กรกฏาคม 2561

2
3
4
5
10
11
13
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
โลกคือ 2in1 มนุษย์คือ 1in2
โลกมีกลางวันและกลางคืน=พลังงาน=ระบบสุญญากาศ
มนุษย์มีสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต=พลังงาน=ระบบสุญญากาศ
2in1=1in2 และ 1in2=2in1 มนุษย์คือ ภาพสะท้อนของโลก และ โลกก็คือ ภาพสะท้อนของมนุษย์ เมื่อโลกเป็น 2in1 มนุษย์ก็เป็น 1in2 เมื่อมนุษย์เป็น 2in1 โลกก็เป็น 1in2 ในความเหมือนมีความต่างและในความต่างก็มีความเหมือน เมื่อไหร่ที่เราสามารถรวมความเหมือนและความต่างเป็นหนึ่งเดียวกัน=การหลุดพ้นออกจากความเหมือนและความต่าง แต่ไม่หลุดพ้นออกจากความเป็นพลังงาน โลกไม่แยกแยะความเหมือนและความต่าง=โลกหลุดพ้นออกจากความเหมือนและความต่าง แต่ไม่หลุดพ้นออกจากความเป็นพลังงาน
เมื่อโลกเป็น 2in1 มนุษย์ก็เป็น 1in2 คือ ในสถานการณ์หนึ่งสถานการณ์จะมีความหมายทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดีซ่อนอยู่เสมอ มนุษย์รับมือกับสถานการณ์ด้วยความคิด+การกระทำ หรือ ความรู้สึก+การกระทำ
เมื่อมนุษย์เป็น 2in1 โลกก็เป็น 1in2 คือ ไม่ว่ามนุษย์จะใช้ความคิด+การกระทำ หรือ ความรู้สึก+การกระทำ ต่อสถานการณ์หนึ่งสถานการณ์ก็จะมีความหมายทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดีซ่อนอยู่เสมอ
นอกจากในสถานการณ์หนึ่งสถานการณ์จะมีความหมายทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดีซ่อนอยู่แล้ว (นี่คือเหตุและผลที่ว่าทำไม 13ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงจึงเป็นทั้งฮีโร่และผู้ประสบภัย) ในสถานการณ์หนึ่งสถานการณ์ยังมีส่วนเชื่อมโยงของอดีตและอนาคตที่มีปัจจุบันเป็นตัวเชื่อม ซึ่งอดีตปัจจุบันอนาคตก็เชื่อมโยงมาจากอดีตชาติ ปัจจุบันและชาติในอนาคต อดีตชาติคือ จิตวิญญาณ spirit ขั้วลบ ชาติในอนาคตคือ จิตวิญญาณ soul ขั้วบวก
ยกตัวอย่างเช่น อดีตและอนาคตที่มีปัจจุบันเป็นตัวเชื่อมคือ การเข้าไปในถ้ำของ13ชีวิตคืออดีต การพยายามให้ความช่วยเหลือคือปัจจุบัน 13ชีวิตออกจากถ้ำคืออนาคต ความพยายามในการให้ความช่วยเหลือมีทั้งอดีต(พระสวดทำพิธีต่างๆ) ปัจจุบันละอนาคตคือ การระดมทั้งความคิดความรู้สึกอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆทั้งที่เคยใช้และไม่เคยใช้เข้าให้ความช่วยเหลือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ต่างก็มีส่วนเชื่อมโยงถึงกันการกระทำของคนคนหนึ่งหรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งจะมีทั้งส่วนที่เราคิดว่าเรารู้แต่ไม่รู้และส่วนที่ไม่คิดว่ารู้แต่รู้ซ่อนอยู่ในการกระทำนั้นๆเสมอ เราทุกคนคือจิ๊กซอว์ที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพรวมใหญ่ ภาพรวมใหญ่ที่หมายถึงการเกิดขึ้นและดับสูญของทุกสิ่งรวมทั้งความเป็นไปทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว สิ่งที่กำหนดความเป็นไปในชีวิตเราก็คือ ความไม่สมดุลย์ในความสมดุลย์ที่มีอยู่ในจิตวิญญาณspirit ขั้วลบ (อดีต) และจิตวิญญาณ soul ขั้วบวก (อนาคต) ของเราเอง ทั้งสองร่วมกันใช้ประโยชน์จากร่างกายนี้เพื่อแสดงถึงการดำรงอยู่และมุ่งสู่การหลุดพ้น ไม่มีอะไรสูญเปล่า ถ้าเราไม่เป็นผู้ที่เดินข้ามสะพานเราก็เป็นสะพานให้ผู้อื่นก้าวเดิน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพื่อการเรียนรู้ช่วยเหลือและพัฒนาซึ่งกันและกัน
ยกตัวอย่างเช่น สามีภรรยาที่อยู่ร่วมกันคือ อดีต ปัจจุบันและอนาคตของกันและกัน ในทุกๆสถานการณ์ถ้าคู่สามีภรรยาต้องการให้ภาพที่เกิดขึ้นมีความสมบูรณ์พร้อมคือ มีการดำรงอยู่และมีการหลุดพ้น ภาพเหตุการณ์นั้นๆจะต้องมีองค์ประกอบทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคตรวมอยู่ในนั้นเสมอ อดีตคือสิ่งที่สร้างปัญหา ปัจจุบันคือความพยายามแก้ไขปัญหา อนาคตคือการหลุดออกจากปัญหา ซึ่งทั้งสามส่วนมาจากส่วนที่แสดงสถานะเป็นปัจจุบันคือ ความคิด(สมอง) คือ กระแสไฟฟ้า (พลังงานบวก) และอิเล็กตรอน (พลังงานลบ) ความรู้สึก (เส้นประสาทสัมผัส) คือ แม่เหล็ก ขั้วบวกขั้วลบ และส่วนที่แสดงสถานะเป็นอดีตและอนาคตที่มาจากความรู้สึกจากจิตวิญญาณspirit ขั้วลบ (อดีต) และจิตวิญญาณ soul ขั้วบวก (อนาคต) ความสมบูรณ์ของภาพและการหลุดพ้นไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่สามารถเกิดขึ้นได้จากการร่วมมือกันของทั้งสามส่วนเท่าๆกัน การยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งคือ การพายเรือวนที่เดิม เรายอมแพ้เพื่อเป็นผู้ชนะดีกว่าเป็นผู้ชนะบนความพ่ายแพ้ของเราเองทั้งภายในและภายนอก
จิตวิญญาณทั้งสองมีความมุ่งหวังที่เหมือนและแตกต่างกันคือ มีความต้องการในการดำรงอยู่และการหลุดพ้นเหมือนกัน แต่มีพลังงานต่างขั้วกันจึงทำให้การดำรงอยู่มีความแตกต่างกัน เมื่อจิตวิญญาณทั้งสองมีความต้องการในการดำรงอยู่เหมือนกันจึงเป็นเหตุให้ทั้งสองมุ่งที่จะใช้ปัจจุบันเป็นสนามในการแสดงออกถึงการดำรงอยู่ ฝ่ายใดสามารถยึดพื้นที่ปัจจุบันได้นานที่สุดฝ่ายนั้นก็จะมีความมั่นคงแข็งแรงกว่า ไม่ต่างอะไรจากการพยายามใช้ชีวิตภายนอกของมนุษย์เพราะโลกภายนอกคือภาพสะท้อนของโลกภายใน เมื่อเรามีโลกภายในที่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ภายนอกก็ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เราเกิดมาเพื่อสร้างและรักษาซึ่งกันและกันทั้งภายในและภายนอก การสร้างคือ เราสร้างทุกสิ่งทุกอย่างจากสิ่งที่เรามีอยู่เพื่อไปสู่สิ่งที่เราไม่มีแต่เป็นสิ่งที่เราต้องการ การรักษาคือ เราไม่รักษา(เก็บ)สิ่งที่เรามีอยู่แต่เราช่วยทำให้สิ่งที่เรามีอยู่เกิดมีความสมดุลย์ในตัวเอง การเก็บรักษาหมายถึงการดูแลให้คงสภาพเดิมไว้ แต่เราไม่ได้เกิดมาเพื่อคงสภาพความไม่สมดุลย์ของจิตวิญญาณspirit ขั้วลบ (อดีต) และจิตวิญญาณ soul ขั้วบวก (อนาคต) ไว้เราเกิดมาเพื่อสานต่อความต้องการในการหลุดพ้นของจิตวิญญาณทั้งขั้วบวกและขั้วลบ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นภายในและภายนอกมีส่วนเชื่อมโยงถึงกันก็เป็นเพราะเราทุกคนมีความต้องการที่จะหลุดพ้นเหมือนกัน หลุดพ้นออกจากปัญหาเฉพาะหน้า หลุดพ้นออกจากความทุกข์ หลุดพ้นออกจากความหิวโหยอดอยาก หลุดพ้นออกจากความคิดความรู้สึกของเราเอง



Create Date : 14 กรกฎาคม 2561
Last Update : 14 กรกฎาคม 2561 9:09:41 น.
Counter : 647 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว