|
บทเพลงไพร ๏ เลื่อนลอยผ่านม่านฟ้าเวหาหาว หากครั้งคราวยังกระจายแยกซ้ายขวา ครั้นเริงลมสมใจครรไลลา เรียงรายล่องผองนภามาพร้อมเพรียง
ผองแมกไม้ใหญ่น้อยที่คล้อยผ่าน พลางพบพานครั้งคราวราวส่งเสียง ซึ่งไพเราะเสนาะล้ำในสำเนียง เนิ่นนานเพียงดนตรีที่ตรึงใจ
จากดอกไม้พิไลล้ำคราคร่ำต้น ต่างแยกตนจากมาสู่ฟ้าใหญ่ ยลโลกหล้านภาพรหมชมพฤกษ์ไพร พลัดพรากไม้ต้นแม่แม้อาวรณ์
แว่วหวิวว่าถลาลมแล้วชมชื่น ช่างดาษดื่นเคว้งคว้างบ้างว้าว่อน เวิ้งว้างหวิวพลิ้วไหวในอัมพร พร้อมกลิ่นล้ำกำจรตอนพบพาน
ผองมาลาถลาลมภิรมย์แล้ว ระเริงลิ่วทิวแถวเนื่องแนวผ่าน พลางสูดกลิ่นหอมเพลินอย่างเนิ่นนาน นำเบิกบานสราญใจยามได้ยล
ยิ่งดอกใดใกล้นักจักไขว่คว้า คงสมค่าสุขใจในอิฐผล เพื่อดมดอมหอมหวงดั่งดวงกมล มาดแม้นตนจากไกลใคร่จดจำ
จ้าลอยลาถลาล่อนไปก่อนแล้ว ฤๅแน่แน่วมุ่งนภาฟ้าเลิศล้ำ ลมนำลิ่วปลิวประหนึ่งซึ่งนาฏกรรม กรีดกรายนำชื่นชมอย่างสมใจ
จนพลัดพรากจากพลันจึงหวั่นจิต จวบวันคืนฝืนคิดจิตฝันใฝ่ เฝ้ามองหาบุปผชาติเคลื่อนคลาดไกล ก่อนจากไปยังคะนึงถึงมาลา ๚ะ๛
...บทกวีนี้ อาจไม่เจาะจงว่าเป็นดอกไม้ใด ...เพราะอยากให้มองเป็นภาพรวม เลยไม่ระบุและเจาะจงลงไปว่าดอกอะไร ...จริง ๆ อยากให้บรรยากาศรอบข้าง..ดูสดใสและงดงามบ้าง... ...ให้คนอ่านเพลิดเพลินและนึกรักและหวงแหนความงดงามของธรรมชาติ ...และสุดท้ายจะรู้ว่า แมกไม้ใบหญ้า..ให้อะไรพวกเรามากมาย ...อย่างน้อย..ก็ให้คนคนหนึ่ง..ยืนมองและสูดดมความหอม...ได้อย่างสุขใจ
|
1 2 3 4 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29
|