==>>มนุษย์ถูกสร้างให้มีหูและตาอย่างละสอง แต่มีปากเพียงหนึ่ง เพื่อให้เรา 'มอง' และ 'ฟัง' มากกว่า 'พูด'<<==
Group Blog
 
 
มีนาคม 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 มีนาคม 2561
 
All Blogs
 
[ ทริปนี้เพื่อฟูจิ ] วันที่ 1 เดินทางสู่ประเทศญีปุ่น&เข้าที่พัก







8 มีนาคม 61

เช้าวันใหม่ เรานัดเพื่อนประมาณ 7 โมงกว่า ลงไปกินมื้อเช้ากัน อาหารก็ทั่ว ๆ ไป ข้าวต้มหมู ขนมปัง กาแฟ จากนั้นก็ให้เขาไปส่งที่สนามบิน

ถือว่าครบถ้วน คุ้มเกินราคา 317/คน (จองช่วงมีโปรโมชั่น ตัดบัตรเครดิตก่อนเข้าพัก 3 วัน)



ด้านหน้าโรงแรม มีโต๊ะหลายตัวไม่ต้องนั่งเบียดกันด้านใน เช้า ๆ แดดยังส่องไม่ถึง


ถึงสนามบิน เข้าแถวเพื่อโหลดกระเป๋าก่อนเลย แนะนำให้เช็กอินออนไลน์ไปก่อน จะมีช่องแยกต่างหาก สะดวกและเร็วมาก ใช้เวลาต่อแถวและจัดการหน้าเคาน์เตอร์ไม่ถึง 10 นาที จากนั้นก็ไปโหลดกระเป๋าเข้าเครื่องสแกน (ต่างจากเมื่อสองปีก่อนที่ต้องสแกนกระเป๋าก่อน) 


ตัวเบาเรียบร้อยก็ไปที่เคาน์เตอร์ AIS เพื่อสอบถามเรื่องซิมเนต อันนี้เราซื้อจากที่อื่น เพราะกลัวที่สนามบินหมด การใช้งานโอเคมาก เพื่อนวีดิโอคอลทั้งวัน เนตยังเหลือ แต่ของเราใช้เกิน เพราะเปิดฮอตสปอร์ตใช้กับน้องสาว และน้องไลฟ์สดบ่อยมาก ใช้เกิน  4 GB  ในวันที่หก ช่วงค่ำ ๆ ล่ะ ก็ไม่เป็นไร เพราะคืนนั้นเราต้องเข้าสนามบินแล้ว เลยไม่มีปัญหา น้องก็ไปขอแชร์ฮอตสปอร์ตจากเพื่อนของเราต่อ  555   


ทำเรื่องซิมเนตเสร็จแล้ว ก็ไปแลกเงินเพิ่ม เพราะพี่ฝากซื้อรองเท้ากับกระเป๋า กลัวเงินที่เตรียมไปจะไม่พอ ได้เรท 30.80 บาท

ครบถ้วนสมบูรณ์แล้วก็ได้เวลาเข้าเกต 

แต่ยังไม่ทันเดินทาง สายกระเป๋าเป้ก็ขาดซะแล้ว



สะพานแบบข้างเดียวไปสิ วุ่นวายรุงรังพิกล

ไมได้สั่งอาหาร ก็นั่งเรื่อย ๆ ชิว ๆ กันไป ออกช้ากว่าปกติครึ่งชั่วโมง เพราะมีคนไม่ขึ้นเครื่อง เลยต้องเอากระเป๋าออก แต่กัปตันบอกว่าเที่ยวบินเราจะถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ถัว ๆ กับที่ออกช้า ก็ถึงสนามบิน 1 ทุ่มพอดี


1 ทุ่มตรง ถึงสนามบินนาริตะ ด้วยอุณภูมิ 6 องศา เราได้นั่งเกือบจะหน้า ๆ (นั่งแถวที่ 15 ) เลยออกมาเร็ว เดินค่อนข้างใกล เพื่อนถาม มึงจะรีบไปไหน 555 เลยบอกว่ารีบไปผ่าน ตม. ตอนนี้คนน่าจะน้อย เราต้องไปก่อนจะได้ออกไปเร็ว ๆ และจริงอย่างที่บอก ตม. คนน้อยมาก มีแบบประปราย ไม่ถึง 20 คนมั้ง 

ตอนที่ไปถึง จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารก่อน เป็นโต๊ะกลม ๆ สูง ๆ ขนาดคนยืนล้อม 2-3 คน อารมณ์เหมือนใครยังไม่กรอกอะไรก็กรอกให้เสร็จตรงนี้เลย ถ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะให้ไปเข้าแถว เพื่อผ่านช่องตม. เรายืนรอไม่ถึง 10 วินาทีก็เข้าได้เข้าช่องแล้ว เจ้าหน้าที่ถามแค่มากี่คน กับใคร เราเลยชี้ไปที่น้องสาวที่อยู่ถัดไปอีก 3-4 ช่อง เขาก็พยักหน้าแล้วให้ผ่าน





รูปนี้ถ่ายตอน 19.18 น. (มีรูปก่อนหน้านี้ ถ่ายตรงทางเลื่อน 19.11 น. คิดดูว่าใช้เวลาผ่านตม.เร็วขนาดไหน)


จากนั้นก็ไปรับกระเป๋า มีเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าลงมาเรียงให้ เป็นระเบียบและไม่วุ่นวาย กรมศุลฯถามเยอะหน่อย มากันกี่คน มาจากประเทศอะไร เที่ยวกี่วัน แล้วเอาป้ายสิ่งต้องห้ามมาให้ดู 


19.30 น. ยังพอมีเวลา เคาน์เตอร์  JR ยังไม่ปิด มองหาป้ายรูปรถไฟแล้วเดินตามไปเลย ลงไปซื้อ Tokyo Wide Pass และจองที่นั่งสำหรับเที่ยว 3 วัน เจ้าหน้าที่จองให้ครบทุกวัน แถมยังมีซองใส่พาสและแยกพาสที่จองที่นั่งใส่เป็นวัน ๆ ให้ด้วย ราคา 10,000¥
  (แพลนเที่ยวคือ วันแรก ไปคาวากูชิโกะ / วันที่สอง จองขากลับ และไปกาลายูซาวะ ขากลับยังไม่จองก่อน / วันที่สาม จองไป-กลับ คาวาซุ เจ้าหน้าที่บอก ที่นี่ป๊อปปูล่ามาก...แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป)




มีซองใส่ให้ด้วย ไม่ต้องกลัวพาสหาย ตั๋วจองที่นั่งก็แยกแบบเป็นวัน ๆ ใส่ซองเล็กให้ด้วย


เสร็จจากเคาน์เตอร์ JR ก็ไปเคาน์เตอร์เคย์เซย์กันต่อ อยู่ติดกันเลย แต่ตอนที่ไป เราไม่เห็น เห็นแต่ฝั่งตรงข้าม เลยเข้าไปถามและโชว์รูปให้เขาดูว่าจะซื้อพาสนี้ เขาเลยชี้ไปที่เคาน์เตอร์อีกฝั่ง ซื้อ SkyLiner + Subway 48 hrs. ในราคา 3,200¥ 



เคาน์เตอร์ติดกันเลย หาง่ายมาก



เตรียมขึ้นรถไฟได้



มารอให้ตรงคันด้วยนะ เดี๋ยวจะหาที่นั่งไม่เจอ



ระยะห่างของที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย



ภาพจะสั่น ๆ มัว ๆ หน่อย เพราะใช้มือถือถ่ายและถ่ายตอนรถกำลังวิ่ง



เราลงที่สถานีนิปโปริ เพื่อต่อรถไฟไปลงที่ shin-okubo 

แต่ก่อนอื่น เพราะต้องซื้อบัตร suica ก่อน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ก็เดินหาตู้กันอยู่หลายนาที จนต้องถามเจ้าหน้าที่ เจอตู้แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่หน้าจอเลย ได้บัตรแบบระบุชื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย




จากนั้นก็ต่อรถไฟเพื่อไปลงที่ shin-okubo นั่งรถไฟสาย yamanote line โดยดูจากไฮเปอร์เดีย วิธีการขึ้นรถไฟก็ง่าย ๆ คือดูว่าเราต้องขึ้น line อะไร ก็หาป้าย line นั้นเลย ส่วนจะขึ้นฝั่งไหน ก็ดูที่ป้ายว่าแทร็กนั้นไปที่ไหน ส่วนใหญ่จะบอกสถานีหลัก ๆ ไว้ เช่น for ueno, for tokyo ,for shinjuku , for shibuya  อะไรพวกนั้น เราจะไปชินโอคุโบ ซึ่งใกล้กับชินจูกุ ก็เลือกแทรก for shinjuku 


นั่งรถไฟอีก 20 นาทีก็ถึง ค่ารถไฟ 165 เยน (ปกติ 170 เยน แต่ใช้ suica มีส่วนลด) ตัวโรงแรม 9hours สามารถมองเห็นได้จากบนสถานี เดินไปนิดเดียว ประมาณ 200 ม.ก็ถึง ก่อนถึงมี 7/11 ด้วย สะดวกมากมาย


ตัวโรงแรมก็มีความทันสมัยมาก มาถึงก็กดลิฟต์ไปที่ชั้น 8 ก่อนเลย (มีลิฟต์ 3 ตัว แต่ใช้ได้แค่ตัวเดียวคือตัวกลาง อีก 2 ตัว ซ้ายกับขวา เป็นลิฟต์ภายในของเขา ต้องขึ้นที่ชั้น 8) เคาน์เตอร์จะอยู่หน้าลิฟต์ที่ชั้น 8 เปิดลิฟต์ก็เจอเลย ถัดจากเคาน์เตอร์จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไว้นั่งกิน นั่งเล่น และนั่งมองวิว

เช็กอินแล้ว ก็เดินเข้าลิฟต์ด้านซ้ายมือ มีรูปผู้หญิงติดอยู่ (ด้านขวาจะเป็นลิฟต์ฝั่งผู้ชาย) ชั้น 5,6 เป็นชั้นเก็บกระเป๋าและห้องนอน ชั้น 7 เป็นห้องอาบน้ำ (ส่วนชั้น 2,3 น่าจะเป็นห้องนอน และชั้น 4 เป็นห้องน้ำของผู้ชาย อันนี้เดา)

ได้การ์ดแบบอ่อน ๆ มาหนึ่งใบ เป็น QR Code ไว้เปิดล็อกเกอร์ ด้านในล็อกเกอร์จะมีถุงตาข่ายให้ 1 ใบ มีอุปกรณ์ทุกอย่างอยู่ในนั้น ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กและผืนใหญ่ รองเท้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เสื้อ+กางเกงนอน (น่าจะเป็นไซส์ L/XL  เราสูง 162 ซม. หนัก 62 ใส่ได้สบาย ๆ )



ใส่กระเป๋าล้อลากขนาด 28" ได้สบาย ๆ (แต่ของเราแค่ 25" นะ) แต่ความกว้างต้องดูนิดนึง กระเป๋าเพื่อนเราใส่ไม่ได้ เพราะกว้างเกิน ต้องเอาไปฝากที่เคาน์เตอร์



ด้านบนถัดขึ้นไป เป็นที่วางรองเท้า













โดยรวมถือว่าดีเยี่ยมค่ะ สะอาด สะดวก สบาย เป็นสัดส่วน ห้องน้ำมีเยอะมาก ห้องส้วมก็ทันสมัย เปิดฝาเองเมื่อประตูเปิด ติดตรงที่ไม่มีพื้นที่กางกระเป๋า ต้องกางหน้าล็อกเกอร์ ซึ่งอาจไปเบียดเบียนล็อกเกอร์ข้าง ๆ ได้ 

ห้องนอน นอนสบาย หมอนนอนสบาย แต่ผ้าห่มเสียงดังไปหน่อยเเหมือนเป็นพลาสติก ได้ยินเสียงกรนเป็นพัก ๆ และเสียงพูดคุยนิดหน่อย อีกอย่างที่รู้สึกไม่สบายตัวอยู่นิด ๆ คือ ในห้องแคปซูลมันเงียบ คือเงียบแบบไม่มีอากาศ เงียบจนได้ยินเสียงวี่ ๆ ไปหู น่าจะมีลมหรืออะไรเป่าสักหน่อย เพื่อนบอกนอนไม่หลับ หายใจไม่ออก ต้องเปิดม่านไว้ เพราะไม่มีอากาศถ่ายเท 


เอาล่ะ เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาหาข้าวกินค่ะ เรากินที่ร้าน Yoshinoya เพราะติดใจขิงดองตั้งแต่คราวก่อน



ราคา 580Y


กินเสร็จได้เวลากลับ ฝนเริ่มลงเม็ดละ รู้สึกลางไม่ดีมาแล้ว 55555


ก่อนเข้าที่พัก แวะซื้อของสักหน่อย




ชุดเข็มด้าย ราคา 500Y++ ตีเป็นเงินไทย 150 บ. ทำไมแพงขนาดนี้






ขนมใน 7-11 อร่อยมาก ได้รสชาเขียวและช็อกโกแลต นุ่ม ละลายในปากมาก ๆ
จริง ๆ ก็มีขนมอีกหลายอย่าง แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะกินไปก่อน 555 



หมดไปอีก 1 วัน พรุ่งนี้ไปดูฟูจิ ลุ้นกันเพราะพยากรณ์บอกว่าฝนตก  80%!!!





Create Date : 21 มีนาคม 2561
Last Update : 21 มีนาคม 2561 21:49:27 น. 1 comments
Counter : 1349 Pageviews.

 
อ่านเพลินเลย
ชอบค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 21 มีนาคม 2561 เวลา:23:53:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

latics1
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]











ผลงานเป็นรูปเล่ม


บ้านของหัวใจ
(โพรเจกต์หอมลมหวน)
ปาลินี พิมพ์คำสำนักพิมพ์
v
v



คือแสงแห่งใจ
ปาลินี สนพ.อรุณ
v
v



กลลวงบ่วงหัวใจ
รีชณัีฐ สนพ.ธราธร
v
v



แทนใจด้วยรัก
ปาลินี สนพ.อรุณ
v
v



จัดหัวใจให้ลงรัก
ปาลินี สนพ. อรุณ
v
v



ในดวงตามีความรัก
รีชณัฐ สนพ. กรีนมายด์
v
v



เมื่อหัวใจได้เจอรัก
รีชณัฐ สนพ. กรีนมายด์
v
v



ซ่อนรักลวงใจ
รีชณัฐ สนพ.โซฟา
v
v



สองหัวใจแห่งรัก
รีชณัฐ สนพ.ชูการ์เรน
v
v


Friends' blogs
[Add latics1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.