|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตเด็กเสิร์ฟ ที่อยากให้ลูกค้าเข้าใจ
มีอยู่เรื่องนึงที่อยากเขียนตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ญี่ปุ่นละ ไม่ได้เขียนซักที แต่ยังค้างคาและคิดว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่คงลืมไม่ได้แน่นอน
เป็นประสบการณ์นึงที่หลายคนพบเจอเป็นประจำ แต่ไม่เคยสัมผัส นั่นก็คือ ประสบการณ์ การเป็นบริกร(อันนี้เรียกแบบเท่ๆสุดๆละ) หรือพนักงานเสิร์ฟ (ความเท่ลดลงมา) ง่ายๆก็คือ เด็กเสิร์ฟ หรือจะเรียกเท่ๆแบบพื้นบ้าน "บ๋อย" -_-''
เชื่อว่าคนทั่วไปต้องเคยได้รับบริการจากเด็กเสิร์ฟ คงไม่มีใคร ทำกับข้าวกินเองที่บ้านทุกมื้อ
ไม่ว่าจะเป็นร้านตามสั่ง ร้านข้างถนน หรือร้านหรูมีระดับ เด็กเสิร์ฟถือเป็นกลไกสำคัญ เป็นหน้าเป็นตาของร้านเลยทีเดียว
บางครั้งอาหารไม่อร่อย แต่เด็กนั่งดริ้งค์ เอ๊ย.....เด็กเสิร์ฟบริการดี ก็สามารถทำให้ลูกค้าติดใจได้
ส่วนใหญ่พวกเราจะอยู่ในฐานะผู้รับบริการ ก็จะเห็นเฉพาะมุมมอง ของผู้รับบริการ
โอ้ววว ซาร่า คุณต้องเคยประสบกับปัญหาเหล่านี้ใช่มั๊ย?
สั่งอาหารแล้วไม่มาซะที "มันไปปลูกข้าวอยู่รึไงฟร่ะ" ขอไม้จิ้มฟันก็ไม่ได้ "สงสัยไปตัดต้นไผ่อยู่" สั่งอีกอย่างได้อีกอย่าง "ท่าจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง" เด็กเสิร์ฟหน้าบึ้ง "ทะเลาะกับเมียที่บ้านมาแหง๋มๆ" และอีกมากมาย ฯลฯ
วันนี้จะมาแฉ เบื้องลึกเบื้องหลัง ว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเด็กเสิร์ฟต้องเจออะไรบ้าง ...เตรียมผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาไว้ได้เลย แหะๆ คงไม่เศร้าขนาดนั้น...^o^
อัปมงคลฟิล์ม ภูมิใจเสนอ เหอๆๆ "ชีวิตรันทดของเด็กเสิร์ฟ" ให้เสียงภาษาไทยโดย ....ว๊ากก ไม่ใช่หนังละ
อันนี้เป็นชีวิตจริงของเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่สวมวิญญาณเด็กเสิร์ฟ อยู่เกือบสองปี ในมหานครโตเกียวที่ คนมันจะแดรกเยอะกันไปไหน -_-''
ออ...บอกก่อนว่า นี่เป็นมุมมองและประสบการณ์ที่ จขบ.เจอมาเอง อาจจะแตกต่างจากเด็กเสิร์ฟคนอื่นๆก็เป็นได้
แน่นอนว่าเด็กที่มาเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่เด็กทุน หรือลูกพ่อทักษิณ ส่วนใหญ่ก็ต้องหางานทำเพื่อแบ่งเบาภาระของทางบ้าน อาชีพเด็กเสิร์ฟ เป็นอาชีพยอดนิยมของเด็กเหล่านี้ เพราะหาง่าย แล้วไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ สมัครปุ๊บทำได้เลย ผมก็ไม่พลาดที่จะเลือกอาชีพนี้เช่นกัน
แต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมการบริการในร้านอาหารที่แตกต่างกัน การเป็นเด็กเสิร์ฟในญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ทิป แต่ผมถือว่าโชคดี เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ขี้เกรงใจ จนบางครั้งเรารู้สึกว่า จะสุภาพกับเด็กเสิร์ฟมากไปป่าวเนี่ย
ง่ายๆคือ ไม่เรื่องมากกกก ลูกค้าที่ไม่เรื่องมาก ถือเป็น นางฟ้า เทวดา ของเด็กเสิร์ฟก็ว่าได้ เพราะปัญหาที่เด็กเสิร์ฟเจอส่วนใหญ่ ไม่ใช่การยกของไปเสิร์ฟลูกค้า แต่เป็น การสื่อสารกับลูกค้า
ผมจะขอยกตัวอย่างปัญหาที่เด็กเสิร์ฟต้องเผชิญ
สมมติว่าในร้านมี 10 โต๊ะ แล้วคุณกำลังจะเดินไปเสิร์ฟโต๊ะที่ 10 เดินผ่านโต๊ะแรก "น้องๆ ขอทิชชู่หน่อย" ผ่านโต๊ะที่สอง "น้องๆ ขอน้ำแข็งเพิ่ม" ผ่านโตีะที่สาม "น้องๆ รับออเดอร์ด้วย" ผ่านโต๊ที่สี่ "น้องๆ ขอพริกน้ำปลา" กว่าจะเดินผ่านไปถึงโต๊ะสิบ ไม่รู้ว่าโดนไปกี่อย่าง
คราวนี้ล่ะครับ เมมโมรี่ น้อยๆของเรา เริ่มสับสน จะต้องเรียงลำดับยังไง ทำให้โต๊ะไหนก่อน อ้าว โต๊ะนั้นก็ยังไม่ได้ ฯลฯ ซึ่งในขณะที่เด็กเสิร์ฟกำลัง งงชีวิต ลูกค้าก็จะคิดว่า เฮ้ย ขอแค่ทิชชู่ทำไมไม่ได้ซะที , เรียกรับออเดอร์เมื่อไหร่จะมา ฯลฯ
เด็กเสิร์ฟต้องรับมือกับลูกค้า 10 โต๊ะ แต่ในมุมลูกค้า ก็แค่สั่งไปเอาทิชชู่ ยากตรงไหน โดยไม่ได้คิดว่า เด็กเสิร์ฟจะต้องไปรับคำสั่งจากโต๊ะอื่นด้วย ไม่รู้กี่อย่าง
ไม่รู้ว่าที่อธิบายจะงงรึเปล่า แต่นี่คือปัญหาที่ลูกค้ามักจะสงสัยว่า ทำไมสั่งเด็กเสิร์ฟไปแล้ว ไม่ทำให้ซะที เบื้องหลังมันเป็นเช่นนี้แล
อีกปัญหาที่เจอคือ อาหารออกช้า หึๆ เด็กเสิร์ฟเป็นเพียงแค่คนกลางระหว่างลูกค้ากับพ่อครัว
พออาหารมาช้าปุ๊บ "สั่งไปตั้งนานแล้วเนี่ย ทำไมยังไม่มา ไปตามหน่อย!!" พอเข้าไปทวงในครัว "แมร่ง มันจะรีบกินไปไหนฟร่ะ อยากกินเร็วก็ให้มาทำเอง!!" เอ่อ......อยากจะบอกว่า คุณลูกค้ากับพ่อครัว ไปด่ากันเองซิครับ อย่ามาลงที่ผมมมม... เราก็ต้องเดินหน้าจ๋องๆไปบอกลูกค้าอีกว่า ให้รอซักครู่ สรุปเหมือนเด็กเสิร์ฟอยู่ท่ามกลางสงคราม -_-'' เปรียบไปก็เหมือนทหารแนวหน้า มีอะไร รับกระสุน ตายก่อนนน เหอะๆ
อีกอย่างที่เจอบ่อยๆๆๆสุดๆๆ และเป็นปัญหาที่ผมแหยงที่สุดคือ เวลารับออเดอร์ สั่งอาหารไปก็คุยกันไป ไม่ต้องลงกันให้เรียบร้อยซะก่อน คนนั้นพูดอย่าง คนนี้ชี้อย่าง อีกคนเอานี่ อีกคนสั่งนั่น ผมล่ะอยากจะให้รัฐบาลออกเป็นพระราชกำหนด "เวลาสั่งอาหารกรุณาหยุดคุยซักครู่ได้มั๊ยยยยย กราบล่ะ" ไม่ใช่ไรหรอก การสั่งอาหารแบบนี้มันทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย
ส่วนใหญ่ถ้าเป็นลูกค้าหนุ่มสาว ถึงวัยกลางคน ปัญหาไม่ค่อยเยอะ แต่พอเป็น อากง อาม่า คุณตา คุณยาย เหอะๆ เรียกว่ายิ่งแก่ประสบการณ์ ยิ่งจุกจิก ฮ่าๆ ไอ้นี่ไม่เอา ไอ้นั่นไม่ใส่ โน่นใส่เยอะๆ นี่ใส่น้อยๆ ผีชีไม่เอา กระเทียมไม่ใส่ ประมาณว่าเอาใจยากโฮกๆ
ส่วนลูกค้าวัยรุ่น โดยเฉพาะที่มาเป็นคู่ๆ สั่งกับข้าว 2 อย่าง น้ำคนละแก้ว แล้วก็นั่งสวีทหวานแหวว จนเลยเวลาปิด เด็กเสิร์ฟก็กลับไม่ได้เพราะต้องรอปิดร้าน เอาเลยพี่น้อง จะแต่งงานมีลูกมีเต้ากันในร้านเลยมั๊ย ไม่ต้องกลับบ้านกลับช่องละ เหอะๆ รู้มั๊ยเนี่ยเด็กเสิร์ฟต้องแหกขี้ตาตื่นไปเรียนแต่เช้ามืดT_T
จริงๆยังมีปัญหาอีกร้อยแปดพันอย่างที่เด็กเสิร์ฟต้องรับมือ นี่เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
พอกลับมาจากญี่ปุ่น ผมก็แปลงร่างมาเป็นลูกค้าเหมือนเดิม แต่ทัศนคติเปลี่ยนไป เวลาไปร้านอาหารเห็นเด็กเสิร์ฟแล้วอดคิดถึงตัวเองไม่ได้ ใจดีกับเด็กเสิร์ฟเป็นพิเศษ เพราะเข้าใจหัวอกเดียวกัน ไม่ทวง ไม่ดุ ไม่ด่า ไม่ว่า ไม่เรื่องมาก ประพฤติตนเป็นลูกค้าที่ดี เอาใจเด็กเสิร์ฟสุดฤทธิ์ ฮ่าๆๆ
ออ ....ยังไงปัญหาที่พล่ามมาทั้งหมดนี้ อย่าเข้าใจผิดนะ ยังไงก็ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของลูกค้า หรือว่าลูกค้างี่เง่า เพียงแต่อยากให้ลูกค้าได้เห็นภาพอีกมุมหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่รู้มาก่อน เพื่อทำความเข้าใจ สังคมในร้านอาหารจะได้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ^_^
แล้วเจอกันใหม่บล๊อกหน้า
สวัสดีครับ
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2553 19:34:13 น. |
|
6 comments
|
Counter : 3304 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: สละ IP: 93.107.21.80 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:48:15 น. |
|
|
|
โดย: me and myself IP: 90.214.82.81 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:04:30 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องฮินะ IP: 221.27.227.146 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:6:16:53 น. |
|
|
|
โดย: ปีเตอร์เวย์ IP: 216.255.164.105 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:57:45 น. |
|
|
|
โดย: ลูกค้า IP: 125.26.116.165 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:59:42 น. |
|
|
|
โดย: วิทยาลัยดุสิตธานี IP: 27.254.30.176 วันที่: 19 สิงหาคม 2557 เวลา:15:51:52 น. |
|
|
|
|
|
|
|