I'm not a bitch, I just have a low tolerance for bullshit.
|
|||
ลมหนาว - ปาล์มขวด เมื่อเสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมา (18-19 มิ.ย.) ได้มีโอกาสไปปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมงานรับน้องของกลุ่มปาล์มขวด นิติฯ มธ. ค่ะ จากวันที่เราได้เข้าเป็นน้องใหม่ของกลุ่มปาล์มขวด จนถึงวันนี้ก็ 10 ปีแล้วนะคะ ...ไม่น่าเชื่อเลย - -'... ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่าพอ entrance เข้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ ในวันรับเพื่อนใหม่จะมีการแบ่งกลุ่มน้องปี 1 ให้เข้าไปอยู่ในแต่ละกลุ่ม ซึ่งมีทั้งหมด 24 กลุ่มค่ะ ได้แก่ ปาล์มขวด, พรรคมาร, รังมด, เสือเขย่ง, เสือกระดาษ, TULA, รพีพัฒน์, เสือซ่อนเล็บ, เสือสี่แยก, นิติรักษ์.แสด-ดำ, ริมทาง, ศาลา, ข้างลิฟท์, Hi Jum, ไส้สอด, เสือเอาละวา, Union One, Out-Law, ใต้กระได, รากไม้, หางนกยูง, กลมก้อน และ กลางสวน เฉลี่ยแล้วแต่ละกลุ่มจะมีน้องใหม่ประมาณ 20 กว่าคนค่ะ ขอสารภาพว่าในวันรับเพื่อนใหม่ที่เค้าแบ่งกลุ่ม เรากับเพื่อนคนนึงที่เพิ่งรู้จักกันวันนั้นชวนกันโดดกลับก่อนค่ะ ด้วยความละอายใจเป็นอย่างยิ่ง hahaha ผลที่ตามมาคือไม่รู้ว่าตัวเองอยู่กลุ่มไหน โชคดีที่เพื่อนคนนี้มีพี่สาวรู้จักกับรุ่นพี่ในกลุ่มปาล์มขวด เลยขอให้รับน้องเค้ากับเราเข้าไปอยู่ด้วย เราเลยได้อยู่กลุ่มปาล์มขวดด้วยประการฉะนี้ค่ะ ที่มาของ "ลมหนาว" ก็มีอยู่ว่าตอนปี 1 มีเพื่อนในกลุ่มขับรถไปเรียนค่ะ ...ตอนนั้นต้องไปเรียนที่ มธ. ศูนย์รังสิต... ตอนเย็นเพื่อน ๆ ก็จะติดรถกลับเข้ากรุงเทพฯ ด้วย มีแต่สาว ๆ น่ะค่ะ โสดสนิทกันทุกคน hahaha แล้วบังเอิญเพลงลมหนาวออกมาพอดี เวลานั่งฟังในรถ ทุกคนก็ลงความเห็นว่าเข้ากับพวกเรามาก ๆ เลย "ผ่านลมหนาว จะกี่คราวก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีใครให้ใจอุ่น..." หูยยยยย ได้อารมณ์ hahaha เลยกลายเป็นเพลงของกลุ่มไปโดยปริยาย - -' แล้วเราก็ตั้งเสียงเรียกเข้าของเพื่อนมหาวิทยาลัยเป็นเพลงลมหนาวนี่แหละค่ะ ................................................... ตั้งแต่จบปริญญาตรีมา เราก็ไม่เคยไปรับน้องกับกลุ่มอีกเลย รู้สึกห่าง ๆ น่ะค่ะ จนมาปีนี้ เมื่อรุ่นน้องปี 2 โทรมาชวนให้ไปรับน้อง ด้วยความที่เราอยากไปทะเลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใจก็เลยเอนไปเกินครึ่งค่ะ หลังจากคุยกับเพื่อนแล้วเพื่อนบอกว่าจะไป ก็เลยไปด้วยดีกว่า hahaha สรุปรวบรวมเพื่อน ๆ ไปกันได้ 6 คนค่ะ มีชายหนุ่มไปแค่คนเดียว ตอนแรกท่านเล่นตัว กว่าจะให้คำตอบได้ก็วันสุดท้าย เพื่อนบอกว่าให้มันเล่นตัวหน่อย อายุก็ใกล้ 30 แล้ว เราเลยบอกว่า เพราะมัวแต่เล่นตัวอย่างนี้นี่น่ะสิ ถึงได้...จนป่านนี้ (กรุณาเติมคำในช่องว่างเอาเอง hahaha) นัดกัน 7 am วันเสาร์ที่ 18 ข้างโรงเรียนหอวังค่ะ ขับรถไปเอง โดยเอารถเราไปค่ะ พอสาว ๆ ครบแล้วก็ไปรับชายหนุ่มคนเดียวที่ท่าพระจันทร์ หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ออกเดินทางค่ะ จุดแรกที่แวะชม คือ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ค่ะ ก่อนอื่นต้องชำระค่าธรรมเนียมก่อน ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็กคนละ 15 บาทค่ะ จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างใน บริเวณทางเข้า ...ทางเดินร่มรื่นมาก ๆ ค่ะ ทางเข้าที่ตรวจบัตรเข้าชมค่ะ ป้ายบอกกฎระเบียบในการเข้าชมค่ะ ดอกยูงทองค่ะ สีสวยมาก ๆ และมีต้นยูงทองปลูกอยู่สองฝั่งทางเดินจากทางเข้าไปถึงตัวพระตำหนักเลยค่ะ ต่อจากนี้เป็นรูปวิวและพระราชนิเวศน์ฯ นะคะ มองเห็นทะเลลิบ ๆ สวยมากค่ะ พระราชนิเวศน์ฯ ด้านข้าง ไม่ต้องบรรยาย ในรูปมุมล่างซ้ายเป็นป้ายบอกว่า ทางขึ้นพระราชนิเวศน์ฯ ค่ะ พอเดินเข้าไปเลี้ยวขวาจะเจอโถง ใช้จัดแสดงประวัติของพระราชนิเวศน์ฯ และพิธีต่าง ๆ ที่จัดที่พระราชนิเวศน์ฯ ค่ะ มีโมบายห้อยระหว่างเสา ลมเย็น ๆ ฟังกับเสียงกรุ๊งกริ๊ง ๆ น่านอนมาก ๆ ค่ะ โคมไฟพวงดอกไม้ ...สวยจัง >_< จากนั้นก็ขึ้นมาชมข้างบนกันค่ะ พระราชนิเวศน์ฯ แบ่งเป็น 2 ฝั่งค่ะ มีเรือนวางโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ตรงกลาง ...นึกไม่ออกว่าจะใช้คำราชาศัพท์ว่าอะไรดี เลยเรียกง่าย ๆ อย่างนี้ละกัน ชอบวิวนี้ค่ะ มองดูสบายตาที่สุดเลย >_< มีระเบียงทางเดินเชื่อมต่อถึงกันในทุกส่วน สิ่งที่ทันสมัยที่สุดที่เห็น hahaha ถ้าไม่มีรูปโผล่จากหน้าต่างเดี๋ยวจะเชยค่ะ hahaha เสียดายใส่เสื้อแบบญี่ปุ่นไป เลยไม่เข้ากับบรรยากาศอะ รู้งี้นุ่งผ้าถุง ห่มสไบไปดีกว่า ปลายสุดของระเบียงเป็นศาลาชมวิวทะเลค่ะ แต่เค้าห้ามเข้าอะ ขากลับ ตอนเดินไปเข้าห้องน้ำ เห็นนกน่ารัก ๆ 2 ตัวค่ะ เลยถ่ายมา ไม่รู้ว่านกอะไรอะค่ะ ออกจากพระราชนิเวศน์ฯ ก็ตรงไปปราณบุรีเลยค่ะ ...หิวกันทั้งรถ hahaha ทุกคนเริ่มบ่น และแล้วในที่สุดก็ถึงร้านอาหารที่เพื่อนแนะนำและอยากพามาทานค่ะ ร้านนี้อยู่ปากน้ำปราณฯ ค่ะ ตั้งอยู่ติดกับท่าเทียบเรือปราณบุรีเลย ชอบตรงที่มีสะพานทอดไปในทะเลมาก ๆ เลยค่ะ ที่เห็นในรูป คาดว่ากำลังเตรียมถ่ายโฆษณาสินค้าอะไรสักอย่าง เพราะเห็นมีนางแบบมายืนถือสินค้าน่ะค่ะ ระหว่างทางแวะซื้อสัปปะรดกุยบุรีด้วยค่ะ เพื่อนบอกว่าหวาน อร่อย ไม่เหมือนสัปปะรดที่อื่น ...แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ด้วย น้ำจิ้มค่ะ ระหว่างรออาหาร นั่งจ้องน้ำจิ้มไปพลาง ๆ หิวแล้วนะเฟ้ย hahaha ไข่เจียวปู ...อร่อยค่ะ ติดใจถึงขนาดสั่งมาอีกจานนึงเลย hahaha หมึกแดดเดียว ...อร่อยอีกเช่นกัน >_< เห็นอย่างนี้กรอบใช้ได้เลยนะคะ หมึกไข่นึ่งมะนาว หมึกไข่ตัวโต ๆ พร้อมน้ำราดสำรองอีก 1 ชาม รสชาติจัดจ้านค่ะ พล่ากุ้ง ...จานนี้ถ้าเทียบกับอาหารจานอื่น ๆ แล้ว ถือว่าธรรมดาค่ะ ปลากะพงทอดกระเทียม ...กระเทียมเยอะมาก ๆ จนมองไม่เห็นตัวปลาเลยค่ะ เพื่อนพูดว่าจะทานกันหมดไหมเนี่ย สภาพปลาหลังจากทานเสร็จค่ะ ...แม้แต่กระเทียมก็ไม่เหลือ ทานเสร็จก็มีผลไม้มาให้ด้วยค่ะ จัดเป็นรูปพระอาทิตย์ โดยใช้แตงโมกับสัปปะรด ...ไอเดียเก๋จริง ๆ หมึกแดดเดียวที่กำลังตากอยู่ค่ะ เยอะมาก ๆ แสดงว่าเป็นอาหารขายดี ในที่สุดก็ถึงซะที - -' ...รีสอร์ทอยู่หาดสามร้อยยอดค่ะ รุ่นพี่คนนึงถามว่าออกมากันกี่โมง พอบอกว่า 7 โมงเช้า พี่เค้าตกใจค่ะ พูดว่า "แล้วมันไปอยู่ที่ไหนกันมา (วะ) มาถึงนี่บ่าย 3 ใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมง " ...แหะ แหะ ไปถึงน้อง ๆ กำลังเล่นแชร์บอลกันค่ะ ...กิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบง่าย ๆ สบาย ๆ ยืนดูสักพัก เห็นว่าไม่มีอะไร เลยขอตัวเอากระเป๋าไปเก็บที่บ้านพักค่ะ บ้านพักที่น้องปี 2 จัดให้พวกเราพักค่ะ ด้านในแบ่งเป็น 2 ห้อง มีห้องโถงกลางไว้ดูทีวี และวางตู้เย็น ในห้องนอนมีห้องน้ำทั้ง 2 ห้องค่ะ เรียกได้ว่าดีเลยล่ะ คืนละ 2,000 บาท ห้องนอนเล็กค่ะ ...สีหว๊าน หวานเนอะ ห้องน้ำในห้องนอนเล็กค่ะ ที่อาบน้ำเป็นตู้อาบน้ำแบบยืน ห้องนอนใหญ่ค่ะ ...ที่บอกว่าห้องนอนใหญ่ เพราะมีพื้นที่มากกว่า แล้วเครื่องนอนสำหรับปูพื้นนอนก็อยู่ในห้องนี้ด้วย ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ...จริง ๆ มีประตูเชื่อมกับห้องนอนเล็กด้วย แต่ล็อคไว้ค่ะ แสดงว่าเมื่อก่อนอาจมีห้องน้ำเดียว แต่ตอนหลังสร้างเพิ่ม เพื่อความสะดวก ห้องโถงกลาง ...พูดซะหรู แต่จริง ๆ แล้วเดินเข้าประตูมาก็เจอแล้วค่ะ hahaha ในภาพกำลังสำรวจบ้านกันใหญ่ มีสระว่ายน้ำด้วย ...ดูดีทีเดียวเชียวแหละ hahaha ป้ายรีสอร์ทหน้าสวนหย่อมย่อย ๆ ค่ะ ...จริง ๆ พอขับรถจะเข้าบ้านพักก็จะเห็นแล้วล่ะนะ - -' วิวทะเลหน้ารีสอร์ทค่ะ เห็นเรือเล็กที่ชาวประมงเอาไว้ไดหมึกจอดเรียงกันอยู่เพียบเลย สวยจัง หาดก็เงียบด้วยค่ะ เฮ้อ นี่ถ้าไปแบบพักผ่อนจริง ๆ ใช้ได้เลยนะเนี่ย >_< ยังเล่นแชร์บอลกันไม่เลิกค่ะ ...หลังจากยืนดูและพูดคุยกับพี่ ๆ น้อง ๆ สักพัก แดดร้อนอะค่ะ ก็เลยกลับไปนั่งเล่น นอนเล่นที่บ้านพักกันดีกว่า ...