|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
...ความกล้าหาญครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น...
สวัสดีครับ
วันนี้จะมาเล่าความกล้าของผมครั้งแรกในดินแดนญี่ปุ่น หุๆฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ผมไม่ได้มากู้ชาติ ไม่ได้มายึดสนามบินนาริตะ "พี่น้องคร้าบบบ...." อ่า..ลืมตัว อิอิ..
หนึ่งในคติประจำใจของผม(เป็นคนมีคติประจำใจเยอะ)คือ "คนที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองคือผู้กล้า" จำไม่ได้แล้วว่าเอามาจากไหน แต่ใช้ยึดถือเรื่อยมาจนวันนี้
วกกลับมาเรื่องความกล้าหาญที่จะเล่าดีกว่า ความกล้าหาญที่ว่าคือ "ผมร้องไห้" ร้องไห้ต่อหน้าประชาชี ชาวญี่ปุ่น เกาหลี แคนนาดา ไต้หวันฝรั่งเศสฯลฯ(อาจมีชาติอื่นอีกแต่ไม่ทันสังเกต)
บางคนอาจคิดว่า การร้องไห้ คือความขี้ขลาด แต่อย่างที่บอกสำหรับผมคือความกล้าหาญ
การร้องไห้ครั้งนี้อาจได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊ค เสียดายกรรมการไม่อยู่ เพราะผมร้องไห้บนรถไฟที่(เกือบ)เร็วที่สุดในโลก...ใช่ครับ ผมร้องให้บนรถสปริ้นเตอร์กรุงเทพฯ-กันตัง..ไม่จ้ายยยย
เหตุเกิดบนรถไฟชินคันเซน หลังจากที่ผมและเพื่อนกำลังเดินทางกลับจากไปเที่ยวแถบคันไซกันช่วงปืดเทอม บอกตรงๆเลยก่อนนี้ผมเคยไปเที่ยวแถบนั้นครั้งนึง ชอบเกียวโต แต่ไม่ชอบโอซาก้า จึงไม่ค่อยเต็มใจไปทริปนี้ซักเท่าไหร่ เพราะเคยไปแล้วด้วย
แต่เพราะทริปนี้เป็นทริปอำลา มีเพื่อนผมคนนึงจะกลับประเทศ เพื่อนคนนี้ชื่อ จูเลี่ยน ขอเล่าถึงจูเลี่ยนซักหน่อย จูเลี่ยน เป็นคนฝรั่งเศส เป็นลูกเสี้ยวญี่ปุ่น(ตา ยายเป็นญี่ปุ่น)มองเผินๆจูเลี่ยนคล้ายคนเอเชีย จูเลี่ยนบอกว่าเคยโดนทักทั้งเป็น ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม
จูเลี่ยนอายุเท่าผม 18ปี อิอิ..ล้อเล่น จำได้วันแรกที่ผมเข้าห้องเรียน ความรู้สึกเหมือนเพิ่งเข้า ป.1เพื่อนๆคงจำวันแรกที่ไปโรงเรียนได้(สำหรับคนที่ยังพอระลึกได้) มันจะรู้สึกหวิวๆ รอบตัวเราใครก็ไม่รู้คุณครูจะดุป่าวว้า??แล้วนี่ยิ่งเป็นต่างประเทศ เลยหวิวเข้าไปอีก
ผมไปคนแรกๆ เริ่มมีคนอื่นทยอยเข้าห้อง พระเจ้า..มีแต่เกาหลีๆๆๆ ขอให้ทุกคนลบภาพความทรงจำจากซีรีย์โรแมนติคทั้งหลาย แต่ละคนล่ำๆ เจ๊ๆ จริงๆก็คล้ายในซีรีย์น่ะ แต่เหมือนเพื่อนนางเอกมากกว่า(ที่ชอบทำผมดัดๆบ๊อบๆ หน้าเหมือนลูกเต๋า เวลาพูดเหมือนโกรธกันตลอดเวลา..ขอโทษน้าแอบนินทา อิอิ)
จูเลี่ยนเดินเข้ามาในห้อง นั่งตรงหน้าผม แล้วก็หันมาพูดคุยด้วยความเป็นกันเอง พอรู้ว่าผมเป็นคนไทยก็เล่าใหญ่เลยว่าเคยมาเที่ยวและประทับใจมาก
บอกได้ว่าจูเลี่ยนเป็นเพื่อนผมคนแรกในญี่ปุ่น บุคลิกของจูเลี่ยนจะพูดน้อย โก๊ะๆ เป็นตัวตลกของเพื่อนๆ แต่ที่ผมไม่ชอบเท่าไหร่คือ หล่อ ฮ่าๆๆๆ
ผมคุยกับจูเลี่ยนมากที่สุด เพราะพูดถูกคอและนิสัยคล้ายๆกัน ช่วงเวลาหนึ่งปีที่รู้จัก เราเหมือนจะไม่สนิทกัน ผมไม่ได้ไปเที่ยวหรือเดินกับจูเลี่ยนบ่อย แต่เวลาคุยกันรู้สึกดี พูดเรื่องเดียวกัน เหมือนได้คุยกับเพื่อนสนิทที่เมืองไทย
สิ่งที่แปลกคือ นอกจากที่โรงเรียนแล้วเราไม่ได้เจอกันบ่อย แต่กลับรู้สึกว่าสนิท เราเรียนห้องเดียวกันตลอดจนถึงวันที่จูเลี่ยนต้องกลับฝรั่งเศส พอปิดเทอมเพื่อนๆจึงนัดกันไปเที่ยวคันไซ จริงๆจะว่าไปมันก็ไม่ใช่ทริปอำลาซะทีเดียว เพราะเพื่อนอยากไปเที่ยวกันอยู่แล้วพอดีตรงกับที่จูเลี่ยนต้องกลับ เลยกลายเป็นทริปอำลาไปโดยปริยาย
ไปเที่ยวกันห้าวัน จนมาถึงวันกลับ พวกเรานั่งชินคันเซนกลับ แม้จะเป็นขากลับแต่ยังสนุกสนานเฮฮา คุยเล่นกันไปตลอดจนพอเริ่มใกล้โตเกียว จูเลี่ยนต้องลงก่อนที่ชินากะวะ คนอื่นๆรวมทั้งผมไปลงโตเกียว ทุกคนพูดร่ำลากันค่อนข้างจะเฮฮา...แต่
มีผู้ชายตัว(โคตร)โต ถึกๆคนนึง จู่ๆเอาหน้าฟุบกับพนักเก้าอี้(ผมเองแหละ) สารภาพเลยวินาทีนั้นหัวใจมันหล่นวูบบอกไม่ถูก ผมก็เฮฮากับคนอื่นมาตลอดทาง พอถึงตอนพูดลากันมันหวิวจนทนไม่ไหว แล้วก็ฟุบหน้าลงไป
พอเพื่อนเห็นก็โดนแซว "อ้าวโอ๊คซัง ง่วงซะล่ะ เพื่อนจะกลับแล้วไม่ลากันเลยเหรอ"ตอนนั้นเพื่อนคิดว่าผมง่วงจริงๆ ผมเงยหน้าขึ้นมา บอกลาจูเลี่ยน สั้นมากครับ โคตรสั้นเลย "แล้วพบกันใหม่น่ะ..(ยิ้มๆ)"
เพื่อนแซวมาอีก "แน่ะๆ โอ๊คซังจะร้องไห้แล้ว ฮ่าๆๆ.."หลังจบคำแซวนี้ ผมแสดงความกล้าออกมาแบบไม่อายใคร น้ำตาไหลออกมาได้ยังไงไม่รู้ ผมกลั้นสุดๆกลั้นเต็มความสามารถเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะกลั้นน้ำตาได้...แต่ไม่เป็นผล
ตอนนั้นผมค้นพบว่า "น้ำตาซื่อสัตย์กับความรู้สึกที่สุด" ผมฟุบอีกครั้งแล้วเงยหน้ามาบอกว่า"ขอโทษ.."ขอโทษทุกคนที่ทำบรรยากาศเฮฮาเสีย แต่ไม่ทันแล้ว ผมหันไปมองทุกคนน้ำตาไหลออกมาเหมือนกันหมด
ทุกคนเงียบ มีแต่น้ำตากับรอยยิ้มจางๆ พอรถไฟจอดที่ชินากะวะ จูเลี่ยนบอกว่า"ไม่ลงล่ะ ไป โนมิไก(ดื่มฉลอง) กันเถอะ" จูเลี่ยนพยามทำให้บรรยากาศครึ้กครื้นเหมือนเดิม ทุกคนโอเค บรรยากาศความสนุกกลับมา(เกือบ)เหมือนเดิม พวกเราทุกคนไปลงที่โตเกียว หอบข้าวของพะรุงพะรังเดินไปหาร้านนั่ง นึกภาพวันนั้นแล้วก็ขำ
นักเรียนต่างชาติหกคน หอบข้าวของพร้อมถุงของฝากเต็มไปหมด เดินเข้าร้านอิซะกะยะ พนักงานมองแบบอึ้งๆ ฮ่าๆ
เรานั่งดื่ม,คุยกันจนถึงเวลาที่ต้องจากกันจริงๆ ที่สถานีชิมบาฉิ พวกเรากล่าวอำลาจูเลี่ยนอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่มีใครเสียน้ำตา มีเพียงรอยยิ้ม^_^
