Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
น้ำใจแบบญี่ปุ่น.....

น้ำใจแบบญี่ปุ่น....
วันนี้ขอเขียนถึงสิ่งที่ทำให้ประทับใจญี่ปุ่นอย่างที่สุดซะหน่อย สำหรับผมไม่ใช่เทคโนโลยี,หนังเอวี,ซูชิ,ฟูจิซัง,ชินจังหรือสาวญี่ปุ่น แต่กลับเป็นน้ำใจอันลึกซึ้งที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจชาวอาทิตย์อุทัย คนที่ยังไม่เคยไปญี่ปุ่น อาจรู้จักญี่ปุ่นในส่วนอื่นที่ผมว่ามาซะมากกว่า แน่นอนว่าทุกประเทศมีทั้งคนมีน้ำใจ คนใจดำ ปนๆกันไป แต่สิ่งที่ผมได้สัมผัสในญี่ปุ่นเป็นสิ่งใหม่ที่คาดไม่ถึงมาก่อน ต้องเรียกว่า"โคตรน้ำใจ" ผมขอเล่าตามประสบการณ์ที่เจอมาในช่วงสั้นๆที่อยู่ในญี่ปุ่นนะคับ เรื่องมีอยู่ว่า วันแรกที่ผมก้าวเท้าสัมผัสญี่ปุ่นพร้อมกับน้ำหนักเป้ 2 ใบ รวมๆกันไม่ต่ำกว่า 10 กิโลฯ ช่วงแรกก็ไม่เท่าไหร่คับ แต่ไอ้ตอนที่เดินหาเรียวกังนี่สิ ผมปริ้นแผนที่มาจากในคอมฯ หึๆ..พอมาเจอของจริง "กรูปริ้นท์มาผิดที่ป่าวว่ะ" มึนคับพี่น้อง มันบอกว่าเดิน 10 นาทีถึง(ผมมารู้ทีหลังว่า 10 นาทีคือเดินแบบญี่ปุ่น ถ้าเดินแบบไทยต้องคูณสอง) ชั่วโมงนั้นอากาศหนาวแต่เหมือนเดินในทะเลทราย ได้แต่สวมวิญญาณน้องอร "สู้โว้ยๆ!!"อยู่ในใจ แต่ผมไม่ใช่น้องอรต้องยอมแพ้น้ำหนักเป้ สุดท้ายต้องสวมวิญณาณจาพนม "เรียวกังกรูอยู่หนายย!!" เก๊กหน้าให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวหลงทางสุดฤทธิ์ เข้าไปถามแม่ค้าที่กำลังเปิดร้านอยู่ "อะโนะ อะเนะ"แล้วก็ชี้แผนที่ คุณน้าก็ใจดีคับ เรียกพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายาย มาช่วยอธิบายให้ผม บริการดียังกับพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เหมือนทุกอย่างจะดี แต่ๆๆ...เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด เลยได้แต่โค้งขอบคุณแล้วก้มหน้าก้มตาเดินไปตามที่เค้าชี้(เข้าใจแค่นี้แหละ) เดินมาได้ซักพัก ก็ยังไม่เจอ ตามแผนที่มันเขียนว่าเลยเซเว่นมาก็ถึง นี่ก็เลยมาแล้วไม่เห็นวี่แวว คราวนี้เอาใหม่ เล็งคนที่ดูหน้าตาอินเตอร์หน่อย น่าจะพูดอังกฤษได้ เรดาร์ก็ไปป๊ะกับพ่อหนุ่มรูปงามใส่สูท หน้าตาดูมีแวว กะลังจอดรถจักรยาน ผมเลยรีบปรี่เข้าไปประดุจเสือชีต้า ไม่ให้เหยื่อตั้งตัว เสยแผนที่โช๊ะ ชี้เป๊ะ ถามเลย "เอ่อ แวร์ๆๆ..ฯลฯ" พี่แกตกใจเล็กน้อยก่อนตั้งสติทำหน้าครุ่นคิด แล้วอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นเคย แป่ว...ผมก็ขอบคุณไปเหมือนเดิม แล้วก็เดินไปตามที่พี่แกชี้ต่อไป พอข้ามสี่แยกไปจากตรงที่เจอพี่แก ผมก็ยืนทำหน้างงอยู่ตรงนั้นแหละ กำลังใจหดหาย กะว่าได้นอนข้างถนนแล้วกรู อยู่ดีๆพ่อหนุ่มคนเดิมก็เดินเข้ามา ดึงแผนที่แล้วลากแขนผมไปพร้อมจักรยานของแก "เฮ้ยๆๆ..โดนลักพาตัว" จะร้อง hepl me เป็นภาษาญี่ปุ่นก็ไม่เป็นซะอีก แอบคิดว่าหน้าตาดีๆอย่างเราโดนยากูซ่าจับไปขายซ่องชัวร์ ซวยแล้ว....พอเห็นผมทำหน้างงๆพี่แกหันมาสบตาประมาณว่า อยู่เฉยๆไอ้น้องเดี๋ยวพี่จัดการเอง เดินมาไกลพอควรพี่แกก็ชี้ไม้ชี้มือ นี่ไงเรียวกังที่หาอยู่(จริงๆมีเซเว่นสองที่เลยทำงง)โอ้วว..ที่แท้พี่แกเห็นผมยังงงๆเลยเดินพามาถึงที่เลย ทั้งๆที่ผมเดาว่าตอนที่ผมเข้าไปถามเค้าคงกำลังจะไปทำงาน ยังอุตส่าพาเรามาถึงที่ ผมแปลกใจมากเพราะก่อนมาญี่ปุ่นผมเคยพูดว่า "ถ้าหลงก็คงต้องถามทางเอา" มีคนเตือน(ขู่)ผมว่า "ไม่มีใครว่างมาช่วยคุณหรอก......." ผมได้แต่โค้งคำนับ อะริกาโตะ ไปประมาณสิบรอบ อยากจุ๊บๆๆๆซักร้อยที ขอบคุณหลายๆ ไม่ต้องทนหนาวทนหนักอยู่ข้างถนน จากนั้นพี่แกก็เดินจูงจักรยานจากไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนั้นประโยคในหนังสือ"โตเกียวไม่มีขา"(หน้า84) จี๊ดเข้ามาให้หัวทันที "เมื่อทำความดีกับใครแล้ว สิ่งที่ท่านควรทำคือเดินจากไป นั่นคือความดี" ผมว่ามันเป็นนิยามที่ตรงที่สุดสำหรับน้ำใจแบบญี่ปุ่น มองเผินๆคนญี่ปุ่นมักจะนิ่งเฉยกับคนรอบข้าง ไม่ชอบเสนอตัวเอง เป็นน้ำใจที่แฝงอยู่ข้างใน(คงเป็นนิสัยตามแบบคนญี่ปุ่น) พอถึงเวลาก็ช่วยกันแบบว่าพลีกายถวายชีวี ที่เขียนแบบนี้ เพราะวันต่อๆมาในญี่ปุ่น ผมก็ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ตลอด ไม่เคยเจอปฎิเสธหรือเดินหนีซักราย(อย่างที่เค้าว่ากัน) นอกจากนี้ความมีระเบียบวินัยรับผิดชอบต่อส่วนรวมก็ถือเป็นน้ำใจด้านหนึ่งของคนญี่ปุ่น มีคนยกตัวอย่างให้ผมฟังว่า น้ำใจคนไทยคือเห็นคนตกรถเมล์แล้วรู้สึกสงสารเป็นห่วงเป็นใยช่วยเหลือกันสุดๆ แต่น้ำใจคนญี่ปุ่นคือสร้างความปลอดภัยให้กับรถเมล์เพื่อจะได้ไม่มีใครตก.....น้ำใจคนไทยคือสงสารเวลาคนถูกรถชน น้ำใจคนญี่ปุ่นคือขับรถอย่างเป็นระเบียบเพื่อไม่ให้ไปชนใคร....น้ำใจคนไทยคือสงสารคนกวาดถนน น้ำใจคนญี่ปุ่นคือไม่ทิ้งขยะคนกวาดถนนจะได้ไม่ลำบาก อันนี้ก็เป็นแง่มุมหนึ่งเท่านั้นนะคับ เพราะผมว่าแต่ละชนชาติก็มีแการแสดงออกที่แตกต่างกันไปคนญี่ปุ่นใจดำก็มี คนไทยใจดีก็เยอะ.............^_^


Create Date : 18 มีนาคม 2550
Last Update : 18 มีนาคม 2550 15:38:12 น. 5 comments
Counter : 829 Pageviews.

 
เห็นด้วยค่ะ ตอนนี้มีเด็กญี่ปุ่นมาทำงานวิจัยอยุ่ด้วย แรกๆ ไม่ค่อยเข้าใจเค้าเท่าไร แต่ตอนนี้สนิทกันแล้ว เค้าน่ารักมากๆเลย เสียดายที่เค้าจะกลับแล้ว


โดย: fattyacid (deeny ) วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:21:57:24 น.  

 
อืม เข้ามาเห็นด้วยกับที่คุณฝนเหงาเขียนเรื่องน้ำใจค่ะ (น้ำใจคนไทยคือสงสารเวลาคนถูกรถชน น้ำใจคนญี่ปุ่นคือขับรถอย่างเป็นระเบียบเพื่อไม่ให้ไปชนใคร....น้ำใจคนไทยคือสงสารคนกวาดถนน น้ำใจคนญี่ปุ่นคือไม่ทิ้งขยะคนกวาดถนนจะได้ไม่ลำบาก )

เห็นด้วยมากๆ เลยค่ะ

อิ อิ แอบขำ นึกว่าคุณฝนเหงาจะโดนจับตัวไปขายซะแล้ว

(คุณฝนเหงาเขียนได้ดีมากเลยค่ะ แต่จะโกรธไม๊คะ คือ อ่านแล้วตาลายน่ะค่ะ เคาะแป้นเว้นบรรทัดจะช่วยให้อ่านง่ายขึ้นน่ะค่ะ )

แล้วจะแวะมาอ่านบ่อย ๆนะค้า


โดย: lilyai (LilyAi ) วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:7:21:58 น.  

 
ส่วนตัวไม่ค่อยได้คลุกคลีกับคนญี่ปุ่นค่ะ แต่ก็คิดว่าคุณโชคดีมากค่ะ ที่ไปต่างแดนแล้วได้รับน้ำใจไมตรีกลับมา


โดย: kapaeng_83 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:15:14:37 น.  

 
เข้ามาอ่านด้วยคนนะจ๊ะ

เขียนได้ดีจริงๆๆ


โดย: Kana Jan (Kana Jan ) วันที่: 20 มีนาคม 2550 เวลา:22:09:02 น.  

 
"ผมไม่ได้รักญี่ปุ่นเท่าชีวิต....แต่ญี่ปุ่นคือชีวิตของผม "

ชอบประโยคเนี้ยะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วยังทำใจรักออสเตรียเหมือนบ้านไม่ได้เลย

เพราะออสเตรียก็คือออสเตรีย ไทยยังไงจะไกลแค่ไหนก็ยังเป็นบ้านเป็นตัวฉ๊านนน อยู่ดี หันไปไหนก็ฝรั่งๆๆๆ จนบางทีก็ลืมว่าตัวเองหัวดำหัวเดียวท่ามกลางหัวทองๆมากมายรอบตัว อยากจะพูดประโยคของคุณเหมือนกัน "ฉันไม่ได้รักออสเตรียเท่าชีวิต แต่ออสเตรียคือชีวิตของฉัน"

โอยลองพูดดูแล้วมันเป็นแค่ลมปากอ่ะ ไม่ได้มีฟิลลิ่งออกมาเล้ยให้ตายเหอะ ดีนะคะ เอาใจช่วยได้อยู่ได้ไปในที่ชอบ ก็ขอให้สนุกมีความสุขเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างอย่างมีสติค่ะ


โดย: คุณจ๊ะจ๋า วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:0:37:46 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ฝนเหงา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ไม่ได้รักแม่ปลาเท่าชีวิต.....แต่แม่ปลาคือชีวิตของพ่อปลา
Friends' blogs
[Add ฝนเหงา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.