นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
24 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
เลือดรักทระนง 9 พิมม์กับ อักษรศาสตร์

ที่วังนารายณ์
เด็กสาววัยสิบเจ็ดปีรัดผมเปียยาว กำลังเก็บกวาดใบไม้ที่หล่นเกลื่อนมากกว่าต้นอื่น คุณพระศานต์เดินออกกำลังกายตามแพทย์สั่ง เพราะหมู่นี้ท่านหายใจติดขัดบ่อย หลวงแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเพราะโรคหัวใจไม่สู้ดีนัก ควรออกกำลังการและงดงานหนัก ดังนั้น งานที่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ลับสุดยอของท่าน จึงตกเป็นของเลขา ที่ท่านกำลังมองความขยันขันแข็งด้วยสายตาที่มีแต่ความเอ็นดูไม่เสื่อมคลาย
“ทำอะไรเจ้าซน”
“อุ๊ย คุณท่าน กระถินเก็บใบไม้เจ้าค่ะ”กระถินตอบแล้วพิงไม้กวาดไว้โคนต้น ทำท่าเหมือนจะเข้ามาประคองคุณพระ แต่ท่านรีบห้าม พลางตัดพ้อว่า
“อย่าได้เห็นฉันเป็นตาแก่อายุร้อยปีเป็นเด็ดขาดเชียวเจ้าซน”
“ไม่ได้เห็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ แต่ดูคุณท่านอายุเกือบเก้าสิบเก้าแล้วเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“แกนี่ เคยละการเถียงสักครั้งมั้ย”
กระถินยิ้มหวาน ก่อนดื้อแพ่งเข้าไปประคองท่านให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้จนได้ คุณพระจึงต่อว่าอีกฝ่าย
“แกจะทำให้หลวงแพทย์มากล่าวหาฉันว่าขี้เกียจออกกำลังกาย เพราะเมื่อฉันเดิน แกมาจับฉันนั่ง”
“คุณท่านบอกคุณลุงหมอได้เลยเจ้าค่ะว่าเดินลงจากตึกมีบันได้เวียนมาแล้ว ยังมีบันไดชัน และมาถึงในสวนคุณลุงเดินมาไกลมากแล้วสมควรจะพักได้เจ้าค่ะ”
“เจ้าคนหัวหมอ แกมันฉลาดเรื่องเอาชนะคน แล้วนี่จะเรียนต่ออะไรอีกบ้าง
“จะเรียน ม.แปด เจ้าค่ะ”
“ข้อนั้นฉันรู้ ฉันหมายถึงแกไม่เรียนมหาวิทยาลัยหรอกหรือ”
“พอดีพี่รามกลับจากเมืองนอกให้พี่รามตัดสินใจค่ะ เพราะเวลานั้นพี่รามเป็นเจ้าของสมบัติแล้วกระถินต้องไปกินเบี้ยเลี้ยงอีก จากวันล่ะสิบสตางค์ กระถินจะขึ้นค่าแรงเป็นสิบสองสตางค์คุณลุงเห็นดีด้วยมั้ยเจ้าคะ”
คุณพระหัวเราะดังลั่นๆ แล้วกุมหน้าอก กระถินห่วงนักรีบถลันเข้าไปใกล้ พอดีกับที่พุดกรองแทรกเข้ามาเสียก่อน นางห้ามทันควัน
“ออกไป ฉันเอายามาให้คุณพี่แล้ว”
กระถินจึงปล่อยหน้าที่ประคับประคองดูแลเป็นของ...แม่ที่กระถินไม่ได้เรียกและไม่ได้ใกล้ชิด ถ้าคุณพระไม่อยู่
คุณพระศานต์ เลิศพานิชทานยาร้อนจากที่นางละมุดถือมา และพุดกรองรับต่อมาป้อนคุณพระ จากนั้นจึงนั่งใกล้ ไม่ให้คุณพระได้สนทนากับกระถินตามลำพัง
กระถินจึงหยิบไม้กวาดมากวาดใบไม้ต่อ นางละมุดทำเชิดหน้าถือดีว่าบัดนี้คุณผู้หญิงพุดกรองยังกดหัวกระถินได้เหมือนเดิม ตัวนางเป็นข้า ข้างพุดกรองจึงเหมือนกับได้ชนะกระถินไปด้วย
จากท่าทางเหมือนกิ้งก่าได้ทองของนางละมุด ทำให้กระถินหมั่นเขี้ยวนัก จึงจงใจกวาดใบไม้กระเด็นไปโดนอีกฝ่าย นางละมุดฟ้องร้องนายทันที
“ตายแล้วคุณกระถินแกล้งละมุด”
“ฉันไม่ได้แกล้งแก แต่ฉันกำลังเตือนว่า เป็นขี้ข้าบ้านเขาอย่าเอาแต่ทำเหมือนหมาเฝ้านายไม่รู้จักทำอะไรนั่งแต่กระดิกหาง ฉันกวาดใบไม้ แกก็ต้องมาเก็บใส่เข่งเอาไปเผา”
นางละมุดมองพุดกรองหวังให้ช่วย พุดกรองอยากช่วย แต่พระศานต์ เลิศพานิช เอ่ยออกมาเสียก่อนว่า
“ถูกของกระถินแล้วนะ กระถินเป็นนายแกยังทำงาน แล้วแกมานั่งเฝ้าดูนายทำงานได้หรือนางละมุด”
นางละมุดจึงต้องก้มหน้ารับงานอย่างไม่ปรารถนานัก นางจำเก็บใบไม้ที่กระถินกวาดไปสุมรวมกัน ลงในเข่ง
คุณพระถามด้วยความสงสัยว่า
“ทำไมต้นนี้ล่วงมากนักเล่า”
“กระถินเขย่าเจ้าค่ะ ให้มัยร่วงให้หมด พรุ่งนี้จะได้ไม่มีให้เก็บอีกเจ้าค่ะ”
“เออเจ้านี่คิดไม่เหมือนใครจริง แล้วโรงเรียนปิดแล้วหรือ”
“เจ้าค่ะ”
“สอบได้ที่เท่าไหร่ล่ะ”
เด็กสาวยิ้มเป็นนัย ๆ อ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง
“ที่หนึ่งเจ้าค่ะ”
“เก่งขนาดนั้นเชียวหรือ”
“หนึ่งสองตัวเจ้าค่ะคุณท่าน” คนตอบทำทะเล้น บ่งบอกมิได้กลัวจนหัวหดดังคนอื่น ๆ
“ฮะฮะ” คุณพระศานต์หัวเราะชอบใจ
สร้อยสนเดินผ่านมา เธอมีท่าทีชะงักไปเล็กน้อย กระถินหันไปเห็นกิริยานั้นพอดี เด็กสาวเจ้าปัญญาอดคิดไม่ได้ว่า พี่สาวมีเรื่องปิดบัง และคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก
พุดกรองหันไปเห็นจึงพยักหน้าเรียกลูกสาวเข้ามาหา และเพิ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสรีระของคุณพระที่เปลี่ยนมากจนแทบจำไม่ได้
“คุณลุง ป่วยมากหรือเจ้าคะ ดูทรุดโทรมไปไม่ใช่น้อยเลยจ้าค่ะ”
“แล้วเรามีธุระไปไหนมากหรือ ฉันไม่ค่อยได้เห็นหน้าเลย”
พุดกรองได้แต่นึกขุ่นเคืองสร้อยสน ซึ่งนางหวังให้อีกฝ่ายได้ดูแลคุณพระ แต่จนแล้วจนรอด สร้อยสนก็ไม่ทำหน้าที่ตามที่นางสั่ง ส่วนคนที่ไม่ได้สั่งคือ กระถิน กลับทำตัวใกล้ชิด สนิทจนนางต้องเสียเวลามานั่งเฝ้าพระศานต์ แทนที่จะได้ปลีกเวลาไปเริงร่ากับชู้รักของนาง
“ตอนนี้คุณพี่คงต้องวางมือจากงานมาดูแลสุขภาพบ้างนะเจ้าคะ”
“ตอนนี้ฉันให้ทนายทดดูแล ถึงเขาทำงานดีก็จริง แต่ฉันอยากให้รามเรียนจบเร็วๆเหลือเกิน เขาจะได้เข้ามารับช่วงต่อ อ้อกระถินแกเข้าไปฝึกงานบัญชีที่ห้างเสียด้วยก็ดี เอามาทำที่บ้าน ฉันจะได้ดูแลอีกที”
“คุณพี่จะไว้ใจได้หรือเจ้าคะ เด็กนี่อายุยังน้อยนัก ให้ดิฉันทำเสียไม่ดีหรือเจ้าคะ แค่บัญชี”
“บัญชีงานห้าง ไม่เหมือนบัญชีในบ้านนะพุดกรอง แค่งานภาษีหล่อนก็ไม่รู้เรื่องแล้ว แต่เจ้าซนของฉันมันรู้ตั้งแต่อยู่ ป.7 หล่อนคงไม่รู้ล่ะสิว่ามันเรียนเก่งกว่าเด็กมหาวิทยาลัยบางคนในเรื่องการทำบัญชีเสีย
อีก ทั้งที่มันเรียนมัยมปลายยังไม่จบ”
พุดกรองพลาดข่าวไปอย่างไม่น่าเป็นไปได้ คุณพระศานต์แอบสั่งสอนกระถินตั้งแต่เมื่อไหร่ และกระถินรู้มากแค่ไหน นี่ถ้าคุณพระไม่หลุดปากออกมานางคงไม่รู้ คิดพลางนางกัดริมฝีปากอย่างห้ามใจไม่ให้หันไปเอาเรื่องกระถิน ซึ่งมองเมินไปที่ยอดไม้สูงทำไม่รู้ไม่ชี้ กับคำเยินยอ
คุณพระหอบขึ้นมาอย่างปัจจุบัน สร้อยสนเอ่ยอย่างตกใจ
“คุณลุงเป็นอะไรเจ้าคะ”
“สงสัยลมแรง แม่สร้อยช่วยกันประคองคุณลุงขึ้นตึกไปดีกว่าเร็ว”
กระถินรีบเข้ามาหามคุณพระด้วยความห่วงใย เมื่อเด็กสาวเห็นปากซีดเซียวของคุณพระกระถินตกใจมาก เพราะว่าอาการท่านดูเหมือนแย่กว่าตอนลงมาเดินเล่นในทีแรก
“คุณลุงเจ้าขา ไปโรงพยาบาลนะเจ้าคะ”
“ไม่เอา ฉันไม่ไป”
“ต้องไปแล้วเจ้าค่ะ”
“เอ๊ะเจ้าคนนี้ ฉันไม่ใช่นังละมุดนะ เจ้าจะได้มาสั่งให้ทำโน่นทำนี่”
กระถินหันมาทางพุดกรอง ซึ่งในสายตาคมกริบของผู้เป็นมารดามองกระถิน เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ทุกประกายเปล่งแสงวาววับบ่งบอกถึงความเกลียดชังไม่เปลี่ยนแปลง กระถินกลั้นใจเอ่ยออกไปว่า
“คุณผู้หญิงดูห่วงคุณลุงมากนะคะ คนรักย่อมเป็นห่วงกันนะเจ้าคะคุณผู้หญิงคงเห็นด้วยที่จะส่งคุณลุงไปโรงพยาบาลเจ้าค่ะ”
อีลูกโจร แกมันเลือดไอ้กาจโดยแท้ แกเกิดมาเพื่อทำลายชีวิตฉัน!!พุดกรองคิดอย่างเคียดแค้นที่โดนสั่งทางอ้อม
“แล้วแกดีแต่พูดเอาหน้าหรือไรนังกระถิน แกถึงไม่ไปเรียกนายดำให้ออกรถเสียที”
กระถินรีบรับคำทันที เธอวิ่งไปตามนายดำให้มาขับรถส่งคุณพระไปโรงพยาบาล โดยที่หญิงทั้งสามตามไปส่ง
คุณพระเอนกายพิงกับเบาะ หายใจหอบ กระถินนั่งเบาะขนาบข้างไปกับพุดกรอง เธอทำเมินไม่มองสายตาเกลียดชังของคนเป็นแม่ แต่มองที่คุณพระ ซึ่งพุดกรองบีบนวดเนื้อตัวให้กับคุณพระ กระถินเอ่ยว่า
“คุณลุงขา เข้มแข็งอีกนิดนะเจ้าคะ ไปถึงโรงพยาบาลเขาคงมีวิธีที่รักษาได้ดีเจ้าค่ะ”
“นี่แกคิดว่าฉันเอายาอื่นมาให้คุณพระหรือไงนังกระถิน แกคิดจะพูดอะไร คิดจะใส่ร้ายฉันหรือไร ยาที่ฉันนำมาให้คุณพี่รับประทานเป็นยาของหลวงแพทย์ทั้งนั้น”
“หยุดที พอที”คุณพระครางออกมา
“ยังไงก็ให้เจ้าซนมันดูแลเรื่องยาของฉันนับแต่นี้ไปก็แล้วกัน”
กระถินเบือนหน้าไปทางอื่น สร้อยสน เหลือบสายตาเห็นน้องสาวมีรอยยิ้มบางๆซ่อนไม่ให้พุดกรองได้เห็น
หลวงแพทย์มารับตัวคนไข้ เข้าไปด้วยตัวเอง ท่านเห็นอาการเบื้องต้นแล้วอดเป็นห่วงเสียไม่ได้
“อะไรกันนี่ คุณพระไม่ได้กินยาตามที่กระผมสั่งไปเลยหรือไร”
“กินสิ ไม่ขาดสักมื้อ”
“ทำไมจึง...”หลวงแพทย์ทำน้านิ่วอย่างไม่เข้าใจในการรักษา และการร่วมมือของคนไข้ ซึ่งยืนยันว่าดูแลกันเต็มที่
วันนั้นหลวงแพทย์สั่งให้คุณพระนอนพักรักษาตัว พุดกรองอาสาดูแลใกล้ชิด พระศานต์พยักหน้าแต่สั่งเพิ่ม
“เจ้าซน แกเป็นคนจัดยาตามสั่งของหมอนะ”
“เจ้าค่ะคุณลุง”กระถินรับคำหนักแน่น พุดกรองไม่พอใจเป็นอันมากจึงแง่งอนเข้าใส่สามี ซึ่งนอนซมอยู่บนเตียง โดยมีน้ำเกลือเจาะใส่เส้นเลือดดำ
“คุณพี่ทำไมจึงทำอย่างนี้เจ้าคะ คุณพี่ไม่ไว้ใจแม่คนนี้หรือเจ้าคะ มีอะไรก็ส่งให้นังกระถินมันได้รับเสียหมด คุณพี่ไม่รักดิฉันไม่รักลูกสร้อยของดิฉันสักนิด”
สร้อยสนรีบทักท้วงมารดาทันทีด้วยความเป็นห่วงอาการของพระศานต์ เลิศพานิช
“คุณแม่อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปสิคะ คุณลุงกำลังไม่สบายนะคะ”
“จะไม่ให้ฉันน้อยใจได้อย่างไร คุณพี่ทำอย่างนี้เท่ากับไม่ไว้ใจดิฉัน หรือว่าคุณพี่โดนใครเป่าหูเรื่องอะไรใส่ดิฉันเจ้าคะ อีกระถินใช่มั้ยเจ้าคะ มันเอาหน้ามากใช่มั้ยเจ้าคะ”
“เปล่าน่า พุดกรอง ฉันแค่เห็นว่ากระถินมันทำอะไรรอบคอบ ฉันอยากให้มันดูแลเพราะเธอเองก็มีธุระมากไม่ใช่หรือ”
“ดิฉันจะเห็นธุระอื่นสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณพี่ได้อย่างไรเจ้าคะ ทำอย่างนี้ดิฉันคงถูกประณามจากคนในบ้าน จากสังคมว่ายามคุณพระเจ็บไข้ ยังไม่ดูแลรักษา ปล่อยให้คนใช้ทำหน้าที่แทน ดิฉันจะเอาหน้าเอาหัวใจที่รักคุณพระไปไว้ที่ไหนเจ้าคะ”
“เอาล่ะ เอาล่ะ เจ้ากระถินกลับไปดูแลบ้านแทนพุดกรองเสีย ก็ได้ ให้พุดกรองอยู่ปรนนิบัติฉันทีนี่เพื่อแสดงความจงลักษณ์ภักดีตามใจแม่ของแกก็ได้เจ้าซน แล้วแม่สร้อยเอาข้าวขอมาส่งคุณแม่ของแม่สร้อยด้วยก็แล้วกัน เขาจะอยู่กับฉันที่โรงพยาบาล”
“เจ้าค่ะคุณลุง”สองพี่น้องต่างบิดารับคำ
คำตัดสินออกมาอย่างนี้พุดกรองยังไม่พอใจอยู่ดี เพราะคุณพระยังทิ้งท้ายไปให้กระถินดูแลบ้านแทนหล่อน หมายความว่าตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล พุดกรองจะไปไหนไม่ได้
เวลาต่อมาทนายทดมาเยี่ยมคุณพระ พุดกรองจึงได้แลลอดสบตาอย่างนัดหมายกันระหว่างที่คุณพระหลับทั้งสองออกมาสนทนากันตามลำพังโดยไม่มีใครได้รู้เห็น
พุดกรองเอ่ยอย่างเจ็บใจไม่น้อยว่า
“เห็นทีจะทำงานกันยากขึ้นแล้วล่ะทด นางกระถินมันสาระแนทำท่าเหมือนจะรู้ทันเสียแล้ว”
“เรื่องยาหรือครับคุณพุดกรอง”
“ฉันเกือบแน่ใจเลยทีเดียว นี่ฉันไม่รู้นะว่ามันรู้เรื่องของเราหรือเปล่า”
“เอ่อไม่น่าจะ...รู้”
“นังเด็กคนนี้มันเลือดโจรจริงๆมันปากแข็งใจแข็ง ไม่เปิดปากบอกอะไรเลย ฉันกลัวแต่ว่ามันจะบอกคุรพระเรื่องยา”
“คงไม่ดอกครับ เพราะหากบอกเรื่องยา คุณพระคงรู้ตัวแล้ว แต่เอ่อถ้าเรื่องของเราผมไม่แน่ใจว่าคุณกระถินจะรู้หรือเปล่า เขามองผมแปลกๆอยู่เหมือนกันครับ”
“ถ้ามันรู้เรื่องนี้ มันอาจจะ”
“คุณกระถินคงไม่กล้าพูดให้คุณพระรู้เพราะว่าคุณพุดกรองเป็นแม่”
ทนายทดสันนิษฐานได้อย่างไม่ผิดสักนิดเดียว
ความซุกซนของกระถินทำให้รู้เห็นในสิ่งที่ไม่ควรรู้ และได้เห็นพุดกรองกับทนายทดเป็นชู้กันในวันที่ฝนตก ที่บ้านของทนายทดเอง…



Create Date : 24 มิถุนายน 2554
Last Update : 24 มิถุนายน 2554 10:57:02 น. 0 comments
Counter : 1427 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.