เหมือนเดิม ผมบอกว่า "แล้วพบกันอีก.." เราแยกกันตรงนั้น... จูเลี่ยนกลับถึงฝรั่งเศส และส่งเมล์มาถึงผม เรายังติดต่อกันทางเมล์แต่นานๆที
หลังจากจูเลี่ยน ค่อยๆมีเพื่อนในกลุ่มทยอยกลับประเทศ บางคนยังติดต่อได้ บางคนไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย เพื่อนเกาหลีคนนึงเขียนจดหมายสั้นๆให้ผมในวันเลี้ยงอำลา "แปลกนะ พวกเราไม่ค่อยได้คุยกันแต่กลับรู้สึกสนิทกันอย่างบอกไม่ถูก"
(ลืมเล่าไปว่านอกเวลาเรียน พวกเราส่วนใหญ่จะอยู่กับเพื่อนจากประเทศเดียวกัน ห้องที่ผมเรียนโชคดีมีนักเรียนจากหลายๆประเทศ(แม้เกาหลีจะเยอะสุด) แต่กลุ่มที่ผมสนิทจะคละๆจากแต่ละชาติ)
ไม่แน่ใจว่าจะได้พบกับจูเลี่ยนหรือเพื่อนคนอื่นๆอีกรึเปล่าหลังจากกลับประเทศ แต่อย่างน้อยคำลา "แล้วพบกันอีก.." ไม่ได้พูดลอยๆ เรายังพบกันในความทรงจำเสมอ...
สำหรับผมการร้องไห้ไม่ได้หมายถึง ความขี้ขลาด ความอ่อนแอ แต่เป็นความกล้าหาญที่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง
จากซ้ายไปขวา เคน,จูเลี่ยน,จง,ชีเฮ,ยุนซอน
Create Date : 23 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 23 ธันวาคม 2551 2:45:24 น. |
|
15 comments
|
Counter : 957 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Ms.StayHigh วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:2:47:13 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:3:08:41 น. |
|
|
|
โดย: ป้าซิ่ง (Naomichan ) วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:7:02:01 น. |
|
|
|
โดย: เต่าญี่ปุ่น วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:7:37:21 น. |
|
|
|
โดย: monboy01 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:7:45:19 น. |
|
|
|
โดย: nathanon วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:8:07:04 น. |
|
|
|
โดย: แมงหวี่@93 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:10:15:24 น. |
|
|
|
โดย: พี่ตา (tukuta ไม่ได้ล็อคอิน) IP: 219.200.192.126 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:15:53:52 น. |
|
|
|
โดย: beuysliv วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:20:40:35 น. |
|
|
|
โดย: Miss_Cookai วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:4:57:36 น. |
|
|
|
โดย: matcha latte กินที่ญี่ปุ่นอร่อยสุดๆ IP: 125.25.250.240 วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:23:56:11 น. |
|
|
|
โดย: จ๋าน่ารัก (จ๋าน่ารัก ) วันที่: 6 มกราคม 2552 เวลา:0:59:09 น. |
|
|
|
|
|
|
|