"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 
9 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
แนะนำเรื่องสั้น ของ เจียวต้าย ชุด เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา .. คนใจบุญ



เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา


คนใจบุญ

" เพทาย "



รถโดยสารประจำทางสายนั้นแล่นมาจอดที่สนามหลวง ด้านกระทรวงยุติธรรม ผมลงจากรถคันนั้นแล้วก็ข้ามถนนราชดำเนิน เดินผ่านถนนผ่ากลาง เข้าถนนที่อยู่ระหว่างวัดมหาธาตุกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลาะเลียบกำแพงสูงใหญ่ มุ่งหน้าไปท่าพระจันทร์ เพื่อลงเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปขึ้นท่าพรานนก

สองฟากถนนทั้งด้านวัดและมหาวิทยาลัย ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ใบหนา จนแสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องลงมาไม่ถึง บนทางเท้า เต็มไปด้วยแผงสินค้าแบกะดิน มากมายหลายสิบเจ้า

ขณะที่ผมกำลังสนใจผู้ซื้อที่ใช้กล้องขยายดูพระบูชาองค์ใหญ่ หน้าตักร่วมคืบอย่างละเอียด ทั้งด้านหน้าด้านหลัง แม้กระทั่งใต้ฐาน ก็มีหญิงคนหนึ่ง อายุไม่น้อยแต่ก็ยังไม่แก่ หน้าตาเรียบร้อยแม้ว่าผมเผ้าจะรุงรังอยู่สักหน่อย แต่งกายแบบชาวบ้านธรรดา สะพายกระเป๋าใบย่อม ๆ มีข้าวของบรรจุเต็มจนโป่ง เธอไม่ได้เดินมาเหมือนอย่างผู้คนทั่วไป แต่เธอเคลื่อนที่ด้วยสะโพกและมือทั้งสอง ดูคล้ายกับว่าจะถัดไป เพราะเท้าทั้งสองข้างบิดเก ไม่เป็นรูปเป็นร่างอย่างเราทั้งหลาย

ผมเองก็มองเห็นไม่ชัด ว่ามันเป็นลักษณะอย่างไรแน่ เธอเลื่อนตัวมาหยุดอยู่เป็น ระยะ ๆ ไม่ได้พนมมือ ไม่ได้พูดจาขอร้องอะไร แต่ใช้สายตามองตรงไปยังดวงตา ของผู้ที่เธอต้องการจะสื่อความรู้สึกด้วย บางคน ทั้งผู้ขายและผู้ที่กำลังเดินชมสินค้า พากันเบือนหน้าหลบหลีกสายตาที่ใสซื่อ มีแวววิงวอนนั้น เสไปทำอะไรอย่างอื่น หรือเดินเลี่ยงหลบไป มีบางคนที่ควักเหรียญบาทใส่ลงในมือข้างที่ว่าง เพราะอีกมือหนึ่งติดอยู่กับรองเท้าฟองน้ำ ที่ใช้รองยันพื้นเวลาเคลื่อนตัวแทนเท้าทั้งสอง

ผมเหลียวไปเห็นเธอโดยบังเอิญ เพราะอยู่ด้านหลังผมไปไกลพอควร ผมชลอการ เดินแวะดูโน่นดูนี่ พลางควานมือลงไปในกระเป๋ากางเกง พยายามหาเหรียญอันเล็กซึ่งเป็นเหรียญบาท ก็ไม่มีทั้งสองข้าง รวมทั้งในกระเป๋าเสื้อด้วย และที่ติดมือขึ้นมาก็คือเหรียญห้าบาท ซึ่งทำให้ผมต้องชะงัก

ญาติผู้ใหญ่ของผมคนหนึ่งสอนไว้ว่า

" เช้าขึ้นให้เอาเหรียญห้าสิบสตางค์ หรือเหรียญบาท หรือมากกว่าก็ได้ ใส่ในกระป๋องหรือกระปุก ก่อนออกจากบ้านไปทำงาน เพื่อสะสมไว้ทำบุญ เมื่อมีใครเรี่ยรายผ้าป่า หรือกฐิน ก็ให้เขาไปตามสมควร หรือไม่ก็รวบรวมเอาไปทำบุญใส่ตู้รับบริจาคตามวัด เพื่อช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟฟ้า ของวัดนั้น ๆ เดือนหนึ่งก็ไม่กี่บาท ไม่เดือดร้อนอะไรแต่ได้ทำจิตให้เป็นบุญเป็นกุศลทุกวัน การบริจาคทำบุญหรือทำทาน เป็นการขจัดความโลภให้ลดน้อยลง "

ผมก็เชื่อท่าน แต่สะสมไว้แล้วก็ไม่ค่อยได้เอาไปทำบุญที่ไหน ใครเรี่ยรายเรื่องอะไร ก็ควักธนบัตรใส่ซองไปทุกที ถ้าเกิดขาดแคลนค่ารถเมล์ หรือค่าโทรศัพท์สาธารณะ ก็กลับมาควักเอาไปใช้เสียอีก ต่อมาผมจึงตั้งใจของผมเองว่า ไม่ต้องเอาเงินใส่กระป๋องหรือกระปุกก็ได้ แต่พยายามทำทานให้ได้ทุกวัน พบขอทานคนไหน ที่ไหน ถ้ามีเหรียญบาทก็รีบควักให้ไปทันที โดยไม่ต้องมัวลังเลว่าพิการหรือเปล่า ไปเช่าลูกใครเขามาอุ้มหรือเปล่า มีรถตู้ขนเอามาส่งตามจุด เหมือนอย่างที่เขาเล่า ๆ กันหรือเปล่า

ให้เพราะอยากจะให้เท่านั้นก็พอใจแล้ว เขาจะเอาไปทำอะไรก็ช่างเขา ถ้าเอาไปเลี้ยงตัวเลี้ยงครอบครัว ก็เป็นบุญของเขา ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ผิด ก็เป็นกรรมของเขาเอง เราไม่เกี่ยว ผมจึงถือปฏิบัติมาเป็นประจำวัน จนบางครั้งไปแถวศูนย์การค้าใหญ่ ๆ แค่ขึ้นสะพานลอยฟากนี้ ข้ามไปลงฟากโน้นเพียงเที่ยวเดียว หมดไปเกือบสิบบาทก็เคย นอกจากเหรียญบาทจะหมดกระเป๋าเสียก่อน

แต่ถ้าเป็นประเภทถามหนทางไกล แล้วขอค่ารถหรือค่าข้าวอย่างนี้ ผมก็มักจะโบ้ย ให้ไปขอคนอื่นบ้าง เพราะผมก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน ทำนองนี้

ผมหยุดเดินรอแม่สาวคนที่กระถดตามมาข้างหลัง ด้วยความลังเลว่าจะตัดใจให้ ทีเดียวห้าบาทจะเหมาะสมหรือไม่ กระดากตัวเองว่าถ้าเป็นเด็กหรือคนแก่ ก็เคยให้ทีละบาท คราวนี้รู้สึกว่าจะใจบุญเกินไปหน่อยกระมัง พอดีเธอก็เลื่อนตัวมาถึง จึงหย่อนเหรียญห้าบาท ที่ล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง ลงในมือที่ชูขึ้นนั้น ทำให้เธอต้องเหลียวมามองตามมือของผม ซึ่งเธอไม่ได้ตั้งใจจะขอ ผมรีบหันกลับแล้วเดินต่อไปตามเส้นทางเดิม เพราะไม่อยากประสานกับสายตาที่น่าสมเพชนั้น

ผมเดินมาจนถึงท่าเรือข้ามฟากไปพรานนก ซึ่งเขาเรียกว่าท่าวังหลัง พอผ่านช่องทางที่จะเสียค่าเรือ ที่มีเครื่องกั้นเสียงดังแก๊ก ๆ ผมก็ล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบเงินให้เป็นค่าเรือ แต่กระเป๋ากางเกงว่างเปล่า ล้วงทุกกระเป๋าก็ไม่เจอ เพราะมีอยู่เพียงเหรียญเดียว ที่ให้สาวผู้พิการคนนั้นไปแล้ว ชักเกรงใจคนข้างหลัง จึงล้วงหยิบธนบัตร ในกระเป๋าหลังออกมาส่งให้ เจ้าหน้าที่หญิงเงยหน้าขึ้นค้อนขวับ แล้วก็ทอนเหรียญบาทมาให้ทั้งหมดเต็มกำมือ

คราวนี้ผมมีเหรียญบาท สำหรับให้ทานตั้ง ๔๘ บาทแน่ะครับ.

