ประสบการณ์การไปเก็บคดี
เมื่อวานฤกษ์ดี ...หรือเปล่าหว่า ค่อย ๆ อ่านไปแล้วจะรู้เองอะนะว่าดีไม่ดี hahaha... น้องต้นที่เรียนโทด้วยกัน ชวนไปเก็บคดีที่ศาลมีนบุรี

ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า ที่ต้องเก็บคดี เพราะในการสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา หรืออัยการ นอกจากจะต้องสอบเป็นเนติบัณฑิตแล้ว ถ้าใครไม่ได้รับราชการทางสายที่กำหนดไว้ ก็ต้องเป็นทนายความ ว่าความอย่างน้อย 20 คดี ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงต้องขวนขวายเก็บคดีกันเป็นการใหญ่

ตกลงน้องต้นนัดเจอที่ศาลมีนบุรี เวลา 8.30 am บ้านเราอยู่หลักสี่ ต้องวิ่งเส้นรามอินทราไป กลัวรถติด เลยตื่นตี 5 ออกจากบ้าน 6.30 am กะว่าสองชั่วโมงน่าจะทัน ถ้าไม่ทันก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว ปรากฏว่าขับรถ 1 ชั่วโมงถึง รถไม่ติดเลย เนื่องจากเป็นขาออก มีติดอยู่ช่วงเดียว คือช่วงที่กำลังสร้างสะพานข้ามแยกไปบางกะปิ ไปถึงศาลมีนบุรี 7.30 am แล้วชั้นจะทำอะไรล่ะนี่ - -' ศาลก็ยังไม่เปิด แถมต้องขึ้นไปจอดรถบนอาคารจอดรถถึงชั้น 8 เพราะเค้ากำหนดให้คนที่ไม่มีบัตรอนุญาตจอดชั้น 8 กับ 9 ...T T... คิดไปคิดมา นั่งอ่านหนังสือรอก็ได้ หลังจากโทรไปจิกน้องต้นกะพี่นุ้ย ให้รีบออกจากบ้าน ((สองคนนี่บ้านอยู่แถวนั้น เลยสะดวก)) จากนั้นก็ฟังเพลง อ่านหนังสือ แต่ เอ๊... เหมือน ๆ มีเรื่องคาใจ เลยโทรไปหาเพื่อนกะเคลียร์ ปรากฏว่าไม่รับสาย เออ เว้ยยยย ชักเคือง เลยส่ง sms ไปวีน hahaha ...ขอโทษที ไม่รู้ว่าไม่ได้เอามือถือไป แหะ แหะ

พอ 8.30 am เป๊ะ น้องต้นโทรมา "พี่นุ่นครับ ผมมาถึงศาลแล้วครับ" โอ๊วววววว ดีเลยน้อง เรารีบขนของลงจากรถ กะเดินไปลงลิฟต์ พอไปถึง อ้าว เว้ยยย ไม่มีลิฟต์ แล้วจะลงยังไงฟ่ะ ดีนะที่ฉลาด ((หรือเปล่า)) เดินลงไปชั้น 7B อืมมม เจอล่ะ ลิฟต์ขึ้นมาถึงแค่ชั้นนี้นี่เอง พอเข้าไปในลิฟต์ก็เจออีกปัญหา เอ...แล้วเราจะกดชั้นไหนเนี่ย - -' คิดแล้วคิดอีก มีให้เลือก 2 ชั้น ระหว่างชั้น B กะ 2B เอาว่ะ กดชั้น B ละกัน แต่มันก็ตะหงิด ๆ ใจแฮะ ดีนะที่มีคนขึ้นลิฟต์ที่ชั้น 5B แล้วเค้ากดชั้น 2B ดียิ่งกว่าที่เราตัดสินใจออกชั้น 2B ตามเค้า ไม่งั้นอาจได้โผล่ไปเยี่ยมจำเลยหรือผู้ต้องหา ซึ่งเค้าจัดให้อยู่ที่ชั้น B แหะ แหะ

