|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทุนที่ไม่มีวันหมด
หลังจากที่ หลวงพ่อชา สุภัทโท ได้ริเริ่มบุกเบิกวัดหนองป่าพง
ตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๙๗ เป็นต้นมา วัดนี้ก็ค่อยๆ เติบโตกลายเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเหตุให้มีผู้คนหลั่งไหลมาจาริกบุญศึกษาธรรมที่วัดนี้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย จนลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งมีความคิดว่า วัดหนองป่าพงควรมีมูลนิธิเหมือนอย่างวัดอื่นบ้าง เพื่อวัดจะได้มีทุนดำเนินงานอย่างมั่นคง
เมื่อลูกศิษย์นำความดังกล่าวไปปรึกษาหลวงพ่อ ประโยคแรกที่ ท่านตอบก็คือ อย่างนั้นก็ดีอยู่ แต่ผมคิดว่ามันยังไม่ถูกต้อง
แล้วท่านก็ให้ความเห็นต่อว่า ถ้าพวกท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้วคงจะไม่อด พระพุทธเจ้าท่านก็ยังไม่เคยมีมูลนิธิเลย ท่านก็โกนหัวปลงผมทำอะไรเหมือนพวกเรา ท่านก็ยังอยู่ได้ ท่านได้ปูทางไว้ให้แล้ว เราก็เดินตามทางของท่าน ก็น่าจะพอใจไปได้นะ
แล้วหลวงพ่อก็สรุปว่า
บาตรกับจีวรนี่แหละมูลนิธิที่พระพุทธเจ้าตั้งไว้ให้เรา กินไม่หมดหรอก
หลวงพ่อชาเป็นอยู่อย่างมักน้อยสันโดษมาก กุฏิของท่านแทบจะโล่งเพราะมีแต่เตียงนอนและของใช้ที่จำเป็น เช่น กระโถน ไม่มีของใช้ฟุ่มเฟือยเลยส่วนวัตถุสิ่งของต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวายอยู่เสมอนั้น ท่านก็ส่งต่อไปให้ลูกศิษย์ตามวัดสาขาต่างๆ หมด
ท่านไม่เคยมีบัญชีเงินฝากส่วนตัว ปัจจัยหรือเงินทำบุญที่โยมถวายนั้น ท่านก็ให้เป็นของกลางหมด
เราพอกิน พออยู่แล้ว จะมากอะไรทำไมนะกินข้าวมื้อเดียว
ท่านเคยพูดให้ฟัง บ่อยครั้งที่โยมตัดพ้อว่า เพราะได้ปวารณาถวายปัจจัยไว้ให้ท่านใช้ในกิจส่วนตัว แต่หลวงพ่อไม่เคยเรียกใช้สักที ท่านเคยปรารภกับลูกศิษย์ว่า ยิ่งเขามาปวารณาแล้ว ผมยิ่งกลัว

คราวหนึ่งมีผู้เอารถไปถวายหลวงพ่อ รบเร้าให้หลวงพ่อรับให้ได้โดยขับมาจอดไว้หลังกุฏิท่าน แล้วเอากุญแจใส่ย่ามท่านไว้ แต่ปรากฏว่าหลวงพ่อไม่เคยดูรถคันนั้นเลย พอออกจากกุฏิท่านจะเดินไปทางอื่น จะไปในเมืองท่านก็ขึ้นรถคันอื่น หลังจากนั้น ๗ วัน ท่านก็เรียกโยมคนหนึ่งมาหาแล้วบอกว่า
ไปบอกเขาเอารถกลับคืนไปนะ เอามาถวายข้อย ข้อยก็รับไปแล้ว ได้บุญแล้วเดี๋ยวนี้ข้อยจะส่งคืน มันไม่ใช่ของพระ
อีกครั้งหนึ่ง หลวงพ่อจะไปวัดถ้ำแสงเพชร ลูกศิษย์ที่มีรถส่วนตัวคันงามยี่ห้อดัง ต่างก็แย่งกันนิมนต์ให้ท่านขึ้นรถของตนที่จอดเรียงรายอยู่ที่ลานวัดให้ได้ หลวงพ่อกวาดตาดูสักครู่ ก็ชี้มือไปที่รถเก่าบุโรทั่งคันหนึ่งพร้อมกับพูดว่า อ้า...ไปคันนั้น เจ้าของได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจสุดขีด รีบเปิดประตูนิมนต์ให้หลวงพ่อนั่ง
ว่ากันว่า การเดินทางวันนั้นใช้เวลานานกว่าปกติ เพราะขบวนรถคันงามความเร็วสูง ต้องค่อยๆ ขับตามหลังรถโกโรโกโสไปโดยดุษณียภาพ เรียบเรียงโดย : พระไพศาล วิสาโล
Create Date : 03 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2550 23:45:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 985 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|