##########

จาก นิตยสารโล่เงิน
กรกฎาคม ๒๕๔๐


โดย: เจียวต้าย 9 กันยายน 2554 5:45:13 น.



Create Date : 09 กันยายน 2554
Last Update : 9 กันยายน 2554 9:42:25 น. 11 comments
Counter : 661 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

48 เหรียญทอน ต้องพกทีเดียว คงหนักกระเป๋าเหมือนกันนะคะ


โดย: Katai_Akiko วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:11:36:44 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ฮ่าๆๆๆ ๔๘ เหรียญ...
หนักกระเป๋าเป็นบ้า..

จิตประภัสสรนะคะ ให้เพราะอยากให้
เอาไปทำอะไรก็ช่าง

ทำบุญทำทาน ละอาการตระหนี่ถี่เหนียวในใจตน
ช่วยโดยไม่เดือดร้อน ก็ช่วยไปเถอะค่ะ

แต่ข้อมูลบางอย่างที่ทราบ
มันทำให้ไม่อยากให้ทานด้วยเงิน
อยากให้เป็นของกิน ที่กินได้เดี๋ยวนั้นมากกว่าค่ะ

ทราบมาว่า ขอทานคนหนึ่ง
นำเงินไปฝากออมสินทุกสามโมงเย็น
มียอดเงินก็มาก .. ความลับราชการ...ไม่บอกยอดค่ะ

หมู่บ้านหนึ่ง พอหมดหน้านา
ก็พากันเข้ากรุง ดำเนินชีวิตด้วยขอทาน
ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ก็กลับบ้าน

รถตู้หลายคัน นำคน "มาวาง" ตามจุด
และคอยเก็บเงินเมื่อได้มาก
นศ.เรียนทีวี.และการสื่อสาร แอบถ่ายไว้
นำไปทำวิทยานิพนธ์

คนบางคนน่าสงสาร น่าให้
เด็กบางคนน่าสงสารกว่า ทั้งร้อนทั้งหิว
พวกใจ ส.เดรัจฉานมันบังคับ
เคยอ่านข่าวว่า มันตัดแขนเด็กน้อยให้พิการ
เพื่อคนจะได้สงสาร
ทราบแล้วก็เป็นทุกข์ กว่าจะทำใจได้

บางรายร้ายกว่านั้น พ่อแม่ตามหาจนเจอบนสะพานลอย
แต่จำลูกตนเองไม่ได้ เพราะสกปรกมอมแมม ผมยาวเป็นกระเซิง
ลูกสิ จำแม่ได้ ตะโกนเรียก "แม่" แต่ลุกไม่ได้ เพราะขาผิดรูปร่าง
"มัน" ต้องยกมาวาง ยกขึ้น ยกลง
ทราบแล้วก็ตันคอ ตันใจ โกรธแค้นไปหมด อาการหนัก..

กว่าจะทำใจได้ ว่า .. มนุษย์นี้หนอ ต่างเกิดมาตามกรรมทั้งนั้น



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:12:02:36 น.  

 
เขียนคอมเมนท์นี้นานมาก
มันอึดอัดในใจ ถ่วงๆ หน่วงๆ ไปหมด
เขียนแล้วลบ ลบแล้วเขียน
ไร้สติไปหมด

จนน้องสาวคนที่ ๑ มาแล้ว

สวัสดีค่ะน้องสาว



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:12:05:51 น.  

 
....โดยไม่ต้องมัวลังเลว่าพิการหรือเปล่า ไปเช่าลูกใครเขามาอุ้มหรือเปล่า มีรถตู้ขนเอามาส่งตามจุด เหมือนอย่างที่เขาเล่า ๆ กันหรือเปล่า....


หนูเคยคิดแบบนี้ค่ะ คิดไปเยอะถึงว่ากลัวเราจะไปเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้เค้าลักเด็กมาทำแบบนี้

อีกเรื่องคือการใส่ซองทำบุญ หนูคิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ เมื่อเราทำแล้ว ที่เค้าเรี่ยไรมาจะเอาไปทำอะไรที่ไหนก็สุดแล้วแต่เค้า ไม่คิดต่อละ แต่ก่อนบาปมาก...คิดเยอะค่ะ

เจ้าหน้าที่ ที่เงยหน้าค้อนขวับคุณลุง แหม ไม่อยากคิดเลยว่า "แกล้ง" เหมือนหนูจะคิดไม่ดีอีกแล้ว ๔๘ เหรียญแม่เจ้า...หนูเคยขึ้นรถเมล์ ไม่มีเศษเหรียญ (หมดระหว่างทางค่ะ ขึ้นรถหลายต่อ) ยื่นแบงก์ร้อยให้เค้า ขอโทษเค้าแล้ว ขอโทษเค้าอีก ดีว่าเป็นรถปรับอากาศ พนักงานก็ดีใจหายค่ะ บอก..ไม่เป็นไร






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:14:09:54 น.  

 
อากาศไม่ดี ปวดหัวตัวร้อน หนักหัวตึ้บๆ เพราะเป็นหวัดด้วย


แกล้งสิน้องหนู...ลองทอนแต่เหรียญบาทแกล้งแน่ๆ
พี่นาถ เคยพบด้วยตนเองค่ะ

วันหนึ่งสมาชิกจะไปทานของอร่อยเลยจากที่ทำงานไปหกป้ายรถเมล์
เกิดมีงานด่วนมาตอนเที่ยง เลยให้เพื่อนไปก่อน
แล้วขึ้นรถเมล์ตามไป ซึ่งไปถึง น่าจะได้ทานพอดี

บนรถเมล์คนไม่มาก สมัยนั้นค่ารถเมล์ ๓.๕๐ บาท
พี่นาถมีเหรียญ ๕ บาท เลยปลอดภัย

ชายคนหนึ่ง ให้แบงค์ ๑๐๐ กระปี๋ถามว่า แบงค์ร้อยอีกแล้วหรือ
เธอก็ยังไม่ทอน จนรถไปจอดตลาดใหญ่ บอกโชเฟอร์ว่ารอเดี๋ยว
เธอวิ่งลงไปแลกเหรียญบาท มา ๑ ถุง
แล้วหยิบออกสี่บาท ทอนเหรียญสลึงสองอันใส่ถุงพร้อมตั๋วให้ด้วย

ชายนั้นลงป้ายต่อมา พอลง กระปี๋ก็นินทาว่า
"ไอ้หมอนี่มันให้แบงค์ ๑๐๐ หลายหนแล้ว ต้องแกล้งซะให้เข็ด"



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:14:27:08 น.  

 
ขอโทษน้องรักทั้งสอง รู้จักกันไว้นะคะ
คุณอากิโกะเป็นพี่ น้องหนู เป็นน้องนะคะ
พี่นาถลืมแนะนำ ขออำไพ

สมองมันตื้อๆ นึกอะไรไม่ค่อยออกค่ะ
หากมีแต่รูปไปแปะที่บ้าน
โปรดทราบว่า ไม่คน ก็ เน็ท.ไม่สบายนะคะ



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:14:35:44 น.  

 

ดีใจที่ได้รู้จักค่ะ พี่อากิโกะ เราแวะมาุคุยกันที่บ้านนี้นะคะ

อากาศไม่ค่อยดีค่ะ ครึ้มฟ้า ครึ้มฝน พี่นาถคงจะเป็นไข้แน่เลยค่ะ พักผ่อนนะคะ

นึกแล้วหล่ะค่ะ ไม่พูดไม่จา แปะแต่รูป...ผิดวิสัยพี่นาถค่ะ ต้องมีอะไรเปื่อยซักอย่างแน่ๆ

เสาร์-อาทิตย์นี้ นอนผึ่งพุงนะคะพี่นาถ เราคุยกันใหม่วันจันทร์นะคะ






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:16:42:16 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณสายหมอกและก้อนเมฆ

ยินดีที่ได้รู้จักด้วยค่ะ เราคุยกันได้ทุกที่นะคะไม่ต้องเฉพาะที่บ้านนี้บ้านเดียวก็ได้นะคะ

ถ้าว่างก็เชิญแวะที่บ้านด้วยนะคะ

แต่เจ้าของบ้านนี้ติดจะขี้เกียจสักมากๆด้วยค่ะ บางทีก็หายหน้าไปซะเฉยๆเลยค่ะ ตรงนี้ ขออนุญาตให้ทำใจด้วยนะคะ ถ้าเห็นหายหัวไปนานๆละก็



โดย: Katai_Akiko วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:17:23:05 น.  

 
คุณ สายหมอกและก้อนเมฆ คุณ Katai_Akiko และคุณนาถ

ผมดีใจมากที่มีโอกาสได้เข้ามาวางเรื่องสั้น และพูดคุยกับนักอ่านทั้งสามท่าน ที่น่าจะเรียกว่า อ่านเอาเรื่อง ก็ได้ครับ

บังเอิญส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง จะมากหรือน้อย ก็มีส่วนจริงครับ

พระสงฆ์ท่านมีหลักในการสอนว่า การทำบุญกับผู้ที่มีคุณธรรมสูง จะได้บุญมากกว่าการทำบุญกับ ผู้มีคุณธรรมด้อยกว่า หรือไม่มีคุณธรรมเลย

การทำบุญในวันสำคัญ เช่นวันโกน วันพระ วันมาฆะ วันวิสาขะ จะได้บุญมากกว่าวันธรรมดา ฯลฯ

แต่ในอีกด้านหนึ่งท่านก็สอนว่า คนนั้นต่างก็เป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้ดี ไพร่ บัณฑิต หรือมหาโจร

และอีกแนวหนึ่งท่านก็สอนไม่ให้ตระหนี่ ต้องรู้จักให้ทาน และการเสียสละ เพื่อขจัดกิเลส ที่หมักหมมตกตะกอนอยู่ในจิตใจ

ผมจึงทำบุญทานด้วยความเสมอภาค แก่มนุษย์ทุกรูปทุกนาม ตามสมควรแก่ฐานะ และความสามารถของผม

เช่นการตักบาตรด้วยอาหารที่ผมสามารถหาได้ กินได้ แด่ภิกษุไม่ว่าจะเป็นลูกวัดหรือสมภาร เป็นมหา หรือเปรียญธรรมชั้นไหน

และทำทานตามกำลังทรัพย์ที่มี ไม่ว่าจะเป็นผ้าป่า กฐิน สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่การปฏิบัติธรรม หรือการสร้างถาวรวัตถุที่ใหญ่โตสวยงาม แต่ใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่า ตามความสามารถเหมือนกันหมด

โดยไม่คำนึงว่าจะได้บุญมากหรือน้อย หรือจะไม่ได้เลย แต่คงจะไม่เป็นบาปแน่ ๆ

ทำบุญเพื่อขจัดขัดเกลาความโลภ และสละความโกรธ และระมัดระวังไม่ให้หลงผิดเป็นชอบ เท่าที่สามารถจะทำได้

แม้จะไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ทั้งหมดทั้งสิ้นก็ตาม

และผมยินดีรับผลของการกระทำนั้น ๆ ทุกประการ

ดังนั้นเรื่องทั้งหลายที่ผมเขียนมานั้น จึงเป็นความบรืสุทธิ์ใจในขณะที่ทำพฤติกรรมนั้น ๆ ในเวลานั้น แทบทุกเรื่อง เราเพียงแต่มาคุยกันในภายหลังที่ได้อ่านแล้ว เพื่อให้ได้ข้อคิด และแนวทางที่จะเพิ่มพูนสติปัญญาเท่านั้นครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:18:59:48 น.  

 
ผมได้หาเวลาเข้าไปเยี่ยมชมบล็อกของท่านทั้งสองแล้ว ในโอกาสที่เหมาะ บางที่ก็ให้ความคิดเห็นไว้ บางทีก็บอกว่ามาเยี่ยมเฉย ๆ ไม่ต้องกังวลที่จะตอบหรอกครับ เพราะผมก็จำไม่ได้ว่าผมเข้าไปในบล็อกไหนบ้าง

และถ้าจะคุยกันก็ขอเชิญที่บล็อกของคุณนาถนี้แหละ แทนศาลาพักร้อนริมทางไงครับ เพราะท่านเจ้าของศาลาใจดีมาก

ตอนนี้คุณนาถอาจจะไม่สบาย ปวดหัวตัวร้อน ก็พักผ่อนให้มาก ๆ ผมก็จะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าจะขาดหายไปก็จะมาบอกเล่าเก้าสิบ ให้ทราบกันครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 9 กันยายน 2554 เวลา:19:07:45 น.  

 
555

" ครูของผม ไม่ได้สักมาให้ตีกะยุงนี่ครับ "


ถูกใจประโยคนี้จังค่ะ


โดย: Katai_Akiko วันที่: 10 กันยายน 2554 เวลา:7:23:59 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.