ออกจากลิฟต์ก็เดินเข้าไปในศาล แล้วก็ไปหาน้องต้นกะพี่นุ้ยในห้องคดีแพ่ง น้องต้นกำลังคุยอยู่กับทนายความอาสา จากสภาทนายความ ถามขั้นตอนการเก็บคดี เราก็เลยเดินเข้าไปคุยกะพี่นุ้ย พอน้องต้นถามเสร็จ กำลังจะเดินมาปรึกษา อีตาทนายนี่ดันหันมาถามเราว่า "นี่ก็เป็นทนายเหรอ" - -' อะไรฟ่ะ ไม่เห็นหรือไงว่าคนถือครุยทนายอยู่อะ แล้วทำไม หน้าอย่างชั้นเป็นทนายไม่ได้รึ เลยทำหน้านิ่ง ๆ ตอบว่า "ค่ะ" คำเดียวสั้น ๆ แล้วก็ไม่สนใจอีก

3 คนมาปรึกษากัน ตกลงว่าวันนี้คงจะเก็บคดีไม่ได้ เพราะเค้าอยากให้พวกเราขึ้นว่าความด้วย ซึ่งพวกเราทำไม่ได้แน่ ๆ ไม่มีใครมีประสบการณ์ และที่สำคัญ ไม่อยากทำ hahaha เดินออกมาจากห้อง พี่นุ้ยตาดี เหลือบไปเห็นว่าบัลลังค์ 14 มีคดีเกี่ยวกับผู้จัดการมรดก ซึ่งเป็นคดีไม่ยุ่งยาก เลยชวนขึ้นไปขอเข้าเป็นทนายร่วม แต่พอเดินไปถึงหน้าห้อง แป่ว น้องต้นชี้ให้ดูบอกว่า คดีนี้ อัยการเป็นคนทำ พวกเราขอเข้าร่วมไม่ได้ T T ...แล้วชั้นตื่นแต่ตี 5 มาทำอะไรที่นี่เนี้ยยยยย...

น้องต้นเลยเปลี่ยนแผน ชวนไปศาลแขวงดุสิต แถวสนามหลวง แต่ต้องไปให้ถึงก่อน 1.30 pm ปัญหาอยู่ที่ พี่นุ้ยต้องไปเฝ้าบ้านให้เพื่อน เพราะรับปากเค้าไว้ ตอนนั้นเวลาประมาณ 9 am กว่า ๆ แล้วเพื่อนพี่นุ้ยก็ไม่ได้กำหนดเวลาว่ากี่โมง แค่ให้พี่นุ้ยไปดูแลบ้านแทนสัก 1 ชั่วโมงก็พอ พวกเราเลยตัดสินใจไปเฝ้าบ้านตอนนั้นเลย จะได้มีเวลาเดินทางจากมีนบุรีไปสนามหลวง

ตอนกำลังเดินมาลงลิฟต์ไปชั้น 1 ของศาล พี่นุ้ยชมว่า แหวนที่ใส่อยู่สวย สีฟ้าเข้ากะชุดเลย น้องต้นเลยบอกว่า "ผู้ชายมองพี่นุ่นเยอะมาก ๆ ฮะ" hahaha ทำไมพี่ไม่เห็นรู้สึกเลยล่ะจ๊ะ แล้วยังมีการพูดอีกว่า "แต่ผมว่า พี่นุ่นอย่าเลือกคนเรียนกฎหมายเลยฮะ ไม่ไหว ๆ" hahaha แล้วตัวเองไม่ได้เรียนกฎหมายเรอะ - -'

พอมาถึงอาคารจอดรถ ขึ้นไปถึงชั้น 7B เราก็บอกให้พี่นุ้ยกะน้องต้นยืนรออยู่ตรงนี้ จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นไปอีกชั้นให้เหนื่อย แต่พี่นุ้ยไม่ยอม บอกว่า "ขืนปล่อยให้นุ่นขึ้นไปคนเดียว เกิดมาทนายหนุ่ม ๆ มาฉุดไปละก้อ แย่เลย" hahaha แล้วใครจะกล้ามาฉุดนุ่นอะคะ มีใบหน้าเป็นอาวุธขนาดนี้ สุดท้ายก็เลยเดินขึ้นไปทั้งสามคน

พอไปถึงบ้านเพื่อนพี่นุ้ย ...อยู่หมู่บ้านเดียวกันกะพี่นุ้ยแหละ เยื้อง ๆ บ้านพี่นุ้ยหน่อยนึง... พี่แป๋ม เพื่อนพี่นุ้ยก็รีบออกไปทำธุระ พี่นุ้ยเลยพาชมบ้านแทน ตกแต่งสวยมาก ๆ ที่สำคัญ มีศาลาริมน้ำ ชอบมากกกกกกก หลังจากชมจนทั่ว พวกเราก็มาจบกันที่โซฟานั่งดูทีวี ...สวรรค์... โซฟานุ่ม ๆ ลมเย็น ๆ และแล้วเราก็เลยหลับ hahaha เห็นใจกันหน่อย คืนนั้นนอนตี 1 เพราะมัวแต่เม้าท์กะน้องกุ้ง (อิ่มอิ่ม) มาสะดุ้งตื่นอีกที เพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ "ใครโทรมาฟ่ะ" พอเอาออกมาดู ปรากฏว่าคุณขวัญ (kwan2402) โทรมา จากนั้นก็คุยกันยาว จนตาสว่างเต็มที่ พอพี่แป๋มกลับมา พวกเราก็นั่งคุยกะเค้าสักพัก แล้วก็คิดกันว่า ยังอยากจะไปศาลแขวงดุสิตกันอยู่หรือเปล่า น้องต้นก็เสนอมาอีกที่ว่าน่าจะไปศาลแขวงปทุมวัน แต่วันจันทร์ คดีน่าจะน้อย เราเลยบอกว่า "ไหน ๆ ก็เกรงใจที่ทำให้พี่ต้องตื่นตี 5 มาถึงมีนบุรี ลาดกระบัง โดยที่ไม่ได้เก็บคดีสักคดีเนี่ย ก็อย่าไปเลย เพราะถ้าไม่แน่ใจ แล้วจากลาดกระบังไปสามย่าน ไม่ใช่ใกล้ ๆ ถ้าไม่มีคดีให้พี่เก็บอีก คราวนี้วีนจริง ๆ นะ" โฮะ โฮะ โฮะ เจออย่างนี้เข้า น้องต้นรีบบอกว่า "ครับ ๆ งั้นไม่ไปครับ" hahaha สุดท้ายเลยได้ไปนั่งกินส้มตำที่ร้านตำแหลกกัน ก่อนที่เราจะไปหาคุณเก๋ (แฟนสวย) ที่บริษัท เพื่อช่วยดูสัญญา

สรุป ไปเก็บคดีวันแรก ก็มีอุปสรรคซะแล้ว - -'

แต่พวกเรายังไม่ยอมแพ้ น้องต้นบอกว่า งั้นพรุ่งนี้เราไปศาลแขวงปทุมวันกัน มีคดีเยอะแน่ ๆ เพราะเป็นวันอังคาร ...o.k. ไปไหนก็ไป เรามันพวกใจง่ายอยู่แล้ว อิ อิ แต่นะ ต้องตื่นตี 5 อีกแล้วเหรอเนี่ย เข้าเมืองด้วย รถติดแน่ ๆ >_<

ขนาดรู้ว่าต้องตื่นตี 5 ยังไม่วายมานั่งเขียน blog ตอนตี 2 พอพิมพ์เสร็จ คลิ๊ก Publish ...เน็ทหลุด... โอ๊ววววววววว สุดจะเซ็ง ไม่มีอารมณ์มานั่งพิมพ์ใหม่นะเฟ้ย T T เลยขึ้นไปนอนเลย hahaha กะว่าวันนี้มาเล่าใหม่ จะได้เล่า 2 วันควบเลยทีเดียว

ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 5 แต่ที่ตื่น ไม่ใช่เพราะนาฬิกาปลุก แต่ตื่นเพราะแม่ปลุก บอกว่าได้ยินเหมือนเสียงมือถือปลุก แต่เรายังมีการเถียงว่า ไม่ปลุก ๆ - -' hahaha ที่ไหนได้ มันปลุกอีกที เราสายไป 11 นาทีแล้วอะ แหะ แหะ ตาลีตาเหลือกอาบน้ำ แต่งตัว กว่าจะออกจากบ้านก็ 6.45 am ขับรถไปขึ้นทางด่วนที่ประชาชื่น แวะซื้อกาแฟกะแซนวิชที่ดิโอโร่ เติมพลังตอนเช้า ไปถึงสามย่านใช้เวลา 1 ชั่วโมง น้องต้นโทรมาถามว่าอยู่ไหน เราก็บอก ๆ น้องต้นก็ย้ำว่า ขับเลยแยกสี่พระยาไปนะพี่นุ่น เราก็หา ไหนฟ่ะ แยกสี่พระยา เห็นแยกสะพานเหลือง ก็ยังไม่ใช่แยกสี่พระยา น้องต้นก็บอกขับตรงมาเรื่อย ๆ เลยครับ เราก็ขับไปติดไฟแดงอยู่ที่แยกมหานคร น้องต้นก็ถามว่า "พี่นุ่น เห็นธนาคารกสิกรไทยทางขวามือไหมครับ" เราก็หันไป "เห็น ๆ จอดอยู่ตรงนั้นเลย" น้องต้นก็ "อ๋อ ครับ ขับตรงไปเลย เลยแยกแล้วชิดซ้ายนะครับพี่นุ่น ศาลจะอยู่ทางซ้าย ไม่ไกลจากแยก" เราก็ชิดซ้าย ซ้ายยยยยยย ไปเรื่อย ๆ จนไปถึงเยาวราช hahaha ตายละวา ตรู ทำไงดีเนี่ย โทรหาน้องต้น "ต้นนนนนนน พี่มาถึงเยาวราชแล้วอะ T T" น้องต้นก็ "ห๋า จริงเหรอครับพี่ พี่นุ่นพยายามหาทางวนออกมาหัวลำโพงให้ได้เลยนะครับ" โอเคเลยน้อง จากนั้นเราก็มั่วแหลก อาศัยสัญชาตญาณสุดฤทธิ์ ในที่สุดก็เห็นหัวลำโพง โอ๊วววววววว เราก็เก่งเหมือนกันนี่หว่า แต่...เอ๊ะ โทรถามน้องต้น ๆ บอก "พี่นุ่นเห็นหัวลำโพงรึยังครับ" "เห็น ๆ" "นั่นแหละครับ เลาะซ้ายมาเรื่อย ๆ เลยนะพี่ ออกพระราม 4 นะฮะ" "ได้ ๆ" แต่พอเลี้ยวซ้าย จะออกพระราม 4 อ้าวเว้ยย มีป้ายบอกว่าชิดขวาขึ้นทางด่วน เอาไงล่ะทีนี้เรา ยังไงชั้นก็ไม่ขึ้นแน่ ๆ งั้นเลี้ยวซ้ายละกัน ไปไหนล่ะเนี่ย - -' แต่ก็ยังขับไปเรื่อย ๆ ผ่านไป 1 แยก เอ...เราน่าจะสมควรเลี้ยวขวา ((อาศัยสัญชาตญาณอีกล่ะ - -')) ไม่เป็นไร เลี้ยวแยกหน้าก็ได้ พอเลี้ยวก็ขับตรง ๆ ไป เอ๊อ เจอถ.พระราม 4 แล้วเว้ยยยยยยยย โทรหาน้องต้น "ต้น ๆ พี่จะออกแยกสะพานเหลืองแล้วอะ" "เหรอครับพี่นุ่น พี่นุ่นขับมาอีกแยกนะฮะ จะเห็นต้นยืนขาว ๆ หล่อ ๆ อยู่ข้างถนนเลยพี่" เลยก็ขับไป ผ่านแยกมหานคร ก็ไม่เห็นใครยืนเลยสักคน คราวนี้เลยไม่ไปเยาวราชล่ะ เลี้ยวซ้ายดีกว่า ไปไหนก็ไม่รู้ล่ะฟ่ะ ขับ ๆ ไป โอ๊วววววว เจอคุณตำรวจ ขอจอดถามหน่อย คุณตำรวจบอกว่า "อ๋อ ๆ ขับตรงไปเลยครับ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสี่พระยา ไปโผล่สามย่าน แล้ววนมาใหม่ ศาลแขวงปทุมวันอยู่ไม่ไกลจากแยก" "ขอบคุณค่ะ" มุ่งมั่น ๆ ระหว่างนั้น น้องต้นโทรมา "พี่นุ่นครับ เอ่อ ผมว่า พี่นุ่นเอารถไปจอดที่อื่นดีไหมฮะ ที่ศาลมันเต็มแล้วอะพี่ ไปจอดสยาม หรือมาบุญครองนะฮะ" O_O "ไม่อ๊าววววววววว จอดตั้งนาน เสียดายค่าจอดรถ ไหนจะค่า taxi อีก" ชักเริ่มท้อ หรือเราจะไม่มีดวงจะได้เก็บคดีว่ะเนี่ย - -' ขนาดมาถึงนี่ ยังมีอุปสรรค เลยบอกต้นไปว่า "ไม่งั้นต้นกะพี่นุ้ยเก็บกันไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวพี่กลับบ้านล่ะ ไม่ไหว เซ็ง" น้องต้นก็พยายามให้กำลังใจ "เดี๋ยวสิครับพี่ เดี๋ยวนะ ผมถามยามให้ว่าไปจอดได้ที่ไหนอีก" ได้ยินเสียงน้องต้นคุยกะพี่ยาม ๆ บอกให้ไปจอดที่ที่จอดรถศาลแรงงาน เลี้ยว...ตรงทางด่วน โอเคเลยน้อง เดี๋ยวเจอกัน!

และแล้วเราก็หลุดมาถึงสามย่าน เลี้ยวซ้ายเข้าพระราม 4 T T โชคดีที่เจอคุณตำรวจอีกคน เค้าบอกว่าให้ขับเลยแยกสะพานเหลืองไปแล้วชิดซ้ายเลย ศาลแขวงปทุมวันจะอยู่ไม่ไกล เราก็เริ่มเห็นอะไรรำไร ๆ ...น้องต้นบอกแยกผิดนี่หว่า! ฮึ่ม ฮึ่ม แล้วให้ชั้นไปหลงอยู่ได้ตั้ง 1 ชั่วโมงงงงงงงงงงง... เอาล่ะ พอเลยแยกสะพานเหลือง ก็ชิดซ้าย คราวนี้เห็นเลย ขาว ๆ หล่อ ๆ ยืนอยู่ข้างถนน น้องต้นก็เห็นรถเรา แต่ "พี่นุ่นฮะ พี่นุ่นต้องชิดขวานะฮะ ที่จอดรถมันต้องเลี้ยวขวาไป" O_O เอาไงล่ะเว้ยยย อยู่ซะเลนซ้าย ปาดก็ต้องปาดละทีนี้ ก็เปิดสัญญาณไฟขอทางไปเรื่อย ๆ แล้วก็ถามน้องต้นว่า "น่าเกลียดเนอะ" น้องต้นบอก "น่าเกลียดสุด ๆ เลยฮะพี่" hahaha ...ก็คนมันไม่รู้นี่หน่า และแล้วเราก็ได้ที่จอดรถ เย้ เย้ >_<

อุปสรรคต่อมาคือการข้ามถนน T T เพราะเราเคยโดนรถมอเตอร์ไซค์เสยอะ เลยฝังใจ ไม่ค่อยอยากข้ามถนนที่ไม่มีสะพานลอย แถมนี่ยังต้องข้าม 2 จังหวะอีกตะหาก โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ข้ามไปก็นึกว่าน้องต้นไป ที่เป็นสาเหตุให้เรามาสาย ฮึ่ม ฮึ่ม แต่นะ สายยังไงก็ยังทัน 8.30 am อยู่ดี hahaha

พอเข้าไปถึงศาลแขวงปทุมวัน นั่งรอเพื่อนน้องต้นให้เอาคดีมาให้ ก็มีการต่อว่าต่อขานกันเล็กน้อย เป็นต้นว่า "ก็ต้นบอกว่ายืนขาว ๆ หล่อ ๆ พี่ก็มองหาดิ แต่ไม่เห็น เห็นแต่ ดำ ๆ ไม่หล่อ ๆ" hahaha อยากบอกผิดทำไมล่ะ ฮึ่ม ฮึ่ม

พอเพื่อนน้องต้นมา ก็พาขึ้นไปหน้าห้องพิจารณาคดี ก่อนที่จะจัดพวกเราให้ไปอยู่กับเพื่อนเค้าอีกที เราได้อยู่กะน้องนุ่ม ก็ช่วยเค้าทำนู่นทำนี่บ้างนิด ๆ หน่อย ๆ เท่าที่ทนายความร่วมอย่างเราจะทำได้ ช่วงเช้าเลยเก็บได้ 2 คดี พอช่วงบ่ายเป็นทนายร่วม 2 คดี แต่ดันมีคดีนึงที่จำเลยยื่นคำให้การ เลยอด เก็บได้แค่คดีเดียว แต่นะ วันนึงได้ 3 คดีก็ถือว่าใช้ได้ ๆ

แต่น้องต้นไม่ได้เก็บช่วงบ่าย ทิ้งให้เราอยู่กะพี่นุ้ยสองคน ตอนน้องต้นกลับ เรากำลังพิมพ์ใบแต่งทนายอยู่ในห้องพักทนายความ พี่นุ้ยเป็นคนเดินไปส่ง พอกลับเข้ามาพี่นุ้ยก็บอกว่า "เมื่อกี้ต้นกระซิบพี่ว่า ทนายหนุ่ม ๆ ในห้องพิจารณาคดี มองพี่นุ่นเป็นตาเดียวกันเลย เห็นสาวหน้าตาจิ้มลิ้มไม่ได้" hahaha ทำไมเราไม่เคยรู้สึกตัวเลยฟ่ะ ว่าโดนมองเนี่ยยย ไม่เข้าใจ

แต่ไม่รู้ตัวก็ดี เพราะเราไม่ชอบให้คนมองอะ ถ้ารู้ว่าใครมอง จะหันไปมองแบบหาเรื่อง ดี ไม่ดี อาจจะถามว่า "มองอะไร" - -' hahaha ไปถามคุณเก๋ (แฟนสวย) ได้ โดนเราถามบ่อย

สรุป การเก็บคดีได้มา 3 คดี เย้ เย้ วันจันทร์ที่ 31 ก็ต้องไปศาลธัญบุรีกะเพื่อนพี่นุ้ย ได้มาอีก 1 คดี หุ หุ



Create Date : 26 มกราคม 2548
Last Update : 26 มกราคม 2548 13:38:01 น.
Counter : 11606 Pageviews.

11 comments
  
เย้เย้เย้










































อ่านจบ - -"
โดย: ตุ๊กตารอยทราย IP: 203.150.217.116 วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:2:22:16 น.
  

โดย: นางมารร้าย วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:3:30:47 น.
  
ขอมองคนสวยหน่อย นะนะนะ ที่รักกกกกก
โดย: ephi IP: 172.207.109.34 วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:4:51:12 น.
  
โดนคนสวยเอ่ยถึงตั้ง 2 หนแน่ะ เขินจังวุ้ย
โดย: แฟนสวย IP: 61.90.51.164 วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:8:45:40 น.
  
ดุจริง มองหน้าก็ไม่ได้ แล้วลูกความจะกล้ามาให้ว่าความรึ ฮ่าๆ ๆ ๆๆ
โดย: la-la-bell IP: 203.154.246.99 วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:9:28:39 น.
  
เหนื่อยแทนค่ะ เหนื่อยแทน ไม่ปงไม่เป็นมันละ ทนายเนี่ย555

แหม การเม้าท์ถึงดึกดื่น ทำให้ความสามารถในการเก็บคดีลดลง อืมมม!!!
โดย: กุ้ง IP: 203.150.217.117 วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:11:09:30 น.
  
อ่านอีกทีก็มัน หุๆ นุ่นเอ๋ย หากว่านุ่นลดมาอีก 7 ก.ก. สงสัยพวกทนายทั้งหลายขอยอมความน่ะ

เรา update blog เหมือนกันในเวลานี่แหละไปดูได้
โดย: la-la-bell (la-la-bell ) วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:14:32:09 น.
  


ถ้าจำไม่ผิดน๊ะ
วันอังคารกับพฤหัสที่ศาลแขวงกรุงเทพใต้
จะมีประมาณวันละ 10 คดี
เกี่ยวกับหมายเรียกคดีไม่มีข้อยุ่งยากน่ะน๊ะ

ต่อไปต้องเรียกเจ้าของบล๊อคว่าท่านแล้วสิ
อิ อิ อิ อิ






อย่าไปท้อฮะ...อย่าไปท้อ
ใครที่อกหักมาพักบ้านนี้







โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 26 มกราคม 2548 เวลา:23:34:58 น.
  
โอย... กว่าจะอ่านจบ อิอิ

เก่งจัง วันเดียวเก็บได้ตั้ง 3 คดี
ยังงี้มีปัญหาเรื่องกฎหมายก็ปรึกษานุ่นได้ใช่ป่ะ
โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก วันที่: 28 มกราคม 2548 เวลา:17:17:15 น.
  

~ แวะมาขออ่านมั่งค่ะ อิอิ ~







เธออยู่ไหนในคืนเหน็บหนาว
รู้ไหมมีใครคิดถึงกัน

แวะมาเยี่ยมค่ะ

กว่าจะอ่านจบ แต่ได้ความรู้เยอะเลย


*มาแวะบ้านนู๋ด้วยก๊ะ *
โดย: honeynut IP: 61.91.120.191 วันที่: 31 มกราคม 2548 เวลา:15:34:25 น.
  
ผมได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้ กับทางบ.ไท ตอนนี้พนักงานที่ค้ำหายตัวติดต่อไม่ได้ ทาง บ.ไท ฟ้องค่าเสียหายกับผม ผมได้ไปศาลเองโดย ไม่มีทนาย ทางผู้พิพากษา จึงแนะนำให้ไป หาทนายมา ผมจึงติดต่อขอความช่วยกับ สภาทนายความ ,เนติบัณฑิต แต่ทั้งสองที่ ไม่สามารถจัดหาทนายให้ได้ วันที่ 19 ธ.ค. 2550 ไม่อยากขึ้นศาลคนเดียว
.
พอจะมีใครช่วยผมได้บ้าง ใครก็ได้ช่วยผมที..........
บัวงามดี
โดย: อยากทำดี IP: 61.7.163.6 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:00:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
มกราคม 2548

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog