวลา:8:34:12 น.




 

Create Date : 15 กันยายน 2554
16 comments
Last Update : 15 กันยายน 2554 9:48:44 น.
Counter : 574 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ


เพื่อนไม่ดีอย่างนี้ เป็นนาถ ก็เลิกคบค่ะ

มีเพื่อนที่มากวนทุกเดือนเหมือนกัน
ที่ครบเดือนจึงมา
เพราะเวียนไปหาเพื่อนๆ คนอื่นๆ แล้ว

พอให้ไป ๑,๐๐๐ บาท บอกว่าเดี๋ยวจะไปดัดผมทำเล็บ
นาถละหน่าย

นึกว่า เงิน ๑,๐๐๐ บาทนี่ สามสิบกว่าปีก่อนหากรู้จักใช้
ก็จะอยู่ได้หลายวัน

มายืมเครื่องแต่งตัวไปใช้ในงานแต่งงานลูกสาว เอาลูกสาวมาเป็นประกัน
แล้วก็ยังไม่คืนจนป่านนี้
โทร.มาหา นาถก็ตัดบท เพื่อนที่รบกวนอย่างนี้ ก็คบไม่ไหวเหมือนกันค่ะ

วันนี้ยังอันดับ ๑ อยู่ค่ะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 10:01:12 น.  

 


เึค้าว่าเพื่อนกัน จะทะเลาะกันพาลเลิกคบกันเพราะเรื่องเงินคงจะจริงนะคะ

หนูเคยเกือบเสียเพื่อนเพราะเพื่อนยืมเงินเหมือนกันค่ะ จำได้ว่า ตอนเค้าโทร.มาให้โอนเงินให้ 10,000 หนูบอกไปว่า เงินนี้เป็นเงินที่ต้องจ่ายค่าประกันให้หมอกนะ เพื่อนบอกว่า รู้ เดี๋ยวจะโอนคืนมาให้...หลังจากนั้น เราเองก็ไม่กล้าโทร.ไปกลัวเพื่อนว่าเราทวง เพื่อนก็ไม่กล้าโทร.มา ผ่านไป 5-6 ปีได้ เพื่อนโทร.มาบอกว่า ไม่อยากเสียเพื่อนแบบหนูไป...หนูบอกว่า ไม่เป็นไร ฟังแค่นี้เราก็รู้แล้วว่า ที่ผ่านมาเค้าก็คงทุกข์ใจ ละอายที่จะโทร.หาเรา ดีใจอีกอย่างที่หลังจากกลับมาคุยกันอีกครั้ง สัมพันธภาพฉันท์มิตรยังต่อกันติดได้สนิทใจ และทุกครั้งที่คุยกันเธอจะพูดอยู่นั่นแหละค่ะ ยังไม่ได้คืนตังค์ให้เราเลย...สุดท้าย ยอมเล่นแชร์เพื่อจะคืนตังค์หนึ่งหมื่นบาทให้หนู

ทุกวันนี้ก็ยังรักกันดีค่ะ เพื่อนเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ฯ แต่เธอโสด...ทุกครั้งที่มีปัญหา หนูบอกว่า ถ้าไม่รู้จะคุย (บ่น) ให้ใครฟัง โทร.หาหนูได้นะ....แต่ไม่ได้เจอกันเกือบ 20 ปีแล้วนะคะ

ความรู้สึกดีๆ เราสามารถมีให้กันได้เสมอนะคะพี่นาถ จริงๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย...



 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 15 กันยายน 2554 13:26:01 น.  

 

สวัสดีค่ะ

หายหัวไปซะหลายวัน
เพิ่งจะขี่เต่ากลับมาถึงค่ะ

ต่ายก็มีเพื่อน เวลาที่เพื่อน มาขอยืมเงิน และต่ายก็ให้เขายืมแล้ว ต่ายจะตัดบัญชีในใจทันทีว่า เป็น 0 แล้ว

แล้วต่ายก็จะสบายใจไม่หงุดหงิด ถ้าเขาจะนำเงินมาคืน ต่ายก็จะรับคืนตามปรกติค่ะพี่

 

โดย: Katai_Akiko 15 กันยายน 2554 15:21:47 น.  

 

น้องหนู
หากเพื่อนยืมเงิน
สำหรับบางคน คิดไว้เลยว่า ไม่ได้คืน
แล้วให้ยืมครั้งเดียว

เพื่อนพี่นาถยืมเงินจ่ายค่าเทอม
บอกว่าแม่จะส่งให้สิ้นเดือน
ตั้งแต่ปี ๒๕๐๗ ยังไม่ได้คืนจนป่านนี้
พี่นาถ ก็ประหยัดแทบตาย
และเสียเพื่อนไป ๑ คน
เพราะเขาสอบตก แล้วหายไปเลยค่ะ

เงินทองของบาดใจ ยืมเงินกันทีไร .. เป็นเรื่อง
แต่บางคน เราก็ยินดีช่วยนะน้องหนู

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 15:25:09 น.  

 

สวัสดีค่ะท่านเจียวต้าย

"อะไรกันวะ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่มาหาทั้งที ให้แค่ห้าสิบก็หมาละวะ"

ผมจึงเปลี่ยนใจยัดธนบัตรใส่กระเป๋ากางเกง แล้วก็บอกลา

"ขอโทษทีวะเพื่อน เราลางานแล้ว จะไปเยี่ยมแม่ยายป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลว่ะ"

ว่าแล้วก็รีบจ้ำอ้าวออกจากที่ทำงานไป โดยไม่เหลียวหลังกลับมามองเพื่อนอีกเลย ได้ยินแต่เสียงเอ็ดตะโร เกี่ยวกับแม่ ๆ อยู่เบื้องหลังฟังไม่ถนัด

ใครจะว่าใจดำก็ยอม ผมอายลูกน้องสาว ๆ ที่กำลังหัวเราะคิกคักกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่นั่นเต็มที.



ฮีๆ.. น่ารักจัง ท่านเจียวต้าย

ยังมีอาย และเขินกับคุณลูกน้องสาวๆด้วยเหมือนกันนะ

 

โดย: Katai_Akiko 15 กันยายน 2554 15:29:23 น.  

 

หนูต่ายก็อย่าใจดีมาก
เงินไทยน่ะครุฑปีกกว้างนัก
บินกระพือที ไปไกลสุดโลก
แล้วก็ไปลับ...

เพื่อนยืมเงิน ยืมของนี่
เรื่องมันยาว...
แต่ เพราะคือเพื่อน
จะไม่ช่วยได้อย่างไร เนาะ...

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 15:40:49 น.  

 

"ยังมีอาย และเขินกับคุณลูกน้องสาวๆ ด้วยเหมือนกันนะ"
.
.

มีอีกค่ะหนูต่าย
มีการไปคุยกับเพื่อนบล็อกของพี่
ไปเชียร์สาว ที่ลด นน.เก่งด้วย ... ชดโช้ ...

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 15:46:52 น.  

 

ท่านผู้การมีขา

นาถพูดเล่นนะคะ

แต่ .. ตั้งใจ ล้อจริงๆ ค่ะ
น่า สนุกสนานน่า..พี่ห่อ

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 15:48:38 น.  

 


แถวบ้านฝนตกแล้วค่ะ วันนี้ปะป๊าติดธุระหนูต้องไปรับเมฆเอง เอารถออกจากบ้านก็ไม่ได้ มีรถขวางอยู่ (เพราะปกตไม่ค่อยได้เอาออกค่ะ นอกจากฝนตก...และต้องไปรับลูกเอง) ลุ้นๆ ค่ะ ให้ซากว่านี้ก็ยังดี


สวัสดีค่ะพี่ต่าย ไม่ได้คุยกันหลายวันเลยค่ะ

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าคุยกับหนูเรื่องเงินค่ะพี่นาถ เพราะเค้ารู้ว่างานการไม่ได้ทำ ไม่มีรายได้พิเศษอะไร จะขอยืมคงเกรงใจหน่ะค่ะ




 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 15 กันยายน 2554 15:50:05 น.  

 

เหมือนกันค่ะน้องหนู
พี่นาถบอกว่า เดี๋ยวนี้ มีรายได้จากรัฐ
เดือนละ ๕๐๐ บาทเท่านั้นค่ะ

ที่เล่ามานั้น ตอนทำงานค่ะ
ตอนนั้นใครๆ ก็ทราบว่าเงินดี
คนขับรถ ยังเงินเดือนสามหมื่นกว่าเลยค่ะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 15:58:33 น.  

 

"ยังมีอาย และเขินกับคุณลูกน้องสาวๆ ด้วยเหมือนกันนะ"
.
.

มีอีกค่ะหนูต่าย
มีการไปคุยกับเพื่อนบล็อกของพี่
ไปเชียร์สาว ที่ลด นน.เก่งด้วย ... ชดโช้ ...
....

.....

มาชดโช้ ด้วยคนค่ะ ชดโช้

พูดเล่นนะคะ พูดเล่นด้วยคน ท่านเจียวต้ายขา แฮะๆ



สวัสดีค่ะ คุณ สายหมอกและก้อนเมฆ

หายหัวไปซะหลายวันค่ะเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้ค่ะ

วันนี้เลยเดินสาย เคาะประตูบ้าน เพื่อนบ้าน ซะสนุกไปเลย

ฝนตกหนัก สงสารคนโดนน้ำท่วมจังเลยนะคะ

ทางแถวบ้านคุณสายหมอก คงไม่เป็นไรนะคะ

แถวบ้านตรงทางเข้าเดอะมอลล์งามวงค์วาน (7-11) เห็นคุณแม่หมูบอกว่าน้ำท่วม รถเก๋งเข้าไม่ได้เลย เป็นห่วงคนแถวนั้นเหมือนกัน

แต่ที่บ้านคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกนะคะ เพราะอยู่ถึงชั้น 6

 

โดย: Katai_Akiko 15 กันยายน 2554 17:20:56 น.  

 

เพื่อนผมคนนี้แกมีความจำดีมากครับ
แกจำชื่อเพื่อนรุ่นเดียวกันได้เยอะครับ
แกขึ้นไปบนแฟลต เห็นชื่อเพื่อนเป็นเคาะประตูหมดครับ
เหมือนเป็นเจ้าหนี้มาเก็บดอกเบี้ยครับ

เรื่องน้ำท่วมปีนี้ผมยอมให้ท่วมได้ฟุตเดียวเท่านั้นครับ
ถ้าเกินจากนั้น ก็คงเสียหายหมด เพราะไม่มีปัญญาจะขนย้ายครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 15 กันยายน 2554 18:59:48 น.  

 

หนูต่ายมาแล้วหรือคะ

แฮ่ๆ เราสองคน ล้อท่าน ส.ว. บาปมั๊ยล่ะ...
อยากให้พี่ห่อ อารมณ์ดีๆ ขำพวกเราค่ะ
ไม่มีอะไรแอบแฝงเล้ย...จริงๆ ค่ะ


โอ สงสารคนแถวเดอะมอลล์จัง
แต่ถนนหน้าบ้านไม่ท่วมมั้งคะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 15 กันยายน 2554 19:00:08 น.  

 

พรุ่งนี้เรื่อง คนชอบเขียน ครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 15 กันยายน 2554 19:01:29 น.  

 

เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา

คนชอบเขียน

"เพทาย"


ความที่ผมรักการอ่านการเขียนมาตั้งแต่เด็ก ผมจึงชอบอ่านหนังสือทุกชนิด ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร ทุกชนิด รวมทั้งหนังสือพระ หนังสือแจกงานศพ ตลอดจนหนังสือโป๊ ที่ต้องแอบขายแอบอ่าน และใบปลิวทุกชนิด อ่านแม้กระทั่งข้อความที่ เมื่อก่อนแอบเขียนกันตามกำแพงวัด ในซอกมุมที่มืด ๆ หรือในส้วมสาธารณะ ซึ่งต่อมาได้ลุกลามออกมาในที่เปิดเผย ตามรั้วและกำแพงบ้าน ซึ่งไม่มีศิลปะในการเรียบเรียง ไม่เป็นการเคารพและให้เกียรติ แก่ภาษาไทยของเราเลย

ข้อสำคัญก็คือการทำลายหรือทำความเสียหาย ให้แก่เจ้าของพื้นที่ซึ่งใช้รองรับข้อเขียนนั้น อย่างรั้วหรือกำแพงที่เขาอุตส่าห์ทาสีเสียสวยงาม ก็มีข้อเขียนสีดำบ้างสีขาวบ้าง เปรอะเลอะเทอะไปหมด แม้จะมีผู้มาช่วยลบข้อความเหล่านั้น ด้วยสีขาวหม่น ๆ ซึ่งได้ทาเพื่อจะทับตัวอักษรเหล่านั้นเป็นปื้น ๆ ก็ดูเหมือนจะเกิดความน่าเกลียดเท่าเดิม ยิ่งเป็นตู้ไปรษณีย์ หรือตู้เชื่อมสายโทรศัพท์ ตัวอักษรหรือสีที่ป้ายทับ ก็จะยิ่งทำลายข้อความหรือตัวเลข ที่เป็นเครื่องหมายของตู้นั้น ให้ลบเลือนหรืออ่านไม่ออกไปเสีย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป้ายแนะนำหรือคำสั่งห้าม ของเจ้าหน้าที่จัดการจราจร ป้ายบอกเส้นทาง บอกชื่อตำบล ตามสี่แยกในเมือง หรือบอกระยะทางเป็นกิโลเมตรริมทางหลวง ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะที่ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางนั้น เมื่อได้ถูกตัวอักษรอันไร้สาระเหล่านั้นบดบังเสียแล้ว ประโยชน์ที่ประชาชนผู้ซึ่งสัญจรไปมาจะได้รับ ก็จะสูญเสียไปจนหมดสิ้น และจะต้องเสียงบประมาณของแผ่นดิน ในการแก้ไขซ่อมแซม อย่างน่าเสียดายอีกด้วย

ผมจึงชอบข้อเขียน ที่เดิมจะอยู่ตามท้ายรถบรรทุกสิบล้อ แต่เดี๋ยวนี้ได้กลายเป็นสติ๊กเกอร์ แปะตามกระจกรถเมล์เล็กและรถโดยสารประจำทางทั่วไป เพราะคล้องจองเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย และเป็นคำที่มีความหมายในทางขบขัน บางชิ้นอาจจะมีความหมายไปในทางหยาบคายบ้าง ก็น้อยเต็มที

คนที่โดยสารรถประจำทางเป็นกิจวัตร เพราะไม่มีรถส่วนตัวอย่างผม จึงได้เห็นข้อความเหล่านั้นเสมอ มากมายหลายสิบแบบ ไม่จำเป็นจะต้องยกตัวอย่างท่านผู้อ่านก็คงจะนึกออก แต่ข้อความที่เขียนด้วยปากกาหมึกแห้ง ซึ่งปรากฎอยู่บนพนักพิงด้าน หลังของเก้าอี้ที่อยู่ค่อนไปทางท้าย ๆ ของรถประจำทางระยะไกล ที่วิ่งออกไปยังเมืองบริวารของกรุงเทพนั้น ก็จะมีรูปแบบเช่นเดียวกับที่ชอบเขียนตามกำแพงหรือเสาไปฟ้าต้นใหญ่ ๆ ในเมืองเหมือนกัน ผู้เขียนคงจะมีหลายกลุ่มและเดินทางเป็นประจำ จึงสามารถเขียนตอบโต้กันไปมาอย่างดุเดือดขึ้นทุกที จนเปรอะไปหมดทั้งแผ่นพนักพิงนั้น และมีความคิดในการเปลี่ยนสีของหมึกไม่ให้เหมือนกัน จึงอ่านออกเกือบทุกประโยค

แม้จะไม่ชอบวิธีการ แต่ผมก็ติดใจอยู่บทหนึ่งที่เขียนเป็นสาระ ไม่เหมือนใครเลย บนรถโดยสารประจำทาง ที่แล่นจากสถานีขนส่งสายใต้ ไปจังหวัดนนทบุรี มีความเป็นกลอนแปดว่า

ในนภาท้องฟ้าอันแสนกว้าง
ผมจะสร้างตำนานให้คุณเห็น
พวกเทคนิคเทคโนที่คุณเป็น
คุณจะเห็นผมนี้หรือคือบิดา

ผมอาจจะคัดมาคลาดเคลื่อนก็ได้ เพราะมีเวลาน้อย และลอกอย่างรีบเร่ง บนรถที่แล่นอย่างรวดเร็ว ตามเส้นทางที่ไม่เรียบร้อย แต่ยังคงความหมายอยู่อย่างครบถ้วน เว้นแต่สรรพนามของบุรุษที่หนึ่งและบุรุษที่สองเท่านั้น ที่ผมแก้ให้สุภาพขึ้น เพราะเจ้าของลายมือท่านเขียน ตรงตามภาษาสมัยพ่อขุนเปี๊ยบเลย

ผมคิดว่า น่าจะเป็นคนที่ชอบอ่านชอบเขียนมาตั้งแต่เด็กอย่างผม นะครับ.

##########

นิตยสารโล่เงิน
เมษายน ๒๕๔๗

 

โดย: เจียวต้าย 16 กันยายน 2554 5:38:03 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าค่ะท่านเจียวต้าย

เรื่องของคนชอบเขียนตามฝาผนัง ทั้งเล็กและใหญ่นี่ ที่ใหนๆ ก็มีพวกแบบนี้ มากมาย

แต่คิดๆไป น่าจะมี การทำฝาผนังไว้เป็นจุด ๆ ให้เขียนหรือว่าวาดรูปแบบสามารถลบเองได้ ทำไว้ให้พวกอยากลองมือ ได้มีที่เขียน หรือหัดวาดรูปนะคะ



 

โดย: Katai_Akiko 16 กันยายน 2554 7:34:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.