นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
3 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
วิวาห์อารมณ์3

ตอนที่ 3 คุณหนูวายร้าย
คุณหลวงราชพานิชมองสองข้างทางปีติกว่าทุกครั้งที่ได้ทำบุญ คุณเลื่อนอดกริ่งเกรงเรื่องสถานที ที่ต้องพักอาศัยบ้านนายปริก หรือข่าวบอกมาว่าเป็นกำนัน อีกครั้งเสียไม่ได้ จึงเอ่ยกับสามีว่า
“ไม่รบกวนเขามากไปหรือคะ ที่เราจะทำกับข้าวที่บ้านกำนันปริกเพื่อไปทำบุญที่วัด”
“กำนันปริกเขาบอกเตรียมของไว้แล้ว เขาดีใจมากเสียอีกที่เราจะไปทำบุญกัน”
ส่วนแม้นแอบค่อนด้วยความรังเกียจพื้นเพเดิม ที่นายปริกเคยเป็นทหารลูกน้องคุณหลวงราชพานิชเบื้องหลังความรังเกียจของแม้น คือ แต่รุ่นสาวแม้นรักพลทหารปริกมาก แต่พลทหารปริก ไม่เคยมีใจให้เลยสักนิดเดียว กระทั่งไม่ได้รับราชการแล้ว และได้หนีไฟสงคราม แม้นจึงได้เห็นแม่เรือนของปริกว่าทั้งสวย ทั้งรวย
เรือยนต์แล่นไปตามลำคลองกว้าง ผ่านเรือกสวนริมน้ำซึ่งบางสวนมีต้นไม้ใกล้ริมคลองเป็นที่น่าชื่นชม กระทั่งผ่านมาปลายสวนของกำนันปริก มีต้นชมพู่นาคเป็นแถวเป็นแนว ออกผลเป็นพวงสุกแดงเต็มต้น ดารการ้องออกมาอย่างตื่นเต้นเกินระงับใจได้
“แดงอยากได้ชมพู่จังเลย”
คุณเลื่อนโคลงศีรษะไปมาด้วยความเอ็นดูกับความแก่นแก้วของลูกสาว
“คุณหนูขาระวังค่ะ คุณหนู”
“แม้นละก็ทำเหมือนแดงจะกะโจนลงเรือไปอย่างนั้นละ”
“แม้นกลัวใจคุณหนูนี่เจ้าคะ คิดเหมือนใครที่ไหน”
“คิดเหมือนคนอื่นก็ไม่เป็นตัวของตัวเองสิแม้น”
พี่เลี้ยงวัยกลางคนนั่งงงกับถ้อยคำที่นางฟังแล้วไม่รู้เรื่อง จึงบ่นกับนายผู้อาวุโสมากแล้วว่า
“คุณหนูแดงเธอพูดว่าอะไรนะเจ้าคะ แม้นฟังไม่ถนัดหู เป็นตัว เป็นตนอะไรนะเจ้าคะคุณผู้หญิง”
“หมายถึงเขามีความเชื่อมั่นในตัวเอง”
“เชื่อหรือไม่เชื่ออะไรหรือเจ้าคะ”แม้นฟังไม่รู้ความหมายเอาเสียจริงจัง คุณเลื่อนจึงนั่งแปลไทยให้เป็นไทยอีกครั้ง
“คนดื้อรั้นนั่นล่ะแม้น แปลอย่างนั้น”
“อ้าวแปลง่ายอย่างนั้นทำไมคูณหนูพูดไทยเสียไม่ใช่ไทยเชียวเจ้าคะ”
“แม้นไม่ทันสมัยเอง อย่าว่าแดงสิจ๊ะ”คนสวยหันไปต่อว่าพี่เลี้ยง “แดงได้ดื้อแต่เป็นตัวของตัวเอง”
แม้นเมินหน้าไปเสีย จากคำที่นางได้แต่จำว่า ‘เป็นตัวเป็นตน’ มากกว่าจะจำข้อความยืดยาวและดูทันสมัยเสียจนนางไม่เข้าใจ
เรือโดยสารจอดท่าน้ำไม้ขนาดกว้าง ตลิ่งมีหินก้อนจับกันดินหมู่เรือนไทยหลายหลังกว่าเคยมาเมื่อสิบปีก่อนลานบ้านกว้างปลูกไม้ดอกไม้ประดับเป็นระเบียบบ่าวใช้หลายคนตระเตรียมต้อนรับคณะกฐินที่จะมาพักกันที่บ้านก่อนคุณชลรานำคณะขึ้นบันไดท่าน้ำ นายปริกชายวัยห้าสิบออกไปต้อนรับพร้อมแม่วาดซึ่งยังชอบนุ่งผ้าซิ่นเสื้อทรงกระบอก
“คุณพระเชิญบนเรือนครับ”
“โอ่โถงมากขึ้นนะปริกได้ข่าวว่าเป็นกำนัลแล้วหรือ”
“ได้พ่อเปรมเป็นสมองขอรับคุณหลวงทำมาค้าขึ้นบ้าง”
“อืม...คงเป็นหนุ่มมากแล้วละสิอยู่ไหนหรือ”
“รับราชการอยู่บางกอกขอรับวันหยุดจึงกลับมาบ้านกลับพรุ่งนี้ครับ”
“น่าภูมิใจแทน หนูแดงจำได้มั้ยลูกนี้ พ่อปริกแม่วาด”
“จำได้สิคะ แดงเป็นเด็กจะทำเป็นลืมผู้ใหญ่ได้อย่างไรคะ”
ดารกากล่าวออกมาจากใจจริง แล้วก้าวออกมายืนข้างบิดามารดากระพุ่มมือไหว้สองเศรษฐีบ้านนอก
“คุณหนูสวยมากเลยนะคะ”แม่วาดทักทายออกมาจากใจ เพราะเห็นหญิงสาวสวยงามยากหาใครมาเทียบจริงๆ
หญิงสาวยิ้มรับคำชมแล้วจึงก้าวเข้าไปใกล้มารดาของเปรม สวมกอดอย่างประจบเอาใจ แม่วาดยิ่งนึกเอ็นดู และคาดหวังไปถึงลูกชายหัวแก้วหัวแวนของตน
หากสองหนุ่มสาวนี้ได้ครองคู่กันแล้ว คงไม่มีใครเหมาะสมเกินไปกว่านี้อีก!

พื้นไม้ขัดมันวับ ดารกาเดินเบาเธอนุ่งกางเกงขายาวซึ่งคนกรุงเริ่มนิยมใส่ หากชาวหัวเมืองยังเห็นแปลก บริวารทั้งที่มาจากบางกอกและจากที่อยู่บ้านอก ต่างดูงานยุ่งด้วยตระเตรียมของ คุณหลวงและคุณเลื่อนไปวัดพร้อมกำนันปริก และแม่วาดเพื่อปรึกษาหารือกับเจ้าอาวาส เรื่องการกำหนดงานกฐิน ซึ่งแม้จะกะทันหัน แต่เงินมาพร้อมแล้วจึงไม่ต้องอาศัยเวลาระดมทรัพย์กันมากนัก
นางแม้นวัยสี่สิบรับหน้าที่ดูดารกา หากนางก็ช้าเกินจะตามทัน ดารกาไม่ได้พูดเล่นว่าอยากได้ชมพู่สีสวยซึ่งอยู่ริมน้ำระหว่างที่ผ่านไป เธอหมายมั่นว่าจะไปเก็บให้ได้ ดังนั้นเมื่อแม้นเผลอ ดารกาจึงเดินลดเลี้ยวไปตามลำคลอง มองจากที่เธอเดินเข้าสวนไปนั้นเห็นต้นไทรใหญ่สูงตระหง่าน ดูเหมือนแผ่กิ่งก้านสาขาระโยงระยางกว่าเก่า
ใต้ต้นไทรต้นนั้นเคยเป็นที่นั่งดูพี่เปรมของเธอทำของเล่นให้นานาชนิด แล้วแต่หนูแดงบอกอยากได้สิ่งใด คิดแล้วหญิงสาวรู้สึกอกวาบในอกกับความหลังที่ฝังใจถึงพี่เปรมแสนดีของเธอ
ผ่านถึงต้นชมพู่นาค ปลูกเรียงรายใกล้น้ำ ซึ่งดารกาไม่เข้าใจว่าทำไมจึงปลูกใกล้น้ำอย่างนั้น และเมื่อเธอเห็นกิ่งใหญ่เต็มไปด้วยพวงชมพู่สุกเป็นช่อใหญ่ๆ ระย้าลงไปใกล้ผืนน้ำซึ่งมีความห่างไม่ถึงสองศอก ชมพู่สีแดงคล้ำสุกเต็มต้น เหมือนกับท้าทายให้ ดารกาอยากปีนป่ายไปเด็ดช่องาม
คิดแผลงแล้วปีนขึ้นต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว เพราะเมื่ออยู่ทั้งที่บ้านและโรงเรียน เธอแอบปีนที่บ้านอยู่บ่อยไป
เด็กสาว เอื้อมมือเด็ดลูกใกล้มือมากัดเล่นนิดแล้วปาทิ้งลงน้ำไม่สนใจ ดารกาจองเอาแต่ใจขยับออกไปปลายกิ่งอีกนิด โดยที่เธอนั้นไม่รู้ว่าธรรมชาติของกิ่งชมพู่แล้วมีความเปาะ และหักง่าย พอกันกับกิ่งมังคุดยิ่งนัก เมื่อดารกาขยับออกไปปลายกิ่งมากขึ้น กิ่ง
เรียวเล็ก ไม่อาจทานน้ำหนักของหญิงสาวแสนสวยได้ จึงหัก เสียงดัง
เป๊าะ
ร่างอรชรร่วงหล่นจากต้น พร้อมร้องอุทานเสียงดังทันใด
“ว้าย...พระช่วยแดง”
แทนที่จะดังตูมหากดังพลั่ก เพราะร่างของดารกา ตกลงบนกาบเรือโกนลำน้อย และเมื่อร่างเธอกระทบกาบเรือ จึงทำให้เรือลำนั้นพลิกคว่ำทันที
“โอ๊ะ..แย่ละ.”
ชายหนุ่มผมตัดสั้นเรียบร้อย อุทาน ตกน้ำตูมใหญ่เฉกเดียวกัน เขาด่าลั่นคลองด้วยความโมโห
“บ้าชะมัด เด็กบ้าเอ๊ย”
หากเมื่อคว้าเสื้อคนก่อเหตุหิ้วขึ้นจึงพบว่าเป็นผู้หญิงสาว หนำซ้ำเธอยังพ่นน้ำจากปากใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ
“อะไรกันนี่” ชายหนุ่มวักน้ำล้างตัวเอง พลางลูบให้แห้ง ดารกาเป็นอิสระ จึงว่ายน้ำหนี
เขาเห็นหญิงสาวแหวกว่ายน้ำหนีไปขึ้นฝั่ง เขามองตามจึงเห็นการแต่งกายแปลกตา จากคนที่บ้านของเขา ซึ่งนุ่งผ้าซิ่นกันมากกว่าจะเป็นกางเกงสี่ส่วนอย่างทันสมัยเช่นนี้
เด็กสาวใบหน้าสวยใสผมเปียเปียกลู่ ท่าทางยังตกใจอยู่ ชายหนุ่มร่างใหญ่ไม่ถาม แต่ค่อย ๆ กู้เรือขึ้นด้วยตนเอง
ดารกาหอบหายใจจนหายเหนื่อยแล้ว จึงเห็นว่าตนเป็นต้นเหตุ ดังนั้นหญิงสาวกลับลงน้ำ หวังจะไปช่วย แต่ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มดุขึ้นมาทันที
“กลับลงมาทำไม”เขาแลปกใจ และเมื่อเธอมาเกาะเรือเขายิ่งไม่พอใจ “นั่น จะทำอะไร”
“จะช่วยไงฉันทำเรือคว่ำฉันก็ต้องรับผิดชอบ”
“อ้อไม่ต้องหรอก ทำก๋ากั่นอย่างนี้ไม่เข้าท่าเสียเลย”
“เอ๊ะ”ดารกา ขึ้นเสียงสูง สาดน้ำเข้าใส่อีกฝ่าย ต่อว่าไม่ขาดเสียง “ตัวเป็นใครจึงปากดีมาว่าเค้า
“แล้วเธอเป็นใคร หน้าตาก็ไม่เหมือนลิงแต่ซุกซนเหลือเกิน”
“ตายแล้วเรื่องอะไรมาว่าเค้าอย่างนี้นะ”
เธอส่งเสียงแหลมสูงลั่นคลอง มีความเกเรมากพอที่จะหาเรื่องอีกฝ่ายด้วยการพลิกเรือพึ่งกู้ ให้พลิกคว่ำลงไปใหม่ ทำเขาได้แล้วจึงว่ายน้ำหนี หากอีกฝ่ายไม่ปล่อยให้เธอหนีง่าย รีบว่ายน้ำตาม ด้วยความไวที่ผิดกัน ชายหนุ่มตามจับตัวเธอจนได้ ชายหนุ่ม ล็อกคอลากมาอย่างไม่ปราณี กลับมายังที่จุดเรือล่ม สั่งอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างชายชาติทหาร
“กู้เรือขึ้นมาเดี๋ยวนี้”
“เอ๊ะ” เธอไม่ยอม เขาข่มขู่ ด้วยการหักกิ่งชมพู่ วางท่าทางขึงขัง จนดารกาขวัญฝ่อ เกรงว่าจะโดนตีถ้าเธอยังขืนดื้อดึงอยู่
ดังนั้นเด็กสาวรีบทำตามคำสั่ง ด้วยความเจ็บใจ เพราะตั้งแต่เกิดมามีแต่คนพะเน้าพะนอ ไม่เคยมีสักคนทำท่าราวกับจะหักคอเธอได้เช่นนี้มาก่อนเลย เธอบูดบึ้งเข้าใส่อีกฝ่าย จำกู้เรืออย่างทุลักทุเล กระทั่งเปรมทนมองไม่ได้จึงต้องช่วยอีกแรงหนึ่ง เพราะไม่เช่นนั้น ชายหนุ่มคิดว่าครึ่งวันหญิงสาวไม่มีทางกู้เรือได้สำเร็จ ดารกาเห็นว่าเรือกลับมาลอยลำได้แล้ว จึงว่ายน้ำไปขึ้นฝั่ง แล้วหันมาตะโกนว่า
“คนบ้านนอกใจดำเหมือนถ่าน”
ชายหนุ่มเขม่นอีกฝ่ายด้วยไม่ชอบใจในความแก่นแก้วซึ่งเขาเห็นว่าเกินงามไป



Create Date : 03 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 23:35:05 น. 0 comments
Counter : 512 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.