Italy, Austria & Germany: Venezia (30 Sept. - 02 Oct. 2008) Part 4
เช้าวันที่ 2 ตุลาคม ...วันนี้เป็นวันที่พวกเราต้อง check out ออกจากโรงแรม เพื่อเดินทางต่อไป Graz, Austria ค่ะ โดยพวกเราซื้อตั๋วรถไฟไว้รอบ 01.00 am ขึ้นจาก Venezia Mestre อะค่ะ ((พวกเราต้องนั่งรถไฟจาก Stazione Santa Lucia ไปลง Venezia Mestre ที่เป็นสถานีหลักของ Venezia แล้วจึงจะต่อรถไฟไป Graz อะ))

ตอนแรก plan กันไว้ว่าจะเอาของไปฝากไว้ที่ locker @ Stazione Santa Lucia เพราะคิดว่าโรงแรมไม่น่าจะรับฝากกระเป๋า แต่พอเอื้อมไปจ่ายเงิน ถามเค้าเรื่อง Murano แล้วก็ถามด้วยว่าจะฝากกระเป๋าไว้ได้หรือเปล่า ทางโรงแรมไม่ขัดข้อง พวกเราก็เลยสบายไปค่ะ :) ...จริง ๆ เกรงใจทางโรงแรมเหมือนกัน เพราะห้องที่คนดูแลอยู่ค่อนข้างแคบอะค่ะ กระเป๋าพวกเราก็ใบใหญ่ 3 ใบ วางไว้ก็เกือบเต็มห้องแล้วอะ แถมยังขอฝากไว้จนถึง 10.00 pm อีกตะหาก (- -')

ภารกิจแรกที่พวกเราทำก่อนไป Murano ก็คือ ไปร้านขายเทียน @ Rialto ค่ะ hahaha ...ไม่ได้เลย ๆ ชั้นอยากได้เทียน (>_<)


นาฬิกา @ San Giacomo di Rialto ค่ะ


บริเวณเชิง Ponte Rialto ...ผู้คนคึกคักมาก ๆ


ก่อนมาถึง Rialto พวกเราทานพิซซ่าพัฟส์มาคนละชิ้น ก็เลยซื้อผลไม้ทานปิดท้ายอะค่ะ :)

หลังจากซื้อเทียนเสร็จแล้ว ((ดูรูปได้ที่ Part 1 นะคะ)) พวกเราก็จะเดินไปขึ้นเรือเมล์ เพื่อไป Murano ค่ะ แต่ต้องตกใจกับน้ำที่ล้นตลิ่งอะ ...กรี๊ด ๆ น้ำท่วม Venezia (>_<)...




^
^
จริง ๆ ไม่ใช่น้ำท่วมหรอกค่ะ แต่เป็นช่วงน้ำขึ้นมากกว่า แหะ แหะ

Murano เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อในเรื่องการทำแก้วค่ะ ซึ่งเค้าจะใส่สีและทำลวดลายลงไปขณะทำเลย ไม่ใช่การ paint สีด้านนอก ...ถ้าใครไป Venezia แล้วไม่รู้จัก Murano Glass นี่ อาจจะนับว่าไปไม่ถึงก็ได้นะคะ :)

ทันทีที่พวกเราลงจากเรือเมล์ที่ Navagero Pier @ Murano พอก้าวเท้าพ้นจากท่าเรือ ก็จะมีคนมาคอยพานักท่องเที่ยวไปโรงงานทำแก้วกันเลยค่ะ


โรงงานนี้มีการสาธิตการทำ Murano Glass ให้ดูด้วยค่ะ


เวลาดูเค้าทำเหมือนง๊าย ง่าย เอาแก้วไปเผาให้ร้อน แล้วก็เอามากลิ้ง ๆ ดึงนู่นนิด ดึงนี่หน่อย ใส่สีลงไป ออกมาเป็นรูปซะงั้น


เค้าทำเป็นรูปม้าให้ดูอะค่ะ ใส่สีออกม่วงลงไปหน่อยนึง พอให้เห็นสี :) ...ใช้เวลาในการทำไม่ถึง 5 นาทีอะ สุดยอด

ออกจากที่สาธิต ก็สามารถแวะซื้อสินค้าได้ค่ะ แต่พวกเรายังไม่ตัดสินใจซื้ออะไร เพราะอยากเดินดูให้ทั่ว ๆ ก่อนอะค่ะ ดังนั้น พวกเราก็เลยขึ้นเรือเมล์ต่อไปยัง Faro Pier

เดินออกจากท่าได้แป๊บเดียว เราก็สะดุดตากับที่กั้น แสดงเขตห้ามเข้าตรงประตู ๆ นึงอะค่ะ ด้วยความเป็นคนสอดรู้สอดเห็น ((ยอมรับก็ได้ hahaha)) ก็เลยเดินไปดู ปรากฏว่าเป็นโรงงานทำ Murano Glass แล้วพนักงานก็กำลังทำงานกันอยู่อะค่ะ ...เข้าใจว่าที่ต้องเอาที่กั้นมากั้น เพราะนักท่องเที่ยวอาจจะไม่รู้ ชอบเดินทะเล่อทะล่าเข้าไป ซึ่งอาจเป็นการรบกวนพนักงาน ไม่ก็เกรงว่านักท่องเที่ยวจะได้รับอันตราย เพราะในโรงงานค่อนข้างร้อน รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็น่าหวาดเสียวด้วยอะ (- -')


ในภาพ เค้ากำลังจะทำ "จระเข้" ค่ะ ...มีตุ๊กตาจระเข้วางเป็นแบบอยู่ข้าง ๆ คนตรงกลางภาพด้วย :)

พวกเรายืนดูตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง จนกระทั่งเห็นเป็นจระเข้ แล้วถึงเดินต่ออะค่ะ เป็นพวกมีความมุ่งมั่นในการดูดีมาก พอ ๆ กับตอนที่ยืนดูเค้าทำเทียนเลย hahaha


ถึง Murano จะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมทำแก้ว แต่ก็มีมุมน่ารัก ๆ เยอะนะคะ ...เช่นหน้าต่างบานนี้เป็นต้น :)


รูปนี้แสงสวยอะค่ะ

หลังจากนั้นป้าสุก็แยกตัว เพื่อกลับไป Venezia ค่ะ ...ป้าสุอยากเข้าไปชมด้านในของ Santa Maria della Salute อะ... ส่วนเอื้อมกับเราอยู่ที่ Murano กันต่อ แล้วก็จะนั่งเรือต่อไป Burano เกาะอีกเกาะนึงด้วยค่ะ

เดินไปเดินมาก็ไปสะดุดตากับสร้อยข้อมือค่ะ สองคนก็เลยเข้าไปดูในร้าน แล้วพอเอื้อมลองใส่ แล้วมันหลวมไป เลยขอคุณเจ้าของร้านให้เค้าปรับให้ เค้าก็ขมวดปมเพิ่มขึ้นอีกปม ง่าย ๆ แล้วก็ออกตัวว่ามือเค้าเจ็บ ก็เลยทำให้ได้แค่นี้ ว่าแล้วก็โชว์มือตัวเองว่าเป็นเหี่ยวมากกกกก ...เหมือนคนที่มีอาการแพ้อะไรสักอย่างอะค่ะ... ด้วยความที่เอื้อมก็เป็นโรคคล้าย ๆ กันคือ มือเหี่ยว ก็เลยแนะนำให้ใช้ hand cream ของ L'Occitane ไม่ได้แนะนำเปล่า ๆ ด้วย เอื้อมให้ลองใช้ดู ปรากฏว่าคุณเจ้าของร้านติดใจ ถามใหญ่เลยว่าจะหาซื้อได้จากไหน แต่เท่าที่พวกเราเดินย่าน shopping street ใน Italy มา ยังไม่เจอ shop ของ L'Occitane อะค่ะ เอื้อมก็เลยยกให้คุณเจ้าของร้านไปเลย ((พอดีเราพกติดตัวไปอีกหลอดนึงอะค่ะ เอื้อมก็เลยใช้ของเราได้))

คุณเจ้าของร้านประทับใจในความใจดีของพวกเรา ตอนเธอบอกว่า "I'll give you my heart." เราก็นึกว่าเธอหมายความว่าเธอขอบคุณพวกเราจากใจ ที่ไหนได้ เธอเดินไปหยิบจี้รูปหัวใจในร้านอะค่ะ แล้วก็ให้พวกเราเลือกสีว่าจะเอาสีอะไร พอดีเอื้อมจะซื้อสร้อยข้อมือโทนออกสีแดง ก็เลยเลือกสีแดง


ส่วนเราเลือกสีฟ้า ก็เลยเอาจี้สีฟ้าเหมือนกันค่ะ :)

เสียตังค์ (ค่าสร้อยข้อมือ) กับอิ่มใจที่ได้ช่วยคุณเจ้าของร้าน พวกเราก็หิวค่ะ hahaha ก็เลยแวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้านริมทางเดินนั่นแหละ


ดอกไม้สีม่วงตัดกับบ้านสีแดงข้างหลัง :) ...ถ่ายจากโต๊ะที่เรากับเอื้อมแวะทานอาหารกลางวันกันอะค่ะ


จำชื่อไม่ได้ว่าสั่งอะไร แต่เป็นปลาหมึกอะค่ะ ส่วนด้านข้างที่ดูเหมือนขนมปัง จริง ๆ เป็นแป้งเหนียว ๆ รสออกเค็มอะค่ะ ((ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรอะ T_T))

พอออกจากร้านอาหาร ก็เดินชี้ชวนชมกันไปเรื่อย ๆ ค่ะ บางทีก็ต้องเบรค ๆ กันไว้บ้าง ไม่งั้นอาจจะหมดตัวอยู่ที่ Murano ได้ hahaha ...แต่ของเค้าน่ารักจริง ๆ นะคะ เห็นแล้วยั่วใจมากเลยอะ (>_<)


เดินไปเจองานศิลปะที่ทำจาก Murano Glass ตั้งอยู่หน้าหอนาฬิกาอะ


ชัด ๆ

พวกเราเดินไปถึง Colonna Pier ...ท่าเรืออีกท่าใน Murano อะค่ะ... ใกล้ ๆ นั่นมีงานแสดงศิลปะจัดอยู่


ป้ายหน้างานค่ะ :)

จากนั้นพวกเราก็เดินกลับไปขึ้นเรือเมล์ที่ Faro เพื่อต่อไป Burano


ประภาคาร ...ตรงท่า Faro ค่ะ :)

ใช้เวลาในการเดินทางจาก Faro ไปถึง Burano ประมาณ 45 นาทีอะค่ะ


เรียงแถวสวยงาม ...มีลูกเป็ดขี้เหร่ปิดท้าย hahaha


Burano ขึ้นชื่อในเรื่อง Colourful houses ค่ะ ...เป็น The most colourful of the lagoon islands เลยทีเดียว... ((นี่แค่บ้านตรงท่าเรือนะคะ))


รูปปั้นตรงท่าเรือ

จากนั้นเอื้อมกับเราก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินเก็บภาพบ้านหลากสีไปเรื่อย ๆ ค่ะ ...ชอบ ๆ (>_<)... เดินไปมุมไหนก็ "อุ๊ย น่ารัก" "อุ๊ย สีเลิศ" อ้าปากค้างตลอดทาง hahaha


ร้านขายผ้าลูกไม้ บริเวณทางเข้าค่ะ


โชคดีที่พวกเราไปถึงเกาะยังทันมีแสงให้ถ่ายรูปได้อะค่ะ :)


สีแสบตาสุด ๆ


มุมนี้แหละค่ะ ที่เอื้อมกับเราเห็นในโปสการ์ดที่ Venezia แล้วทำให้ร่ำร้องจะมา Burano, hahaha


อีกมุมนึงของ Burano


ถึงจะมีนักท่องเที่ยว แต่เค้าก็ยังคงใช้ชีวิตกันเป็นปกตินะคะ ...ตากผ้ายังไงก็ตากอย่างงั้น hahaha


ถนนแห่งสีสัน :)


โดนจายยยย (>_<)


ถึงสีจะไม่แสบตา แต่ก็สวยไปอีกแบบนึง hahaha

ออกจาก Burano พวกเรานั่งเรือเมล์ต่อไป Treporti ...เกาะเล็ก ๆ เลย Burano ไปอะค่ะ... แต่พอไปถึง มันเริ่มมืดแล้ว ก็เลยไม่ลงจากเรือเมล์ แต่นั่งวนกลับไปลงที่ San Marco, Venezia อะค่ะ


Treporti เป็นเกาะที่มีบ้านพักตากอากาศอะค่ะ ก็เลยมีเรือมาจอดเทียบท่าเยอะ


เรือวนกลับมา Burano อีกรอบ :)

ขากลับนี่ใช้เวลา 1.30 hrs ค่ะ ...นั่งเรือกันคุ้มเลย hahaha


Luna Piena Fullmoon ...ลูกบอลเรืองแสงตรงท่า San Marco อะค่ะ

จากนั้นเรากับเอื้อมก็ต่อเรือเมล์กลับไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารใกล้ ๆ ที่พัก ก่อนกลับไปรอป้าสุที่โรงแรม ...นัดกัน 10.00 pm อะค่ะ...

แต่... 10.00 pm ป้าสุก็ยังไม่มา คราวนี้พวกเราเริ่มวิตกกังวลกลัวป้าสุจะขึ้นเรือเมล์ผิดสาย เพราะปกติเวลาเดินทางไม่เราก็เอื้อมจะเป็นคนดูสายรถอะค่ะ แล้วป้าสุก็ไม่ถนัดเรื่องทิศทางด้วย เอาล่ะสิ (- -') เอื้อมก็ส่ง sms ถามว่าอยู่ที่ไหน สักพักป้าสุ sms ตอบกลับมาว่า กำลังขึ้นเรือเมล์สาย 2 กลับที่พัก พวกเราก็แทบกรี๊ด เพราะสาย 2 เหนือเนี่ย มันเลิกวิ่งตั้งแต่ 08.30 pm แล้ว ส่วนสาย 2 ใต้เนี่ย มันก็อ้อมโลกซ้า ประมาณว่าจาก San Marco มาที่พัก ถ้านั่งสาย 2 เหนืออาจจะแค่ครึ่งชั่วโมง แต่สาย 2 ใต้จะใช้เวลา 1 hr ทำนองนั้นอะค่ะ

บังเอิ๊ญคนที่เฝ้าโรงแรมตอนนั้นเป็นพ่อหนุ่มเร้กเก้คนเดียวกับที่พวกเรา check in แกเดินออกมาเจอเรากับเอื้อมนั่งจุมปุ๊กกันอยู่ที่ทางเดิน แกก็เลยถามว่า พวก you ยังไม่ไปกันอีกเหรอ เราก็เลยตอบว่า "We're waiting for our friend." พ่อหนุ่มก็เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นก็เลยซักต่อว่า "นัดกันไว้กี่โมง" เราก็ตอบว่านัดไว้ 10.00 pm แต่ She lost. เท่านั้นแหละค่ะ พ่อหนุ่มแกขำกลิ้งไปเลย มีการถามกลับด้วยว่า จริงเหรอ Are you kidding me? เอื้อมกับเราก็เลยบอกว่า ไม่ได้ kidding (โว๊ยยย) เพื่อนหลงจริง ๆ ...พ่อหนุ่มเลยได้เรื่องฮาตอนเที่ยงคืนซะงั้น (- -')


ไม่มีอะไรทำ ก็เลยลุกขึ้นมาถ่ายรูปแผนที่ Venezia ที่ติดอยู่บนผนังริมทางเดินอะค่ะ ...เอื้อมกำลังชี้จุดที่โรงแรมตั้งอยู่อะ ((ดูแผนที่โดยรวมคล้ายปลาไหมคะ??? hahaha))

11.00 pm นั่นแหละค่ะ ที่ป้าสุกลับมาถึงที่พัก ...ไชโย!!!... จากนั้นพวกเราก็รีบขนกระเป๋าไป Stazione Santa Lucia เพื่อขึ้นรถไฟไป Venezia Mestre แล้วต่อไป Graz, Austria ค่ะ

Bye bye, Italia T_T See you next time.

(โปรดติดตามตอนต่อไป)



PS. เที่ยว Italy มาตั้งหลายเมือง แต่เราไม่เจอใครหน้าตาหล่อโดนใจเลยอะ (- -') ...เพราะฉะนั้น ที่หลาย ๆ คนบอกว่าผู้ชายอิตาลีหล่อเนี่ย ขอคัดค้านนะคะ hahaha



Create Date : 11 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 15:01:21 น.
Counter : 1986 Pageviews.

3 comments
  
เตี้ย ถึก กระเซิง คือหนุ่มอิตาลี่ที่ได้เห็น แต่แบบหล่อบาดใจก็มีหลายคนค่ะ อิอิ ได้แต่มองงงง มองดู
โดย: ป้าเก๋สวย IP: 84.102.201.180 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:2:08:31 น.
  
หล่อ ๆ เค้าไปเตะบอลกันเจ๊
โดย: smatch IP: 61.19.228.46 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:53:38 น.
  
บล็อกนี้อ่านแล้วโดนใจเรื่องเจ้าของร้านที่เค้า
มอบสร้อยให้แลกกับครีมน่ะคะ ... โห อ่านแล้ว
เป็นปลื้มเลยนะค่ะ แบบว่าน้ำใจนะค่ะไม่แบ่งปัน
ชนชาติจริงๆ นะคะ .. เราว่าอ่านแล้วน่ารักจัง

..........

วันนี้พาเดินสะดุดตากับความสดใสของบ้าน
คนที่โน่นจังเลยค่ะคุณนุ่น .. โปรดนักแลที่ได้เห็น
บ้านเค้าเป็นสีสันอย่างนี้ เพราะมันเพลินๆ กับ
การได้ถ่ายรูปมากมายค่ะ ^^
โดย: JewNid วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:53:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชาบุ
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



เป็นสาวแกร่งแรงเกินร้อย ประเภทพึ่งพาตัวเองได้ ดื้อเงียบ (แต่มีเหตุผลพอสมควรนะ) อ่อนไหว ช่างฝัน แต่ก็อยู่ในโลกของความเป็นจริง ชอบมองอะไรกว้าง ๆ และทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น (ปลงแล้ว! hahaha) ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ชีวิตนี้ยอมไม่มีแฟนดีกว่าไม่มีหนังสืออ่านอะ >_<

สิ่งที่จำขึ้นใจคือ คำคมภาษาอังกฤษที่ว่า "I will take my life into my hands and I will use it" และ คำคมจากหนัง My Best Friend's Wedding "When you love someone,you say it right then, out loud or the moment just passed you by"
พฤศจิกายน 2551

 
 
 
 
 
 
1
2
3
9
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
27
28
29
30
 
 
All Blog