Italy, Austria & Germany: Firenze (27-29 Sept. 2008) Part 4
ดูด้านใน Duomo เสร็จแล้ว พวกเราก็ออกมาชื่นชมด้านนอกกันบ้าง


ฟ้าเป็นฟ้าอะค่ะ (>_<)


Mosaics ภาพ Christ enthroned between Mary and St. John the Baptist, with Florentine saints โดย Niccolo Barabino เหนือประตูทางเข้าตรงกลางค่ะ


The south door (ถ้าหันหน้าเข้าหา Duomo จะเป็นประตูทางขวามืออะค่ะ)


มุมเงย ...อิ อิ ชอบอะค่ะ ดูใกล้ ๆ ยิ่งสวย (>_<)


รูปแกะสลักนูนต่ำ ...บริเวณส่วนใกล้ ๆ ฐานของ Campanile (หอระฆังของ Duomo อะค่ะ)


Dome ที่ออกแบบด้วย Filippo Brunelleschi

จริง ๆ ทั้ง Campanile และ Duomo เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทิวทัศน์ของเมือง Firenze ได้นะคะ แต่เรากับเอื้อมไม่อยากตะกายกันแล้วอะ (- -') ก็เลยทำเป็นไขสือเวลาป้าสุพูดว่าจะขึ้นโดม แหะ แหะ


รถม้า ...น่าลองนั่งดูสักทีเนอะ

เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ Baptistry เปิดตั้งแต่ 08.30 am และปิดตอน 02.00 pm พวกเราก็เลยอดเข้าชม พวกเราไม่รู้จะทำอะไรก็เลยกลับไปที่พัก เพื่อขึ้นไปบนดาดฟ้า ถ่ายรูป Duomo ตอนกลางวัน

ระหว่างเดินกลับ พวกเราก็ช่วยกันเตือนว่าให้บอก Mr.Antonio ว่าวันที่ 30 พวกเราต้อง check out ออกตอน 08.00 am เพราะฉะนั้น ต้องจ่ายเงินค่าที่พักในคืนวันที่ 29 ก่อนอะค่ะ แต่โชคดีของเราที่ตอนกำลังจะเปิดประตูชั้นล่าง เราเจอ Mr.Antonio พอดี และเนื่องจากป้าสุปลื้ม Mr.Antionio อยู่ เรากับเอื้อมก็เลยปล่อยให้ป้าสุเป็นคนบอก

แต่...ป้าสุดันเขินแล้วพอเรียบเรียงออกมาเป็นภาษาอังกฤษ Mr.Antonio กลับเข้าใจว่าพวกเราจะพักแค่ 3 คืน จากที่จองไว้ 4 คืน ...กรี๊ด ๆ ไม่ช่ายยยยยย T_T... เรากับเอื้อมก็เลยต้องรีบช่วยกันอธิบาย จนเค้าเข้าใจอะ ...เฮ้ออออ ป้าคร๊าบบบบ ไอ้ความเขินของป้าเนี่ย เกือบทำพวกเราไม่มีที่นอนกันแล้วนะคร๊าบบบบ (- -')... Mr.Antonio ก็เลยยื่นข้อเสนอว่าไหน ๆ ก็ต้องจ่ายก่อนล่วงหน้า งั้นวันนี้เจอกันแล้ว พวกเราจะจ่ายวันนี้เลยไหม ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราต้องตกลงอยู่แล้ว

หลังจากจ่ายเงินค่าที่พักเรียบร้อย Mr.Antionio ก็ถามถึง House wine ว่าหมดหรือยัง พอพวกเราบอกว่าหมดตั้งแต่วันแรกแล้ว เค้าก็เลยเอามาให้อีกขวด บอกว่า "For nice persons" ...กรี๊ด ๆ นอกจากหน้าตาดี แล้วยังใจดีด้วยนะเนี่ย (>_<)... พร้อมกันนั้น Mr.Antonio ก็บอกว่าอย่าลืมไป comment โรงแรมเค้าดี ๆ นะ (คือ ต้องอธิบายก่อนว่าเราจองโรงแรมนี้ผ่าน //www.venere.com อะค่ะ แล้วเค้าจะมีแบบแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับที่พักส่งมาให้เรา หลังจากที่เราไปพักแล้วอะ) แต่เค้าก็พูดขำ ๆ ว่าไม่ต้อง comment ว่าที่โรงแรมดี เพราะให้ไวน์ฟรี 2 ขวดนะ ไม่งั้นเค้าต้องแจกไวน์ห้องละ 2 ขวดแน่ ๆ hahaha [เอ่อ ว่าแต่เอามาเล่าในนี้ คงไม่ถือว่าเป็น comment หรอกเนอะ (- -')]

นอกจากเรื่องไวน์ เค้าก็ถามว่าพวกเราขึ้นไปชมวิวข้างบนดาดฟ้าหรือยัง พอเราตอบว่าไปมาแล้ว เค้าก็ถามว่าไปตอนไหน เราก็เลยบอกว่าก็ไปตอนกลางคืนแล้วก็ตอนเช้า เค้าก็ทำหน้าทึ่ง ๆ ...ป้าสุมาบอกทีหลังว่าเค้าคงนึกว่าอี 3 คนนี้มันต้องบ้าแน่ ๆ กลางคืนหนาวขนาดนั้น มันขึ้นไปทำไมฟะ hahaha...

หลังจากเสร็จธุระ พวกเราก็เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าค่ะ ตอนที่พวกเราไปถึง มีกลุ่มคุณป้า 3-4 คนนั่งเม้าท์กันอยู่บนดาดฟ้าด้วยล่ะ ...ป้าสุบอกว่านึกภาพพวกเราตอนแก่ออกเลยว่าเป็นยังไง hahaha


ถ่ายรูปกับ Duomo จากบนดาดฟ้า


อีก 1 version ...บนดาดฟ้ามีโต๊ะ-เก้าอี้ให้ประมาณ 3-4 ชุดค่ะ ส่วนหนังสือที่เราถืออยู่ในมือเป็นหนังสือ Florence: Just add water ที่ป้าสุซื้อมาจาก Galleria dell'Accademia


แสงลอดผ่านเมฆสวยดีอะค่ะ :)

ชื่นชมทิวทัศน์บนดาดฟ้ากันเสร็จ พวกเราก็ออกเดินต่อไป Santa Maria Novella


Santa Maria Novella

พวกเราไม่ได้เข้าไปชมข้างในค่ะ เพราะโบสถ์ปิด 05.00 pm แต่นักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมต้องไปถึงโบสถ์ก่อนเวลาปิด 30 min อะ T_T

จากนั้นพวกเราก็เลยไป Stazione Centrale di Santa Maria Novella หรือสถานีรถไฟของ Firenze เพื่อเช็คเวลาไป Pisa อะค่ะ ...ตอนแรกป้าสุจะให้ซื้อตั๋วเลย แต่เอื้อมบอกว่ารถไฟไป Pisa มีทุกชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วไว้ก่อน เราเห็นด้วยกับเอื้อมนะคะ เพราะเริ่มรู้สึกว่าพวกเราเอาเวลาขึ้นรถไฟมาเป็นส่วนสำคัญในการเดินทางจนทำให้พวกเราเหนื่อยอะ อย่างที่จะไป Pisa พรุ่งนี้ จำเป็นไหมที่จะต้องตื่นเช้า ก็ไม่จำเป็น เพราะมีรถไฟออกไปทุกชั่วโมง ถ้าซื้อตั๋วไว้เลย ก็กลายเป็นว่าพวกเราต้องรีบร้อนมาให้ทัน สู้มาถึงตอนไหนก็ดูเวลารถไฟออก แล้วค่อยซื้อตั๋ว น่าจะสบายใจกว่า อีกอย่างพวกเรา (หมายถึงเอื้อมกับเรา) ก็ไม่ใช่คนเอื่อยเฉื่อยขนาดไม่รู้จักเวล่ำเวลา เพียงแต่ไม่ชอบการเร่งรีบอะค่ะ แหะ แหะ


ด้านข้าง Santa Maria Novella ...ถ่ายจากหน้า Stazione Centrale di Santa Maria Novella ค่ะ :)

หลังจากป้าสุนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว พวกเราก็เลยเดินไปสำรวจแถว ๆ ถนนที่พวกเราไปทานอาหารเช้ากันอะค่ะ


Cappelle Medicee ...พวกเราเดินผ่านตั้งแต่เช้าวันแรกใน Firenze เลย แต่ไม่มีใครคิดว่าจะอยู่ใกล้ที่พัก (และที่ทานอาหารเช้า) ของพวกเราขนาดนี้ (- -') และเพราะมัวแต่ละเลย ก็เลยอดเข้าชมอะค่ะ T_T

แอบวนไปชม San Lorenzo เหมือนกัน แต่โบสถ์ปิดวันอาทิตย์อะ T_T

จากนั้นพวกเราก็เดินกลับไป shopping street แถว ๆ Duomo อะค่ะ แต่ป้าสุเดินไม่ไหวแล้วก็เลยขอไปนั่งรอเอื้อมกับเราที่ร้านอาหาร ...และด้วยความบ้าพลังของเอื้อมกับเรา หลังออกจาร้าน Sara พวกเราก็เดินไป Ponte Vecchio เพื่อถ่ายภาพวิวสะพานตอนพระอาทิตย์กำลังตกอะ แต่ไม่มะทัน T_T ((มีแต่เรื่องน่าเสียดายแฮะช่วงหลัง ๆ hahaha))

พอเดินกลับมาร้านอาหารที่นัดป้าสุไว้ ป้าสุก็ถามว่าพวกเราเดินไปถึงไหนกัน พอพวกเราตอบว่า Ponte Vecchio ป้าสุก็ทึ่ง เพราะพวกเราเดินได้เร็วมากกกกกก แค่ช่วงระยะเวลาที่ป้าสุทานข้าว พวกเราสามารถเดินไป-กลับ Ponte Vecchio ได้ hahaha

จากนั้นพวกเราก็กลับที่พักมาพักผ่อนค่ะ เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไป Pisa อะ ((กรุณาติดตามอ่านตอน Pisa นะคะ แต่ตอนนี้ขอเล่าใน Firenze ให้หมดเลยละกัน))

วันที่ 29 กันยายน ...พวกเรากลับมาถึง Firenze ประมาณ 04.00 pm ค่ะ กะเวลาไว้ให้กลับมาทันเข้าชม San Lorenzo อะ :)

ที่ San Lorenzo มีงาน Michelangelo อยู่ชิ้นนึงที่นักท่องเที่ยวทุกคนอยากดู คือ Biblioteca Staircase ค่ะ และพวกเราก็เสียตังค์เพราะคิดว่าจะได้ดูเหมือนกัน แต่อด hahaha เพราะเค้าปิดไม่จัดแสดงอะค่ะ ฮือ ฮือ ((เราไม่ได้ถ่ายรูป San Lorenzo เพราะกล้องถ่ายรูปเราแบต ฯ หมดอะ เก็บพลังงานไว้ถ่ายเฉพาะที่เราชอบดีกว่า))

ออกจาก San Lorenzo พวกเราก็ไป Baptistry ค่ะ


Baptistry


mosaics ภาพ Last Judgement เหนือพระเยซูเป็นภาพ Choirs of Angels ...ภายใน Baptistry


mosaics สีทองบนซุ้มทางโค้งด้านใน Baptistry


ข้างล่างรูปเทวดา เป็น mosaics Stories of Adam & Eve ค่ะ

พวกเรานั่งแช่อยู่ใน Baptistry กันเกือบชั่วโมงอะค่ะ หลังจากนั้นก็ออกมาเดินชมประตูต่าง ๆ ของ Baptistry ต่อ


ประตูทางด้านทิศตะวันออกค่ะ

ในประตูเป็นรูปสลักนูนต่ำที่ศิลปินนำเอา scene ต่าง ๆ มาใช้อะค่ะ


The Battle with the Philistines


Moses Receives the Ten Commandments

หลังจากนั้นเอื้อมกับเราก็แยกกันกับป้าสุ โดยนัดเจอกันที่ห้องตอน 07.30 pm อะค่ะ ...เรากับเอื้อมไปตระเวนหาซื้อหนังสือ Florence for kids กัน [พวกเราเห็นหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ใน Galleria dell'Accademia แล้วล่ะ แต่ตอนนั้นลังเลที่จะซื้อ พอวันนี้รู้สึกว่าควรซื้อเก็บไว้ แล้ว Galleria dell'Accademia ก็ปิดวันจันทร์ พวกเราก็เลยต้องเดินหาตามร้านขายหนังสืออะค่ะ] เอ่อ ไม่ได้ซื้อมาฝากเด็กที่ไหนหรอกนะคะ แต่สองคนซื้อมาอ่านกันเอง hahaha

และแล้วพวกเราก็ได้หนังสือตามประสงค์ (>_<) จากนั้นก็กลับไปเดินแถว Duomo กันอีกรอบ คราวนี้สำรวจเส้นทางที่พวกเรายังไม่เคยเดินกัน

หลังจากเดินเข้าซอยนู้นออกซอยนี้ เราก็หันไปเห็นสิ่งก่อสร้างอย่างหนึ่ง


The big Arch @ Piazza della Repubblica

หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเรากับเอื้อมเดิน shopping street กันทุกวันคงจะซื้อของเยอะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยค่ะ โดยปกติเราเป็นคนซื้อของยากอยู่แล้ว ถ้าไม่ถูกก็จะไม่ค่อยซื้อง่าย ๆ อะ ดังนั้น เดินก็คือเดินเฉย ๆ อะ สำรวจซอกซอยว่าจากไหนไปไหน แค่นั้น hahaha

พอ 07.30 pm พวกเราก็กลับไปเจอป้าสุที่ที่พัก ป้าสุบอกว่าป้าสุไปขึ้นโดมมา เหนื่อยมาก แต่เจ้าหน้าที่ข้างบนก็หล่อมาก hahaha ...ถามว่าเราเสียดายหรือเปล่าที่ไม่ได้ขึ้นโดม ไม่เสียดายนะคะ แต่เสียดายที่ไม่ได้เจอคนหล่ออะ (- -')

มื้อนั้น ป้าสุ request ขอทานอาหารจีนค่ะ เพราะป้าสุเลี่ยนอาหารฝรั่งแล้ว เรากับเอื้อมก็ ok ก็เลยไปทานร้านอาหารจีนใกล้ ๆ ที่พัก ...จำชื่อไม่ได้อะค่ะ ขออภัย... จากนั้นก็แยกกันอีก ป้าสุล่วงหน้ากลับที่พักก่อน ส่วนเรากับเอื้อมแวะร้าน internet เพื่อเช็ค email ส่งข่าวถึงเพื่อนฝูงว่าช้านยังมีชีวิตอยู่นะเฟ้ย ประมาณนั้น hahaha

คืนนั้นพวกเราต้อง pack กระเป๋า เพื่อเตรียมออกเดินทางไป Venezia หรือ Venice เมืองในฝันของหลาย ๆ คนค่ะ ...กรี๊ด ๆ

(โปรดติดตามตอนต่อไป)




Create Date : 07 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2551 13:24:28 น.
Counter : 965 Pageviews.

3 comments
  
ว้าว ว้าว ! อ้ายบ่าวอิตาเลี่ยนนี่คงจะหล่อทุกคนเลยใช่ป่าวค่ะ แหม หล่อแถมยังนิสัยดีอีก อยากชวนไปล่องเรือกอนโดล่า ที่เวนิสต่อ อิอิ
โดย: มิ้วค่า IP: 61.19.144.194 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:52:04 น.
  
แวะมาอ่านจ้า เห็นน้องนุ่นโพสลิ้งไว้ใน ฮิห้า

จริงๆ พี่ก็มี login pantip นะ อิอิ
แต่ไม่บอกหรอกว่าอะไร
โดย: พี่น้ำผึ้งเอง IP: 114.128.48.237 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:18:32 น.
  
เอ๊า...เที่ยวเข้าไป แต่ไม่ยักกะสอยหนุ่มมาฝากสักคน ฮ่วยยย
โดย: ป้าเก๋สวย IP: 84.99.252.160 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:50:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
พฤศจิกายน 2551

 
 
 
 
 
 
1
2
3
9
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
27
28
29
30
 
 
All Blog