มิถุนายน 2562

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
11
12
13
14
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
28
30
 
 
All Blog
ชีวิต กับ สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย
โลกและมนุษย์ต่างก็ดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้ "สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย" ความหมายของสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายหมายถึง มิติของชีวิต/มิติของโลก/มิติของโลกคู่ขนาน=ความกว้าง ยาว สูง(ลึก) ช่องว่างและเวลา ทั้งสามมิติคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และเวลาเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน

สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย=ความใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และเวลาเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน ภายในสภาวะกึ่งเป็นมีความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และเวลาเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน และภายในของภายในก็ยังมีความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และเวลาเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน และในขณะเดียวกันหรือในทางกลับกันภายในสภาวะกึ่งตายก็มีความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และเวลาเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน และภายในของภายในก็ยังมีความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และเวลาเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน ทั้งหมดนี้คือ มิติของชีวิต/มิติของโลก/มิติของโลกคู่ขนาน=ความกว้าง ยาว สูง(ลึก) ช่องว่างและเวลา หรืออีกความหมายหนึ่งขอยกตัวอย่างแมวของชโรดิงเจอร์ ซึ่งเป็นการทดลองทางความคิดของ Erwin Schrödinger ซึ่งได้ออกแบบการทดลองโดยการวางแมวไว้ในกล่องปิดทับไม่สามารถเห็นภายในได้กล่องหนึ่งภายในกล่องมีเครื่องไกร์เกอร์มิเตอร์ที่ค่อยวัดระดับรังสีที่ปล่อยออกมาจากแร่กัมมันตรังสี เมื่อเครื่องไกร์เกอร์มิเตอร์สามารถตรวจจับได้ว่าตัวก้อนกัมมันตรังสีนั้นปลดปล่อยกัมมันตภาพรังสีออกมามันจะส่งสัญญาณไปทุบขวดแก้วที่เต็มไปด้วยแก๊สพิษภายในกล่องและส่งผลให้แมวตัวนั้นตาย อีกทั้งเราไม่สามารถเปิดกล่องใบนี้เพื่อเปิดดูได้ว่าแมวตัวนี้ตายหรือว่ายังมีชีวิตอยู่ แมวตัวนั้นจึงอยู่ในสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายที่เรียกว่า Quantum Superposition ซึ่งเป็นสภาวะที่แสนจะพัวพันจากการซ้อนทับกันของเหตุการณ์ ในตัวอย่างนี้เรา (คนเปิดกล่อง) และแมว (ตัวเรา/โลก) คือ ผู้สังเกตุการณ์เหมือนกัน แต่เป็นผู้สังเกตุการณ์ที่มองเห็นเหตุการณ์และหรือสถานการณ์ที่มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน เมื่อเราเปิดกล่องดูเราจะเห็นได้ว่าแมวอยู่ในสภาวะตายหรือว่ายังมีชีวิตอยู่อย่างใดอย่างหนึ่งอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็นคือสภาวะที่อยู่ภายในของแมวที่อยู่ภายใต้ "สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย" และในขณะเดียวกันหรือในทางกลับกันแมวที่อยู่ภายใต้ "สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย" จะมองไม่เห็น/ไม่รับรู้ สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเองแมวจะมองเห็นและรับรู้เฉพาะในส่วนของสภาวะมี/เป็น/อยู่เท่านั้นไม่ใช่สภาวะกึ่งเป็นและไม่ใช่กึ่งตาย เมื่อแมวรับรู้เฉพาะสภาวะมี/เป็น/อยู่/สภาวะของการมีชีวิตจึงเป็นเรื่องปกติที่แมวจะไม่ยอมรับการกระทำของตัวแมวเองที่เกิดจากสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเอง เมื่อแมวเข้าไปมีส่วนเกียวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดจากสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเอง แมวจึงปฏิเสธการยอมรับและหรือปฏิเสธการแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดจากสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเองเนื่องจากความรู้และไม่รู้ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความหมายคือ รับรู้ว่าแมวคือส่วนหนึ่งของสถานการณ์ แต่ไม่รับรู้ว่าแมวคือต้นเหตุของสถานการณ์ที่เกิดจากสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเอง เมื่อแมวไม่รับรู้ว่าตัวเองคือต้นเหตุของสถานการณ์ที่เกิดจากสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเอง แต่แมวมีความเข้าใจที่ว่าในทุกๆสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีผู้แสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แมวจึงเลือกที่จะมองหาต้นเหตุ/ความรับผิดชอบจากสิ่งอื่น/แมวตัวอื่น ซึ่งเป็นการกระทำที่มีความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันอยู่ ความใช่คือในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีผู้แสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเสมอ และผู้ที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ทุกคนที่มีส่วนร่วมอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ ความหมายของการมีส่วนร่วมในการแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหมายถึง การแสดงความรับผิดชอบต่อความคิดความรู้สึกและการกระทำของตัวเองทั้งในส่วนของความรู้และไม่รู้ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน หรือในอีกความหมายหนึ่งคือ การแสดงความรับผิดชอบต่อสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายที่ตัวเองเป็นอยู่ ไม่ใช่การแสดงความรับผิดชอบต่อสภาวะเป็น/สภาวะที่มีการรับรู้ของตัวเองเท่านั้นโดยโยนสภาวะที่ไม่รับรู้/สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเองให้เป็นความรับผิดชอบของแมวตัวอื่น/โลก

ความพัวพันและความยุ่งเหยิงเกิดจากความไม่รู้ว่าแมวไม่ได้อยู่ในสภาวะเป็น/มีชีวิตเพียงสภาวะเดียวเท่านั้น แต่แมวอยู่ในสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นแมวจึงมีความจำเป็นที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายของตัวเองเพื่อลดความพัวพันและความยุ่งเหยิงที่เกิดจากความไม่รู้ในสภาวะที่เป็นอยู่ของตัวเอง ยุติการกล่าวหากล่าวโทษตัวเองและกันและกัน และหันมาทำความเข้าใจกับสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายที่ตัวเองเป็นอยู่เพื่อนำพาตัวเองเดินออกจากสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายหนึ่งไปสู่อีกสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายหนึ่งที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า/จากโลกแห่งอารยะธรรมไปสู่โลกแห่งอารยะธรรมที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น/โลกของสัตว์ประเสริญไปสู่โลกของมนุษย์ประเสริฐ

*แรงโน้มถ่วงคือ กุญแจสำคัญไขความลับทั้งหมดของโลก
แรงโน้มถ่วงไม่เพียงแต่เป็นแรงที่ยึดเหนี่ยวเราเอาไว้ไม่ให้หลุดออกนอกโลกเท่านั้น แต่แรงโน้มถ่วง+แรงไทดัลยังเป็นแรงที่กระทำต่อทุกๆความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราทั้งหมด=การใช้/ความเป็นไปของโลกและชีวิตของเราทุกสิ่งล้วนขึ้นอยู่กับแรงโน้มถ่วง/ความโน้มถ่วงทั้งสิ้น

RIP การเมืองยุคเก่า/การใช้ชีวิตในโลกใบเก่า
เข้าสู่การเมืองยุคใหม่/การใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ด้วยการทำความเข้าใจในแรงโน้มถ่วง+แรงไทดัล+แรงพื้นฐานของโลก+แรงอื่นๆ+ทฤษฎีต่างๆ+กลศาสตร์ควอนตัม+อนุภาคมูลฐานต่างๆ+หลุมดำ+การทำงานและการเดินทางของแสงและอื่นๆอีกมากมาย ชีวิตคือ วิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์คือ ชีวิต



Create Date : 15 มิถุนายน 2562
Last Update : 15 มิถุนายน 2562 9:51:44 น.
Counter : 507 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว