[ ทริปใบไม้เปลี่ยนสี in Japan ] วันที่ 2 เที่ยวเมืองนาโกย่า
17 Nov. 18
เครื่องลงตรงเวลาคือ 6.30 น. ใช้เวลาในการผ่านตม.ไม่นาน แทบไม่ต้องรอคิว จำไม่ได้ว่าเพราะคนออกกันไปหมดแล้วหรือคนน้อย 555 เพราะเรามัวแต่เขียนใบตม. อยู่ ไม่ได้เขียนบนเครื่อง เพราะปวดหัว เขียนไม่ได้
ประมาณ 7 โมงกว่าก็ออกมาด้านนอกละ แวะเข้าห้องน้ำก่อนเลย ห้องน้ำที่นั่นกว้างมาก กว้างทุกห้อง เอากระเป๋าเดินทางเข้าไปได้เลย
ตอนแรกว่าจะแลกพาสที่ซื้อมา แวะถามเจ้าหน้าที่ แต่เขาให้ไปแลกในเมือง โอเค งั้นเข้าเมืองกัน
หน้าตาทางเข้าสถานีรถไฟ ซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์หรือจะซื้อจากตู้ก็ได้ ส่วนคณะเรา เพื่อความรวดเร็ว ซื้อหน้าเคาน์เตอร์เลยจ้าา
ได้ตั๋วมาแล้ว ราคา 870Y นั่ง Mu-Sky Ltd.Exp. แบบไม่จองที่นั่ง
ก่อนรถไฟจะมา ก็ซื้อน้ำก่อนเลย มึนหัวมาก ต้องพึ่งกาแฟดำกันอ้วก
รถไฟออกประมาณ 7.47 น. ในขบวนมีทั้งที่นั่งแบบคู่แบบเดี่ยวและที่นั่งยาว เลือกได้ตามใจชอบ เรานั่งฝั่งเดี่ยว ๆ
ใช้เวลาไม่เกิน 40 นาทีก็ถึงสถานีนาโกย่า เราเอากระเป๋าไปฝากที่พักก่อนเลย เมลไปถามแล้ว เขาบอกว่าฝากได้
หน้าตาที่พักของเรา Frist Cabin TKP Nagoya Station หาง่าย เข้าซอยไปนิดเดียวเอง ยืืนอยู่หน้าถนนใหญ่ มองเข้าไปก็เห็นป้ายที่พักแล้ว ใกล้ ๆ มี Lawson ด้วย
เอาล่ะ ตัวเบาแล้ว และตอนนี้ก็ 9 โมงแล้วด้วย ถึงเวลาตะลุยนาโกย่าแล้ว แวะเก็บรูปฝาท่อสักหน่อย
9.17 น. แวะกินข้าวที่ร้าน Yoshinoya เพราะหิวมาก ตาลายหมดละ แต่...ถ้วยนี้กินไม่หมดอ่ะ นี่คือป่วยจริงจังแล้วนะ กินข้าวแค่นี้ไม่หมด 5555 กินเสร็จ ก็ซัดยาแก้ปวดและแก้ไมเกรนเข้าไป
ข้าว : 550Y
วันนี้เราใช้บัตรแบบเหมาจ่าย ราคา 600Y (ราคาเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดา 720Y)
10 โมงครึ่ง จุดแรกที่ไปคือ ปราสาทนาโกย่า ลงสถานี Shiyakusho ทางออก 7 ไม่ได้แวะเข้าไป เพราะปราสาทกำลังปรับปรุง
เกือบ 11 โมง อากาศเย็น แดดร้อนและลมแรงมาก แวะกินไอติมกันหน่อย 555 เพื่ออะไร
ชาเขียวรสเข้ม กลิ่นละมุน ราคา 410Y
จากนั้นก็แวะไปที่วัด Nittaiji หรือวัดไทยในญี่ปุ่น ซึ่งมีรูปปั้นของ เสด็จ ร. 5 อยู่
เราถึงที่วัดประมาณเที่ยง ๆ ทริปนี้ไม่รีบนะ เอื่อย ๆ เรื่อย ๆ ลงสถานี Kakuozan แล้วค้นหา Nittaiji Temple กูเกิ้ล เดินตามกูเกิ้ลเลยจ้าาา
ตัววัดค่อนข้างกว้าง มีนักท่องเที่ยวเยอะ และคนที่ไปสวดมนต์ก็เยอะด้วย ตอนที่ไปถึง กำลังสวดมนต์กันอยู่เลย
รูปปั้นของเสด็จ ร. 5 นั่งอยู่ที่ด้านข้างของวัด
แวะถ่ายรูปกับใบไม้สักหน่อย
นั่งชมวิวแบบง่วง ๆ จนถึงบ่ายโมงก็กลับ ตอนนั้นเริ่มมึนหัวอีกแล้วและง่วงมาก นั่งไปก็กะเกณฑ์เวลาไป ว่าพอถึง 5 โมงปุ๊บ เช็กอินทันทีเลยนะ 555 คือที่พักให้เช็กอิน 5 โมง ไปก่อนไม่ได้ ตอนนั้นคือนับเวลาแล้ว เดี๋ยวไปแวะนั่นแวะนี่ พอ 4 โมงครึ่ง กลับเลย
แวะเก็บฝาท่ออีกครั้ง
เกือบบ่าย 2 ก็แวะดองกี้ เพื่อถ่ายรูปสินค้าสักหน่อย ลงสถานี Sakae ทางออก 1 ออกปุ๊บถึงดองกี้เลย
แวะดูของประมาณ 40 นาที ก็ได้เวลาเดินทางต่อ เพราะยังเหลืออีก 1 ที่ที่ต้องไป
ชามะนาวน้ำผึ้งจากตู้กด 120Y หรือ 130Y ไม่แน่ใจ ใช้ Suica แตะเอา
บ่าย 3 โมง เราก็มาถึงวันโอสึคันนง ลงสถานี Osu Kannon ทางออก 2 เดินมานิดหน่อย เห็น 7-11 ก็เลี้ยว แล้วก็ถึงเลย ใกล้มาก
ส่วนถนนช้อปปิ้งก็อยู่ติดศาลเจ้าเลย ตอนนั้นคือมึนหัวมาก หนักอึ้งไปทั้งหัวเลย อยากกินอะไรเปรี้ยว ๆ สุดชีวิต อยากกินอะไรที่มันฉ่ำ ๆ อยากกินผลไม้มากกก ตอนนั้นเห็นขนมปัง ขนมเค้กแล้วอยากอ้วกมาก
เดินหาผลไม้ จนเจอร้านขายของสด เจอสตรอเบอร์รี่ก็พุ่งเข้าหาเลย แพ็คละ 480Y ยังไม่รวม vat
ล้างหรือยังไม่รู้ แต่เราหยิบกินเลย ช่วยชีวิตได้เยอะ
ประมาณ 4 โมง เพื่อนก็แวะกินราเมงหรืออุด้งหรืออะไรสักอย่าง เราไม่ทันมอง เพราะนั่งหลับตาในร้าน ตอนนั้นคือกินอะไรไม่ลง โอย ทรมานสุด ๆ รู้สึกไม่สบายตัวเลย
พอ 4 โมงครึ่ง เอาล่ะ เราไปเช็กอินได้แล้ว กว่าจะเดินไปสถานี กว่าจะถึงสถานีนาโกย่า กว่าจะเดินไปที่พัก เอาล่ะ 5 โมงพอดี กลับ ๆ เราอยากกลับแล้ว อยากอาบน้ำร้อน ๆ อยากทิ้งตัวลงนอนมาก ๆ
Create Date : 17 ธันวาคม 2561 |
|
0 comments |
Last Update : 17 ธันวาคม 2561 21:37:17 น. |
Counter : 595 Pageviews. |
|
|
|