หนาวนี้ที่ปาย: ตอนที่ 4
เช้าวันพฤหัสบดี หมอกไม่ค่อยหนาเท่าไหร่ แต่อากาศยังหนาวอยู่ เวลาพูดจะมีไอออกมา เนื่องจากโปรแกรมวันนี้จะเที่ยวรอบ ๆ ปาย ก็เลยไม่รีบร้อน ตื่นเช้ามาก็เลยไปนั่งเล่นที่เรือนใหญ่กับพี่ตุ้มแป๊บนึง


ดำ ...น้องหมาที่อยู่ ๆ โผล่มาจากใต้ถุนบ้าน


โดโด้ ...หล่อนะเนี่ย

เดิมทีบ้านนี้มีเจ้าโดโด้อยู่ตัวเดียวค่ะ พี่ตุ้มอยากได้น้องหมามาเพิ่มอีกสักตัวก็เลยไปขอลูกหมาบ้านเพื่อนไว้ ขอไปตัวเดียว แต่เพื่อนคงกลัวลูกหมาเหงาก็เลยยกให้อีกตัวเป็นสองตัว ยังไม่ได้ไปเอา เพราะลูกหมายังไม่หย่านมแม่ ปรากฏว่าก่อนเราไปไม่กี่วัน เจ้าดำโผล่ออกมาแล้วก็มาประจบสอพลอจนพี่ตุ้มใจอ่อนให้อยู่บนบ้านด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าเดี๋ยวจะมีน้องหมา 4 ตัวในบ้าน hahaha

หลังจากดูฤกษ์ดูยามแล้ว ได้เวลาออกเดินทางก็เลยขอตัวออกมาหาอะไรทานที่ตลาดก่อน ...จำไม่ได้ว่าเช้านั้นตัวเองทานอะไร (- -')... พอทานเสร็จก็ขี่วนออกนอกเมืองไปทางวัดพระพุทธบาท


นอกเมืองยังมีหมอกลงหนาอยู่เลย ...จะเห็นว่าเราต้องขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้น-ลงภูเขาตลอดอะ ตอนขึ้นไม่เท่าไหร่ แต่ตอนลงบางทีก็วูบ ๆ เหมือนกัน แหะ แหะ


วิวนี้เห็นแล้ววี๊ดวิ้วววววว ...คือเราขึ้นมาอยู่บนเขาอีกลูกอะค่ะ มองไปเห็นหมอกยังคลุมอยู่เหนือเมืองปาย

ตามเส้นทางที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจะมีน้ำตกอยู่น้ำตกนึง ด้วยความที่อยากเห็นก็เลยพยายามขี่ไปตามแผนที่


สองข้างทางที่ขี่ผ่านมีแต่วิวอย่างนี้อะค่ะ มองไปก็สบายตา แต่แอบกลัวนิดหน่อย เพราะแทบจะไม่มีคนหรือรถผ่านมาเลย (- -')


ดอกบัวตองข้างทาง ...พี่ตุ้มเห็นรูปนี้แล้วก็บอกว่า "ไม่ต้องไปถึงทุ่งดอกบัวตองก็ได้เนอะ"

ขี่ไปขี่มา หาทางเข้าน้ำตกแล้วก็วัดพระพุทธบาทไม่เจอ แต่พอเห็นวัดตาลเจ็ดต้นก็รู้แล้วว่าตัวเองขี่เลยทางเข้ามาแล้ว (- -')


ชอบที่เห็นทิวเขาสลับซับซ้อนอย่างนี้อะ >_<






^
^
วัดตาลเจ็ดต้น

ถ่ายรูปเก็บหลักฐานว่าเราได้มาถึงวัดตาลเจ็ดต้นเรียบร้อย ก็ขี่ย้อนกลับไปทางเดิม คราวนี้รู้แล้วว่าจะเลี้ยวเข้าทางไหน อันดับแรกก็มุ่งหน้าไปน้ำตกก่อน อยากเห็นน้ำเย็น ๆ ชื่นใจ ๆ แล้วอะ >_<

ขี่ไป ขี่ไป เอ ...ทำไมไม่เห็นคนเลยหว่า มีแต่ไร่นา ชักลังเล ๆ ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ ทำไมไม่ถึงน้ำตกซักที เริ่มหวั่นว่าจะเหมือนวันก่อนที่น้ำตกอยู่ลึกเข้าไปในเขา พอดีเหลือบไปเห็นเพิงหลังนึงมีคนอยู่ ก็เลยรีบจอดถาม


