เอม 28 เดือน (Aim 28 mois)
ตอนแรกกะจะเขียนหน้านี้ตั้งแต่ก่อนกลับไทย แต่ไม่ทันซะแล้ว เพราะอะไรต่อมิอะไรเร่งๆเข้ามา เลยต้องมาตามอัพย้อนหลัง จริงๆก็เป็นปกติของเดี๊ยนอยู่แล้วนิจะว่าไป
แต่พอกลับมาถึงบ้านที่ฝรั่งเศส กว่าจะเข้าที่เข้าทาง เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครบหนึ่งเดือนพอดิบพอดี (ปัจจุบันตอนที่เขียนเนี่ย เอมขวบครึ่งแล้วค่ะ)
พัฒนาการด้านการพูด --- เดือนนี้เด็กหญิงชะเอมพูดเก่งขึ้น และคาดว่าคงจะพูดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเห็นแม่ๆที่มีลูกอายุ มากกว่าเอม ชอบบ่นว่าเมื่อไหร่ลูกจะหยุดพูดหยุดถามซักทีหว่า
นิสัยเลือกมากเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ (อ่านใหม่นะคะ เลือกมาก ไม่ใช่เรื่องมาก เอ๊ะ มันเหมือนกันไหมหว่า)
เวลาให้แต่งตัวจะเอาตัวนั้นตัวนี้ อย่างถ้าเราใส่เสื้อสีแดงให้ แล้ววันนั้นเธอไม่ชอบเธอจะบอกว่า « ป๊ะสีแดงมาม็อง แฌมป๊ะ » มาจากภาษาฝรั่งเศสแนวนี้ค่ะ "pas le rouge maman, j’aime pas"
(* หมายเหตุ ประโยคนี้เป็นภาษาพูด ไม่ถูกหลักไวยากรณ์แท้ๆนะคะ) หมายถึงไม่ใส่สีแดงค่ะแม่ หนูไม่ชอบ
ไอ้ลูกคนนี้มันพูดภาษาปนกันให้วุ่นเลยวุ้ย อันเนื่องมาจากดิฉันยังไม่ได้ สอนศัพท์เรื่องสีเป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ อยากให้เธอเรียนรู้ภาษาไทยก่อน บอกให้สามีสอน เค้าก็ดั๊นอยากจะพูดไทยกะลูก ทำเอาเจ้าหนูชะเอม สับสนสำเนียงไปเล็กน้อย อย่างเช่นแทนที่คุณผู้ชายจะออกเสียงว่าสีเขียว ก็กลายเป็น"สี่เขี้ยว" สีขาวก็จะเป็น"สี่ข้าว" (เอ๊ะ เหมือนๆกำลังนินทาสามี ไงไม่รู้แฮะ)
ดิฉันเขียนเองก็ทั้งขำทั้งงง เพราะไม่รู้จะถ่ายทอดวรรณยุกต์ยังไงดี เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ทุกสีของเอมจะเป็นภาษาไทยเท่านั้นช่วงนี้ (พูดง่ายๆก็คือเธอไม่รู้ศัพท์เรื่องสีเป็นภาษาฝรั่งเศสเลยหล่ะก่ะ ก็ไม่รู้ดิฉันจะเขียนให้มันซับซ้อนไปทำไมเหมือนกันเนอะ)
อีกอย่างเอมยังพูดปนกันทั้งสองภาษา ยังแยกแยะไม่ถูกว่าจะต้อง พูดภาษาไทยกะแม่หรือพูดฝรั่งเศสกะพ่อ ทั้งๆที่ดิฉันก็พูดภาษาไทย กะลูกประมาณแปดเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้มั้ง
(ที่ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะบางครั้งมีคนอื่นอยู่ด้วย หรือต้องการ สอนศัพท์ภาษาฝรั่งเศสไปพร้อมๆกัน) แต่ความตั้งใจแน่วแน่จริงๆคือ จะพยายามพูดไทยกะลูกให้ได้มากที่สุดค่ะ
มีคำภาษาฝรั่งเศสหลายๆคำที่เอมจดจำจากที่ได้ยินได้ฟังมาเช่น อยู่ดีๆวันนึงเธอพูด "dis donc" กะเรา (อ่านว่าดิ๊-ด้ง เป็นคล้ายๆ คำเชื่อมประโยคเพื่อแสดงความประหลาดใจในคำพูดหรือการกระทำ หรืออะไรก็ตาม ที่เราเห็น ได้ยินหรือรับรู้มาก่อนหน้านั้น ไม่ได้มี ความหมายอะไรจริงจัง แค่ต้องการเน้น)
((( เพิ่งมานึกได้ว่าทำไมไม่ยกตัวอย่างคำให้มันง่ายหน่อย จะได้ไม่ต้องอธิบายยืดยาว ไม่ใช่สอนภาษาจั๊กกะหน่อยเนอะ แต่ดิฉันจดไว้ในไดฯแค่คำเดียวเนี่ยแหล่ะค่ะ เพราะว่าทึ่งที่ลูก พูดออกมาจริงๆ มันเป็นคำที่เด็กเปี๊ยกขนาดนี้ไม่น่ารู้จัก )))
ตอนที่สามีกะดิฉันได้ยินครั้งแรกตกตะลึงว่า เฮ้ย.. เจ้าตัวเล็กนี่ช่างจดช่างจำเนอะ ยิ่งรู้อย่างงี้ เรายิ่งต้องระวัง ไม่ให้หลุดคำไม่สุภาพออกมาให้ลูกได้ยิน เพราะถ้าเธอ นึกอยากรีพีทออกมาท่ามกลางสาธารณะชน เดี๊ยนกะสามีคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
อย่างที่รู้ๆกันนะคะว่าเด็กๆส่วนใหญ่บ้ายอ ลูกดิฉันก็ด้วยค่ะ เพราะงั้นถ้าอยากให้เธอทำอะไรดีๆเป็นนิสัย ต้องพูดชมเธอตลอด เว่อร์เข้าไว้ อย่างเช่นเวลาเอมรู้จักเอาของเก็บเข้าที่ เดี๋ยวนี้นะ ถ้าดิฉันชมเธอว่า ‘เก่งมากลูก’ เอมจะพูดต่อทันทีว่า ‘เยี่ยมๆ’ (รับคำชมไม่มีปฏิเสธ)
*****
ตอนนี้เอมวาดรูปดีขึ้น ไม่เป็นเส้นยึกยือแล้ว แต่จะเป็นลากเส้น ยาวๆขีดๆหรือเป็นวงกลมวนๆๆไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด (ลากเส้นแบบไม่ยกมือ) บอกให้วาดอะไร ไม่ว่าคน สัตว์ สิ่งของ ก็จะออกมาเป็นวงกลม (แบบเบี้ยวๆ) เหมือนกันหมด ขนาดวาดพ่อกะแม่ยังออกมาหน้าตาเหมือนเวลาเธอวาด หมูหมากาไก่ ฮ่วย....
เอมรู้จักพูด"ของฉัน..ของเธอ" ได้ยินครั้งแรกตอนไปรับกลับจาก บ้านพี่เลี้ยง บนโต๊ะเค้าจะเรียงแก้วน้ำเด็กๆไว้หลายๆใบ แล้วเอมจะชี้ บอกดิฉันว่านี่แก้วตัวเอง "C’est à moi." (อ่านว่าเซ-ตา-มัว เหมือน it’s mine นั่นแหล่ะก่ะ) นี่ของเพื่อน "C’est à …" แล้วก็บอกชื่อไปว่าของใคร
ดิฉันได้ยินตอนนั้นแล้วโคดภูมิใจ รู้สึกน่ารัก ลูกฉันเก่ง เข้าใจความหมาย พัฒนาการทางภาษาเริ่ดๆ
แต่แล้วเมื่อกาลเวลาล่วงเลยผ่านมา 2 เดือน (ณ ปัจจุบันที่เขียน) พอได้ยินประโยคนี้ ความรู้สึกมันต่างไปแล้วค่ะ มันไม่ใช่แค่ประโยค บอกเล่าว่า "นี่ของหนู" แล้วหน่ะสิคะ มันกลายเป็น "นี่ของฉ้านนน มาม็องเข้าใจมั้ย"... ไม่เอา ไม่เอา เดี๋ยวค่อยเล่าตอนเวอร์ชั่นขวบครึ่งละกัน
Create Date : 29 กันยายน 2550 |
|
17 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2550 20:02:46 น. |
Counter : 858 Pageviews. |
|
|
|
แววเป็นเด็กช่างพูดและฉลาดออกแล้วนะคะเนี่ย
ภาพน้องวันนี้ ดูตัวโต มากกว่าเด็กขวบครึ่งเชียวล่ะค่ะ
ปล. เพิ่งทราบนะคะเนี่ย ว่าน้องเอมกลับไปไทย สนุกมั้ยคะ??