ไปเล่นไพ่อะค่ะ กิจกรรมรับน้องที่ฮิตที่สุด ไพ่ป๊อก 8 ป๊อก 9 ตาละ 1 บาท ...2 บาทไม่มีใครยอมลง บอกว่ามากไป hahaha... ให้หนุ่มเดียวเป็นเจ้ามือค่ะ แล้วเจ้ามือก็ได้เงินจากเพื่อนไปเกือบ 60 บาทได้ >_< มีคนที่ไม่ได้เป็นเจ้ามือได้กำไรคนเดียว แถมได้กำไรแค่ 5 บาทด้วย ส่วน 4 คนที่เหลือ ...รวมทั้งเราด้วย - -' พอแดดร่ม ลมตก ก็กะจะออกไปถ่ายรูปทะเลกันค่ะ แต่ปรากฏว่าฟ้าฝนไม่เป็นใจ ...รูปนี้เห็นสายฝนกำลังเทอยู่ข้างหน้าค่ะ สวยแบบเหงา ๆ แต่ก็ชอบค่ะ เข้ากับความรู้สึกเราเลย น้อง ๆ เข้าบ้านพัก พักผ่อนกันหมดแล้ว เหลือพี่ ๆ สุมหัวกันวางแผนปลุกวิญญาณนิติศาสตร์น้องค่ะ hahaha ถ่ายรูปกันไม่กี่รูป ฝนก็ตกลงมาค่ะ ต้องวิ่งมาอยู่ใต้อาคาร ...จริง ๆ อยากถ่ายรูปสายฝน แต่ไม่ติดอะ ยืนมองแล้วได้อารมณ์จริง ๆ อารมณ์เหงาน่ะนะคะ พอได้เวลาอาหารก็เดินออกมาที่เต้นท์ที่เค้าจัดให้ทานอาหารน่ะค่ะ ...พอดีไปตรงกับคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. เค้าเลยยึดตึกไป ในรูปเป็นต้มยำไก่ รสชาติใช้ได้ค่ะ ซดน้ำเพลินไปเลย hahaha ทอดมันปลากราย ผัดผัก ...อะไรซักอย่าง hahaha น่าจะกวางตุ้งน่ะค่ะ ไม่ใช่คะน้า หลังจากอิ่มหมีผลีมันกันแล้ว พวกเราก็กลับไปหมกตัวอยู่ในบ้านพักค่ะ รอให้น้อง ๆ กลับจากการปลุกวิญญาณนิติศาสตร์แล้วจะบายศรี พอ 4 ทุ่มก็มีคนมาตามไปเตรียมบายศรีค่ะ ...บายศรีกันที่สระว่ายน้ำ ตอนนี้กำลังยืนรอให้น้องเตรียมสถานที่ค่ะ บรรยากาศตอนพี่ ๆ ทยอยเข้ามานั่ง และน้องปี 2 กำลังจุดเทียนค่ะ พอจุดเทียนเสร็จ ก็ดับไฟ จะได้บรรยากาศแบบนี้ค่ะ ...ถ่ายรูปออกมาไม่ชัด แต่ในความเป็นจริง สวยมาก ๆ ค่ะ บายศรีให้น้องปี 1 ค่ะ ระหว่างนั้นพี่ ๆ ที่นั่งล้อมวงอยู่ก็จะร้องเพลงบายศรีคลอตามไปด้วย หลังบายศรีเสร็จ พี่ ๆ รหัส 28 (ปีที่ตั้งกลุ่ม) ก็แจกเสื้อ t-shirt สีขาว เพ้นท์คำว่านิติ มธ. ตรงแขนด้านหนึ่งเพ้นท์ว่า "20th Anniversary ปาล์มขวด" ค่ะ จากนั้นก็มี "บาร์บีคิวปาร์ตี้" ค่ะ แต่พวกเรารอไม่ไหว เพราะเที่ยงคืนแล้ว เพิ่งเริ่มก่อไฟ เตรียมของ เลยถอยกลับไปนอนดีกว่า - -' ...เช้ามาถามเพื่อนผู้ชายที่ไปด้วยว่าเป็นไงบ้าง ได้รับคำตอบว่า "บาร์บีคิวปาร์ตี้อะไร (วะ) มีแต่ปลาหมึกปิ้ง" hahaha เลยรู้สึกดีใจที่ไม่อยู่รอ ให้เสียเวลานอนค่ะ เช้าวันต่อมา ตื่นกันตั้งแต่ 7 โมงเช้าค่ะ เพราะจะรีบออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่ต้องตื่นมาเก็บรูปทะเลตอนเช้าก่อน hahaha ทะเลตอนเช้า น้ำลงค่ะ แต่ยังคงความเหงาไม่เปลี่ยน เงียบ สงบ ...ชอบจริง ๆ >_< เพราะพวกเราตื่นกันเช้ามาก ๆ น้อง ๆ ยังไม่มีใครตื่น ข้าวเช้าทางรีสอร์ทก็ยังไม่ได้เตรียม เลยอาศัยข้าวเหนียว หมูปิ้งประทังท้องไปก่อน hahaha ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าภาพหมูปิ้ง ภาพนี้ใช้แฟลตเห็นมันเยิ้มเลย - -' ...แต่ก็ทานค่ะ hahaha ไม่อิ่มค่ะ ไม่อิ่ม พอรถซาลาเปา ขนมจีบผ่านมา เลยโดนโบก hahaha หลังจากทานซาลาเปา ขนมจีบเสร็จ ก็ต้องกาแฟค่ะ ...คิดไปคิดมา ทานกันเยอะจริง ๆ แฮะ ร้านกาแฟอยู่ที่อัญชนารีสอร์ท ใกล้ ๆ กับรีสอร์ทที่พวกเราไปพักค่ะ ...หรูมาก ๆ เลย แถมกลุ่ม TULA ก็มารับน้องที่นี้ด้วย แต่ไม่เจอใครสักคนเลย ดอกลั่นทม ...ลีลาวดี... ที่อัญชนารีสอร์ทค่ะ ดูแล้วเข้ากับบรรยากาศทะเลดีนะคะ เราว่ามองต้นลั่นทมคู่กับทะเลแล้ว เหงาได้ใจจริง ๆ พอทานกาแฟเสร็จ ก็กลับมาเก็บของ ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ ค่ะ พี่ ๆ น้อง ๆ ก็ยังคงไม่ตื่นกัน - -' เพื่อนบอกว่า "พวกนั้นจะคิดว่าพวกเราเป็นวิญญาณหรือเปล่า แว่บไป แว่บมา แล้วอยู่ ๆ ก็หายไป" hahaha ออกจากปราณฯ แวะแม่กิมลั้งซื้อน้ำตาลมะพร้าวให้มารดาท่าน ได้ขนมหม้อแกง, ปลาหมึกกรอบ, ปลาหวาน ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย โฮะ โฮะ โฮะ จากนั้นก็แวะดอนหอยหลอดค่ะ ถึงตอนเที่ยงพอดี ทานที่คุ้นลิ้น ค่ะ มีที่เล่นให้เด็ก ๆ ด้วย ที่จอดเรือ และเปลผ้าใบสำหรับให้คนที่อิ่ม ๆ มานอนพึ่งพุงค่ะ hahaha ต้นโกงกางในบริเวณร้านค่ะ ??????????????????? แล้วที่ร้านทำ คืออะไร? ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าไปหาเรื่องเค้า hahaha ดูอาหารกันเลยดีกว่า หอยหลอดผัดฉ่า ...เมนูที่ขาดไม่ได้ทุกครั้งที่มาดอนหอยหลอด กุ้งห้ารส ...อร่อยค่ะ ส้มตำปูไข่ ปลากะพงทอดราดน้ำปลา กระบอกต้มโคล้ง ปูผัดผงกระหรี่ กุ้งเผา ...ครึ่งกิโลค่ะ ได้มา 6 ตัวเท่าจำนวนคนเป๊ะ ทานเสร็จ อิ่มท้องแล้ว ค่อยสนใจวิวรอบ ๆ ตัวค่ะ hahaha ชมวิวเสร็จก็กลับมาสั่งของหวานค่ะ hahaha ...เพื่อน ๆ สั่งไอศกรีมกัน เราสั่งบัวลอยน้ำขิง พอทานเสร็จ คิดเงินแล้ว จ่ายไป 1800 บาทค่ะ - -' พวกเราก็ไปนั่งเล่นตรงศาลาจอดเรือนั่นแหละค่ะ รอให้หนุ่มเดียวเธอนอนตื่น จะได้กลับกรุงเทพฯ ซะที เอารูปเพื่อน (ชายเดียวที่ไป) มาปิดท้ายค่ะ hahaha ใครสนใจติดต่อได้นะคะ ยังว่าง ๆ เลี้ยงง่ายยยย กินอิ่ม นอนหลับ กลับถึงกรุงเทพฯ เราก็เข้าเน็ตต่อเลยค่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย แถมไมเกรนกำเริบด้วย แต่ต้องเข้ามารอเพื่อนค่ะ ...อาการค่อนข้างหนักแฮะ เรานี่ 555 บรรยากาศรับน้องกับของกินนี่สูสีกันมากๆ เอ๊ะเราจะซาบซึ้งกะบรรยากาศดี หรือจะ หิวตอนดึกๆดีเนี่ย
โดย: funnygirl IP: 58.10.6.223 วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:0:56:50 น.
วิวสวยจัง
อาหารก็น่ากิน อิๆ โดย: la-la-bell IP: 61.91.142.253 วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:1:04:08 น.
จะฆ่ากันให้ตายด้วยรูปอาหารรึไงจ๊ะน้องนุ่นที่ร๊ากกกกกกกกกกกกกกก
โดย: ป้าเก๋สวย IP: 84.99.252.118 วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:3:42:24 น.
ไอ้พวกรุ่นน้องมันชวนกันทุกปี เราก็เล่นตัวไม่เคยไป แต่เห็นยังงี้อยากไปงานรับน้องมั่งจัง
แต่มันเลิกชวนแร๊ว ฮือๆ ของกินดูดีมั่กๆ ร้านคุ้นลิ้นนี่ก็ 1 ในร้านประจำเลยล่ะ กุ้งห้ารส สุดยอดดดดด แล้วเจอลิงแถวร้านบุกจู่โจมมั่งป่าว โดย: แฟนสวย IP: 61.91.167.201 วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:9:11:54 น.
เอาล่ะชาบุ หาวันว่างๆไปเที่ยวกันเถอะ
โดย: ขวัญสวย (kwan2402 ) วันที่: 26 มิถุนายน 2548 เวลา:12:11:37 น.
ภาพเยอะมากๆ เครื่องผมโหลดไม่ไหวเลยอ่ะ
ภาพอาหารเยอะกว่ารับน้องอีกมั้งเนี่ย 55555 ตกลงไม่ได้มีรับน้องแบบพิศดารใช่ไหมครับ?? (หรือมีแต่ไม่ได้ถ่ยรูปมาเนี่ย) ม๊าวววววววววววว โดย: แมวกักขฬะ วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:16:55:05 น.
ตอบ FunnyGirl: ทั้งซาบซึ้งกับบรรยากาศ และก็หิวกลางดึกเลยดิ ไม่เห็นยาก
ตอบก้อย la-la-bell: จ้า ขอบใจจ้า ตอบป้าเก๋สวย: เปล่านะคะ ป้าเก๋ที่ร๊ากกกกกกก นุ่นแค่อยากให้ป้าเก๋ดูเป็นอาหารตาก่อนจะกลับเมืองไทยทานของจริงไง๊ ตอบเก๋ แฟนสวย: น่าเสียดายนะ โอกาสดี ๆ ที่ไม่มีหาได้ง่าย ๆ ...เราไม่โดนลิงจู่โจมหรอก ไม่เจอสักตัวเลยด้วย เพื่อนบอกว่าเค้าย้ายลิงไปหมดแล้ว ตอบขวัญสวย: ไป ๆ แต่ไปที่มันใกล้ ๆ ก่อนได้มะ ไอ้ไกล ๆ เนี่ย ขอเก็บตังค์หน่อย ...ไม่ได้ทำงานมีเงินเดือนนะเฟ้ย ตอบคุณแมวกักขฬะ: รอแป๊บนึงก็ไม่ได้นะคุณแมวฯ นะ ทำเป็นวัยรุ่นใจร้อน ตัวเองก็ใช้ adsl แท้ ๆ ...แล้วก็ไม่มีรับน้องแบบพิสดารหรอกค่ะ แค่เจอหน้ารุ่นพี่ก็พิสดารพอแล้ว โฮะ โฮะ โฮะ โดย: ชาบุ วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:22:16:13 น.
จริง ๆ แล้วเนี่ย กะไปเที่ยวปราณกันใช่มะ
แต่บังเอิญไปเจอปาล์มขวดเค้ารับน้องกันพอดี อิอิ โดย: ส้ม (เจ้าหญิงส้ม ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2548 เวลา:14:14:38 น.
|
ชาบุ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_< สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by" Group Blog All Blog
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |