Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
วัยเรียน.....สู่วัยทำงาน อีกครั้งกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต

สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวบล๊อก ไม่ได้เข้ามาอัพบล๊อกนานมาก
ครั้งสุดท้ายก็เดือนมกราฯ ชีวิตช่วงนั้นค่อนข้างยุ่ง แต่ไม่ได้ยุ่ง
ขนาดไม่มีเวลาเขียนบล๊อกหรอก ไม่มีอารมณ์ซะมากกว่า
อายุยิ่งเยอะยิ่งติสท์เรา ฮ่าๆๆๆ

จริงๆที่มาเขียนวันนี้เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต(อีกแล้ว)
ก่อนเล่าถึงนั้นขอย้อนก่อนว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากอัพบล๊อกครั้งล่าสุด
ผมก็ใช้ชีวิตมาเรื่อยๆ เรียน,ทำงานซะเยอะ เหมือนไม่มีอะไร แต่มันก็มีเรื่องให้หวิวๆนิดหน่อย คือเพื่อนๆที่มาเรียนพร้อมกันเริ่มทยอยกลับประเทศกันแล้ว

ช่วงนั้นมีแต่บรรยากาศของการจากลา เวลาทำให้พวกเราเป็นมากกว่าเพื่อน
แต่ไม่ใช่แฟน อ๊ะ ไม่ใช่ กิ๊กล่ะ คือเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมชั้น มันมีความผูกพัน เที่ยวด้วยกัน เรียนด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน เห็นหน้ากันแทบทุกวัน จนวันนึงต้อง จากกันแล้ว ที่สำคัญ ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกรึเปล่า

พอถึงเวลาราวๆเดือนมีนาฯ ถึงวันจบการศึกษา โรงเรียนให้นักเรียนที่จบ การศึกษาทุกคนขึ้นไปกล่าวความรู้สึกบนเวที ทีละคน เหอะๆ ตอนแรก ก็ตื่นเต้นนะ กะว่าเตรียมสุนทรพจน์มาจากบ้านเอาเท่ๆ ซึ้งๆกันไปเลย

แต่พอถึงเวลาจริงๆทั้งตื่นเต้น ทั้งใจหาย แล้วหลายคนที่พูดก่อนหน้าเรา กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เราก็ยิ่งใจแป้ว มีอยู่คนนึง "ผมคงไม่สามารถบรรยายเป็น
คำพูดได้ ขอร้องเพลงแทนความรู้สึกละกัน" แล้วก็ร้องเพลง ทุกคนปรบมือกันเกรียว

ทีนี้ละพอถึงตาเรา มือไม้สั่นไปหมด ที่เตรียมมาลืมหมด พยามตั้งสติ คิดในใจ เฮ้ย ยังไงดีฟ่ะ ก็เลยไล่เรียกชื่อเพื่อนทุกคน อาจารย์ทุกคนที่เรารู้จัก
เรียกไปได้ซักครึ่ง เริ่มมีคนส่งเสียงให้กำลังใจ ฮ่าๆ ประมาณว่าเอาให้หมนะ
พอเรียกชื่อหมดทุกคน ก็พูดไปว่า "ขอบคุณ ตอนแรกมาญี่ปุ่นคิดว่าการเรียนภาษาญี่ปุ่นสำคัญที่สุด แต่ตอนนี้คิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้รู้จักเพื่อนที่ดีจากหลายๆประเทศ ขอบคุณอาจารย์ แล้วพบกันใหม่แน่ๆ" แล้วก็ได้ยินเสียงปรบมือจากเพื่อนๆ
ใจจริงอยากจะพูดเยอะกว่านั้น ถ้าให้พูดเป็นภาษาไทยนะ หึๆ ก็เลยเอาพอความรู้ภาษาญี่ปุ่นจะอำนวย

หลังจบพิธี เราถ่ายรูปกัน ทักทายอำลากัน ผมไปกินข้าวต่อกับเพื่อนกลุ่มนึง
ที่ร้านอาหารไทยที่เคยทำไบท์ หลังจากนั้นบางคนก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย บางคนได้เจอกันอีก เพราะมีนัดไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์กัน ก่อนผมกลับก็มีนัดเลี้ยงอำลากัน ตอนเจอเพื่อนในกลุ่มครั้งสุดท้ายจริงๆ เพื่อนบอก"ขอกอดหน่อย" สงสัยเห็นเราเป็นหมี-_-"ก็กอดจนครบทุกคน แล้วก็จากกัน................

ผมกลับถึงเมืองไทยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม จริงๆวีซ่า หมดสิ้นเดือนมิถุนา
แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ผมต้องเลื่อนมาเร็วขึ้นอีกหนึ่งเดือน

สองเดือนก่อนกลับผมแทบหายไปจากโลกไซเบอร์ เพราะเกิดโศรกนาฏกรรม ทางเทคโนโลยีกับตัวเอง...คอมฯเสีย แล้วทุกอย่างที่อยู่ในคอมฯ หายเกลี้ยง รูปที่เราเก็บมาตั้งแต่ตอนมาญี่ปุ่นครั้งแรกโน้น รูปพ่อแม่ รูปเพื่อน เขียนความรู้สึก เรียงความที่เราเขียน เหมือนถูกกลืนความทรงจำไปแค่ชั่วคลิ๊กเดียว ต้องโทษว่าเป็นความสะเพร่าของเราส่วนหนึ่งที่สำรองข้อมูลไว้น้อยมาก

หมดอาลัยตายอยากเลยครับช่วงนั้น เหมือนคนอกหัก เห็นคอมฯแล้วต้องเบือนหน้าหนี เห็นกล้องแล้วน้ำตาจะไหล(ไม่ได้เว่อจริงๆนะ) เพื่อนชวนก็ไม่อยากไปไหนจนโดนเพื่อนแซว "นี่เป็นแฟนกับคอมฯตั้งแต่เมื่อไหร่..." ทำซะเหมือนโดนทิ้ง เฮ้อ

พอเวลาผ่านไปซักอาทิตย์สองอาทิตย์ เริ่มทำใจได้ แต่บอกตรงๆ ณ เวลาก็ยังคิดถึงข้อมูลเหล่านั้นอยู่ นี่ก็เป็นวิบากกรรมเรื่องนึงก่อนกลับเมืองไทย T_T

ไม่รู้โกรธป่าว ถ้าจะบอกว่าที่เขียนมาถึงตรงนี้เป็นแค่เกริ่น ฮ่าๆๆ ไม่ต้องตกใจ ผมชอบเกริ่นยาวๆ เนื้อเรื่องนิดเดียว จริงๆที่อยากมาเล่าวันนี้คือ ผมกำลังเริ่มชีวิต การทำงานเป็นครั้งแรก

พอกลับจากญี่ปุ่นผมเริ่มหางานทันที เพื่อนฝูงก็ยังไม่ได้เจอ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ใช้เวลาประมาณเดือนนึง มีบริษัทหน้ามืดรับผมเข้าทำงาน แม้เงินเดือนไม่สูง ก็ถือว่าได้ทำในสิ่งที่เราอยากเป็น คือ ล่าม

ผมว่าชีวิตการทำงานเป็นสิ่งน่าสะพรึงกลัวอย่างนึงของชีวิต(สำหรับบางคนนะ อิอิ)
อย่างแรกที่ผมคิดเลยคือ เรากำลังจะสูญเสียการ"ปิดเทอม"ไปหรือนี่...โอ้ววไม่
ผมเคยคิดเล่นๆ บริษัทมีช่วงลาพักร้อน ลาป่วย แต่มันยังไม่พอ บริษัททั้งโลกควรมีการปิดเทอมให้กับพนักงาน เหมือนสมัยเป็นนักเรียน อันนี้ก็แค่เพ้อไปเล่นๆ แหะๆ

แม้จะได้ทำในอาชีพที่เราอยากเป็น แต่นะ ไม่มีอาชีพไหนที่เราจะสุขกับมันได้ตลอดเวลา นักร้องคงต้องเคยเบื่อร้องเพลงบ้างละ ฉะนั้น เตรียมตัว เตรียมใจ รับบททดสอบทุกรูปแบบ
ยังพูดเล่นๆกับพี่ว่า ยังไงจะทำไปจนกว่าเค้าจะไล่ออกนะแหละ ฮ่าๆๆ

ออ ที่สำคัญที่สุด คือผมต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ที่ที่ผมไม่เคยไป ไม่รู้อะไรเลย ไปญี่ปุ่นครั้งแรกยังไม่หวั่นเท่านี้ ทั้งที่ชีวิตเดินทางมาตลอดตั้งแต่จบม.3 ถือซะว่าเป็นบททดสอบอีกครั้งให้เราฝ่าฟัน

มาสังเกตว่า ปกติตัวเองไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเลย โดยเฉพาะสถานที่
อยู่ที่ไหนก็ไม่อยากย้าย แต่ตลอดมามันมีเหตุให้ต้องย้ายที่เป็นประจำ เหอะๆ สงสัยชาติที่แล้วเป็นนักท่องเที่ยว ฮ่าๆๆ


อีกอย่างที่คิดถึงคือเพื่อน จากนี้คงไม่ได้เจอกันเหมือนเก่าแล้ว เมื่อก่อนว่างๆก็นัดไปหาไรกินกัน ตอนนี้แต่ละคนกระจัดกระจายไปทำงานอยู่หลายจังหวัด รู้สึกใจหาย เห็นกันมาตั้งแต่ยังไม่หย่านม คงได้เจอกันอีกทีตอนงานแต่งใครซักคน

ผมเชื่อว่า วัยเรียนเป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุขที่สุด เพราะมีความอิสระ
และมีเพื่อน เมื่อเข้าวัยทำงานช่วงเวลานั้นจะหายไป แต่ถ้าเราอดทน,ขยัน ในวัยทำงาน เมื่ออายุสี่สิบ ห้าสิบ เราจะมีโอกาสได้กลับไปมีความสุขเหมือนวัยเรียนอีกครั้ง หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น

อีกสามวันข้างหน้ากำลังจะเริ่มงาน ชีวิตจริงกำลังเริ่มขึ้น จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด
เพื่อความฝัน ออ...ตอนนี้ผมมีความฝันใหม่อีกแล้ว อิอิ เพราะความฝันครั้งนี้แหละทำให้ผมต้องรีบกลับเมืองไทย มาหางานทำ ส่วนจะฝันบ้าอะไรอีก วันหลังจะมาเล่าให้ฟัง

วันนี้ขอตัวก่อนครับ ขอบคุณที่(ทน)อ่านจนจบ ฮ่าๆๆ เขียนเองยังมึน

ปล.ถ้าพี่ปุ้ยเข้ามาอ่าน ยินดีด้วยเรื่องน้องยูกิ ได้หลานเพิ่มมาอีกคนละ อย่าลืมมาอัพเดทด้วยนะครับ ^_^





Create Date : 06 กรกฎาคม 2552
Last Update : 6 กรกฎาคม 2552 23:08:58 น. 9 comments
Counter : 1161 Pageviews.

 
ขอเป็นกำลังใจให้กับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นะคะ
ต้องย้ายไปอยู่จังหวัดไหนเหรอคะ

เคยคิดเหมือนกันเลยค่ะ ตอนทำงานใหม่ ๆ
ว่าทำงานทำไมไม่มีปิดเทอม T_T


โดย: Ssachiy IP: 114.145.178.241 วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:3:05:01 น.  

 
เอาใจช่วยนะ

แล้วก็จะสนุกกับชีวิตทำงานไปเอง

ทุกอย่างไม่มีคำว่าแน่นอน ตั้งใจก้าวต่อไปนะจ๊ะ


โดย: ged IP: 210.136.121.25 วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:02:36 น.  

 
เดี่ยวกลับมาอ่านพี่มาลงชื่อก่อน


โดย: พี่ปุ้ยณ.โตเกียว IP: 210.139.218.46 วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:04:56 น.  

 
よかったね。
私も 後6ヶ月くらい 国へ 帰る予定なんです。
年をとったから、仕事を参加しにくいおそがれる。

あなたは 来月 仕事 始まるんですね。頑張ってね 


โดย: dog....bok bok IP: 202.215.53.124 วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:56:39 น.  

 
เอาใจช่วยนะน้องฝนเหงา

น้องเก่งทีเดียวอ่ะแสดงว่าทำข้อสอบได้ดีมาก
และระดับภาษาเยี่ยมพอควรเลยจ้าเค้าเลยรับอ่ะ

งานล่ามต้องเก่งและกดดันมากพอควร
*
*ไม่เคยเป็นหรอกแต่ตอนทำงานโรงงานเห็นเพื่อนๆที่เป็นล่ามมันเครียดกันบ่อยๆ**

แถมยังต้องไปแปลสารพัดสารเพ
สากกระเบือยันเรือรบ
ศัพท์เทคนิคเทคโนสารพัดช่างมหาลัย**ฮี่ๆๆ**

คนญี่ปุ่นด่าสต๊าฟคนไทยล่ามก็ต้องไปแปล
พอแปลตรงๆ ไอ้คนไทยมันยังหาว่าล่ามใส่ไข่ แอบเอาคำด่าตัวเองใส่ไปด้วย **เอากะมันฮ่าๆๆ**

ขอให้น้องสนุกกะงานและเครียดแบบสนุกก **เอ๊ะยังไง**

พี่ไม่เคยลืมน้องฝนเลย
แม้เราไม่ได้เจอกันซักที
แต่เลือด ตอ มันข้นกว่าเลือดในก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเนาะ **ตลกมะ..ตลกหน่อยเด่ะ**
พี่เลยรู้สึกเหมือนน้องเป็นน้องชายคนนึงจริงๆ และคิดถึงเสมอนะ

ยังไงซักวันเราคงได้เม้าท์ได้เจอกันแบบเจอตัวเป็นๆซักทีเนาะ

คิดถึงจ้า และดีใจที่ยังไม่ลืมพี่ บ้าๆบอๆคนนี้เด้อ

วุ้ยไปแระเดี๋ยวน้องร้องไห้มาทำซึ้ง ตอนนี้ ฮี่ๆๆ แต่ พูดจริงๆจากใจจ้า


โดย: พี่ปุ้ยอีกที IP: 210.139.218.46 วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:13:21 น.  

 
คุณ Ssachiy ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจ ^_^

พี่ ged ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล๊อก พยามสุดชีวิตเลยครับ อิอิ

คุณ dog....bok bok 有難うございます
khun  dog....bok bokも頑張ってね

พี่ปุ้ย ตอนที่ผมไปสัมภาษณ์ เค้าให้อ่านภาษาญี่ปุ่น ตะกุกตะกักมากแหะๆ ยอมรับเลยว่า คันจิ เรายังไม่เก่ง

คงไปประทับใจเค้าตอนคุยซะมากกว่า เค้าบอกว่าเราฟังดี พูดดี แต่ต้องปรับปรุงเรื่องอ่านนะ ก็คงต้องพยามต่อไป

เลือด ตอ. ข้นกว่าก๋วยเตี๋ยวน้ำตกจริงๆพี่ ไปเจอรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ก็รู้สึกอบอุ่น คงเพราะมีประสบการณ์ดีๆร่วมกันที่โรงเรียน

ไว้มีโอกาสเจอกันนะครับ ซักวันเนอะ


โดย: ฝนเหงา IP: 192.168.50.170, 222.123.116.192 วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:02:55 น.  

 
เป็นกำลังใจให้น้องฝนเหงา ผ่านงานล่ามให้ฉลุยเลยเน้อ
น้องฝนเหงา ผ่านการมาเรียนที่ญี่ปุ่นแล้ว
ยังไง งานนี้ ก้ผ่านฉลุยแน่นอนเลยจ๊ะ

คิดเหมือนกันเลยจ๊ะ
วันเรียน เนี่ย เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุดเลย
ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ
สนุกสุด ๆ อย่าบอกใครเลย

พอก้าวเข้ามาในชีวิตการทำงาน
บ้างครั้งมันก็ไม่ได้สวยหรู อย่างที่ใจรักคิด
ร้องไห้ เป้นโอ่งน้ำก็ยังเคย
อาจจะดูเลวร้าย แต่มันก็ฝึกให้เราเข้มแข็ง
ก้าวเข้าไปสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวจริง ๆ

สู้ สู้ นะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้เสมอ ยังจำน้องคนนี้ได้เสมอนะ

พี่ก็อยากเป็นล่ามลองดู แต่ภาษาด้อยจัง
แล้วเลี้ยงลูกด้วย ไม่รู้สิ อยากลองทำอะไร ๆ หลาย ๆ อย่าง
เกี่ยวกับการทำงาน
อยากสอนหนังสือ ภาษาไทย
อยากลองงานเสิร์ฟ (คิดไปนู้น...)

แต่ก็คงไม่ได้ทำแล้ว เพราะต้องปั้มลูกคนที่ 2 แล้วสิ 555

สู้ สู้ สู้ จ๊ะ


โดย: ติ๊ก แม่น้องคะน้าจัง จ้า IP: 126.23.51.69 วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:6:57:11 น.  

 

happy sunday/ glitter /comment hi5 / code hi5


โดย: บี๋ (Yushi ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:13:31 น.  

 
มาเยี่ยมจ๊ะ ทำงานล่าม สู้ สู้ นะจ๊ะ


โดย: แม่น้องคะน้าจัง (Kana Jan ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:25:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฝนเหงา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ไม่ได้รักแม่ปลาเท่าชีวิต.....แต่แม่ปลาคือชีวิตของพ่อปลา
Friends' blogs
[Add ฝนเหงา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.