นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
เลือดรักทระนง 11 พิมม์กับ อักษรศาสตร์

ละมุดได้รับคำสั่งจากพุดกรองให้มาตามแม่นิ่มไปพบ คำสั่งนั้นช่างยิ่งใหญ่มากสำหรับความรู้สึกของละมุด นางจึงเดินเชิดหน้าไปที่เรือนแม่นิ่ม เธอเผชิญหน้ากับจันทร์เป็นด่านแรก ในมือของจันทร์ถือชามแป้งมาจากในครัว ทั้งสองไม่เคยกินเส้นกันมานาน เมื่อเจอหน้ากันในแต่ละทีจึงไม่มีคำว่าเลี่ยงหลบ ต่างถือตนเองว่ามีนายดีทั้งคู่
“แม่นิ่มอยู่ที่ไหนอีจันทร์”
“อยู่บนหัวมึงไงอีมุด”
“เอ๊ะอีนี่ กูถามดีๆ ทำไมมึงต้องหาเรื่องกูด้วย”
“กูไม่ได้หาเรื่อง แต่คุณนมเป็นนายคนหนึ่งของบ้าน มึงจะถามหาท่าน ควรจะใช้คำถามที่สุภาพกว่านี้”
“เหอะ” ละมุดเชิดใส่ ก่อนว่า “กูจะไปเรียนคุณพุดกรองว่ามึงขวางไม่ให้กูตามแม่นิ่ม”
จันทร์ไม่พอใจแต่ต่อความอะไรไม่ได้ พอดีกับแม่นิ่มลงจากเรือน เพื่อถามหากระถิน แต่ได้พบสองคู่ปรับ ท่านจึงรู้ว่าหาเรื่องกันอีกแล้ว ท่านส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะถามละมุดว่า
“มีอะไรละมุด”
“คุณผู้หญิงเรียกคุณนมไปพบที่ห้องหนังสือ ท่านว่า ให้รีบด้วย”
“แหมอีนี่ มึงจะไม่พูดห้วนกับคุณนมไปหน่อยหรืออีกิ้งก่าได้ทอง”
แม่นิ่มหันไปเอ่ยกับจันทร์ว่า
“เอาเถอะจันทร์ ไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล”
จันทร์ยิ้มเย้ยใส่ละมุดที่โดนด่าทางอ้อม แต่ไม่ดีเลยที่ละมุดกลับคิดว่าแม่นิ่มด่าจันทร์ จึงได้เย้ยกลับมาได้
แม่นิ่มไม่อยู่รอ เสือกับสิงห์สองตัวกัดกัน ท่านจึงไปพบกับ ‘คุณผู้หญิง’ ซึ่งท่านไม่ทราบว่าจะหาเรื่องอะไรมาให้ร้อนใจอีก

พุดกรองนั่งรอแม่นิ่ม จนกระทั่งอีกฝ่ายมาถึง พุดกรองสั่ง
“นั่งตรงนั้นแม่นิ่ม”
แม่นิ่มนั่งตามนิ้วซึ่งสวมแหวนเพชรของแม่ราม ได้ชี้ให้นั่ง พุดกรองกล่าวอย่างเค้นเสียงวางอำนาจ
“ฉันเห็นจะมีเรื่องกับแม่นิ่มเสียทีแล้วคราวนี้”
“อะไรนะคะคุณพุดกรอง ทำไมจู่ๆ จึงพูดอย่างนี้ล่ะคะ”
“จะให้ฉันนิ่งอยู่ได้หรือ ในเมื่อฉันได้เห็นธาตุแท้เสียแล้วว่าแม่นิ่มเลี้ยงนังลูกโจรนั้นเพื่ออะไร”
ละมุดแอบมาฟังอยู่ภายนอก เมื่อได้ยินไม่ถนัด เธอจึงแนบหูกับผนังมากขึ้น เวลานั้นกระถิน ซึ่งมีเรื่องเจ็บใจหลายอย่าง ทั้งเรื่องมารดาและพี่สาว ความอัดอั้นตันใจมีมาก จนกระถินยังไม่อยากกลับไปเรือนริมน้ำ กระถินจึงคิดแอบมาเพื่อใช้ห้องสมุดเป็นข้ออ้างในการทำใจให้สงบ
แต่หยุดชะงักกับท่าทีของสาวใช้ กระถินกำลังมีเรื่องหงุดหงิดใจ เมื่อมาเจอละมุดมีท่าทีสอดแนม เธอจึงเดินไปยืนค้ำหัวอีกฝ่าย ละมุดเงยขึ้นมองทำท่าจะต่อปาก แต่เมื่อเห็นว่าเป็นกระถิน เธอรีบคลานหนีจากไปทันที
กระถินมองตามอีกฝ่ายซึ่งไปหยุดอีกที่ห่างตัว แต่เมื่อหันมาเห็นกระถินส่งแววตาดุดันเข้าใส่ ละมุดรีบออกไปไกลสายตาทันที
เสียงคุยกันดังมาให้กระถินได้ยิน
“แม่นิ่มเสี้ยมสอนอีลูกโจรให้คิดมานั่งแท่นแทนที่ฉันใช่มั้ยแม่นิ่ม”
“คุณพุดกรองพูดเรื่องอะไร ดิฉันยังไม่ทราบเลยนะคะ”
“เชอะ” พุดกรองทำเสียงสูง ผุดลุกอย่างก้นร้อน เดินรอบแม่นิ่ม มองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูแคลนนักหนา
“แกพลาดความรักจากคุณพี่ จึงได้เสี้ยมสอนให้นังกระถินให้ขึ้นมาเป็นน้อยคุณพี่ใช่มั้ย”
“คุณพุดกรอง” แม่นิ่มกล่าวเสียงโหย
กระถินกุมอกตัวเอง หัวใจเต้นรัวแรง เธอพยายามแล้วที่จะซ่อนความรู้สึกที่มีต่อชายสูงวัย เหนือยิ่งกว่าความซื่อสัตย์และภักดี...นั่นคือรักท่าน รักมานานจนตัวเองไม่รู้ว่าเป็นรักที่เรียกว่ารักได้อย่างไร?
แต่เธอถูกพุดกรองจับได้ และกำลังพาลใส่แม่นิ่ม แม่ที่เธอไม่มีสายเลือดของท่าน แต่เธอรักและบูชาแม่นิ่ม ไม่น้อยไปกว่า...แม่ที่ไม่รักเธอเลย!
“แกนี่นะยัยนิ่ม แกมันเป็นนางแก่สารพัดพิษอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ”
“ไม่จริง ไม่จริงนะคะ ดิฉันไม่เคยคิดร้าย ไม่เคยสอนให้คุณกระถินคิดสิ่งใด แต่ถ้าคุณกระถินจะรักคุณท่าน ดิฉันไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก เพราะคุณท่านเป็นสุภาพบุรุษน้ำใจงาม”
“นังนิ่ม” พุดกรองตวาดเรียกอีกฝ่าย พลางกระชากมวยผมแม่นิ่มอย่างแรงจนท่านตกจากเก้าอี้นั่ง ร่างอวบหล่นลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
“ว้าย”
“แกอย่ามาทำปากกล้ากับคนอย่างฉันนะอีแก่ และแกจำใส่กะลาหัวของแกไว้ด้วยว่า ไม่มีใครจะมาขึ้นแทนที่ของฉันได้” พุดกรองเงื้อมือจะตบแม่นิ่ม
กระถินถลันเข้าไปส่งเสียงห้ามทันที
“หยุดนะคุณผู้หญิง หยุดทำร้ายแม่ของกระถินเดี๋ยวนี้นะ”
“ทำไม แกจะทำไมฉันอีกระถิน”
“กระถินไม่มีปัญญาทำอะไรคุณพุดกรองหรอกค่ะ แต่คุณพุดกรองคงลืมว่ากระถินเป็นลูกโจร เพราะอย่างนั้นนิสัยโจรมันจะชอบหักหลังใช่มั้ยคะ”
“แก...”
กระถินเข้าไปประคองร่างแม่นิ่มเข้ามากอดไว้ ออกปากปกป้องอีกฝ่าย พร้อมประจันหน้ากับผู้ให้กำเนิด แม้เคยเกรงในบาปบุญ หากวันนี้ความรักของกระถินทำให้กระถินต้องเลือกฝ่าย อย่างที่เธอไม่อยากเลือกใคร อยากรัก แม้แต่คนที่ไม่เคยรักเธอ
“ถ้าคุณผู้หญิงรังแกแม่ของกระถินอีก กระถินจะพูดเรื่องในคืนฝนตกที่หลังสวน”
“อีกระถิน มึง มึงกล้า กล้าหรือ” พุดกรองแค้นแน่นอกจนรู้สึกเจ็บจุก คืนวันฝนตก คืนที่นางระเริงชู้อยู่กับทนายทด และไม่รู้เลยว่ากระถินจะไปพบเห็น จนคิดนำมาหักหลังเอาได้
ในที่สุดพุดกรองได้รู้ว่ากระถินกุมความลับที่ทำให้นางกระเด็นออกจากบ้านได้ทุกนาที ยิ่งกระถินเป็นคนโปรดของคุณพระ มีหรือที่กระถินพูดออกไปแล้วคุณพระจะไม่รับฟัง
กระถินขู่ซ้ำเมื่อพุดกรองนิ่งงันไปอย่างถนัดใจ
“ถ้าคุณผู้หญิงไม่เชื่อว่ากระถินจะทำ คุณผู้หญิงลองเรียกแม่นิ่มของกระถินว่าอี หรือทำร้ายแม่นิ่มของกระถินอีกเพียงครั้งเดียว แล้วคุณผู้หญิงจะรู้ว่าเลือดโจรในตัวของกระถินจะสำแดงความร้ายออกมามากแค่ไหน”
“พอแล้ว พอแล้วคุณของนม พอแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เอา”
แม่นิ่มรีบเป็นฝ่ายห้ามกระถิน พลางกอดอีกฝ่ายกึ่งลากออกมาจากห้องโดยเร็วเท่าที่จะทำได้
“อีลูกโจร อีลูกโจร” พุดกรองพล่ามด่ากายสั่นเทาด้วยความคลั่งแค้น
แม่นิ่มกลับเป็นฝ่ายจูงกระถินออกจากตึก กลับไปที่เรือนริมน้ำโดยเร็ว
พุดกรองตวาดเสียงแหลมดังตามหลังกระถินก่อนจะลับกายไปว่า
“คุณพระเรียกหาแก รีบไปออเซาะเสียให้พอใจ นังคนเนรคุณ”
กระถินชะงักเท้า แม่นิ่มรีบกุมมืออีกฝ่ายไว้แน่น เป็นการปรามทุกอย่างที่นางกลัวใจว่ากระถินจะเผลอตัวตอบโต้มารดา ซึ่งไม่ว่าคนเป็นแม่จะร้ายเพียงใด ในความคิดของแม่นิ่ม ที่อบรมสั่งสอนกระถินมา คือให้ละอายต่อบาป ไม่ให้กระถินสร้างบาปกรรมกับผู้ให้กำเนิดของตนเอง ท่านรู้ถึงเวรกรรมได้ดีว่า จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามที การทำร้ายบุพการีล้วนมีโทษทัณฑ์ตามมาทั้งนั้น
“คุณกระถิน นมขอร้องนะคะ อย่าทำอะไรคุณแม่”
“กระถินจะทำอะไรเขาได้คะแม่นม” กระถินก้มตอบร่างที่สูงน้อยกว่า น้ำตารื้นขึ้นมาเต็มขอบก่อนที่จะกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว
แม่นิ่มรู้ซึ้งถึงความใจแข็งของกระถินได้ดีแล้วในเวลานี้ นอกจากดื้ออย่างร้ายกาจ น่ารักอย่างที่ต้องหลง กระถินยังใจเด็ดอย่างที่คนใกล้ชิดกลัวใจ
แม้แต่พุดกรองที่ร้ายเงียบ ยังต้องเงียบยิ่งกว่าเมื่อเผชิญกับกระถิน
“นมขอร้องนะคะคุณกระถิน อย่าได้คิดร้าย ด่าทอแม่ของตนเอง”
“แต่เขาไม่มีสิทธิ์ทำร้ายแม่นมนะคะ กระถินต้องเรียนให้คุณลุงทราบเรื่องเขาลงมือกับแม่นม”
“ไม่เอา ไม่เอา นมไม่เป็นไรค่ะ คุณพุดกรองแค่เข้าใจผิดเท่านั้นเอง เธอหึงหวง เธอจึงระงับอารมณ์ไม่ได้ อย่าไปว่าเธอนะคะ อย่าฟ้องคุณท่าน”
กระถินเม้มริมฝีปากอย่างขัดใจ เพราะแม่นิ่มห้ามเธอเสียทุกอย่าง ไม่ให้เธอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ ทำไมหนอ ทำไม กระถินไม่เกิดเป็นลูกของแม่นมกับคุณพระ ทำไมกระถินไม่เป็นลูกสาวของคุณพระที่กระถินรักท่านอย่างเหลือเกิน

เด็กสาวเดินกลับไปหาคุณพระ เธอต้องผ่านพุดกรองขึ้นไป อีกฝ่ายรีบเดินแซงไปนำหน้า เค้นเสียงลอดริมฝีปากพอได้ยินตามลำพังว่า
“ถ้าแกปากสว่างอย่างที่แกขู่ฉัน แกอย่าคิดนะว่าฉันจะยอมหยุดไม่เอาเรื่องแก นังกระถิน”
“กระถินรู้ว่าคุณผู้หญิงชนะมาตลอด ชนะตั้งแต่ฆ่าพ่อของกระถินแล้ว” เธอโต้ออกมาจนพุดกรองสะอึก นิ่งงันไปอย่างถนัด
ทั้งสองไม่มีการพูดคุยหรือกระทบกระแทกใดๆ ออกมาอีก
ห้องคุณพระเป็นห้องใหญ่ อยู่ติดกับห้องของราม สามารถเปิดประตูเข้าหากันได้ แต่ว่าประตูนั้นปิดตาย นับแต่คุณพระแต่งงานกับพุดกรอง
กระถินทอดสายตามองร่างชายสูงวัย นั่งกึ่งนอนบนเตียง ท่าทีมีความรำคาญใจไม่น้อย ดังนั้นเมื่อท่านเหลือบสายตามาเห็นพุดกรองและกระถิน ท่านจึงรู้สึกดีใจ
“ดิฉันเอาตัวคนสำคัญมาส่งให้คุณพี่แล้วเจ้าค่ะ”
กระถินทรุดกาย เดินเข่าไปจนถึงริมเตียง คุณพระเรียกเข้าไปหาจนใกล้ ท่านลูบศีรษะอีกฝ่าย กระถินกลืนก้อนสะอื้นลงไปเก็บไว้ในอกจนสิ้น
ความอ่อนโยนและมีเมตตาที่คุณพระมีให้กับเธอมากล้น เสียจนกระถินอยากเจ็บ อยากทุกข์ทรมานแทนท่านทุกอย่าง
“งานมากหรือเจ้าซน ถึงไม่ไปเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาล”
กระถินอยากไปเจ้าค่ะ แต่กระถินไม่อยากให้คุณแม่กล่าววาจากระทบใจของคุณท่าน...กระถินคิดถึงคุณลุงเหลือเกินเจ้าค่ะ!
“ฉันถาม ทำไมไม่ตอบล่ะ”
“กระถินถูกใช้งานมากนี่เจ้าคะ ช่วงนี้สอบหนัก ยังต้องไปทำบัญชีอีก เงินเดือนเบี้ยเลี้ยงก็ไม่ขึ้นเสียที นี่กระถินว่าจะใช้เวลากลางคืนไปขายขนมไข่หวานแล้วนะเจ้าคะคุณลุง”
“อุแหม่ ช่างงกเหลือใจ” ท่านแสร้งว่า สีหน้าสดใสขึ้นมาทันตา ก่อนสั่ง “ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วคืนนี้มาอ่านหนังสือให้ฉันฟังหน่อย ฉันลองอ่านเมื่อครู่แล้ว ตาลายเต็มที”
“เจ้าค่ะคุณลุง แต่ว่าเรื่องไชยเชษฐ์ ไม่อ่านแล้วนะเจ้าคะ”
“ทำไมเล่า”
“เดี๋ยวจะตรงสุภาษิตว่า จืดเหมือนไชยเชษฐ์ เจ้าค่ะ”
“แกนี้มันสำคัญจริง มาหลอกต่อว่าฉัน ฟังเรื่องอื่นไม่เป็นล่ะสิ”
กระถินยิ้มรับอ่อนหวาน ก่อนเดินเข่าออกมา พุดกรองยืนค้ำหัวอีกฝ่าย กระถินไม่ทำตัวตีเสมอ ด้วยนึกถึงคำสั่งสอนของแม่นิ่ม...อย่างไรอีกฝ่ายก็คือแม่บังเกิดเกล้าอย่างไม่อาจปฏิเสธความจริง เหมือนเช่นที่พุดกรองบอกตัวเองว่ากระถินไม่ใช่เลือดในอกเธอ แต่ความจริง ย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ

เมื่อกระถินไปแล้ว พุดกรองจึงขอตัวจากคุณพระบอกว่าจะไปดูความเรียบร้อยของบ้าน คุณพระเพียงพยักหน้ารับ
พุดกรองออกจากห้องคุณพระมาแล้ว นางหยุดคิดเล็กน้อยก่อนหมุนกายเดินไปอีกทาง ซึ่งเป็นห้องพักของสร้อยสน นางเปิดประตูห้องลูกสาวคนโตอย่างถือวิสาสะ

จันทร์นั่งเตรียมเครื่องขนมจนเรียบร้อยทุกอย่าง จากนั้นสาวใช้คนดีมารอแม่นิ่ม ซึ่งถูกเรียกหายไปนานแล้ว แม่นิ่มเดินกลับมาในสภาพที่จันทร์นึกไม่ถึง หลังจากกระถินแยกไปแล้วท่านดูอ่อนล้า ตาแดงก่ำเพราะผ่านการร้องไห้ด้วยความเสียใจ
“คุณนม ทำไมผมเป็นกระเซิงอย่างนั้นคะ”
“ช่างเถอะ ทำของเตรียมไว้แล้วหรือจันทร์”
“เอ่อค่ะ คุณนมเป็นอะไรคะ หรือว่าคุณผู้หญิงรังแก” จันทร์ยังไม่คลายสงสัย
“ปั้นแป้งไว้แล้วหรือ จัดเตรียมอาหารให้คุณกระถินหรือยัง เดี๋ยวลงมาจะได้ทานข้าวให้เรียบร้อย”
“คุณกระถิน กลับจากโรงเรียนแล้วหรือคะ”
“เดี๋ยวคงลงมา” แม่นิ่มเอ่ยอย่างรู้สถานการณ์ว่าจะต้องออกมาในรูปแบบใด
กระถินเป็นคนที่มีความคิด แม้เจ้าคิดเจ้าแค้น แต่เธอเคารพแม่นมคนนี้มาก ดังนั้นแม่นิ่มเชื่อใจว่ากระถินคงได้แต่กระทบกระแทกตอบกลับพุดกรองไปบ้าง แต่ถึงขั้นให้เนรคุณอย่างที่พุดกรองด่าอีกฝ่ายนั้น แม่นิ่มเชื่อว่ากระถินไม่มีทางทำได้
คนเป็นแม่อย่างพุดกรอง มองกระถินแค่นี้ยังมองไม่ออก ตัณหาหน้ามืดพานให้คิดเลื่อนเปื้อนไปได้ว่ากระถินจะมีใจไปแย่งชิงคุณพระมาไว้ในฐานคนรัก เหตุใดจึงไม่คิดว่า กระถินไม่มีพ่อ และคุณพระคือแบบอย่างของสุภาพบุรุษที่รักและเมตตาต่อกระถินมาตลอด
กระถินจึงมีรักที่เหนือกว่ารัก เฉกเดียวกับแม่นิ่ม ที่รักคุณพระอย่างที่ทุกคนมองว่ารักข้างเดียว แต่แม่นิ่มรู้ดีว่า ความรักของตัวเองเป็นความรักที่มีแต่ให้ เป็นความรักอย่างภักดี จึงไม่ใช่รักเฉกเช่นชู้สาวที่ต้องการความรักตอบแทน
แม่นิ่มรู้เสียยิ่งกว่ารู้ว่ากระถินรักคุณพระ แต่แม่นิ่มไม่คิดในทางอื่นไปได้ นอกจากกระถินขาดพ่อจึงเทิดทูนบูชาอีกฝ่าย อย่างที่ควรเรียกว่า กระถินมีความรู้สึกต่อคุณพระ เหนือกว่าคำว่ารัก
แม่นิ่มรู้จักกระถินอย่างมากพอจะเข้าใจอีกฝ่ายได้ดี รักที่ลูกสาวมีให้พ่ออย่างเหลือเกิน
แม่นิ่มอาบน้ำแต่งกายใหม่ แล้วจึงมานั่งทำขนมที่ครัวเล็กๆ ของตน เพื่อส่งให้เป็นของว่างมื้อดึกสำหรับคุณของบ้าน
“แม่” กระถินเรียกหา แม่นิ่มเหลียวไปมองอีกฝ่าย
กระถินเข้าไปสวมกอดอีกฝ่ายแล้วจึงร้องไห้ออกมาเบาๆ
“กระถินไม่ได้เป็นอย่างที่คุณผู้หญิงต่อว่าแม่นะคะ ไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย”
“แม่รู้ค่ะ แม่รู้” แม่นิ่มกอดอีกฝ่ายแนบอก
“ความรักที่มีต่อพ่อ มีต่อพี่ ไม่ใช่เรื่องผิดบาปนะคะคุณกระถิน”
“แม่จ๋า” กระถินร้องไห้กับบ่าของแม่นิ่มออกมาอย่างเงียบงัน เด็กสาวซาบซึ้งต่อความเข้าใจของผู้ที่เลี้ยงดูตนเองมาด้วยความรัก และคุณพระมีเมตตามาให้ เธอไม่อยากโดนแยกจากคนทั้งสองนี้ไป ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม
“คุณลุงล้อเล่นที่โรงพยาบาล จะให้กระถินแต่งงานกับพี่ราม กระถินไม่อยากให้ท่านพูดอย่างนั้นเลย กระถินไม่อยากทะเลาะกับคุณผู้หญิง ไม่อยากสักนิดเดียว”
“ถอยห่างออกมาจากพวกเขาสักก้าวนะคะคุณกระถิน อย่ายุ่งกับเรื่องของเขา คุณของนมจะได้ไม่เจ็บอย่างนี้”
“โอ้แม่ขา....” กระถินยิ่งกอดรัดท่านแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม
จันทร์ป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนเบะหน้าร้องไห้ไปด้วยความสะเทือนใจอีกคน!

สร้อยสนกลับมาจากการพบนิธิ ด้วยใจไม่สู้ดีนัก เพราะความลับของเธอถูกน้องสาวพบเสียแล้ว เธอเกรงว่าพุดกรองจะทราบ ดังนั้นสร้อยสนจึงไม่เดินขึ้นตึก แต่เลยไปที่เรือนริมน้ำเพื่อเอ่ยปากพูดคุยกับน้องสาว
เวลานั้นกระถินเพิ่งเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ สร้อยสนจึงได้แต่ถามหาอีกฝ่ายจากแม่นิ่ม ท่าทางเศร้าของแม่นิ่มทำให้สร้อยสนเอะใจ หวาดระแวงไปว่ากระถินนำเรื่องของตนมาบอก จนทำให้แม่นิ่มสะเทือนใจ ความขี้ขลาดทำให้สร้อยสนไม่รอคำตอบว่ากระถินอยู่ไหน เธอหมุนกายกลับขึ้นตึกไปก่อน
หญิงสาวผู้หวาดกลัวความลับเปิดเผยต่อมารดา รีบสาวเท้าโดยเร็วเพื่อไปให้ถึงห้องรโหฐาน
สร้อยสนเปิดประตูเพื่อเข้าไป เธอเห็นมารดายืนกายสั่นเทา ในมือถือปึกกระดาษหลายแผ่น สร้อยสนหน้าถอดสี ใจหวิวราวกับจะเป็นลม เอ่ยปากเรียกมารดาเสียงสั่นพลิ้ว
“คุณแม่”
พุดกรองสืบเท้าเข้ามาหาสร้อยสนทีละก้าว สร้อยสนเบือนหน้าหนีสายตาคมกริบของมารดา
ฉาด
เสียงฝ่ามือของพุดกรองกระทบแก้มข้างขวาของสร้อยสนดังถนัด
ฉาด
แก้มข้างซ้ายของสร้อยสนโดนตบอีกข้าง สร้อยสนทรุดกายลงกับพื้นร้องไห้โฮ พุดกรองทรุดกายลงจิกผมลูกสาวขึ้นมาพลางด่าทอด้วยความโกรธจัด
“นังลูกสารเลว นังคนใฝ่ต่ำ แกคบกับเจ้านิธิมานานหลายปีแล้ว ทำไมแกทำอย่างนี้สร้อยสน”
“คุณแม่ขา สร้อยกลัวแล้ว ปล่อยสร้อยเถอะค่ะคุณแม่”
พุดกรองทึ้งผมสร้อยสนอีกครั้ง ก่อนจับอีกฝ่ายโขกพื้นปูพรม เสียงดังปึ้ก สร้อยสนหวีดร้อง แต่พุดกรองปิดปากอีกฝ่ายก่อนสำทับอย่างดุร้าย
“ถ้าแกไม่เลิกกับเจ้านิธิ แล้วทำตัวให้ดี แม่จะฆ่าเจ้านิธิเสีย”
“คุณแม่ขา นิธิเป็นคนดีนะคะ อย่าทำร้ายเขา”
“ไม่อยากให้ทำร้ายมัน ทั้งที่มันมาทำร้ายแม่หรือสร้อยสน”
สร้อยสนร้องไห้โฮ พุดกรองเงื้อมือทำท่าจะลงโทษ สร้อยสนจึงยกมือปิดปาก สะอื้นไห้จนตัวโยน พุดกรองหอบหายใจแรง ทั้งรักและแค้นแน่นอกต่อการกระทำของลูกที่นางบอกตัวเองว่ารัก...รักอย่างที่นางต้องการให้เป็นไปตามความประสงค์ของตนเอง
“ฉันหวังมาตลอดว่าจะให้แกแต่งงานกับนายราม หวังให้แกสบาย แต่แกไปเกลือกกลั้วกับขี้ข้าอย่างไอ้นิธินั่นได้ลงคอ แกทำอย่างนี้ได้ยังไงสร้อย ทำไมแกทำร้ายแม่ขนาดนี้”
“สร้อย...สร้อยขอโทษค่ะคุณแม่”
“ฉันรักได้ ฉันก็เกลียดได้มากกว่ารักเป็นสิบเท่า แกจะเอายังไงสร้อย จะทำตัวเสียใหม่ หรืออยากเห็นศพไอ้นิธิ”
สร้อยสนร้องไห้โฮ แต่พุดกรองถลึงตาใส่อย่างดุดัน สร้อยสนจึงได้แต่ร้องไห้จนตัวโยน ปิดปากแน่นโดยไม่ยอมให้มีเสียงใดๆ ลอดออกมาให้ได้ยินอีก!
พุดกรองขยับตัวออกจากห้อง สร้อยสนโผกอดเท้ามารดาวิงวอนเสียงสั่น
“อย่าทำร้ายนิธินะคะคุณแม่ ให้เขาอยู่ที่นี่นะคะ สร้อยสัญญาว่า สร้อยสัญญาจะไม่ไปพบเขาอีกเลย”
“แม่ให้มันอยู่ที่นี่ไม่ได้”
“คุณแม่ขา นิธิยังเรียนไม่จบนะคะ ถ้าคุณแม่ไม่ให้เขาอยู่กับอาของเขาแล้ว เขาจะทำยังไง”
พุดกรองยิ้มอย่างเย็นชา ไม่ตอบว่าอะไร ก่อนเดินออกจากห้อง สร้อยสนตะโกนตามหลังมารดาอย่างต่อรอง
“ถ้าคุณแม่ไล่นิธิ สร้อยจะฆ่าตัวตาย สร้อยจะฆ่าตัวตายจริงๆ นะคะคุณแม่”
“ก็เอาสิ นังสร้อย” พุดกรองทำท่าเย็นชา เชิดหน้า ตอกกลับอย่างเรียบเย็น “ถ้าแกคิดว่าแกจะขู่เรื่องเป็นตายนี้กับฉันได้ ฉันไม่มีทางเสียใจ และแกอย่าคิดว่าฉันจะมีน้ำตามารดศพเน่าๆ ของแก จำไว้”
สร้อยสนปิดหน้าร้องไห้อีกครั้งที่ไม่อาจโน้มน้าวคนใจแข็งอย่างมารดาได้ หากเธอคิดตายจริง เธอเชื่อว่า มารดาผู้ให้กำเนิดสามารถมองเธอตายได้อย่างเต็มตา
“แม่ละเกลียดนัก พวกลูกขู่พ่อแม่เรื่องตาย เรื่องไม่ได้อย่างใจก็จะตาย แกมีปัญญามาต่อรองเรื่องเป็นตาย แต่แกกลับไม่มีปัญญาคิดถึงบุญคุณของแม่ที่เลี้ยงแกมา ต้องพาแกหนีจากไอ้เสือกาจ ไอ้คนวิปริตที่มันย่ำยีฉันเหมือนสัตว์ป่าตัวนั้น แกคิดถึงความลำบากของแม่ที่หวังให้แกได้ดี จะเข้าท่ากว่ามั้งสร้อยสน”
“คุณแม่เห็นแก่ตัว”
“ใช่ แม่เห็นแก่ตัว และเห็นแก่แก อยากให้แกมีชีวิตที่สุขสบาย ได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้ ไม่ใช่นังลูกโจรคนนั้น” กล่าวเพียงแค่นั้นแล้วพุดกรองปิดประตูปังใหญ่ สร้อยสนนั่งพิงฝาผนัง ร้องไห้แทบขาดใจ
ส่วนพุดกรองตามทนายทดมาเอ่ยปากบอกเรื่องนิธิ และให้เขางดการเลี้ยงดูนิธิ หาไม่เธอจะจัดการกับเขา ทนายทดต้องเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้ตัวเองอยู่แล้ว

ในเวลาที่นิธิถูกผู้เป็นอาจะเฉดหัวออกจากบ้านไป ทั้งที่กำลังเรียนแพทย์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ นิธิพยายามพบกับสร้อยสน หากว่าสร้อยสนถูกเก็บตัวเงียบในบ้าน แม้แต่โรงเรียนอีกฝ่ายก็หยุด ไม่ได้เรียนต่ออีกเลย
หญิงสาวไม่ได้ออกมาจากบ้าน และชายหนุ่มไม่สามารถเข้าไปหาเธอได้ ในที่สุดความรักของสองหนุ่มสาวจึงโดนพิพากษาให้พลัดพรากจากกันโดยไม่ได้ล่ำลากันแม้แต่คำเดียว!!
วันเวลาแห่งความทุกข์ทรมานใจของหนุ่มสาวผู้โดนกีดกันความรัก ได้ผันผ่านไปอย่างเงียบๆ ท่ามกลางความเข้มแข็งในการยืนหยัดอยู่ต่อ
คนมีชีวิตเท่านั้นที่จะสู้กับอนาคตได้ หากตายไปด้วยการคิดแคบสั้น วันแห่งอนาคตย่อมไม่มีแน่นอน นิธิมองสายน้ำของเจ้าพระยาที่ไหลผ่านวิทยาลัยแพทย์ไปอย่างเชี่ยวกราก ความเจ็บทุกครั้งที่เขาคิดถึง ทำให้เขาครุ่นคิดถึงอนาคตมากขึ้นกว่าเดิม
วันนี้เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่มีแต่ตัว หากวันหนึ่งข้างหน้าในความพยายามให้ถึงที่สุด เขาจะเป็นแพทย์ที่ทรงเกียรติให้จงได้ แม้ไม่มีใครร่วมยินดี แต่เขาหวังว่าสักวันหนึ่งที่ได้มีโอกาสพบกับหญิงที่เขาแสนรัก เธอคงมีรอยยิ้มส่งมาให้กับเขาด้วยความยินดี
สร้อยสน...ผมจะรักคุณตลอดไป!!!



Create Date : 28 มิถุนายน 2554
Last Update : 28 มิถุนายน 2554 21:45:30 น. 1 comments
Counter : 3907 Pageviews.

 
ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะคะ กลับเมืองไทยจะไปหาซื้อมาอ่าน

เรื่องพระดีที่โลกรอ ยังมีต่ออีกมั้ยคะ ชอบอ่านทุกเรื่องเลย


โดย: กระรอกเมือง วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:23:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.