กลับไปอ่านมูซาชิ อีกครั้ง
หยุดยาวกลางเดือนร้อนๆเช่นนี้
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าอยู่บ้าน
ค้นหาหนังสือเก่าๆที่ลืมเลือนไปแล้ว
กลับมาทบทวนความทรงจำและสัมผัสเรียนรู้ใหม่
ครานี้ถึงรอบของ มูซาชิ ฉบับ ท่าพระจันทร์ ที่แปลและเรียบเรียงโดยอาจารย์สำนักท่าพระจันทร์นั่นเอง คือดร.สุวินัย ภรณวลัย
เคยอ่านมูซาชิ นานแสนนานมาแล้ว ขณะลงพิมพ์เป็นตอนๆในมติชนฉบับวันอาทิตย์ แต่เนื่องจากไม่ได้อ่านต่อเนื่องจึงลืมไปหมด กลับมาอ่านใหม่ในหนังสือเล่มเดียวจบ ครบอรรถรสกว่า เลยตะลุยอ่านตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำคืนอย่างสนุกสนาน
โรนินไร้สังกัด
ต่ำต้อยเทียมต้นหญ้า
เสรีดุจปุยเมฆ อ่านเรื่องราวของโรนินนามมูซาชิไป
ก็ต้องเข้าใจประวัติศาสตร์ของซามูไรและลัทธิบูชิโด ว่ามีวิถีปุถุชนเช่นไร
โรนิน คือซามูไรไร้สังกัด ก่อนหน้านีอาจจะมีเจ้านายคอยรับใช้อยู่ก็ได้ หากเมื่อเจ้านายสูญสิ้น ด้วยเกียรติยศของนักรบผู้ซื่อสัตย์ไม่ยอมมีนายคนที่สอง ก็ขอลาขาดจากฐานันดรกลายเป็นนักรบเร่ร่อน
ในกรณีของมูซาชิ เป็นโรนินแต่เริ่มต้น แม้ในช่วงแรกจะสังกัดตระกูลซามูไรหนึ่ง หากนั่นเป็นช่วงที่ยังไม่แกร่งกล้าอาจหาญ เป็นเพียงแค่ ทหารเดินเท้า หรือที่เรียกว่า ทหารเลว
ต่อเมื่อมูซาซิได้พัฒนาฝีมือการประลองด้วยตัวเอง ปราศจากครูฝึกสำนักใดๆ นั่นแหล่ะคือจุดเริ่มต้นของ วิถีโรนิน ไม่มีเจ้านาย ไม่มีลูกน้อง มีแต่ฟ้า ดิน เป็นผู้อุ้มพา
ในเนื้อเรื่องที่แปลมา มูซาชิได้ประลองฝีมือกับสำนักดาบต่างๆตามประเพณี ไม่เคยแพ้แม้แต่สักครั้ง กลายเป็นโรนินฝีมือนามระบือ โดยเฉพาะเพลงดาบคู่ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน หากสำหรับมูซาชิ กลับเป็นเรื่องแสนสามัญมาก
ดาบคู่ติดตัว
หนึ่งดาบถือมั่น
หนึ่งดาบยึดใจ
อ่านเรื่องนี้ไปพร้อมกับการเดินทางลึกเข้าไปในจิตใจของนักรบ ความสนุกสนานไม่ใช่อยู่ที่การประลองสับประยุทธ์แต่ล่ะครั้ง กับบรรดาเจ้าสำนักชื่อดังทั้งหลาย แต่อิ่มปิติไปกับการค้นหาตัวตนของมูซาชิ ที่เริ่มจากติดลบ แล้วตีตื้นขึนมาเรื่อยๆ จากนายทหารเลว แสนเกเร ใจหุนหัน รังแต่จะใช้กำลังห้ำหั่นคู่ต่อสู้ กลายเป็นนักประดาบผู้นุ่มลึก สุขุม เพ่งพินิจ พิจารณา เปิดใจกว้างมองโลกด้วยทัศนะสงบนิ่ง ถ่อมตนและไม่ยอมแพ้ ความพยายามที่ประสานความกลมเกลียวระหว่างเพลงดาบ กับจิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว
โรนินไร้สังกัดเช่นมูซาชิ ใช่ว่าจะยึดเพลงดาบเป็นสรณะในการดำเนินย่างเท้าท่องอาณาจักร ศิลปะการชงชา วาดภาพและปั้นเครื่องถ้วยชาม ก็ได้เข้ามาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของเพลงดาบ
ในการประลองเพลงดาบครั้งสุดท้ายกับนักดาบนามอุโฆษ แทนที่จะฝึกปรือฝีมือเตรียมตัวล่วงหน้า มูซาชิใช้เวลารวบรวมสมาธิด้วยการเขียนภาพพู่กันอย่างเย็นใจ ก่อนจะขึ้นเรือไปตามคำท้าดวล และก้อชนะอีกครั้ง
ในความโชคร้ายของมูซาชิที่เป็นโรนินไร้สังกัด ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มูซาชิโชคดีที่ได้มีโอกาสพบปะปิยะมิตรที่เกื้อหนุน มีลูกศิษย์ที่เคารพนบนอบ มีหลวงพี่เซ็นที่คอยกล่อมเกลาราคะ โมหะและโทสะจริต
เหนืออื่นใดคือหญิงสาวที่รอการกลับมาของเขา ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่
อ่าน มูซาชิ แล้ว ทำให้เกิดกำลังใจขึ้นว่า การเป็นคนไร้สังกัด ก็ใช่ว่าจะหมดอนาคตดับหรี่เสียเมื่อไหร่ไหร่ ตราบใดที่มุมานะ ฝึกปรนฝีมือตน สร้างความประจักษ์ตาให้เห็นได้ในที่สุด
โดดเดี่ยวในจักรวาล
แต่อบอุ่นเพราะแสงดาว
ใบไม้ร่วงเป็นเพื่อนเดินทาง
Create Date : 17 เมษายน 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 4 สิงหาคม 2560 21:25:09 น. |
Counter : 3857 Pageviews. |
|
|
ด้วยวุ่นวายกับภาระกิจสารพัด
นับตั้งแต่น้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว
จนเข้าบล็อคไม่ได้
อีกทั้งคอมพิวตอร์ก็มีปัญหาด้านโปรแกรมจุกๆจิกๆ
ลองเข้าช่วงสงกรานต์ เอ้า บล็อคปิดหมดเลย
คิดว่าตัดขาดไปแล้ว
ลองใหม่วันนี้ เออ..ก็ยังเข้าได้
แต่เจอรูปแบบใหม่
กว่าจะแก้ไขให้ตัวหนังสืออ่านได้เป็นปกติ
ก็ปาไปอีกเป็นชั่วโมง
เฮอ