Thailand Mega Flood 2011 : คนกล้าแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน (1)

เราขอรับสิ่งของบริจาคทุกอย่าง ยกเว้น ถุงยังชีพ

เป็นคำกล่าวของคนจังหวัดสมุทรสาครถึงการเตรียมพร้อม
ในมหาวิบัติภัยทางน้ำ ที่เป็นทางผ่านสู่ท้องทะเล
ฟังดูแล้วอหังการณ์ น่าหมั่นใส้ แต่สำหรับคนในพื้นที่แล้ว
มันให้ความมั่นใจว่า เราจะปกป้องพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ให้ได้

ไม่ว่าแต่ละจังหวัดเตรียมตัวป้องกันน้ำท่วมในครั้งนี้อย่างไร
แต่คนที่นี่ได้เตรียมตัวมาก่อนหน้าที่น้ำจะมาถึงนานนับเดือนแล้ว
โดยเริ่มจากการพยายามดันน้ำในแม่น้ำท่าจีนโดยชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีน
จังหวัดนครปฐมส่งน้ำต่อมายังกลุ่มเรือประมงที่จังหวัดสมุทรสาคร

โดยมีเสียงตัดพ้อจากกลุ่มเรารักท่าจีนว่าได้ทำเรื่องขอเงินไปยัง ศปภ.
แต่ได้รับการปฏิเสธ เนื่องจากเงินก้อนนี้มีไว้สำหรับแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วคลองต่างๆ ในเขตนนทบุรีก็ต้องผันน้ำมายังที่นี่
โชคดีหน่อยที่รู้สึกว่าเรือประมงสมุทรสาครจะได้เงินจากจังหวัด

ตามมาด้วยการขุดลอกคลองต่างๆ พร้อมการพร่องน้ำเตรียมไว้
จะเห็นได้ว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของการประสานงานจากภาคส่วนต่างๆ
อันประกอบด้วย ภาคเอกชน ภาคราชการ และภาคประชาชน
ในการคิดว่าทำอย่างไรที่จะไม่อยู่เฉยๆ รอให้น้ำมาท่วมเสียก่อน

ปลายเดือนตุลาคม มวลน้ำด้านตะวันตกที่ถล่มสามโคก บางบัวทอง
บางใหญ่จนยับเยินก็มาถึงแนวรับที่คลองมหาสวัสดิ์ ที่มีคันกั้นน้ำ
สูงกว่า 2.5 เมตร รทก. และคันทางรถไฟสายใต้ที่สูง 3 เมตร รทก.
แต่ทัพหน้าของน้ำก็พบจุดอ่อนในแนวรับที่วัดปุราณาวาส ศาลายา

27 ตุลาคม 2554 น้ำทะลักผ่านแนวกำแพงวัดพังกว่า 10 เมตร
มุ่งหน้าล้อมม. มหิดล วิทยาเขตศาลายา แต่ที่นี่ก็รักษาพื้นที่ไว้ได้
น้ำที่ตามมาภายหลังเริ่มก่อตัวสูงขึ้นหลังคันทางรถไฟ
ส่วนหนึ่งวิ่งไปตามแนวรางมุ่งหน้าไปลงแม่น้ำท่าจีน

แต่นี่ไม่ใช่จุดอ่อนเดียวที่มี คลองทวีวัฒนาที่รับน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์
ต้องยอมยกประตูจากเดิม 0.5 เมตรเป็น 1 เมตร และ 1.5 เมตรในที่สุด
น้ำสายแรกจากแนวคันที่แตก นำหน้าไปยังพุทธมณฑลตามถนนสายสี่
แต่น้ำที่มาตามคลองไปได้เร็วกว่า มุ่งหน้าสู่ถนนเพชรเกษมอย่างรวดเร็ว

เขตทวีวัฒนา บางแคจมน้ำจากมวลน้ำก้อนนี้ น้ำที่เหลือไม่ได้รอ
ที่จะมาตามรอยแตกและคูคลองเพียงอย่างเดียว มันสะสมตัว
และซึมไหลผ่านทางใต้ดินเข้าท่วมถนนบรมราชชนนีตัดขาดทางไปนครปฐม
และท่วมย้อนไปตามถนนกาญจนาภิเษก สายสาม สายสอง ในเขตตลิ่งชัน



