|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
รถเมล์ไทย ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ
จำได้ว่าบล็อกแรกๆเคยเขียนเกี่ยวกับรถไฟไทยไปแล้ว เดี๋ยวทางฝ่ายรถเมล์จะเสียใจ วันนี้จึงขอเขียนถึงรถเมล์ไทยซะหน่อย
และเนื่องในโอกาส เพิ่งผ่านพ้นวันที่ประวัติศาสตร์ไทยต้องจารึกไว้อีกครั้งว่า เป็นวันยกเลิกการใช้รถเมล์เขียวร่วมบริการ ซึ่งสร้างความสะใจ เอ๊ย...เสียใจ ให้กับผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว (อย่างน้อยไม่ตกรถเมล์ตายแล้วกรู..)
ผลของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ที่เห็นได้ชัดเลยคือ ความหรรษาของคน กทม.จะลดลงอย่างฮวบฮาบ ชีวิตที่เคยตื่นเต้น จะหายไป........
บล็อกนี้จะขอเน้นหนักไปที่รถร่วมบริการและรถมินิบัส(รถเมล์เขียว) ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันมากที่สุด
ย้อนกลับไปสมัยที่ผมยังอยู่กรุงเทพฯ การขึ้นรถเมล์ เป็นสิ่งหนึ่งที่เด็กต่างจังหวัดอยากสัมผัสซักครั้งในชีวิต การได้รอรถเมล์ที่อนุสาวรีย์ถือเป็นประสบการณ์ที่ เอาไปโม้เพื่อนที่ ต่างจังหวัดได้
พอได้มาเรียนต่อที่ กทม. มีหรือจะพลาด รถเมล์ไทยให้ประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับชีวิต คือ ทำให้รู้ว่าชีวิตใกล้ความตายเป็นยังไง แล้วคุณจะรักชีวิตตัวเองมากขึ้น
แรกๆที่ผมขึ้นรถเมล์ ก็ยืนรอด้วยความสงบเสงี่ยมเจียมตัว โดยหวังว่า รถจะมาจอดเทียบที่ป้าย ให้เราก้าวย่างขึ้นอย่างสบายใจ
แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่.......... จรวดทางเรียบสีเขียวเหล่านั้น วิ่งมาด้วยความเร็วสูง...ดริฟท์เข้าป้ายอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งตัวออกไป ทิ้งไว้เพียงควันดำ(โคตรๆ)ไว้เบื้องหลัง
ปล่อยให้ผู้โดยสารที่ตั้งตัวไม่ทัน ยืนเอ๋อ อดขึ้นรถ แบบงงๆ
กลับกัน.... บางคันพอดริฟท์เข้าป้ายได้แล้ว ถ้าไม่มีลูกค้าขึ้นจนพอใจ ก็ไม่ยอมไปไหนซะที รออยู่นั่นแหละ........
และเมื่อท่านใช้วิชาตัวเบา ตบตีแย่งชิงกันผู้โดยสารคนอื่น ขึ้นมาบนรถได้แล้ว จะได้พบกับความหรูหรา โอ่อ่า สมกับเป็นรถเมล์ที่ทุกคนฝัน(ร้าย)ถึง
ภายในตกแต่งพื้นด้วยลายไม้(เน่าๆ) เบาะบุพลาสติก Hand made บางที่นั่งเป็น Limited Edition เพราะมีลายเซ็นเขียนติดไว้ เช่น กขคง. พ่อทุกสถาบัน, เก่งรักติ๋ม หรือ ครวย(สั้นๆได้ใจความ-_-'') ฯลฯ ประตูรถใช้ระบบ Forever Unlock(ไม่เคยปิด) ทำให้เพิ่มความสะดวก สบายในการโหนและเพิ่มโอกาสในการตก
แต่ที่เป็นหน้าเป็นตา ของรถร่วมฯคือ การบริการ smooth as sink จริงๆ พนักงานเก็บค่าโดยสารที่คัดมาแล้วจาก เด็กแว๊น เด็กสก๊อย เด็กติดยา กุ๊ย อันธพาล ซึ่งจะบริการท่านด้วยใจ(โหดเหี้ยม)
ก้าวแรกที่ขึ้นไปจะได้รับคำทักทายจากพนักงาน(หน้ายักษ์) ก้าวไวพี่..ก้าวไวๆๆ เออ....กรูไวได้เท่านี้แหละ มรึงจะรีบไปหนายยย "ชิดในเพ่ ชิดใน ตรงนั้นยังได้" เอ๊ยยย...มรึงไม่เคยฟังเพลง ที่ว่าง ของพี่โจ้ไงฟร่ะ เว้นที่ให้กรูได้หายใจบ้างเฮอะ
อ๊ะๆ....แล้วอย่าคิดจะขัดคำสั่งพวกเค้าเชียว... มิฉะนั้น ท่านจะพบกับการเสียดสี กระแทกกระทั้นด้วยคำพูด เหอะๆ
และบุคคลจะลืมเสียมิได้ คือ กัปตัน (พนักงานขับรถ) ดูจากภายนอกแล้ว แต่ละท่านน่าจะมีประสบการณ์มายาวนาน ทั้ง ตี รัน ฟันแทง ติดคุกติดตะราง ยาบ้า เฮโรอีน (เอาโจรมาขับชัดๆ) -_-'' จึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้รับความหรรษาจากการขับขี่ของท่านเหล่านี้
เพราะพนักงานขับรถร่วมฯยึดมั่นเสมอกับการขับที่ หวาดเสียว เสี่ยงตาย
ไฟแดงเราไม่สน คนข้ามถนนอย่าได้แคร์ รถติดเราบีบแตร ใครขวางเหยีบให้แบนแต๊ดแต๋ติดถนน
ผมเคยขึ้นรถร่วมสาย 8 สะพานพุทธฯ - แฮปปี้แลนด์ ซึ่งเป็นสายรถร่วมอันดับหนึ่งของเมืองไทยเสมอมา จากการโหวตของคนไทยทั้งประเทศ(ยิ่งกว่าเดอะสตาร์อีก) แล้วดันไปขึ้นตอนดึกๆ ถนนโล่ง
เพิ่งเข้าใจคำว่า เป็นตายเท่ากัน ผ่าไฟแดง แซงทางโค้ง ไม่เข้าป้าย ขับกระชาก ฯลฯ พี่แกทำหมดทุกอย่าง ขาดอย่างเดียวคือ ทำตามกฎจราจร
กว่าจะถึงที่หมายหัวใจเกือบวาย นั่งมองหน้ากับเพื่อน ส่งสายตาเหมือนเป็นการสั่งลา...... เอาไงดีวะ ลงป้ายหน้า หรือ ไปตายเอาดาบหน้า
สุดท้ายก็นั่งมาจนถึงที่หมาย ลงป้าย รึบสำรวจร่างกาย ว่าอยู่ครบทุกชิ้นรึเปล่า เหอะๆ
และจากการใช้บริการรถร่วมบ่อยๆ ผมก็พอจะสังเกต เอกลักษณ์ของกระเป๋ารถและคนขับได้ดังนี้
กระเป๋ารถ ชาติที่แล้วต้องเป็นลิงแน่นอน เพราะไม่ว่ารถว่างยังไง พี่แกจะต้องไปยืนโหนที่ประตู โหนไปโหนมา เหมือนเป็นความสุขเล็กๆในชีวิต
สำหรับคนขับ ไม่ว่าหน้าโหดยังไง พี่แกจะแอบมีของกิ๊บเก๋ ประจำกาย อย่างพวก กระเป๋าโดเรมอน ผ้าเช็ดเหงื่อลายคิตตี้ เข้ากับหน้าพี่มาก....-_-''
ส่วนที่ขาดไม่ได้เลย รักยิ่งกว่าเมีย คือ กระติกใส่น้ำแข็ง เอาไว้ดูดเวลาติดไฟแดง
ออ....ผมว่าเอกลักษณ์อีกอย่างของคนขับคือ เป็นคนรักครอบครัว จะเห็นบ่อยๆ ว่า เอาเมียมาเป็นกระเป๋า เอาลูกเอาหลานมาเลี้ยงบนรถ ประมาณว่าให้เรียนรู้งานตั้งแต่แบเบาะกันเลย แถมยังดูเป็น Family man แม้ขณะทำงาน
ป้อนข้าวป้อนนมลูกบนรถก็มี อิ่มแล้วก็วิ่งเล่นบนนั้นแหละ ให้ผู้โดยสารเวียนหัวเล่น บ่ายๆถ้าง่วง ก็ให้นอนบนเบาะยาวข้างหน้า เออ......ให้มันได้อย่างนี้ ธุรกิจครอบครัว
เอาเป็นว่านี่เป็นแค่บางส่วนของสภาพรถเมล์ไทย ที่เราคนใช้บริการ ต้องก้มหน้ารับชะตากรรม
เชื่อว่ายังมีอีกหลากหลายประสบการณ์(เลวร้าย) จากการใช้บริการรถเมล์ไทย
เคยได้ยินใครบางคนพูดว่า "เป็นคนไทย ต้องทำใจ" ผมรู้สึกว่าเป็นคำที่ฟังแล้ว สลดหดหู่ มาก
แต่สงสัยเราต้องทำใจกันจริงๆแล้วมั้ง กับการใช้บริการรถเมล์ แค่ไปให้ถึงที่หมายครบ 32 ก็เป็นบุญแล้ว เพราะไม่เคยมีใครแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ที่สำคัญคือ จิตสำนึก..........ที่สร้างยากกว่าอะไรทั้งปวง
ขอให้ทุกคนโชคดีกับการนั่งรถเมล์ ความหรรษาในราคาประหยัด........
เจอกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีครับ
Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2553 21:54:48 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1148 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: i will ok วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:35:35 น. |
|
|
|
โดย: น้านก IP: 66.245.193.217 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:4:24:24 น. |
|
|
|
โดย: Jujastar วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:01:48 น. |
|
|
|
โดย: SaTsuKi LanD วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:35:17 น. |
|
|
|
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:2:54:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|