เพิงนี้อะค่ะ

แต่พอเดินเข้าไปหา กลับไม่เห็นคน ...เอาละเว้ยยย ตรูจะโดนผีหลอกตอนกลางวันแสก ๆ ไหมเนี่ย ... ตะโกนเรียกก็เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีสัญญาณอะไรที่บอกว่ามีคนอยู่เมื่อกี้ ...กลัว ๆ T_T... แต่พอจะเดินออกมา ก็ได้ยินเสียงกุกกัก ๆ จากด้านหลังเพิง ...สงสัยป้าเค้าจะกลัวเราเหมือนกัน ถึงหลบไปอยู่ข้างหลังอะ (- -')

พอเราบอกเป้าหมายว่าเราจะไปน้ำตก ป้าก็บอกว่า "หูยย ต้องขี่เข้าไปอีกไกล น้ำตกอยู่ลึกเข้าไปในเขานู้นนน" ...เอาอีกแล้วตรู แล้วชั้นจะได้เที่ยวน้ำตกไหมเนี่ย (- -')

ทำอะไรไม่ได้ค่ะ สุดท้ายก็เลยเลี้ยวรถกลับตามระเบียบ มุ่งหน้าไปวัดพระพุทธบาทต่อ

ตอนแรกนึกว่าจะหายาก ปรากฏว่าหาไม่ยากเลย ขี่ไปตามเส้นทาง อยู่ ๆ ก็ถึงวัดซะงั้น


ทั้งวัดมีพระอยู่รูปเดียวค่ะ


รอยพระพุทธบาท

เนื่องจากตอนเราไปถึงมีชาวบ้านนำอาหารมาถวายเพล แต่เราไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย ก็เลยถวายปัจจัยให้เจ้าอาวาส 100 บาท

ออกจากวัดพระพุทธบาท ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหมู่บ้านต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ จนทะลุออกถนนปาย-แม่ฮ่องสอน โปรแกรมต่อไปก็คือขี่ไปทางแม่ฮ่องสอน เพื่อถ่ายรูปธารน้ำข้างทางตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อวาน


ถึงแล้ว




^
^
ดู ๆ เหมือนจะไม่ลึก

วิวนี้ถ่ายออกมาไม่ค่อยสวย จากถนนมันเห็นกองดินด้วย ก็เลยขี่ไปอีกหน่อยจนถึงโค้งที่จำได้ว่าวิวสวย


วิวนี้จอดมอเตอร์ไซค์ไว้ข้างทางแล้ววิ่งข้ามถนนไปถ่าย ...คิดไปคิดมาก็เสี่ยงเหมือนกันนะเนี่ย เพราะถนนก็คดเคี้ยวซะ (- -')


ที่ถ่ายมาชอบรูปนี้ที่สุด เพราะเห็นชัด ๆ ว่ามีธารน้ำขนานกับถนน (ถ่ายจากโค้งถนนพอดี)


ถัดจากธารน้ำ ถ้าเป็นที่ราบก็จะเป็นไร่นา ...อยากถามว่าขายไหมเนี่ย อยากมีบ้านอยู่แถวนั้นอะ >_<

เก็บภาพได้พอสมควร ก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาทางปายเพื่อไปเที่ยวน้ำตกหมอแปงต่อ ...หวังว่าจะได้เห็นน้ำตกซักทีนะ...

ตอนแรกนึกว่าจะหายากเหมือน 2 น้ำตกที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าไม่ใช่


วิวนี้ถ่ายจากที่จอดมอเตอร์ไซค์


ทางลงไปน้ำตก


ตามขั้นบันไดก็มีน้ำไหลลงมา เหมือนน้ำตกย่อม ๆ


มองจากทางเดินแล้วผิดหวังหน่อย ๆ ที่น้ำตกไม่อลังการอย่างที่คิด


จากน้ำตกก็เป็นธารต่อ ...มีลักษณะเป็นขั้นเล็ก ๆ บางตอน


ดูไปดูมา ก็สวยดีเหมือนกัน แถมสามารถเล่นน้ำได้ด้วย เพราะไม่อันตราย


ขอให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถ่ายให้ ...คิดว่าน่าจะเป็นเกาหลี เพราะฟังจากที่เค้าพูดกัน เราไม่คุ้นหูอะค่ะ ถ้าเป็นภาษาจีนหรือญี่ปุ่นนี่เราพอจะคุ้นหูบ้างน่ะ


ไหน ๆ ก็ขอให้แม่เค้าช่วยถ่ายรูปให้แล้ว ก็ถ่ายกับลูกเค้าหน่อย (- -') ...เติ้ลบอกว่า "ว่าแล้ว ไม่ได้รักเด็กจริง ๆ หรอก" hahaha


เล็ง ๆ ว่าเดี๋ยวจะตะกายขึ้นไปข้างบน


ฟ้าสีสวย (อีกแล้ว)


ใบไม้สีแดงร่วงลงมาอยู่บนพื้น ระหว่างทางขึ้นไปอีกชั้นของน้ำตก


ทางข้ามธารเล็ก ๆ


พอมองลงไปก็สูงเหมือนกันนะเนี่ย (- -')


มุมนี้เห็นชัด ๆ ว่าสูง ...แถมเห็นว่ามีน้ำตกอีกชั้น ก่อนถึงชั้นล่างอีกต่างหาก

ตอนปีนกลับขึ้นมา เกือบเอาตัวไม่รอด เพราะหินลื่นมาก ถ้าตกลงไปก็คงกลิ้งไปถึงชั้นล่างแหง ๆ (- -') ไอ้เราก็มีแผนที่กับกล้องในมือ ไม่รู้จะเอามือไหนเกาะตะกายขึ้นมา นึกในใจว่า 'นี่ ชั้นจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่เหรอเนี่ย แล้วทำไมชั้นต้องมาเที่ยวคนเดียว ไม่มีคนมาช่วยดึงขึ้นฟะ' ...แบบตอนนั้นนึกสมเพชตัวเองหน่อย ๆ hahaha... แต่ในที่สุดก็หาทางดึงตัวเองขึ้นมาได้อะค่ะ

ออกจากน้ำตกก็มุ่งหน้าไป Chinese Village แต่หาไม่เจอ (อีกแล้ว)


ระหว่างทางเห็นกระต๊อบหลังนึงอยู่บนเนิน รู้สึกว่าสวยดี ...อยากปลูกบ้านอยู่อย่างนี้อะ >_<


เห็นสีฟ้าแล้วอดใจไม่ได้จริง ๆ

หา Chinese Village ไม่เจอ เลยขี่มาตามทางเรื่อย ๆ จนมาถึงวัดน้ำฮู ที่อยู่ใกล้ ๆ บ้าน ...คือบ้านพี่ตุ้มอยู่ในหมู่บ้านน้ำฮูนี่แหละค่ะ แสดงว่าเราใช้เส้นทางเป็นวงกลมอีกแล้ว




ในศาลามีรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้สักการะด้วย


ทางเข้า


ภายในวัด


ในศาลามีพระพุทธรูปอยู่ แต่ไม่ได้เดินเข้าไปไหว้อะค่ะ


เจดีย์บรรจุอัฐิของพระสุพรรณกัลยา ...ตอนมองดูรูปที่ติดอยู่ด้านหน้า แอบขนลุกหน่อย ๆ แหะ แหะ


หลวงพ่ออุ่นเมือง ที่เชื่อกันว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสร้างถวายเป็นพระราชกุศลให้พระสุพรรณกัลยา

พอออกจากวัดน้ำฮู ก็เห็นป้ายบอกทางไป Chinese Village ก็เลยตัดสินใจขี่ย้อนไปตามทางเดิม คราวนี้เจอแฮะ


ทางเข้า Chinese Village


บ้านเป็นบ้านดินอะค่ะ ...ชื่ออีกชื่อนึงของ Chinese Village ก็คือหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอะ มิน่าถึงถามชาวบ้านว่า Chinese Village ไปทางไหน ไม่มีใครรู้จัก (- -')




^
^
2 หลังนี่ใช้ขายของที่ระลึก


กังหันชิงช้า


เก๋งจีน ...เรียกอย่างนี้หรือเปล่าหว่า????


ตรงกลางมีรูปปั้นมังกรตั้งอยู่บนโขดหิน

ออกจาก Chinese Village ก็แวะบ้าน เอาของมาเก็บ ...อยู่ใกล้บ้านนี่เอง หาไม่เจอได้ไงเนี่ย (- -')


กุหลาบหน้าเรือนใหญ่

หลังจากนั้นก็ออกไปหาข้าวกลางวันทาน


นึกอะไรไม่ออก พอดีจำได้ว่าพี่ตุ้มเคยแนะนำว่าผัดไทร้านนี้อร่อย ก็เลยลองทานดู


รสชาติใช้ได้ค่ะ

พอทานอิ่มก็ไม่รู้จะไปไหนแล้ว เที่ยวจนทั่วแล้วอะ (- -') ก็เลยกลับบ้าน เจอพี่ตุ้ม พี่ตุ้มบอกว่าตอนเย็นจะพาไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่แคนยอน แล้วก็จะพาไปดูเจียมเล่นดนตรี เราก็เลยนอนเล่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงรอเวลา

5 pm ก็ได้ฤกษ์ออกจากบ้าน โดยพี่ตุ้มซ้อนมอเตอร์ไซค์พอลไป ส่วนเราก็ขี่ตาม

ทางขึ้นไปแคนยอนหรือกองแลนต้องจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ข้างถนน ตรงศาลาอะค่ะ


ทางขึ้น ...ตอนเดินขึ้นไป คิดว่าใครนะช่างค้นพบ เพราะชันพอสมควร แถมเราไม่มีคนช่วยจูงเดินเหมือนพี่ตุ้มซะด้วย -*-


แต่พอเดินขึ้นมาถึงข้างบนก็หายเหนื่อย


พี่ตุ้มกับพอล ...สวีทกันไม่เห็นใจคนโสดอย่างเราเล้ยยยย >_<


ถึงจะไม่มีคนมาโอบแต่ก็ยังยิ้มด้ายยยยย hahaha ...อากาศหนาวมากกก ขนาดใส่เสื้ออย่างในรูปทับด้วยแจ็คเก็ตยังเอาไม่อยู่เลย (- -')


พอลออกไปยืนตรงชะง่อนผา ...เราอยากออกไปยืนบ้าง แต่กลัวตกอะค่ะ แหะ แหะ


ข้างบนมีนักท่องเที่ยวอยู่ 2-3 คนเองค่ะ ...สามารถเดินไปบนสันเขาได้ แต่เราไม่กล้าเดินอะ (- -')


อีกมุมนึงบนแคนยอน


รูปนี้ย้อนแสงเต็ม ๆ แต่ออกมาแล้วชอบอะค่ะ


ไม่ได้อยู่จนพระอาทิตย์ตกจริง ๆ อะค่ะ เพราะมันจะมืดจนลงลำบาก

ลงจากแคนยอน พี่ตุ้มก็พาไปทานอาหารที่ร้านเพื่อนพอล ...เป็นร้านอาหารไทยที่ฝรั่งเป็นเจ้าของ (- -')... จะไม่ประทับใจก็ตรงนี้แหละ ทุกอย่างในปาย ดูเหมือนจะมีฝรั่งจับจองหมด

ทานข้าวเย็นแล้ว ยังมีเวลาเหลือกว่าเจียมจะเล่นดนตรี พี่ตุ้มก็เลยพาไปอุ่นเครื่องที่อีกร้านนึงก่อน




^
^
ออกแนวติสต์มากเลย

สั่งแสงโสมมา 1 แบน ดื่มรอเวลา พอหมด ก็ได้เวลา 10 pm ที่เจียมจะขึ้นเล่นดนตรีพอดี เรากับพี่ตุ้มก็เลยขอตัวจากพอลและเพื่อน


ไปถึงเจียมกำลังเริ่มเล่นพอดี ...เจียมเป็นคนทางซ้ายของภาพอะค่ะ

พี่ตุ้มเลือกนั่งตรง counter แล้วก็สั่งแสงโสมมาอีก 1 แบน ...เอาล่ะเว้ยยย แบนนี้ต้องดื่มกันสองคน จะไหวไหมเนี่ย (- -')

หลังจากวงของเจียมเล่นเสร็จ ก็เป็นนัก pianist มาเล่นให้ฟังต่อ




Mitch Woods

กำลังจิบเหล้า ฟังเพลงอยู่ สายตาก็ไปปะทะสาวสวยคนนึงเข้า โอ๊ววว จี๊ด แสงทอง มากับอนันดา

เราเคยไป liveaboard ลำเดียวกับจี๊ดในทริปดำน้ำที่อันดามันอะค่ะ พอเจอกันก็เลยทักทายกัน จี๊ดจะไปดำน้ำกับครูโอ๋อีกช่วงต้นเดือนธันวาก็เลยถามเราว่าเราไปด้วยไหม แต่เราติดงานอะค่ะ ก็เลยไม่ได้ไป ...ว่าแล้วก็อยากไปดำน้ำ T_T... โดนลากออกไปเต้นด้วย เพราะอนันดาไม่ชอบเต้น แถมตอนจี๊ดแนะนำอนันดาให้รู้จักเรา อนันดายังยกมือไหว้อีก ...นี่ ชั้นดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย (- -')...

อยู่จนได้เวลาผับปิดอะค่ะ ที่สำคัญยืนอยู่มาได้ตั้งนาน พอจะกลับดันง่วงนอนซะนี่ สุดท้ายก็เลยยืนพิงเสาหลับอยู่อย่างนั้นประมาณ 5 นาที hahaha ...พี่ตุ้มเล่าให้ฟังเช้าวันต่อมาว่ามีหนุ่มแซวด้วย (- -')

ขากลับ เนื่องจากดึกมากแล้ว ...ตี 2 กว่าอะค่ะ... เจียมกับเพื่อนก็เลยต้องขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งพี่ตุ้มกับเราที่บ้าน อากาศหนาวมั่กมาก แค่ออกมานอกร้านก็ตื่นแล้ว ยิ่งซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับบ้านอีก โหยยยย สุดยอด >_< แต่ถึงจะง่วงยังไง ก็ไม่ลืมล้างหน้า แปรงฟันก่อนนอนอะนะ พร้อมกับคิดว่าพรุ่งนี้ตื่นมาจะ hang over ไหมเนี่ยตรู (- -')

โปรดติดตามตอนต่อไป




Create Date : 17 ธันวาคม 2549
Last Update : 25 ธันวาคม 2549 16:17:02 น.
Counter : 1525 Pageviews.

7 comments
  
แอบมาดูตอนที่ 4 ต่อ นับถือ นับถือ เลยค่ะ มาแค่ไม่กี่วัน เที่ยวปายจนปรุหมดแล้ว อิอิ

พี่นุ่นนี่ดวงสมพงศ์กับดาราจังน่ะค่ะ จำได้คราวก่อนพี่นุ่นเคยเล่าว่าเจอนาตาชา กับตุ้ย ธีรภัทรด้วยหนิค่ะ มาคราวนี้เจออนันดา กับจี๊ด อีก

ปอลอ. แสงโสมทำพิษป่าวค่ะ อิอิ จิบ บ่อย บ่อย เพื่อความอบอุ่นในร่างกาย ตอนนี้เชียงใหม่อากาศหนาววววววววว บรึ๊ยยยยยย พิมพไปมือแข็งไป โอ้วววววว ! ไม่หนาวแบบนี้มาหลายปี
โดย: zaxzophone. IP: 203.154.48.14 วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:11:18:29 น.
  
แวะเข้ามาอ่าน อิจฉาแฮะ ได้ไปเที่ยวรับลมหนาวที่เมืองเหนือด้วย ปล่อยให้เราเล่นกะแมนต้าอยู่คนเดียว!!!
โดย: P' รุต IP: 124.121.39.146 วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:21:29:01 น.
  
ยืนยันว่าครั้งนี้คุณนุ่นต้องได้รับการชาร์ตแบ็ตมาเยอะเลยค่ะ เพราะทริปสนุกแล้วบรรยากาศดีมั่กๆ ...


มีความสุขมากๆ ค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:22:59:05 น.
  
แงๆ เอาใหม่รูปไม่ขึ้น .... แก้ตัวอีกรอบนะค่ะคุณนุ่น


มีความสุขมากๆ ค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:23:01:12 น.
  
อยากไปอีกจัง...
โดย: โอ๋ IP: 58.181.145.220 วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:17:15:27 น.
  
ตามมาอ่านจ้า
โดย: ไร้นาม วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:23:25:42 น.
  
ตามมาอ่านอีกคน เที่ยวเย๊อะ...จริงๆเลยน๊า... อิจฉาๆ เดี๋ยวพฤหัสนี้ก็เที่ยวเยาวราชอีกเนอะ
โดย: Ja~ IP: 202.28.179.3 วันที่: 26 ธันวาคม 2549 เวลา:17:28:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
ธันวาคม 2549

 
 
 
 
 
1
2
3
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog