สีสันแห่งสายลม CoLors Of The Wind
Colors Of The Wind



Colors Of The Wind

..๏ เจ้าโปรดได้ใคร่ครวญอย่างถ้วนถี่
ถึงถิ่นที่พสุธาเจ้าอาศัย
มีคุณค่าหลายหลากมากเพียงใด
ฤๅปล่อยให้อุดมการณ์สะบั้นลง

อันห้วงน้ำธรรมชาติเคยปรารถนา
เฝ้ารักษาให้งามดั่งความประสงค์
ไยปล่อยร้างหมางเมินเกินดำรง
ให้จบลงสมัยเจ้าเท่านั้นฤๅ

เจตน์จำนงคงมิใช่นัยยะนั้น
ซึ่งสารพันความจริงสิ่งยึดถือ-
ขอเพียงเจ้าตรองบ้างอย่าวางมือ
ทุกสิ่งคือชีวิตและจิตใจ

ด้วยข้า ฯ รู้ว่าภูผามหาศาล
เด่นตระหง่านเป็นนิยามความยิ่งใหญ่
ทั้งรวยระรินกลิ่นบุปผาพฤกษาไพร
ล้วนทำให้สดชื่นจิตรื่นรมย์

เห็นสรรพสัตว์ชาติพันธุ์อันหลากหลาย
เยื้องย่างกรายแสนสนุกต่างสุขสม
จึ่งเข้าใจในสัตยธรรมความนิยม
เป็นสังคมธรรมธาติอาจอ้างอิง

ลองใคร่ครวญพิจารณาซึ่งสาเหตุ
โดยสังเกตุมนุษยชนจนสรรพสิ่ง
แม้พวกเราแตกต่างอย่างแท้จริง
แท้ชายหญิงเสมอกันทุกชั้นชน

มีชีวิตจิตใจวิสัยทัศน์
จงแจ้งชัดพิจารณาหาเหตุผล
เราต่างเป็นสุจริตวิศวชน
เฉกเช่นเจ้า ฯ ผู้ดั้นด้นคนเมืองนั้น

ถ้าเจ้ามีความฝันอันยิ่งใหญ่
ด้วยจิตใจเปี่ยมพลังทั้งมุ่งมั่น
จักพบสิ่งสารพันอันอัศจรรย์
ที่เจ้านั้นคาดหวังทั้งชีวี

นั่นเสียงวฤก*พฤกษ์ไพรใดเห่าหอน
ครั้งศศิธรแจ่มจรัสเรืองรัศมี ?
เจ้าแมวป่าว่องไวในท่วงที
ต่างหลบรี้โจนทะยานผ่านไปมา

ลวดลายหลากมากมีสีสวยสด
เช่นปรากฏให้คิดซึ่งปริศนา
เจ้าจักเลียนเปลี่ยนเสียงเยี่ยงสกุณา
ทั้งสัตว์ป่าทั่วไปในบรรพต ?

ที่เจื้อยแจ้วแนวป่าพนาสัณฑ์
เสียงลดหลั่นสูงต่ำเกินกำหนด
ชมไม้ป่าเถาวัลย์อันเลี้ยวลด
ซึ่งไม่คดเหมือนหนึ่งในจิตใจตน

เจ้าจักเพียรเขียนวาดสมปรารถนา
ให้โสภางดงามตามเหตุผล
เป็นลมพัดผ่านคีรีคิริกานน*
บันดาลดลแตกต่างนั้นอย่างใด ?

อันฤดูกาลแห่งพระพายอันกลายผัน
บางครานั้นเสมือนโกรธโทษยิ่งใหญ่
บางครั้งแผ่วพัดผ่านซ่านทรวงใน
เจ้าจักเพียรเขียนได้ให้ครบครัน ?

มาค้นหาพุทธธรรมอันล้ำค่า
ในขุนเขาลำเนาป่าพนาสัณฑ์
มารับรู้สัจจริงสิ่งสามัญ
ชิมผลสุกลูกไม้นั้นอันโอชา

มาสัมผัสสัตยธรรมล้ำเลอยิ่ง
แล้วทุกสิ่งที่เจ้าเฝ้าค้นหา
ล้วนรายล้อมทั่วไปให้พิจารณา
ต่างสวยงามล้ำค่ากว่าคาดเดา

แท้ลมฝนบนฟ้าอีกชลาศัย
เช่นพี่น้องคล้องใจในเรือนเหย้า
นกกระสาตัวนากหลากหลายเชาว์
เป็นเพื่อนเราตลอดไปด้วยไมตรี

แล้วเมื่อเราเปี่ยมล้นกุศลจิต
เหมือนญาติมิตรสนิทใจไม่หน่ายหนี
พร้อมโอบเอื้อทุกคราอย่างปรานี
ยามเรามีประสบเหตุพบเภทภัย

ตราบว่ายวนจนหลงในสงสาร
จวบสิ้นกาลไม่รู้ฝั่งอยู่ไหน
กิเลสกรรมนำวิบากหลายหลากไป
ครั้นเผลอไผลหลงกลจักวนเวียน

จงใคร่ครวญให้ถ้วนถี่ที่ดวงจิต
สิ่งถูกผิดชนะแพ้ล้วนแปรเปลี่ยน
เจ้าจักแจ้งในสัจธรรมอันจำเนียร
หมายรักษ์เกียรติ์สุขไว้อย่างไรกัน

หากประหาณ*โพธิญาณพิศาลสุทธิ์
ซึ่งประดุจคุณธรรมนำสุขสันต์
แล้วเจ้าจงเพ่งพินิจจิตสัมพันธ์
สิ่งเหล่านั้นจักยังคงสูงส่งฤๅ ?

หากเจ้ามีความฝันอันยิ่งใหญ่
ด้วยจิตใจเปี่ยมพลังทั้งเชื่อถือ
ความพิลาสอัศจรรย์อันเลื่องลือ
เหล่านั้นคือผลสัมพัทธ์แห่งปรัชญา

นั่นเสียงวฤก*พฤกษ์ไพรใดเห่าหอน
ครั้งศศิธรแจ่มกระจ่างกลางเวหา ?
แม้นชนชั้นพันธุ์เผ่าเราแปลกตา
เจ้าจงอย่าได้วิตกตระหนกเลย

ร่วมปรองดองคล้องใจให้คงมั่น
แล้วรำพันบทกวีที่เอื้อนเอ่ย
เพลงพรรณนาป่าเขาเราคุ้นเคย
ข้า ฯ จักเปรยถ้อยคำนำรื่นรมย์

ร่วมบรรยายร่ายกวีเปรมปรีดิ์นัก
ด้วยประจักษ์ความงามตามเหมาะสม
ทั้งสีสันตระการใจแห่งสายลม
แล้วชื่นชมสมดุลย์อย่างสุนทรี

เจ้าจักแจ้งสัจธรรมความจริงแท้
ความผันแปรแห่งโลกธรรมตามวิถี
ตราบเมื่อเจ้าระบายความตามเสรี
นิยามสีซึ่งเปลี่ยนแปลงแห่งสายลม ๚ะ๛




Colors Of The Wind
Artist : Vanessa Williams , Music: Alan Menken , Lyrics: Stephen Schwartz
From Disney's Motion Picture "Pocahontas" 1995
Director : Mike Gabriel, Eric Goldberg
Writer : Carl Binder, Susannah Grant, Andrew Chapman, Philip LaZebnik

Think you own whatever land you land on
Earth is just a dead thing you can claim
But I know every rock and tree and creature
Has a life, has a spirit, has a name

Think the only people who are people
Are the people who look and think like you
But if you walk the footsteps of a stranger
You learn things you never knew
You never knew

1-Have you ever heard the wolf cry
to the blue corn moon?
or ask the grinning bobcat why he grinned
Can you sing with all the voices
of the mountains?
Can you paint with all the colors of the wind?
Can you paint with all the colors of the wind?

Come run the hidden pine trails of the forest
Come taste the sun-sweet berries of the earth
Come roll in all the riches all around you
And for once never wonder what they're worth

The rainstorm and the rivers are my brothers
And the heron and the otter are my friends
And we are all connected to each other
In a circle in a hoop that never ends
(rpt 1
...or let the eagle tell you where he's been)

How high does the sycamore grow
If you cut it down, then you'll never know

And you'll never hear the wolf cry
To the blue corn moon
Or whether we are white or copper-skinned
We need to sing with all the voices of the mountains
To paint with all the colors of the wind
You can own the Earth and still all you'll own is earth
Until you can paint with all the colors of the wind




Colors Of The Wind . .เป็นผลงานประพันธ์ของ Alan Menken เนื้อร้องโดย Stephen Schwartz ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทเพลงดีเด่นในปี 1995 จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นของดีสนีย์เรื่อง Pocahontas แล้วยังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ the Golden Globe ในสาขาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงาน Grammy Award อีกด้วย บทเพลงบรรยายถึงทัศนคติของชาวพื้นเมืองอเมริกันที่มองโลกเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่มนุษย์จะต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับทุกๆสิ่งในธรรมชาติ

Judy Kuhn เป็นผู้ร้องเพลงนี้แทนเสียงของ Pocahontas ในภาพยนตร์ แต่ Vanessa Williams เป็นผู้ร้องอัดแผ่นกลายเป็น single ยอดฮิตแผ่นหนึ่งของ Williams ไปในปี 1995 ได้รางวัล gold single ที่มียอดขายถึง 500,000 แผ่นทีเดียว หลังจากนั้นก็มีการร้องใหม่อีกหลายครั้งโดย Ashanti, Edyta G๓rniak (สำหรับภาพยนตร์ภาคภาษา Polish), Christy Carlson Romano และ Arturo Sandoval.

ในบทเพลงColors Of The Wind .. Pocahontas พยายามอธิบายให้ จอห์น Captain John Smithเข้าใจถึงความมหัศจรรย์ของโลกและธรรมชาติรวมทั้งจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เพื่อไม่ให้เขาคิดว่าเหล่านั้นเป็นสิ่งของที่จะยึดเอามาครอบครองเป็นเจ้าของได้ แต่ควรจะอยู่ร่วมกับมันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เธอยังพยายามทำให้เขายอมรับเพื่อนมนุษย์ที่มีรูปร่างหน้าตาและวัฒนธรรมแตกต่างไปจากตนทั้งยังให้ศึกษาเรียนรู้จากพวกเขาด้วย



ท่อนแรกของบทเพลงกล่าวถึงสุนัขป่าที่โหยหวนในคืนจันทร์หม่น
แล้วก็กล่าวถึงภาพต่าง ๆ ในท้องเรื่อง
จากนั้นก็ กล่าวถึงการเลียนเสียงสรรพสิ่งในขุนเขา
แล้วก็สรุปด้วยการจินตนาการภาพอันประกอบด้วยสีสันแห่งสายลม




Captain John Smith นำกองทัพเรืออังกฤษไปสู่โลกใหม่เพื่อปล้นความมั่งคั่งกลับสู่อังกฤษ(หรือกล่าวให้ชัดคือ เพื่อความมั่งคั่งของผู้ว่าการ รัทคลิฟ ที่มาด้วยกัน) ในขณะที่ ณ โลกใหม่แห่งนี้ หัวหน้าเผ่า พาวฮาตันกำลังเตรียมพิธีแต่งงานPocahontas บุตรสาวของตนให้แก่นักรบที่เก่งที่สุดของเผ่า แต่Pocahontasกลับคิดอีกอย่างหนึ่ง เธอฝันเห็นลูกธนูพุ่งหมุนติ้ว...จากฝันนั้นเธอเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวเธอกำลังจะมาถึง แล้วชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปจริงๆเมื่อเรือรบอังกฤษเข้าเทียบฝั่งใกล้ๆหมู่บ้านของเธอ ระหว่างรัทคลิฟ ซึ่งเชื่อว่าพวกคนป่าซ่อนทองคำมหาศาลไว้ กับชนเผ่าพาวฮาตันซึ่งเชื่อว่าพวกหน้าขาวที่มาใหม่นี้จะมาทำลายแผ่นดินของพวกเขา Captain John Smith กับPocahontasจึงต้องทำหน้าที่หนักที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดสงครามขึ้นและรักษาความรักของเขาทั้งสองไว้ให้ได้



Pocahontas เกิดปี 1596 (ไม่ปรากฏวันที่แน่นอน) และเสียชีวิต เดือนมีนาคม 1617

Pocahontas เป็นบุตรสาวของพาวอาตัน หัวหน้าอินเดียนแดงเชื้อสายอัลคอนเกวียน (ชนเผ่าพาวฮาตัน)ซึ่งตั้งรกรากอยู่แถวเวอร์จิเนียปัจจุบัน ชื่อจริงของเธอคือ มาโทอะคา ชื่อPocahontasเป็นชื่อเล่น แปลว่า ขี้เล่น หรือ นังตัวร้าย ที่Pocahontasมีชื่อเสียงมากเนื่องจากเธอได้ช่วยชีวิต Captain John Smith ชาวอังกฤษ ในช่วงชีวิตที่แสนสั้น (เธอตายเมื่ออายุเพียง 22 ปี ) เธอยังมีความสำคัญในด้านอื่นอีก Pocahontasพยายามที่จะให้เกิดสันติภาพขึ้นระหว่างชนเผ่าพาวฮาตันกับนักล่าอาณานิคมชาวอังกฤษ ถึงกับยอมเข้ารีตศาสนาคริสต์และแต่งงานกับ จอห์น รอล์ฟ นักล่าอาณานิคมแห่ง เจมส์ทาวน์ ซึ่งเป็นตัวประสานให้สองกลุ่มรวมกันได้ แต่เนื่องจากเธอไปเสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษเร็วเกินไป ทำให้เสียโอกาสที่จะสานต่อสันติภาพในเวอร์จิเนียระหว่าง อัลคอนเกวียน กับพวกล่าอาณานิคม


(John Rolfe and Pocahontas being married at Jamestown )

มีอยู่คำหนึ่งในเนื้อเพลงที่น่าสนใจ คือคำว่า Blue Corn Moon .. คงไม่มีผู้ใดอธิบายความในวลีนี้ได้ดีมากไปกว่าผู้ประพันธ์เพลง (Stephen Schwartz) ซึ่งเขาก็ยอมรับว่า คำ ๆนี้ ไม่มีความหมายอะไรเลยในเรื่องเล่าของอินเดียนแดง แต่ที่นำมาแต่งเพลงเพราะเขาชอบคำนี้เท่านั้น ซึ่งจุดเริ่มต้นมีอยู่ว่า ขณะที่เขาเตรียมประพันธ์เพลงสำหรับPocahontasนั้น เขาต้องอ่านบทประพันธ์พื้นเมืองมากมาย แล้วบังเอิญไปเจอข้อความในบทประพันธ์หนึ่งว่า
"..I will come to you in the moon of green corn.."
“..ฉันจะมาหาเธอในเดือนข้าวโพดเขียว..”

ชาวอเมริกันพื้นเมืองเรียกเดือน(ปฏิทิน)ว่า เดือน(ดวงจันทร์-moon) โดยตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูนั้น ๆ เช่นช่วงเวลาที่ข้าวโพดออกฟักเขียว ข้อความดังกล่าวโดนใจเขาเป็นอย่างมาก แต่เขาก็คิดว่า ถ้าจะแต่งเนื้อร้องว่า "Have you ever heard the wolf cry to the green corn moon" คงไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ มันเหมือนเอา moon มารวมกับ green cheese กับเสียงสระ “อี-ee” ในสองคำนี้ เขาเลยเปลี่ยนเป็น blue corn moon ซึ่งผมคิดว่าน่าจะสละสลวยกว่า เพราะใช้วลี "blue moon" (ที่แปลว่า ระยะเวลาอันยาวนาน) แล้วมันก็ยังมีขนมปังข้าวโพดที่เรียกว่า blue corn tortillas จริงๆด้วย กระนั้นก็ตาม มันก็ไม่ได้หมายถึงเผ่าทางตะวันตกเฉียงใต้ว่าจะเป็นเชื้อสายAlgonkians ของPocahontasทางตะวันออกเฉียงเหนือ ... ในสายตาของเรา คำว่า blue corn moon เป็นคำที่ผันวลีได้อย่างงดงามทีเดียว

เราเลือกที่จะเขียนกลอนจากเพลงนี้ ด้วยเหตุที่เพลงบทนี้มีความหมายที่ดี ท่ามกลางโลกที่ร้อนระอุ การแก่งแย่ง...ถึงแม้ว่า ไม่เหมือน แต่ก็คล้ายยุคล่าอาณานิคม อาจจะเป็นไปได้ว่า... ในยุคสมัยของเรานี้อาจจะยังไม่พ้นยุคล่าอาณานิคม เพียงแต่รูปแบบเปลี่ยนไป จากการยึดครองดินแดน ..เป็นการยึดครองเสรีภาพแห่งดินแดนตัวเอง ความรู้สึกที่เราได้รับรู้ได้สัมผัส ในเวลาดูภาพยนตร์คาวบอย เราจะรู้สึกว่า.. พวกอินเดียนแดงนี่ช่างโหดร้ายแท้ อำมหิต และชอบการฆ่าฟัน .. ใช่แล้ว เราถูกกำกับให้รู้สึกเช่นนั้น .. แท้ที่จริงพวกเขาสู้เพื่อมาตุภูมิโดยแท้ เพื่อปกป้องชนเผ่าของตนจากผู้รุกราน..

ถึงแม้ว่าจะผ่านเวลามาเนิ่นนานพอสมควร แต่ความประทับใจยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของอัลมิตรา ซาบซึ้งใจในมิตรภาพของคนสองคน ที่มีความแตกต่างอย่างยิ่งยวด ด้านวิสัยทัศน์ สังคม อุดมการณ์ ความเชื่อ และวิถีชีวิต รวมถึงเชื้อสายเผ่าพันธุ์ มิตรภาพที่ดีนี่ .. ไม่มีสิ่งใดกั้นขวางจริง ๆ และจากมุมมองที่สวยงาม สื่อความออกจากธรรมชาติที่จริงใจจริงจัง ไม่หลอกลวงทำร้ายมุ่งร้ายกัน .. ถือได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่สวยงามและให้แง่คิดที่ดีมากทีเดียว

":.อย่าคิดว่ามันจะเป็นอะไรที่เจ้าสามารถยึดครองหรือเอามาเป็นเจ้าของได้ แต่ควรจะอยู่ร่วมกับมันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน.."
ประโยคที่Pocahontasกล่าวกับCaptain John Smithในนัยยะของบทเพลง Colors Of The Wind ประโยคดังกล่าวคงเป็นสัจธรรมที่ยังคงเป็นนิรันดร์

มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า



Create Date : 08 ตุลาคม 2549
Last Update : 13 ตุลาคม 2549 12:25:10 น.
Counter : 5760 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

จังงัง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ตุลาคม 2549

1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog