กระจกส่องใจ
กระจก
..ไม่เลือกที่จะสท้อนภาพทุกชนิด ฉันใด จิตใจ
จงเอาเยี่ยงอย่างกระจก กระจก
..รับรู้ แต่ไม่ยึดถือยึดติดและครอบครอง ดังนั้น
...จึงไม่มีภาพใดใดหลงเหลือหรืออยู่ในกระจก สายฝน
..ในกระจก หาเปียกกระจกไม่ เปลวไฟ
..ก็หาได้เผาลนกระจกเช่นกัน ทั้งนี้
...เพราะกระจกไม่ได้ให้อำนาจแก่สายฝน และเปลวไฟ ดังนั้น
จงทำใจของท่าน ให้เป็นดุจการรับรู้ของกระจก อย่ายึดติด
เพราะถ้าหากจิตของท่าน หลงยึดถือยึดติด หรือตกเป็นทาสของกิเลสเมื่อใด ความทุกข์ ความเศร้าหมอง ความกังวล ความไม่สบายใจ ย่อมตามมาเมื่อนั้น
นี่คือมรรควิธีแห่งการเพ่งพิจารณาและรับรู้สรรพสิ่งด้วยใจที่สงบบริสุทธิ์ ว่างเปล่าจากการปรุงแต่ง เพื่อปลดปล่อยจิตใจให้ว่างเปล่าหลุดพ้นไปจากภาพมายาธรรมต่าง ๆ ที่คอยฉุดรั้ง หลอกลวงจิตไม่ไห้เห็นถึงความจริง ซึ่งจะต้องพยายามทำจิตให้หลุดพ้นจากการยึดติดในสิ่งทั้งปวงเปรียบเหมือนกระจก ฯ
Create Date : 01 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2551 15:18:36 น. |
|
2 comments
|
Counter : 624 Pageviews. |
 |
|
|