1 พฤศจิกายน 2554 น้ำเริ่มแตะพื้นที่ถนนเพชรเกษม เขตอำเภอกระทุ่มแบน
นักวิชาการ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ตัวแทนผู้ค้าในตลาด อาสาสมัคร
ผู้นำชุมชนและสื่อมวลชน อาศัยศาลากลางจังหวัดในการปรึกษาหารือ
เพื่อแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือ แต่บริเวณที่น้ำท่วมนั้นแก้ปัญหาได้ยาก

เนื่องจากไม่มีระบบระบายน้ำในบริเวณดังกล่าว จำเป็นต้องรอให้น้ำหลาก
มาตามถนนเศรษฐกิจแถวอ้อมน้อย และถนนพุทธสาครในพื้นที่สวนหลวง
ซึ่งจะรับน้ำมาลงคลองภาษีเจริญ ก่อนที่จะถูกสูบไปออกแม่น้ำท่าจีนต่อไป
แต่น้ำนั้นเดินทางช้ามาก สองสัปดาห์ผ่านไปก็ยังเดินทางไปไม่ถึงชายคลอง
เทียบกับจากมวลน้ำฝั่งที่ไหลในฝั่งคลองทวีวัฒนาไปถึงถนนพระรามสองแล้ว

ในช่วงแรกมีนโยบายหลายอย่างที่ถูกเตรียมการขึ้น เช่นการป้ายสีตามเสาไฟ
เพื่อบอกความสูงของพื้นที่ต่างๆ ในตัวอำเภอเมืองเทียบกับถนนพระรามสอง
ฉะนั้นแต่ละบ้านจะรู้ว่าต้องยกของสูงแค่ไหน และการนำเสนอนโยบายที่กล้าเสี่ยง
เช่น การเจาะถนนพระรามสองในกรณีที่น้ำท่วมถนน แม้ว่าจะเป็นไปได้ยาก

ในเวลานี้การจัดการน้ำในด้านทิศตะวันตก จึงแบ่งเป็นสองส่วน
ส่วนแรกคือน้ำบ่าทุ่งมาตามถนนที่มาจากพุทธมณฑลเข้าอำเภอกระทุ่มแบน
และส่วนที่สองคือน้ำจากคลองทวีวัฒนาที่กำลังเจาะแนวถนนพระรามสอง

น้ำในส่วนแรกนั้นอาศัยแนวคลองภาษีเจริญเป็นแนวรับไม่ให้ไหลไปยังตัวเมือง
มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมจากที่มีตามปรกติโดยได้รับการอนุเคราะห์
มาจากแหล่งต่างๆ เช่น เครื่องสูบน้ำจากจีน หรือจากจังหวัดที่น้ำไม่ท่วม
โดยมีการติดป้ายบนเครื่องสูบน้ำแต่ละเครื่อง เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก

ส่วนน้ำที่ไหลไปทางพระรามสองอาศัยระบบแก้มลิงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานไว้เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ. 2538 โดยมีคลองสนามไชย
คลองมหาชัยเป็นคลองหลัก เพื่อผันน้ำไปเก็บไว้ในคลองย่อยๆ และบึงน้ำขนาดยักษ์
เมื่อน้ำลงก็จะเปิดประตูให้น้ำไหลผ่าน และปิดประตูเมื่อน้ำทะเลหนุนแล้วสูบออก

ปัจจุบันพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมคืออำเภอกระทุ่มแบน
โดยมีพื้นที่ที่โดนน้ำท่วมประมาณ 50% ระดับน้ำต่ำสุดบริเวณดอนไก่ดี
20 cm สวนหลวง 50 cm ที่หนักสุดคือบริเวณอ้อมน้อย สายห้า 1-1.8 m
ทำให้ต้องมีการอพยพและแจกอาหาร แต่ก็ยังรักษาพื้นที่หลักใต้คลองไว้ได้

Create Date : 18 พฤศจิกายน 2554		4 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2554 16:52:58 น.
Counter : 1130 Pageviews.
Share Tweet